: + : + : + : + : ผู้ช่วยกามเทพ : + : + : + : + :
นี่มันไม่ใช่แค่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก หรือราหูอมธรรมดาละ

อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ทายาทคนเล็กบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่ง และเจ้าของบริษัทจับคู่ยอดฮิตแห่งยุค อยากรู้นักว่าเธอเคยไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนแล้วลืมแก้บนหรือเปล่า ทำไมเรื่องวุ่นๆถึงประดังเข้ามาในชีวิตแบบนี้ก็ไม่รู้

เพราะถูกแม่จับคลุมถุงชนกับคนแปลกหน้า ลูกสาวคนเล็กที่ถูกเลี้ยงอย่างเอาแต่ใจมาตลอดจึงประกาศกร้าวขอแต่งงานกับเพื่อนสนิทเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แต่โชคร้ายที่แม่เล่นใหญ่ชนิดรัชดาลัยเธียเตอร์ชิดซ้าย เมื่อบังคับกันดีๆไม่ได้ ท่านจึงตัดความช่วยเหลือทางการเงินจนเหี้ยน ทำให้เธอยิ่งต้องเอาชนะคำสั่งของแม่ให้ได้

สาวัช ปรเมศวร์ เกิดมาในฐานะลูกเมียน้อย เขาจึงทำตัวให้เลือนรางที่สุด เมื่อบ้านที่พรั่งพร้อมด้วยเงินทอง ชื่อเสียงและอำนาจ แต่กลับไม่เคยมีความรักให้เขาสักนิด สาวัชจึงชดเชยให้ตัวเองด้วยการปฏิเสธทุกคำร้องขอจากคนภายนอก ใครๆก็ว่าเขาเย็นชา ไร้น้ำใจ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แต่สาวัชก็ไม่เคยแคร์

ครั้นหนทางแห่งผลประโยชน์ชักนำ อิงอรุณจำต้องเข้าขอความช่วยเหลือจากสาวัช เมื่อคนหนึ่งเติบโตด้วยความรักพร้อมพรั่งรอบกายจนกลายเป็นคนแสนเอาแต่ใจ ต้องมาเจอกับคนที่ชีวิตแล้งไร้ความรักแถมยังไม่เคยตามใจใคร ย่อมต้องมีสักคนเป็นฝ่ายถอย!

เมื่อคนสุดขั้วสองคนต้องมาเจอกันในภารกิจเอาตัวรอดของอิงอรุณ ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น แต่คนที่ใจอ่อนก่อน บอกรักก่อน อาจไม่ใช่คนแพ้เสมอไปก็ได้!



♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥

หายไปสองปี หวังว่าเพื่อนๆคงยังไม่ลืมสิริณกันนะค้า
ผู้ช่วยกามเทพ เป็นตอนต่อของ สนิมดอกรักค่ะ
อ่านแยกกันได้ ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอ่านสนิมดอกรักก่อนจะยิ่งได้อรรถรสสุดฤทธิ์ (ขายของค่ะ 555)

เช่นเคยนะคะ สิริณยินดีและน้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
จะติก็ได้ ชมก็ยิ่งดี อ่านแล้วจัดเต็มกันได้เลย
มิต้องกลัวคนเขียนนอยด์ค่ะ

ฝากเนื้อฝากตัว ฝากผลงานไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต

หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น

ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^

♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
www.facebook.com/SirinFC
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 3 (50%)

ออดี้ไฮบริดชนิดขับเคลื่อนสี่ล้อสีขาวเลี้ยวเข้าจอดยังด้านข้างอาคารสูงหกชั้นย่านชานเมือง คนขับคล้องกระเป๋าใส่ข้อมือก้าวลงมากวาดตาสำรวจโถงอาคารโล่งตรงหน้าอย่างงงๆ แล้วจึงหันไปทางพนักงานประจำลานจอดที่กำลังพุ่งตรงเข้ามาหา “ห้องพักอาจารย์ไปทางไหนคะ”

“ขึ้นบันไดไปก็เจอเลยครับ ห้องอาจารย์อยู่ตรงข้ามแคนทีนของคณะ คุณผู้หญิงแจ้งเจ้าหน้าที่ในห้อง เดี๋ยวเธอจะนำไปพบอาจารย์ท่านที่ต้องการเองครับ”

อิงอรุณพยักหน้ารับรู้ ก้มลงสำรวจความเรียบร้อยของเครื่องแต่งกายอีกครั้งว่าสุภาพเหมาะสมกับสถานที่ดีแล้ว จากนั้นเจ้าของเรือนร่างเล็กกะทัดรัดบนรองเท้าแคชชูส์สูงสี่นิ้วก็ก้าวขึ้นบันไดอย่างมั่นใจ

สัปดาห์ก่อนเธอไปยังพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ สำรวจสถานที่สำหรับเปิดคอร์สของบริษัท โชคดีที่บังเอิญพบคณะนักศึกษามาทัศนศึกษาพอดี เธอจึงอาศัยเดินตามและฟังการบรรยายไปพร้อมกันด้วยความเพลิดเพลิน ครั้นกลับไปประชุมกับหุ้นส่วนเพื่อสรรหาตัววิทยากรมาบรรยายประกอบกิจกรรม อิงอรุณจึงติดต่อกลับไปยังพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ อ้อนวอนขอชื่ออาจารย์และคณะนักศึกษาที่เธอพบคราวก่อน แม้จะไม่เห็นหน้าคนบรรยายเพราะถูกคณะนักศึกษาห้อมล้อมจนเข้าไม่ถึงตัว แต่น้ำเสียงทุ้มห้าวและบทบรรยายภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันของเขา รวมถึงภูมิความรู้และเรื่องเล่าต่างๆ ทำให้การชมพิพิธภัณฑ์ของเธอจบลงด้วยความประทับใจ

หลังการอ้อนวอน ยืนยันตัวเองว่ามิใช่มิจฉาชีพแน่นอน ในที่สุดเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ก็ยอมให้ชื่ออาจารย์และมหาวิทยาลัยนั้นแก่เธอมา อิงอรุณตั้งธงไว้แล้วว่าอย่างไรเสียเธอก็ต้องเชิญ ดอกเตอร์สาวัชคนนี้มาเป็นวิทยากรให้บริษัทจงได้ ฟังจากชื่อรวมถึงภาษาอังกฤษที่คล่องปากขนาดนั้น เธอจึงเดาว่าผู้ชายคนนี้ต้องเป็นอาจารย์สัญชาติอินเดียแน่นอน

เธอหาเบอร์โทร.ติดต่อเข้ามหาวิทยาลัยจนได้สนทนากับเขาเล็กน้อย และนั่นคือเหตุผลที่เธอมาที่นี่ในวันนี้ เธอต้องเชิญดอกเตอร์สาวัชไปเป็นวิทยากรของบริษัทให้ได้!

อิงอรุณแจ้งความจำนงกับเจ้าหน้าที่และมานั่งคอยในคอกเล็กๆซึ่งมีป้ายชื่อเป็นภาษาอังกฤษติดไว้ด้านหน้า ภายในพื้นที่แทนห้องทำงานเล็กๆนั้นถูกหน้าต่างกว้างยึดผนังด้านหนึ่งไปทั้งหมด โดยใช้พาร์ติชันสีฟ้าอมเทากั้นอีกสามด้านที่เหลือ เว้นช่องกว้างราวเมตรเศษไว้สำหรับเป็นทางเข้าออกแทนประตู โต๊ะสำนักงานตรงหน้ามีคอมพิวเตอร์วางอยู่มุมหนึ่ง นอกนั้นเป็นตำรา แฟ้ม และปึกเอกสารตั้งสูงวางเรียงเป็นระเบียบ ตู้หนังสือทุกด้านซึ่งล้อมรอบโต๊ะอัดแน่นด้วยหนังสือต่างประเทศเล่มหนาและสมุดภาพพิมพ์สีอย่างดี

เพียงใช้เวลาสั้นๆสำรวจโต๊ะทำงาน เธอก็สังเกตเห็นว่าไม่มีเครื่องประดับตกแต่งโต๊ะเลย ของทุกชิ้นถูกวางไว้เพื่อประโยชน์ใช้สอยโดยไม่คำนึงถึงความสวยงามใดๆทั้งสิ้น ภาพวาดสีน้ำแขวนบนผนังพาร์ติชันด้านหนึ่งเป็นรูปพระพุทธรูปเก่าโบราณ ราวสูงสำหรับแขวนเสื้อตรงมุมด้านในสุด มีไม้แขวนเสื้อสูทสีน้ำตาลไหม้ไว้เพียงตัวเดียวเท่านั้น

วิเคราะห์จากวิชาจิตวิทยาที่ร่ำเรียนมา อิงอรุณค่อนข้างมั่นใจว่าดอกเตอร์ท่านนี้ต้องคงแก่เรียน คร่ำเคร่ง จริงจัง เอาการเอางาน แล้วก็ครึไม่เบาทีเดียว หญิงสาวดูเวลาอีกครั้ง บิดคอไปทางซ้ายทีขวาทีเพื่อคลายความเมื่อยขบ

“ขอโทษที่ต้องให้คอย” เสียงห้าวนุ่มนวลดังขึ้นจากบนศีรษะกลับไม่ใช่ภาษาอังกฤษดังคาด

“อุ๊ย! ดอกเตอร์พูดไทยได้ด้วยหรือคะ” หญิงสาวทักด้วยความแปลกใจขณะรีบลุกขึ้นยืน เธอวางรอยยิ้มผูกมิตรไว้บนใบหน้า ครั้นเงยขึ้นมองเจ้าของห้องเห็นหน้าเขาชัดๆ เธอก็ตะลึงงัน พูดไม่ออกไปชั่วขณะ

นอกจากความสูงอันโดดเด่นและรูปร่างสมส่วนอย่างบุรุษเพศแล้ว เธอจำต้องยอมรับว่าผู้ชายคนนี้ ‘หล่อมาก’! ภาพลักษณ์ของเขาไม่เหมาะกับคำว่านักปราชญ์ผู้คงแก่เรียนเลยสักนิด องค์ประกอบทั้งหมดในตัวเขา ดูอย่างไรเขาก็ควรไปเป็นนายแบบบนปกนิตยสารมากกว่า ทั้งเรือนผมสีเข้มหวีเปิดหน้าผาก คิ้วหนาตรงขึงขัง ดวงตาคมกริบสีน้ำตาลเข้ม จมูกโด่งและริมฝีปากที่เหยียดตรงดุจคนไม่แยแสโลก ยิ่งทำให้ดูน่าค้นหา

เชิ้ตสีครีมแบะปกพับแขนเสื้อไว้ตรงข้อศอก และกางเกงสแลคสีน้ำตาลเข้มช่วยส่งเสริมให้ ‘ความหล่อ’ ของเขาทะลุบรรยากาศออกมาจนแทบเต้นรำอยู่รอบๆตัวเธอได้เลย

ในทางจิตวิทยาคนเรามักตัดสินกันจากแปดวินาทีแรกที่พบ และอิงอรุณบอกได้เลยว่าเธอกำลังตะลึงเกินกว่าจะคิดคำจำกัดความออก รู้แต่ว่าหากวิทยากรหล่อสะดุดตาเช่นนี้ คอร์สของเธอขายดีถล่มทลายแน่!

“ที่แท้ดอกเตอร์เป็นคนไทยนี่เอง ขออภัยค่ะ ทีแรกดิฉันนึกว่าคุณเป็นคนต่างชาติเสียอีก” หญิงสาวออกตัวพลางยื่นนามบัตรอย่างกระตือรือร้น “ขอบคุณที่สละเวลาให้เข้าพบนะคะดอกเตอร์ ดิฉันอิงอรุณ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” เมื่อชายหนุ่มรับนามบัตรไปแล้ว เธอจึงพนมมือทำความเคารพอีกคำรบตามมารยาท

“สาวัชครับ” เขาแนะนำตัวสั้นอย่างยิ่ง หลังจากมอบนามบัตรให้เธอก็ผายมือไปยังเก้าอี้หน้าโต๊ะ คอยจนเธอนั่งเรียบร้อย แล้วจึงนั่งลงฝั่งตรงข้ามบ้าง “คุณอยากพบผม ไม่ทราบว่ามีธุระอะไร”

อิงอรุณเหลือบมองนามสกุลของคู่สนทนาบนนามบัตรตามความเคยชิน เพื่อจะจำไว้สำหรับเรียกขานในบทสนทนา พลันชื่อ สาวัช ปรเมศวร์ ที่ปรากฎอยู่บนกระดาษแผ่นน้อยกลับทำให้คิ้วเรียวขมวดนิดๆ

บริษัทปรเมศวร์เทรดดิ้งเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายน้ำอัดลมอันดับหนึ่งของประเทศ ทำไมคนนามสกุลปรเมศวร์ถึงไม่ไปเป็นทายาทธุรกิจบริหารบริษัทของครอบครัว แต่กลับมาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยอย่างนี้ หรือว่า...ผู้ชายคนนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวพันกับปรเมศวร์เทรดดิ้งกรุ๊ป เป็นแค่ญาติสายห่างๆที่บังเอิญใช้นามสกุลเดียวกัน

“คืออย่างนี้ค่ะดอกเตอร์ ดิฉัน...”

“เรียกผมว่าสาวัชดีกว่า” เขาขัดขึ้นกลางคัน

อิงอรุณเม้มปากกลั้นยิ้มโดยอัตโนมัติ ครั้นชายหนุ่มมองมาด้วยสายตาแสดงความสงสัย หญิงสาวจึงเฉลย “คุณทำให้ดิฉันนึกถึงพี่ชายน่ะค่ะ รายนั้นก็ไม่ชอบให้คนเรียกดอกเตอร์เหมือนกัน แต่พอเขาเปลี่่ยนงาน มีคนเรียกแต่ท่านๆๆ คราวนี้เลยต้องมาเกณฑ์ให้คนเรียกดอกเตอร์แทน เพราะยังไงก็ฟังแล้วไม่กระดากเท่าถูกเรียกว่าท่าน หวังว่าคุณสาวัชจะไม่ต้องถูกเรียกด้วยสรรพนามอื่นที่น่ากลัวกว่า จนต้องมาเรียกร้องให้ใครๆเรียกดอกเตอร์เหมือนพี่ชายดิฉันนะคะ”

อิงอรุณพยายามเย้าให้ฟังดูเป็นกันเอง เพราะสินค้าสำคัญของบริษัทคิวปิดแอสซิสแทนซ์คือการบริการ ในฐานะเจ้าของธุรกิจที่ต้องประสานงานและต่อรองกับทั้งกับลูกค้ารวมถึงคู่ค้าต่างๆ ทำให้หญิงสาวเข้ากับคนได้ง่าย รู้วิธีสร้างความคุ้นเคย ให้คนเปิดใจสนิทสนมและเป็นกันเองกับเธอเร็วขึ้น

“หวังว่าครับ” ทว่าสาวัชกลับพยักหน้าขรึมดังเดิม

อิงอรุณลอบเบ้ปากที่อีกฝ่ายพูดน้อยราวกับกลัวดอกพิกุลร่วง ทั้งยังไม่รับมุกใดๆทั้งสิ้น พ่อคู้ณ-ณ-ณ ตอนเกิดแม่ไม่ได้ให้ต่อมอารมณ์ขันมาด้วยเหรอเนี่ย! ถึงได้ทำเป็นแต่หน้านิ่งๆเหมือนพระเคร่งศีลอย่างไรอย่างนั้น

หากเป็นกรณีปกติ เธอคงกระแทกเท้าลุกจากตรงนี้เพราะความหมั่นไส้แล้ว แต่ในเมื่อคู่สนทนาหล่อลืมหายใจขนาดนี้ แถมเธอยังจินตนาการมองเห็นเงินก้อนโตจากการเชิญสาวัชไปเป็นวิทยากรให้บริษัทไว้แล้ว อย่างไรเสียอิงอรุณต้องเดินหน้าจัดการเรื่องนี้จนสำเร็จให้ได้ จ้างก็ไม่มีวันยอมแพ้เด็ดขาด บอกเลย!

“เรียนตามตรงนะคะ ว่าอิงอยากเชิญคุณสาวัชไปเป็นวิทยากรบรรยายระหว่างการชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติค่ะ”

ชายหนุ่มเลิกคิ้วนิดๆ “คุณทราบมาจากไหนว่าผมรับบรรยายที่นั่น”

“วันนั้นที่คุณพานักศึกษาไปทัศนศึกษาที่พิพิธภัณฑ์ ดิฉันบังเอิญได้ฟังคุณบรรยายด้วยพอดีน่ะค่ะ ดิฉันวางแผนว่าจะจัดทัวร์พิพิธภัณฑ์เดือนหน้า ไม่ทราบว่าปกติคุณสาวัชคิดอัตราค่าบรรยายชั่วโมงละเท่าไหร่คะ” เธอตั้งคำถามตรงไปตรงมา พุ่งสู่ประเด็นโดยไม่อ้อมค้อม ตามประสาคนไม่เคยต้องง้องอนใคร

“ผมยังไม่รู้เลยว่าคนฟังเป็นใคร” เขาย้อนถาม สีหน้าเรียบเฉยจนน่าอึดอัด

กระนั้นกามเทพสาวกลับยิ้มกว้าง ภาคภูมิใจอย่างยิ่งในการแนะนำบริษัทของตัวเองให้คู่สนทนารับรู้ แม้บางครั้งอาจเจอคนฟังที่ทำสายตาขบขัน ล้อเลียน เหยียดหยันหรือดูถูก แต่อิงอรุณกลับไม่เคยอายในอันจะบอกว่าทำธุรกิจจัดหาคู่

“บริษัทคิวปิดแอสซิสแทนซ์ให้บริการเสริมสร้างความสัมพันธ์สำหรับหนุ่มสาวค่ะ เราก่อตั้งมาตั้งแต่...” อิงอรุณเล่ารายละเอียดการให้บริการของบริษัทคร่าวๆ ทั้งยังยกตัวอย่างกิจกรรมในอดีตให้เขาพอเห็นภาพคร่าวๆถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในการชมพิพิธภัณฑ์ด้วยความกระตือรือร้น

เกือบสิบห้านาทีที่อาจารย์หนุ่มตั้งใจฟัง เขาพยักหน้าเป็นระยะ ไม่มีข้อสงสัยใดเลยแม้แต่คำเดียว เมื่อเธออธิบายจบ เขาจึงเอ่ย “ถึงผมจะไม่ศรัทธากับเรื่องความรักหรือการจับคู่อะไรพวกนี้ แต่ก็ต้องยอมรับครับว่าเรื่องที่คุณอิงอรุณเล่ามาน่าสนใจทีเดียว”

ดูหน้าก็รู้ว่าเขาพูดไปตามมารยาท! ทว่าอิงอรุณทำไม่รู้ไม่ชี้ “ตกลงว่าคุณสาวัชรับบรรยายให้อิงใช่ไหมคะ” เธอเปลี่ยนสรรพนามเรียกตัวเองให้เป็นกันเองขึ้นเพื่อผลประโยชน์ที่กำลังรออยู่เบื้องหน้า เรื่องตีซี้รวบรัดเนี่ย...เธอถนัด!

“ผมจะแนะนำอาจารย์ที่ศิลปากรให้คุณละกัน คุณสมบัติน่าจะตรงกับที่คุณต้องการมากกว่า” ชายหนุ่มส่ายศีรษะบอกปัดอย่างไม่ไยดีกับสีหน้าประหลาดใจของเธอเลยสักนิด

ผู้ชายชอบให้คนยอ ใช่! เธออาจเยินยอเขาไม่มากพอ งั้นต้องเพิ่มคำสรรเสริญอีกสักนิด

“ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นหรอกค่ะ เพราะวิทยากรที่อิงต้องการคือคุณสาวัช คติประจำตัวของอิงก็คือทุกอย่างที่ทำต้องดีและสมบูรณ์แบบที่สุดเท่านั้น อาจารย์ที่คุณจะแนะนำให้ ถึงอย่างไรก็เป็นคงเป็นได้แค่ที่สอง ซึ่งนั่นไม่ใช่สไตล์ของอิงเลย ถือว่าช่วยอิงสักครั้งนะคะ” หญิงสาวยิ้มหวานมั่นใจว่าไม่เคยมีใครใจแข็งกับเธอลงคอ

“บรรยายให้คนที่ไม่ใช่นักศึกษาฟัง ก็ไม่ใช่สไตล์ของผมเหมือนกัน หากคุณไม่ต้องการคนที่ผมแนะนำ งั้นผมก็ไม่รู้จะช่วยคุณยังไงแล้ว” สาวัชลุกขึ้นยืน ผายมือไปทางช่องที่เว้นว่างไว้แทนประตู “ถ้าไม่มีธุระอื่นนอกจากนี้ เชิญคุณกลับดีกว่า ผมมีงานต้องทำต่อ”

อิงอรุณอ้าปากค้าง อารมณ์ผาสุขเหือดหายราวละอองน้ำค้างต้องแสงสุริยา ไม่รับปากเรื่องงานก็รับไม่ได้แล้วนะ นี่เขา ‘บังอาจ’ ไล่เธอเลยเหรอ มากไปแล้วนะ!

ที่น่าโมโหไปกว่านั้นก็คือ ไม่เคยมีใครกล้าทำกิริยาแบบนี้ใส่ ‘อิงอรุณ เทียมสุบรรณ’ มาก่อน ไม่เคยเลยจริงๆนะ!

“นี่คุณ ‘ไล่’ อิงเหรอคะ” อิงอรุณไม่ขยับตัว แต่ตวัดตาขึ้นกล่าวหา ไม่ปิดบังอาการพื้นเสีย “หรือแค่เล่นแง่เพื่อเพิ่มค่าตัว ถ้าเป็นประการหลัง ก็บอกเลยว่าไม่จำเป็นหรอกค่ะ คุณจะคิดค่าเสียเวลาเท่าไหร่ อิงก็พร้อมจ่ายทั้งนั้น”

ชายหนุ่มบิดริมฝีปากเยาะหยัน ขณะเอ่ยชัดถ้อยชัดคำ “แค่การที่ผมไม่ทำตามที่คุณต้องการ โลกก็ไม่ถล่มหรอก ยังมีคนพร้อมจะพินอบพิเทาเอาใจคุณอยู่ข้างนอกนั่นอีกเยอะ อย่ามาเสียเวลากับผมเลย!”



สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ก.พ. 2559, 16:59:55 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 มี.ค. 2559, 16:16:56 น.

จำนวนการเข้าชม : 1725





<< ตอนที่ 2 (100%)   ตอนที่ 3 (100%) >>
กาซะลองพลัดถิ่น 3 ก.พ. 2559, 19:52:49 น.
โอ้ววว ...เจอกันปุ๊บก็ลับฝีปากกันเลย ....แหม ๆ อยากรู้แล้วซิคะ ว่าใครจะตกหลุมใครกันก่อน...


Zephyr 4 ก.พ. 2559, 10:24:35 น.
โอ้วววววววว
แรงคู่

5555

แบบนี้สิมันส์
กร้ากๆๆๆ
แล้วนี่ ถ้ารู้ว่าโดนจับคู่กัน
บ้านแตก แน่ๆๆ


นักอ่านเหนียวหนึบ 5 ก.พ. 2559, 21:43:57 น.
มันส์ เด็ด เผ็ชช ดุ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account