ยกเลิก
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: 11
ใบหน้าที่ชะโงกข้ามหัวมามองสิ่งที่ตัวเองกำลังตั้งใจเขียนอย่างสุดฝีมือของคนที่หล่อนกำลังพาดพิงถึงชะงักมือที่กำปากกาไว้อย่างฉับพลัน การถูกขัดจังหวะทำให้อารมณ์ที่กำลังโลดแล่นสู่จินตนาการต้องจบลง เจ้าตัวรู้สึกเขินอายและหงุดหงิดเมื่อความลับของตัวถูกล่วงรู้เสียแล้ว มือที่กำปากกาแบออกหวังปกปิดเนื้อหาบนหน้ากระดาษที่ไม่อาจรอดพ้นสายตาประดุจเรด้าที่กวาดอ่านจนทั่ว 'ถึงจะปิดได้เพียงเล็กน้อยก็ยังดีกว่าที่จะยอมให้เขามองเห็นทุกอย่าง' หล่อนคิดเข้าข้างตัวเอง
"อย่าดูนะ ไม่ให้ดู ห้ามดู แล้วก็ห้ามหัวเราะเยาะเค้าด้วย ตัวมีอะไรจะทำก็ไปสิ อย่ามาอยู่ตรงนี้ก็พอ ไปเลยนะ" เสียงต่อว่าขับไล่ให้ไปไกลๆ แต่แทนที่คนถูกว่าจะรีบไป กลับฉวยจังหวะแบ่งพื้นที่เก้าอี้ที่เจ้าของเดิมไม่ทันระวังวางก้นตัวเองลงข้างๆแถมยังเกลี้ยงเบียดจนอีกฝ่ายเกือบตกลงอีกฝั่ง เสียงหัวเราะถูกใจดังไม่ขาดสาย 'เขาคงกำลังเยาะหล่อน' เมื่อเห็นสายตาที่บอกความรู้สึกโดยไม่คิดจะปิดบังของหล่อนว่ากำลังเคืองเขาเช่นไร ทำให้เขายอมสงบศึก และเป็นฝ่ายงอนง้อหล่อน (เช่นเคย)
"ตัวกำลังหัวเราะเยาะเค้า!"
"เปล่าเลย...เค้าแค่อยากรู้ว่าตัวกำลังทำอะไรเห็นนั่งอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เช้า"
เห็นจนเกือบหมดขนาดนี้แล้วยังมีหน้ามาถาม "ตอนนี้ก็คงรู้แล้ว"
"ตัวอยากเป็นนักเขียนหรือ"
"อือ"
"แต่ทำไมตัวเขียนเนื้อเรื่องดูวกวน เค้าอ่านแล้วยังงง"
"เห็นไหม ตัวกำลังเยาะเค้า เค้ารู้ว่าถ้าตัวรู้ ตัวจะต้องเป็นแบบนี้ เค้าถึงต้องมาแอบเขียน .."
"..แต่เค้าก็มาเห็นจนได้ เค้าไม่ได้หัวเราะเพราะคิดจะเยาะเย้ยตัวหรอกนะ แค่ปลื้มปริ่ม ที่ตัวเอาเค้ามาเป็นพระเอกของตัว"
"..."
"ตัวเป็นคนที่ดูออกง่ายจัง"
"ทำไม"
"ก็...คิดอะไรก็พูดแบบนั้น รู้สึกอย่างไรก็แสดงออกมาแบบนั้น.." เขามองจ้องเข้ามาที่นัยน์ตาหล่อน "สายตาของตัวบอกความรู้สึกทุกอย่าง"
"แล้วเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่ตัววิจารณ์งานของเค้า"
"สิ่งที่ตัวเขียน มันบอกว่าตัวคิดอะไรกับเค้า"
"คิดอะไร"
"ยังจะให้พูดอีก เค้าไม่พูดเรื่องที่ตัวคิดดีกว่า แต่เค้าอยากบอกเรื่องที่ตัวเขียน"
"ยังไง"
"ตัวเขียนเนื้อเรื่องได้งงดี ตัวควรจะมีเค้าโครงเรื่องเคร่าๆก่อนสิ แล้วก็ค่อยๆเขียนไปตามเค้าโครงที่เราวางไว้ แต่นี่ดูเหมือนตัวเขียนไปเรื่อยๆ จนไม่รู้ว่า่อะไรมาก่อนมาหลัง ..ที่เค้าพูดแบบนี้..ตัวโกรธเค้ามั้ย"
โกรธหรือ จะโกรธได้อย่างไรในเมื่อสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง หล่อนเพิ่งหัดเขียนนิยายจึงไม่รู้ว่าควรเริ่มอย่างไร แค่รู้สึกอยากเขียนไปตามอารมณ์เนื้อเรื่องก็เลยออกมาแบบนี้
"เค้าไม่โกรธตัวหรอก ตัวมีอะไรจะแนะนำเค้าอีกมั้ย" บางทีคำแนะนำของเขาอาจจะช่วยให้หล่อนเป็นนักเขียนที่ดีได้ ถ้าหากความฝันของการเป็นนักเขียนของหล่อนสำเร็จ สักวันหล่อนจะเขียนนิยายให้เขา
"สักวันเค้าจะเขียนบทละครให้ตัวเล่น ตัวจะได้ไม่ต้องไปมีเรื่องกับคนเขียนคนอื่นๆเหมือนเคย" แววตามุ่งมั่นแรงกล้าแสดงความหมายเช่นคำพูด เขานึกถึงวันที่ผ่านมาของการโลดแล่นในโลกมายา แทบทุกเรื่องที่เขารู้สึกว่าบทละครโทรทัศน์ไม่สมเหตุสมผล จนต้องท้วงติงและขอให้มีการเปลี่ยนแปลงบทเพื่อความเหมาะสม แต่พอเป็นแบบนี้บ่อยครั้งขึ้นจึงสร้างความขัดเคืองใจกับผู้จัด ผู้กำกับตลอดจนคนเขียนบทที่หวังผลด้านการค้าเป็นสำคัญ ถ้าหากจะเป็นอย่างที่หล่อนกล่าวเขาคงเบาใจเพราะเขารู้ดีว่าผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้เข้าใจความเป็นตัวตนของเขามากกว่าใคร
"เค้าจะรอวันนั้น"
"แต่ตอนนี้เค้าต้องเขียนเรื่องที่เค้าเขียนค้างไว้ ถึงแม้มันจะดูมั่วๆไปบ้างแต่เค้าก็จะพยายาม"
"เค้าจะนั่งเป็นเพื่อนตัวอยู่ตรงนี้ จนกว่าตัวจะเขียนเสร็จ ตัวจะได้ไม่ต้องทำแบบหลบๆซ่อนๆเหมือนขโมย"
หญิงสาวยิ้มให้เขาด้วยความยินดี รู้สึกโล่งและผ่อนคลายมากขึ้น หล่อนผิดเองที่คิดว่าการเขียนนิยายเป็นเรื่องที่น่าอับอายหากจะมีใครรู้ตัวตนของผู้อยู่เบื้องหลังตัวอักษรเหล่านั้น ซึ่งความจริงแล้วการเขียนแบบมีเพื่อนคู่คิดกลับไม่ใช่เรื่องน่าเขินอายเลยแม้แต่น้อยแต่กลับเป็นว่าทำให้หล่อนมีเพื่อนคอยช่วยให้คำแนะนำที่ดี หล่อนหยิบปากกาที่วางอยู่ขึ้นมาใหม่พร้อมกับเริ่มลงมือตวัดปลายปากกาเล่าเรื่องราวที่ยังเขียนค้างไว้ให้ดำเนินต่อ....
.......................................................................................................................................................
ช่วงเวลาแห่งความสลบไสลของฉันมันคงเนิ่นนานและคงมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายโดยที่ฉันไม่รู้ เพราะทันทีที่รู้สึกตัวฉันก็พบว่าตัวเองอยู่ในที่แห่งหนึ่งที่ไม่คุ้นเคย ไม่เหมือนเดิม แถมยังแปลกมากมายจนคุณคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว เตียงนอนหรูหราที่รองรับเรือนร่างอันแสนบอบชํ้าถูกตกแต่งไว้อย่างงดงามหรูหราราวเตียงนอนของเจ้าชายในเทพนิยาย ฉันค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้นจากเตียงหวังจะเดินสำรวจให้แน่ใจว่าที่นี่ที่ไหน แต่อาการอ่อนเพลียอันแสนมากมายก็ทำให้ฉันเกิดอาการหน้ามืดทรุดลงในทันทีที่ฝ่าเท้าแตะพื้นและหัวของฉันก็คงจะกระแทกเข้ากับขอบเตียงแน่ๆหากจะไม่มีมืออันแข็งแรงและอ้อมกอดอันแน่นหนาของใครคนหนึ่งเอื้อมมาช่วยไว้ได้ทัน
"แอนดี้!" เป็นเขานั่นเองที่เป็นคนช่วยฉัน ฉันได้ยินเสียงเขาบ่นอุบในลำคอคล้ายกับว่าไม่พอใจการกระทำของฉัน ก่อนจะช้อนอุ้มฉันกลับไปวางบนเตียงอย่างนุ่มนวล ฉันสบตาเขาในระยะใกล้ตลอดเวลา แล้วก็อดตื่นเต้นไม่ได้เมื่อไม่พบความว่างเปล่าดุจเวิ้งนํ้าอันมืดมิดเหมือนตอนที่เขาความจำเสื่อมอีกต่อไป
"่่ความจำของนายกลับคืนมาแล้ว...ใช่มั้ย..แอนดี้" เขาพยักหน้ารับโดยไม่รอให้ฉันต้องถามซํ้า "เป็นไปได้ยังไง"
แล้วเขาก็เล่าทุกอย่างให้ฉันฟังว่า หลังจากที่เขาดูดพิษงูให้ฉันเขาก็สลบไปเช่นกัน ไม่รู้ว่าสลบไปกี่วันแต่พอฟื้นขึ้นมาก็พบว่าความจำทุกอย่างกลับคืนมา ไม่เพียงเท่านั้นยังพบว่าตัวเองกระปี้กระเปร่าขึ้นมากมายอย่างประหลาด มีพลกำลังด้านร่างกายเทีบบเท่ายอดมนุษย์และ มีพลังจิตดลบันดาลทุกอย่างได้อย่างกับเสก สามารถสื่อสารกับสิงสาราสัตว์ราวกับใช้ภาษาเดียวกัน และนั่นทำให้เขารู้ว่าที่เขาเปลี่ยนไปแบบนี้เป็นเพราะพิษงูนั่นนั้นเอง แต่ใช่ว่าใครๆจะโชคดีเหมือนเขาที่ร่างกายสามารถเปลี่ยนพิษอันร้ายแรงดุจพญามัจจุราชให้กลายไปเป็นยารักษาโรคขั้นเทพได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะดวงจิตที่ผูกพันอย่างแรงกล้าระหว่างกันและกันของฉันกับเขานั่นเอง และทุกอย่างก็เกิดขึ้นในป่าแห่งปาฏิหารแห่งนี้นั่นเอง ต่อมาเขาก็บังเอิญได้ช่วยชีวิตราชธิดาแห่งเมืองนี้ พวกคนเหล่านั้นตอบแทนเขาโดยการให้สิ่งนี้กับเขา
"หมายความว่าพวกเราพลัดหลงเข้ามาในอีกโลกหนึ่ง และตอนนี้นายก็กลายไปเป็นแม่ทัพคู่ใจของพระราชาหลังจากนำทัพออกศึกและรบชนะทุกครั้ง ในขณะที่ฉันต้องเกลี้ยงเป็นใบ้และอยู่ในฐานะน้องชายขี้โรคของนายอย่างนั้นเหรอ....โอย!!!! จะเป็นลม"
"อย่าดูนะ ไม่ให้ดู ห้ามดู แล้วก็ห้ามหัวเราะเยาะเค้าด้วย ตัวมีอะไรจะทำก็ไปสิ อย่ามาอยู่ตรงนี้ก็พอ ไปเลยนะ" เสียงต่อว่าขับไล่ให้ไปไกลๆ แต่แทนที่คนถูกว่าจะรีบไป กลับฉวยจังหวะแบ่งพื้นที่เก้าอี้ที่เจ้าของเดิมไม่ทันระวังวางก้นตัวเองลงข้างๆแถมยังเกลี้ยงเบียดจนอีกฝ่ายเกือบตกลงอีกฝั่ง เสียงหัวเราะถูกใจดังไม่ขาดสาย 'เขาคงกำลังเยาะหล่อน' เมื่อเห็นสายตาที่บอกความรู้สึกโดยไม่คิดจะปิดบังของหล่อนว่ากำลังเคืองเขาเช่นไร ทำให้เขายอมสงบศึก และเป็นฝ่ายงอนง้อหล่อน (เช่นเคย)
"ตัวกำลังหัวเราะเยาะเค้า!"
"เปล่าเลย...เค้าแค่อยากรู้ว่าตัวกำลังทำอะไรเห็นนั่งอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เช้า"
เห็นจนเกือบหมดขนาดนี้แล้วยังมีหน้ามาถาม "ตอนนี้ก็คงรู้แล้ว"
"ตัวอยากเป็นนักเขียนหรือ"
"อือ"
"แต่ทำไมตัวเขียนเนื้อเรื่องดูวกวน เค้าอ่านแล้วยังงง"
"เห็นไหม ตัวกำลังเยาะเค้า เค้ารู้ว่าถ้าตัวรู้ ตัวจะต้องเป็นแบบนี้ เค้าถึงต้องมาแอบเขียน .."
"..แต่เค้าก็มาเห็นจนได้ เค้าไม่ได้หัวเราะเพราะคิดจะเยาะเย้ยตัวหรอกนะ แค่ปลื้มปริ่ม ที่ตัวเอาเค้ามาเป็นพระเอกของตัว"
"..."
"ตัวเป็นคนที่ดูออกง่ายจัง"
"ทำไม"
"ก็...คิดอะไรก็พูดแบบนั้น รู้สึกอย่างไรก็แสดงออกมาแบบนั้น.." เขามองจ้องเข้ามาที่นัยน์ตาหล่อน "สายตาของตัวบอกความรู้สึกทุกอย่าง"
"แล้วเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่ตัววิจารณ์งานของเค้า"
"สิ่งที่ตัวเขียน มันบอกว่าตัวคิดอะไรกับเค้า"
"คิดอะไร"
"ยังจะให้พูดอีก เค้าไม่พูดเรื่องที่ตัวคิดดีกว่า แต่เค้าอยากบอกเรื่องที่ตัวเขียน"
"ยังไง"
"ตัวเขียนเนื้อเรื่องได้งงดี ตัวควรจะมีเค้าโครงเรื่องเคร่าๆก่อนสิ แล้วก็ค่อยๆเขียนไปตามเค้าโครงที่เราวางไว้ แต่นี่ดูเหมือนตัวเขียนไปเรื่อยๆ จนไม่รู้ว่า่อะไรมาก่อนมาหลัง ..ที่เค้าพูดแบบนี้..ตัวโกรธเค้ามั้ย"
โกรธหรือ จะโกรธได้อย่างไรในเมื่อสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง หล่อนเพิ่งหัดเขียนนิยายจึงไม่รู้ว่าควรเริ่มอย่างไร แค่รู้สึกอยากเขียนไปตามอารมณ์เนื้อเรื่องก็เลยออกมาแบบนี้
"เค้าไม่โกรธตัวหรอก ตัวมีอะไรจะแนะนำเค้าอีกมั้ย" บางทีคำแนะนำของเขาอาจจะช่วยให้หล่อนเป็นนักเขียนที่ดีได้ ถ้าหากความฝันของการเป็นนักเขียนของหล่อนสำเร็จ สักวันหล่อนจะเขียนนิยายให้เขา
"สักวันเค้าจะเขียนบทละครให้ตัวเล่น ตัวจะได้ไม่ต้องไปมีเรื่องกับคนเขียนคนอื่นๆเหมือนเคย" แววตามุ่งมั่นแรงกล้าแสดงความหมายเช่นคำพูด เขานึกถึงวันที่ผ่านมาของการโลดแล่นในโลกมายา แทบทุกเรื่องที่เขารู้สึกว่าบทละครโทรทัศน์ไม่สมเหตุสมผล จนต้องท้วงติงและขอให้มีการเปลี่ยนแปลงบทเพื่อความเหมาะสม แต่พอเป็นแบบนี้บ่อยครั้งขึ้นจึงสร้างความขัดเคืองใจกับผู้จัด ผู้กำกับตลอดจนคนเขียนบทที่หวังผลด้านการค้าเป็นสำคัญ ถ้าหากจะเป็นอย่างที่หล่อนกล่าวเขาคงเบาใจเพราะเขารู้ดีว่าผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้เข้าใจความเป็นตัวตนของเขามากกว่าใคร
"เค้าจะรอวันนั้น"
"แต่ตอนนี้เค้าต้องเขียนเรื่องที่เค้าเขียนค้างไว้ ถึงแม้มันจะดูมั่วๆไปบ้างแต่เค้าก็จะพยายาม"
"เค้าจะนั่งเป็นเพื่อนตัวอยู่ตรงนี้ จนกว่าตัวจะเขียนเสร็จ ตัวจะได้ไม่ต้องทำแบบหลบๆซ่อนๆเหมือนขโมย"
หญิงสาวยิ้มให้เขาด้วยความยินดี รู้สึกโล่งและผ่อนคลายมากขึ้น หล่อนผิดเองที่คิดว่าการเขียนนิยายเป็นเรื่องที่น่าอับอายหากจะมีใครรู้ตัวตนของผู้อยู่เบื้องหลังตัวอักษรเหล่านั้น ซึ่งความจริงแล้วการเขียนแบบมีเพื่อนคู่คิดกลับไม่ใช่เรื่องน่าเขินอายเลยแม้แต่น้อยแต่กลับเป็นว่าทำให้หล่อนมีเพื่อนคอยช่วยให้คำแนะนำที่ดี หล่อนหยิบปากกาที่วางอยู่ขึ้นมาใหม่พร้อมกับเริ่มลงมือตวัดปลายปากกาเล่าเรื่องราวที่ยังเขียนค้างไว้ให้ดำเนินต่อ....
.......................................................................................................................................................
ช่วงเวลาแห่งความสลบไสลของฉันมันคงเนิ่นนานและคงมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายโดยที่ฉันไม่รู้ เพราะทันทีที่รู้สึกตัวฉันก็พบว่าตัวเองอยู่ในที่แห่งหนึ่งที่ไม่คุ้นเคย ไม่เหมือนเดิม แถมยังแปลกมากมายจนคุณคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว เตียงนอนหรูหราที่รองรับเรือนร่างอันแสนบอบชํ้าถูกตกแต่งไว้อย่างงดงามหรูหราราวเตียงนอนของเจ้าชายในเทพนิยาย ฉันค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้นจากเตียงหวังจะเดินสำรวจให้แน่ใจว่าที่นี่ที่ไหน แต่อาการอ่อนเพลียอันแสนมากมายก็ทำให้ฉันเกิดอาการหน้ามืดทรุดลงในทันทีที่ฝ่าเท้าแตะพื้นและหัวของฉันก็คงจะกระแทกเข้ากับขอบเตียงแน่ๆหากจะไม่มีมืออันแข็งแรงและอ้อมกอดอันแน่นหนาของใครคนหนึ่งเอื้อมมาช่วยไว้ได้ทัน
"แอนดี้!" เป็นเขานั่นเองที่เป็นคนช่วยฉัน ฉันได้ยินเสียงเขาบ่นอุบในลำคอคล้ายกับว่าไม่พอใจการกระทำของฉัน ก่อนจะช้อนอุ้มฉันกลับไปวางบนเตียงอย่างนุ่มนวล ฉันสบตาเขาในระยะใกล้ตลอดเวลา แล้วก็อดตื่นเต้นไม่ได้เมื่อไม่พบความว่างเปล่าดุจเวิ้งนํ้าอันมืดมิดเหมือนตอนที่เขาความจำเสื่อมอีกต่อไป
"่่ความจำของนายกลับคืนมาแล้ว...ใช่มั้ย..แอนดี้" เขาพยักหน้ารับโดยไม่รอให้ฉันต้องถามซํ้า "เป็นไปได้ยังไง"
แล้วเขาก็เล่าทุกอย่างให้ฉันฟังว่า หลังจากที่เขาดูดพิษงูให้ฉันเขาก็สลบไปเช่นกัน ไม่รู้ว่าสลบไปกี่วันแต่พอฟื้นขึ้นมาก็พบว่าความจำทุกอย่างกลับคืนมา ไม่เพียงเท่านั้นยังพบว่าตัวเองกระปี้กระเปร่าขึ้นมากมายอย่างประหลาด มีพลกำลังด้านร่างกายเทีบบเท่ายอดมนุษย์และ มีพลังจิตดลบันดาลทุกอย่างได้อย่างกับเสก สามารถสื่อสารกับสิงสาราสัตว์ราวกับใช้ภาษาเดียวกัน และนั่นทำให้เขารู้ว่าที่เขาเปลี่ยนไปแบบนี้เป็นเพราะพิษงูนั่นนั้นเอง แต่ใช่ว่าใครๆจะโชคดีเหมือนเขาที่ร่างกายสามารถเปลี่ยนพิษอันร้ายแรงดุจพญามัจจุราชให้กลายไปเป็นยารักษาโรคขั้นเทพได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะดวงจิตที่ผูกพันอย่างแรงกล้าระหว่างกันและกันของฉันกับเขานั่นเอง และทุกอย่างก็เกิดขึ้นในป่าแห่งปาฏิหารแห่งนี้นั่นเอง ต่อมาเขาก็บังเอิญได้ช่วยชีวิตราชธิดาแห่งเมืองนี้ พวกคนเหล่านั้นตอบแทนเขาโดยการให้สิ่งนี้กับเขา
"หมายความว่าพวกเราพลัดหลงเข้ามาในอีกโลกหนึ่ง และตอนนี้นายก็กลายไปเป็นแม่ทัพคู่ใจของพระราชาหลังจากนำทัพออกศึกและรบชนะทุกครั้ง ในขณะที่ฉันต้องเกลี้ยงเป็นใบ้และอยู่ในฐานะน้องชายขี้โรคของนายอย่างนั้นเหรอ....โอย!!!! จะเป็นลม"
ผู้หญิง
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 ก.พ. 2559, 11:22:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 ก.พ. 2559, 11:22:35 น.
จำนวนการเข้าชม : 725
<< 10 |