ตราบาปสีชมพู โดย ลินิน
พรรษกร พรมพิทักษ์ ทายาทเพียงคนเดียวของมหาเศรษฐีหมื่นล้านที่ซ่อนความเย็นชา ร้ายกาจไว้ภายใต้รูปลักษณ์ที่หล่อเหลา เขาผู้ไม่เคยมีสายตาไว้แล กังสดาลสาวน้อยที่หลงรักเขาหมดหัวใจ แต่วันหนึ่งเมื่อหัวใจเริ่มเอนเอียง หล่อนกลับก้าวขึ้นมาในฐานะ ‘ผู้หญิงที่พ่อรัก’ ด้วยความแค้นใจลาพิศจึงตัดสินใจหันหลังให้ครอบครัวนานถึงสี่ปีและวันนี้เมื่อเขากลับมาอีกครั้งในฐานะนักธุรกิจหนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์ผู้ก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งทางธุรกิจของบิดา เขากลับมาเพื่อทวงคืนทุกอย่างกลับมา และหล่อนเป็นคนแรกที่เขาจะจัดการชำระแค้น ตีตราบาปให้จดจำ
กังสดาล หญิงสาวช่างฝันที่เคยมองโลกในแง่ดี โลกสีชมพูของเธอเปลี่ยนไปเมื่อต้องกลายมาเป็นผู้หญิงของ พรรษกรชายคนเดียวที่เธอรัก เขาสร้างตราบาปให้กับเธอแล้วทิ้งเพียงข้อเสนอ เป็นนางบำเรอของเขาเพื่อแลกกับบ้านอันเป็นความทรงจำเกี่ยวกับแม่สิ่งเดียวที่เธอเหลืออยู่ ซ้ำยังพาผู้หญิงคนอื่นเข้ามาอยู่ในบ้านร่วมกับเธอ สายใยบางๆ สุดท้ายจึงขาดสะบั้นลง เธอตัดสินใจหันหลังให้กับเขาชั่วชีวิตพร้อมกับลูกน้อยในครรภ์ แต่ไม่คิดมาก่อนว่าวันหนึ่งนั้น มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อผู้เย่อหยิ่งจะต้องเป็นฝ่ายยอมสิโรราบให้กับผู้หญิงที่เขาเคยบอกว่าจะไม่มีวันชายตาแล
กังสดาล หญิงสาวช่างฝันที่เคยมองโลกในแง่ดี โลกสีชมพูของเธอเปลี่ยนไปเมื่อต้องกลายมาเป็นผู้หญิงของ พรรษกรชายคนเดียวที่เธอรัก เขาสร้างตราบาปให้กับเธอแล้วทิ้งเพียงข้อเสนอ เป็นนางบำเรอของเขาเพื่อแลกกับบ้านอันเป็นความทรงจำเกี่ยวกับแม่สิ่งเดียวที่เธอเหลืออยู่ ซ้ำยังพาผู้หญิงคนอื่นเข้ามาอยู่ในบ้านร่วมกับเธอ สายใยบางๆ สุดท้ายจึงขาดสะบั้นลง เธอตัดสินใจหันหลังให้กับเขาชั่วชีวิตพร้อมกับลูกน้อยในครรภ์ แต่ไม่คิดมาก่อนว่าวันหนึ่งนั้น มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อผู้เย่อหยิ่งจะต้องเป็นฝ่ายยอมสิโรราบให้กับผู้หญิงที่เขาเคยบอกว่าจะไม่มีวันชายตาแล
Tags: ลินิน ละครช่อง 3
ตอน: อัพเพิ่ม
“ฉันไม่รับ”
หญิงสาวทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้กับน้ำเสียงที่ดุดันนั้น เธอน่าจะรู้ว่าไม่ควรยุ่งกับเขาอีก กี่ปีมาแล้วที่เธอทำเค้กวันเกิดให้ แต่พรรษกรไม่เคยรับและเธอก็พบว่าหากมันไม่อยู่ในถังขยะก็จะกลายเป็นอาหาร ‘เจ้าดั๊ม’ สุนัขพันธ์บูลด็อก ตัวโปรดของเขา ว่าจะไม่ทำให้แล้วแต่ก็อดไม่ได้อยู่ดี
มือแกร่งบีบปากเธอไว้แน่น กังสดาลตื่นตระหนกเมื่อปากได้รูปสวยเหมือนผู้หญิงชิดเข้ามาอีก และเมื่อเธออ้าปากเพื่อทักท้วงมันก็แนบสนิท แรงบดเบียดจากที่แผ่วเบาเหมือนคนทำเองก็ไม่แน่ใจว่าควรทำดีหรือไม่แต่พักเดียวก็แปรเปลี่ยนเป็นความรุนแรงหนักหน่วง
หญิงสาวเบิกตากว้างขึ้น มือกำและยกขึ้นมาหมายจะทุบไปบนตัวคนที่กระทำการลงโทษเกินกว่าเหตุแต่ก็ไม่กล้าจึงได้แต่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่อย่างนั้น
แรงบดขยี้รุนแรงขึ้นในทุกวินาทีที่ผ่านไป สมองคนที่เพิ่งโดนจูบแรกมึนงงไม่ต่างจากคนเมา ขาเธออ่อนจนแทบยืนไม่อยู่ มือจึงเลื่อนมาเกี่ยวไหล่เขาเอาไว้ ลิ้นร้อนร้ายที่เกี่ยวกระหวัดมาบนลิ้นทำให้เธอต้องหลบลิ้นหนีด้วยความตกใจแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจูบของคนใจร้ายให้ความรู้สึกหวานล้ำจนเธอคิดว่าชาตินี้คงไม่มีทางลืมจูบนี้ไปได้แน่ๆ
ลิ้นที่หวานเหมือนคาราเมลเกี่ยวมาบนลิ้นเธอได้อีกครั้ง คราวนี้เธอเผลอไผลเกี่ยวลิ้นตอบอย่างไม่ตั้งใจ ลมหายใจตีสะดุดเหมือนถูกหินหลายสิบตันทับทรวงอกให้หายใจไม่ออก
ชายหนุ่มบดกายแกร่งเข้าไปหาอีก จูบลงโทษของเขาหนักหน่วงเร่าร้อน ตอนแรกเพียงแค่ขู่ให้แม่คนจุ้นจ้านกลัวจนไม่กล้ายุ่งกับเขาอีกแต่กลับเป็นว่าเขาเองที่หยุดไม่ได้ จูบไร้เดียงสาที่เขาไม่ได้ลิ้มรสบ่อยๆ มันทำให้เขาใช้เวลาลงโทษเธอนานกว่าที่ควรจะเป็น ฝ่ามือร้อนที่แตะมาบนแผ่นหลังของเธอเลื่อนเข้ามาในชายเสื้อแล้วเคลื่อนมาถึงทรวงอก และนั่นช่วยฉุดรั้งสติของสาวน้อยกังสดาลให้ตื่นจากฝัน
หญิงสาวยกมือมาผลักเขาออกห่าง ใบหน้าแดงก่ำสลับซีดเหมือนคนป่วยหนัก หอบหายใจแรงในขณะที่ชายหนุ่มยืนเฉย แรงผลักจากคนแรงเท่ามดแค่ทำให้ตัวเขาขยับออกจากเธอไปเล็กน้อยเท่านั้น เธอยกมือขึ้นมาถูปากตัวเอง ไม่ใช่รังเกียจแต่มันคือความรู้สึกตื่นตระหนกมากกว่า
“รังเกียจหรือไง” เขาย้อนถาม มือล้วงไปในกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทางสบายๆ ราวกับว่าเมื่อครู่นี้เขาไม่ได้กำลังลวนลามเธออยู่
“เปล่าคะ”
“งั้นก็ชอบ”
“ไม่ค่ะ กิ๋วไม่ได้ชอบแบบนี้” กังสดาลรีบปฏิเสธ แต่เมื่อสายตาคมดุมองมาก็หลบตาอีก เธอไม่เคยกล้ามองนัยน์ตาดุดันคู่นั้นตรงๆ ได้เลย แม้กระทั่งตอนที่ได้เจอเขาครั้งแรกเมื่อตอนเขาอายุสิบสามปี
พรรษกรแสยะยิ้ม ขยับมาใกล้ในขณะที่สาวน้อยผู้สูญเสียจูบแรกไปถอยหนี น้ำตาเริ่มคลอ ตอนนี้จากที่เคยกลัวเขามากอยู่แล้วเพิ่มระดับความกลัวเข้าไปอีก
“แต่เธอจูบตอบฉันนี่” เขาหัวเราะขึ้น ยื่นมือมาจับไหล่เธอตรึงไว้ทำให้เธอตัวสั่นขึ้นมาอีก เบือนหน้าหนีแล้วหลับตา ได้ยินเสียงหัวเราะห้าวๆ นั้นดังขึ้นแล้วผลักเธอที่หลับตาอยู่จนเซไปแล้วกล่าวสำทับ “ฉันไม่คิดพิศวาสกาฝากอย่างเธอ ออกไปได้แล้วและอย่าเข้ามายุ่มย่ามในห้องของฉันอีก อ้อ…เอาเค้กห่วยๆ ของเธอออกไปด้วย และหวังว่าปีนี้จะเป็นปีสุดท้ายที่เห็นมัน”
น้ำตาที่เพียงคลอเอ่อในคราวแรกร่วงเผาะ หัวใจเจ็บเหมือนถูกใครเหยียบให้จมดิน เธอวิ่งไปหยิบกล่องเค้กแล้ววิ่งร้องไห้ออกไปจากห้องนั้น เสียงเอะอะทำให้ศักดินัยที่เพิ่งกลับจากบริษัทหลักทรัพย์ที่ตัวเองเป็นเจ้าของอยู่ตกใจที่เห็นกังสดาลวิ่งร้องไห้สวนออกไป
“หนูกิ๋ว” เขาเรียกไว้แต่หญิงสาวไม่ยอมหยุด ใบหน้าเขาเคร่งขึ้นแล้วสาวเท้าไปหยุดหน้าห้องลูกชายตัวดี เคาะแรงๆ หลายครั้งกว่าที่ประตูจะเปิดออก
“มีอะไรครับพ่อ ผมกำลังจะอาบน้ำ”
“แกทำอะไรกิ๋ว”
“เขาฟ้องพ่อว่ายังไงละครับ” ชายหนุ่มไม่ตอบแต่เป็นฝ่ายย้อนถาม ตัวพิงกับขอบประตูด้วยท่าทางยียวนชวนให้คนมองหมั่นไส้
“ก็เพราะเขาไม่ได้ฟ้องฉันถึงต้องมาถามแก”
“ก็ไม่มีอะไร” เจ้าของห้องยักไหล่ “แค่ไล่ไปให้พ้นจากชีวิต พ่อก็รู้ว่าลูกเลี้ยงของพ่อชอบจุ้นจ้านกับชีวิตผม ไอ้เค้กนั่นก็เหมือนกัน ไม่อยากได้ก็ยังทำมาอยู่ได้”
“น้องมันหวังดี เห็นว่าวันนี้เป็นวันเกิดแก แทนที่จะขอบคุณกลับไปว่าน้อง แกก็เป็นเสียแบบนี้”
“ผมไม่เคยรับผู้หญิงคนนั้นเป็นน้อง”
แววตาคนฟังวูบไหว ครู่สั้นๆ ก็กลับมาเป็นปกติ “แกรังเกียจอะไรกิ๋วนักหนา เขาก็ไม่เคยทำอะไรให้แกเลย ตรงข้ามทั้งเคารพ ทั้งกลัวแกอย่างกับอะไรดี”
“เพราะเขาเป็นลูกของผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงที่พ่อรักมากกว่าแม่” พรรษกรมองสบเข้าไปในตาของบิดา “หรือพ่อจะเถียงว่าไม่จริง”
“ใช่ ฉันรักบุญณิสาและจนถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังรัก”
“และนั่นก็มากพอที่ไม่ว่าจะอย่างไรผมก็จะเกลียดกังสดาล ถ้าพ่อยังอยากให้เขาอยู่ที่นี่อย่างสงบ บอกให้เขาอยู่ห่างๆ ผู้ชายอย่างผมไว้ เพราะผม…” พรรษกรแสยะยิ้มร้ายอย่างที่ทำให้คนเป็นพ่อรู้สึกหวาดหวั่น “ไม่รับรองความปลอดภัยแม้แต่เปอร์เซ็นเดียว”
“แกจะทำอะไรน้อง”
พรรษกรหัวเราะลั่นห้องแล้วปิดประตู ไม่ยอมตอบคำถาม ใบหน้าของเขายังบึ้งตึง ยกมือมาถูปากตัวเองแล้วยิ้มออกมาอย่างสะใจ คงเข็ดไปอีกนาน
สมน้ำหน้า!
หญิงสาวทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้กับน้ำเสียงที่ดุดันนั้น เธอน่าจะรู้ว่าไม่ควรยุ่งกับเขาอีก กี่ปีมาแล้วที่เธอทำเค้กวันเกิดให้ แต่พรรษกรไม่เคยรับและเธอก็พบว่าหากมันไม่อยู่ในถังขยะก็จะกลายเป็นอาหาร ‘เจ้าดั๊ม’ สุนัขพันธ์บูลด็อก ตัวโปรดของเขา ว่าจะไม่ทำให้แล้วแต่ก็อดไม่ได้อยู่ดี
มือแกร่งบีบปากเธอไว้แน่น กังสดาลตื่นตระหนกเมื่อปากได้รูปสวยเหมือนผู้หญิงชิดเข้ามาอีก และเมื่อเธออ้าปากเพื่อทักท้วงมันก็แนบสนิท แรงบดเบียดจากที่แผ่วเบาเหมือนคนทำเองก็ไม่แน่ใจว่าควรทำดีหรือไม่แต่พักเดียวก็แปรเปลี่ยนเป็นความรุนแรงหนักหน่วง
หญิงสาวเบิกตากว้างขึ้น มือกำและยกขึ้นมาหมายจะทุบไปบนตัวคนที่กระทำการลงโทษเกินกว่าเหตุแต่ก็ไม่กล้าจึงได้แต่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่อย่างนั้น
แรงบดขยี้รุนแรงขึ้นในทุกวินาทีที่ผ่านไป สมองคนที่เพิ่งโดนจูบแรกมึนงงไม่ต่างจากคนเมา ขาเธออ่อนจนแทบยืนไม่อยู่ มือจึงเลื่อนมาเกี่ยวไหล่เขาเอาไว้ ลิ้นร้อนร้ายที่เกี่ยวกระหวัดมาบนลิ้นทำให้เธอต้องหลบลิ้นหนีด้วยความตกใจแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจูบของคนใจร้ายให้ความรู้สึกหวานล้ำจนเธอคิดว่าชาตินี้คงไม่มีทางลืมจูบนี้ไปได้แน่ๆ
ลิ้นที่หวานเหมือนคาราเมลเกี่ยวมาบนลิ้นเธอได้อีกครั้ง คราวนี้เธอเผลอไผลเกี่ยวลิ้นตอบอย่างไม่ตั้งใจ ลมหายใจตีสะดุดเหมือนถูกหินหลายสิบตันทับทรวงอกให้หายใจไม่ออก
ชายหนุ่มบดกายแกร่งเข้าไปหาอีก จูบลงโทษของเขาหนักหน่วงเร่าร้อน ตอนแรกเพียงแค่ขู่ให้แม่คนจุ้นจ้านกลัวจนไม่กล้ายุ่งกับเขาอีกแต่กลับเป็นว่าเขาเองที่หยุดไม่ได้ จูบไร้เดียงสาที่เขาไม่ได้ลิ้มรสบ่อยๆ มันทำให้เขาใช้เวลาลงโทษเธอนานกว่าที่ควรจะเป็น ฝ่ามือร้อนที่แตะมาบนแผ่นหลังของเธอเลื่อนเข้ามาในชายเสื้อแล้วเคลื่อนมาถึงทรวงอก และนั่นช่วยฉุดรั้งสติของสาวน้อยกังสดาลให้ตื่นจากฝัน
หญิงสาวยกมือมาผลักเขาออกห่าง ใบหน้าแดงก่ำสลับซีดเหมือนคนป่วยหนัก หอบหายใจแรงในขณะที่ชายหนุ่มยืนเฉย แรงผลักจากคนแรงเท่ามดแค่ทำให้ตัวเขาขยับออกจากเธอไปเล็กน้อยเท่านั้น เธอยกมือขึ้นมาถูปากตัวเอง ไม่ใช่รังเกียจแต่มันคือความรู้สึกตื่นตระหนกมากกว่า
“รังเกียจหรือไง” เขาย้อนถาม มือล้วงไปในกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทางสบายๆ ราวกับว่าเมื่อครู่นี้เขาไม่ได้กำลังลวนลามเธออยู่
“เปล่าคะ”
“งั้นก็ชอบ”
“ไม่ค่ะ กิ๋วไม่ได้ชอบแบบนี้” กังสดาลรีบปฏิเสธ แต่เมื่อสายตาคมดุมองมาก็หลบตาอีก เธอไม่เคยกล้ามองนัยน์ตาดุดันคู่นั้นตรงๆ ได้เลย แม้กระทั่งตอนที่ได้เจอเขาครั้งแรกเมื่อตอนเขาอายุสิบสามปี
พรรษกรแสยะยิ้ม ขยับมาใกล้ในขณะที่สาวน้อยผู้สูญเสียจูบแรกไปถอยหนี น้ำตาเริ่มคลอ ตอนนี้จากที่เคยกลัวเขามากอยู่แล้วเพิ่มระดับความกลัวเข้าไปอีก
“แต่เธอจูบตอบฉันนี่” เขาหัวเราะขึ้น ยื่นมือมาจับไหล่เธอตรึงไว้ทำให้เธอตัวสั่นขึ้นมาอีก เบือนหน้าหนีแล้วหลับตา ได้ยินเสียงหัวเราะห้าวๆ นั้นดังขึ้นแล้วผลักเธอที่หลับตาอยู่จนเซไปแล้วกล่าวสำทับ “ฉันไม่คิดพิศวาสกาฝากอย่างเธอ ออกไปได้แล้วและอย่าเข้ามายุ่มย่ามในห้องของฉันอีก อ้อ…เอาเค้กห่วยๆ ของเธอออกไปด้วย และหวังว่าปีนี้จะเป็นปีสุดท้ายที่เห็นมัน”
น้ำตาที่เพียงคลอเอ่อในคราวแรกร่วงเผาะ หัวใจเจ็บเหมือนถูกใครเหยียบให้จมดิน เธอวิ่งไปหยิบกล่องเค้กแล้ววิ่งร้องไห้ออกไปจากห้องนั้น เสียงเอะอะทำให้ศักดินัยที่เพิ่งกลับจากบริษัทหลักทรัพย์ที่ตัวเองเป็นเจ้าของอยู่ตกใจที่เห็นกังสดาลวิ่งร้องไห้สวนออกไป
“หนูกิ๋ว” เขาเรียกไว้แต่หญิงสาวไม่ยอมหยุด ใบหน้าเขาเคร่งขึ้นแล้วสาวเท้าไปหยุดหน้าห้องลูกชายตัวดี เคาะแรงๆ หลายครั้งกว่าที่ประตูจะเปิดออก
“มีอะไรครับพ่อ ผมกำลังจะอาบน้ำ”
“แกทำอะไรกิ๋ว”
“เขาฟ้องพ่อว่ายังไงละครับ” ชายหนุ่มไม่ตอบแต่เป็นฝ่ายย้อนถาม ตัวพิงกับขอบประตูด้วยท่าทางยียวนชวนให้คนมองหมั่นไส้
“ก็เพราะเขาไม่ได้ฟ้องฉันถึงต้องมาถามแก”
“ก็ไม่มีอะไร” เจ้าของห้องยักไหล่ “แค่ไล่ไปให้พ้นจากชีวิต พ่อก็รู้ว่าลูกเลี้ยงของพ่อชอบจุ้นจ้านกับชีวิตผม ไอ้เค้กนั่นก็เหมือนกัน ไม่อยากได้ก็ยังทำมาอยู่ได้”
“น้องมันหวังดี เห็นว่าวันนี้เป็นวันเกิดแก แทนที่จะขอบคุณกลับไปว่าน้อง แกก็เป็นเสียแบบนี้”
“ผมไม่เคยรับผู้หญิงคนนั้นเป็นน้อง”
แววตาคนฟังวูบไหว ครู่สั้นๆ ก็กลับมาเป็นปกติ “แกรังเกียจอะไรกิ๋วนักหนา เขาก็ไม่เคยทำอะไรให้แกเลย ตรงข้ามทั้งเคารพ ทั้งกลัวแกอย่างกับอะไรดี”
“เพราะเขาเป็นลูกของผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงที่พ่อรักมากกว่าแม่” พรรษกรมองสบเข้าไปในตาของบิดา “หรือพ่อจะเถียงว่าไม่จริง”
“ใช่ ฉันรักบุญณิสาและจนถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังรัก”
“และนั่นก็มากพอที่ไม่ว่าจะอย่างไรผมก็จะเกลียดกังสดาล ถ้าพ่อยังอยากให้เขาอยู่ที่นี่อย่างสงบ บอกให้เขาอยู่ห่างๆ ผู้ชายอย่างผมไว้ เพราะผม…” พรรษกรแสยะยิ้มร้ายอย่างที่ทำให้คนเป็นพ่อรู้สึกหวาดหวั่น “ไม่รับรองความปลอดภัยแม้แต่เปอร์เซ็นเดียว”
“แกจะทำอะไรน้อง”
พรรษกรหัวเราะลั่นห้องแล้วปิดประตู ไม่ยอมตอบคำถาม ใบหน้าของเขายังบึ้งตึง ยกมือมาถูปากตัวเองแล้วยิ้มออกมาอย่างสะใจ คงเข็ดไปอีกนาน
สมน้ำหน้า!
สาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ต.ค. 2558, 21:08:25 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ต.ค. 2558, 21:08:25 น.
จำนวนการเข้าชม : 771
<< อัพเพิ่ม | วันวาน 100% >> |