พรหมลิขิตกระซิบรัก
นัมแทบง นายแบบหนุ่มผู้ผันตัวเองมาเป็นนักแสดงเจ้าของฉายารอยยิ้มเทวดาหากแต่เมื่ออยู่หลังกล้องเขาคือผู้ชายหน้าเดียวที่มีแววตาดุจน้ำแข็ง....
เมื่อพบกับปฎิบัติการดูตัวโดยการชักนำของผู้เป็นพี่สาวที่มีความคิดไม่เหมือนใคร รักครั้งนี้จึงเกิดความวุ่นวายขึ้นเมื่อเขาได้พบกับกุมาริกาล่ามสาวชาวไทยที่มีแต่ความสดใส เจ้าของดวงตากลมดุจกวางกับบทพิสูจน์ความรักแท้ที่ผู้เป็นพี่มอบให้...
พีมะ ตากล้องมาดเซอร์ประจำนิตยสารวัยรุ่น K magazine กับความรักข้างเดียวตลอด3ปีที่เฝ้าดูแลหญิงสาวอันเป็นที่รักต้องมาสั่นคลอนเพียงแค่เจอนายแบบหนุ่มหน้านิ่ง ซ้ำร้ายได้คู่ปรับเป็นพัคโบรา นางแบบตัวจี๊ดที่เข้ามาป่วนหัวใจให้เขาลังเลกับความรู้สึกแปลกๆที่เธอมอบให้....
กุลธีร์ บอสหนุ่มผู้เชื่อมั่นในความรักแม้จะรู้ว่ารักนี้อาจไม่สมหวังแต่ก็ยังคงรอคอยถึงมันจะผ่านมานานกว่ายี่สิบปีและเธอนัมเริน หญิงสาวสมัยใหม่ผู้ทุ่มเททุกอย่างให้แก่น้องชายเพียงคนเดียวจนเกือบเสียบางสิ่งที่สำคัญในชีวิต...
... พรหมลิขิตกระซิบรัก...
เมื่อพบกับปฎิบัติการดูตัวโดยการชักนำของผู้เป็นพี่สาวที่มีความคิดไม่เหมือนใคร รักครั้งนี้จึงเกิดความวุ่นวายขึ้นเมื่อเขาได้พบกับกุมาริกาล่ามสาวชาวไทยที่มีแต่ความสดใส เจ้าของดวงตากลมดุจกวางกับบทพิสูจน์ความรักแท้ที่ผู้เป็นพี่มอบให้...
พีมะ ตากล้องมาดเซอร์ประจำนิตยสารวัยรุ่น K magazine กับความรักข้างเดียวตลอด3ปีที่เฝ้าดูแลหญิงสาวอันเป็นที่รักต้องมาสั่นคลอนเพียงแค่เจอนายแบบหนุ่มหน้านิ่ง ซ้ำร้ายได้คู่ปรับเป็นพัคโบรา นางแบบตัวจี๊ดที่เข้ามาป่วนหัวใจให้เขาลังเลกับความรู้สึกแปลกๆที่เธอมอบให้....
กุลธีร์ บอสหนุ่มผู้เชื่อมั่นในความรักแม้จะรู้ว่ารักนี้อาจไม่สมหวังแต่ก็ยังคงรอคอยถึงมันจะผ่านมานานกว่ายี่สิบปีและเธอนัมเริน หญิงสาวสมัยใหม่ผู้ทุ่มเททุกอย่างให้แก่น้องชายเพียงคนเดียวจนเกือบเสียบางสิ่งที่สำคัญในชีวิต...
... พรหมลิขิตกระซิบรัก...
Tags: ดารา นางแบบ ซุปตาร์ โรแมนติก ซึ้้ง
ตอน: อดีตที่ผ่านพ้น
คนโดนเหน็บถึงกับอ้าปากค้างกับน้องชายที่อายุห่างจากตนเองถึง12ปี นี่ถ้าเธอมีครอบครัวก็คงรุ่นราวคราว
เดียวกับน้องชายตัวเอง นัมเยรินกัดริมฝีปากอย่างระงับอารมณ์กับอาการไม่ใส่ใจรวมถึงใบหน้าเรียบเฉยที่ไม่เคย
แสดงอาการพอใจหรือไม่พอใจอะไรให้เธอมองออกได้
“เฮ้อ...ผมล่ะเชื่อเลย เมื่อไหร่พี่จะเหนื่อยกับการแนะนำผมให้กับบรรดาลูกญาติ น้องเพื่อน เพื่อนรุ่นน้อง
ของพี่สักทีทั้งที่มันก็ไม่เคยสำเร็จเลยสักครั้ง”
ร่างสูงทิ้งตัวลงนอนบนโซฟามือข้างขวายกขึ้นหนุนศีรษะไว้อย่างเบื่อหน่าย พูดทั้งที่ยังหลับตาทวนคำถาม
เหมือนมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเพราะพี่สาวของเขามักทำให้เรื่องธรรมดากลายเป็นเรื่องผิดปกติได้เสมอ
“ย๊าห์!!...แทบงนี่นายอย่ามากวนประสาทฉันนะ ถือว่าสาวๆในเกาหลีคลั่งนายนักรึไงถึงทำไม่รู้ร้อนรู้หนาว ปี
นี้นายอายุปาเข้าไปตั้ง 28 แล้วนะ นายควรจะมองสาวๆไว้บ้างสิ พ่อแม่ที่ตายไปแล้วจะสาปแช่งฉันแค่ไหน ถ้ารู้
ว่าฉันไม่รู้จักดูแลน้องอย่างแก ฮือๆๆไอ้น้องบ้า”
นั่นไงมาเต็มสไตล์เรียกร้องความสนใจของพี่สาวเขาล่ะน้ำตาและการแสดงที่เจ็บปวดปานจะขาดใจ เธอ
น่าจะมาเป็นนักแสดงมากกว่าเขาซะอีก
“เฮ้อ...เอาล่ะๆจะทำอะไรก็ทำไป”
เสียงถอนหายใจแกมรำคาญออกมาจากริมฝีปากบางเฉียบ ดวงตารียาวเปิดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ของพี่
สาวตัวเอง บ่นพึมพำเบาๆทำเอาคนที่ได้ยินแอบมองค้อนไม่ได้
“แต่อย่ามาดราม่าเดิมๆน่า พี่จะมาสนใจหาแฟนให้ผมอะไรนักหนา เอาเวลาไปดูแลตัวเองบ้าง จะไปนัดบอด
ออกเดทบ้างก็ไม่เห็นจะเป็นไร พี่ต่างหากที่ควรจะมีคนดีๆมาดูแล ผมเป็นผู้ชายหาเมื่อไหร่ก็ได้”
นัมเยรินกระแทกตัวลงบนโซฟาที่มีน้องชายตัวแสบนอนเหยียดยาว ถึงจะแกล้งยกมือขึ้นปิดหน้าแสร้ง
ร่ำไห้แต่ก็ไม่วายเหลือบตามองร่างที่นอนนิ่ง เธอเข้าใจดีว่าน้องชายจอมเย็นชาก็ห่วงตัวเธอไม่แพ้กัน
ร่างสูงสมส่วนลุกขึ้นนั่งแขนยาวรั้งไหล่บางเข้ามากอดปลอบตบหลังเธอเบาๆ กี่ปีแล้วนะที่เขายอมให้พี่
สาวตัวเองมาวุ่นวายในชีวิตส่วนตัวแม้ไม่ได้พอใจนัก เมื่อคิดถึงวันเก่าๆเขาก็ยิ่งกระชับแขนแน่นขึ้น พี่สาวเขา
ต้องเสียสละปกป้องเขามาตลอด
เธอทิ้งช่วงสนุกสนานในวัยรุ่นที่น่าจะได้ใช้เวลากับเพื่อนๆ ขาดทั้งคนรักที่จะทำให้ชีวิตเธอสดใส ทนแบก
รับคำถามและการถูกกล่าวร้ายมากมายที่ต้องดูแลเขา ซึ่งเรื่องร้ายๆในชีวิตเธอก็มาจากเขาทั้งนั้น ด้วยวัยของ
เขากับพี่สาวต่างกันมาก เธอมักโดนตั้งคำถามและสายตาที่มองจากคนรอบตัวว่าเป็นเด็กใจแตกหรือไม่ก็คุณแม่
วัยใสแต่เขาไม่เคยสักครั้งที่จะได้ยินพี่สาวตนเองกล่าวโทษ เธอมักจะยิ้มรับช่วงเวลาที่แย่เหล่านั้น
ตั้งแต่พ่อแม่ของเราประสบอุบัติเหตุทางเครื่องบินเสียชีวิตทั้งคู่ หลังเสร็จจากงานศพ คนจากมูลนิธิ
สังคมสงเคราะห์มาเพื่อรับตัวเขาไปเพราะไม่มีญาติที่พร้อมจะดูแลเราทั้งคู่ในตอนนั้น นัมเยริน มีอายุแค่ 20และ
เขาในวัยเพียง7ขวบ เธอกอดปลอบใจเขาที่ตกใจกับเหตุการณ์และเอาแต่ร้องไห้
“แทบงย่าห์...พี่จะไม่ให้ไปอยู่กับคนอื่นหรอก พี่จะดูแลนายเองหยุดร้องนะคนเก่ง” นัมเยรินปลอบ
“มันจะได้ยังไงฉันไม่มีปัญญาดูแลแกทั้งคู่หรอกนะ แค่แกคนเดียวก็แย่แล้ว” เสียงเกรี้ยวกราดจากญาติข้าง
แม่แสดงความไม่พอใจออกมาเกรงว่าตนเองจะลำบาก
“ไม่ต้องห่วงค่ะคุณป้า หนูกับน้องจะไม่ทำให้เดือดร้อนหรอกค่ะ เราอยู่กันเองที่นี่ได้"
นัมเยรินบอกด้วยอาการแน่วแน่ หญิงสาวสูงวัยที่พวกเขาเรียกว่าป้ามองมาที่เขากับพี่สาวอย่างโมโห ส่วน
คนที่แสร้งทำดีเพื่อผลประโยชน์ก็ยังคงทำต่อไป
“เด็กเลี้ยงเด็กจะอยู่ไปได้ยังไง น้ามาอยู่ดูแลแล้วกันบ้านใหญ่โตขนาดนี้ ครอบครัวน้ามีกันแค่4คนเอง
แหม!!ครบห้องพอดีเลย” หญิงสาววัยสามสิบเศษที่เรียกตนเองว่าน้าเสนอตัว
“มาอยู่กับลุงดีกว่าเยริน..แทบงจะได้มีเพื่อนเล่นด้วยนี่ไงมิงกุกับมงจีลูกของลุงอายุคงไล่ๆกันพอดีบ้านหลัง
ใหญ่ขนาดนี้หนูดูแลกันเองคงลำบากลุงว่าขายดีกว่าเดี๋ยวลุงจะช่วยดูแลจัดการให้เอง”
พี่น้องของพ่อและแม่ต่างพากันแย่งที่จะดูแลสมบัติของพ่อแม่เขา แต่ไม่มีใครใส่ใจเขากับพี่สาวสักนิด
เอาแต่พูดถึงทรัพย์สินที่พ่อแม่เราทิ้งไว้ให้
“ขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วงหนูกับน้อง แต่เท่าที่ทราบหนูจะได้เงินประกันชีวิต จากการเสียชีวิตของคุณ
พ่อคุณแม่เพราะฉะนั้นเรื่องที่จะให้มูลนิธิมารับเอาแทบงไปดูแลคงไม่จำเป็น เพราะหนูจะดูแลแทบงเอง หนู
กำลังจะเข้ามหาลัยและจะหางานทำไปด้วยหนูคิดว่าหนูสามารถดูแลแทบงได้ หนูขอบคุณทุกท่านที่หวังดีที่จะ
ช่วยเหลือเราสองคนพี่น้อง รวมถึงติดต่อมูลนิธิให้ด้วยแต่หนูยืนยันว่าหนูดูแลน้องเองได้ค่ะ” สิ้นคำพูดที่พี่สาว
เขาเอ่ยปฏิเสธบรรดาญาติพี่น้องต่างรุมประณามพี่สาวเขาราวกับสาปแช่งที่อวดเก่งอวดดี
“อย่ามาทำเป็นหยิ่งแกจะอยู่กันเข้าไปได้ยังไง บ้านที่ขาดผู้ใหญ่ดูแล ไหนจะค่าใช้จ่ายเงินทองอีกเป็นเด็ก
จะจัดการเองได้ยังไง”
“หนูทำได้ค่ะ หนูอายุ20ปีแล้วไม่ใช่ผู้เยาว์อีกต่อไป หนูจะจัดการทุกอย่างเอง เงินที่ได้จากประกันชีวิตของ
พ่อและแม่หนูจะเอาไว้เป็นค่าเทอมของหนูกับน้อง ส่วนบ้านหลังนี้มันเป็นสมบัติชิ้นเดียวที่พ่อกับแม่หนูสร้างไว้
ให้หนูจะไม่ขายบ้านเด็ดขาด”
ดวงตามุ่งมั่นของพี่สาวที่มองสบเขา มือบางที่โอบกอดเขาไว้อย่างปกป้องปลอบประโลมให้คลายกังวลเขา
จำมันได้ไม่ลืม...
“จริงๆนะ พี่ยังสวยอยู่เสมอ ทำไมไม่ลองมองหาผู้ชายที่เข้ามาให้เลือกดูสักคนล่ะ ถ้าหาไม่ได้จริงๆ ผู้จัดการ
คิมไหมล่ะรู้ใจผมพอๆกับรู้ใจพี่เลยว่าไหม” นัมแทบงลิ่วตาให้ผู้เป็นพี่อย่างล้อเลียน
“เพี้ยะ!!!” เสียงกระทบเนื้อส่วนบ่าดังไม่เบา
“มันเจ็บนะพี่” นัมแทบงร้องลูบไหล่ตัวเองไปมา
“ก็ใครใช้ให้แกมาล้อเลียนฉันล่ะ” นัมเยรินค้อนวงใหญ่ให้น้องชาย
บัดนี้เทวดาตัวน้อยของครอบครัวที่เคยร่าเริงกลับกลายเป็นเงียบขรึมตั้งแต่ขาดพ่อและแม่ เธอเพียรทำทุก
อย่างเพื่อให้เขามีความสุขชดเชยที่มีเวลาอยู่กับพ่อและแม่น้อยเกินไป ไม่นึกเลยว่ารอยยิ้มเทวดาจะทำเงินให้
เธอมหาศาล
จากสไตล์ลิสธรรมดาที่ดูแลเสื้อผ้าให้นายแบบ วันนี้เธอเป็นถึงประธานบริษัท นัมโมเดล นึกถึงวันที่เธอลืม
ชุดนายแบบที่ต้องใส่ไว้ที่บ้านและแทบงเป็นคนเอามาให้ ตั้งแต่วันนั้นชีวิตเธอก็เริ่มเปลี่ยน
“ผมรู้ว่าตัวเองหน้าตาดี...พี่ไม่ต้องมองชื่นชมขนาดนั้นก็ได้”
“เชอะ..ไอ้เด็กคนนี้ถ่อมตัวเป็นบ้างไหม” นัมเยรินส่ายหัวให้กับคำพูดตรงๆทื่อๆของน้องชายมองใบหน้าที่ไม่
ปรากฏอารมณ์ใดๆอย่างเคยชิน
“คราวนี้ลูกคนดังคนไหนล่ะหรือว่านักเรียนนอก” ชายหนุ่มเอ่ยถาม
“ก็เด็กสาวธรรมดานี่แหละสดใส น่ารัก ทำงานเก่ง ฉลาด ไม่รู้สิเอาเป็นว่ามีเสน่ห์มากๆถ้าเจอปุ๊บนายอาจจะ
ชอบเขาปั๊ปเลยก็ได้ อ่อ..นายจำเพื่อนฉันที่เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนได้ไหม..กุลธีร์น่ะ เด็กนั่นเป็นหลานสาวกอน”
คนเป็นพี่ยิ้มถูกใจ
“เขาเป็นคนไทยไม่ใช่เหรอ กอนฮยองน่ะ”
##คนเกาหลีผู้ชายจะเรียกชายที่มีอายุมากกว่าว่า형 ฮยอง แปลว่าพี่ชาย##
“อืม...ใช่คนไทย” นัมเยรินเผลอยิ้มเมื่อเอ่ยชื่อเพื่อนสนิทหนุ่มชาวไทย
“แปลว่าคราวนี้เป็นสาวต่างชาติงั้นเหรอ” นัมแทบงขมวดคิ้วที่ถูกแต่งเข้าที่แล้วเข้าหากัน
"ฮ่ะๆๆฟังพูดเข้าเจ้าเด็กนี่ กัมมี่เก่งมากนะพูดเกาหลีก็ได้ อังกฤษก็เก่ง เคยร่วมงานกับที่บริษัทมาหลายครั้ง
แล้ว ตอนเราเอานักแสดงในสังกัดไปจัดMeetingที่ไทยก็ได้กัมมี่นี่แหละมาช่วยเป็นล่ามให้รวมถึงครั้งนี้ที่นายจะ
ไปจัด Fan meetingที่ไทยด้วย” นัมเยรินพูดถึงเด็กสาวที่หมายตาไว้อย่างภูมิใจ
“กัมมี่..กัมมี่เหรอชื่อยังกับขนมหรือไม่ก็หมากฝรั่ง ประหลาดชะมัด”นัมแทบงนึกเอ็นดูชื่อของหยิงสาว
“ยังไงก็เหอะเตรียมตัวไว้แล้วกันนายจะได้เจอเขาอาทิตย์หน้าแน่นอน...เอาเป็นว่าฉันไม่กวนนายแหละ
เหนื่อยชะมัดวันนี้ไปอาบน้ำนอนสบายๆดีกว่า”
“ฝันดีครับ”
“นายเองก็ด้วยรีบนอนได้แล้วพรุ่งนี้มีถ่ายละครเช้าไม่ใช่เหรอไง”
“ผมรู้แล้วน่าพี่ผมไม่ใช่เด็กอายุ20แล้วนะ” ร่างสูงล้มตัวง่ายๆกับโซฟาเหมือนเดิมปิดตาพูดอย่างไม่ใส่ใจ
นัมเยรินมองน้องชายของเธอในวัยยี่สิบแปด..ใช่สิ10ปีที่แล้วเธอพาเขาวิ่งวุ่นไปทุกที่ รอยยิ้มแห่งความสุข
ปรากฏทั่วใบหน้าเมื่อนึกถึงวันเก่าๆ
“พรุ่งนี้มีถ่ายแบบ เย็นมีเดินแบบให้ห้องเสื้อ...มะรืนมีFittingชุดเดินแบบ”
ใน3ปีแรกเธอรับงานและแทบงก็ทำเงินให้กับเธอจนเก็บได้เป็นกอบเป็นกำ แถมยังโด่งดังติดอันดับนาย
แบบที่ไม่ว่ามีเทศกาลเดินแบบจากห้องเสื้อดังๆจากต่างประเทศก็ต้องเรียกนัมแทบงทั้งนั้น
พอเข้าปีที่4รุ่นพี่ที่สนิทกันมีห้องเสื้อเป็นของตัวเองเริ่มชวนมาทำบริษัทจัดหานายแบบ จนก้าวหน้ามาทำ
ครบวงจรทั้งจัดหา ดูแล นายแบบนางแบบ นักแสดง นัมเยรินมองหน้าหล่อที่ปิดตานิ่งพึมพำเบาๆ
“ดีจังน้า..ที่พี่มีน้องชายดีๆแบบเธอแต่จะดีกว่านี้ถ้านายรู้จักเรียนรู้ที่จะเป็นมิตรกับคนอื่นด้วยแทบง”
ริมฝีปากบางคล้ายสตรีกึ่งยิ้มน้อยๆกับสิ่งที่ได้ยินคิดกับตัวเองว่ามันคงดีเช่นกันถ้าในอนาคตพี่สาวของเขาจะได้คนดีที่พึ่งพาได้มาช่วยเขาดูแลเธอ
ช่วยติดตามตอนต่อไปกันด้วยนะคะ.....
พบกะรัณย์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ก.ย. 2558, 16:00:41 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 พ.ย. 2560, 15:06:22 น.
จำนวนการเข้าชม : 1167
ข้อมูลแปลกๆของซุปตาร์ >> |