ดวงจิตสื่อรัก
Tags: ไม่ใช่แนวตบจูบเป็นเรื่องที่แต่งจากประสบการณ์เรื่องจิตวิญญาณ
ตอน: ตอนที่ 21
ตอนที่ 21
“มาเยี่ยมอามตอนนี้ไม่สายไปเหรอ” ศวิตาจงใจประชดกีรกันตาแถมเอ่ยถึงอมรินทร์อย่างสนิทสนม
เหมือนต้องการให้อีกฝ่ายรู้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับอมรินทร์ได้เปลี่ยนไปแล้ว กีรกันตามองหน้าอีกฝ่าย
แล้วยิ้มบางๆที่มุมปาก
“ไม่มีอะไรสายหรอกค่ะ สำหรับคนสองคนที่รู้ใจกัน เข้าใจกันเป็นอย่างดี ต่อให้ไม่มาเยี่ยมเลย พี่อาม
ก็เข้าใจค่ะ แต่ฉันแปลกใจนะ ไม่เบื่อเหรอคะ มาคอยเฝ้าคนรักของคนอื่น” กีรกันตาแกล้งตีหน้าซื่อถามไปตรงๆ
ศวิตาแทบกรี๊ดกับถ้อยคำเหน็บแนมนั้น เมื่อวานเธอเป็นผู้กำชัย วันนี้ดูเหมือนจะเป็นรอง ดวงตาสวย
คมราวกับมีกองเพลิงลุกไหม้พร้อมจะเผาอีกฝ่ายเป็นจุลก็ว่าได้ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะเบาๆ
อย่างอารมณ์ดี
“ถามมาได้ ก็สงสารอามนะสิ เจ็บเจียนตายยังไม่มีใครอยู่ดูแล แม้แต่คนที่อ้างตัวว่าเป็นคนรู้ใจยัง
ไม่มาดูดำดูดี สงสัยเป็นพวกชอบโมเมเอาเอง เห็นเขาทำดีกับตัวเองหน่อยก็หลงเข้าใจผิดคิดว่าเขารักเขาหลง
ช่างน่าสงสารจริงๆ อามเป็นสุภาพบุรุษ ต่อให้รู้สึกรำคาญจนอยากสลัดทิ้งก็ไม่กล้าบอกเพราะเกรงใจ อามบอก
เอง ฉันสงสารอามมากเลยต้องบอกให้เธอรู้ จะได้ไปช่วยเตือนผู้หญิงคนนั้นด้วย ให้เลิกหวังลมๆแล้งๆเสียที”
ศวิตาจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างท้าทาย เธอไม่เคยแคร์ว่าผู้ชายที่เธอชอบจะมีเจ้าของหรือไม่ ขอเพียงพอใจ เธอก็จะ
แย่งมาครอบครองให้ได้
กีรกันตามองตอบด้วยสายตาอ่านไม่ออก เอาเถอะจะสงเคราะห์ผู้หญิงหน้าด้านไร้ยางสักหน่อย
อยากรู้เหมือนกัน พี่อามมีใจให้ยัยจุงโก๊ะนี่หรือไม่สนอย่างปากว่า
“ไว้จะบอกให้ ถ้าเธออยากดูแลคนเจ็บก็เชิญตามสบายนะ เบื่อเมื่อไหร่ค่อยกลับก็ได้ ฉันไม่ว่าหรอก
ทุกคนมีสิทธิ์จะมอบความรักให้ใครก็ได้ ส่วนจะสมหวังหรือไม่ ก็แล้วแต่บุญวาสนา” กีรกันตายกหน้าที่ดูแลคน
เจ็บให้คู่อริหน้าตาเฉยส่วนตัวเองก็เดินไปนั่งบนโซฟาตัวยาวคล้ายเตียงแล้วหยิบนิตยสารมาอ่านเล่น
ศวิตางง มีอาการงงเล็กน้อยเมื่อเห็นกีรกันตาทำเป็นสนใจ สักพักเธอยักไหล่อย่างไม่แคร์ ‘เชอะ! ทำเป็น
ใจกว้าง เดี๋ยวเธอจะได้รู้ คนอย่างศวิตาร้ายแค่ไหน’ เธอเดินไปที่เตียงแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย นิ้วเรียวสวยสัมผัส
ไปทั่วใบหน้าคนเจ็บเบาๆ
“โถ อามช่างน่าสงสารนัก ดูสิ...เจ็บขนาดนี้ยังไม่เห็นคนรู้ใจจะสนใจ เห็นมั้ยคะนั่งอ่านหนังสือเล่นเฉย
โยนหน้าที่นี้ให้จุงทำแทน จุงไม่เข้าใจจริงๆค่ะ” ศวิตาจงใจพูดดังๆให้กีรกันตาได้ยินแล้วทนไม่ไหวลุกมาอาละ
วาด ส่วนเธอจะเล่นบทนางเอกถูกรังแก เพื่อให้อมรินทร์เห็นใจ เธอเชื่อเขาต้องรู้สึกตัวแน่ เธออยากให้เขาเห็น
แต่ผิดคาดเพราะอีกฝ่ายยังคงสนใจอ่านนิตยสารในมือไม่คิดสนใจสิ่งแวดล้อมรอบตัว เห็นแล้วให้ชวนกรี๊ดนัก
‘ให้มันรู้ไปว่าฉันจะยั่วเธอให้ปรี๊ดแตกไม่ได้’
กีรกันตาลอบยิ้มที่ทำให้ศวิตากระอักแทบตาย ‘คิดว่าร้ายได้คนเดียวเหรอ ฉันก็ทำได้วันนี้เธอจะได้
เห็นความร้ายกาจของฉันยัยจุงโก๊ะ’ เธอสวมบทนางร้ายได้สมบทบาท กับผู้หญิงอย่างศวิตาต้องเจอแบบนี้
บ้าง จะได้ไม่เที่ยวระรานแย่งของรักของหวงใครไปทั่ว เธอคิดอย่างสะใจ แต่ก็สะได้ไม่ทันข้ามนาทีเมื่อได้ยิน
เสียงอมรินทร์ดังขึ้นในใจเธอ
‘ ข้าว ยังไม่ต้องไปสะใจคนอื่น รีบๆช่วยพี่ก่อนดีกว่า พี่ยังไม่อยากถูกผู้หญิงลวนลาม’ เขารีบขอความ
ช่วยเหลือ กีรกันตายิ้มขำ
‘พี่อาม เจ็บจนเพี้ยนเหรอไงถึงกลัวผู้หญิงปล้ำ ไม่ต้องมาแสร้งทำเป็นกลัวยัยจุงโก๊ะลวนลาม คงดีใจจน
เนื้อเต้นละไม่ว่า’ เธอโต้เขาในใจ และยังคงทำเป็นทองไม่รู้ร้อน
‘พูดอย่างนี้หมายความว่า อนุญาตให้สาวอื่นปล้ำพี่ได้ ไม่แน่นะพี่อาจติดใจจนนึกชอบสาวสวยมากประสบ
การณ์ก็ได้’ คราวนี้ดูเหมือนเขาไม่ต้องการตัวช่วยแล้ว หากตัวช่วยเริ่มทนไม่ไหว ส่งสายตาเขียวปั๊ดไปยังร่าง
สูงใหญ่บนเตียงพร้อมเสียงขู่ในใจ
‘กล้าก็ลองดู แล้วไม่ต้องมาเจอข้าวอีก ข้าวจะไปหาคนที่มีจิตใจมั่นคงหนักแน่น ไม่หวั่นไหวไปกับ
เล่ห์มารยาของสาวอื่นง่ายๆ’
‘แน่นะ จะคอยดู’ เขาท้าแล้วเงียบไป
กีรกันตายังคงทำเป็นสนใจอ่านนิตยสารในมือต่อขณะที่หูนั้นตั้งใจฟังตลอด อยากรู้ศวิตาจะทำอย่างไร
“อามนี่ยิ่งมองยิ่งชวนหลงใหล นี่ขนาดเจ็บหนักนะยังหล่อดูมีเสน่ห์เลย อย่าว่าจุงนะคะ ถ้าจุงจะบอกรัก
ให้อามรู้” ศวิตาจงใจพูดยั่วกีรกันตาให้คลั่งจนคุมอารมณ์ไม่อยู่เมื่อนั้นคงสนุกแน่ เธอก้มหน้าลงไปใกล้ใบหน้า
คนเจ็บบนเตียงทำท่าจะขโมยจูบคนหลับและแล้วเสียงร้องอุทานอย่างตกใจของกีรกันตาก็ขัดขึ้นเสียก่อน
“ตายแล้ว! ลืมปลุกพี่อามให้ตื่นได้เวลาหมอมาเยี่ยมแล้ว”
ศวิตามองหน้าอีกฝ่ายที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อย่างแค้นจัดเพราะกีรกันตาไม่อาละวาดแต่กลับมายืนมองเธอ
อยู่อีกฝากของเตียง ช่างร้ายเดียงสานัก แถมยังยิ้มเจื่อนๆให้เธออีกและแสร้งทำเป็นมีมารยาท “อุ๊ย! ขอโทษค่ะ
ลืมไป ไม่น่ามาขัดจังหวะคุณจุงเลยนะคะ แต่ทำไงได้คะ ข้าวต้องทำตามหมอสั่ง ไม่อย่างนั้นพี่อามไม่หายแน่”
ศวิตาจ้องหน้าคนร้ายเดียงสาแทบอยากจับมาเคี้ยวกินเล่น
“ฝากไว้ก่อนเถอะ คอยดูฉันเอาคืนเธอแน่” เธอกล่าวอาฆาตก่อนคว้ากระเป๋าเดินสะบัดไปที่ประตู
พอเปิดประตูก็พบหมอกับพยาบาลเข้ามาจริงๆ
“อ้าว! คุณจุงจะรีบไปไหนคะ” เสียงพยาบาลทักขึ้นเพราะเธอเข้าใจว่าศวิตาต้องอยู่เฝ้าอมรินทร์จน
ดึกเหมือนเมื่อคืน ศวิตาได้ทีคิดแผนเอาคืนกีรกันตาทันที เธอจึงตีหน้าเศร้า เสียงเศร้า อย่างน่าสงสาร
“จุงคงไม่จำเป็นต้องเฝ้าอามอีกแล้วค่ะ..คือ...เอ่อ...หมออมรินทร์ เพราะ...มีคนยินดีทำหน้าที่นี้แทน
จุงขอตัวก่อนนะคะ” ทั้งหมอและพยาบาลต่างไม่เข้าใจทำไมเธอถึงได้ดูเศร้านักแต่พอมองไปที่เตียงก็เข้าใจ
เมื่อเห็นสาวสวยน่ารักอีกคนยืนอยู่ข้างเตียงเฝ้าคนเจ็บอยู่ คนเรามักชอบตัดสินคนอื่นตามความเข้าใจของ
ตัวเองจากสิ่งที่เห็นหรือได้ยินซึ่งบางครั้งอาจไม่ใช่ตามนั้นก็ได้ คงเหมือนพยาบาลสาวที่สงสารศวิตาและอยาก
พูดปลอบเธอแต่ไม่ทันเพราะเธอไปแล้ว
กีรกันตาเห็นพยาบาลมองหน้าเธอแล้วทำหน้าแปลกๆ ก่อนจะยิ้มให้คนเจ็บและหันไปพูดกับคนเจ็บ
“อาการหมอดูดีขึ้นมาก สงสัยจะได้กำลังใจดี ไม่ทราบว่าคุณจุงไปไหนคะ“ พยาบาลแกล้งโง่ถาม
เวลานี้กีรกันตากลายเป็นนางร้ายในสายตาของพยาบาลผู้รักความเป็นธรรมไปแล้วโดยที่นางร้ายจำเป็นไม่รู้ตัว
สักนิดว่าถูกยัดเยียดบทให้
“นั่นสิ ผมก็ว่าอย่างนั้น ผมอิจฉาหมออามจริงๆ นอนเจ็บอยู่โรงพยาบาลแท้ๆยังมีสาวสวยมากมาย
มาเยี่ยมไม่ขาด หมอมีเคล็ดลับดีๆช่วยบอกผมที เผื่อจะได้เอาไปใช้กับคนที่บ้านบ้าง” หมอเจ้าของไข้พลอยผสม
โรงไปด้วย
อมรินทร์ปรายตามองกีรกันตาที่ทำทีเป็นไม่สนใจ เห็นทีเขาต้องรับศึกหนักอีกรอบแน่เพราะคำหยอก
ของเพื่อนร่วมอาชีพ
“หมอพูดเกินไป คนไทยเป็นคนมีน้ำใจครับ คนรู้จักกันเจ็บก็มาเยี่ยมเป็นธรรมดา ว่าแต่หมออนุญาตให้
ผมกลับได้หรือยัง ผมไม่อยากอยู่โรงพยาบาลนาน เป็นห่วงคนไข้” อมรินทร์รีบเปลี่ยนเรื่องทันที ไม่อยากให้
กีรกันตาสนใจเรื่องสาวๆที่มาเยี่ยมมากนัก ทั้งที่มีแค่สามคนเท่านั้นคือนิศาชล ศวิตา กับเธอเท่านนั้น
หมอและพยาบาลมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมายเมื่อเจอคำถามของจิตแพทย์หนุ่ม
“ผมขอตอบในฐานะแพทย์เจ้าของไข้ ว่ายังไม่อนุญาตให้หมอกลับ เพิ่งออกจากห้องผ่าตัดได้ไม่ทันไร
คิดกลับแล้ว ผมปล่อยคนไข้ไปแบบนี้ไม่ได้ ผมจะให้กลับได้ก็ต่อเมื่อผมมั่นใจว่าคนไข้สามารถกลับไปพักรักษาตัว
ที่บ้านได้” คราวนี้คนเป็นหมอมีน้ำเสียงจริงจัง ทำหน้าที่หมอเจ้าของไข้เต็มที่
“ให้กลับเถอะค่ะคุณหมอ อยู่ต่อไปก็ไม่ช่วยให้อาการหมออามดีขึ้นกว่านี้หรอก หมอไม่เคยได้ยิน
เหรอคะ รักษาคนป่วยทางจิตยากยิ่งกว่าทางกายอีก ถ้าจิตใจผ่องใสสุขสบายอาการเจ็บป่วยจะหายเร็วขึ้น
หมออามคงเบื่อทานยาค่ะ” กีรกันตาพูดแทรกขึ้นเฉย ทั้งหมอและพยาบาลแปลกใจหันไปมองหน้าเธอพร้อม
กันต่างพากันสงสัยว่าสาวสวยน่ารักคนนี้เป็นใคร ดูจะสนิทสนมกับอมรินทร์ หรือว่าเป็นมือที่สามระหว่าง
อมรินทร์กับศวิตาจริงๆ
“ขอโทษครับ คุณเป็นอะไรกับหมออมรินทร์” หมอเจ้าของไข้ถามตรงๆ กีรกันตานิ่ง ไม่รู้จะตอบอย่าง
ไรเธอเพิ่งรู้ตัว ยุ่งไปหน่อยเพราะอยากช่วยเขาและไม่แน่ใจว่าอมรินทร์อยู่ที่นี่ต่อไปจะปลอดภัยหรือไม่
“เธอจะเป็นใครไม่สำคัญหรอกครับ ขอเพียงหมออนุญาตให้ผมกลับตามที่เธอบอกก็พอ เธอพูดถูก
ให้ผมกลับไปรักษาตัวที่บ้านจะดีกว่าอยู่ที่นี่ เชื่อผมเถอะครับหมอ” อมรินทร์จบคำพูดด้วยการจ้องหน้าเพื่อน
ร่วมอาชีพ
“ตามใจหมอก็แล้วกัน แต่หมอจะมาโทษผมไม่ได้นะถ้าอาการทรุด” หมอเจ้าของไข้ไม่รู้ว่าอนุญาต
ให้เขากลับไปรักษาตัวที่บ้านได้อย่างไรกัน ทั้งที่ใจยังค้าน หากกีรกันตารู้ว่าอีกฝ่ายถูกมนต์สะกดของจิตแพทย์
เจ้าเล่ห์เข้าให้แล้ว
“คุณหมอ พูดผิดหรือเปล่าคะ อาการหมออามยังให้กลับไม่ได้นะคะ” พยาบาลสาวท้วงขึ้น
“คุณเป็นหมอหรือถึงได้รู้ดีกว่าผม ไปจัดการตามที่ผมบอก เดี๋ยวผมจะเขียนใบสั่งยาให้ ผมไปก่อนครับ
หมออาม” พยาบาลทำหน้ามึนงงกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของหมอเจ้าของไข้แต่จำยอมทำตามคำสั่งเพราะเธอเป็น
แค่พยาบาล
“พี่อามร้ายนักนะไปสะกดจิตคุณหมอ แล้วจะกลับวันนี้จริงอะ” กีรกันตาไม่ค่อยอยากเชื่อนัก คงไม่มี
ใครบ้าพอออกจากโรงพยาบาลทั้งที่อาการยังหนัก
“จริง พี่อยากให้ข้าวไปดูแลพี่ที่คอนโดมากกว่า อยู่ที่นี่เสี่ยงเกินไป ไม่ตายเพราะถูกวางยาก็ตายเพราะ
อดตายก่อนมั้ง” ทั้งที่เป็นเรื่องร้ายแรงถึงชีวิตแต่เขากลับพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“พี่อามหมายความว่า...” เธอถามอย่างตกใจ
“ใช่ข้าวเข้าใจถูกต้อง ไม่ต้องตกใจไปหรอก ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถึงอย่างไรพวกนั้นก็ทำอะไรพี่ไม่ได้ ข้าวช่วย
พี่เอาสายน้ำเกลือออกทีแล้วเราไปกันเลย ขืนชักช้าจะไม่ทันการ” กีรกันตารีบทำตาม พาเขาออกจากโรงพยา
บาลและไม่ลืมจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้เขา หลังอมรินทร์ออกจากโรงพยาบาลแล้วหมอเจ้าของไข้ถึงรู้ตัวว่า
ได้ทำอะไรลงไปโดยไม่รู้ตัวเพราะถูกจิตแพทย์คนดังสะกดจิตเข้าให้แล้ว
=====================================================================
นักข่าวสาวเฝ้าติดตามก้องเกียรติกับกุมภามาตลอด คืนนี้ก็เช่นกันในร้านอาหารจีน พวกเขาจองห้อง
ส่วนตัวไว้ เธอใช้เส้นเล็กน้อยในการสมัครเป็นเด็กเสริฟเพื่อจะได้สืบเรื่องราวได้ง่ายขึ้น
“คืนนี้พี่สาวอั้มจะมาแน่นะ อย่าให้พลาดเหมือนคราวที่แล้วล่ะ ครั้งนี้ต้องทำให้ปีเตอร์สมหวังให้ได้
ป่านนี้แล้วยังไม่มาอีก” ก้องกียรติมีท่าทางหงุดหงิดที่ยังไม่เห็นว่านิศาชลจะมา
“ใจเย็นๆสิฮะคุณก้อง แม่โทรมาบอกว่าใกล้ถึงแล้ว คงถึงพร้อมๆกับคุณปีเตอร์” ทันทีที่กุมภาพูดจบ
ก้องเกียรติก็ยิ้มออกเมื่อเห็นปีเตอร์เปิดประตูเข้ามาในห้องคนเดียว เขารีบเชิญให้นั่ง
“ผมคิดว่าคุณจะมาไม่ถูกเสียอีกคุณปีเตอร์ คุณวิวกำลังจะมาถึงแล้วด้วย คืนนี้คุณได้เข้าหอกับเธอแน่”
“ขอให้เป็นอย่างที่พูดเถอะ อย่าให้มีใครมาขัดจังหวะเหมือนที่พัทยาอีก นึกแล้วยังเจ็บใจไม่หาย
ใครเป็นคนโทรไปบอกเมียผม อยากรู้นัก” ปีเตอร์ยังแค้นไม่หายที่ภรรยามาขวาง ไม่อย่างนั้นเขาได้เชยชม
นิศาชลไปนานแล้ว
“จะใครก็ช่างเถอะฮะคุณปีเตอร์ คืนนี้คุณได้อำลาเมืองไทยอย่างมีความสุขก่อนกลับแน่ รับรองไม่มี
พลาด” กุมภาให้ความมั่นใจ
ปีเตอร์ยิ้มพอใจพลางยกแก้วเหล้ากระดกเข้าปากนัยน์ตาเป็นประกายรอเหยื่อสาวสวยมาเข้าหอ พวกเขา
ทั้งสามไม่รู้ว่าคำพูดทั้งหมดกำลังถูกบันทึกไว้เป็นหลักฐานโดยฝีมือนักข่าวสาวที่ปะปนมากับเด็กเสริฟในห้อง
นิศาชลเข้ามาในร้านอาหารพร้อมมารดา สายตาคู่สวยมองสำรวจไปทั่วเพื่อหาปฏิภาณ พอเห็นเขานั่ง
ทานอาหารอยู่กับมาดามชานก็สบายใจ เธอไม่ค่อยสบายใจนักที่ตัดสินใจทำตามมารดา อรสาขมวดคิ้วเข้าหา
กันเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทีลุกลี้ลุกลนชอบกลของบุตรสาวแต่ก็ไม่ว่าอะไรจนกระทั่งเข้าไปในห้องส่วนตัวที่จองไว้
กุมภากับก้องเกียรติมองหน้ากันก่อนยิ้มให้ผู้มาใหม่แต่ช้ากว่าปีเตอร์ที่เดินเข้าไปหานิศาชล ทำท่าจะจูง
มือเรียวสวยไปนั่งข้างกาย แต่เธอกลับเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามแทนสร้างความไม่พอใจให้อรสาเป็นอันมาก ยิ่งเห็น
ปีเตอร์หน้าเสียกับอาการไม่พอใจของก้องเกียรติและลูกชายสุดที่รักยิ่งให้หงุดหงิด
“วิว แม่ว่า ลูกไปนั่งข้างคุณก้องเกียรติดีกว่า อะไรกันเป็นผัวเมียกันแท้ๆ นั่งเสียห่าง” อรสาตำหนิ
บุตรสาวตรงๆ
ก้องเกียรติกับกุมภารู้สึกพอใจที่อรสาช่วยแก้สถานการณ์ แถมยังเรียกรอยยิ้มพอใจให้กับปีเตอร์ได้ด้วย
เพราะที่นั่งฝั่งขวาของก้องเกียรติถูกกุมภาจับจองไว้แล้วจึงเหลือที่ว่างด้านซ้ายซึ่งพวกเขาจงใจเว้นไว้ที่หนึ่งและ
ที่ถัดมาเป็นที่นั่งของปีเตอร์ขณะที่อรสาตัดสินใจนั่งข้างกุมภา
นิศาชลจำต้องเปลี่ยนที่นั่ง ดวงตาคู่สวยมีแววน้อยใจและผิดหวังกับคำพูดของมารดา สงสัยว่าอรสา
ยังเห็นเธอเป็นลูกอยู่หรือเปล่า การกระทำในครั้งนี้เหมือนต้องการประเคนเธอให้กับปีเตอร์ หรือเพียงเพื่อต้อง
การเห็นลูกสาวคนนี้ถูกย่ำยีจะได้สาแก่ใจ ลำพังแค่บังคับให้แต่งงานบังหน้าเพื่อให้น้องชายเสวยสุขยังไม่พออีก
ทำไมเธอต้องมีแม่แบบนี้ด้วย เธอมัวแต่คิดน้อยใจและผิดหวังในตัวมารดาจึงเป็นโอกาสให้มือของปีเตอร์มาวาง
บนต้นขาเรียวสวยแต่พอมือใหญ่เริ่มขยับ ใบหน้าสวยก็หันมามองอย่างเอาเรื่องและส่งเสียงแว้ดออกไปทันที
“ทำอะไร! คุณปีเตอร์” ตอนนี้เธอเหมือนแม่เสือร้ายที่พร้อมจะสู้เพื่อปกป้องสวัสดิภาพของตัวเอง
ปีเตอร์ยิ้ม ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“เปล่านี่คุณวิว ไม่คิดว่าผู้หญิงไทยสวยๆจะเป็นโรคหวาดระแวง คุณก้องเกียรติ เมียคุณเป็นโรคนี้ด้วย
เหรอ ถ้าเป็นคุณต้องระวังตัวหน่อยนะ แต่งงานแล้วยังหวงตัวอีก” ปีเตอร์พูดได้ไม่อายปาก
นักข่าวสาวในคราบเด็กเสริฟที่เฝ้าดูเหตุการณ์ ขมวดคิ้วและคิดทบทวนเรื่องที่ก้องเกียรติกับกุมภา
พูดคุยกันที่ร้านอาหารในพัทยาแล้วพอจะปะติดปะต่อเรื่องได้ นายคนนี้เลวสิ้นดี ยัยแม่ก็อีกคน น่าสงสาร
ผู้หญิงคนนี้จัง แต่ท่าทางจะไม่ยอมง่ายๆ ดูต่อดีกว่า อยากรู้ว่าเรื่องจะจบลงอย่างไร
“นั่นสิ วิว แม่ไม่เห็นคุณปีเตอร์จะทำอะไรวิวเลย ร้องเสียตกอกตกใจไปได้ เสียมารยาท” อรสาต่อว่า
บุตรสาวตามเคย นิศาชลมองหน้ามารดาราวกับต้องการมองให้ลึกเข้าไปในจิตวิญญาณของคนเป็นแม่ หาก
เป็นกุมภา ท่านคงไม่ลังเลที่จะลุกขึ้นมาปกป้อง แต่เป็นเธอ ท่านจึงเห็นคนอื่นดีกว่าเสมอ เสียเวลาที่จะไขว่คว้า
หาความรักจากแม่อย่างอรสาที่ไม่เคยเปิดใจให้ความยุติธรรมกับหัวใจรักอันบริสุทธิ์ของคำว่าแม่เข้าไปในหัวใจ
ได้เลย ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะแทนคุณ หลังจากคืนนี้ไปเธอจะขอทำตามสิ่งที่ใจเรียกร้องมานานเสียที
“ค่ะ วิวเสียมารยาทไปหน่อย แต่บางครั้งก็ต้องยอมเสียมารยาทบ้างเพื่อป้องกันตัวเอง ยิ่งวิวเป็นหญิง
ยิ่งต้องระวังตัวให้มากเวลาอยู่ท่ามกลางผู้ชายใจคดคิดใช้ผู้หญิงเป็นเครื่องมือเพื่อสนองตัณหาตัวเอง จริงมั้ยคะ
คุณก้องเกียรติ” ดวงตาคู่สวยจ้องมองสามีในนามอย่างท้าทาย ก้องเกียรติมองตอบด้วยสีหน้าไม่พอใจที่ถูกด่าว่า
ตรงๆจากหญิงสาวที่คิดว่าไร้พิษสงในตอนแรก
“คุณก้องเกียรติ เมียคุณนี่ร้ายจริงๆ ผมแค่ล้อเล่นหน่อยเดียว ทำเป็นจริงจังไปได้” ปีเตอร์ตีหน้าเซ่อ
ทำเหมือนไม่รู้ว่าตัวเองก็ถูกด่าด้วย
“ผมก็ว่าอย่างนั้น อารมณ์ผู้หญิงเอาแน่เอานอนไม่ได้ คุณปีเตอร์อย่าถือสาเลยครับ ผมชินเสียแล้ว”
ก้องเกียรติพูดเหมือนสามีทั่วไปที่ต้องทนกับนิสัยแย่ๆของภรรยา ทั้งที่ชิงชังนิศาชลจะแย่
“คุณก้องเกียรติทำไมว่าเมียคุณอย่างนั้น ดูสิ คุณวิวโกรธแล้ว ผมว่าคุณวิวดื่มน้ำดับโมโหก่อนดีกว่า
นะครับ น้องขอน้ำมะเขือเทศให้คุณผู้หญิงแก้วหนึ่ง” ปีเตอร์หันไปบอกเด็กเสริฟและขยิบตาให้เด็กสาวรีบหยิบ
น้ำมะเขือเทศที่เตรียมไว้มาเสริฟ แต่ไม่อาจรอดพ้นสายตาของนักข่าวสาวในคราบเด็กเสริฟไปได้และคิดว่าน้ำมะ
เขือเทศแก้วนั้นต้องมีปัญหาแน่ ถ้าจำเป็นอาจต้องช่วยแต่เธอก็ไม่ทันได้ช่วยเพราะมีคนเดินเข้ามาเรียกเธออก
ไปก่อนบอกว่ามีเรื่องด่วน จังหวะเดียวกันที่ก้องเกียรติสะกิดมือกุมภาเขาจึงหันไปพูดกับมารดา
“แม่ฮะ อั้มมีอะไรจะให้แม่ดู แม่ตามอั้มมาดูแล้วแม่จะชอบ”
“จริงหรืออั้ม มีอะไรมาเซอร์ไพร้สแม่อีก ไปลูกไปดูกัน” อรสาดูดีใจมาก อะไรที่ลูกรักให้นางจะยินดีปรีดา
ทุกครั้ง นี่คือสิ่งที่นิศาชลไม่เคยได้รับจากคนเป็นแม่ เธอทั้งน้อยใจและแค้นใจที่ความดีของเธอไม่เคยชนะใจ
มารดาได้เลย นึกแล้วอยากทำอะไรให้สะใจสักครั้ง
“เดี๋ยวอั้ม ยังไม่ต้องพาแม่ไปไหนทั้งนั้น” นิศาชลห้ามเสียงเฉียบขาด กุมภากับทุกคนมองหน้ากัน
ต่างคนต่างสงสัยว่าเธอจะมาไม้ไหนกันแน่ ขณะที่อรสามีสีหน้าไม่พอใจ
“วิว จะมากไปแล้วนะ แสดงกิริยาก้าวร้าวแบบนี้ น้องเขามีของจะให้แม่ แกก็คิดขวาง อิจฉาน้องไม่เลิก
รา ไปอั้มไม่ต้องสนใจลูก” อรสาปกป้องลูกรักเต็มที่
กุมภาลอบยิ้มอย่างสะใจ พี่สาวคนเก่ง ต้องเจอแบบนี้ ต่อให้นิศาชลเก่งแค่ไหนก็ไม่กล้ากับมารดา
หากเขาคิดผิดเพราะเวลานี้ความคิดแทนคุณมารดาที่อุ้มท้องให้ชีวิตมานั้นได้ถึงจุดสิ้นสุดลงแล้ว นิศาชลอดทน
และเจ็บปวดกับความลำเอียงของมารดามานาน เธอจึงไม่คิดจะทนต่อไป เธอทำเพื่อมารดากับน้องชายมา
มากพอแล้ว ถึงเวลาที่จะดูน้ำใจของคนเป็นแม่เสียที หากรู้ว่าลูกสาวถูกย่ำยีจะรู้สึกอย่างไร นิศาชลต้องการทำ
อะไรก็ได้เพื่อประชดมารดา เธอหยิบแก้วน้ำมะเขือเทศขึ้นมาแล้วชูให้อรสากับทุกคนดู
“วิวก้าวร้าวเหรอคะ ได้ค่ะ วิวจะก้าวร้าวให้แม่เห็น แม่รู้มั้ยคะ ทำไมลูกเขยคนดีกับลูกรักของแม่ถึงต้อง
การให้วิวคอยเทคแคร์นายปีเตอร์ตลอดเวลาที่อยู่เมืองไทย เหตุผลก็เพราะอยากส่งวิวไปเป็นของขวัญแลกกับ
การเซ็นสัญญาธุรกิจตัวใหม่ เพิ่งรู้นะคะว่าร้านอาหารจีนก็มีน้ำมะเขือเทศด้วย หรือเตรียมไว้ให้วิวโดยเฉพาะ
คงเห็นว่าวิวชอบ ไม่ต้องตกใจค่ะ คุณปีเตอร์ คุณก้องเกียรติสามีที่รักของน้องชายวิว พวกคุณจะได้สมหวัง
วิวจะดื่ม จากนั้นจะทำอะไรก็เชิญ แม่อยากอยู่ดูต่อก็ได้นะคะ จะได้รู้ว่าตัวเองมีส่วนช่วยย่ำยีวิวมั้ย” พูดจบก็
ยกแก้วน้ำมะเขือเทศขึ้นดื่มจนหมด
ปีเตอร์มองหน้าก้องเกียรติกับกุมภาอย่างไม่เข้าใจ นิศาชลเหมือนคนบ้าไปแล้วแต่ก็ดีเขาจะได้สมหวัง
ขณะที่อรสาเริ่มสับสน นางผิดอะไรทำไมนิศาชลถึงได้กล่าวร้ายนางอย่างเจ็บแค้นนัก ก็แค่ให้มาดูแลต้อนรับ
ปีเตอร์ก่อนกลับประเทศ ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน ลูกชายกับลูกเขยก็อยู่ จะคิดร้ายอะไร สักพักนางก็หน้าซีด
เมื่อเห็นนิศาชลล้มลงหมดสติไปโดยมีปีเตอร์รีบเข้าไปประคองตัว นางขยับตัวจะเข้าไปหาร่างไร้สติของบุตรสาว
ด้วยความเป็นห่วง เป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกห่วงบุตรสาว แต่ก้องเกียรติกลัวว่าแผนครั้งนี้จะพลาดจึงขยิบตาให้
กุมภาเข้าขวาง กุมภาจึงลุกขึ้นยืนขวางมารดาไว้
“แม่ฮะ พี่วิวคงเก็บกดอะไรสักอย่างเลยโมโหจนเป็นลม คุณปีเตอร์ห่วงพี่วิวมาก ปล่อยให้เขาดูแลดีกว่า
บางทีคุณก้องจะให้อิสระกับพี่วิวถ้าพี่วิวลงเอยกับคุณปีเตอร์ได้ อั้มขอโทษฮะที่ไม่ได้บอกแม่เรื่องนี้ พวกเราถาม
คุณปีเตอร์ตรงๆว่ารักพี่วิวจริงๆแน่นะ เขาบอกว่าจริง แต่พี่วิวนี่สิยังหลงคนอื่นอยู่ได้ เลยต้องใช้วิธีนี้เพราะถ้า
เป็นคุณปีเตอร์ อั้มกับคุณก้องจะอยู่ด้วยกันอย่างสุขสบายโดยที่พี่วิวยังคงเป็นเมียคุณก้องตามกฎหมายอยู่
และมีสามีตัวจริงเป็นคุณปีเตอร์ แม่ก็รู้นี่ฮะ พี่วิวนะดื้อ หัวแข็ง พูดกันดีๆไม่ได้ชอบให้บังคับ เลยให้คุณปีเตอร์รวบ
รัดเสีย อั้มเชื่อว่าเมื่อถึงเวลานั้นพี่วิวก็ต้องยอม เพราะที่ปรึกษารัฐมนตรีนั่นคงไม่คิดจะเอาผู้หญิงมีราคีมาเป็น
คนรักหรอกฮะ แม่เข้าใจอั้มนะฮะ อั้มไม่อยากใช้วิธีนี้แต่อั้มไม่มีทางเลือก คุณก้องคือทุกสิ่งทุกอย่างของอั้ม
อั้มกลัวว่าสักวันถ้าพี่วิวไม่ยอม ลุกขึ้นถอนทะเบียนกับคุณก้อง เมื่อนั้นอั้มจะอยู่กับคุณก้องไม่ได้อีกต่อไป
แม่จะว่าอั้มเห็นแก่ตัวก็ยอม แต่อั้มไม่อยากผิดหวังอีกแล้ว ถ้าไม่ได้ครองคู่กับคุณก้องอั้มยอมตายดีกว่าฮะแม่
แม่ยกโทษให้อั้มด้วยนะฮะที่ไม่บอกแม่”
กุมภาออดอ้อนมารดาเรียกร้องความเห็นใจด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย อรสาพอเห็นลูกรักทำท่าอมทุกข์ก็รีบ
เข้าไปกอดแล้วจำใจยินยอมให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่กุมภาต้องการ นางกลัวเสียลูกชายสุดที่รักไป แม้ในใจจะรู้
สึกผิดต่อนิศาชลก็ตาม แต่อย่างน้อยปีเตอร์ก็รักนิศาชลจริง นิศาชลอาจมีความสุขในภายหลังก็ได้
อรสาคิดอย่างผู้หญิงยุคก่อนที่ว่าพอตกเป็นของชายใดก็จำยอมรับเป็นสามีไปตลอดโดยลืมคิดไปว่า
ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ความคิด ค่านิยมก็เปลี่ยนตามไปด้วย
พอกุมภาหลอกล่ออรสาได้แล้ว ก้องเกียรติก็เดินไปเปิดประตูที่อยู่ติดผนังอีกด้านให้ปีเตอร์อุ้มนิศาชล
เข้าไปหาความสุขในห้องซึ่งไม่ใช่ห้องอาหารแต่เป็นห้องนอน เขารู้จักเจ้าของร้านนี้ดี และรู้ด้วยว่าเจ้าของร้าน
มีห้องลับในร้านอาหารไว้พักผ่อนกับภรรยาน้อยเพื่อหลบภรรยาหลวง คืนนี้เขาจ่ายให้อย่างงามเพื่อยืมห้อง
ชั่วคราว คนเราเพื่อเงินทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว
ปีเตอร์นำร่างไร้สติของนิศาชลวางลงบนเตียงจ้องมองร่างงามอย่างหื่นกระหาย คืนนี้เขาจะได้สมหวัง
เสียที สาวสวยที่หมายปองมานาน ยิ่งมองยิ่งสวย ขนาดมีเสื้อผ้าปกปิดยังสวยน่ารักน่าใคร่ ถ้าไม่มีจะสวยแค่
ไหน เขายื่นมือจะแกะกระดุมเสื้อและสิ่งกีดขวางออก แต่ก่อนที่นิ้วหื่นกระหายจะสัมผัสถูกตัวนิศาชล ตัวเขาก็
ถูกกระชากออกอย่างแรงจากด้านหลัง พร้อมหมัดหนักๆชกมาที่หน้าทันที กับน้ำเสียงโกรธแค้นดังขึ้น
“ไอ้ชาติชั่ว วันๆคิดแต่จะย่ำยีผู้หญิงไม่มีทางสู้ ขอเอาเลือดหื่นๆออกแทนมาดามชานทีเถอะ” พูดจบ
หมัดหนักๆก็ตรงดิ่งมาที่หน้าอีกครั้งและครั้งนี้หน้าปีเตอร์แตกยับ จ้องมองเจ้าของหมัดอย่างโกรธแค้น
“แกเป็นใคร บังอาจมาเสือกเรื่องชาวบ้าน” แม้จะเจ็บปีเตอร์ยังไม่กลัว
“ฉันเป็นใครไม่จำเป็นต้องรู้ แต่คนที่แกควรรู้ยืนอยู่ด้านหลังแล้ว หันไปดูสิ” เสียงตอบกลับในลักษณะ
เดียวกัน ปีเตอร์หันไปมองโดยอัตโนมัติและแล้วใบหน้าแตกยับมีเลือดกลบปากก็ซีดเมื่อเห็นมาดามชานยืนนิ่ง
จ้องมองเขาด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“ค..คุณมาได้ยังไง ก็คุณกลับฮ่องกงไปแล้วนี่” เขาถามเสียงหลง
“ฉันก็ไม่ได้บอกนี่ว่าจะไม่กลับมา เห็นทีคงถึงเวลาบอกว่าที่หุ้นส่วนคุณเสียทีว่าใครคือผู้มีอำนาจตัว
จริงจะได้เลิกคิดชั่วๆกับเมียตัวเองเสียที” พูดจบมาดามชานก็เปิดประตูเข้าไปในห้องที่ก้องเกียรติ กุมภา
และอรสานั่งรออยู่หวังจะช่วยปลอบบุตรสาวและเกลี้ยกล่อมหลังอะไรๆมันผ่านไปแล้ว..แต่..คนทั้งสามต้อง
ตกใจอย่างคาดไม่ถึงเมื่อประตูห้องถูกเปิดออก
******************* ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ต้องพักไปนาน ระวังตัวกันด้วยนะคะ หมอบอกระบาดหนักทั้งไข้หวัดใหญ่และ
ไข้เลือดออก รพไม่มีห้องให้คนไข้อยู่เลย ถ้าใครคิดว่าทานยาแล้วดีขึ้นต้องไปตามหมอนัดนะ เพราะบางรายที่สุขภาพ
แข็งแรงเชื้อมันจะแสดงอาการช้า ทานยาแล้วเหมือนหายแต่พอเชื้อมันฟักตัวได้ที่จะแสดงอาการถึงขั้นช็อก แล้วจะรักษา
ยาก คล้ายๆกับของปอ ที่ตอนแรกเหมือนหายแล้ว เลยไม่ได้เจาะเลือดตรวจอีกทีพอมาอีกทีก็หนักเลย ดังนั้นตอนนี้
เกือบทุกรพหมอจะให้คนไข้มาเจาะเลือดซ้ำหลังทานยาไปแล้วสองสามวัน เพราะอาการระยะฟักเชื้ออยู่ประมาณสี่วัน
ถ้าเกร็ดเลือดต่ำ เตรียมตัวอยู่รพได้เลย จากปสกของตัวเองที่หมออธิบายให้ฟังค่ะ แต่อย่าเป็นเลยดีที่สุด ทรมานมากมาย
ขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรงนะคะ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
“มาเยี่ยมอามตอนนี้ไม่สายไปเหรอ” ศวิตาจงใจประชดกีรกันตาแถมเอ่ยถึงอมรินทร์อย่างสนิทสนม
เหมือนต้องการให้อีกฝ่ายรู้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับอมรินทร์ได้เปลี่ยนไปแล้ว กีรกันตามองหน้าอีกฝ่าย
แล้วยิ้มบางๆที่มุมปาก
“ไม่มีอะไรสายหรอกค่ะ สำหรับคนสองคนที่รู้ใจกัน เข้าใจกันเป็นอย่างดี ต่อให้ไม่มาเยี่ยมเลย พี่อาม
ก็เข้าใจค่ะ แต่ฉันแปลกใจนะ ไม่เบื่อเหรอคะ มาคอยเฝ้าคนรักของคนอื่น” กีรกันตาแกล้งตีหน้าซื่อถามไปตรงๆ
ศวิตาแทบกรี๊ดกับถ้อยคำเหน็บแนมนั้น เมื่อวานเธอเป็นผู้กำชัย วันนี้ดูเหมือนจะเป็นรอง ดวงตาสวย
คมราวกับมีกองเพลิงลุกไหม้พร้อมจะเผาอีกฝ่ายเป็นจุลก็ว่าได้ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะเบาๆ
อย่างอารมณ์ดี
“ถามมาได้ ก็สงสารอามนะสิ เจ็บเจียนตายยังไม่มีใครอยู่ดูแล แม้แต่คนที่อ้างตัวว่าเป็นคนรู้ใจยัง
ไม่มาดูดำดูดี สงสัยเป็นพวกชอบโมเมเอาเอง เห็นเขาทำดีกับตัวเองหน่อยก็หลงเข้าใจผิดคิดว่าเขารักเขาหลง
ช่างน่าสงสารจริงๆ อามเป็นสุภาพบุรุษ ต่อให้รู้สึกรำคาญจนอยากสลัดทิ้งก็ไม่กล้าบอกเพราะเกรงใจ อามบอก
เอง ฉันสงสารอามมากเลยต้องบอกให้เธอรู้ จะได้ไปช่วยเตือนผู้หญิงคนนั้นด้วย ให้เลิกหวังลมๆแล้งๆเสียที”
ศวิตาจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างท้าทาย เธอไม่เคยแคร์ว่าผู้ชายที่เธอชอบจะมีเจ้าของหรือไม่ ขอเพียงพอใจ เธอก็จะ
แย่งมาครอบครองให้ได้
กีรกันตามองตอบด้วยสายตาอ่านไม่ออก เอาเถอะจะสงเคราะห์ผู้หญิงหน้าด้านไร้ยางสักหน่อย
อยากรู้เหมือนกัน พี่อามมีใจให้ยัยจุงโก๊ะนี่หรือไม่สนอย่างปากว่า
“ไว้จะบอกให้ ถ้าเธออยากดูแลคนเจ็บก็เชิญตามสบายนะ เบื่อเมื่อไหร่ค่อยกลับก็ได้ ฉันไม่ว่าหรอก
ทุกคนมีสิทธิ์จะมอบความรักให้ใครก็ได้ ส่วนจะสมหวังหรือไม่ ก็แล้วแต่บุญวาสนา” กีรกันตายกหน้าที่ดูแลคน
เจ็บให้คู่อริหน้าตาเฉยส่วนตัวเองก็เดินไปนั่งบนโซฟาตัวยาวคล้ายเตียงแล้วหยิบนิตยสารมาอ่านเล่น
ศวิตางง มีอาการงงเล็กน้อยเมื่อเห็นกีรกันตาทำเป็นสนใจ สักพักเธอยักไหล่อย่างไม่แคร์ ‘เชอะ! ทำเป็น
ใจกว้าง เดี๋ยวเธอจะได้รู้ คนอย่างศวิตาร้ายแค่ไหน’ เธอเดินไปที่เตียงแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย นิ้วเรียวสวยสัมผัส
ไปทั่วใบหน้าคนเจ็บเบาๆ
“โถ อามช่างน่าสงสารนัก ดูสิ...เจ็บขนาดนี้ยังไม่เห็นคนรู้ใจจะสนใจ เห็นมั้ยคะนั่งอ่านหนังสือเล่นเฉย
โยนหน้าที่นี้ให้จุงทำแทน จุงไม่เข้าใจจริงๆค่ะ” ศวิตาจงใจพูดดังๆให้กีรกันตาได้ยินแล้วทนไม่ไหวลุกมาอาละ
วาด ส่วนเธอจะเล่นบทนางเอกถูกรังแก เพื่อให้อมรินทร์เห็นใจ เธอเชื่อเขาต้องรู้สึกตัวแน่ เธออยากให้เขาเห็น
แต่ผิดคาดเพราะอีกฝ่ายยังคงสนใจอ่านนิตยสารในมือไม่คิดสนใจสิ่งแวดล้อมรอบตัว เห็นแล้วให้ชวนกรี๊ดนัก
‘ให้มันรู้ไปว่าฉันจะยั่วเธอให้ปรี๊ดแตกไม่ได้’
กีรกันตาลอบยิ้มที่ทำให้ศวิตากระอักแทบตาย ‘คิดว่าร้ายได้คนเดียวเหรอ ฉันก็ทำได้วันนี้เธอจะได้
เห็นความร้ายกาจของฉันยัยจุงโก๊ะ’ เธอสวมบทนางร้ายได้สมบทบาท กับผู้หญิงอย่างศวิตาต้องเจอแบบนี้
บ้าง จะได้ไม่เที่ยวระรานแย่งของรักของหวงใครไปทั่ว เธอคิดอย่างสะใจ แต่ก็สะได้ไม่ทันข้ามนาทีเมื่อได้ยิน
เสียงอมรินทร์ดังขึ้นในใจเธอ
‘ ข้าว ยังไม่ต้องไปสะใจคนอื่น รีบๆช่วยพี่ก่อนดีกว่า พี่ยังไม่อยากถูกผู้หญิงลวนลาม’ เขารีบขอความ
ช่วยเหลือ กีรกันตายิ้มขำ
‘พี่อาม เจ็บจนเพี้ยนเหรอไงถึงกลัวผู้หญิงปล้ำ ไม่ต้องมาแสร้งทำเป็นกลัวยัยจุงโก๊ะลวนลาม คงดีใจจน
เนื้อเต้นละไม่ว่า’ เธอโต้เขาในใจ และยังคงทำเป็นทองไม่รู้ร้อน
‘พูดอย่างนี้หมายความว่า อนุญาตให้สาวอื่นปล้ำพี่ได้ ไม่แน่นะพี่อาจติดใจจนนึกชอบสาวสวยมากประสบ
การณ์ก็ได้’ คราวนี้ดูเหมือนเขาไม่ต้องการตัวช่วยแล้ว หากตัวช่วยเริ่มทนไม่ไหว ส่งสายตาเขียวปั๊ดไปยังร่าง
สูงใหญ่บนเตียงพร้อมเสียงขู่ในใจ
‘กล้าก็ลองดู แล้วไม่ต้องมาเจอข้าวอีก ข้าวจะไปหาคนที่มีจิตใจมั่นคงหนักแน่น ไม่หวั่นไหวไปกับ
เล่ห์มารยาของสาวอื่นง่ายๆ’
‘แน่นะ จะคอยดู’ เขาท้าแล้วเงียบไป
กีรกันตายังคงทำเป็นสนใจอ่านนิตยสารในมือต่อขณะที่หูนั้นตั้งใจฟังตลอด อยากรู้ศวิตาจะทำอย่างไร
“อามนี่ยิ่งมองยิ่งชวนหลงใหล นี่ขนาดเจ็บหนักนะยังหล่อดูมีเสน่ห์เลย อย่าว่าจุงนะคะ ถ้าจุงจะบอกรัก
ให้อามรู้” ศวิตาจงใจพูดยั่วกีรกันตาให้คลั่งจนคุมอารมณ์ไม่อยู่เมื่อนั้นคงสนุกแน่ เธอก้มหน้าลงไปใกล้ใบหน้า
คนเจ็บบนเตียงทำท่าจะขโมยจูบคนหลับและแล้วเสียงร้องอุทานอย่างตกใจของกีรกันตาก็ขัดขึ้นเสียก่อน
“ตายแล้ว! ลืมปลุกพี่อามให้ตื่นได้เวลาหมอมาเยี่ยมแล้ว”
ศวิตามองหน้าอีกฝ่ายที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อย่างแค้นจัดเพราะกีรกันตาไม่อาละวาดแต่กลับมายืนมองเธอ
อยู่อีกฝากของเตียง ช่างร้ายเดียงสานัก แถมยังยิ้มเจื่อนๆให้เธออีกและแสร้งทำเป็นมีมารยาท “อุ๊ย! ขอโทษค่ะ
ลืมไป ไม่น่ามาขัดจังหวะคุณจุงเลยนะคะ แต่ทำไงได้คะ ข้าวต้องทำตามหมอสั่ง ไม่อย่างนั้นพี่อามไม่หายแน่”
ศวิตาจ้องหน้าคนร้ายเดียงสาแทบอยากจับมาเคี้ยวกินเล่น
“ฝากไว้ก่อนเถอะ คอยดูฉันเอาคืนเธอแน่” เธอกล่าวอาฆาตก่อนคว้ากระเป๋าเดินสะบัดไปที่ประตู
พอเปิดประตูก็พบหมอกับพยาบาลเข้ามาจริงๆ
“อ้าว! คุณจุงจะรีบไปไหนคะ” เสียงพยาบาลทักขึ้นเพราะเธอเข้าใจว่าศวิตาต้องอยู่เฝ้าอมรินทร์จน
ดึกเหมือนเมื่อคืน ศวิตาได้ทีคิดแผนเอาคืนกีรกันตาทันที เธอจึงตีหน้าเศร้า เสียงเศร้า อย่างน่าสงสาร
“จุงคงไม่จำเป็นต้องเฝ้าอามอีกแล้วค่ะ..คือ...เอ่อ...หมออมรินทร์ เพราะ...มีคนยินดีทำหน้าที่นี้แทน
จุงขอตัวก่อนนะคะ” ทั้งหมอและพยาบาลต่างไม่เข้าใจทำไมเธอถึงได้ดูเศร้านักแต่พอมองไปที่เตียงก็เข้าใจ
เมื่อเห็นสาวสวยน่ารักอีกคนยืนอยู่ข้างเตียงเฝ้าคนเจ็บอยู่ คนเรามักชอบตัดสินคนอื่นตามความเข้าใจของ
ตัวเองจากสิ่งที่เห็นหรือได้ยินซึ่งบางครั้งอาจไม่ใช่ตามนั้นก็ได้ คงเหมือนพยาบาลสาวที่สงสารศวิตาและอยาก
พูดปลอบเธอแต่ไม่ทันเพราะเธอไปแล้ว
กีรกันตาเห็นพยาบาลมองหน้าเธอแล้วทำหน้าแปลกๆ ก่อนจะยิ้มให้คนเจ็บและหันไปพูดกับคนเจ็บ
“อาการหมอดูดีขึ้นมาก สงสัยจะได้กำลังใจดี ไม่ทราบว่าคุณจุงไปไหนคะ“ พยาบาลแกล้งโง่ถาม
เวลานี้กีรกันตากลายเป็นนางร้ายในสายตาของพยาบาลผู้รักความเป็นธรรมไปแล้วโดยที่นางร้ายจำเป็นไม่รู้ตัว
สักนิดว่าถูกยัดเยียดบทให้
“นั่นสิ ผมก็ว่าอย่างนั้น ผมอิจฉาหมออามจริงๆ นอนเจ็บอยู่โรงพยาบาลแท้ๆยังมีสาวสวยมากมาย
มาเยี่ยมไม่ขาด หมอมีเคล็ดลับดีๆช่วยบอกผมที เผื่อจะได้เอาไปใช้กับคนที่บ้านบ้าง” หมอเจ้าของไข้พลอยผสม
โรงไปด้วย
อมรินทร์ปรายตามองกีรกันตาที่ทำทีเป็นไม่สนใจ เห็นทีเขาต้องรับศึกหนักอีกรอบแน่เพราะคำหยอก
ของเพื่อนร่วมอาชีพ
“หมอพูดเกินไป คนไทยเป็นคนมีน้ำใจครับ คนรู้จักกันเจ็บก็มาเยี่ยมเป็นธรรมดา ว่าแต่หมออนุญาตให้
ผมกลับได้หรือยัง ผมไม่อยากอยู่โรงพยาบาลนาน เป็นห่วงคนไข้” อมรินทร์รีบเปลี่ยนเรื่องทันที ไม่อยากให้
กีรกันตาสนใจเรื่องสาวๆที่มาเยี่ยมมากนัก ทั้งที่มีแค่สามคนเท่านั้นคือนิศาชล ศวิตา กับเธอเท่านนั้น
หมอและพยาบาลมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมายเมื่อเจอคำถามของจิตแพทย์หนุ่ม
“ผมขอตอบในฐานะแพทย์เจ้าของไข้ ว่ายังไม่อนุญาตให้หมอกลับ เพิ่งออกจากห้องผ่าตัดได้ไม่ทันไร
คิดกลับแล้ว ผมปล่อยคนไข้ไปแบบนี้ไม่ได้ ผมจะให้กลับได้ก็ต่อเมื่อผมมั่นใจว่าคนไข้สามารถกลับไปพักรักษาตัว
ที่บ้านได้” คราวนี้คนเป็นหมอมีน้ำเสียงจริงจัง ทำหน้าที่หมอเจ้าของไข้เต็มที่
“ให้กลับเถอะค่ะคุณหมอ อยู่ต่อไปก็ไม่ช่วยให้อาการหมออามดีขึ้นกว่านี้หรอก หมอไม่เคยได้ยิน
เหรอคะ รักษาคนป่วยทางจิตยากยิ่งกว่าทางกายอีก ถ้าจิตใจผ่องใสสุขสบายอาการเจ็บป่วยจะหายเร็วขึ้น
หมออามคงเบื่อทานยาค่ะ” กีรกันตาพูดแทรกขึ้นเฉย ทั้งหมอและพยาบาลแปลกใจหันไปมองหน้าเธอพร้อม
กันต่างพากันสงสัยว่าสาวสวยน่ารักคนนี้เป็นใคร ดูจะสนิทสนมกับอมรินทร์ หรือว่าเป็นมือที่สามระหว่าง
อมรินทร์กับศวิตาจริงๆ
“ขอโทษครับ คุณเป็นอะไรกับหมออมรินทร์” หมอเจ้าของไข้ถามตรงๆ กีรกันตานิ่ง ไม่รู้จะตอบอย่าง
ไรเธอเพิ่งรู้ตัว ยุ่งไปหน่อยเพราะอยากช่วยเขาและไม่แน่ใจว่าอมรินทร์อยู่ที่นี่ต่อไปจะปลอดภัยหรือไม่
“เธอจะเป็นใครไม่สำคัญหรอกครับ ขอเพียงหมออนุญาตให้ผมกลับตามที่เธอบอกก็พอ เธอพูดถูก
ให้ผมกลับไปรักษาตัวที่บ้านจะดีกว่าอยู่ที่นี่ เชื่อผมเถอะครับหมอ” อมรินทร์จบคำพูดด้วยการจ้องหน้าเพื่อน
ร่วมอาชีพ
“ตามใจหมอก็แล้วกัน แต่หมอจะมาโทษผมไม่ได้นะถ้าอาการทรุด” หมอเจ้าของไข้ไม่รู้ว่าอนุญาต
ให้เขากลับไปรักษาตัวที่บ้านได้อย่างไรกัน ทั้งที่ใจยังค้าน หากกีรกันตารู้ว่าอีกฝ่ายถูกมนต์สะกดของจิตแพทย์
เจ้าเล่ห์เข้าให้แล้ว
“คุณหมอ พูดผิดหรือเปล่าคะ อาการหมออามยังให้กลับไม่ได้นะคะ” พยาบาลสาวท้วงขึ้น
“คุณเป็นหมอหรือถึงได้รู้ดีกว่าผม ไปจัดการตามที่ผมบอก เดี๋ยวผมจะเขียนใบสั่งยาให้ ผมไปก่อนครับ
หมออาม” พยาบาลทำหน้ามึนงงกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของหมอเจ้าของไข้แต่จำยอมทำตามคำสั่งเพราะเธอเป็น
แค่พยาบาล
“พี่อามร้ายนักนะไปสะกดจิตคุณหมอ แล้วจะกลับวันนี้จริงอะ” กีรกันตาไม่ค่อยอยากเชื่อนัก คงไม่มี
ใครบ้าพอออกจากโรงพยาบาลทั้งที่อาการยังหนัก
“จริง พี่อยากให้ข้าวไปดูแลพี่ที่คอนโดมากกว่า อยู่ที่นี่เสี่ยงเกินไป ไม่ตายเพราะถูกวางยาก็ตายเพราะ
อดตายก่อนมั้ง” ทั้งที่เป็นเรื่องร้ายแรงถึงชีวิตแต่เขากลับพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“พี่อามหมายความว่า...” เธอถามอย่างตกใจ
“ใช่ข้าวเข้าใจถูกต้อง ไม่ต้องตกใจไปหรอก ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถึงอย่างไรพวกนั้นก็ทำอะไรพี่ไม่ได้ ข้าวช่วย
พี่เอาสายน้ำเกลือออกทีแล้วเราไปกันเลย ขืนชักช้าจะไม่ทันการ” กีรกันตารีบทำตาม พาเขาออกจากโรงพยา
บาลและไม่ลืมจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้เขา หลังอมรินทร์ออกจากโรงพยาบาลแล้วหมอเจ้าของไข้ถึงรู้ตัวว่า
ได้ทำอะไรลงไปโดยไม่รู้ตัวเพราะถูกจิตแพทย์คนดังสะกดจิตเข้าให้แล้ว
=====================================================================
นักข่าวสาวเฝ้าติดตามก้องเกียรติกับกุมภามาตลอด คืนนี้ก็เช่นกันในร้านอาหารจีน พวกเขาจองห้อง
ส่วนตัวไว้ เธอใช้เส้นเล็กน้อยในการสมัครเป็นเด็กเสริฟเพื่อจะได้สืบเรื่องราวได้ง่ายขึ้น
“คืนนี้พี่สาวอั้มจะมาแน่นะ อย่าให้พลาดเหมือนคราวที่แล้วล่ะ ครั้งนี้ต้องทำให้ปีเตอร์สมหวังให้ได้
ป่านนี้แล้วยังไม่มาอีก” ก้องกียรติมีท่าทางหงุดหงิดที่ยังไม่เห็นว่านิศาชลจะมา
“ใจเย็นๆสิฮะคุณก้อง แม่โทรมาบอกว่าใกล้ถึงแล้ว คงถึงพร้อมๆกับคุณปีเตอร์” ทันทีที่กุมภาพูดจบ
ก้องเกียรติก็ยิ้มออกเมื่อเห็นปีเตอร์เปิดประตูเข้ามาในห้องคนเดียว เขารีบเชิญให้นั่ง
“ผมคิดว่าคุณจะมาไม่ถูกเสียอีกคุณปีเตอร์ คุณวิวกำลังจะมาถึงแล้วด้วย คืนนี้คุณได้เข้าหอกับเธอแน่”
“ขอให้เป็นอย่างที่พูดเถอะ อย่าให้มีใครมาขัดจังหวะเหมือนที่พัทยาอีก นึกแล้วยังเจ็บใจไม่หาย
ใครเป็นคนโทรไปบอกเมียผม อยากรู้นัก” ปีเตอร์ยังแค้นไม่หายที่ภรรยามาขวาง ไม่อย่างนั้นเขาได้เชยชม
นิศาชลไปนานแล้ว
“จะใครก็ช่างเถอะฮะคุณปีเตอร์ คืนนี้คุณได้อำลาเมืองไทยอย่างมีความสุขก่อนกลับแน่ รับรองไม่มี
พลาด” กุมภาให้ความมั่นใจ
ปีเตอร์ยิ้มพอใจพลางยกแก้วเหล้ากระดกเข้าปากนัยน์ตาเป็นประกายรอเหยื่อสาวสวยมาเข้าหอ พวกเขา
ทั้งสามไม่รู้ว่าคำพูดทั้งหมดกำลังถูกบันทึกไว้เป็นหลักฐานโดยฝีมือนักข่าวสาวที่ปะปนมากับเด็กเสริฟในห้อง
นิศาชลเข้ามาในร้านอาหารพร้อมมารดา สายตาคู่สวยมองสำรวจไปทั่วเพื่อหาปฏิภาณ พอเห็นเขานั่ง
ทานอาหารอยู่กับมาดามชานก็สบายใจ เธอไม่ค่อยสบายใจนักที่ตัดสินใจทำตามมารดา อรสาขมวดคิ้วเข้าหา
กันเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทีลุกลี้ลุกลนชอบกลของบุตรสาวแต่ก็ไม่ว่าอะไรจนกระทั่งเข้าไปในห้องส่วนตัวที่จองไว้
กุมภากับก้องเกียรติมองหน้ากันก่อนยิ้มให้ผู้มาใหม่แต่ช้ากว่าปีเตอร์ที่เดินเข้าไปหานิศาชล ทำท่าจะจูง
มือเรียวสวยไปนั่งข้างกาย แต่เธอกลับเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามแทนสร้างความไม่พอใจให้อรสาเป็นอันมาก ยิ่งเห็น
ปีเตอร์หน้าเสียกับอาการไม่พอใจของก้องเกียรติและลูกชายสุดที่รักยิ่งให้หงุดหงิด
“วิว แม่ว่า ลูกไปนั่งข้างคุณก้องเกียรติดีกว่า อะไรกันเป็นผัวเมียกันแท้ๆ นั่งเสียห่าง” อรสาตำหนิ
บุตรสาวตรงๆ
ก้องเกียรติกับกุมภารู้สึกพอใจที่อรสาช่วยแก้สถานการณ์ แถมยังเรียกรอยยิ้มพอใจให้กับปีเตอร์ได้ด้วย
เพราะที่นั่งฝั่งขวาของก้องเกียรติถูกกุมภาจับจองไว้แล้วจึงเหลือที่ว่างด้านซ้ายซึ่งพวกเขาจงใจเว้นไว้ที่หนึ่งและ
ที่ถัดมาเป็นที่นั่งของปีเตอร์ขณะที่อรสาตัดสินใจนั่งข้างกุมภา
นิศาชลจำต้องเปลี่ยนที่นั่ง ดวงตาคู่สวยมีแววน้อยใจและผิดหวังกับคำพูดของมารดา สงสัยว่าอรสา
ยังเห็นเธอเป็นลูกอยู่หรือเปล่า การกระทำในครั้งนี้เหมือนต้องการประเคนเธอให้กับปีเตอร์ หรือเพียงเพื่อต้อง
การเห็นลูกสาวคนนี้ถูกย่ำยีจะได้สาแก่ใจ ลำพังแค่บังคับให้แต่งงานบังหน้าเพื่อให้น้องชายเสวยสุขยังไม่พออีก
ทำไมเธอต้องมีแม่แบบนี้ด้วย เธอมัวแต่คิดน้อยใจและผิดหวังในตัวมารดาจึงเป็นโอกาสให้มือของปีเตอร์มาวาง
บนต้นขาเรียวสวยแต่พอมือใหญ่เริ่มขยับ ใบหน้าสวยก็หันมามองอย่างเอาเรื่องและส่งเสียงแว้ดออกไปทันที
“ทำอะไร! คุณปีเตอร์” ตอนนี้เธอเหมือนแม่เสือร้ายที่พร้อมจะสู้เพื่อปกป้องสวัสดิภาพของตัวเอง
ปีเตอร์ยิ้ม ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“เปล่านี่คุณวิว ไม่คิดว่าผู้หญิงไทยสวยๆจะเป็นโรคหวาดระแวง คุณก้องเกียรติ เมียคุณเป็นโรคนี้ด้วย
เหรอ ถ้าเป็นคุณต้องระวังตัวหน่อยนะ แต่งงานแล้วยังหวงตัวอีก” ปีเตอร์พูดได้ไม่อายปาก
นักข่าวสาวในคราบเด็กเสริฟที่เฝ้าดูเหตุการณ์ ขมวดคิ้วและคิดทบทวนเรื่องที่ก้องเกียรติกับกุมภา
พูดคุยกันที่ร้านอาหารในพัทยาแล้วพอจะปะติดปะต่อเรื่องได้ นายคนนี้เลวสิ้นดี ยัยแม่ก็อีกคน น่าสงสาร
ผู้หญิงคนนี้จัง แต่ท่าทางจะไม่ยอมง่ายๆ ดูต่อดีกว่า อยากรู้ว่าเรื่องจะจบลงอย่างไร
“นั่นสิ วิว แม่ไม่เห็นคุณปีเตอร์จะทำอะไรวิวเลย ร้องเสียตกอกตกใจไปได้ เสียมารยาท” อรสาต่อว่า
บุตรสาวตามเคย นิศาชลมองหน้ามารดาราวกับต้องการมองให้ลึกเข้าไปในจิตวิญญาณของคนเป็นแม่ หาก
เป็นกุมภา ท่านคงไม่ลังเลที่จะลุกขึ้นมาปกป้อง แต่เป็นเธอ ท่านจึงเห็นคนอื่นดีกว่าเสมอ เสียเวลาที่จะไขว่คว้า
หาความรักจากแม่อย่างอรสาที่ไม่เคยเปิดใจให้ความยุติธรรมกับหัวใจรักอันบริสุทธิ์ของคำว่าแม่เข้าไปในหัวใจ
ได้เลย ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะแทนคุณ หลังจากคืนนี้ไปเธอจะขอทำตามสิ่งที่ใจเรียกร้องมานานเสียที
“ค่ะ วิวเสียมารยาทไปหน่อย แต่บางครั้งก็ต้องยอมเสียมารยาทบ้างเพื่อป้องกันตัวเอง ยิ่งวิวเป็นหญิง
ยิ่งต้องระวังตัวให้มากเวลาอยู่ท่ามกลางผู้ชายใจคดคิดใช้ผู้หญิงเป็นเครื่องมือเพื่อสนองตัณหาตัวเอง จริงมั้ยคะ
คุณก้องเกียรติ” ดวงตาคู่สวยจ้องมองสามีในนามอย่างท้าทาย ก้องเกียรติมองตอบด้วยสีหน้าไม่พอใจที่ถูกด่าว่า
ตรงๆจากหญิงสาวที่คิดว่าไร้พิษสงในตอนแรก
“คุณก้องเกียรติ เมียคุณนี่ร้ายจริงๆ ผมแค่ล้อเล่นหน่อยเดียว ทำเป็นจริงจังไปได้” ปีเตอร์ตีหน้าเซ่อ
ทำเหมือนไม่รู้ว่าตัวเองก็ถูกด่าด้วย
“ผมก็ว่าอย่างนั้น อารมณ์ผู้หญิงเอาแน่เอานอนไม่ได้ คุณปีเตอร์อย่าถือสาเลยครับ ผมชินเสียแล้ว”
ก้องเกียรติพูดเหมือนสามีทั่วไปที่ต้องทนกับนิสัยแย่ๆของภรรยา ทั้งที่ชิงชังนิศาชลจะแย่
“คุณก้องเกียรติทำไมว่าเมียคุณอย่างนั้น ดูสิ คุณวิวโกรธแล้ว ผมว่าคุณวิวดื่มน้ำดับโมโหก่อนดีกว่า
นะครับ น้องขอน้ำมะเขือเทศให้คุณผู้หญิงแก้วหนึ่ง” ปีเตอร์หันไปบอกเด็กเสริฟและขยิบตาให้เด็กสาวรีบหยิบ
น้ำมะเขือเทศที่เตรียมไว้มาเสริฟ แต่ไม่อาจรอดพ้นสายตาของนักข่าวสาวในคราบเด็กเสริฟไปได้และคิดว่าน้ำมะ
เขือเทศแก้วนั้นต้องมีปัญหาแน่ ถ้าจำเป็นอาจต้องช่วยแต่เธอก็ไม่ทันได้ช่วยเพราะมีคนเดินเข้ามาเรียกเธออก
ไปก่อนบอกว่ามีเรื่องด่วน จังหวะเดียวกันที่ก้องเกียรติสะกิดมือกุมภาเขาจึงหันไปพูดกับมารดา
“แม่ฮะ อั้มมีอะไรจะให้แม่ดู แม่ตามอั้มมาดูแล้วแม่จะชอบ”
“จริงหรืออั้ม มีอะไรมาเซอร์ไพร้สแม่อีก ไปลูกไปดูกัน” อรสาดูดีใจมาก อะไรที่ลูกรักให้นางจะยินดีปรีดา
ทุกครั้ง นี่คือสิ่งที่นิศาชลไม่เคยได้รับจากคนเป็นแม่ เธอทั้งน้อยใจและแค้นใจที่ความดีของเธอไม่เคยชนะใจ
มารดาได้เลย นึกแล้วอยากทำอะไรให้สะใจสักครั้ง
“เดี๋ยวอั้ม ยังไม่ต้องพาแม่ไปไหนทั้งนั้น” นิศาชลห้ามเสียงเฉียบขาด กุมภากับทุกคนมองหน้ากัน
ต่างคนต่างสงสัยว่าเธอจะมาไม้ไหนกันแน่ ขณะที่อรสามีสีหน้าไม่พอใจ
“วิว จะมากไปแล้วนะ แสดงกิริยาก้าวร้าวแบบนี้ น้องเขามีของจะให้แม่ แกก็คิดขวาง อิจฉาน้องไม่เลิก
รา ไปอั้มไม่ต้องสนใจลูก” อรสาปกป้องลูกรักเต็มที่
กุมภาลอบยิ้มอย่างสะใจ พี่สาวคนเก่ง ต้องเจอแบบนี้ ต่อให้นิศาชลเก่งแค่ไหนก็ไม่กล้ากับมารดา
หากเขาคิดผิดเพราะเวลานี้ความคิดแทนคุณมารดาที่อุ้มท้องให้ชีวิตมานั้นได้ถึงจุดสิ้นสุดลงแล้ว นิศาชลอดทน
และเจ็บปวดกับความลำเอียงของมารดามานาน เธอจึงไม่คิดจะทนต่อไป เธอทำเพื่อมารดากับน้องชายมา
มากพอแล้ว ถึงเวลาที่จะดูน้ำใจของคนเป็นแม่เสียที หากรู้ว่าลูกสาวถูกย่ำยีจะรู้สึกอย่างไร นิศาชลต้องการทำ
อะไรก็ได้เพื่อประชดมารดา เธอหยิบแก้วน้ำมะเขือเทศขึ้นมาแล้วชูให้อรสากับทุกคนดู
“วิวก้าวร้าวเหรอคะ ได้ค่ะ วิวจะก้าวร้าวให้แม่เห็น แม่รู้มั้ยคะ ทำไมลูกเขยคนดีกับลูกรักของแม่ถึงต้อง
การให้วิวคอยเทคแคร์นายปีเตอร์ตลอดเวลาที่อยู่เมืองไทย เหตุผลก็เพราะอยากส่งวิวไปเป็นของขวัญแลกกับ
การเซ็นสัญญาธุรกิจตัวใหม่ เพิ่งรู้นะคะว่าร้านอาหารจีนก็มีน้ำมะเขือเทศด้วย หรือเตรียมไว้ให้วิวโดยเฉพาะ
คงเห็นว่าวิวชอบ ไม่ต้องตกใจค่ะ คุณปีเตอร์ คุณก้องเกียรติสามีที่รักของน้องชายวิว พวกคุณจะได้สมหวัง
วิวจะดื่ม จากนั้นจะทำอะไรก็เชิญ แม่อยากอยู่ดูต่อก็ได้นะคะ จะได้รู้ว่าตัวเองมีส่วนช่วยย่ำยีวิวมั้ย” พูดจบก็
ยกแก้วน้ำมะเขือเทศขึ้นดื่มจนหมด
ปีเตอร์มองหน้าก้องเกียรติกับกุมภาอย่างไม่เข้าใจ นิศาชลเหมือนคนบ้าไปแล้วแต่ก็ดีเขาจะได้สมหวัง
ขณะที่อรสาเริ่มสับสน นางผิดอะไรทำไมนิศาชลถึงได้กล่าวร้ายนางอย่างเจ็บแค้นนัก ก็แค่ให้มาดูแลต้อนรับ
ปีเตอร์ก่อนกลับประเทศ ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน ลูกชายกับลูกเขยก็อยู่ จะคิดร้ายอะไร สักพักนางก็หน้าซีด
เมื่อเห็นนิศาชลล้มลงหมดสติไปโดยมีปีเตอร์รีบเข้าไปประคองตัว นางขยับตัวจะเข้าไปหาร่างไร้สติของบุตรสาว
ด้วยความเป็นห่วง เป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกห่วงบุตรสาว แต่ก้องเกียรติกลัวว่าแผนครั้งนี้จะพลาดจึงขยิบตาให้
กุมภาเข้าขวาง กุมภาจึงลุกขึ้นยืนขวางมารดาไว้
“แม่ฮะ พี่วิวคงเก็บกดอะไรสักอย่างเลยโมโหจนเป็นลม คุณปีเตอร์ห่วงพี่วิวมาก ปล่อยให้เขาดูแลดีกว่า
บางทีคุณก้องจะให้อิสระกับพี่วิวถ้าพี่วิวลงเอยกับคุณปีเตอร์ได้ อั้มขอโทษฮะที่ไม่ได้บอกแม่เรื่องนี้ พวกเราถาม
คุณปีเตอร์ตรงๆว่ารักพี่วิวจริงๆแน่นะ เขาบอกว่าจริง แต่พี่วิวนี่สิยังหลงคนอื่นอยู่ได้ เลยต้องใช้วิธีนี้เพราะถ้า
เป็นคุณปีเตอร์ อั้มกับคุณก้องจะอยู่ด้วยกันอย่างสุขสบายโดยที่พี่วิวยังคงเป็นเมียคุณก้องตามกฎหมายอยู่
และมีสามีตัวจริงเป็นคุณปีเตอร์ แม่ก็รู้นี่ฮะ พี่วิวนะดื้อ หัวแข็ง พูดกันดีๆไม่ได้ชอบให้บังคับ เลยให้คุณปีเตอร์รวบ
รัดเสีย อั้มเชื่อว่าเมื่อถึงเวลานั้นพี่วิวก็ต้องยอม เพราะที่ปรึกษารัฐมนตรีนั่นคงไม่คิดจะเอาผู้หญิงมีราคีมาเป็น
คนรักหรอกฮะ แม่เข้าใจอั้มนะฮะ อั้มไม่อยากใช้วิธีนี้แต่อั้มไม่มีทางเลือก คุณก้องคือทุกสิ่งทุกอย่างของอั้ม
อั้มกลัวว่าสักวันถ้าพี่วิวไม่ยอม ลุกขึ้นถอนทะเบียนกับคุณก้อง เมื่อนั้นอั้มจะอยู่กับคุณก้องไม่ได้อีกต่อไป
แม่จะว่าอั้มเห็นแก่ตัวก็ยอม แต่อั้มไม่อยากผิดหวังอีกแล้ว ถ้าไม่ได้ครองคู่กับคุณก้องอั้มยอมตายดีกว่าฮะแม่
แม่ยกโทษให้อั้มด้วยนะฮะที่ไม่บอกแม่”
กุมภาออดอ้อนมารดาเรียกร้องความเห็นใจด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย อรสาพอเห็นลูกรักทำท่าอมทุกข์ก็รีบ
เข้าไปกอดแล้วจำใจยินยอมให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่กุมภาต้องการ นางกลัวเสียลูกชายสุดที่รักไป แม้ในใจจะรู้
สึกผิดต่อนิศาชลก็ตาม แต่อย่างน้อยปีเตอร์ก็รักนิศาชลจริง นิศาชลอาจมีความสุขในภายหลังก็ได้
อรสาคิดอย่างผู้หญิงยุคก่อนที่ว่าพอตกเป็นของชายใดก็จำยอมรับเป็นสามีไปตลอดโดยลืมคิดไปว่า
ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ความคิด ค่านิยมก็เปลี่ยนตามไปด้วย
พอกุมภาหลอกล่ออรสาได้แล้ว ก้องเกียรติก็เดินไปเปิดประตูที่อยู่ติดผนังอีกด้านให้ปีเตอร์อุ้มนิศาชล
เข้าไปหาความสุขในห้องซึ่งไม่ใช่ห้องอาหารแต่เป็นห้องนอน เขารู้จักเจ้าของร้านนี้ดี และรู้ด้วยว่าเจ้าของร้าน
มีห้องลับในร้านอาหารไว้พักผ่อนกับภรรยาน้อยเพื่อหลบภรรยาหลวง คืนนี้เขาจ่ายให้อย่างงามเพื่อยืมห้อง
ชั่วคราว คนเราเพื่อเงินทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว
ปีเตอร์นำร่างไร้สติของนิศาชลวางลงบนเตียงจ้องมองร่างงามอย่างหื่นกระหาย คืนนี้เขาจะได้สมหวัง
เสียที สาวสวยที่หมายปองมานาน ยิ่งมองยิ่งสวย ขนาดมีเสื้อผ้าปกปิดยังสวยน่ารักน่าใคร่ ถ้าไม่มีจะสวยแค่
ไหน เขายื่นมือจะแกะกระดุมเสื้อและสิ่งกีดขวางออก แต่ก่อนที่นิ้วหื่นกระหายจะสัมผัสถูกตัวนิศาชล ตัวเขาก็
ถูกกระชากออกอย่างแรงจากด้านหลัง พร้อมหมัดหนักๆชกมาที่หน้าทันที กับน้ำเสียงโกรธแค้นดังขึ้น
“ไอ้ชาติชั่ว วันๆคิดแต่จะย่ำยีผู้หญิงไม่มีทางสู้ ขอเอาเลือดหื่นๆออกแทนมาดามชานทีเถอะ” พูดจบ
หมัดหนักๆก็ตรงดิ่งมาที่หน้าอีกครั้งและครั้งนี้หน้าปีเตอร์แตกยับ จ้องมองเจ้าของหมัดอย่างโกรธแค้น
“แกเป็นใคร บังอาจมาเสือกเรื่องชาวบ้าน” แม้จะเจ็บปีเตอร์ยังไม่กลัว
“ฉันเป็นใครไม่จำเป็นต้องรู้ แต่คนที่แกควรรู้ยืนอยู่ด้านหลังแล้ว หันไปดูสิ” เสียงตอบกลับในลักษณะ
เดียวกัน ปีเตอร์หันไปมองโดยอัตโนมัติและแล้วใบหน้าแตกยับมีเลือดกลบปากก็ซีดเมื่อเห็นมาดามชานยืนนิ่ง
จ้องมองเขาด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“ค..คุณมาได้ยังไง ก็คุณกลับฮ่องกงไปแล้วนี่” เขาถามเสียงหลง
“ฉันก็ไม่ได้บอกนี่ว่าจะไม่กลับมา เห็นทีคงถึงเวลาบอกว่าที่หุ้นส่วนคุณเสียทีว่าใครคือผู้มีอำนาจตัว
จริงจะได้เลิกคิดชั่วๆกับเมียตัวเองเสียที” พูดจบมาดามชานก็เปิดประตูเข้าไปในห้องที่ก้องเกียรติ กุมภา
และอรสานั่งรออยู่หวังจะช่วยปลอบบุตรสาวและเกลี้ยกล่อมหลังอะไรๆมันผ่านไปแล้ว..แต่..คนทั้งสามต้อง
ตกใจอย่างคาดไม่ถึงเมื่อประตูห้องถูกเปิดออก
******************* ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ต้องพักไปนาน ระวังตัวกันด้วยนะคะ หมอบอกระบาดหนักทั้งไข้หวัดใหญ่และ
ไข้เลือดออก รพไม่มีห้องให้คนไข้อยู่เลย ถ้าใครคิดว่าทานยาแล้วดีขึ้นต้องไปตามหมอนัดนะ เพราะบางรายที่สุขภาพ
แข็งแรงเชื้อมันจะแสดงอาการช้า ทานยาแล้วเหมือนหายแต่พอเชื้อมันฟักตัวได้ที่จะแสดงอาการถึงขั้นช็อก แล้วจะรักษา
ยาก คล้ายๆกับของปอ ที่ตอนแรกเหมือนหายแล้ว เลยไม่ได้เจาะเลือดตรวจอีกทีพอมาอีกทีก็หนักเลย ดังนั้นตอนนี้
เกือบทุกรพหมอจะให้คนไข้มาเจาะเลือดซ้ำหลังทานยาไปแล้วสองสามวัน เพราะอาการระยะฟักเชื้ออยู่ประมาณสี่วัน
ถ้าเกร็ดเลือดต่ำ เตรียมตัวอยู่รพได้เลย จากปสกของตัวเองที่หมออธิบายให้ฟังค่ะ แต่อย่าเป็นเลยดีที่สุด ทรมานมากมาย
ขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรงนะคะ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
เพลงใบไม้
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ธ.ค. 2558, 10:55:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ธ.ค. 2558, 10:55:18 น.
จำนวนการเข้าชม : 1280
<< ตอนที่ 20 | ตอนที่ 22 >> |
konhin 9 ธ.ค. 2558, 11:45:42 น.
มีแม่แบบนี้ คิดซะว่าแค่อาศัยท้องมาเกิดแล้วกัน ไม่ไหวแล้ว จิตตก
มีแม่แบบนี้ คิดซะว่าแค่อาศัยท้องมาเกิดแล้วกัน ไม่ไหวแล้ว จิตตก
ผักหวาน 13 ธ.ค. 2558, 10:17:28 น.
ขอให้หายป่วยไวๆ นะคะ
ขอให้หายป่วยไวๆ นะคะ