ดวงจิตสื่อรัก
Tags: ไม่ใช่แนวตบจูบเป็นเรื่องที่แต่งจากประสบการณ์เรื่องจิตวิญญาณ
ตอน: ตอนที่ 22
ตอนที่ 22
ทั้งสามคนมีสีหน้าตกใจระคนแปลกใจเมื่อเห็นสภาพปีเตอร์กับแขกไม่ได้รับเชิญอีกสองคน มาดามชาน
เดินเข้ามาหาก้องเกียรติ แล้วตบหน้าเขาฉาดใหญ่ กุมภารีบเข้าหาด้วยความเป็นห่วง สายตาจ้องมอง
มาดามชานอย่างเอาเรื่อง
“อะไรกันยะ มาดามอยู่ดีๆมาตบหน้าคุณก้อง มีสิทธิ์อะไร ดูสิหน้าคุณก้องแดงหมด ไม่เจ็บนะฮะคุณก้อง”
กุมภาลืมตัวออกอาการแต้วแตกให้เห็นเมื่อเห็นคนรักโดนทำร้าย
“สิทธิ์นะไม่มีหร็อก แต่อยากตบผู้ชายหน้าตัวเมียเล่น จะทำไม “ มาดามชานพูดจากวนประสาทดีแท้
ก้องเกียรติแค้นจัดมองหน้ามาดามชานอย่างเอาเรื่อง
“คุณปีเตอร์ ปล่อยให้ภรรยาคุณมาระรานผมได้ยังไง ถ้าคุณไม่กำหราบให้รู้จักคำว่ามารยาทบ้าง
ผมจะสั่งสอนผู้หญิงคนนี้แทนคุณเอง” ก้องเกียรติพาลเอากับปีเตอร์ที่หมดสภาพ มาดามชานหันไปมองหน้า
สามีและก้องเกียรติกับกุมภาอย่างสมเพช แต่ยังคงนิ่งเฉยปล่อยให้คนพวกนี้ออกฤทธิ์ให้เต็มที่ก่อน เธอหันไป
มองหน้าปฏิภาณแล้วยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นเขาทำตัวเหมือนคนดูมากกว่าจะโดดเข้ามาร่วมวงด้วย
“ว่าไงฮะคุณปีเตอร์ ปล่อยให้เมียคุณใช้อำนาจข่มขู่อย่างนี้ได้ไง” กุมภาบีบคั้นปีเตอร์อีกคนเมื่อเห็น
เขายังคงนิ่งเงียบไม่พูดอะไรสักคำ คนพวกนี้ยังไม่รู้ว่านางสิงห์ร้ายมากอิทธิพลแห่งเกาะฮ่องกงเริ่มแสดงอำนาจ
ให้ประจักษ์แล้วหลังจากที่ปลีกตัวห่างหายไปจากวงการปล่อยให้สามีเล่นบทสิงห์หนุ่มมานาน โดยยอมเป็น
ผู้ตามแต่อิทธิพลก็ไม่เคยลดลงไปแม้แต่น้อย
“อั้มแม่ว่าเลิกไปหวังคุณปีเตอร์เถอะ ดูสภาพเขาตอนนี้ซิ หน้าแตกยับอย่างนี้จะไปช่วยอะไรใครได้
แม่ขอสั่งสอนแทนเอง” ว่าแล้วอรสาก็เดินเข้าไปหามาดามชานกับปฏิภาณที่ยืนมองนางด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“พวกคุณมาทำอะไรที่นี่ แล้วมายุ่งเรื่องส่วนตัวของคนอื่นทำไม เธอละ เป็นใครมิทราบ ผู้หญิงใจกล้า
บ้าบิ่นมาทำร้ายผู้ชายถึงที่นี่ หรือว่าร่วมมือกับชายชู้ลูกสาวฉันถึงคิดมาป่วน” อรสาพูดโดยที่ไม่รู้อะไรสักอย่าง
แต่กลับหัวปักหัวปำเข้าข้างคนผิดเพราะความลำเอียงในหัวใจเป็นทุนเดิม
มาดามชานยิ้มอย่างสมเพชหญิงสูงวัยคนนี้ “ฉันก็เป็นภรรยานายปีเตอร์ ชายเจ้าชู้ติดอันดับแห่งเกาะ
ฮ่องกง คุณคงเป็นแม่ผู้หญิงเคราะห์ร้ายคนนี้สินะ ฉันเกิดมายังไม่เคยเห็นแม่คนไหนใจร้ายเท่าคุณมาก่อนเลย
นะคุณนาย ช่วยคนอื่นย่ำยีลูกสาวตัวเอง รู้มั้ยคุณนาย ถ้าสามีฉันทำสำเร็จ ผลจะเป็นอย่างไรกับลูกสาวคุณ
เขาก็จะกดขี่ข่มแหงรังแกเอาแต่ได้จนเขาเบื่อก็เขี่ยทิ้งโดยไม่แยแส เขาไม่เคยรักใครจริงหรอก แต่เขาไม่กล้ากับ
ฉันแน่ เพราะอะไรรู้มั้ยถ้าไม่รู้ฉันจะบอกให้เอาบุญจะได้หายโง่เสียที คนที่เป็นประธานผู้ถือหุ้นใหญ่ตัวจริงคือ
ฉัน ส่วนปีเตอร์เป็นแค่คนทำงานให้ฉันเท่านั้น เขาไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเซ็นสัญญาใดๆด้วยซ้ำถ้าฉันไม่อนุญาต
คิดว่าเรื่องนี้เขาคงไม่บอกพวกคุณมั้ง รู้เรื่องแล้วพอจะฉลาดขึ้นมั้ยคะคุณนาย หรือยังโง่เหมือนเดิม ถ้าอย่างนั้น
ฉันจะให้เขาสารภาพเอง” มาดามชานเดินเข้าไปหาสามีมองหน้าที่แตกยับแล้วยิ้มให้อย่างน่ากลัว
“ไงคะที่รัก เจ็บมากมั้ยคะ บอกแล้วอย่าไปยุ่งกับผู้หญิงคนนี้ก็ไม่เชื่อเจ้าของตัวจริงเขาหวง ถ้าคุณยัง
อยากอยู่ในตำแหน่งสามีฉันอยู่ละก็...ช่วยบอกความจริงให้คุณนายคนนี้รู้ที จะได้มีสำนึกของความเป็นแม่ขึ้น
มาบ้าง เลิกใช้ลูกสาวเป็นตัวช่วยลูกชายลูกเขยเลวๆเสียที” ที่สุดมาดามชานก็แสดงให้ทุกคนประจักษ์ถึงความ
ร้ายกาจที่ไม่มีใครคิดถึง
ปีเตอร์แค้นจัดจนไม่รู้จะเอ่ยเป็นคำพูดอะไรออกมา วันนี้เขาหมดสิ้นอำนาจและอาจถูกผู้คนหัวเราะเยาะ
ด้วยเพราะเมียตัวแสบลุกขึ้นมายึดอำนาจคืน ไม่เป็นไรจำยอมไปก่อนแล้วค่อยหาทางแก้ทีหลัง
“ใช่ ผมแค่คิดอยากได้คุณวิวมาฟัดให้หายอยากเท่านั้น พอเบื่อก็เขี่ยทิ้ง ผมไม่ใช่คนต้นคิดเรื่องนี้
แค่บอกความต้องการให้คุณก้องเกียรติรู้ ทีแรกคิดว่าเขาจะโกรธแต่ผมคิดผิด เขากับน้องชายคุณวิวเต็มใจประ
เคนคุณวิวให้ผมเพื่อให้ผมพอใจโดยหลอกใช้แม่หน้าโง่ของกุมภาให้เป็นคนบังคับคุณวิว แต่คุณวิวก็รอดทุกครั้ง
มันน่าเจ็บใจนัก คืนนี้คิดว่าจะสมหวังเพราะแม่มาคุมเอง ก็รอดอีกจนได้ ผมยอมรับว่าแปลกใจมากที่แม่แท้ๆ
ไม่คิดปกป้องลูกแต่กลับส่งเธอมาให้ผมย่ำยี ตอนนี้เข้าใจแล้วทำไมคุณวิวถึงได้เจ็บช้ำนักที่มีแม่อย่างคุณ สมควร
แล้วที่ถูกเมียผมด่า ผมขอเตือนนะครับคุณนาย ลูกชายคุณไม่เห็นใครสำคัญเท่าสามีเขาหรอก ถ้าคุณยังไม่สำนึก
สักวันคุณจะกลายเป็นคนแก่ที่ถูกทอดทิ้งอย่างเดียวดายและเจ็บปวดเพราะลูกชายที่คุณรักอย่างไม่ลืมหูลืมตา”
ทุกคนพากันตกตะลึงกับคำพูดของปีเตอร์ไม่คิดว่าเขาจะกล้าสารภาพและยังเตือนสติคนเป็นแม่อย่าง
อรสาอีกด้วย ก้องเกียรติกับกุมภาจ้องมองเขาอย่างแค้นจัดเพียงเพื่อเอาตัวรอด ถึงกับยอมสารภาพหมดเปลือก
มาดามชานยิ้มอย่างสะใจ
“ทำดีมากค่ะที่รัก เราไปกันเถอะ เรื่องของเราต้องกลับไปสะสางที่ฮ่องกง เรื่องของคนที่นี่ปล่อยให้เขา
สะสางกันเอง ขอตัวก่อนนะคะคุณปฏิภาณ” มาดามชานเอ่ยลาก่อนเดินจากห้องไปโดยไม่เหลียวมามองสามี
สักนิดปล่อยให้ปีเตอร์เดินตามหลังไปทั้งที่ยังเจ็บอยู่
อรสาหน้าซีดเผือดอย่างคิดไม่ถึง สองสามีภรรยาจงใจด่าว่านางโดยตรง เป็นไปไม่ได้ที่จะถูกกุมภาทอด
ทิ้ง นางเลี้ยงดูลูกคนนี้มาตลอดให้ความรัก ความเอาใจใส่ ดูแลอย่างดี มีปัญหาอะไรก็ช่วยแก้ให้แม้กระทั่งทำ
ร้ายบุตรสาวที่นางไม่เคยคิดว่าเป็นลูก เพราะไม่ได้เลี้ยงมาแค่ทำหน้าที่อุ้มท้องมาเท่านั้น จึงไม่รู้สึกผูกพันกับนิศา
ชลนัก อีกอย่างในความรู้สึกของนางนิศาชลเป็นลูกคนอื่นมากกว่า แต่สายใยระหว่างแม่กับลูกก็มิอาจตัดขาด
เสียทีเดียว แม้ไม่รักไม่ผูกพันเท่ากุมภา คำด่าทอของมาดามชานกับปีเตอร์มันช่างเจ็บแสบนัก นางผิดด้วยหรือที่
ทำทุกอย่างเพื่อลูก คิดถึงตอนนี้ นางก็เริ่มสะดุด ใช่เพื่อลูกชายคนเดียว ไม่เคยทำเพื่อลูกสาวเลย มีแต่จะผลัก
ใสให้ชีวิตลูกสาวตกต่ำ
ถ้าไม่เป็นเพราะมีคนอื่นคอยช่วยเหลือป่านนี้นิศลคง...นี่นางทำอะไรลงไป นางเลวจริงๆลูกสาวจำยอม
ทำตามที่นางขอร้องทุกอย่างแม้กระทั่งยอมสละความสุขชั่วชีวิตโดยยอมแต่งงานบังหน้าเพื่อให้กุมภาได้ครองคู่
กับคนรัก นางทำเพื่อลูกชายมากมาย เขาจะเป็นอย่างที่สองคนนี้กล่าวหาหรือเป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่มีกุมภาแล้วนางจะ
ฝากชีวิตไว้กับใคร นิศาชลคงไม่คิดจะดูแลนางเพราะนางทำกับเธอไว้มาก นางเชื่อกุมภาไม่มีวันทอดทิ้งนางแน่
เพราะมีกันสองคนแม่ลูกมานานเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะถูกทอดทิ้ง แม้จะสำนึกผิดอรสายังคงเลือกจะเข้าข้างกุมภา
ปฏิภาณจับความคิดของอรสาได้ เขาไม่เข้าใจ ทำไมนางถึงได้ชิงชังและคิดกับลูกสาวในแง่ร้ายตลอด
ที่ผ่านมายังมองไม่ออกอีกหรือว่านิศาชลดีและจริงใจกับคนเป็นแม่มากเพียงไร ต่อให้อรสาร้ายกับเธอแค่ไหน
เธอก็ไม่มีวันทอดทิ้งมารดาเป็นอันขาด นี่คงเป็นเพราะกรรมของอรสาเองจึงทำให้มองไม่เห็นจิตใจอันดีงามของ
บุตรสาว อีกไม่ช้าคนพวกนี้จะต้องรับกรรมที่ก่อไว้ เขาไม่ควรไปสนใจอีกต่อไป ควรพานิศาชลออกไปจากที่นี่
ไม่อยากปล่อยให้อยู่กับคนพวกนี้อีกแต่พอเขาอุ้มเธอออกมา ก้องเกียรติก็ส่งเสียงห้าม
“เดี๋ยว คุณปฏิภาณ คุณไม่มีสิทธิ์พาเมียผมไปไหนทั้งนั้น ไม่อย่างนั้นผมจะทำให้คุณขึ้นข่าวหน้าหนึ่ง
ในฐานะชายชู้ ถ้าไม่อยากเสียชื่อก็ปล่อยเมียผมไว้ที่นี่” ก้องเกียรติขู่ เขาแค้นปฏิภาณที่ทำลายแผนเขาทุกครั้ง
แม้ตอนนี้นิศาชลจะหมดประโยชน์แล้วเขาก็ไม่ยอมปล่อยให้ทั้งคู่ได้เสวยสุข ปฏิภาณจ้องมองเขานัยน์
ตาวาวโรจน์อย่างน่ากลัว
“ดูเหมือนมาดามชานจะตบคุณเบาไป คุณถึงยังไม่สำนึกอีก คุณมันเห็นแก่ตัวและชั่วช้าที่สุด ทรมาน
ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ผมไม่เคยกลัวคำขู่ของคนชั่วเพราะคนที่ขู่ผมมักจะแพ้ภัย
ตัวเอง ไม่เชื่อคุณก็ไปบอกพวกนักข่าวสิ ผมไม่ห้าม” พูดจบเขาก็พาร่างบอบบางที่ยังหมดสติอยู่ในอ้อมแขนเดิน
จากไปโดยไม่แยแสต่อคำขู่แต่อย่างไร กุมภาเห็นแล้วทนไม่ไหวรีบหันไปสะกิดมารดา
“แม่ฮะ ดูชายชู้พี่วิวทำสิฮะ อั้มไม่ยอมให้พี่วิวหย่านะฮะ ไม่อย่างนั้นอั้มกับคุณก้องต้องเดือดร้อนแน่”
อรสานิ่ง นางเริ่มเห็นจริงตามที่ทุกคนพูด กุมภาคิดถึงแต่ความสุขของตัวเอง แต่ไม่มีทางเลือกสำหรับ
นางมากนัก ให้บากหน้าไปงอนง้อบุตรสาวและอยู่ด้วย นางไม่ขอทำเด็ดขาด อยู่กับกุมภาลูกรักยังดีกว่าอยู่กับ
นิศาชลที่ไม่ได้ผูกพันรักใคร่ นับจากนี้ไปจะไม่ขอบังคับนิศลอีก นางทำร้ายบุตรสาวมามากพอแล้ว
“เรื่องถึงขั้นนี้แล้ว อั้มยังคิดว่าพี่สาวอั้มจะยอมให้เราบีบบังคับอีกหรือ” อรสาย้อนถามบุตรชายแต่
คนตอบกลับเป็นก้องเกียรติ
“ไม่ยอมก็ต้องยอม ไม่เชื่อคอยดู ผมไม่ปล่อยให้มันได้เสวยสุขกับคุณวิวหรอก คอยดูผมจะค่อยๆ
ปล่อยข่าวเรื่องชู้ ทำให้มันเสียชื่อเสียงถูกสังคมประณามจนอยู่เมืองไทยไม่ได้” ก้องเกียรติพูดด้วยแค้นจัด
หากเขาเห็นอนาคต เขาจะรู้ว่ากำลังแช่งตัวเอง เพราะการกระทำของพวกเขาได้ถูกนักข่าวสาวแอบบันทึกไว้เรียบ
ร้อยแล้ว พวกเขามัวแต่คิดแค้นคนอื่นที่มาทำลายแผนจึงไม่รู้ว่านักข่าวสาวในคราบเด็กเสริฟได้ลอบกลับเข้ามา
ในห้องอีกครั้งและกลับออกไปก่อนที่ใครจะทันสังเกตเห็นเพราะมีคนฝากข้อความมากับเด็กคนหนึ่งตอนเธออก
ไปจากห้องครั้งแรก ข้อความนั้นเตือนเธอให้ระวังตัวและรีบหลบไปหลังจากเห็นมาดามชานออกจากห้อง พร้อม
กับมอบแผ่นซีดีให้แผ่นหนึ่ง เธอสอบถามเด็กว่าใครเป็นคนเอามาให้เด็กก็ไม่ยอมบอกๆแค่ว่า ให้ทำตามที่บอกก็
พอ จากผู้หวังดี
=========================
กีรกันตาขับรถของอมรินทร์เลี้ยวเข้าคอนโดฯและหยุดรอตรวจจากรปภทั้งคู่เสียเวลาพอควรกว่าจะไป
เอารถที่จอดทิ้งไว้ได้และกว่าจะถึงคอนโดฯก็มืดพอดี บังเอิญลุงยามจำรถของอมรินทร์ได้แต่คนขับไม่ใช่เขา
กีรกันตากดกระจกลงแล้วยิ้มให้
“สวัสดีค่ะ ฉันพาหมออามมาส่งให้เข้าได้ไหมค่ะลุง” กีรกันตาทักทายอย่างเป็นกันเอง ทว่าคนถูกทัก
ทำหน้าไม่ถูก แต่พอเห็นอมรินทร์นั่งอยู่ข้างคนขับก็ยิ้ม แกเป็นห่วงจิตแพทย์หนุ่มกะว่าออกเวรแล้วจะไปเยี่ยม
“หมออาม หมอไม่ได้บาดเจ็บสาหัสอย่างที่เป็นข่าวหรือครับ ผมเห็นข่าวแล้วเป็นห่วงแทบแย่ แต่คุณ
คนนี้ไม่ใช่แฟนหมอนี่ครับ แฟนหมอไปไหนครับ” ด้วยความดีใจที่เห็นอมรินทร์ไม่เป็นไรมาก ลุงยามเผลอพูด
ออกไปโดยลืมนึกถึงคำว่ามารยาท กีรกันตาทำหน้าไม่ถูก อยู่ดีๆเธอก็กลายเป็นคนนอกไป ยิ่งเห็นอมรินทร์เอา
แต่ยิ้ม เธอยิ่งฉุน ฝากไว้ก่อนเถอะ ขอตอบคำถามตายามคนนี้ก่อน
“ไม่ได้ไปไหนหรอกค่ะเพียงแต่ตัวจริงไม่ว่างมาส่ง ตัวสำรองเลยอาสามาส่งแทน เผื่อหมออามจะเปลี่ยน
ใจมาชื่นชอบตัวสำรองบ้างค่ะ ลุง” เธอยั่วที่เล่นทีจริงอย่างอารมณ์ดีจนลุงยามชักไม่แน่ใจใครกันแน่แฟนจิต
แพทย์หนุ่ม สาวสวยที่เป็นข่าวหรือแม่หนูแสนน่ารักคนนี้กันแน่
“ครับๆ เชิญครับ” เมื่อไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี แกเลยปล่อยให้รถผ่านไป
“ข้าว ร้ายนักนะไปยั่วลุงยาม น่าตีนัก” อมรินทร์ต่อว่าทันทีที่พ้นจากป้อมรปภมา
“ร้ายตรงไหน ข้าวช่วยไม่ให้แกหน้าแตกต่างหาก พี่อามว่าข้าวแบบนี้ ชักจะยังไงๆอยู่นา” เธอชักสงสัย
ขณะที่ขับรถไปจอดในชั้นที่อยู่ใกล้ห้องของอมรินทร์
“ไม่ยังไงหรอก เพียงแต่สงสัย ทำไมไม่ประกาศไปเลยว่าแฟนหมออามอยู่นี่แล้วไง อุตส่าห์ให้ขับรถมาส่ง
เพื่อให้ใครๆเห็นว่าเป็นคนสำคัญในชีวิตหมออมรินทร์ ยังไม่ยอมประกาศตัวอีก” เขาบ่นน้อยใจชอบกล
“ไม่ต้องมาพูดดีเลย พี่อามห่วงรถ จอดอยู่ริมถนนข้ามคืนกลัวรถหายเลยหลอกให้ข้าวไปเอารถ ดีนะที่
รถไม่หายเพราะถูกตำรวจล็อคล้อไว้ ไม่อย่างนั้นพี่อามได้เปลี่ยนรถใหม่แทนเสียค่าปรับแน่” เธอรู้ทันจนได้
“รู้ทันจนได้แฮะ แต่พี่ดีใจที่ข้าวตอบลุงยามไปแบบนั้น” เธอหันหน้ามองมองเขาและต้องการคำอธิบาย
มากกว่านี้
อมรินทร์ยิ้มให้อย่างเอ็นดูในความฉลาดตอบให้คนอื่นงงเล่น ว่าตกลงเธอเป็นอะไรกับเขากันแน่และ
ทำความสับสนให้เขาด้วยเพื่อไม่ให้เขาได้ใจทั้งที่ใจจริงนั้นมีเขาอยู่เต็มหัวใจ ถ้าเป็นคนอื่นคงคิดมากไปแล้ว
แต่เขาอ่านความคิดเธอได้จึงไม่คิดมาก อีกอย่างเขาไม่ชอบผู้หญิงที่เปิดเผยความรู้สึกตัวเองจนเกินไป ทำตัวเท่า
เทียมผู้ชาย ใจกล้าเกินหญิง ชอบผู้ชายคนไหนก็บอกตรงๆ บางคนอาจคิดว่าเก่ง ในยุคที่สิทธิชายหญิงเท่าเทียม
กัน หารู้ไม่ว่าอาจเป็นโอกาสให้ฝ่ายชายฉกฉวยประโยชน์ได้ แต่เรื่องอะไรจะบอกเดี๋ยวจะได้ใจ
“อยากรู้พาพี่ไปห้องก่อน แล้วจะบอก ตรงนี้ไม่เหมาะ” ยิ่งเขาพูดเธอยิ่งไม่เข้าใจ
“บอกก่อนลงจากรถไม่ได้เหรอขา หมออามขา” เธออ้อนให้เห็น
“ไม่ได้จ้า น้องข้าวจ๋า พี่หิวข้าว อยากให้ข้าวหาอะไรให้กินก่อน” เขาหาข้ออ้างจนได้
กีรกันตาทำหน้าไม่ถูก อยู่ดีๆเขาก็พูดจาหวานจนเธอเขิน “คุณหมอขาอย่าหวานมากนักเลย ข้าวเขิน
ไปหมดแล้วนะ” เธอแก้เขินโดยการยั่วกลับ ก่อนลงจากรถพาเขาไปที่ห้อง
“พี่อามนอนพักในห้องก่อน ข้าวจะไปหาอะไรให้กิน” กีรกันตาบอกหลังประคองร่างสูงใหญ่มาที่
เตียงเรียบร้อยแล้ว แต่อมรินทร์กลับรั้งไว้ออกแรงนิดเดียวร่างระหงกลมกลึงก็ไปซบอกกว้างแถมถูกกอดไว้เสีย
ดิบดี เป็นครั้งแรกที่เธอรับรู้ถึงกระแสอบอุ่นแล่นเข้าสู่หัวใจ เธอแปลกใจเหมือนกันทำไมรู้สึกคุ้นเคยกับอ้อม
กอดนี้นัก ทั้งที่เป็นครั้งแรกที่ถูกผู้ชายที่ไม่ใช่ญาติสนิทกอดแนบแน่นอย่างนี้มันน่าจะขัดเขินบ้างแต่กลับไม่ ทำไม
เธอสับสนกับความรู้สึกตัวเอง เมื่อคิดไม่ออกก็ไม่อยากคิด ใบหน้างดงามน่ารักจึงเลือกที่จะซบลงกับอกกว้าง
ฟังเสียงหัวใจอีกฝ่ายเต้นไปเรื่อยๆ
“เป็นไงข้าว อ้อมกอดหมออามอบอุ่นดีมั้ย ถ้าอบอุ่นยินดีให้ใช้เป็นที่พักพิงตลอดไป” อยู่ดีๆอมรินทร์ก็
ทำลายความเงียบด้วยการยั่วเธอ
กีรกันตาทุบอกเข้าให้ ก่อนขยับตัวออกห่าง ดวงตาคู่สวยจ้องมองคนพูดแล้วยิ้มยั่ว “ก็อุ่นดีนะ ถ้าหมอ
อามจะพูดจาให้หวานซึ้งกินใจมากกว่านี้ คนกำลังเคลิ้มจะหลับสักหน่อย ทำเสียอารมณ์หมด นี่ถ้าไม่ถือว่าเจ็บ
อยู่ล่ะก็ ได้เห็นดีกันแน่ค่ะคุณหมอขา” เธอทั้งต่อว่าทั้งขู่ได้น่ารักมาก
อมรินทร์หัวเราะเบาๆ “อยากได้แบบหวานซึ้งกินใจก็ไม่บอก ไม่เป็นไร เพื่อน้องข้าวคนดี หมออามยินดี
จัดให้ ถ้าซึ้งต้องมีรางวัลงามๆตอบแทนนะ” เขายั่วนัยน์ตาเป็นประกายแจ่มใส
“ก็ลองพูดให้ฟังก่อนซิคะคุณหมอขา ถ้ากินใจจะให้วัลงามๆ ก่อนกลับบ้าน” เธอใจดีเป็นพิเศษแต่คำว่า
กลับบ้านนี่สิ ทำให้คนขอรางวัลมีสีหน้าไม่ค่อยพอใจนัก
“พี่เจ็บอย่างนี้ยังใจร้ายคิดทิ้งให้อยู่คนเดียวอีก ไม่รู้ล่ะ ยังไงๆวันนี้ข้าวต้องค้างกับพี่ที่นี่ไม่ให้กลับ”
จากคุณหมอคนดีก็กลายเป็นคนไม่ดีแถมเกเรอีกต่างหาก
“ได้ไง ข้าวเป็นสาวเป็นนางให้มาค้างอ้างแรมกับผู้ชายสองต่อสองไม่ดีมั้ง ดีไม่ดีพี่ต้นได้บุกถึงห้องแน่”
เธอโวยลั่นพร้อมยกพี่ชายมาขู่
“เชื่อเถอะวันนี้คุณต้นไม่สนใจข้าวหรอก เพราะสนใจคุณวิวมากกว่า ขืนข้าวกลับไปตอนนี้มีหวังคุณต้น
อยากฆ่าหมกน้องสาวแน่ข้อหามารความสุข ข้าวอยู่ดูแลพี่นะดีแล้ว พี่ไม่ปล้ำข้าวหรอก แต่ถ้าข้าวอยากปล้ำพี่
ก็ยินดีนะ” เขาใจป้ำน่าดู กีรกันตาฉุนจัดผลักอกเขาแรงๆจนล้มลงไปที่เตียง
“โอ๊ย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดทำให้กีรกันตารีบขยับเข้าใกล้เพื่อดูแผลแต่กลับถูกกอดไว้ทั้งตัว หนำซ้ำ
ร่างระหงกลมกลึงยังเป็นฝ่ายอยู่บนร่างสูงใหญ่ ใบหน้าใกล้กันจนน่ากลัว ดวงตาคมจ้องมองใบหน้างามที่ประทับ
ในความทรงจำไม่ว่ายามหลับยามตื่นตลอดเวลาด้วยความรัก
“พี่ไม่เคยมีใครนอกจากข้าว พี่ไม่ขอให้ข้าวเชื่อแต่ทุกอย่างล้วนมาจากใจจริง ตั้งแต่รู้จักข้าว พี่ก็รู้ว่า
ได้พบคนที่รอคอยมาชั่วชีวิตแล้ว จะไม่ยอมปล่อยให้เธอหลุดมือเป็นอันขาด มีแต่ข้าวที่ขยันเข้าใจผิดมาตลอด
เรารึอุตส่าห์คอยเฝ้าดูแลทะนุถนอมมาตลอดกลับไม่เชื่อใจ คิดแล้วมันน่าน้อยใจนัก”
กีรกันตานิ่ง เขาพูดถูก มีแต่เธอที่ไม่เชื่อใจเขา หากพี่ชายไม่ชี้ทางสว่างให้เธอคงเสียผู้ชายที่ดีที่สุดในชีวิต
ไป แล้วจะหาผู้ชายดีครบสูตรแบบนี้ได้ที่ไหน คิดแล้วอยากปลอบใจเขานัก เธอขยับหน้าเข้าไปจนชิดใบหน้าหล่อ
เข้มแล้วหอมแก้มสากฟอดใหญ่
“ข้าวขอโทษค่ะ” คนได้รับคำขอโทษยิ้มชอบใจ
“ขอโทษอย่างนี้ พี่ชอบ ขออีกทีได้ไหมเอ่ย” เขาชักติดใจวิธีการขอโทษของเธอ
“โลภมากจังพี่อามเนี่ย”เสียงบ่นเบาๆ ใบหน้าเขินจัดหากยอมทำตามคำขอร้องแต่พอจะขยับออกห่าง
คนขอเกิดติดใจจนไม่ยอมเลิกราเป็นฝ่ายสัมผัสแก้มเนียนนุ่มจนเธอกลัวแก้มจะช้ำก่อนแต่ก็ยอมเพราะเห็นใจ
คนเจ็บ พอเธอไม่ประท้วงคนเจ็บก็เกิดย่ามใจคิดสัมผัสริมฝีปากอิ่มสวยสีสดบ้างและถ้าร่างกายไม่ประท้วงโดย
แสดงอาการเจ็บแผลให้รับรู้สงสัยปากเธอช้ำตามแก้มแน่
“สมน้ำหน้าคนโลภ คราวนี้นอนพักได้แล้วนะหมอเจ้าเล่ห์ ข้าวขอตัวไปทำอาหารก่อน” ร่างระหงขยับออก
ห่างและออกจากห้องไปทันที ปล่อยให้คนเจ็บส่งเสียงต่อว่าไล่หลัง “ใจร้าย” ไปพลางๆก่อน
==================
นิศาชลเริ่มขยับตัวหลังยานอนหลับหมดฤทธิ์ เปลือกตาบางใสค่อยๆลืมขึ้น ดวงตาคู่สวยทอดมองไปข้าง
หน้า ไม่สนใจสรรพสิ่งรอบตัว ร่างบางนอนนิ่งไม่ไหวติง มีเพียงความเจ็บแค้นในใจกับความหวาดกลัวชะตาชีวิต
ที่ต้องเผชิญในไม่ช้าและตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าหากเสียสิ่งที่หวงแหนในวัยสาวให้ชายโฉดอย่างปีเตอร์ไปจริงๆจะไม่
ขอมีชีวิตอยู่ต่อไป ชาตินี้ชะตากรรมช่างโหดร้ายกับเธอนัก อยากรู้เหมือนกันมารดาจะหลั่งน้ำตาให้กับศพเธอไหม
คิดถึงการกระทำของมารดาแล้วน้ำตาแห่งความเจ็บแค้นน้อยใจก็ไหลนองอาบแก้มนวลแต่กลับมีนิ้วเรียวแข็งแรง
ค่อยๆเช็ดหยาดน้ำตาให้ทว่าเธอกลับปัดออก
“เอานิ้วสกปรกของแกออกไปเสีย ไอ้คนชั่ว” เสียงแว้ดด่าทอด้วยแค้นจัด
“คุณวิวเห็นผมเป็นคนชั่วไปแล้วเหรอ แย่จัง อุตส่าห์ตามไปช่วยทำเป็นลืม” พอได้ยินเสียงบ่นน้อยใจ
ร่างบางรีบลุกขึ้นโผเข้ากอดร่างสูงใหญ่ด้วยความดีใจแล้วปล่อยโฮออกมาเต็มที่
ปฏิภาณกอดร่างบอบบางไว้แนบอก ลูบหลังปลอบโยนเบาๆ ปล่อยให้เธอระบายความอัดอั้นตันใจ
ได้เต็มที่จนเสื้อเขาชุ่มไปด้วยน้ำตา
“โอ๋ๆ เงียบซะนะ วิวจ๋า น้องวิวคนดีของพี่ต้น” เขาปลอบราวกับเธอเป็นเด็กเพราะไม่อยากให้ดวงตาคู่
สวยช้ำจนหมดสวยถ้าเธอขืนร้องไห้ไม่ยอมหยุด
“บ้าจัง คุณต้น วิวไม่ใช่เด็กสักหน่อย” เธอแก้ตัวเสียงอ่อยเมื่อรู้ตัวแต่ยังไม่ยอมขยับตัวออกห่างอ้อมกอด
อันอบอุ่นมั่นคงปลอดภัย
“ไม่ใช่ก็คล้าย ไหนขอดูหน้าเด็กขี้แยหน่อย” มือแข็งแรงค่อยดันร่างเด็กขี้แยออกห่างพลางมองสำรวจทั่ว
ใบหน้างามที่เปื้อนไปด้วยน้ำตาก่อนริมฝีปากอุ่นจะจูบซับน้ำตาไปทั่วใบหน้าให้แล้วจึงค่อยขยับออกห่าง สายตา
ทอดมองเด็กขี้แยด้วยความรักพลางดึงร่างบางมากอดไว้แนบอกอีกครั้ง
“คุณวิวขอให้เชื่อมั่นในตัวผม ตราบใดที่ผมยังอยู่ไม่มีใครทำร้ายคุณได้ นับแต่นี้ไปคุณจะไม่เสียน้ำตาให้
กับเรื่องเลวร้ายในชีวิตอีก แม่คุณจะไม่มายุ่งกับเราอีกต่อไป” คำพูดหนักแน่นช่วยให้คนในอ้อมกอดรู้สึกมั่นคง
ปลอดภัยได้อย่างประหลาด
“จริงเหรอคะ คุณต้น” นิศาชลยังไม่ค่อยเชื่อนักว่าจะเป็นไปได้
“จริง แต่จะหวังให้ท่านมาทำหน้าที่แม่ตามที่คุณฝันคงเป็นไปไม่ได้ ถึงอย่างไร ท่านก็ยังผูกติดกับน้อง
ชายคุณอยู่ดี ต่อให้ต้อง...” ปฏิภาณยั้งคำพูดไว้ทัน เขารู้ ในไม่ช้าอรสาจะมีชีวิตอยู่อย่างไม่มีความสุข อึดอัดคับ
แค้นใจเหมือนที่นิศาชลเป็นเพราะกรรมที่บีบบังคับลูกสาวมาตลอดนั่นเอง
“จะเกิดอะไรขึ้นกับแม่หรือคะ” แม้มารดาไม่รักและนำพาแต่ความเจ็บช้ำมาให้แต่นิศาชลยังห่วงผู้ให้กำ
เนิดอยู่ดี
“ถึงเวลาจะรู้เอง กรรมใดใครก่อ ผู้นั้นต้องรับ ไม่มีใครรับแทนกันได้ เอวังก็มีด้วยประการล่ะเช่นนี้”
ปฏิภาณคิดขึ้นธรรมาสน์นั่งเทศน์ให้ญาติโยมฟัง
แม้จิตใจยังเจ็บช้ำจากการกระทำของมารดาและกังวลกับเรื่องที่เขาเผลอพูดแต่นิศาชลก็อดหัวเราะขำ
ท่าทางกับคำพูดของเขาไม่ได้
“คุณต้นนะคุณต้น คนกำลังทุกข์ ยังมีอารมณ์มายั่วอีก วิวรู้ คุณมีความสามารถพิเศษ รู้เรื่องในอนาคตได้
ทำไมไม่บอกวิวให้รู้ จะได้ช่วยแม่ได้” เธอยังอยากช่วยมารดาอยู่ดี
“ผมไม่ใช่ผู้วิเศษนะ ที่รู้เพราะเป็นผลจากการฝึกสมาธิกับคุณปู่มาตั้งแต่เด็ก บวกกับของเก่าที่เคยทำมา
ต่างหาก แต่ผมก็ไปฝืนวิบากของใครไม่ได้ ยกเว้นเรื่องช่วยคุณวิว ผมทำเพราะอยู่ในวิสัยที่จะทำได้ เหตุผลเพราะ
เรานั้นคู่กัน” เขาบอกความจริงที่น้อยคนจะเข้าใจเพราะทุกคนต่างมีชีวิตไปตามกรรมวิบากที่ได้ก่อไว้โดยไม่รู้ตัว
นิศาชลถึงรู้ว่าคาดคั้นไปก็ไม่มีประโยชน์จำยอมปล่อยไปตามเรื่องของกรรม เขาช่วยเธอมาตลอด ครั้งนี้
ถ้าไม่มีเขาป่านนี้เธอคงป่นปี้ไม่มีชิ้นดีแต่พอคิดอะไรได้ก็ถามขึ้นอีก
“คุณต้นกับมาดามชานเข้าไปช่วยวิวได้อย่างไร”
“ไม่ยากนี่ คุณวิวบอกเองว่าผมมีความสามารถพิเศษ ผมก็ใช้มันให้เป็นประโยชน์ เลยรู้ว่ายังมีทางเข้า
ห้องลับอีกอยู่อีกห้องแต่เจ้าของร้านไม่ยอมเผยให้ใครรู้ นายก้องเกียรติเองก็ไม่รู้ ผมขู่เจ้าของร้านว่า ถ้าไม่ให้เรา
เข้าไปซ่อนตัวในห้อง เรื่องซุกซ่อนอีหนูไว้ที่ร้านจะไม่เป็นความลับต่อไป ผู้ชายเจ้าชู้ทุกคนเกียเมียกันทั้งนั้น
ผมถึงช่วยคุณได้แ
ทั้งสามคนมีสีหน้าตกใจระคนแปลกใจเมื่อเห็นสภาพปีเตอร์กับแขกไม่ได้รับเชิญอีกสองคน มาดามชาน
เดินเข้ามาหาก้องเกียรติ แล้วตบหน้าเขาฉาดใหญ่ กุมภารีบเข้าหาด้วยความเป็นห่วง สายตาจ้องมอง
มาดามชานอย่างเอาเรื่อง
“อะไรกันยะ มาดามอยู่ดีๆมาตบหน้าคุณก้อง มีสิทธิ์อะไร ดูสิหน้าคุณก้องแดงหมด ไม่เจ็บนะฮะคุณก้อง”
กุมภาลืมตัวออกอาการแต้วแตกให้เห็นเมื่อเห็นคนรักโดนทำร้าย
“สิทธิ์นะไม่มีหร็อก แต่อยากตบผู้ชายหน้าตัวเมียเล่น จะทำไม “ มาดามชานพูดจากวนประสาทดีแท้
ก้องเกียรติแค้นจัดมองหน้ามาดามชานอย่างเอาเรื่อง
“คุณปีเตอร์ ปล่อยให้ภรรยาคุณมาระรานผมได้ยังไง ถ้าคุณไม่กำหราบให้รู้จักคำว่ามารยาทบ้าง
ผมจะสั่งสอนผู้หญิงคนนี้แทนคุณเอง” ก้องเกียรติพาลเอากับปีเตอร์ที่หมดสภาพ มาดามชานหันไปมองหน้า
สามีและก้องเกียรติกับกุมภาอย่างสมเพช แต่ยังคงนิ่งเฉยปล่อยให้คนพวกนี้ออกฤทธิ์ให้เต็มที่ก่อน เธอหันไป
มองหน้าปฏิภาณแล้วยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นเขาทำตัวเหมือนคนดูมากกว่าจะโดดเข้ามาร่วมวงด้วย
“ว่าไงฮะคุณปีเตอร์ ปล่อยให้เมียคุณใช้อำนาจข่มขู่อย่างนี้ได้ไง” กุมภาบีบคั้นปีเตอร์อีกคนเมื่อเห็น
เขายังคงนิ่งเงียบไม่พูดอะไรสักคำ คนพวกนี้ยังไม่รู้ว่านางสิงห์ร้ายมากอิทธิพลแห่งเกาะฮ่องกงเริ่มแสดงอำนาจ
ให้ประจักษ์แล้วหลังจากที่ปลีกตัวห่างหายไปจากวงการปล่อยให้สามีเล่นบทสิงห์หนุ่มมานาน โดยยอมเป็น
ผู้ตามแต่อิทธิพลก็ไม่เคยลดลงไปแม้แต่น้อย
“อั้มแม่ว่าเลิกไปหวังคุณปีเตอร์เถอะ ดูสภาพเขาตอนนี้ซิ หน้าแตกยับอย่างนี้จะไปช่วยอะไรใครได้
แม่ขอสั่งสอนแทนเอง” ว่าแล้วอรสาก็เดินเข้าไปหามาดามชานกับปฏิภาณที่ยืนมองนางด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“พวกคุณมาทำอะไรที่นี่ แล้วมายุ่งเรื่องส่วนตัวของคนอื่นทำไม เธอละ เป็นใครมิทราบ ผู้หญิงใจกล้า
บ้าบิ่นมาทำร้ายผู้ชายถึงที่นี่ หรือว่าร่วมมือกับชายชู้ลูกสาวฉันถึงคิดมาป่วน” อรสาพูดโดยที่ไม่รู้อะไรสักอย่าง
แต่กลับหัวปักหัวปำเข้าข้างคนผิดเพราะความลำเอียงในหัวใจเป็นทุนเดิม
มาดามชานยิ้มอย่างสมเพชหญิงสูงวัยคนนี้ “ฉันก็เป็นภรรยานายปีเตอร์ ชายเจ้าชู้ติดอันดับแห่งเกาะ
ฮ่องกง คุณคงเป็นแม่ผู้หญิงเคราะห์ร้ายคนนี้สินะ ฉันเกิดมายังไม่เคยเห็นแม่คนไหนใจร้ายเท่าคุณมาก่อนเลย
นะคุณนาย ช่วยคนอื่นย่ำยีลูกสาวตัวเอง รู้มั้ยคุณนาย ถ้าสามีฉันทำสำเร็จ ผลจะเป็นอย่างไรกับลูกสาวคุณ
เขาก็จะกดขี่ข่มแหงรังแกเอาแต่ได้จนเขาเบื่อก็เขี่ยทิ้งโดยไม่แยแส เขาไม่เคยรักใครจริงหรอก แต่เขาไม่กล้ากับ
ฉันแน่ เพราะอะไรรู้มั้ยถ้าไม่รู้ฉันจะบอกให้เอาบุญจะได้หายโง่เสียที คนที่เป็นประธานผู้ถือหุ้นใหญ่ตัวจริงคือ
ฉัน ส่วนปีเตอร์เป็นแค่คนทำงานให้ฉันเท่านั้น เขาไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเซ็นสัญญาใดๆด้วยซ้ำถ้าฉันไม่อนุญาต
คิดว่าเรื่องนี้เขาคงไม่บอกพวกคุณมั้ง รู้เรื่องแล้วพอจะฉลาดขึ้นมั้ยคะคุณนาย หรือยังโง่เหมือนเดิม ถ้าอย่างนั้น
ฉันจะให้เขาสารภาพเอง” มาดามชานเดินเข้าไปหาสามีมองหน้าที่แตกยับแล้วยิ้มให้อย่างน่ากลัว
“ไงคะที่รัก เจ็บมากมั้ยคะ บอกแล้วอย่าไปยุ่งกับผู้หญิงคนนี้ก็ไม่เชื่อเจ้าของตัวจริงเขาหวง ถ้าคุณยัง
อยากอยู่ในตำแหน่งสามีฉันอยู่ละก็...ช่วยบอกความจริงให้คุณนายคนนี้รู้ที จะได้มีสำนึกของความเป็นแม่ขึ้น
มาบ้าง เลิกใช้ลูกสาวเป็นตัวช่วยลูกชายลูกเขยเลวๆเสียที” ที่สุดมาดามชานก็แสดงให้ทุกคนประจักษ์ถึงความ
ร้ายกาจที่ไม่มีใครคิดถึง
ปีเตอร์แค้นจัดจนไม่รู้จะเอ่ยเป็นคำพูดอะไรออกมา วันนี้เขาหมดสิ้นอำนาจและอาจถูกผู้คนหัวเราะเยาะ
ด้วยเพราะเมียตัวแสบลุกขึ้นมายึดอำนาจคืน ไม่เป็นไรจำยอมไปก่อนแล้วค่อยหาทางแก้ทีหลัง
“ใช่ ผมแค่คิดอยากได้คุณวิวมาฟัดให้หายอยากเท่านั้น พอเบื่อก็เขี่ยทิ้ง ผมไม่ใช่คนต้นคิดเรื่องนี้
แค่บอกความต้องการให้คุณก้องเกียรติรู้ ทีแรกคิดว่าเขาจะโกรธแต่ผมคิดผิด เขากับน้องชายคุณวิวเต็มใจประ
เคนคุณวิวให้ผมเพื่อให้ผมพอใจโดยหลอกใช้แม่หน้าโง่ของกุมภาให้เป็นคนบังคับคุณวิว แต่คุณวิวก็รอดทุกครั้ง
มันน่าเจ็บใจนัก คืนนี้คิดว่าจะสมหวังเพราะแม่มาคุมเอง ก็รอดอีกจนได้ ผมยอมรับว่าแปลกใจมากที่แม่แท้ๆ
ไม่คิดปกป้องลูกแต่กลับส่งเธอมาให้ผมย่ำยี ตอนนี้เข้าใจแล้วทำไมคุณวิวถึงได้เจ็บช้ำนักที่มีแม่อย่างคุณ สมควร
แล้วที่ถูกเมียผมด่า ผมขอเตือนนะครับคุณนาย ลูกชายคุณไม่เห็นใครสำคัญเท่าสามีเขาหรอก ถ้าคุณยังไม่สำนึก
สักวันคุณจะกลายเป็นคนแก่ที่ถูกทอดทิ้งอย่างเดียวดายและเจ็บปวดเพราะลูกชายที่คุณรักอย่างไม่ลืมหูลืมตา”
ทุกคนพากันตกตะลึงกับคำพูดของปีเตอร์ไม่คิดว่าเขาจะกล้าสารภาพและยังเตือนสติคนเป็นแม่อย่าง
อรสาอีกด้วย ก้องเกียรติกับกุมภาจ้องมองเขาอย่างแค้นจัดเพียงเพื่อเอาตัวรอด ถึงกับยอมสารภาพหมดเปลือก
มาดามชานยิ้มอย่างสะใจ
“ทำดีมากค่ะที่รัก เราไปกันเถอะ เรื่องของเราต้องกลับไปสะสางที่ฮ่องกง เรื่องของคนที่นี่ปล่อยให้เขา
สะสางกันเอง ขอตัวก่อนนะคะคุณปฏิภาณ” มาดามชานเอ่ยลาก่อนเดินจากห้องไปโดยไม่เหลียวมามองสามี
สักนิดปล่อยให้ปีเตอร์เดินตามหลังไปทั้งที่ยังเจ็บอยู่
อรสาหน้าซีดเผือดอย่างคิดไม่ถึง สองสามีภรรยาจงใจด่าว่านางโดยตรง เป็นไปไม่ได้ที่จะถูกกุมภาทอด
ทิ้ง นางเลี้ยงดูลูกคนนี้มาตลอดให้ความรัก ความเอาใจใส่ ดูแลอย่างดี มีปัญหาอะไรก็ช่วยแก้ให้แม้กระทั่งทำ
ร้ายบุตรสาวที่นางไม่เคยคิดว่าเป็นลูก เพราะไม่ได้เลี้ยงมาแค่ทำหน้าที่อุ้มท้องมาเท่านั้น จึงไม่รู้สึกผูกพันกับนิศา
ชลนัก อีกอย่างในความรู้สึกของนางนิศาชลเป็นลูกคนอื่นมากกว่า แต่สายใยระหว่างแม่กับลูกก็มิอาจตัดขาด
เสียทีเดียว แม้ไม่รักไม่ผูกพันเท่ากุมภา คำด่าทอของมาดามชานกับปีเตอร์มันช่างเจ็บแสบนัก นางผิดด้วยหรือที่
ทำทุกอย่างเพื่อลูก คิดถึงตอนนี้ นางก็เริ่มสะดุด ใช่เพื่อลูกชายคนเดียว ไม่เคยทำเพื่อลูกสาวเลย มีแต่จะผลัก
ใสให้ชีวิตลูกสาวตกต่ำ
ถ้าไม่เป็นเพราะมีคนอื่นคอยช่วยเหลือป่านนี้นิศลคง...นี่นางทำอะไรลงไป นางเลวจริงๆลูกสาวจำยอม
ทำตามที่นางขอร้องทุกอย่างแม้กระทั่งยอมสละความสุขชั่วชีวิตโดยยอมแต่งงานบังหน้าเพื่อให้กุมภาได้ครองคู่
กับคนรัก นางทำเพื่อลูกชายมากมาย เขาจะเป็นอย่างที่สองคนนี้กล่าวหาหรือเป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่มีกุมภาแล้วนางจะ
ฝากชีวิตไว้กับใคร นิศาชลคงไม่คิดจะดูแลนางเพราะนางทำกับเธอไว้มาก นางเชื่อกุมภาไม่มีวันทอดทิ้งนางแน่
เพราะมีกันสองคนแม่ลูกมานานเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะถูกทอดทิ้ง แม้จะสำนึกผิดอรสายังคงเลือกจะเข้าข้างกุมภา
ปฏิภาณจับความคิดของอรสาได้ เขาไม่เข้าใจ ทำไมนางถึงได้ชิงชังและคิดกับลูกสาวในแง่ร้ายตลอด
ที่ผ่านมายังมองไม่ออกอีกหรือว่านิศาชลดีและจริงใจกับคนเป็นแม่มากเพียงไร ต่อให้อรสาร้ายกับเธอแค่ไหน
เธอก็ไม่มีวันทอดทิ้งมารดาเป็นอันขาด นี่คงเป็นเพราะกรรมของอรสาเองจึงทำให้มองไม่เห็นจิตใจอันดีงามของ
บุตรสาว อีกไม่ช้าคนพวกนี้จะต้องรับกรรมที่ก่อไว้ เขาไม่ควรไปสนใจอีกต่อไป ควรพานิศาชลออกไปจากที่นี่
ไม่อยากปล่อยให้อยู่กับคนพวกนี้อีกแต่พอเขาอุ้มเธอออกมา ก้องเกียรติก็ส่งเสียงห้าม
“เดี๋ยว คุณปฏิภาณ คุณไม่มีสิทธิ์พาเมียผมไปไหนทั้งนั้น ไม่อย่างนั้นผมจะทำให้คุณขึ้นข่าวหน้าหนึ่ง
ในฐานะชายชู้ ถ้าไม่อยากเสียชื่อก็ปล่อยเมียผมไว้ที่นี่” ก้องเกียรติขู่ เขาแค้นปฏิภาณที่ทำลายแผนเขาทุกครั้ง
แม้ตอนนี้นิศาชลจะหมดประโยชน์แล้วเขาก็ไม่ยอมปล่อยให้ทั้งคู่ได้เสวยสุข ปฏิภาณจ้องมองเขานัยน์
ตาวาวโรจน์อย่างน่ากลัว
“ดูเหมือนมาดามชานจะตบคุณเบาไป คุณถึงยังไม่สำนึกอีก คุณมันเห็นแก่ตัวและชั่วช้าที่สุด ทรมาน
ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ผมไม่เคยกลัวคำขู่ของคนชั่วเพราะคนที่ขู่ผมมักจะแพ้ภัย
ตัวเอง ไม่เชื่อคุณก็ไปบอกพวกนักข่าวสิ ผมไม่ห้าม” พูดจบเขาก็พาร่างบอบบางที่ยังหมดสติอยู่ในอ้อมแขนเดิน
จากไปโดยไม่แยแสต่อคำขู่แต่อย่างไร กุมภาเห็นแล้วทนไม่ไหวรีบหันไปสะกิดมารดา
“แม่ฮะ ดูชายชู้พี่วิวทำสิฮะ อั้มไม่ยอมให้พี่วิวหย่านะฮะ ไม่อย่างนั้นอั้มกับคุณก้องต้องเดือดร้อนแน่”
อรสานิ่ง นางเริ่มเห็นจริงตามที่ทุกคนพูด กุมภาคิดถึงแต่ความสุขของตัวเอง แต่ไม่มีทางเลือกสำหรับ
นางมากนัก ให้บากหน้าไปงอนง้อบุตรสาวและอยู่ด้วย นางไม่ขอทำเด็ดขาด อยู่กับกุมภาลูกรักยังดีกว่าอยู่กับ
นิศาชลที่ไม่ได้ผูกพันรักใคร่ นับจากนี้ไปจะไม่ขอบังคับนิศลอีก นางทำร้ายบุตรสาวมามากพอแล้ว
“เรื่องถึงขั้นนี้แล้ว อั้มยังคิดว่าพี่สาวอั้มจะยอมให้เราบีบบังคับอีกหรือ” อรสาย้อนถามบุตรชายแต่
คนตอบกลับเป็นก้องเกียรติ
“ไม่ยอมก็ต้องยอม ไม่เชื่อคอยดู ผมไม่ปล่อยให้มันได้เสวยสุขกับคุณวิวหรอก คอยดูผมจะค่อยๆ
ปล่อยข่าวเรื่องชู้ ทำให้มันเสียชื่อเสียงถูกสังคมประณามจนอยู่เมืองไทยไม่ได้” ก้องเกียรติพูดด้วยแค้นจัด
หากเขาเห็นอนาคต เขาจะรู้ว่ากำลังแช่งตัวเอง เพราะการกระทำของพวกเขาได้ถูกนักข่าวสาวแอบบันทึกไว้เรียบ
ร้อยแล้ว พวกเขามัวแต่คิดแค้นคนอื่นที่มาทำลายแผนจึงไม่รู้ว่านักข่าวสาวในคราบเด็กเสริฟได้ลอบกลับเข้ามา
ในห้องอีกครั้งและกลับออกไปก่อนที่ใครจะทันสังเกตเห็นเพราะมีคนฝากข้อความมากับเด็กคนหนึ่งตอนเธออก
ไปจากห้องครั้งแรก ข้อความนั้นเตือนเธอให้ระวังตัวและรีบหลบไปหลังจากเห็นมาดามชานออกจากห้อง พร้อม
กับมอบแผ่นซีดีให้แผ่นหนึ่ง เธอสอบถามเด็กว่าใครเป็นคนเอามาให้เด็กก็ไม่ยอมบอกๆแค่ว่า ให้ทำตามที่บอกก็
พอ จากผู้หวังดี
=========================
กีรกันตาขับรถของอมรินทร์เลี้ยวเข้าคอนโดฯและหยุดรอตรวจจากรปภทั้งคู่เสียเวลาพอควรกว่าจะไป
เอารถที่จอดทิ้งไว้ได้และกว่าจะถึงคอนโดฯก็มืดพอดี บังเอิญลุงยามจำรถของอมรินทร์ได้แต่คนขับไม่ใช่เขา
กีรกันตากดกระจกลงแล้วยิ้มให้
“สวัสดีค่ะ ฉันพาหมออามมาส่งให้เข้าได้ไหมค่ะลุง” กีรกันตาทักทายอย่างเป็นกันเอง ทว่าคนถูกทัก
ทำหน้าไม่ถูก แต่พอเห็นอมรินทร์นั่งอยู่ข้างคนขับก็ยิ้ม แกเป็นห่วงจิตแพทย์หนุ่มกะว่าออกเวรแล้วจะไปเยี่ยม
“หมออาม หมอไม่ได้บาดเจ็บสาหัสอย่างที่เป็นข่าวหรือครับ ผมเห็นข่าวแล้วเป็นห่วงแทบแย่ แต่คุณ
คนนี้ไม่ใช่แฟนหมอนี่ครับ แฟนหมอไปไหนครับ” ด้วยความดีใจที่เห็นอมรินทร์ไม่เป็นไรมาก ลุงยามเผลอพูด
ออกไปโดยลืมนึกถึงคำว่ามารยาท กีรกันตาทำหน้าไม่ถูก อยู่ดีๆเธอก็กลายเป็นคนนอกไป ยิ่งเห็นอมรินทร์เอา
แต่ยิ้ม เธอยิ่งฉุน ฝากไว้ก่อนเถอะ ขอตอบคำถามตายามคนนี้ก่อน
“ไม่ได้ไปไหนหรอกค่ะเพียงแต่ตัวจริงไม่ว่างมาส่ง ตัวสำรองเลยอาสามาส่งแทน เผื่อหมออามจะเปลี่ยน
ใจมาชื่นชอบตัวสำรองบ้างค่ะ ลุง” เธอยั่วที่เล่นทีจริงอย่างอารมณ์ดีจนลุงยามชักไม่แน่ใจใครกันแน่แฟนจิต
แพทย์หนุ่ม สาวสวยที่เป็นข่าวหรือแม่หนูแสนน่ารักคนนี้กันแน่
“ครับๆ เชิญครับ” เมื่อไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี แกเลยปล่อยให้รถผ่านไป
“ข้าว ร้ายนักนะไปยั่วลุงยาม น่าตีนัก” อมรินทร์ต่อว่าทันทีที่พ้นจากป้อมรปภมา
“ร้ายตรงไหน ข้าวช่วยไม่ให้แกหน้าแตกต่างหาก พี่อามว่าข้าวแบบนี้ ชักจะยังไงๆอยู่นา” เธอชักสงสัย
ขณะที่ขับรถไปจอดในชั้นที่อยู่ใกล้ห้องของอมรินทร์
“ไม่ยังไงหรอก เพียงแต่สงสัย ทำไมไม่ประกาศไปเลยว่าแฟนหมออามอยู่นี่แล้วไง อุตส่าห์ให้ขับรถมาส่ง
เพื่อให้ใครๆเห็นว่าเป็นคนสำคัญในชีวิตหมออมรินทร์ ยังไม่ยอมประกาศตัวอีก” เขาบ่นน้อยใจชอบกล
“ไม่ต้องมาพูดดีเลย พี่อามห่วงรถ จอดอยู่ริมถนนข้ามคืนกลัวรถหายเลยหลอกให้ข้าวไปเอารถ ดีนะที่
รถไม่หายเพราะถูกตำรวจล็อคล้อไว้ ไม่อย่างนั้นพี่อามได้เปลี่ยนรถใหม่แทนเสียค่าปรับแน่” เธอรู้ทันจนได้
“รู้ทันจนได้แฮะ แต่พี่ดีใจที่ข้าวตอบลุงยามไปแบบนั้น” เธอหันหน้ามองมองเขาและต้องการคำอธิบาย
มากกว่านี้
อมรินทร์ยิ้มให้อย่างเอ็นดูในความฉลาดตอบให้คนอื่นงงเล่น ว่าตกลงเธอเป็นอะไรกับเขากันแน่และ
ทำความสับสนให้เขาด้วยเพื่อไม่ให้เขาได้ใจทั้งที่ใจจริงนั้นมีเขาอยู่เต็มหัวใจ ถ้าเป็นคนอื่นคงคิดมากไปแล้ว
แต่เขาอ่านความคิดเธอได้จึงไม่คิดมาก อีกอย่างเขาไม่ชอบผู้หญิงที่เปิดเผยความรู้สึกตัวเองจนเกินไป ทำตัวเท่า
เทียมผู้ชาย ใจกล้าเกินหญิง ชอบผู้ชายคนไหนก็บอกตรงๆ บางคนอาจคิดว่าเก่ง ในยุคที่สิทธิชายหญิงเท่าเทียม
กัน หารู้ไม่ว่าอาจเป็นโอกาสให้ฝ่ายชายฉกฉวยประโยชน์ได้ แต่เรื่องอะไรจะบอกเดี๋ยวจะได้ใจ
“อยากรู้พาพี่ไปห้องก่อน แล้วจะบอก ตรงนี้ไม่เหมาะ” ยิ่งเขาพูดเธอยิ่งไม่เข้าใจ
“บอกก่อนลงจากรถไม่ได้เหรอขา หมออามขา” เธออ้อนให้เห็น
“ไม่ได้จ้า น้องข้าวจ๋า พี่หิวข้าว อยากให้ข้าวหาอะไรให้กินก่อน” เขาหาข้ออ้างจนได้
กีรกันตาทำหน้าไม่ถูก อยู่ดีๆเขาก็พูดจาหวานจนเธอเขิน “คุณหมอขาอย่าหวานมากนักเลย ข้าวเขิน
ไปหมดแล้วนะ” เธอแก้เขินโดยการยั่วกลับ ก่อนลงจากรถพาเขาไปที่ห้อง
“พี่อามนอนพักในห้องก่อน ข้าวจะไปหาอะไรให้กิน” กีรกันตาบอกหลังประคองร่างสูงใหญ่มาที่
เตียงเรียบร้อยแล้ว แต่อมรินทร์กลับรั้งไว้ออกแรงนิดเดียวร่างระหงกลมกลึงก็ไปซบอกกว้างแถมถูกกอดไว้เสีย
ดิบดี เป็นครั้งแรกที่เธอรับรู้ถึงกระแสอบอุ่นแล่นเข้าสู่หัวใจ เธอแปลกใจเหมือนกันทำไมรู้สึกคุ้นเคยกับอ้อม
กอดนี้นัก ทั้งที่เป็นครั้งแรกที่ถูกผู้ชายที่ไม่ใช่ญาติสนิทกอดแนบแน่นอย่างนี้มันน่าจะขัดเขินบ้างแต่กลับไม่ ทำไม
เธอสับสนกับความรู้สึกตัวเอง เมื่อคิดไม่ออกก็ไม่อยากคิด ใบหน้างดงามน่ารักจึงเลือกที่จะซบลงกับอกกว้าง
ฟังเสียงหัวใจอีกฝ่ายเต้นไปเรื่อยๆ
“เป็นไงข้าว อ้อมกอดหมออามอบอุ่นดีมั้ย ถ้าอบอุ่นยินดีให้ใช้เป็นที่พักพิงตลอดไป” อยู่ดีๆอมรินทร์ก็
ทำลายความเงียบด้วยการยั่วเธอ
กีรกันตาทุบอกเข้าให้ ก่อนขยับตัวออกห่าง ดวงตาคู่สวยจ้องมองคนพูดแล้วยิ้มยั่ว “ก็อุ่นดีนะ ถ้าหมอ
อามจะพูดจาให้หวานซึ้งกินใจมากกว่านี้ คนกำลังเคลิ้มจะหลับสักหน่อย ทำเสียอารมณ์หมด นี่ถ้าไม่ถือว่าเจ็บ
อยู่ล่ะก็ ได้เห็นดีกันแน่ค่ะคุณหมอขา” เธอทั้งต่อว่าทั้งขู่ได้น่ารักมาก
อมรินทร์หัวเราะเบาๆ “อยากได้แบบหวานซึ้งกินใจก็ไม่บอก ไม่เป็นไร เพื่อน้องข้าวคนดี หมออามยินดี
จัดให้ ถ้าซึ้งต้องมีรางวัลงามๆตอบแทนนะ” เขายั่วนัยน์ตาเป็นประกายแจ่มใส
“ก็ลองพูดให้ฟังก่อนซิคะคุณหมอขา ถ้ากินใจจะให้วัลงามๆ ก่อนกลับบ้าน” เธอใจดีเป็นพิเศษแต่คำว่า
กลับบ้านนี่สิ ทำให้คนขอรางวัลมีสีหน้าไม่ค่อยพอใจนัก
“พี่เจ็บอย่างนี้ยังใจร้ายคิดทิ้งให้อยู่คนเดียวอีก ไม่รู้ล่ะ ยังไงๆวันนี้ข้าวต้องค้างกับพี่ที่นี่ไม่ให้กลับ”
จากคุณหมอคนดีก็กลายเป็นคนไม่ดีแถมเกเรอีกต่างหาก
“ได้ไง ข้าวเป็นสาวเป็นนางให้มาค้างอ้างแรมกับผู้ชายสองต่อสองไม่ดีมั้ง ดีไม่ดีพี่ต้นได้บุกถึงห้องแน่”
เธอโวยลั่นพร้อมยกพี่ชายมาขู่
“เชื่อเถอะวันนี้คุณต้นไม่สนใจข้าวหรอก เพราะสนใจคุณวิวมากกว่า ขืนข้าวกลับไปตอนนี้มีหวังคุณต้น
อยากฆ่าหมกน้องสาวแน่ข้อหามารความสุข ข้าวอยู่ดูแลพี่นะดีแล้ว พี่ไม่ปล้ำข้าวหรอก แต่ถ้าข้าวอยากปล้ำพี่
ก็ยินดีนะ” เขาใจป้ำน่าดู กีรกันตาฉุนจัดผลักอกเขาแรงๆจนล้มลงไปที่เตียง
“โอ๊ย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดทำให้กีรกันตารีบขยับเข้าใกล้เพื่อดูแผลแต่กลับถูกกอดไว้ทั้งตัว หนำซ้ำ
ร่างระหงกลมกลึงยังเป็นฝ่ายอยู่บนร่างสูงใหญ่ ใบหน้าใกล้กันจนน่ากลัว ดวงตาคมจ้องมองใบหน้างามที่ประทับ
ในความทรงจำไม่ว่ายามหลับยามตื่นตลอดเวลาด้วยความรัก
“พี่ไม่เคยมีใครนอกจากข้าว พี่ไม่ขอให้ข้าวเชื่อแต่ทุกอย่างล้วนมาจากใจจริง ตั้งแต่รู้จักข้าว พี่ก็รู้ว่า
ได้พบคนที่รอคอยมาชั่วชีวิตแล้ว จะไม่ยอมปล่อยให้เธอหลุดมือเป็นอันขาด มีแต่ข้าวที่ขยันเข้าใจผิดมาตลอด
เรารึอุตส่าห์คอยเฝ้าดูแลทะนุถนอมมาตลอดกลับไม่เชื่อใจ คิดแล้วมันน่าน้อยใจนัก”
กีรกันตานิ่ง เขาพูดถูก มีแต่เธอที่ไม่เชื่อใจเขา หากพี่ชายไม่ชี้ทางสว่างให้เธอคงเสียผู้ชายที่ดีที่สุดในชีวิต
ไป แล้วจะหาผู้ชายดีครบสูตรแบบนี้ได้ที่ไหน คิดแล้วอยากปลอบใจเขานัก เธอขยับหน้าเข้าไปจนชิดใบหน้าหล่อ
เข้มแล้วหอมแก้มสากฟอดใหญ่
“ข้าวขอโทษค่ะ” คนได้รับคำขอโทษยิ้มชอบใจ
“ขอโทษอย่างนี้ พี่ชอบ ขออีกทีได้ไหมเอ่ย” เขาชักติดใจวิธีการขอโทษของเธอ
“โลภมากจังพี่อามเนี่ย”เสียงบ่นเบาๆ ใบหน้าเขินจัดหากยอมทำตามคำขอร้องแต่พอจะขยับออกห่าง
คนขอเกิดติดใจจนไม่ยอมเลิกราเป็นฝ่ายสัมผัสแก้มเนียนนุ่มจนเธอกลัวแก้มจะช้ำก่อนแต่ก็ยอมเพราะเห็นใจ
คนเจ็บ พอเธอไม่ประท้วงคนเจ็บก็เกิดย่ามใจคิดสัมผัสริมฝีปากอิ่มสวยสีสดบ้างและถ้าร่างกายไม่ประท้วงโดย
แสดงอาการเจ็บแผลให้รับรู้สงสัยปากเธอช้ำตามแก้มแน่
“สมน้ำหน้าคนโลภ คราวนี้นอนพักได้แล้วนะหมอเจ้าเล่ห์ ข้าวขอตัวไปทำอาหารก่อน” ร่างระหงขยับออก
ห่างและออกจากห้องไปทันที ปล่อยให้คนเจ็บส่งเสียงต่อว่าไล่หลัง “ใจร้าย” ไปพลางๆก่อน
==================
นิศาชลเริ่มขยับตัวหลังยานอนหลับหมดฤทธิ์ เปลือกตาบางใสค่อยๆลืมขึ้น ดวงตาคู่สวยทอดมองไปข้าง
หน้า ไม่สนใจสรรพสิ่งรอบตัว ร่างบางนอนนิ่งไม่ไหวติง มีเพียงความเจ็บแค้นในใจกับความหวาดกลัวชะตาชีวิต
ที่ต้องเผชิญในไม่ช้าและตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าหากเสียสิ่งที่หวงแหนในวัยสาวให้ชายโฉดอย่างปีเตอร์ไปจริงๆจะไม่
ขอมีชีวิตอยู่ต่อไป ชาตินี้ชะตากรรมช่างโหดร้ายกับเธอนัก อยากรู้เหมือนกันมารดาจะหลั่งน้ำตาให้กับศพเธอไหม
คิดถึงการกระทำของมารดาแล้วน้ำตาแห่งความเจ็บแค้นน้อยใจก็ไหลนองอาบแก้มนวลแต่กลับมีนิ้วเรียวแข็งแรง
ค่อยๆเช็ดหยาดน้ำตาให้ทว่าเธอกลับปัดออก
“เอานิ้วสกปรกของแกออกไปเสีย ไอ้คนชั่ว” เสียงแว้ดด่าทอด้วยแค้นจัด
“คุณวิวเห็นผมเป็นคนชั่วไปแล้วเหรอ แย่จัง อุตส่าห์ตามไปช่วยทำเป็นลืม” พอได้ยินเสียงบ่นน้อยใจ
ร่างบางรีบลุกขึ้นโผเข้ากอดร่างสูงใหญ่ด้วยความดีใจแล้วปล่อยโฮออกมาเต็มที่
ปฏิภาณกอดร่างบอบบางไว้แนบอก ลูบหลังปลอบโยนเบาๆ ปล่อยให้เธอระบายความอัดอั้นตันใจ
ได้เต็มที่จนเสื้อเขาชุ่มไปด้วยน้ำตา
“โอ๋ๆ เงียบซะนะ วิวจ๋า น้องวิวคนดีของพี่ต้น” เขาปลอบราวกับเธอเป็นเด็กเพราะไม่อยากให้ดวงตาคู่
สวยช้ำจนหมดสวยถ้าเธอขืนร้องไห้ไม่ยอมหยุด
“บ้าจัง คุณต้น วิวไม่ใช่เด็กสักหน่อย” เธอแก้ตัวเสียงอ่อยเมื่อรู้ตัวแต่ยังไม่ยอมขยับตัวออกห่างอ้อมกอด
อันอบอุ่นมั่นคงปลอดภัย
“ไม่ใช่ก็คล้าย ไหนขอดูหน้าเด็กขี้แยหน่อย” มือแข็งแรงค่อยดันร่างเด็กขี้แยออกห่างพลางมองสำรวจทั่ว
ใบหน้างามที่เปื้อนไปด้วยน้ำตาก่อนริมฝีปากอุ่นจะจูบซับน้ำตาไปทั่วใบหน้าให้แล้วจึงค่อยขยับออกห่าง สายตา
ทอดมองเด็กขี้แยด้วยความรักพลางดึงร่างบางมากอดไว้แนบอกอีกครั้ง
“คุณวิวขอให้เชื่อมั่นในตัวผม ตราบใดที่ผมยังอยู่ไม่มีใครทำร้ายคุณได้ นับแต่นี้ไปคุณจะไม่เสียน้ำตาให้
กับเรื่องเลวร้ายในชีวิตอีก แม่คุณจะไม่มายุ่งกับเราอีกต่อไป” คำพูดหนักแน่นช่วยให้คนในอ้อมกอดรู้สึกมั่นคง
ปลอดภัยได้อย่างประหลาด
“จริงเหรอคะ คุณต้น” นิศาชลยังไม่ค่อยเชื่อนักว่าจะเป็นไปได้
“จริง แต่จะหวังให้ท่านมาทำหน้าที่แม่ตามที่คุณฝันคงเป็นไปไม่ได้ ถึงอย่างไร ท่านก็ยังผูกติดกับน้อง
ชายคุณอยู่ดี ต่อให้ต้อง...” ปฏิภาณยั้งคำพูดไว้ทัน เขารู้ ในไม่ช้าอรสาจะมีชีวิตอยู่อย่างไม่มีความสุข อึดอัดคับ
แค้นใจเหมือนที่นิศาชลเป็นเพราะกรรมที่บีบบังคับลูกสาวมาตลอดนั่นเอง
“จะเกิดอะไรขึ้นกับแม่หรือคะ” แม้มารดาไม่รักและนำพาแต่ความเจ็บช้ำมาให้แต่นิศาชลยังห่วงผู้ให้กำ
เนิดอยู่ดี
“ถึงเวลาจะรู้เอง กรรมใดใครก่อ ผู้นั้นต้องรับ ไม่มีใครรับแทนกันได้ เอวังก็มีด้วยประการล่ะเช่นนี้”
ปฏิภาณคิดขึ้นธรรมาสน์นั่งเทศน์ให้ญาติโยมฟัง
แม้จิตใจยังเจ็บช้ำจากการกระทำของมารดาและกังวลกับเรื่องที่เขาเผลอพูดแต่นิศาชลก็อดหัวเราะขำ
ท่าทางกับคำพูดของเขาไม่ได้
“คุณต้นนะคุณต้น คนกำลังทุกข์ ยังมีอารมณ์มายั่วอีก วิวรู้ คุณมีความสามารถพิเศษ รู้เรื่องในอนาคตได้
ทำไมไม่บอกวิวให้รู้ จะได้ช่วยแม่ได้” เธอยังอยากช่วยมารดาอยู่ดี
“ผมไม่ใช่ผู้วิเศษนะ ที่รู้เพราะเป็นผลจากการฝึกสมาธิกับคุณปู่มาตั้งแต่เด็ก บวกกับของเก่าที่เคยทำมา
ต่างหาก แต่ผมก็ไปฝืนวิบากของใครไม่ได้ ยกเว้นเรื่องช่วยคุณวิว ผมทำเพราะอยู่ในวิสัยที่จะทำได้ เหตุผลเพราะ
เรานั้นคู่กัน” เขาบอกความจริงที่น้อยคนจะเข้าใจเพราะทุกคนต่างมีชีวิตไปตามกรรมวิบากที่ได้ก่อไว้โดยไม่รู้ตัว
นิศาชลถึงรู้ว่าคาดคั้นไปก็ไม่มีประโยชน์จำยอมปล่อยไปตามเรื่องของกรรม เขาช่วยเธอมาตลอด ครั้งนี้
ถ้าไม่มีเขาป่านนี้เธอคงป่นปี้ไม่มีชิ้นดีแต่พอคิดอะไรได้ก็ถามขึ้นอีก
“คุณต้นกับมาดามชานเข้าไปช่วยวิวได้อย่างไร”
“ไม่ยากนี่ คุณวิวบอกเองว่าผมมีความสามารถพิเศษ ผมก็ใช้มันให้เป็นประโยชน์ เลยรู้ว่ายังมีทางเข้า
ห้องลับอีกอยู่อีกห้องแต่เจ้าของร้านไม่ยอมเผยให้ใครรู้ นายก้องเกียรติเองก็ไม่รู้ ผมขู่เจ้าของร้านว่า ถ้าไม่ให้เรา
เข้าไปซ่อนตัวในห้อง เรื่องซุกซ่อนอีหนูไว้ที่ร้านจะไม่เป็นความลับต่อไป ผู้ชายเจ้าชู้ทุกคนเกียเมียกันทั้งนั้น
ผมถึงช่วยคุณได้แ
เพลงใบไม้
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 ธ.ค. 2558, 17:11:41 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 ม.ค. 2559, 14:19:06 น.
จำนวนการเข้าชม : 1122
<< ตอนที่ 21 |
ผักหวาน 17 ก.พ. 2559, 12:06:02 น.
แม่กับน้องของหนูวิวจะเป็นไงต่อไปน๊า
แม่กับน้องของหนูวิวจะเป็นไงต่อไปน๊า
sunflower 12 เม.ย. 2559, 07:37:46 น.
รออยู่นะคะ
รออยู่นะคะ