กำราบรักจอมเผด็จการ
'กฎของเราคือห้ามรัก' ชัคไม่คิดว่าจะพาอันนามาสู่อันตราย ร่วมมือกันเพื่อหาคนร้ายคือทางออกเดียวที่เธอจะออกไปจากวังวนของมาเฟียอย่างเขาได้
Tags: ความรัก อดีต ซาบซึ้ง
ตอน: ตอนที่ 10 ครึ่งแรก
ตอนที่ 10
คืนฟ้าพร่างดาว หมู่ดาวส่องประกาย อากาศเย็นแทรกซึมไปยังนักเดินทางที่กำลังฝ่าความมืดยามราตรีไป ซาเมราได้กลิ่นหอมที่กำลังลอยละล่องในอณูอากาศ ดอกไม้ยามราตรีช่วยเพิ่งมนต์ขลังที่หากไม่ได้มาพบด้วยตนเอง เธอคงไม่มีทางรู้ว่าทะเลทรายยามค่ำคืนช่างต่างจากทะเลทรายในยามกลางวันยิ่งนัก
อูฐเดินไปตามแรงดึงจากมือที่รั้งเชือกไว้ ธามยังหลับซบบนหลังอูฐโดยมีเชือดมัดกาย ฤทธิ์ยากำลังหมดลงจนกระทั่งฝันแสนหวานถูกทำลายด้วยเสียงเดินเบาๆ ที่เขาได้ยินก่อนที่จะลืมตามองหาด้วยความห่วงสุดชีวิต
ซาเมราอยู่ที่ไหน?
สายตาที่ยังพร่าเลือนเล็กน้อยมองไปทั่วจนกระทั่งเห็นว่าซาเมราอยู่ตรงนั้นห่างจากเขาไปเพียงสองก้าว เธอผู้กล้าหาญ ในยามที่มีภัยเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่นั่งร้องไห้รอให้ใครมาช่วย แต่ยังช่วยชีวิตของเขาไว้ด้วยการมาผูกไว้บนหลังอูฐ
“ผมสลบไปนานแค่ไหนครับองค์หญิง”
ซาเมราหันมายิ้มให้ด้วยความดีใจ ความกลัวราวกับจางหายไปเพียงได้ยินเสียงของธาม เธอเดินมาหาแล้วเป็นฝ่ายจับมือที่เริ่มอุ่นของเขาไว้แล้วช่วยใส่นาฬิกาคืนให้เจ้าของ
“หกชั่วโมง นาฬิกาของนาย ฉันยืมมาใส่จะได้ดูทิศ”
ธามินพยักหน้ายิ้มเมื่อคำว่าร่วมทุกข์ร่วมสุขอุ่นซ่านอยู่ในหัวใจ ถ้าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ซาเมรา เขาอาจจะฟื้นขึ้นมาท่ามกลางศพของคนร้ายหรือไม่อาจกลายเป็นศพไปแล้วก็ได้
อูฐหยุดเดินแล้วคู้ขาหน้าลงเมื่อธามดึงเบาๆ ที่ใต้คอของมัน ซาเมราแปลกใจในตอนแรกแต่ไม่เท่าเงยหน้ามาเห็นเขากำลังแก้มัดให้ตัวเอง
“นายจะแก้มัดทำไม ยังไม่มีแรงเดี๋ยวก็ตกลงมากหรอกหรือว่าฉันมัดแน่นเดินไป”
“ไม่ใช่หรอกครับ ผมพอจะเดินไหวแล้วต่างหาก” ธามินบอกเสียงเพลียๆ รู้สึกเจ็บตรงต้นแขนที่มีผ้าพันไว้แน่น แต่เจ็บไม่เท่าการเห็นซาเมราเดินแล้วเขาเป็นฝ่ายนั่งสบาย
“ไม่ได้นะ เดี๋ยวแผลของนายฉีกแล้วมีเลือดไหลออกมาอีก”
“แต่ว่าองค์หญิงไม่ควรเดิน ในฐานะทหารยอมให้เป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้”
ซาเมราอยากจะหัวเราะ องค์หญิงหรือทหารก็มีขาไว้เดินเหมือนกันหมดนั่นแหละ ถามว่าเหนื่อยไหม ตอบได้เลยว่าเหนื่อย แต่ถ้าองค์หญิงคนนี้ยอมให้คนเจ็บลงมาเดินคงยิ่งกว่าอายตัวเอง
“ถ้าอย่างนั้นก็นั่งอูฐไปด้วยกันเพราะฉันก็เหนื่อย นายก็มีบาดแผล ทำแบบนี้ดีกว่า นายเห็นด้วยกับฉันไหม”
“แต่ว่า...”
ซาเมราวางมือทั้งสองข้างบนไหล่หนาของธามแล้วจงใจกดให้คนแกล้งว่าไม่เจ็บนิ่วหน้า
“ถึงตอนนี้นายเป็นราชองครักษ์ หน้าที่ของนายก็ยังต้องฟังคำสั่งจากฉันไม่ต่างจากทหารปลายแถวอยู่ดี”
พูดขึ้นมาแล้วซาเมราก็โมโหตัวเองนักทั้งที่รู้สึกคุ้นหน้าธาม แต่ดันนึกไม่ออก ที่แท้ก็ลูกชายคุณป้าไมรากับลุงดิฮ์ยานั่นเอง ไม่ได้เจอกันเป็นสิบกว่าปีแล้วกระมัง ไม่แปลกหรอกที่จะจำเขาไม่ได้ ความทรงจำที่เธอมีต่อเขาในวัยเด็กช่างเลือนรางเหลือเกิน
“องค์หญิงโกรธผมหรือครับ” เรียวปากหนายิ้มบางๆ นึกแล้วเชียวว่าต้องได้ยินที่คนร้ายพูดเมื่อคืน
“ใช่ แต่รอให้นายหายดีก่อน ฉันจะหาเรื่องนายให้สาสม”
ช่างเป็นคำขู่ที่น่ากลัวจนทำให้หัวใจธามินเต้นแรงยิ่งนัก เขาเขยิบไปข้างหลังเว้นช่องวางไว้ ซาเมรามองแล้วตัดทุกเหตุผลออก ธามไม่รู้ว่าเธอทำอะไรลงไป เพราะฉะนั้นต้องคิดไว้เสมอว่าไม่ได้ทำอะไร สองร่างนั่งตัวตรงเหมือนเกร็งๆ เมื่อคนหนึ่งนึกว่าฝันไปว่าได้รับจูบ ส่วนอีกคนเป็นฝ่ายจูบด้วยเหตุผลที่จำเป็นจนบอกใครไม่ได้
อูฐลุกขึ้นโยกตัวไปข้างหลัง ร่างเพรียวเสียหลักจนธามินต้องกอดเอวไว้ แก้มนวลร้อนผ่าว เธออาจคิดผิดก็ได้แค่คงจะเปลี่ยนใจคงไม่ทันแล้ว แขนของธามยังคงกอดไว้ พอเธอก้มลงมองมือ เขาก็ปล่อยแขนเขาลอบถอนใจยาว แม้จะเกร็งตัวไม่ให้เข้าไปใกล้แผ่นหลังบอบบาง แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี ช่างเป็นความรู้สึกผิดระคนพอใจเมื่อได้ใกล้ชิดเธอที่พึงใจ แม้จะเพียงแค่เวลาสั้นๆ
ความหวังพร่างพรายเมื่อหมู่บ้านอยู่ไกลออกไปพอเห็นลิบๆ จากสายตา ซาเมราชี้ไปข้างหน้าแล้วหันมายิ้มดีใจกับธาม ช่างเป็นความผิดพลาดของเธอเมื่อรอยยิ้มของเขาทำให้ต้องรีบหันกลับไปแล้วยกมือมากดตรงอกเพราะหัวใจกำลังเต้นแรงจนน่าขายหน้า เขาคงไม่ได้ยินกระมังหรือถ้าได้ยินก็ห้ามพูดอะไรออกมาเชียว
ธามินเห็นควรให้พักกันก่อนไม่ควรผลีผลามเข้าไปในหมู่บ้านเพราะอาจมีกบฏมาดักรออยู่ก็ได้ น่าจะสังเกตการณ์อยู่ภายนอกก่อน เขาลงมาจากอูฐได้ช่วยซาเมราไม่ให้เสียหลักเกือบล้มอย่างคราวก่อย ร่างกายที่เสียพลังไปกลับมาแข็งแรงและแผลยังไม่ปวดระบมเมื่อได้พักมาเกือบทั้งคืน กระโจมถูกตั้งได้เร็วขึ้นเมื่อซาเมราเข้ามาช่วยอย่างคล่องแคล่วเพราะเห็นธามทำหลายครั้งจนรู้วิธี ไฟถูกก่อเพื่อต้มน้ำชงกาแฟมากินกับเนื้อย่างที่เหลือจากเมื่อวาน
ซาเมราวางยาเม็ดสีขาวให้บนมือของธามแล้วเมินมองไปทางอื่นด้วยกลัวว่าเขาจะจำได้ว่าเธอทำอะไรไปเมื่อคืน พอเห็นเขากินยาไม่ได้ถามอะไรค่อยทำให้เธอถอนใจออกมาอย่างโล่งอก สองหนุ่มสาวนั่งพักเงียบๆ จนกระทั่งเห็นใครบางคนควบม้าตัวหนึ่งออกมาจากหมู่บ้าน
“มีคนมาทางนี้ เอายังไงดีนายธาม”
“น่าจะเป็นชาวบ้าน แต่เพื่อความไม่ประมาทองค์หญิงเช็คสะระบันให้ดีกว่าแน่นแล้วหรือยัง หน้าต่ำๆ ไว้ที่เหลือผมจัดการเอง” ธามินกำชับพลางลูบด้ามปืนใต้โตเบพร้อมเสมอหากต้องปกป้องซาเมราอีกครั้ง
ซาเมราผูกปมของสะระบั่นอีกชั้นแล้วมายืนแอบข้างหลังธาม เสียงควบม้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และชัดขึ้นเมื่อใครบางคนนั้นจงใจมาทางนี้ พอระยะห่างไปไม่ถึงสิบก้าวฝีเท้าม้าก็ชะลอแล้วหยุดลง
ธามินมองผู้มาเยือนที่กำลังมองมาที่เขาเช่นกัน ใครบางคนนั้นรูปร่าอ้อนแอ้นและปิดบังใบหน้าด้วยฮิญาบสีขาว แล้วเมื่อเขาไม่เอ่ยทักทาย อีกฝ่ายจึงทำหน้าที่นี้เสียเอง
“พวกท่านจะเดินทางไปไหนกัน ไม่รู้หรือว่าพายุทะเลทรายกำลังมา”
“ขอบคุณที่บอก ผมกำลังจะเข้าไปหมู่บ้าน O3 อยู่พอดี ตอนนี้แค่พักเหนื่อยเท่านั้น”
ม้าตัวนั้นยังไม่ขยับไปไหน ธามินระวังอยู่ในที แม้ผู้มาเยือนจะเป็นผู้หญิงก็ตาม คนบนหลังม้าเขม้นมองซ้ำ ซาเมรามองสายตาคมสวยนั้นอย่างไม่วางใจ พลันเรียวปากสวยยิ้มกว้าง เมื่อมั่นใจแล้วว่าพบใครเข้า
“ถึงว่าเสียงคุ้นๆ ธามใช่ไหม จำทิชาได้หรือเปล่า ไม่พบกันนานเท่าไหร่แล้ว” ฮิญาบถูกปลดออกจากใบหน้าเหลือพวกหมวกที่สวมไว้ ผมสลวยปลิวไสว
ซาเมราเห็นผู้หญิงที่สวยจนแม้กระทั่งผู้หญิงด้วยกันยังตะลึง เครื่องหน้าของผู้หญิงคนนี้บอกชัดว่าเป็นลูกครึ่ง ดูปราดเปรียว เท่และมั่นใจในตัวเองเหมือนผู้หญิงที่ใช้ชีวิตในต่างประเทศ หัวใจของธามินเต้นผิดจังหวะเมื่อได้พบทิชาหลังจากผ่านไปสองปีที่เลิกกัน แล้วที่มาพบกันที่นี่ช่างบังเอิญเหลือเกิน เขาไม่น่าลืมเลยว่าพ่อของทิชากลับมาอยู่ที่บ้านเกิดซึ่งก็คือหมู่บ้าน O3 นั่นเอง
“ไม่ได้พบกันนานมากแล้วนะทิชา”
“ธามต่างหากที่ไม่รับโทรศัพท์ของทิชา เลิกกันแล้วกลับมาเป็นเพื่อนกันก็ได้นี่คะ ไม่นึกว่าวันนี้จะโชคดีได้พบ รีบตามทิชากลับไปที่หมู่บ้านเร็วๆ เข้าเถอะ เดี๋ยวจะหลบพายุไม่ทัน” สายตาของทิชาผวัดผ่านร่างเล็กก่อนจะกลับมามองที่แขนของธามินซึ่งมีรอยเลือดซึมออกมาจากผ้า “ธามจะได้ทำแผลด้วย”
ของทั้งหมดถูกเก็บเร็วๆ แล้วผูกไว้บนหลังอูฐ ทิชาควบม้านำหน้าไปก่อนแล้ว แต่ก็หันกลับมามองอยู่บ่อยครั้ง ซาเมรามองตามแล้วสงสัยในบทสนทนาที่ได้ยิน
“แฟนเก่าของนายหรือ” เธอก้มหน้าชิดอกแล้วถาม
ธามินหันมามองคนถามที่มองไปข้างหน้า ซาเมราคงไม่รู้ว่าเขากำลังอยากตอบพอดี
“ใช่ครับ ผมเคยคบกับทิชาตอนอยู่อเมริกา พ่อของทิชาคืออดีตนายพลทามาล ท่านลาออกจากราชการหลังจากเสียภรรยาและลูกชายคนโตไปเมื่อเกือบสามปีก่อน ผมไม่คิดว่าจะมาเจอ ‘แฟนเก่า’ ตอนนี้เหมือนกัน”
ซาเมราพยักหน้าจำได้ว่าเคยพบอดีตนายพลทามาลก่อนเดินทางไปอิตาลีซึ่งนานเกือบสิบปีแล้ว แต่เรื่องนั้นไม่น่าสนใจเท่าระหว่างธามกับทิชา ใครเป็นคนทิ้งใครหรือว่าเขามีคนอื่น แต่เธอควรถามออกไปไหม
“แล้วทำไมถึงเลิกกันล่ะธาม ใครทิ้งใครก่อน” ซาเมรานิ่วหน้าเพราะดันหลุกถามออกมาจริงๆ
“อืม ผมขอติดเรื่องนี้ไว้ก่อนนะครับ”
ซาเมราหันมาค้อนใส่ อีตาบ้า เธอกล้าถาม ทำไมเขาไม่กล้าตอบ ครั้นจะเซ้าซี้ก็ไม่ใช่เรื่องอีก ถ้าเขาถามกลับว่าอยากรู้ไปทำไมเธอจะตอบยังไงดีล่ะ ทางเดียวที่ทำได้รีบเดินต่อไปให้ถึงหมู่บ้านก่อนที่พายุทะเลทรายจะมา ธามจะสงสัยเหมือนเธอบ้างไหมว่ามันบังเอิญเกินไปที่อยู่ๆ เขามาเจอแฟนเก่ากลางทะเลทราย
ครั้งสุดท้ายที่ธามินจำได้ไม่เคยลืม ทิชายืนรอเขาคล้ายๆ แบบนี้ เพียงแต่มีชายอีกคนยืนอยู่เคียงข้างเพื่อบอกข่าวดีที่กลายเป็นข่าวร้ายของเขาก่อนจะเดินทางกลับมานัวเรด์ดีน ผ่านมาสองปีแล้ว แต่ว่าคำพูดของเธอยังสะท้อนอยู่ในความทรงจำของเขา
‘ทิชาพบคนที่ใช่กว่าธามแล้ว ขอโทษด้วยที่บอกธามช้าเกินไป’
เหตุผลที่เขาที่ไม่เคยลืมไม่ใช่เพราะยังเจ็บปวด เพียงแต่เธอกลายเป็นเหมือนวัคซีนสำหรับผู้ชายที่รักจริงจนถึงขั้นอยากแต่งงาน
ทิชายืนรออยู่ตรงทางเข้าหมู่บ้านขนาดใหญ่ซึ่งมีชาวบ้านอาศัยร้อยกว่าหลังคาเรือน ม้าที่เธอขี่ออกไปมีคนดูแลม้าพาไปเก็บคอกให้แล้ว ไล่หลังไปเพียงไม่กี่นาทีธามินกับเพื่อนร่วมทางก็มาถึงทันพอดี เธอเห็นพายุทะเลทรายก่อตัวเป็นฝุ่นฟุ้งๆ อยู่ห่างออกไป แต่อีกไม่นานฝุ่นทรายเหล่านั้นจะพัดมาถึงที่นี่ ซาเมราเดินตามธามินตามบทบาทของเด็กรับใช้ที่ไม่ควรเดินนำหน้านายเพื่อไม่ให้ใครสงสัย
“ไปทำแผลก่อนไหมคะธาม” ทิชายื่นมือบางไปสัมผัสแขนของธามินแล้วยิ้มหวาน
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวแอลจะทำแผลให้ผมเอง”
ซาเมราเลิกคิ้วมองคนสั่งด้วยความสงสัยว่าทำไมเขาใช้ชื่อนี้ รู้แล้วหรือว่าแอลกับเธอเป็นคนเดียวกัน แต่กลับถูกมองอย่างจงใจจากหญิงสาวที่เหมือนเพิ่งเดินออกมาจากนิตยสารหัวนอก ทิชาดูมั่นใจท่ามกลางผู้หญิงวัยเดียวกันที่ก้มหน้างุดยามเดินออกมาจากบ้าน
“ไปพักที่บ้านของทิชาไหมธาม ว่าจะถามตั้งแต่เมื่อครู่ ธามพาใครมาด้วยหรือ ไม่พูดไม่จาสักคำ”
“เด็กรับใช้น่ะ มันเป็นใบ้ แต่หูไม่หนวก เลี้ยงไว้เพราะสงสารขืนปล่อยไปคงตายเปล่า ส่วนเรื่องที่พัก ผมคิดว่าหาเองดีกว่า ไม่อยากรบกวน ผมเกรงใจทิชา”
ทิชาหัวเราะเสียงใสพลางตีแขนธามมินอย่างแสดงออกถึงความสนิทสนม “ไม่ต้องเกรงใจเลยทิชาเลยค่ะ ธามไปด้วยกันนะคะ ที่บ้านทิชามีห้องพักตั้งหลายห้อง ถ้าธามไม่ยอม ทิชาจะคิดว่ายังโกรธกันอยู่”
ธามินทำหน้าครุ่นคิด ซาเมรามองเขาแล้วได้แต่ภาวนาว่าให้ไปพักที่อื่น ในฐานะผู้หญิงด้วยเธอคิดว่าทิชาไม่ได้ดูใสซื่ออย่างที่เห็น และในฐานะองค์หญิง ทิชาดูน่าสงสัย เรื่องบังเอิญไม่ควรเกิดง่ายๆ ในทะเลทรายที่กว้างใหญ่ หากไม่ใช่เพราะว่าจงใจ แต่ด้วยเหตุผลอะไรเธอยังไม่รู้เหมือนกัน
“ถ้าอย่างนั้นคงต้องรบกวนทิชาสักหน่อยแล้ว ขอบใจมากนะ”
‘แอล’ ได้แต่ลอบถอนใจเซ็งๆ อยากจะคิดว่าธามใจอ่อนเพราะทิชาเป็นแฟนเก่า แต่เขาเป็นถึงราชองครักษ์จะทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลนอกจากเรื่องส่วนตัวคงไม่น่าเป็นไปได้
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ สำหรับธามแล้ว ไม่มีใครพิเศษเท่าไม่ว่าในอดีตหรือปัจจุบัน”
“งั้นรึ ผมเพิ่งรู้ว่าทิชาคิดแบบนี้” ธามินได้แต่ยิ้มไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ
รถกอล์ฟถูกขับมาจอดให้ทิชาขึ้นไปนั่งกับธาม พอเขาเห็นซาเมรายังยืนเฉยเลยส่งสายตาดุๆ แล้วคว้าแขนให้ขึ้นไปนั่งด้วยกัน เธออยากวีนใจจะขาดเมื่อเข้าใจแล้วว่าที่เขาทำแบบนี้เพราะอยากคืนดีกับแฟนเก่า
“เด็กรับใช้ของธามให้ไปนอนกับคนเลี้ยงอูฐแล้วกันนะ” ทิชาเอ่ยขึ้น
ซาเมราฟังแล้วเฉย นอนกับคนเลี้ยงอูฐแล้วไงล่ะ นอนกลางทราย เกือบตายก็เจอมาแล้ว ธามินไม่หันมามองเธอด้วยซ้ำ แถมยังหัวเราะชอบใจ มันน่า...
“ให้มันพักกับผมดีกว่า ผมไม่อยากรบกวนมากไปน่ะ มันเป็นใบ้ด้วย เกิดไปทำอะไรเสียหาย ยิ่งจะยุ่งเปล่าๆ”
ซาเมราก้มหน้าค่อยยิ้มออกได้อย่างน้อยธามก็เข้าใจพูด หลังจากนั้นเป็นเรื่องความหลังอันสวยงามของสองหนุ่มสาวที่เธอคิดว่าอยากอุดหู แถมทิชายังไม่ได้แต่งงาน ธามจะกลับมามีความหวังไหมนะ คนยิ้มยากกลายเป็นยิ้มง่าย เห็นแล้วหมั่นไส้ขึ้นมาตงิดๆ จนความหวานปนเลี่ยนมาหยุดลงที่หน้าบ้านเล็กๆ ในอาณาจักรของบ้านหลังใหญ่
ธามินลงมาจากรถแล้วแต่ยังส่งยิ้มหวานให้ทิชา ซาเมรารีบเดินไปที่ประตูบานใหญ่เพราะอยากเข้าไปในบ้านแทนสำลักน้ำตาลตายอยู่ตรงนี้
“เดี๋ยวพบกันนะคะธาม”
มีเพียงรอยยิ้มหวานๆ ของธามินเป็นคำตอบก่อนที่ทิชาจะขับรถไปจอดหน้าบ้านหลังใหญ่นั้น คนรับใช้เปิดประตูบ้านให้แขกของนายสาว ภายในบ้านมีห้องนอนห้องเดียวกับห้องน้ำและห้องรับแขก ซาเมรากอดอกมองธามสีหน้าบอกชัดว่ากำลังไม่พอใจที่เขาทำอะไรไม่ปรึกษากันก่อน
“ไว้ใจได้หรือนายธาม ทำแบบนี้คืออยากไปคืนดีแฟนเก่าหรือกำลังทำงานอยู่กันแน่”
“สำหรับตอนนี้ต้องทำเป็นไว้ใจ ทั้งๆ ที่ไม่ไว้ใจเลยครับ ผมไม่เคยเอาใจออกห่างจากหน้าที่แม้แต่ครั้งเดียว ไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ” ธามินตอบน้ำเสียงจริงจังเช่นเดียวกับใบหน้า
ซาเมราถอนใจโล่งอกอย่างนี้สิถึงจะเรียกว่าพวกเดียวกัน ความหงุดหงิดในใจของเธอพลันหายไปในพริบตาน่าประหลาดจริง ว่าแต่เวลาธามทำหวานใส่แฟนเก่าช่างเนียนตาเหลือเกิน ผู้ชายนิ่งๆ เวลาแสดงละครตบตาก็น่าสนใจเหมือนกัน
พบกันในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคมนี้ ถ้าว่างไปพบกันได้นะคะ บูท สนพ ทัช K01 โซนเพลนารีฮอลล์ บูท กรีนมายด์ 038 โซน C1
อัมราน_บรรพตี
คืนฟ้าพร่างดาว หมู่ดาวส่องประกาย อากาศเย็นแทรกซึมไปยังนักเดินทางที่กำลังฝ่าความมืดยามราตรีไป ซาเมราได้กลิ่นหอมที่กำลังลอยละล่องในอณูอากาศ ดอกไม้ยามราตรีช่วยเพิ่งมนต์ขลังที่หากไม่ได้มาพบด้วยตนเอง เธอคงไม่มีทางรู้ว่าทะเลทรายยามค่ำคืนช่างต่างจากทะเลทรายในยามกลางวันยิ่งนัก
อูฐเดินไปตามแรงดึงจากมือที่รั้งเชือกไว้ ธามยังหลับซบบนหลังอูฐโดยมีเชือดมัดกาย ฤทธิ์ยากำลังหมดลงจนกระทั่งฝันแสนหวานถูกทำลายด้วยเสียงเดินเบาๆ ที่เขาได้ยินก่อนที่จะลืมตามองหาด้วยความห่วงสุดชีวิต
ซาเมราอยู่ที่ไหน?
สายตาที่ยังพร่าเลือนเล็กน้อยมองไปทั่วจนกระทั่งเห็นว่าซาเมราอยู่ตรงนั้นห่างจากเขาไปเพียงสองก้าว เธอผู้กล้าหาญ ในยามที่มีภัยเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่นั่งร้องไห้รอให้ใครมาช่วย แต่ยังช่วยชีวิตของเขาไว้ด้วยการมาผูกไว้บนหลังอูฐ
“ผมสลบไปนานแค่ไหนครับองค์หญิง”
ซาเมราหันมายิ้มให้ด้วยความดีใจ ความกลัวราวกับจางหายไปเพียงได้ยินเสียงของธาม เธอเดินมาหาแล้วเป็นฝ่ายจับมือที่เริ่มอุ่นของเขาไว้แล้วช่วยใส่นาฬิกาคืนให้เจ้าของ
“หกชั่วโมง นาฬิกาของนาย ฉันยืมมาใส่จะได้ดูทิศ”
ธามินพยักหน้ายิ้มเมื่อคำว่าร่วมทุกข์ร่วมสุขอุ่นซ่านอยู่ในหัวใจ ถ้าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ซาเมรา เขาอาจจะฟื้นขึ้นมาท่ามกลางศพของคนร้ายหรือไม่อาจกลายเป็นศพไปแล้วก็ได้
อูฐหยุดเดินแล้วคู้ขาหน้าลงเมื่อธามดึงเบาๆ ที่ใต้คอของมัน ซาเมราแปลกใจในตอนแรกแต่ไม่เท่าเงยหน้ามาเห็นเขากำลังแก้มัดให้ตัวเอง
“นายจะแก้มัดทำไม ยังไม่มีแรงเดี๋ยวก็ตกลงมากหรอกหรือว่าฉันมัดแน่นเดินไป”
“ไม่ใช่หรอกครับ ผมพอจะเดินไหวแล้วต่างหาก” ธามินบอกเสียงเพลียๆ รู้สึกเจ็บตรงต้นแขนที่มีผ้าพันไว้แน่น แต่เจ็บไม่เท่าการเห็นซาเมราเดินแล้วเขาเป็นฝ่ายนั่งสบาย
“ไม่ได้นะ เดี๋ยวแผลของนายฉีกแล้วมีเลือดไหลออกมาอีก”
“แต่ว่าองค์หญิงไม่ควรเดิน ในฐานะทหารยอมให้เป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้”
ซาเมราอยากจะหัวเราะ องค์หญิงหรือทหารก็มีขาไว้เดินเหมือนกันหมดนั่นแหละ ถามว่าเหนื่อยไหม ตอบได้เลยว่าเหนื่อย แต่ถ้าองค์หญิงคนนี้ยอมให้คนเจ็บลงมาเดินคงยิ่งกว่าอายตัวเอง
“ถ้าอย่างนั้นก็นั่งอูฐไปด้วยกันเพราะฉันก็เหนื่อย นายก็มีบาดแผล ทำแบบนี้ดีกว่า นายเห็นด้วยกับฉันไหม”
“แต่ว่า...”
ซาเมราวางมือทั้งสองข้างบนไหล่หนาของธามแล้วจงใจกดให้คนแกล้งว่าไม่เจ็บนิ่วหน้า
“ถึงตอนนี้นายเป็นราชองครักษ์ หน้าที่ของนายก็ยังต้องฟังคำสั่งจากฉันไม่ต่างจากทหารปลายแถวอยู่ดี”
พูดขึ้นมาแล้วซาเมราก็โมโหตัวเองนักทั้งที่รู้สึกคุ้นหน้าธาม แต่ดันนึกไม่ออก ที่แท้ก็ลูกชายคุณป้าไมรากับลุงดิฮ์ยานั่นเอง ไม่ได้เจอกันเป็นสิบกว่าปีแล้วกระมัง ไม่แปลกหรอกที่จะจำเขาไม่ได้ ความทรงจำที่เธอมีต่อเขาในวัยเด็กช่างเลือนรางเหลือเกิน
“องค์หญิงโกรธผมหรือครับ” เรียวปากหนายิ้มบางๆ นึกแล้วเชียวว่าต้องได้ยินที่คนร้ายพูดเมื่อคืน
“ใช่ แต่รอให้นายหายดีก่อน ฉันจะหาเรื่องนายให้สาสม”
ช่างเป็นคำขู่ที่น่ากลัวจนทำให้หัวใจธามินเต้นแรงยิ่งนัก เขาเขยิบไปข้างหลังเว้นช่องวางไว้ ซาเมรามองแล้วตัดทุกเหตุผลออก ธามไม่รู้ว่าเธอทำอะไรลงไป เพราะฉะนั้นต้องคิดไว้เสมอว่าไม่ได้ทำอะไร สองร่างนั่งตัวตรงเหมือนเกร็งๆ เมื่อคนหนึ่งนึกว่าฝันไปว่าได้รับจูบ ส่วนอีกคนเป็นฝ่ายจูบด้วยเหตุผลที่จำเป็นจนบอกใครไม่ได้
อูฐลุกขึ้นโยกตัวไปข้างหลัง ร่างเพรียวเสียหลักจนธามินต้องกอดเอวไว้ แก้มนวลร้อนผ่าว เธออาจคิดผิดก็ได้แค่คงจะเปลี่ยนใจคงไม่ทันแล้ว แขนของธามยังคงกอดไว้ พอเธอก้มลงมองมือ เขาก็ปล่อยแขนเขาลอบถอนใจยาว แม้จะเกร็งตัวไม่ให้เข้าไปใกล้แผ่นหลังบอบบาง แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี ช่างเป็นความรู้สึกผิดระคนพอใจเมื่อได้ใกล้ชิดเธอที่พึงใจ แม้จะเพียงแค่เวลาสั้นๆ
ความหวังพร่างพรายเมื่อหมู่บ้านอยู่ไกลออกไปพอเห็นลิบๆ จากสายตา ซาเมราชี้ไปข้างหน้าแล้วหันมายิ้มดีใจกับธาม ช่างเป็นความผิดพลาดของเธอเมื่อรอยยิ้มของเขาทำให้ต้องรีบหันกลับไปแล้วยกมือมากดตรงอกเพราะหัวใจกำลังเต้นแรงจนน่าขายหน้า เขาคงไม่ได้ยินกระมังหรือถ้าได้ยินก็ห้ามพูดอะไรออกมาเชียว
ธามินเห็นควรให้พักกันก่อนไม่ควรผลีผลามเข้าไปในหมู่บ้านเพราะอาจมีกบฏมาดักรออยู่ก็ได้ น่าจะสังเกตการณ์อยู่ภายนอกก่อน เขาลงมาจากอูฐได้ช่วยซาเมราไม่ให้เสียหลักเกือบล้มอย่างคราวก่อย ร่างกายที่เสียพลังไปกลับมาแข็งแรงและแผลยังไม่ปวดระบมเมื่อได้พักมาเกือบทั้งคืน กระโจมถูกตั้งได้เร็วขึ้นเมื่อซาเมราเข้ามาช่วยอย่างคล่องแคล่วเพราะเห็นธามทำหลายครั้งจนรู้วิธี ไฟถูกก่อเพื่อต้มน้ำชงกาแฟมากินกับเนื้อย่างที่เหลือจากเมื่อวาน
ซาเมราวางยาเม็ดสีขาวให้บนมือของธามแล้วเมินมองไปทางอื่นด้วยกลัวว่าเขาจะจำได้ว่าเธอทำอะไรไปเมื่อคืน พอเห็นเขากินยาไม่ได้ถามอะไรค่อยทำให้เธอถอนใจออกมาอย่างโล่งอก สองหนุ่มสาวนั่งพักเงียบๆ จนกระทั่งเห็นใครบางคนควบม้าตัวหนึ่งออกมาจากหมู่บ้าน
“มีคนมาทางนี้ เอายังไงดีนายธาม”
“น่าจะเป็นชาวบ้าน แต่เพื่อความไม่ประมาทองค์หญิงเช็คสะระบันให้ดีกว่าแน่นแล้วหรือยัง หน้าต่ำๆ ไว้ที่เหลือผมจัดการเอง” ธามินกำชับพลางลูบด้ามปืนใต้โตเบพร้อมเสมอหากต้องปกป้องซาเมราอีกครั้ง
ซาเมราผูกปมของสะระบั่นอีกชั้นแล้วมายืนแอบข้างหลังธาม เสียงควบม้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และชัดขึ้นเมื่อใครบางคนนั้นจงใจมาทางนี้ พอระยะห่างไปไม่ถึงสิบก้าวฝีเท้าม้าก็ชะลอแล้วหยุดลง
ธามินมองผู้มาเยือนที่กำลังมองมาที่เขาเช่นกัน ใครบางคนนั้นรูปร่าอ้อนแอ้นและปิดบังใบหน้าด้วยฮิญาบสีขาว แล้วเมื่อเขาไม่เอ่ยทักทาย อีกฝ่ายจึงทำหน้าที่นี้เสียเอง
“พวกท่านจะเดินทางไปไหนกัน ไม่รู้หรือว่าพายุทะเลทรายกำลังมา”
“ขอบคุณที่บอก ผมกำลังจะเข้าไปหมู่บ้าน O3 อยู่พอดี ตอนนี้แค่พักเหนื่อยเท่านั้น”
ม้าตัวนั้นยังไม่ขยับไปไหน ธามินระวังอยู่ในที แม้ผู้มาเยือนจะเป็นผู้หญิงก็ตาม คนบนหลังม้าเขม้นมองซ้ำ ซาเมรามองสายตาคมสวยนั้นอย่างไม่วางใจ พลันเรียวปากสวยยิ้มกว้าง เมื่อมั่นใจแล้วว่าพบใครเข้า
“ถึงว่าเสียงคุ้นๆ ธามใช่ไหม จำทิชาได้หรือเปล่า ไม่พบกันนานเท่าไหร่แล้ว” ฮิญาบถูกปลดออกจากใบหน้าเหลือพวกหมวกที่สวมไว้ ผมสลวยปลิวไสว
ซาเมราเห็นผู้หญิงที่สวยจนแม้กระทั่งผู้หญิงด้วยกันยังตะลึง เครื่องหน้าของผู้หญิงคนนี้บอกชัดว่าเป็นลูกครึ่ง ดูปราดเปรียว เท่และมั่นใจในตัวเองเหมือนผู้หญิงที่ใช้ชีวิตในต่างประเทศ หัวใจของธามินเต้นผิดจังหวะเมื่อได้พบทิชาหลังจากผ่านไปสองปีที่เลิกกัน แล้วที่มาพบกันที่นี่ช่างบังเอิญเหลือเกิน เขาไม่น่าลืมเลยว่าพ่อของทิชากลับมาอยู่ที่บ้านเกิดซึ่งก็คือหมู่บ้าน O3 นั่นเอง
“ไม่ได้พบกันนานมากแล้วนะทิชา”
“ธามต่างหากที่ไม่รับโทรศัพท์ของทิชา เลิกกันแล้วกลับมาเป็นเพื่อนกันก็ได้นี่คะ ไม่นึกว่าวันนี้จะโชคดีได้พบ รีบตามทิชากลับไปที่หมู่บ้านเร็วๆ เข้าเถอะ เดี๋ยวจะหลบพายุไม่ทัน” สายตาของทิชาผวัดผ่านร่างเล็กก่อนจะกลับมามองที่แขนของธามินซึ่งมีรอยเลือดซึมออกมาจากผ้า “ธามจะได้ทำแผลด้วย”
ของทั้งหมดถูกเก็บเร็วๆ แล้วผูกไว้บนหลังอูฐ ทิชาควบม้านำหน้าไปก่อนแล้ว แต่ก็หันกลับมามองอยู่บ่อยครั้ง ซาเมรามองตามแล้วสงสัยในบทสนทนาที่ได้ยิน
“แฟนเก่าของนายหรือ” เธอก้มหน้าชิดอกแล้วถาม
ธามินหันมามองคนถามที่มองไปข้างหน้า ซาเมราคงไม่รู้ว่าเขากำลังอยากตอบพอดี
“ใช่ครับ ผมเคยคบกับทิชาตอนอยู่อเมริกา พ่อของทิชาคืออดีตนายพลทามาล ท่านลาออกจากราชการหลังจากเสียภรรยาและลูกชายคนโตไปเมื่อเกือบสามปีก่อน ผมไม่คิดว่าจะมาเจอ ‘แฟนเก่า’ ตอนนี้เหมือนกัน”
ซาเมราพยักหน้าจำได้ว่าเคยพบอดีตนายพลทามาลก่อนเดินทางไปอิตาลีซึ่งนานเกือบสิบปีแล้ว แต่เรื่องนั้นไม่น่าสนใจเท่าระหว่างธามกับทิชา ใครเป็นคนทิ้งใครหรือว่าเขามีคนอื่น แต่เธอควรถามออกไปไหม
“แล้วทำไมถึงเลิกกันล่ะธาม ใครทิ้งใครก่อน” ซาเมรานิ่วหน้าเพราะดันหลุกถามออกมาจริงๆ
“อืม ผมขอติดเรื่องนี้ไว้ก่อนนะครับ”
ซาเมราหันมาค้อนใส่ อีตาบ้า เธอกล้าถาม ทำไมเขาไม่กล้าตอบ ครั้นจะเซ้าซี้ก็ไม่ใช่เรื่องอีก ถ้าเขาถามกลับว่าอยากรู้ไปทำไมเธอจะตอบยังไงดีล่ะ ทางเดียวที่ทำได้รีบเดินต่อไปให้ถึงหมู่บ้านก่อนที่พายุทะเลทรายจะมา ธามจะสงสัยเหมือนเธอบ้างไหมว่ามันบังเอิญเกินไปที่อยู่ๆ เขามาเจอแฟนเก่ากลางทะเลทราย
ครั้งสุดท้ายที่ธามินจำได้ไม่เคยลืม ทิชายืนรอเขาคล้ายๆ แบบนี้ เพียงแต่มีชายอีกคนยืนอยู่เคียงข้างเพื่อบอกข่าวดีที่กลายเป็นข่าวร้ายของเขาก่อนจะเดินทางกลับมานัวเรด์ดีน ผ่านมาสองปีแล้ว แต่ว่าคำพูดของเธอยังสะท้อนอยู่ในความทรงจำของเขา
‘ทิชาพบคนที่ใช่กว่าธามแล้ว ขอโทษด้วยที่บอกธามช้าเกินไป’
เหตุผลที่เขาที่ไม่เคยลืมไม่ใช่เพราะยังเจ็บปวด เพียงแต่เธอกลายเป็นเหมือนวัคซีนสำหรับผู้ชายที่รักจริงจนถึงขั้นอยากแต่งงาน
ทิชายืนรออยู่ตรงทางเข้าหมู่บ้านขนาดใหญ่ซึ่งมีชาวบ้านอาศัยร้อยกว่าหลังคาเรือน ม้าที่เธอขี่ออกไปมีคนดูแลม้าพาไปเก็บคอกให้แล้ว ไล่หลังไปเพียงไม่กี่นาทีธามินกับเพื่อนร่วมทางก็มาถึงทันพอดี เธอเห็นพายุทะเลทรายก่อตัวเป็นฝุ่นฟุ้งๆ อยู่ห่างออกไป แต่อีกไม่นานฝุ่นทรายเหล่านั้นจะพัดมาถึงที่นี่ ซาเมราเดินตามธามินตามบทบาทของเด็กรับใช้ที่ไม่ควรเดินนำหน้านายเพื่อไม่ให้ใครสงสัย
“ไปทำแผลก่อนไหมคะธาม” ทิชายื่นมือบางไปสัมผัสแขนของธามินแล้วยิ้มหวาน
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวแอลจะทำแผลให้ผมเอง”
ซาเมราเลิกคิ้วมองคนสั่งด้วยความสงสัยว่าทำไมเขาใช้ชื่อนี้ รู้แล้วหรือว่าแอลกับเธอเป็นคนเดียวกัน แต่กลับถูกมองอย่างจงใจจากหญิงสาวที่เหมือนเพิ่งเดินออกมาจากนิตยสารหัวนอก ทิชาดูมั่นใจท่ามกลางผู้หญิงวัยเดียวกันที่ก้มหน้างุดยามเดินออกมาจากบ้าน
“ไปพักที่บ้านของทิชาไหมธาม ว่าจะถามตั้งแต่เมื่อครู่ ธามพาใครมาด้วยหรือ ไม่พูดไม่จาสักคำ”
“เด็กรับใช้น่ะ มันเป็นใบ้ แต่หูไม่หนวก เลี้ยงไว้เพราะสงสารขืนปล่อยไปคงตายเปล่า ส่วนเรื่องที่พัก ผมคิดว่าหาเองดีกว่า ไม่อยากรบกวน ผมเกรงใจทิชา”
ทิชาหัวเราะเสียงใสพลางตีแขนธามมินอย่างแสดงออกถึงความสนิทสนม “ไม่ต้องเกรงใจเลยทิชาเลยค่ะ ธามไปด้วยกันนะคะ ที่บ้านทิชามีห้องพักตั้งหลายห้อง ถ้าธามไม่ยอม ทิชาจะคิดว่ายังโกรธกันอยู่”
ธามินทำหน้าครุ่นคิด ซาเมรามองเขาแล้วได้แต่ภาวนาว่าให้ไปพักที่อื่น ในฐานะผู้หญิงด้วยเธอคิดว่าทิชาไม่ได้ดูใสซื่ออย่างที่เห็น และในฐานะองค์หญิง ทิชาดูน่าสงสัย เรื่องบังเอิญไม่ควรเกิดง่ายๆ ในทะเลทรายที่กว้างใหญ่ หากไม่ใช่เพราะว่าจงใจ แต่ด้วยเหตุผลอะไรเธอยังไม่รู้เหมือนกัน
“ถ้าอย่างนั้นคงต้องรบกวนทิชาสักหน่อยแล้ว ขอบใจมากนะ”
‘แอล’ ได้แต่ลอบถอนใจเซ็งๆ อยากจะคิดว่าธามใจอ่อนเพราะทิชาเป็นแฟนเก่า แต่เขาเป็นถึงราชองครักษ์จะทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลนอกจากเรื่องส่วนตัวคงไม่น่าเป็นไปได้
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ สำหรับธามแล้ว ไม่มีใครพิเศษเท่าไม่ว่าในอดีตหรือปัจจุบัน”
“งั้นรึ ผมเพิ่งรู้ว่าทิชาคิดแบบนี้” ธามินได้แต่ยิ้มไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ
รถกอล์ฟถูกขับมาจอดให้ทิชาขึ้นไปนั่งกับธาม พอเขาเห็นซาเมรายังยืนเฉยเลยส่งสายตาดุๆ แล้วคว้าแขนให้ขึ้นไปนั่งด้วยกัน เธออยากวีนใจจะขาดเมื่อเข้าใจแล้วว่าที่เขาทำแบบนี้เพราะอยากคืนดีกับแฟนเก่า
“เด็กรับใช้ของธามให้ไปนอนกับคนเลี้ยงอูฐแล้วกันนะ” ทิชาเอ่ยขึ้น
ซาเมราฟังแล้วเฉย นอนกับคนเลี้ยงอูฐแล้วไงล่ะ นอนกลางทราย เกือบตายก็เจอมาแล้ว ธามินไม่หันมามองเธอด้วยซ้ำ แถมยังหัวเราะชอบใจ มันน่า...
“ให้มันพักกับผมดีกว่า ผมไม่อยากรบกวนมากไปน่ะ มันเป็นใบ้ด้วย เกิดไปทำอะไรเสียหาย ยิ่งจะยุ่งเปล่าๆ”
ซาเมราก้มหน้าค่อยยิ้มออกได้อย่างน้อยธามก็เข้าใจพูด หลังจากนั้นเป็นเรื่องความหลังอันสวยงามของสองหนุ่มสาวที่เธอคิดว่าอยากอุดหู แถมทิชายังไม่ได้แต่งงาน ธามจะกลับมามีความหวังไหมนะ คนยิ้มยากกลายเป็นยิ้มง่าย เห็นแล้วหมั่นไส้ขึ้นมาตงิดๆ จนความหวานปนเลี่ยนมาหยุดลงที่หน้าบ้านเล็กๆ ในอาณาจักรของบ้านหลังใหญ่
ธามินลงมาจากรถแล้วแต่ยังส่งยิ้มหวานให้ทิชา ซาเมรารีบเดินไปที่ประตูบานใหญ่เพราะอยากเข้าไปในบ้านแทนสำลักน้ำตาลตายอยู่ตรงนี้
“เดี๋ยวพบกันนะคะธาม”
มีเพียงรอยยิ้มหวานๆ ของธามินเป็นคำตอบก่อนที่ทิชาจะขับรถไปจอดหน้าบ้านหลังใหญ่นั้น คนรับใช้เปิดประตูบ้านให้แขกของนายสาว ภายในบ้านมีห้องนอนห้องเดียวกับห้องน้ำและห้องรับแขก ซาเมรากอดอกมองธามสีหน้าบอกชัดว่ากำลังไม่พอใจที่เขาทำอะไรไม่ปรึกษากันก่อน
“ไว้ใจได้หรือนายธาม ทำแบบนี้คืออยากไปคืนดีแฟนเก่าหรือกำลังทำงานอยู่กันแน่”
“สำหรับตอนนี้ต้องทำเป็นไว้ใจ ทั้งๆ ที่ไม่ไว้ใจเลยครับ ผมไม่เคยเอาใจออกห่างจากหน้าที่แม้แต่ครั้งเดียว ไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ” ธามินตอบน้ำเสียงจริงจังเช่นเดียวกับใบหน้า
ซาเมราถอนใจโล่งอกอย่างนี้สิถึงจะเรียกว่าพวกเดียวกัน ความหงุดหงิดในใจของเธอพลันหายไปในพริบตาน่าประหลาดจริง ว่าแต่เวลาธามทำหวานใส่แฟนเก่าช่างเนียนตาเหลือเกิน ผู้ชายนิ่งๆ เวลาแสดงละครตบตาก็น่าสนใจเหมือนกัน
พบกันในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคมนี้ ถ้าว่างไปพบกันได้นะคะ บูท สนพ ทัช K01 โซนเพลนารีฮอลล์ บูท กรีนมายด์ 038 โซน C1
อัมราน_บรรพตี
บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ต.ค. 2558, 09:45:03 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ต.ค. 2558, 09:45:03 น.
จำนวนการเข้าชม : 1100
<< ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง |