Love & Rock
นิยายภาคต่อของลูกหลานเฮียพาย จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเด็กๆ เข้าสู่วัยรุ่นและเริ่มผจญภัยในแบบของพวกเขา ภาคนี้เกี่ยวเนื่องกับมิคาเอล ไพร์ด อิคารัสและเฮเลน แต่ก็จะมีเหตุการณืหลายอย่างเกิดขึ้น และแน่นอนว่ายาวแน่ เพราะตัวละครหลักและรองเยอะเหลือเกินค่ะ
Tags: พาย

ตอน: LRock ตอนที่ 2(ครึ่งแรก)

เด็กหนุ่มทั้งสามกลายเป็นคนดังได้ในเวลาอันสั้น เมื่อมิคาเอลกับเพื่อนทั้งสองแสดงความสามารถในหลายด้านให้เป็นที่สนใจ ขณะที่แจ็คลีนก็เป็นเด็กสาวน่ารักแลดูไฮโซจนสาวคนดังทั้งหลายอยากทำความรู้จัก

“เมื่อไรเอาเหล็กดัดฟันนี่ออกได้เนี่ย” แจ็คลีนมองเหล็กดัดฟันของเฮเลนอย่างรำคาญตานิดๆ

“อีกสองปีค่ะ” เฮเลนตอบขณะกินขนม

“อีกตั้งสองปี ทำไมต้องใส่ล่ะเนี่ย ฟันก็สวยอยู่แล้ว” แจ็คลีนบอกอย่างไม่ใส่ใจนัก ก่อนจะหยิบอาหารทานอย่างไม่ใส่ใจเท่าไร

“ก็เพิ่งใส่ได้ไม่นานนี่เองค่ะ แม่บอก อ๋อ แจ็คกี้ เรียนเป็นยังไงบ้างคะ” เฮเลนออกจะเกรงใจพี่สาวคนนี้ ทั้งที่ปกติแล้วพี่สาวคนนี้จะมีผู้ติดตามคอยทำทุกอย่างให้เสมอ แต่เพราะต้องมาอยู่โรงเรียนเดียวกับเธอเป็นเวลาหนึ่งเทอม จึงทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องทำเองทุกอย่าง โดยที่มีคนติดตามอยู่นอกรั้วรอจนกว่าจะเลิกเรียน

“ก็ไม่มีอะไรยากนี่ เรียนง่ายกว่าที่เคยเรียน กังวลเรื่องพี่ๆ มากกว่า ไม่รู้ไหวไหม ปกติเรียนกับอาจารย์พิเศษ วิชาก็เฉพาะ ต้องมาเรียนวิชาทั่วไปแบบนี้ ไม่รู้จะยังไง” แจ็คลีนบอกกับน้องสาว ก่อนจะยื่นผลไม้ที่เอามาเองให้เพื่อนๆ น้องสาว “ทานด้วยกันสิ เบนทำมาให้ตั้งเยอะน่ะ เอ้อ เจนีน ได้ยินอิซซี่ว่าชอบวงดาร์ดไนท์มากเหรอ ฟังแต่เสียงชอบได้ไงน่ะ”

“แหม ก็เสียงเพราะ ได้เห็นแต่เงาในมิวสิคแต่ก็จินตนาการได้ว่าหล่อทุกคนเลยล่ะ มั่นใจๆ” เจนีนตอบอย่างมั่นใจขณะโชว์ภาพสัญลักษณ์ที่เป็นเงาของหนุ่มสามคนในวง

“ดีจริงๆ เพื่อนฉัน ว่าแต่แจ็คกี้ ทำไมต้องมีคนคอยตามตลอดเวลาล่ะ” โจเซฟีนถาม เพราะเห็นทุกเย็นจะต้องมีคนคอยตามแจ็คลีนตลอด สามคนบ้าง ห้าคนบ้าง ตลอดเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่นี่

“ท่านปู่สั่งไว้น่ะ คู่แข่งธุรกิจเยอะ จริงๆ ท่านปู่ไม่อยากให้มาเรียนที่นี่ แต่มิคว่าที่นี่น่าสนุก แล้วก็อยากมีเวลาอยู่กับอิซซี่ด้วยน่ะ ปีหน้าจะเข้าโรงเรียนเกี่ยวกับธุรกิจเบื้องต้นแล้ว ท่านปู่ก็เลยใจอ่อน” แจ็คลีนเล่าตามปกติทำให้คนฟังอึ้ง

โจเซฟีนขมวดคิ้ว ก่อนจะเท้าคางและพูดอย่างไม่จริงจังนัก “นี่ถ้าเจอพ่อแม่ฉัน เธอจะต้องโดนวิเคราะห์แล้วก็บำบัดแน่ๆ เลย ตกลงเธออายุสิบห้าจริงๆ เหรอ”

“จริงสิ แจ็คกี้นะ อายุสิบห้าจริงๆ แต่ตอนนี้หัดเล่นหุ้นแล้วล่ะ เรียนงานบริหารแล้วด้วย” เฮเลนพูดอย่างภูมิใจ

“แล้วเธอไม่คิดจะเที่ยวเล่นเหมือนคนอื่นเหรอ” เจนีนถามอย่างมึนๆ

“ความชอบแต่ละคนไม่เหมือนกัน ฉันชอบแบบนี้ล่ะ แล้วก็ไม่เสียหายอะไร ถ้าได้เงิน ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดีเท่าไร แต่ก็นะ มีเรื่องสนุกๆ ให้ทำเสมอล่ะ” แจ็คกี้พูดแล้วก็นึกขึ้นได้ หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดหาข้อมูลแทบจะทันที จากนั้นก็เก็บเอาไว้ ก่อนจะยิ้ม เมื่อพี่ชายเดินเข้าจูบเรือนผมเธอเบาๆ

“ไงน้องสาวสุดที่รักของพี่ เรียนเป็นไงบ้าง อืม แม่บอกว่ามาถึงละ พี่เลิกเรียนก่อน แล้วจะมารับ หรือจะให้เบนมารับ” มิคาเอลพูดขณะเอาถาดอาหารเที่ยงวางลงบนโต๊ะ

“เบนมารับดีกว่าค่ะ ให้อิซซี่กลับพร้อมแจ็คเลยนะคะ ท่านพี่” แจ็คลีนบอกพี่ชาย แล้วก็มองเด็กหนุ่มที่อยู่ด้านหลังแล้วกำลังมองพี่ชายเธออย่างไม่พอใจนัก

มิคาเอลมองน้องสาวด้วยความรัก ก่อนจะถูกกระชากอย่างแรง แต่ดีที่ตั้งหลักไว้ก่อนจึงหลบทัน แล้วกันไม่ให้โดนน้องสาวเขา แล้วอิคารัสกับไพร์ดก็ตามมาด้วย ก่อนจะกันเพื่อนของเด็กหนุ่มคนนั้นเอาไว้

“มีเรื่องอะไรก็พูดมาเลย อย่าเล่นลอบกัด” อิคารัสไม่พอใจนัก พูดกระชากเสียงอย่างเสียอารมณ์

“นึกว่าแน่นักเหรอ แน่จริงเจอกันหลังเลิกเรียนไหมล่ะ” เด็กหนุ่มคนนั้นสะบัดจนหลุด ก่อนจะไปยืมรวมกับเพื่อนๆ

“ไปสนามมวยก็ได้นะ ไม่ถอยอยู่แล้ว” อิคารัสพูดแทนเพื่อนหมด

“แต่ก่อนอื่น บอกก่อนได้ไหมว่ามันเรื่องอะไร” ไพร์ดถามขึ้นแล้วก็ส่ายหน้า

“แกยุ่งกับมอลลี่ แฟนฉัน” ไบรอันบอกชัดเจนถึงต้นเหตุ

“ช่วยบอกหน่อยว่ายุ่งนี่หมายความว่ายังไง” ไพร์ดถามแทนเพื่อน

“ก็แกมีอะไรกับแฟนฉัน” ไบรอัน...หนุ่มนักกีฬาชี้หน้ามิคาเอลอย่างฉุนเฉียว

มิคาเอลขมวดคิ้วแล้วส่ายหน้า ก่อนอธิบาย “ฉันไม่มีอะไรกับผู้หญิงอายุต่ำกว่ายี่สิบหรอกนะ มันไม่ดีแน่ ถ้าต้องติดคุกเพียงเพราะควบคุมอารมณ์ใคร่ตัวเองไม่อยู่นะ ถ้าแฟนนายจะมีอะไรกับใครอื่นที่ไม่ใช่นายล่ะก็ บอกได้เลยว่าไม่ใช่ฉันแน่ๆ”

“ใช่ อีกอย่างนะ เด็กพวกฉันสวยๆ ทั้งนั้น แถมหุ่นก็ดีกว่า จะมาเอาเด็กมอปลายแห้งๆ ทำไมให้เปลืองเวลา สู้ผู้หญิงที่มีประสบการณ์ไม่ได้หรอก” อิคารัสพูดยิ้มๆ อย่างเยาะๆ โดยไม่สนใจพวกเด็กมัธยมไร้สมอง

“พวกแก” ไบรอันโมโหที่โดนดูถูก กำลังจะง้างมือออกไปชก แต่ครูก็เข้ามาพอดี “ฝากไว้ก่อน เจอกันที่โรงยิมตรงถนน หกโมงเย็น”

“ได้เลย” อิคารัสตอบตกลงแทนเพื่อน ก่อนจะหันมามองน้องสาวทั้งสองที่กำลังขมวดคิ้วอย่างเข้มงวด “โธ่ ไม่มีอะไรน่า สบายๆ ใช่ไหม มิค”

“เออดี แกนัด แกก็ชกเองเลย หาเรื่องแท้ๆ พี่ไม่มีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นจริงๆ นะ แจ็ค ถ้ามี พี่ก็รับ แต่ไม่นี่” มิคาเอลหันมาอธิบายกับน้องสาวแสนเข้มงวดของเขา

“แล้วเขามาว่าพี่ได้ไงละคะ” เฮเลนถามด้วยความสงสัย แต่ก็เชื่อคำพูดพี่ชาย เมื่อพี่ชายไม่เคยโกหกตน

“ไม่รู้สิ ตั้งแต่มาเรียนก็มีเด็กเข้าหาพวกเราตลอด แต่ไม่ต้องห่วงนะ ไม่เคยตอบรับ เด็กเราก็มี แจ่มๆ ทั้งนั้น ที่แน่ๆ อายุเกินยี่สิบทุกคน คงจะโกรธที่โดนปฏิเสธละมั้ง อย่าไปสนใจเลย” อิคารัสตอบแทนเพื่อนๆ ก่อนจะทานอาหารในถาด แล้วก็ถอนหายใจ “แจ็คกินอาหารในโรงอาหารลงด้วยเหรอเนี่ย”

“เปล่าค่ะ เบนจัดอาหารให้ ก็พกมาทุกวัน เยอะด้วยทานไหมคะ” แจ็คลีนเลื่อนอาหารในถาดให้พี่ๆ เพราะตั้งใจเอามาก และรู้ว่าพี่ๆ ไม่มีทางพกมาเองแน่

“สเต็กเนื้อสันอย่างดีด้วย ให้ตายเถอะ เบเนดิกซ์นี่ สุดยอดเลยจริงๆ” อิคารัสรับมาทาน เพราะเห็นว่ายังมีอีกเยอะ

“เนื้อนี่แพงมากนะ ขอบคุณที่แบ่งอาหารดีๆ ให้พวกเราทานนะ” เจนีนได้ลองแล้วก็ต้องชม เมื่อเห็นการดูแลจากที่บ้านเพื่อนดีมากอย่างนี้

“พูดเหมือนกับเขาบริจาคของอย่างนั้นล่ะ แต่ก็ขอบคุณนะ เพราะมันอร่อยจริงๆ” โจเซฟีนแซวเพื่อน ก่อนจะพูดขอบคุณเจ้ามืออย่างจริงใจและรอยยิ้ม

มิคาเอลเท้าคางมองโจเซฟีนอย่างไม่ค่อยชอบนัก รู้สึกว่าคำพูดนั้นตีความไปทางลบมากกว่าทางบวก จึงลืมตัวสั่งสอน “ทีหลังอย่าพูดแบบนั้นอีก แจ็คน่ะมีน้ำใจ ไม่ใช่ดูถูก อีกอย่างอาหารที่เอามาก็ไม่ใช่ของเหลือกิน แต่เป็นเพราะตั้งใจจะมอบให้ ไม่ใช่การบริจาค หรือซื้อน้ำใจคนด้วยสิ่งของราคาแพงหรอกนะ”

โจเซฟีนได้ฟังก็หน้าเสีย เพราะตั้งใจพูดเล่นกับเพื่อนเท่านั้น เด็กหญิงก็ต้องเสียใจที่พูดเล่นออกไปอย่างนั้น แล้วทำน้ำตาคลออย่างเศร้าสร้อย

“ท่านพี่คะ โจแค่พูดเล่นเฉยๆ เขารู้หรอกค่ะ ว่าแจ็คไม่มีเจตนาจะดูถูกเขา เขาแค่เป็นคนตรงๆ ชอบพูดอะไรตรงๆ แล้วก็ชอบพูดเล่นเท่านั้นเอง อย่าคิดมากนะ โจ มิคเขาเป็นพี่ชายที่ชอบปกป้องน้องสาวมากเกินกว่าเหตุก็เท่านั้นเองจ๊ะ” แจ็คลีนแตะมือเด็กหญิงตรงกันข้ามเป็นเชิงปลอบ

หากโจเซฟีนก็ละอายเกินกว่าจะอยู่ตรงนั้น จึงลุกเดินหนี ทำให้เจนีนต้องลุกตามไปปลอบเพื่อน

เฮเลนมองตามแล้วก็คิด ก่อนจะบอกอย่างสงสารเพื่อน “หนูตามไปอธิบายดีกว่า สงสารโจน่ะ โจเขาอยู่มาอย่างเครียดๆ นะ เขาเป็นคนระมัดระวังตัวอ่ะ เท่าที่หนูรู้ แล้วพอโดนตำหนิ เขาก็ใจเสียมากนะ”

“ท่านพี่ตามไปเคลียร์ให้ด้วย ดูสิทำให้โจคิดมากเลยนะ แล้วอีกหน่อยใครจะกล้าคบกับเราล่ะ” แจ็คลีนดุพี่ชายให้แก้ปัญหาที่เขาก่อขึ้น

“อะไรล่ะ ทำไมต้องเคลียร์ มิคก็พูดถูกนะ พูดแบบนี้ ก็เหมือนกับหาว่าเราดูถูกเขา มันช่วยไม่ได้นี่ ที่แจ็คมีเงินซื้ออะไรเยอะแยะแล้วยังแบ่งปันเพื่อนๆ ด้วย” อิคารัสเข้าข้างเพื่อนอย่างเต็มที่

ไพร์ดกลับแตะไหล่เพื่อนแล้วพยักหน้า บอกให้เพื่อนตามเด็กหญิงไป “ตามไปเถอะ สงสารเด็ก ยังเด็กไม่ค่อยรู้เรื่อง พูดผิดไปบ้าง อย่าไปทำให้คิดมากเลย”

มิคาเอลถอนหายใจ ก่อนจะลุกขึ้น เดินตามเด็กหญิงทั้งสามคนไป เห็นเฮเลนกับเจนีนกำลังช่วยปลอบ แล้วพอเห็นเขา เด็กหญิงก็ทำท่าจะเดินหนีอีก เขาจึงต้องเดินไปขวางเอาไว้

“ขอโทษถ้าพูดอะไรตรงไป” มิคาเอลมองเด็กหญิงแล้วก็ต้องคุกเข่าลง ก่อนจะจับแขนที่ข้างหนึ่ง “ถ้ามั่นใจว่าพูดถูกก็ไม่ต้องกลัวถ้าคนอื่นจะแย้งหรอกนะ คนเราคิดต่างกัน แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้ ไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้นหรอกน่า”

“มิคกี้พูดเรื่องอะไรเนี่ย” เฮเลนออกจะงง แล้วก็มองหน้าเจนีนที่ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน

“ก็อิซซี่บอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าปกติโจเป็นคนที่ระมัดระวังในการพูดตลอด คนที่ระวังตลอด แล้วเผลอน่ะ ก็มักจะรู้สึกอายที่เผลอตัวน่ะ จริงๆ แล้วเป็นเด็กอยู่นี่ ไม่ต้องกลัวเผลอมากขนาดนั้นหรอก” มิคาเอลอธิบาย

“อ๋อ ที่แท้เป็นอย่างนี้เอง” เจนีนก็เข้าใจในทันที ก่อนจะโอบไหล่เพื่อนแล้วพูดปลอบ “อย่าคิดมาก แจ็คกี้ก็ไม่ได้คิดอะไรมากอยู่แล้วนี่”

“ใช่แล้วล่ะ มิคกี้อ่ะ ว่าโจแรงไป ก็เรายังเด็กนี่” เฮเลนเข้าข้างเพื่อนอย่างเห็นได้ชัด

“ก็รู้ไง ก็ไม่คิดว่าจะมีเด็กคิดมากอย่างนี้นี่ ทีเรายังเผลอได้ พี่เผลอไม่ได้หรือยังไง” มิคาเอลบอกแล้วก็ยิ้มๆ ที่ท่าทางเด็กหญิงดีขึ้น จึงปลอบอีก “ไม่เอาน่า ไม่เห็นจะเป็นไรเลย เวลาคุยกันก็ต้องมีแบบนี้บ้างสิ”

“พ่อแม่โจเขาเป็นจิตแพทย์น่ะค่ะ ก็เลยเข้มงวดกับโจมาก ถ้าทำผิดก็ถึงขั้นวิเคราะห์จิตกันเลยทีเดียว โจก็เลยคอยระวังตัวตลอดน่ะค่ะ อ่า จริงสิ เย็นนี้ป้าพายจะมานี่คะ โจเขาเป็นแฟนภาพถ่ายของป้าพาย ชวนโจไปหาป้าพายดีไหม เธอยังไม่เคยพบป้าพายจริงๆ นี่” เฮเลนหาเรื่องอื่นมาดึงความสนใจของเพื่อน เพื่อลดความรู้สึกไม่ดีๆ ที่เกิดขึ้น

“ดูทำไม ดูหน้าพี่ก็ได้ เห็นไหม เหมือนมากๆ” มิคาเอลทำท่าทางภูมิใจที่หน้าตาเหมือนแม่อย่างมาก

“ไม่เห็นเหมือนเลย” โจเซฟีนพูดขึ้นแล้วก็ถอยไปยืนอยู่กับเพื่อนๆ ทั้งที่ก็เห็นด้วยมาตลอด นี่เป็นเหตุผลที่เธอไม่เคยมองหน้าเขาตรงๆ

“เหมือนจริงๆ นะ โจ มิคกี้เหมือนป้าพายมากๆ ไว้ผมยาวเหมือนกันด้วย เนี่ยมิคกี้น่ะสูงเท่าป้าพายแล้วนะ อาจจะสูงกว่าหน่อยแล้วมั้ง” เฮเลนพยายามชวนเพื่อนคุยเรื่องที่เพื่อนชอบ

“นี่ โจ เธอไม่เคยเห็นหน้าตากล้องที่เธอชอบเลยเหรอ” เจนีนถามขึ้นอย่างสงสัย

“ก็เคยน่ะสิ” โจเซฟีน เคยเห็นภาพเล็กๆ ของพายอยู่บ้าง แต่ก็ไม่อยากยอมรับว่า เวลาที่เจอมิคาเอล เธอจะต้องอายนิดๆ เพราะเหมือนกับได้เห็นพาย

“งั้นมองสิว่ามีตรงไหนไม่เหมือน จะได้ไปส่องกระจกดูว่าไม่เหมือนยังไง” มิคาเอลเห็นเด็กหญิงอายก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เพื่อแกล้ง ก่อนจะได้ผล เมื่อเด็กหญิงเดินหนีแบบหลบเลี่ยง

“ไม่เอา” โจเซฟีนปฏิเสธแล้วจะเดินหนี

“อ้าว มองดีๆ สิ จะได้รู้ว่าไม่เหมือนยังไงไง” มิคาเอลยังคงแกล้งเด็กหญิงต่อไป แล้วก็หัวเราะขบขันกับท่าทางของเด็กหญิงที่เหมือนกับกำลังชอบดาราแล้วได้เจอตัวเป็นๆ

“พอแล้วค่ะ มิคกี้ เห็นไหม โจอายจะแย่แล้วนะ” เฮเลนรีบห้าม ก่อนจะมองเจนีนหัวเราะแล้วกลั้นยิ้ม

“ก็ได้ๆ เอาล่ะ เราไปกินต่อดีไหม เดี๋ยวจะหมดเวลาพักแล้วนะ” มิคาเอลหยุดแกล้ง แล้วส่งมือให้น้องสาวเพื่อจูงมือพาเข้าโรงอาหาร

“มิคกี้อ่ะ อิซซี่ไม่ใช่เด็กเล็กแล้วนะ” เฮเลนขัดขืนแล้วก็ไม่ยอมให้จูงเหมือนเด็กเล็กอีก

“อะไร แค่สิบสองสิบสาม จะรีบแก่ไปไหน พอแก่ขึ้นมาจริงๆ ขี้คร้านจะกลัวแก่อีก” มิคาเอลก็แซวน้องสาวอีก ก่อนจะคว้ามือน้องสาวเอาไว้

“ง่า ก็ได้ค่ะ” เฮเลนจึงจับมือพี่ชาย ก่อนจะควงแขนเพื่อนๆ แล้วเดินตามแรงดึงเข้าโรงอาหารไป

โจเซฟีนยังคงติดใจเรื่องจะได้เจอตากล้องคนโปรด จึงถามขึ้น “แล้วนี่เราจะได้เจอพายไหมล่ะ”

“ยัง มันเย็นเกินไป ไว้มะรืนก็ได้ เห็นแม่ว่าอยู่อีกเดือน เพราะพ่อมีงานแสดงคอนเสิร์ตที่นี่นะ” มิคาเอลบอกเด็กหญิง แล้วก็ย้ำตอนท้าย “ทำไมวันเสาร์ไม่มาค้างที่บ้านล่ะ ขออนุญาตพ่อแม่สิ หรือให้โทรมาหาแม่พี่ที่บ้านก็ได้นะ แต่ต้องเป็นเย็นๆ หน่อย ไม่รู้ว่าจะไปไหนไหม”

“ค่ะ” โจเซฟีนกับเจนีนพูดพร้อมกัน เพราะจะได้ถือโอกาสเที่ยวบ้านเพื่อนด้วย

“ว่าแต่บ้านพี่อยู่ที่ไหนคะ” เจนีนถามรายละเอียดเพื่อที่จะบอกพ่อแม่ได้ถูก

“อยู่นอกเมืองนะ พ่อพี่อยากให้เป็นส่วนตัวหน่อยน่ะ ค้างได้ไม่เป็นไร วันเสาร์ให้พ่อแม่มาส่งสิ จะได้รู้ไว้ ว่าแต่จะเป็นไรไหมเนี่ย เพราะเพิ่งรู้จักกันได้อาทิตย์กว่าๆ เองไม่ใช่เหรอ” มิคาเอลค่อนข้างเป็นห่วง เพราะยังเด็กกันอยู่สำหรับผู้ใหญ่ อาจจะทำให้ผู้ใหญ่ไม่ค่อยไว้ใจเท่าที่ควร และเพิ่งรู้จักกันไม่นานเท่านั้น

“ไม่เป็นไรค่ะ คราวก่อนแจ็คให้คนขับรถไปส่งที่บ้าน แม่ได้เจอเบเนดิกซ์แล้วค่ะ” เจนีนบอกไปตามเรื่อง เห็นแม่พูดชมในความรอบคอบ เพราะเบเนดิกซ์เดินเข้าไปส่งถึงประตูบ้านเลยทีเดียว

“ยังไงก็ให้พ่อแม่สอบถามดีๆ ก่อนแล้วกัน ได้ ไม่ได้ ยังไงฝากบอกเฮเลนมาก็ได้นะ สมัยนี้อันตราย อย่าไว้ใจคนง่ายๆ รู้ไหม” มิคาเอลเตือนเด็กหญิงทั้งสามไปในตัว รู้สึกเอ็นดูเพื่อนน้องสาวอยู่ไม่น้อย

“ค่ะ” ทั้งสามรับคำพร้อมกัน แล้วก็นั่งที่โต๊ะอาหารเหมือนเดิม ก่อนจะพูดคุยกันจนเข้าใจแล้วปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ควรจะเป็นเช่นเดิม

****************************************


เสียงเปิดประตูดังขึ้น แล้วมีคนสองคนเดินเข้ามาในห้องรับแขก ที่แขกทั้งหกคนกำลังอึดอัด กับความหรูหราเกินพอดีของเจ้าของบ้าน

“ดีใจที่ได้พบค่ะ เราต้องขอบคุณมากๆ ที่คุณสนับสนุนให้เด็กๆ ได้สนิทสนมกันนะคะ” หญิงผมแดงพูดขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ตามนิสัย

“เจนีนเป็นเด็กมีน้ำใจอยู่แล้วค่ะ เธอมีเพื่อนเยอะ ว่าแต่เพื่อนสนิทจริงๆ นี่ยังไม่ค่อยได้พบนะคะ” คุณนายวัตสันพูดอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส เมื่อได้เห็นความน่าเชื่อถือของบ้านหลังใหญ่ แล้วก็การดูแลเด็กๆ ก็ทำให้ไว้วางใจได้ในระดับหนึ่ง

“โจก็เหมือนกันค่ะ นี่เป็นเพื่อนกลุ่มแรกที่แกอยากมาค้างคืนด้วย แสดงว่าจะต้องมีความใกล้เคียงของนิสัยเป็นอย่างมาก มีความกลมเกลียวและเข้าใจกันได้อย่างดีและรวดเร็ว อีกทั้งคุณทั้งสองคนก็เป็นผู้ใหญ่ที่ดูน่าไว้ใจได้มากๆ ค่ะ” คุณนายมาโครวิชวิเคราะห์ออกมาพร้อมๆ กับชม

ปารีสยิ้มปลื้ม ก่อนจะพูดคุยอีกระยะ แล้วก็ปล่อยให้มองไปรอบๆ

“นี่รูปใครคะ” คุณนายวัตสันชี้รูปชายหนุ่มสองคนใส่สูทและกำลังอุ้มเด็กชายหญิงคนละคน เป็นภาพครอบครัวสมัยใหม่ที่ดูแปลกไปบ้าง แต่ก็ต้องยอมรับยุคสมัยที่คนเพศเดียวกันก็สามารถอยู่ร่วมกันได้

ปารีสหันไปมองแล้วก็ยิ้ม ก่อนจะสะกิดสามีที่นั่งอยู่ข้างๆ ให้ตอบ ทำให้นอร์ธต้องเงยหน้าขึ้นตอบ “นี่เป็นภาพของเจ้าของบ้านครับ คนผมสีทองชื่อกาเบรียล ธีโอฟาสเต้ ส่วนอีกคนก็พิณกวี ดับเบิ้ลยู ธีโอฟาสเต้ ครับ เป็นพ่อแม่ของแจ็คลีนน่ะครับ”

“ธีโอฟาสเต้เป็นตระกูลที่ใหญ่มากในวงการน้ำหอมนะคะ ดิฉันทำงานอยู่ในวงการแฟชั่น พอได้ยินอยู่บ้างค่ะ” คุณนายวัตสันพูดขึ้น ส่วนสามีเธอกับพ่อแม่ของโจเซฟีนนั้นนิ่งฟัง เพราะไม่มีข้อมูล

“กาเบรียลนี่เป็นลูกคนที่สามสายตรงของตระกูลค่ะ” ปารีสอธิบายต่อ

“งั้นแสดงว่าทำงานด้านน้ำหอมเหมือนกันใช่ไหมคะ ไม่ทราบทำงานสายไหน ผลิตน้ำหอม หรือว่าสายบริหารคะ” แม่ของโจเซฟีนพูดขึ้นแล้วพยายามวิเคราะห์

“เปล่าค่ะ กาเบรียลเป็นนักดนตรีคลาสิกชั้นแนวหน้า ที่ได้รับการยกย่องในความสามารถด้านการเล่นฮาร์ฟเป็นพิเศษค่ะ ถ้าจะทำธุรกิจ ก็เป็นส่วนของดนตรีทั้งสิ้นค่ะ” ปารีสอธิบายแทนตามนิสัยนักประชาสัมพันธ์และประสานงานที่ดี

หากทุกคนก็ต้องหันไปสนใจเจ้าของเสียงที่ดังรอดเข้ามาในห้อง ก่อนคนในภาพทั้งสองปรากฏตัวในชุดลำลองแสนสบายและเรียบง่าย

****************************************

แฮ่...ฮ่าๆ สวัสดีค่ะ
>,< เอามาโพสครึ่งบทก่อนนะคะ อิอิ
นับแต่นี้จะมาทีละครึ่งบทค่ะ อาจจะสั้นไปนิดนึงนะคะ
-.- เพราะว่า T^T ยังเขียนภาคของแจ็คลีนไม่จบค่ะ
และมีฉากที่ร่วมกันอยู่พอควร
ก็เลยต้องอ่านทวน 2 เรื่องขณะเขียน ทำให้งานช้ากว่าที่คิดค่ะ ^^
แงๆๆๆ มีหลายคนทักว่าเพลิงวารีเปลี่ยนแนวเขียน
อิอิ เปล่าค่ะ ไม่ได้เปลี่ยนแนวนะคะ
แต่ปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของเนื้อหาที่อยากจะใส่ลงไปในนิยายค่ะ
>.< เขียนยากนะคะ กว่าจะขุดวัยรุ่นขึ้นมาได้
แล้วก็ต้องไปหาข้อมูลวัยรุ่นเมืองนอกมาอีกเพียบ (แอบเลี่ยนเพราะแก่แล้วค่ะ)
ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดนะคะ

ป.ล. ฝากตอบแบบสำรวจเกี่ยวกับหนังสือทำมือสำหรับผู้ที่ต้องการด้วยนะคะ
http://bzlion.bloggang.com

คุณ oolong --- เวบนี้มีการป้องกันการก็อปค่ะ ดังนั้นจึงต้องพิมพ์เองค่ะ ^^"
คุณ หนอนฮับ --- >,< พยายามจะไม่ดองค่า อิอิ
คุณ ใบบัวน่ารัก --- ด้วยความยินดีค่ะ
คุณ maplezaa --- มีแผงอกให้ซบอิงอย่างดี เสียอย่างเดียวอกไม่นุ่มเท่าเฮียพายค่า ฮ่าๆ
คุณ ตุ๊งแช่ --- สามหนุ่มเป็นหลัก เฮเลนรองลงมาค่ะ อิอิ ส่วนแจ็คลีนไปเด่นอีกเรื่องค่ะ
คุณ anOO --- หลักๆ สามคู่แน่นอนค่ะ



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ก.ค. 2554, 12:09:58 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 ก.ค. 2554, 12:11:42 น.

จำนวนการเข้าชม : 2113





<< ตอนที่ 1   LRock ตอนที่ 2(ครึ่งหลัง) >>
maplezaa 25 ก.ค. 2554, 16:06:04 น.
กี๊ซซซซ ยอมซบอกแข็งๆของมิคค่ะ เฮียพายยอมยกให้กาเบรียลไปแล้ว T^T



หนอนฮับ 25 ก.ค. 2554, 18:14:00 น.
พายจ๋าแน่เลย อิอิ


ตุ๊งแช่ 25 ก.ค. 2554, 19:01:45 น.
มาแล้วววว รอพายยยกัน เพียบเลยยยย


ใบบัวน่ารัก 25 ก.ค. 2554, 19:09:28 น.
ช่วงวัยรุ่นก็เนี่ย


anOO 25 ก.ค. 2554, 21:29:37 น.
แสดงว่าเรื่องนี้ไปเน้นที่หนุ่มก่อนแน่เลย
เฮียพายมาอวดโฉมแล้ว


kaeka 26 ก.ค. 2554, 12:21:29 น.
อิอิ สายไหนไม่สำคัญเท่าสายเลือดของพายหรอกนะคะ ^^


tuktuk 26 ก.ค. 2554, 15:04:22 น.
มาเยอะๆ หน่อยค่ะ รออ่านค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account