เทพบุตรหัวใจเถื่อน
เมื่อการทำตัวเป็นสุภาพบุรุษที่แสนดี ทำให้เขาต้องผิดหวังในรัก เทพบุตรอย่างเขาจึงได้ฝังตัวตนในอดีตให้ตายไปกับรักครั้งแรก ในเมื่อผู้หญิงชอบคนเถื่อน ดิบ เขาก็จะทั้งดิบ ทั้งเถื่อน ไม่สนว่าจะทำร้ายหัวใจใครให้เจ็บปวดแค่ไหน...จนกระทั่งมาพบกับล่ามสาวแสนซื่อ หัวใจที่ถูกฝังไปแล้วกลับเริ่มสูบฉีด เต้นเป็นจังหวะอีกครั้ง...


Tags: เทพบุตรหัวใจเถื่อน ลัลลดา /ลดา

ตอน: ตอนที่ 16...ใจหาย...



บทที่ 16...ใจหาย...



ญี่ปุ่น – โรงพยาบาลในเครือตระกูลมัสซึยาม่า



“ จะแห่มากันทำไมทุกวัน ฉันยังไม่ใกล้ตายสักหน่อย ”



มัสซึยาม่า เคนอิจิโร่ ประมุขของตระกูลมัสซึยาม่าบ่นอย่างไม่จริงจังนักที่ภายในห้องพักพื้นพิเศษของตนเต็มไปด้วยคนมาเยี่ยมไข้ ทั้งลูกชายสองคน บิดามารดาของลูกสะไภ้คนเล็ก และหลานชายสุดที่รัก ส่วนไอรดาลูกสะไภ้คนเล็กนั้นไม่ได้มาเพราะเพิ่งคลอดลูกชายคนที่สองได้ยังไม่ถึงเดือนดี



“อ้าว คุณนี่ พวกเราอุตส่าห์เป็นห่วงกลัวเหงาก่อนตาย เอ้ย กลัวเหงาอยู่โรงพยาบาลกันสองคน” คุณอิทธิพลที่กลายเป็นคู่กัดเพราะเกิดเหตุจากการแย่งหลานรักกันตอบกลับ ทำให้คนป่วยบนเตียงอยากจะลุกไปไล่เตะนัก...ถ้าสังขารอำนวยล่ะก็นะ



“ถ้าให้ถึงทีผมนะคุณอิทธิพล” เคนอิจิโร่พูดเสียงต่ำคาดโทษคู่กัด ก่อนจะหันไปทางเด็กชายเรียวหลานชายสุดที่รักที่นั่งอยู่บนตักของคุณยายอนงค์ที่โซฟาใกล้ ๆ “เรียวมาหาปู่มาลูก...” เด็กชายเรียววัยสองขวบกว่าก็ว่าง่าย ลุกขึ้นจากตักยายเดินเข้าไปหาก่อนจะพยายามปีนขึ้นไปบนเตียงแต่ขึ้นไม่ได้เพราะขาสั้น คุณพ่อที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ จึงช่วยอุ้มขึ้นไปนั่งอยู่ข้าง ๆ คุณปู่บนเตียง



“ทำเป็นเก่งนะเจ้าอ้วน” คิเคียวหยอกลูกชายพลางดึงแก้มอย่างหมั่นเขี้ยว



“นี่เจ้าเคียว!! อย่ามาดึงแก้มหลานฉันนะ เดี๋ยวแก้มยืดหมด” คุณปู่ปัดมือลูกชายออกก่อนจะดุข้อหาที่มาทำหลานชายสุดที่รัก คิเคียวหันไปสบตากับคิโยชิผู้เป็นพี่ชายก่อนจะยักไหล่ ส่ายหัวอย่างระอา



“แล้วนี่ทิ้งงานมาแบบนี้ไม่เป็นไรหรือคิโยชิ ไหนครั้งก่อนรีบกลับนักหนา ” เคนอิจิโร่ถามบุตรชายคนโตที่มาจากประเทศไทยเมื่อสองวันก่อน ส่วนมือก็ยกขึ้นลูบหัวหลานชายวัยสองขวบข้าง ๆ



“ครั้งก่อนที่รีบกลับไม่ใช่เรื่องงานหรอกครับพ่อ คิโยชิรีบกลับเพราะคิดถึงว่าที่ลูกสะไภ้คนโตของพ่อต่างหาก” แต่คนที่ตอบคำถามกลับเป็นคิเคียวบุตรชายคนเล็ก ที่ตอนนี้จากคนที่เงียบขรึมไม่สนใจคนรอบข้างมากนักเริ่มกลายเป็นคนพูดเยอะขึ้นตั้งแต่ที่มีภรรยาเป็นตัวเป็นตน



“หือ? จริงเรอะคิโยชิ ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” เคนอิจิโร่ถามอยากแปลกใจปนตื่นเต้นไม่น้อย เพราะปลงตกไปแล้วว่าชิวิตนี้คงจะไม่ได้อุ้มหลานจากบุตรชายคนโตเป็นแน่ “จะแต่งงานกันเมื่อไหร่คุยกันไว้หรือยัง เอางี้ ๆ เดี๋ยวไปไทยวันไหน จองตั๋วเครื่องบินให้พ่อด้วย...”



“ยังหรอกครับคุณพ่อ อย่าไปฟังเจ้าเคียวมันมาก ตอนนี้ผม...ยังไม่มีใคร” คิโยชิพูดขึ้นมาก่อนที่บิดาจะคิดไปไกล เพราะเขายังไม่รู้จะจัดการยังไงกับเรื่องนี้ดี



“อ้าว ตกลงยังไง” คนเป็นพ่อเริ่มงง พลางหันไปทางบุตรชายคนเล็กก็เห็นคิเคียวหันไปมองพี่ชายตั้งท่าจะพูดอะไรสักอย่างแต่สุดท้ายก็เงียบไป



“ไม่มีอะไรหรอกครับคุณพ่อ เคียวมันเข้าใจผิดน่ะ” คิโยชิย้ำให้รู้อีกครั้ง



“งั้นเหรอ นี่ปู่ก็ดีใจเก้อล่ะสิเนอะเจ้าเรียว” เมื่อเห็นบุตรชายไม่อยากจะเอ่ยถึงก็ไม่คิดจะถาม หันไปพูดกับหลานชายที่นั่งมองคนนั้นคนนี้คุยกันตาแป๋วแทน แต่ภายในในกำลังคิดว่าจะต้องหาทางสืบเรื่องราวต่อไปให้รู้ให้ได้



“เก้อ ๆ “ เด็กชายเรียววัยกำลังหัดพูดเรียนคำพูดของคุณปู่ไปหัวเราะไป เรียกเสียงหัวเราะและความเอ็นดูจากผู้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี ก่อนที่คุณตาอิทธิพลจะเข้ามาอุ้มลงจากเตียงพาไปนั่งด้วยกันที่โซฟา และก็ได้รับเสียงเอะอะจากคุณปูเคนอิจิโร่ทันที



“อะไรกัน ๆ หลานนั่งอยู่กับผมดี ๆ คุณจะมาอุ้มไปทำไมน่ะคุณอิทธิพล” คุณปู่ว่าออกไป ส่วนคุณตาก็ส่งสายตาเป็นต่อมาให้



“ก็ผมกลัวเจ้าเรียวจะเผลอเอามือเอาเท้าไปโดนแผลคุณเข้าน่ะสิ นี่ผมเป็นห่วงนะ” ศึกแย่งชิงหลานรักของคุณปู่คุณตาทำท่าจะเริ่มขึ้นอีกเป็รครั้งที่ล้านตั้งแต่เด็กชายเรียวลืมตาดูโลก จนคุณยายอนงค์ต้องมาห้ามทัพไว้ตามหน้าที่ที่เคยทำตลอด



“เรียวมาอยู่กับยายดีกว่าลูก เดี๋ยวเรากลับบ้านไปหาแม่ไอกับน้องริวดีกว่าเนอะ เบื่อคนทะเลาะกัน” คิเคียวสนับสนุนคำพูดของแม่ยายทันทีเพราะกำลังนึกอยากจะกลับไปหาภรรยากับลูกน้อยวัยไม่ถึงเดือนที่รออยู่ที่บ้านเหมือนกัน เพราะเมื่อคืนเขาอยู่ที่โรงพยาบาลกับบิดาและพี่ชาย



“เดี๋ยวก็ได้เวลานัดเอกซเรย์กับคุณหมอแล้ว ผมกลับไปหาไอกับเจ้าริวก่อนแล้วกันนะพ่อแล้วเย็น ๆ จะมาอีกที...แล้วพี่ล่ะ จะกลับไปที่บ้านพร้อมกับไหมหรือจะไปบริษัท แต่กลับบ้านก่อนก็ดีนะฉันมีเรื่องจะคุยกับพี่หน่อย” พูดกับบิดาเสร็จก็หันไปถามพี่ชายที่นั่งนิ่งเหมือนคิดอะไรอยู่



“อืม ยังไงก็ได้ กลับบ้านก่อนก็ดีเหมือนกันยังไม่ได้เจอไอจังกับเจ้าตัวเล็กเลย” เพราะตั้งแต่มาถึงญี่ปุ่นเขาก็ตรงดิ่งมาเยี่ยมบิดาเลย จากนั้นก็กลับไปพักที่แมนชั่นที่อยู่ประจำเลยยังไม่ได้เห็นหน้าตาหลานชายอีกคนที่เพิ่งคลอด



“งั้นก็กลับกัน แต่ให้เจอแต่เจ้าริวนะส่วนไอกำลังอยู่ในช่วงพักฟื้น งดเยี่ยมงดคุย” คนหวงเมียบอกก่อนจะเอ่ยลาบิดาและหันไปชวนลูกชายกลับบ้าน “เจอกับตอนเย็นนะครับพ่อ ไปเรียวชวนคุณตาคุณยายกลับบ้านกัน”



เด็กชายเรียวที่หน้าตาถอดแบบผู้เป็นพ่อมาราวกับฝาแฝดก็ทำตามอย่างว่าง่าย ลงจากตักยายอนงค์ ยกมือขึ้นบ๊ายบายคุณปู่เคนอิจิโร่ จากนั้นเดินเข้าไปหาคุณตาอิทธิพลจูงมือพาเดินเตาะแตะ ๆ ตามบิดาไป



“พักผ่อนเยอะ ๆ นะครับคุณพ่อ เดี๋ยวเย็น ๆ ผมมาอีกที” คิโยชิกล่าวลาเป็นคนสุดท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องไป แต่ก็หยุดชะงักกับคำพูดของบิดาเสียก่อน



“เดี๋ยวคิโยชิ” เคนอิจิโร่เอ่ยเรียกบุตรชายไว้เมื่อคิโยชิหันมาจึงพูดต่อ “มีเรื่องอะไรก็อย่าเก็บไว้คนเดียว ปรึกษาพ่อปรึกษาน้องบ้างก็ได้ พ่ออยากเห็นแกยิ้มได้หัวเราะได้เหมือนเมื่อสี่ห้าวันก่อน” คนเป็นพ่อที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่ยังแบเบาะมีหรือจะไม่รู้ว่าบุตรชายคนโตของตนกำลังมีปัญหาในใจ เพียงแต่เขายังไม่รู้เท่านั้นว่าเรื่องอะไร แต่ก็คงจะเกี่ยวกับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ที่บุตรชายคนรองแซวเมื่อกี้ไม่มากก็น้อย



เมื่อไม่กี่วันก่อนที่คิโยชิกลับมาญี่ปุ่น เขาก็นึกดีใจที่เห็นรอยยิ้มและสีหน้าที่ดูมีความสุขของบุตรชายคนโตหลังจากที่ไม่ได้เห็นมานานหลายปี แต่พอมาตอนนี้ใบหน้าไร้ความสุขกลับมาหาบุตรชายของเขาอีกครั้ง มันทำให้เขานึกเป็นห่วง



“ขอบคุณครับพ่อ ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงครับ...ถ้าผมพร้อมแล้วผมจะเล่าให้ฟัง” นึกต่อว่าตัวเองที่คงจะแสดงท่าทางทำให้บิดาเป็นห่วง เอ่ยขอโทษก่อนจะเดินออกจากห้องไป



++++++++++



“เป็นไงบ้างครับไอจัง ท้องนี้คลอกลำบากไหมครับ” น้ำเสียงอ่อนโยนของคิโยชิเอ่ยถามน้องสะไภ้ ผู้หญิงที่ครั้งหนึ่งเขาเคยรักสุดหัวใจ



หลังจากที่คิเคียวอนุญาติให้เข้ามาเยี่ยมได้ แต่คนอนุญาติก็ไปนั่งเบียดภรรยาอยู่บนโซฟาเดียวกันนั่นแหละ โดยในอ้อมกอดของคุณแม่ลูกสองมีร่างเล็ก ๆ ของสมาชิกใหม่นอนหลับตาพริ้มอยู่ ส่วนเด็กชายเรียวพี่ชายถูกคุณตาคุณยายพาแวะกินไอศครีม ตอนนี้เลยยังมาไม่ถึงบ้าน



คิโยชิมองภาพหวานชื่น ครอบครัวแสนสุขตรงหน้าอย่างไม่เจ็บปวดอีกต่อไป ไม่มีแม้แต่สักนิดเหมือนทุกครั้งที่เขาจะรู้สึกแปลบ ๆ ที่หัวใจเสมอยามเห็นน้องชายกับน้องสะไภ้อยู่ด้วยกัน เพราะตอนนี้ในหัวใจของเขาเป็ฯของผู้หญิงอีกคน...แพรพรรณรายณ์



“สวัสดีค่ะคุณคิโยชิ ท้องนี้ไม่ลำบากเหมือนท้องแรกค่ะ สบาย ๆ คงเพราะมีประสบการณ์มาแล้วด้วยล่ะค่ะ” ไอรดาทักทายตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะแซวเรื่องที่ได้ยินมาจากสามีก่อนหน้านี้ว่าคิโยชิกำลังมีความรัก “ไอนึกว่าคราวนี้จะพาสาวน้อยผู้โชคดีคนนั้นมาด้วยเสียอีก อุตส่าห์เตรียมตัวต้อนรับว่าที่พี่สะไภ้เสียดิบดี”



คิโยชิฝืนยิ้มส่งให้ เพราะเมื่อถูกถามถึงใบหน้าหวานของแพรพรรณรายณ์ก็ผุดขึ้นมาในห้วงความคิดถึงทันที...อยากคุยอยากเจอแต่โทรไปทีไรคุโดก็บอกว่าแพรพรรณรายณ์ไม่อยากคุยกับเขา



“ไว้คราวหน้าผมจะพามาให้รู้จักครับ” ถ้าเป็นไปได้ คิโยชิคิดต่อในใจ



“เห็นเคียวเล่าให้ฟังว่า คุณคนนั้นสวยหวานมากเลย เธอชื่ออะไรเหรอคะ ไออยากเจอจังเลย”



“แหม อยากจะขอดูรูปเค้าก็บอกมาเถอะ” คิเคียวพูดอย่างรู้ทัน จนได้รับค้อนเป็นรางวัลจากภรรยาสุดที่รักวงโต



“เดี๋ยวผมขอคุยธุระกับพี่หน่อยนะ คุณพาลูกไปนอนก่อนเถอะ แล้วคุณนอนพักไปพร้อมลูกเลยก็ได้เมื่อคืนก็ไม่ค่อยได้นอนนี่” คุณพ่อลูกสองบอกพร้อมกับใช้นิ้วชี้เขี่ย ๆ แก้มของลูกชายคนเล็กเบา ๆ



เด็กชายริวลูกชายคนที่สองของเขาหน้าตาออกไปทางไอรดามากกว่า ใบหน้าหวานคล้ายเด็กผู้หญิงผิดกับเด็กชายเรียวที่ได้เขามาเต็ม ๆ



“ก็ได้ค่ะ” รับคำเสียงหวานก่อนจะหันไปพูดกับพี่ชายสามี จากนั้นจึงลุกขึ้นพาลูกชายกลับไปพักผ่อน “ไอดีใจกับคุณคิโยชิจริง ๆ นะคะ คราวหน้าต้องพามาแนะนำให้ไอรู้จักให้ได้นะคะ”



“ครับ ไอจังพักผ่อนเยอะ ๆ นะครับ เดี๋ยววันหลังผมมาเยี่ยมใหม่”



“พอ ๆๆ จะร่ำลากับอีกนานไหมฮะ นี่เมียฉันนะ” คิเคียวแกล้งพูดเสียงเข้มแต่มุมปากกับยกยิ้ม มองตามหลังภรรยาคนสวยที่อุ้มลุกเดินออกไปจนลับตา จากนั้นก็หันมาพูดกับพี่ชาย “ไปคุยกันที่ห้องทำงานดีกว่า ไปเถอะ”



“มีเรื่องอะไรเป็นความลับหรือไง” คิโยชิถามอย่างสงสัย แต่คิเคียวไม่ตอบ ทำเพียงแค่ยักไหล่แล้วลุกเดินนำออกไป ทำให้คนเป็นพี่ชายต้องลุกเดินตามออกไป





“จะไม่เล่าให้ฟังหน่อยเหรอว่ามีเรื่องอะไรถึงได้ทำหน้าตาไม่สบอารมณ์อย่างนี้ อาทิตย์ก่อนยังเห็นทำตัวเหมือนคนมีความรักอยู่เลย”



คิเคียวเปิดประเด็นขึ้นเมื่อพาพี่ชายมานั่งในห้องทำงานส่วนตัว เขาคิดว่าตอนนี้พี่ชายเขาคงกำลังมีปัญหาหัวใจอยู่แน่ ๆ และเชื่อว่าจะต้องเกี่ยวข้องกับหญิงสาวที่เห็นในโทรศัพย์ของพี่ชายเขาอย่างแน่นอน



คิโยชิถอนหายในหนัก ๆ เมื่อได้ยินคำถามจากน้องชาย เขารู้ว่าคิเคียวคงไม่ปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปแน่ ถ้าเขาไม่เล่าให้ฟังน้องชายเขาก็คงจะหาทางสืบเสาะเอาจนได้ และมันก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับประมุขแห่งคิริว คนที่มีอำนาจและอิทธิพลที่สุดเหนือยากุซ่าทุกกลุ่มทุกคนของเกาะญี่ปุ่น แต่ปัญหาคือเขาไม่รู้จะเริ่มต้นบอกเล่ายังไงดีนี่สิ



“ตกลงธุระที่ว่านี่คืออยากรู้เรื่องของฉันว่างั้นเถอะ”



“ไม่ได้อยากรู้ แค่เป็นห่วง...แล้วตกลงว่าไง เป็นอะไร” เร่งทั้ง ๆ ที่บอกว่าไม่อยากจะรู้



“ฉันไม่รู้จะเริ่มยังไง” คิโยชิบอกออกไปตามตรง “ก่อนหน้านี้ฉันเคยคิดว่าจะจริงจังกับผู้หญิงคนหนึ่ง คนที่นายเคยเห็นรูปในโทรศัพย์นั่นแหละ...ฉันชอบเธอ ชอบมาก จนคิดว่ามันคงจะกลายเป็นความรักได้ไม่ยาก แต่เธอกลับทรยศฉัน กลับไปหาคนรักเก่า ฉันคิดจะเลิกยุ่งกับเธออีกต่อไปแต่ฉันทำไม่ได้ ฉันตัดใจจากเธอไม่ได้จนต้อง...ใช้วิธีกักขังเธอไม่ให้ได้พบเจอกับใคร ทำกับเธอเหมือนนักโทษ...นายว่าฉันทำเกินไปหรือเปล่า” ถาม ทั้ง ๆ ที่รู้คำตอบดีว่าสิ่งที่ทำกับแพรพรรณรายณ์มันมากเกินไป



ก่อนจะตัดสินใจเล่าเรื่องราวระหว่างตัวเองกับแพรพรรณรายณ์ให้น้องชายฟัง ทุกสิ่งทุกอย่าง เริ่มตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันไปจนกระทั่งคบกัน และสุดท้ายสิ่งที่เขาทำกับเธอก่อนที่จะมาญี่ปุ่น



“กักขัง ? นี่พี่ทำถึงขนาดนั้นเลยเหรอคิโยชิ” คิเคียวถามอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าพี่ชายที่เคยอ่อนโยนเป็นสุภาพบุรุษจะเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ ซึ่งส่วนหนึ่งของความเปลี่ยนแปลงนี้ก็มาจากเขาที่เป็นต้นเหตุ



“ฉันตัดสินใจแทนพี่ไม่ได้หรอกว่าอะไรคือมากเกินไปหรือน้อยเกินไป เพราะฉันไม่รู้ว่าเธอคนนั้นเป็นอย่างที่พี่พูดมาจริงหรือเปล่า พี่เห็นกับตาเหรอว่าเธอทรยศพี่ รูปภาพกับวิดีโอมันเป็นอะไรที่ตัดต่อขึ้นมากันได้ แล้วอีกอย่างพี่มั่นใจได้ยังไงว่าคนที่บอกว่าเป็นผู้หวังดีมันหวังดีกับพี่จริง ๆ หรือเปล่า”



บอกไปตามที่ตัวเองคิด เพราะเรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนจะให้มาบอกว่าผิดถูกมันคงไม่ได้ มันขึ้นกับว่าความรู้สึกของคนคนนั้นในขณะนั้นมากกว่า และถ้าเป็นตัวเขาเองไม่แน่เขาอาจจะทำเหมือนที่พี่ชายทำอยู่ก็ได้



“พี่น่าจะถามและลองฟังคำอธิบายจากคุณแพรเธอก่อนจะดีกว่า แต่ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอยังอยากจะอธิบายให้พี่ฟังอยู่หรือเปล่านะ เพราะถ้าเธอมีใจให้พี่ตอนนี้เธอคงหัวใจสลายไปตั้งแต่ที่เห็นพี่ยุ่งกับผู้หญิงอีกคนต่อหน้าต่อตาแล้วล่ะ...ถามจริง ๆ เหอะพี่ทำไปได้ยังไงกันน่ะไอ้วิธีประชดประชันแบบนั้นน่ะ” ทำอย่างนั้นมันยิ่งจะทำให้เรื่องมันแย่ลงน่ะสิ...คิเคียวคิดต่อในใจ



“ไม่รู้สิ แค่อยากจะทำให้เธอเห็นว่าฉันไม่ได้สนใจเธออีก แล้วก็อยากจะรู้ว่าผู้หญิงคนอื่นจะทำให้ฉันเลิกเห็นเธอสำคัญได้หรือเปล่า”



“แล้วมันได้ผลหรือเปล่าล่ะ” ถามอย่างที่พอจะเดาคำตอบได้

“ได้...ทั้งรู้ว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนจะมาแทนที่แพรพรรณรายณ์ได้ และเจ็บปวดที่เห็นน้ำตาของเธอ” และเขาถึงได้รู้ว่าการกระทำของตัวเองมันโง่เง่าสิ้นดี “นายคิดว่าฉันโง่มากใช่ไหม” ถามเพื่อตอกย้ำตัวเองอีกรอบ



“เออ โง่” พอเห็นสายตาของพี่ชายที่มองมาทันทีที่เขาตอบก็ยักไหล่ก่อนจะพูดต่อ “ก็พูดความจริง หรือพี่จะเถียงล่ะ...ฉันว่าพี่รีบกลับไปคุยกับคุณแพรให้รู้เรื่องเถอะ ปล่อยไว้นานไม่ใช่แค่พี่ที่เจ็บคุณแพรเองเธอก็คงกำลังผิดหวังเสียใจในตัวพี่มากเหมือนกัน และถ้าเรื่องไอ้คนรักเก่าอะไรนั่นเป็นการเข้าใจผิดล่ะก็ คนที่ผิดเต็ม ๆ ก็คือพี่”



“แล้วถ้ามันเป็นเรื่องจริงล่ะ” อดถามไม่ได้ แม้ว่าในใจจะเริ่มเห็นด้วยกับคำพูดของน้องชาย เมื่อได้ฟังเหตุผลและข้อสังเกตุที่เขาไม่ทันได้คิด



“แล้วพี่รักคุณแพรแค่ไหนล่ะ” ถามไปแต่ก็ไม่คิดจะรอฟังคำตอบ กลับพูดขึ้นต่อ “เพราะถ้าแค่ชอบมาก ๆ อยากที่บอกเมื่อกี้ซึ่งฉันคิดว่าพี่โกหกเพราะถ้าแค่ชอบพี่คงจะไม่ประชดประชันขนาดนั้นหรอก แต่ถ้าพี่ยืนยันว่าแค่ชอบจริง ๆ ก็ปล่อยเธอไปซะ ตรงกันข้ามถ้าพี่รักเธอก็จะแคร์อะไรในเมื่อตอนนี้เธอเป็นของพี่ แล้วเท่าที่คบกันมาพี่ไม่รู้เลยเหรอว่าผู้หญิงของตัวเองมีนิสัยยังไง เธอดูเป็นผู้หญิงมั่วที่ยอมมีสัมพันธ์กับผู้ชายพร้อม ๆ กันสองคนหรือไง”



ยิ่งพูดคิเคียวก็เริ่มจะหงุดหงิดคนเป็นพี่ชาย ที่ดูเหมือนจะกลายเป็นหนุ่มน้อยริรักไม่เข้าใจเรื่องความรักไปเสียอย่างนั้น แล้วเขาก็ใช่จะมีประสบการณ์มากมายอะไร เกิดมาก็มีความรักกับแม่ของลูกแค่คนเดียว



“ขอบใจมากเคียว งั้นไปหาคุณพ่อกันเถอะเย็นนี้ฉันจะไปกรุงเทพ” ตัดสินใจปุ๊บปั๊บจนคนเป็นน้องชายตามไม่ทัน คิเคียวบ่นทันทีที่ฟังจบ



“ไอ้ที่บอกให้รีบน่ะไม่ได้หมายถึงปุ๊บปั๊บขนาดนี้ก็ได้ สักพรุ่งนี้หรือมะรืนก็ได้ คุณแพรเธอไม่หายไปไหนหรอกน่าพี่บอกเองไม่ใช่เหรอว่าขังเธอไว้ที่ห้องน่ะ ไม่แน่ฉันอาจจะไปด้วย อยากเห็นตัวจริงของว่าที่พี่สะไภ้แล้วก็คู่หมั้นของคุโดด้วย” คิด ๆ ไปก็ขำไม่น้อยที่ทั้งเจ้านายกับลูกน้องต่างก็ไปหลงเสน่ห์สาวไทยพร้อม ๆ กัน แถมยังเป็นพี่น้องกันอีก อย่างนี้อีกหน่อยถ้าสองคู่นี้แต่งงานเมียเขาคงจะได้มีเพื่อนคุยภาษาเดียวกัน



“นายจะไปทำไมเดี๋ยวฉันก็พามาให้ดูดีแล้ว” พอตัดสินใจได้ก็ไม่อยากจะรออีกต่อไป อีกอย่างเขารู้สึกสังหรณ์ใจแปลก ๆ เหมือนจะไม่ได้เจอแพรพรรณรายณ์อีก



“เออน่า รออีกวันสองวันไม่ตายหรอก ระหว่างนี้ก็คิดหาวิธีพูดปรับความเข้าใจไปก่อน เออ ลองเช็คตัวตนผู้หวังดีสักหน่อยก็ดีนะเผื่อจะได้รู้ว่ามันหวังดีหรือหวังร้ายกันแน่” บอกออกไปเมื่อถึงขึ้นได้ และคิโยชิก็เห็นด้วยเขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าผู้หวังดีคนนั้นเป็นใคร



เมื่อคิดได้ดังนั้นการสืบเสาะเช็คหาที่มาของอีเมลปริศนาก็เริ่มขึ้น โดยเริ่มต้นจากการเช็คไอพีว่ามามาจากที่ไหน จากนั้นมันก็ไม่ยากที่ฝ่ายไอทีของกลุ่มธุรกิจใหญ่โตอย่างมัสซึยาม่ากรุ๊ปจะหาตัวตนของเจ้าของไอพีนั้น



++++++++++



มาอีกแล้ว ไอ้ตัวต้นเหตุ



วาดจันทร์หันไปมองสบตากับคู่หมั้นหนุ่มก่อนจะเม้มปากอย่างไม่ชอบใจ เมื่อเห็นร่างสูงของหนุ่มไทยเชื้อสายจีนเดินตรงเข้ามาหาทันทีที่เห็นหน้าเธอ



วันนี้วันที่สี่แล้วที่อนุวัฒน์มาตามตื้อเธอ ที่ต้องบอกว่าตามตื้อเธอเพราะมันเป็นแบบนั้นจริง ๆ ทั้งเช้าทั้งเย็นเป็นได้ต้องเจอร่างสูงอดีตคนรักของน้องสาวมานั่งรอยืนรออยู่ที่ล๊อบบี้โรงแรมที่เธอทำงานอยู่ จนคนอื่น ๆ คงจะคิดว่าอนุวัฒน์มาตามจีบเทียวไล้เทียวชื่อเธอเป็นแน่ถ้าไม่มีคุโดอยู่ด้วยทุกครั้ง



สาเหตุที่อนุวัฒน์มาหาเธอก็ไม่ใช่เรื่องอะไรนอกจากเรื่องของแพรพรรณรายณ์น้องสาวเธอ ที่ตอนนี้เธอกับคุโดรู้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว เรื่องที่เป็นสาเหตุให้ท่านประทานเข้าใจน้องสาวเธอผิดและโกรธเกรี้ยวจนถึงกับกักขังไม่ให้ออกไปเจอผู้คน



สายตาของสาวอวบที่มองอนุวัฒน์จึงเต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตร และเมื่อชายหนุ่มเดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าวาดจันทร์ก็พูดอย่างไม่ไว้หน้า



“มาทำไมอีกคะ ไม่ว่าจะวันไหน ๆ คำตอบของพี่ก็เหมือนเดิมคือ ‘ ไม่รู้ ’ “



“พี่วาดครับ ขอร้องล่ะผมอยากเจอแพรจริง ๆ ผม...”



อนุวัฒน์อ้อนวอนอย่างเช่นหลายวันที่ผ่านมา ตอนนี้เขารู้สึกผิด เสียใจ ตั้งแต่ที่เขาทำไม่ดีกับแพรพรรณรายณ์เมื่อหลายวันก่อน วันนั้นหลังจากที่แพรพรรณรายณ์ตบหน้าและมองเขาด้วยสายตาผิดหวัง มันทำให้เขาได้คิดและรู้ว่าตัวเองเลวแค่ไหนที่คิดจะใช้วิธีสกปรกแบบนั้นเพื่อดึงเธอกลับมา และเขาเพิ่งรู้ว่าตัวเองทนไม่ได้และเจ็บปวดยิ่งกว่ากับสายตาของเธอ



วันรุ่งขึ้นเขาก็เฝ้าคอยมาดักรอพบเธอเพื่อขอโทษ แต่ก็ไม่พบไม่ว่าจะเป็นที่นี่โรงแรมที่แพรพรรณรายณ์ทำงานอยู่หรือที่คอนโดของวาดจันทร์ เขาก็ไม่พบหญิงสาวเลย แกล้งโทรเข้ามาสอบถามก็ได้รับคำตอบว่าแพรพรรณรายณ์ลาออกไปแล้ว โทรถามคนที่เขาร่วมมือกับเธอสร้างสถานการณ์เพื่อสร้างความเข้าใจผิดให้แพรพรรณรายณ์กับผู้ชายคนนั้นก็ติดต่อไม่ได้ สุดท้ายเลยต้องตามตื้อขอความเห็นใจจากวาดจันทร์พี่สาวของผู้หญิงที่เขารัก



แต่วาดจันทร์นอกจากจะไม่บอกแล้วยังด่าว่าเขาทันทีที่เห็นหน้าในวันแรกที่เขามาพบ วาดจันทร์ทั้งด่าเรื่องที่เขาล่วงเกินแพรพรรณรายณ์และต่อว่าถึงเรื่องที่เขาทำให้แพรพรรณรายณ์ต้องผิดใจกับคนรัก รวมถึงข่มขู่ให้เขาเลิกวุ่นวายกับเธอ



“ถามจริง ๆ นะคุณวัฒน์นอกจากที่คุณทำเลว ๆ กับน้องสาวพี่แล้วเนี่ยคุณทำอะไรนอกเหนือจากนั้นอีก ทำไมคุณคิโยชิถึงได้พูดเหมือนเห็นการกระทำเลว ๆ ของคุณ” วาดจันทร์คาดคั้นถามอย่างที่เคยถามทุกครั้งที่อนุวัฒน์มาดักเจอ



“ผม...” อนุวัฒน์อ้ำอึ้ง เขาไม่รู้จะบอกอย่างไรดี “ผมรู้ว่าผมผิด ผมมันเลวที่ทำให้แพรเดือดร้อน แต่เชื่อเถอะครับว่าตอนนี้ผมสำนึกแล้ว...ผมยินดีจะไปอธิบายให้ผู้ชายคนนั้นฟังกับเรื่องที่เกิดขึ้น”



ตอนนี้เขายอมรับแล้วว่าแพรพรรณรายณ์ไม่ได้มีหัวใจให้เขาอีกต่อไป แม้จะยังทำใจไม่ได้ก็ตาม



“มันสายไปแล้วล่ะค่ะ ก่อนทำทำไมคุณไม่คิด มาคิดเสียใจเอาตอนที่ทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อนเสียใจตอนนี้สิ่งที่คุณควรจะทำคือออกไปให้ไกลจากชีวิตของน้องสาวพี่ และก็ไม่ต้องมาตามพี่อีกเพราะคุณไม่มีวันได้เจอยัยแพร อย่ามาดักเจอพี่ที่นี่หรือที่คอนโดอีกเพราะต่อไปพี่จะไม่ห้ามแฟนพี่อีกถ้าเขาจะทำอะไรคุณ”



“ผมยอมครับ พี่วาดจะทำอะไรผมก็ได้ ขอแค่ให้โอกาสผมได้พบกับแพรอีกสักครั้ง ผมสัญญาว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย และจากนั้นผมจะไม่ยุ่งวุ่ยวายกับแพรอีก ผมสัญญาจริง ๆ “ น้ำเสียงที่รู้สึกผิดไม่ได้ทำให้คนฟังเห็นใจสักนิด วาดจันทร์ไม่คิดจะช่วยเหลือหนุ่มรุ่นน้องตรงหน้า เพราะนอกจากที่เธอจะไม่พอใจที่เขาทำไม่ดีกับน้องสาวเธอแล้วแพรพรรณรายณ์ยังห้ามเด็ดขาดไม่ให้เธอบอกหรือเล่าอะไรให้อนุวัฒน์ฟัง



“อย่าเสียเวลาอีกเลยคุณวัฒน์ ยังไงยัยแพรก็ไม่ยอมพบคุณหรอก พี่ขอตัวนะ” พูดจบสาวอวบก็หมุนตัวเดินหันหลังออกไปทันที



อนุวัฒน์ทำท่าจะก้าวตามแต่ก็ถูกมือแกร่งของคุโดยกขึ้นมาจับไหล่ไว้เสียก่อน หนุ่มญี่ปุ่นที่ยืนนิ่งอยู่นานเอ่ยขึ้นพร้อมกับสายตาเย็นเยียบ



“อย่าให้ผมต้องทำอะไรรุนแรงกับคุณ เลิกยุ่งกับผู้หญิงของเจ้านายผมซะ” มือหนาผลักไหล่ของอนุวัฒน์ที่แม้จะมีความสูงไล่เรี่ยกันแต่ก็โปร่งบางกว่าทำให้อนุวัฒน์เซไปข้างหลังหลายก้าว จากนั้นคุโดก็เดินตามคู่หมั้นสาวออกไป



เมื่อไม่ได้รับความช่วยเหลือ อนุวัฒน์ก็เหลือทางเลือกอีกทางเดียว เขาเดินตรงไปที่ประชาสัมพันธ์ของโรงแรม จากนั้นจึงบอกความประสงค์ว่าขอพบกับเอวิตา หากแต่คำตอบที่ได้รับก็ทำให้เขาผิดหวังอีกจนได้ เมื่อฝ่ายประชาสัมพันธ์แจ้งมาว่าเอวิตาลาป่วยไม่มีกำหนด อนุวัฒน์จึงเดินกลับไปที่รถอย่างหมดหวัง



ถ้าย้อนเวลาไปได้ เขาจะไม่หลงเชื่อคำพูดของคนที่ไม่รู้จักอย่างเอวิตาเด็ดขาด ตอนนี้มาคิดดูแล้วถ้าแพรพรรณรายณ์กับผู้ชายคนนั้นผิดใจกันจริง ๆ คนที่ได้ประโยชน์ที่สุดก็คงจะมีแต่เอวิตาเท่านั้น



ส่วนเขาก็ถูกผู้หญิงที่ตัวเองรักเกลียดจนไม่อยากจะเห็นหน้า ตอนนี้ความหวังอันน้อยนิดของเขาที่จะได้แพรพรรณรายณ์กลับมาเคียงข้าง ก็คงจะดับมอดไปหมดแล้วจริง ๆ



เหลือเพียงความหวังที่ว่าเธอจะยอมให้อภัย ไม่เกลียดเขาโกรธเขาในสิ่งที่ทำลงไปเท่านั้น



++++++++++



“ วาดอยากไปหายัยแพรจังเลยคุณคุโด แต่ก็กลัวอนุวัฒน์จะสะกดรอยตามไป ”



เมื่อขึ้นมาบนห้องของคุโดแล้ววาดจันทร์ก็พูดบ่นออกมาอย่างที่คิด ตอนนี้เธอได้แต่โทรคุยกับน้องสาวเท่านั้นเพราะไม่กล้าไปหาตามที่ได้รับปากกับแพรพรรณรายณ์ไว้ น้องสาวเธออยากอยู่เงียบ ๆ ไม่อยากให้ใครไปวุ่นวายโดยเฉพาะอดีตคนรักอย่างอนุวัฒน์ ดังนั้นตอนนี้เธอทำได้อย่างเดียวคือบ่นกับคู่หมั้นเพื่อระบายความเป็นห่วงที่มีต่อน้องเท่านั้น



ยังดีที่แพรพรรณรายณ์ยอมทำตามความขอร้องของเธอ ที่เธอขอให้ไปอยู่ในที่ที่มั่นใจว่าน้องสาวเธอจะปลอดภัยและมีคนดูแล ไม่งั้นถ้าแพรพรรณรายณ์ดื้อดึงจะไปอยู่ในที่ที่ไม่เคยไปหรือไม่มีคนรู้จักล่ะก็ เธอคงห่วงน้องจนไม่เป็นอันทำอะไรเป็นแน่



“คุณก็พูดเหมือนในหนังไปได้ อยากจะไปก็ไปสิครับ หมอนั่นคงไม่ทำถึงขนาดนั้นหรอกมั้ง” คุณโดนึกขำกับความกังวลของสาวคนรัก แต่พอนึกไปถึงใครอีกคนความหนักใจก็วิ่งเข้าหาทันที “...แต่ถ้าเป็นคุณคิโยชิก็ไม่แน่”



ใช่...ถ้าเป็นเจ้านายเขาล่ะก้อ ทำได้ทุกอย่างนั่นแหละ



“อีกไม่กี่วันคุณคิโยชิก็จะกลับมาแล้ว ผมยังนึกไม่ออกเลยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณคิโยชิรู้ว่าคุณแพรหนีไปแล้ว” บอกออกมาอย่างหนักใจ ทุกวันนี้เวลาเจ้านายเขาโทรมาถามถึงแพรพรรณรายณ์ เขาก็ต้องโกหกไปว่าเธอสบายดีแค่ไม่ยอมคุยโทรศัพย์กับเจ้านายเขาเท่านั้น



แล้วถ้าคุณคิโยชิกลับมาเขาจะตอบว่ายังไงล่ะเนี่ย จะบอกความจริงแม่ทูนหัวที่นั่งข้าง ๆ นี่ก็จะปาดคอเอา จะโกหกก็กลัวไม่เนียนเพราะการโกหกไม่ใช่นิสัยของเขา



“บอกไว้ก่อนเลยนะ ถ้าคุณหลุดปากบอกที่อยู่ยัยแพรให้เจ้านายคุณรู้ล่ะก็ เราเลิกกัน!! “ คำขู่ทำเอาคนฟังสะดุ้งรีบตอบรับเอาใจทันที



“ไม่หลุดแน่นอนครับคุณวาด คุณอย่าเอาเรื่องของเรามาขู่กันอย่างนี้สิครับ” หนุ่มขี้อายที่ตอนนี้เริ่มหน้าหนาหน้าทนขึ้นมากแล้ว รีบกอดรัดพลางซบศรีษะกับไหล่มนอย่างออดอ้อน “ผมก็ไม่ชอบใจเหมือนกันที่คุณคิโยชิทำกับคุณแพรอย่างนั้น แต่คุณวาดต้องสัญญานะว่าถ้าคุณคิโยชิสำนึกแล้วเราจะช่วยให้สองคนนั่นดีกัน” สุดท้ายก็ยังห่วงความรู้สึกของคนเป็นเจ้านายอยู่ดี



“แล้วเจ้านายคุณเค้าจะสำนึกได้เหรอคะ” วาดจันทร์ถามอย่างไม่ชอบใจนัก เพราะภาพน้องสาวที่ร้องไห้ปานจะขาดใจยังติดตาอยู่ “ไม่ใช่ว่าจะกลับไปคบกับยัยล่ามดาวยั่วเอวิตานั่นหรอกเหรอ ถึงได้พากันมาฟาดฟันกันบนห้องที่มียัยแพรอยู่ด้วยน่ะ”



นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทีไรเธอก็อารมณ์จิ๊ดขึ้นมาทันที แล้วยิ่งมารู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างน้องสาวของเธอกับประธานหนุ่มลึกซึ้งกันแค่ไหนแล้วก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น



หนอย...ได้น้องสาวฉันแล้วทิ้ง มันน่าจับตอนนัก



“แล้วเรื่องนี้มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับวาดนะคะ มันแล้วแต่ยัยแพร ซึ่งวาดก็ไม่รู้น้องจะยังรักและต้องการเจ้านายคุณอยู่หรือเปล่า แต่ถ้าเป็นวาดเจออย่างนั้นวาดก็ไม่เอาแล้วล่ะผู้ชายเฮงซวยแบบนั้น หาเอาใหม่ดีกว่า แล้วตอนนี้วาดก็ชักอยากจะยุให้ยัยแพรมองคนใกล้ ๆ ตัวในเวลานี้แล้วสิ”



“อย่าเพิ่งคิดหรือทำอะไรเลยคุณวาด ความรู้สึกของคนสองคน เราไม่ควรเข้าไปยุ่งมาก ปล่อยให้เป็นไปตามทางที่มันควรจะเป็นเถอะครับ”



“ก็แค่พูดเผื่อไว้ แต่ยังไงวาดก็มั่นใจว่าอีกไม่นานยัยแพรต้องลืมและตัดเจ้านายของคุณออกไปจากใจได้แน่ คนเราถูกทำร้ายความรู้สึกขนาดนั้นไม่มีใครจะมาทนรักทนคิดถึงไปตลอดชีวิตหรอก และถ้ามีคนดี ๆ เข้ามาหาน้องวาดก็จะสนับสนุน และคุณ...” ยกนิ้วชี้ขึ้นชี้หน้าหนุ่มคนรัก ”ก็ห้ามแปรพรรค ต้องอยู่ข้างเดียวกับวาด เข้าใจมั๊ย”



คุโดจำต้องพยักหน้าเพราะไม่มีทางเลือกคำพูดของสาวคนรักทำให้เขาเริ่มหนักใจแทนเจ้านาย เพราะเขาคิดว่าสิ่งที่เจ้านายเขาทำกับแพรพรรณรายณ์ไปทั้งหมด เกิดจากความรัก ความหึงหวง และถ้าแพรพรรณรายณ์ไปมีใครใหม่เจ้านายเขาคงได้กลับกลายไปเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึกอีกเป็นแน่ เผลอ ๆ อาจจะร้ายแรงกว่าเดิมด้วยซ้ำ



แต่ตอนนี้ก่อนที่จะคิดไปไกลถึงขั้นนั้น เขาควรจะคิดหาคำพูดเรื่องการหายตัวไปของแพรพรรณรายณ์เตรียมไว้ก่อนที่เจ้านายเขาจะกลับมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้าให้ได้เสียก่อน



++++++++++



3 วันถัดมา – สนามบินสุวรรณภูมิ



“ ทำไมมาคนเดียวล่ะคุโด แล้วคู่หมั้นของนายไปไหน ”



คำถามถูกส่งมาจากชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่มีดวงตาคมกริบสีเทาควันบุหรี่ทันทีที่เจ้าของคำถามเจอหน้าคนสนิทของพี่ชาย หลังจากเดินออกมาทางช่องทางผู้โดยสารขาเข้า



“สวัสดีครับคุณคิเคียว เอ่อ คุณวาดเธอติดธุระนิดหน่อยน่ะครับเลยไม่ได้มาด้วย” คุโดทักทายเจ้านายอีกคนที่ไม่คิดว่าจะเจอ เขาไม่รู้มาก่อนว่า มัสซึยาม่า คิเคียว น้องชายของเจ้านายเขาจะมาด้วย ก่อนจะตอบคำถามเรื่องสาวคนรัก



ความจริงแล้ววาดจันทร์ไม่ได้ติดธุระอะไรหรอก ตอนนี้ก็คงนอนเล่นดูหนังดูละครอยู่ที่คอนโดนั่นแหละ แต่ที่ไม่มาด้วยก็เพราะยังโกรธเคืองเจ้านายของเขาอยู่ และก็เพื่อให้แผนการณ์คำโกหกของเขาไม่เป็นที่น่าสงสัย



“แล้วแพรล่ะ เป็นยังไงบ้าง” คิโยชิถามถึงคนที่เขาคิดถึงและอยากจะปรับความเข้าใจด้วยทันที ส่วนคุโดพอได้ยินคำถามก็อึก ๆ อัก ๆ



“เอ่อ ผมว่าไปที่รถกันเถอะครับ ตอนนี้รถติดมากกว่าจะถึงโรงแรมก็คงใช้เวลาเกือบชั่วโมง” แสร้งเปลี่ยนเรื่องเพราะยังไม่กล้าบอกเจ้านายเรื่องแพรพรรณรายณ์ตอนนี้...



เดี๋ยวสนามบินคงได้ลุกเป็นไฟถ้าคุณคิโยชิรู้ว่าคุณแพรหนีไปแล้ว



“นั่นสิ รีบไปเถอะฉันอยากจะพบว่าที่พี่สะไภ้ใจจะขาดแล้ว” คิเดียวเห็นด้วยทันทีเพราะอยากจะเจอหน้าคนที่ทำให้พี่ชายเขาจะเป็นจะตายเร่งวันเร่งคืนจะรีบมากรุงเทพ



ตอนแรกบิดาเขาก็ว่าจะมาด้วยกัน แต่มีนัดตรวจร่างกายอีกครั้งพรุ่งนี้และพี่ชายเขามันก็ไม่อยากจะรออีกต่อไป หลังจากที่ตรวจเช็คพบตัวผู้ประสงค์ดีที่ส่งอีเมลภาพถ่ายและคลิปวีดีโอมาให้แล้ว คิโยชิก็แทบจะไม่เป็นอันทำอะไรนอกจากเร่งวันเร่งคืนอยากจะมาขอโทษและปรับความเข้าใจกับสาวคนรัก เขาก็เลยเป็นตัวแทนบิดามาเก็บข้อมูลของว่าที่พี่สะไภ้กลับไป



“ครับ เอ่อ งั้นทางนี้ครับ” คุโดที่ใจเต้นระทึกนับเวลาถอยหลังขณะเดินนำเจ้านายทั้งสองออกไป





เกือบสี่สิบกว่านาทีหลังจากนั้น คุโดก็ขับรถคันหรูเข้ามาจอดหน้าโรงแรมนิปปอน โตเกียว สาขากรุงเทพ เมื่อสั่งให้พนักงานนำรถไปจอด คุโดก็เดินนำเจ้านายทั้งสองไปที่ลิฟท์ส่วนตัวเพื่อขึ้นไปชั้นบนสุดที่เป็นแพนท์เฮ้าส์ที่พักส่วนตัวของเจ้านายเขา



“ตอนนี้พี่ไปปรับความเข้าใจกับผู้หญิงของพี่ก่อนแล้วกัน ฉันจะไปพักที่ชั้นเดียวกับคุโดแล้วเดี๋ยวเย็น ๆ เจอกัน หวังว่าเวลาอีกหลายชั่วโมงคงจะเคลียร์กันได้นะ” คิเคียวเอ่ยบอกเมื่อคนทั้งสามเข้ามาอยู่ในลิฟท์



“ผมว่า...คุณเคียวขึ้นไปที่ห้องคุณคิโยชิก่อนดีกว่าครับ คือ...” คุโดเริ่มเหงื่อไหล โดยเฉพาะเมื่อเขาพูดจบสายตาคมกริบของสองพี่สองมัสซึยาม่าก็หันมาจ้องเขาพร้อมกัน



“มีอะไรคุโด” คิโยชิเริ่มสงสัยถึงความผิดปกติของคนสนิทที่มีมาตั้งแต่ที่สนามบิน ตาคู่คมหรี่ลงนิด ๆ ก่อนจะถามย้ำ “มีเรื่องอะไรที่ฉันต้องรู้ไหม” ถามเสียงเรียบ พร้อม ๆ กับที่ลิฟท์ขึ้นมาถึงชั้นแพนท์เฮ้าส์พอดี



จากนั้นทั้งสามก็ออกมายืนอยู่หน้าลิฟท์ ทั้งคิโยชิและคิเคียวหยุดยืนจ้องหน้าคุโดอย่างรอคำตอบโดยเฉพาะคิโยชิที่เริ่มรู้สึกใจเต้นระรัวแปลก ๆ



“จะตอบคำถามไหมคุโด หรือต้องให้ฉันกระตุ้น” น้ำเสียงที่เริ่มหงุดหงิดถามย้ำอีกครั้ง คิโยชิไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมใจเขาถึงได้รู้สึกสั่น ๆ วูบโหวงแปลก ๆ



“คือตอนนี้...คุณแพร...เอ่อ” คุโดกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเขายังไม่ทันพูดจบ ร่างสูงของท่านประธานหนุ่มก็พุ่งพรวดไปที่ประตูห้อง เสียบการ์ด กดระหัส และเปิดประตูเข้าไปอย่างรีบร้อน



“ตกลงมีปัญหาอะไรกันแน่คุโด” คิเคียวมองตามหลังพี่ชายที่พรวดพราดแทบจะเป็นกระโจนเข้าไปในห้องพัก ก่อนจะหันมามองสบตาคนสนิทของพี่ชายนิ่ง ๆ แล้วเอ่ยถามเสียงเรียบตามแบบฉบับ



“ก็ครับ มีปัญหานิดหน่อย เชิญคุณเคียวเข้าไปข้างในก่อนเถอะครับ”



คุโดตอบกลับพร้อมกับพยักหน้าให้คิเคียวก่อนที่คนทั้งสองจะพากันเดินตามเข้าไปในห้อง เมื่อเข้าไปถึงก็พอดีกับที่คิโยชิก้าวออกมาจากห้องทางขวามือที่เคยเป็นห้องของแพรพรรณรายณ์ ใบหน้าคมซีดเผือด ในมือกำบางอย่างไว้แน่น



“จะบอกได้หรือยังคุโด ว่าเกิดอะไรขึ้น” คิเคียวถามขึ้นเมื่อเห็นอาการของพี่ชาย เขาเดินเข้าไปหาร่างสูงของคิโยชิที่ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟากลางห้อง คิเคียวยื่นมือไปดึงกระดาษสีขาวกับสมุดบัญชีธนาคารในมือของคิโยชิขึ้นมาอ่าน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองสบตาคุโดอีกรอบอย่างต้องการคำตอบ



“ คุณแพรเธอ...ไปแล้วครับ ”



.................................................................................





++++++++++

27/7/2011


คนอ่านบอกว่าเอาคืนท่านประธานให้หนักเลยใช่ไหมค่ะ อิอิ

จะแค่ไหนก็รอลุ้นต่อไปเนอะ

^__^




ลัลลดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ก.ค. 2554, 18:18:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ก.ค. 2554, 18:18:30 น.

จำนวนการเข้าชม : 3599





   ตอนที่ 17...สายเกินไป >>
Auuuu 26 ก.ค. 2554, 18:49:33 น.
แอบสงสารเล็กๆ แต่ก็ต้องเอาคืนให้หนักๆไปเลย ไม่อย่างนั้นจะทำอีก


หญิงใหญ่ 26 ก.ค. 2554, 19:10:07 น.
อย่าลืมจัดหนักๆให้ยัยมารร้ายด้วยนะ...แค้นแทนน้องแพรอ่ะ


หญิงใหญ่ 26 ก.ค. 2554, 19:10:22 น.
อย่าลืมจัดหนักๆให้ยัยมารร้ายด้วยนะ...แค้นแทนน้องแพรอ่ะ


หนอนฮับ 26 ก.ค. 2554, 19:48:08 น.
เข้ามากรี๊ดดดดดดด...ด้วยคะ ต้องเอาให้หนักคะ
เฮ้อ...ตามอ่านตั้งแต่ตอนแระจนตาแฉะเลย อิอิ...


anOO 26 ก.ค. 2554, 20:33:27 น.
เอาให้หนัก แต่อย่าให้นานนักนะค่ะ
สงสารยัยแพรเค้า


xeve 26 ก.ค. 2554, 21:40:16 น.
จัดหนัก จัดเต็มไปเลย


april 27 ก.ค. 2554, 11:57:41 น.
เอาแบบสำนึกได้ และแนวง้อน่ารักน่านะค่ะ


atua 27 ก.ค. 2554, 12:17:26 น.
มาด่วนค่ะ ใจหายเหมือนชื่อตอนเลยอ่ะ


ปูสีน้ำเงิน 28 ก.ค. 2554, 02:20:53 น.
จัดให้ถูกใจค่ะ มันต้องแบบนี้แหละ
ควรจะได้รับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานใจซะบ้าน เพราะยัยแพรโดนมาเยอะแล้ว


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account