ตะวัน (ร้าย) ฉายรัก (นามปากกา 'พิริตา' ) เปิดจองรูปแบบเล่มพร้อม E-Book
‘ปาลิกา’ หญิงสาวกำพร้าที่สูญเสียครอบครัวไป

ตั้งแต่ยังเยาว์วัย แต่โชคดีที่มีผู้อุปการะไว้ ซึ่งก็เป็นนายจ้างของครอบครัว

เธอนั่นเอง ปาลิกาเติบโตมาท่ามกลางความรัก เข้าใจอย่างล้นเหลือของ

ประมุขทั้งสองของบริษัท ‘เดอะซัน กรุ๊ป จิวเวลรี่’ และเพราะที่แห่งนี้เป็น

สถานที่ที่ทั้งพ่อแม่และยายของเธอได้ใช้ชีวิตอยู่จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต

ที่นี่จึงมีความหมาย และมีความสำคัญสำหรับหญิงสาวมาก

ในชีวิตของปาลิกามีเพียงสองสิ่งเท่านั้นที่เธอรู้สึกว่าเป็นอุปสรรค ขวาก

หนามที่ยิ่งใหญ่ นั้นก็คือ ปมแห่งความหวาดกลัวที่เป็นเหตุให้เธอติดอยู่กับฝัน

ร้ายในวัยเด็ก และลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูล ‘รัตนาวาณิชย์’ ที่เติบโต

มาด้วยกัน เขามีอายุอ่อนกว่าเธอหนึ่งปี แต่ไม่เคยยอมรับว่าเธอเป็นพี่สาว

หนำซ้ำยังคอยแกล้งเธอมาตั้งแต่เด็ก และเธอก็เรียกเขาว่า ‘จอมวายร้ายเจ้า

เล่ห์,คนกวนประสาทฯ ‘ แต่ทว่าจอมวายร้ายคนนั้นกลับเป็นคนเดียวกันที่อยู่

เคียงข้างเธอยามมีภัย และพยายามช่วยเธอให้หลุดพ้นจากปมแห่งฝันร้าย

นั้น และเป็นคนเดียวกับที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย

แต่แล้ว...ก็กลับเป็นคนเดียวกัน ที่กันเธอออกจากเดอะซัน กรุ๊ปฯ และชีวิต

ของเขา เหมือนไม่เห็นค่า ความสำคัญของเธออีกต่อไป จนหญิงสาวทนอยู่

กับความรู้สึกเจ็บปวด สิ้นไร้ ด้อยค่าของตัวเองไม่ไหว ที่สุดจึงตัดสินใจเดิน

ออกมาจากชายคาเดอะซัน กรุ๊ปฯ ด้วยหัวใจที่บอบช้ำ.


‘ตะวันฉาย’ ลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูล ‘รัตนาวาณิชย์’ และผู้สืบทอด

กิจการของบริษัท ‘เดอะซัน กรุ๊ป จิวเวลรี่’ ต่อจากมารดา หลังกลับจากเรียน

ต่อต่างประเทศชายหนุ่มได้เข้ามาเรียนรู้งานในเดอะซัน กรุ๊ปฯ อย่างเต็มตัว

โดยมี ‘ปาลิกา’ (หรือที่เขาเรียกจนติดปากว่า ‘ยัยปลิก’) คอยกระตุ้นอยู่ตลอด

ทั้งที่โดยนิสัยแล้วตะวันฉายเป็นคนที่มีความตั้งใจ รับผิดชอบและจริงจังกับ

งาน โดยเฉพาะช่วงหลังที่เขาเข้ามาทำงานอย่างเต็มตัวแล้วนั่น แต่ใน

ทางกลับกันตะวันฉายจะกลายเป็นเด็กไม่ยอมโตทันทีที่อยู่กับปาลิกา เพราะ

ความรื่นรมย์อีกอย่างในชีวิตของเขาตั้งแต่เล็กจนโต คือการได้แกล้งปาลิกา

ทั้งวาจาและการกระทำ แต่เขาก็ได้สงวนลิขสิทธิ์ในการแกล้งไว้แค่ตัวเขา

เอง คนอื่นห้ามแกล้งโดยไม่ได้รับอนุญาตเสียอย่างนั้น

แต่ทว่าหากยามใดที่ปาลิกามีภัย อ่อนแอ ตะวันฉายจะถึงตัวเธอก่อนเสมอ

เขาห่วงทุกย่างก้าวในชีวิตของเธอ โดยเฉพาะปมแห่งความกลัวที่ทำให้เธอ

ฝันร้ายในตอนเด็ก ชายหนุ่มปรารถนาจะให้เธอเอาชนะความกลัวนั้นให้ได้

และการที่ตะวันฉายได้มีโอกาสอยู่เพียงลำพัง ไกลห่างกับปาลิกาขณะที่

เรียนอยู่ต่างประเทศนั้น ได้ทำให้เขารู้ใจตัวเองว่าคิดอย่างไรกับเธอ ชาย

หนุ่มไม่เคยสงสัยในความรู้สึกที่มีต่อหญิงสาวเลยสักนิด แต่เพราะเชื่อว่าเธอ

รักใครอีกคนที่เป็นญาติสนิทของเขา และผู้ชายคนนั้นก็เป็น ‘ผู้ชายในฝัน’

ของเธอมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เขาได้แต่กล้ำกลืนความรู้สึกเอาไว้ กว่าจะรู้ว่า
ปาลิกาก็รักเขาไม่ต่างกัน ก็ในวันที่เธอได้หนีเขาไปเสียแล้ว...


‘ก็ลื้อสองคนน่ะสิ มีด้ายแดงผูกติดกันมา

ตั้งแต่เกิด แต่ที่แปลกไปกว่านั้นคือด้ายแดงที่ผูกพวกลื้อไว้นั้นมันสั้นมาก ทำ

ให้ต้องมาใกล้กันตั้งแต่เด็ก ไม่เหมือนบางคู่ที่ด้ายจะยาวอาจใช้เวลานานกว่า

จะได้มาเจอกัน แต่นั่นแหล่ะด้ายแดงแห่งโชคชะตาของพวกลื้อจะไม่มีวันถูก

ตัดขาด แล้วมันก็จะอยู่ในระยะสั้นอย่างนี้ตลอดไป อย่างที่เคยเป็นมาจนกว่า

จะตายจากกัน และหากวันใดที่มันยืดยาวออกไปไม่ว่าด้วยสาเหตุอันใด ด้าย

นั้นก็จะดึงรั้งพวกลื้อให้ต้องกลับมาใกล้กันจนได้ หากพวกลื้อฝืนก็จะทำให้

เจ็บปวดทุรนทุราย เหมือนจะขาดใจเลยทีเดียว มันเป็นลิขิตของสวรรค์’

ตะวันฉายกับปาลิกาจะทำเช่นไรกับหัวใจของตัวเอง

ด้ายแดงแห่งโชคชะตา และสายใยแห่งความผูกพัน

จะสามารถนำพาหัวใจทั้งสองดวงให้กลับมาแนบชิดกัน

เหมือนในวันเก่าได้หรือไม่?..................................

โปรดติดตามใน ‘ตะวัน (ร้าย) ฉายรัก’ ได้เลยค่ะ


Tags: ตะวัน ร้าย ฉาย รัก ปลา อัญมณี จิวเวลรี่ หวานซึ้ง

ตอน: บทที่ 34

เป็นเวลาดึกแล้ว ตะวันฉายก้าวออกจากลิฟท์ เปิดประตูด้วยท่าทางระโหยโรยแรงก่อน

สาวเท้าไปยังห้องรับแขก ป้าแต๋วที่ตั้งตารออยู่รีบเข้ามาหา ขณะที่ร่างสูงทรุดตัวลงนั่งตรงโซฟา

“เป็นยังไงบ้างคะคุณซัน ได้ข่าวหนูปลาบ้างไหมคะ” แล้วป้าแต๋วก็ชะงักไปเมื่อเห็นท่าทาง

อ่อนล้าของอีกฝ่าย “เอ่อ...เดี๋ยวป้าจะไปหาน้ำมาให้นะคะ” ตะวันฉายเอนหลังพิงพนักโซฟารับแขก

แล้วหลับตานิ่งอยู่อย่างนั้น

“น้ำค่ะคุณซัน” ป้าแต๋วกลับมาพร้อมแก้วน้ำเย็นในมือ ทอดสายตามองร่างสูงที่อยู่ตรงหน้า

ด้วยความรู้สึกสงสารจับใจ

“ขอบคุณครับป้าแต๋ว ดึกแล้วป้าแต๋วไปนอนเถอะครับ เดี๋ยวผมก็จะนอนเหมือนกัน” ชาย

หนุ่มบอกโดยที่ไม่ได้ขยับตัวจากท่าเดิมแต่อย่างใด

หลังจากที่ป้าแต๋วไปนอนได้สักพัก ตะวันฉายจึงลืมตาขึ้นพลางขยับตัวหยิบแก้วน้ำขึ้นมา

ดื่ม ก่อนลุกขึ้น แต่แทนที่จะเดินเข้าห้องของตัวเอง เขากลับตรงไปยังห้องของปาลิกาแทน ชายหนุ่ม

เดินฝ่าความมืดภายในห้องเข้าไปเปิดไฟตรงหัวเตียง แล้วตะวันฉายก็ทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มที่มีผ้าปู

ที่นอนสีชมพูลายดอกไม้แบบที่เจ้าของห้องชอบ

วันนี้หลังเสร็จจากงานแฟร์ฯ ใหญ่ ตะวันฉายจึงได้เดินทางไปตามหาปาลิกาที่โคราชอีก

ครั้ง แต่ก็ได้รับคำตอบที่สร้างความผิดหวังให้เขากลับมาเช่นเดิม ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบกรอบรูป

ที่วางอยู่ตรงหัวเตียง ที่มีคนใจร้ายยิ้มหน้าแป้นอยู่ในนั้น ช่างใจเด็ดนัก...แต่ในความรู้สึกของเขามัน

เป็นความใจร้ายมากกว่า ในขณะที่เธอทิ้งเดอะซัน กรุ๊ปฯ ไปอย่างไม่คิดกลับหลัง เธอจะรู้บ้างไหม

ว่าได้หยิบยื่นความหม่นหมอง เศร้าสร้อยและสารพัดความรู้สึกที่เจ็บปวดให้กับเขา

“ปาลิกาเธออยู่ไหน รู้บ้างไหมฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน เมื่อไหร่เธอจะกลับมาหาฉัน ฉันรอ

เธออยู่นะ ฉันพยายามออกตามหาเธอจนแทบพลิกแผ่นดิน แต่เธอก็ช่างใจร้ายนัก ใจคอเธอคิดจะ

หนีฉันไปตลอดชีวิตเลยหรือไง เธอไม่เคยคิดถึงฉันเลยใช่ไหม อย่าใจร้ายกับฉันอีกเลยนะ ฉันรักเธอ

ห่วงเธอแค่ไหนรู้บ้างไหม เข้าใจบ้างไหมยัยคนใจร้าย” ตะวันฉายพร่ำเสียงเครือน้ำตาเริ่มคลอเอ่อ

ขณะที่มือไล้ใบหน้าหวานละมุนในกรอบรูปแผ่วเบา “แต่ฉันจะพยายามตามหาเธอต่อไป ฉันจะไม่

ท้อหรอกนะยัยคนใจดำ ตัวดำยังไม่พอยังใจร้ายใจดำอีก หากฉันตามหาเธอเจอละก็...” แล้วเสียง

สั่นเครือนั้นก็ขาดหายไปในตอนท้าย ตะวันฉายหลับตา หยาดน้ำตาซึมออกมาตรงปลายตา ชาย

หนุ่มกอดกรอบรูปไว้แนบอกก่อนจะผล็อยหลับไป

เจ้าของร่างเหยียดยาวที่เผลอหลับไปยังเตียงสีชมพู ตื่นขึ้นมาเป็นเวลาสายมากแล้ว พอดี

เป็นวันหยุดตะวันฉายจึงเอ้อระเหยอยู่บนเตียงนุ่มต่ออีกนิด กลิ่นเจ้าของเตียงที่คุ้นเคยกรุ่นอยู่ใน

จมูก เป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ยิ่งทำให้เขาคิดถึงนัก สีชมพูที่เขาสยองนักหนา และมันยังคืบคลานเข้า

มาในชีวิตประจำวันของเขาจนชายหนุ่มเคยนึกหวั่นว่ามันจะกลืนกินเขาไม่วันใดก็วันหนึ่ง

มาตอนนี้กลับเป็นสีที่เขาอยากอยู่ใกล้และมองเห็นมากที่สุด เพราะมันทำให้รู้สึกอบอุ่นใจ

เหมือนได้อยู่ใกล้เธอ และหากมันสามารถทำให้เจ้าของห้องนี้กลับมาได้ เขายอมหายใจเข้าหายใจ

ออกเป็นสีชมพูไปจนตาย ชายหนุ่มคลี่ยิ้มเหงากับตัวเอง การได้นอนหลับพักผ่อนในสถานที่ที่ให้

ความรู้สึกอุ่นใจเช่นนี้ก็ทำให้เขาสดชื่นขึ้นมาบ้าง

ตะวันฉายออกมาจากห้องปาลิกา ตั้งใจจะรีบอาบน้ำเตรียมตัวสะสางงานที่คั่งค้างที่เขาได้

สั่งหยินมี่เตรียมขึ้นมาให้ แม้วันนี้จะเป็นวันหยุดก็ตาม แต่พอออกมาถึงห้องรับแขกก็ต้องแปลกใจ

เมื่อเห็นคนขับรถกับป้าแต๋วพากันหิ้วกระเป๋าใบเป้งเข้าไปยังห้องใหญ่ที่เคยถูกปิดไว้ ซึ่งเป็นห้อง

ของคุณโฉมฉายและท่านเจ้าสัวอาทิตย์ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่นั่นเอง

“ป้าแต๋ว ทำอะไรกันครับ” ตะวันฉายก้าวตามเข้าไปในห้อง กวาดสายตามองข้าวของที่

กองอยู่ด้วยความประหลาดใจ

“อ๋อ...คุณผู้หญิงสิคะ จะมาอยู่กับคุณซันน่ะค่ะ” ป้าแต๋วที่กำลังเริ่มรื้อของเพื่อจัดเข้าที่หัน

มายิ้มให้เขา

“ใช่แล้วล่ะลูก หม่าม๊าจะมาพักอยู่กับน้องซันจนกว่าหนูปลาจะกลับมา จะได้ดูแลลูกด้วย

ยังไงล่ะจ๊ะ” คุณโฉมฉายที่ตามเข้ามาบอกลูกชาย แล้วจึงทรุดตัวลงนั่งบนโซฟากลางห้องที่มีขนาด

ใหญ่ที่สุดในบรรดาจำนวนห้องในชั้นนี้ แล้วหันไปสั่งงานป้าแต๋วต่ออีกสองสามคำ

“ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้ครับหม่าม๊า ผมดูแลตัวเองได้” ชายหนุ่มท้วง แต่ก็ด้วยน้ำเสียงไม่

จริงจังนัก

“มานี่เลยมา มาคุยกับหม่าม๊าหน่อยซิลูก” ผู้เป็นแม่เรียกลูกชายให้มานั่งลงบนโซฟากลาง

ห้องด้วยกัน ตะวันฉายทำตามอย่างว่าง่าย “ดูแลตัวเองได้ แต่ทำไมโทรมขนาดนี้ล่ะลูก หม่าม๊าทน

ดูสภาพน้องซันไม่ไหวแล้วนะ หม่าม๊ารู้ว่าลูกทุกข์ใจมากแค่ไหน และหม่าม๊าก็ไม่อยากให้น้องซัน

เผชิญกับสิ่งเหล่านี้เพียงลำพัง ลูกยังมีหม่าม๊าอยู่นะจ๊ะ เราจะช่วยกันตามหาหนูปลาให้พบ” คุณ

โฉมฉายยกมือขึ้นลูบหัวลูกชายอ่อนโยนพลางเอ่ย

“หม่าม๊ายังเชื่อว่าปาลิกาจะกลับมาเหรอครับ” น้ำเสียงที่ถามมีแววหวั่นไหวและไม่มั่นใจ

ในคราเดียวกัน

“แน่นอนสิจ๊ะ อะไรทำให้น้องซันไม่มีความหวังล่ะลูก น้องซันไม่ได้รักหนูปลาหรอกหรือ”

แต่ผู้เป็นแม่กลับย้อนถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“รักสิครับ รักมากด้วย จนผมกลัว...” มาถึงตอนนี้เขาไม่อยากปิดบังอะไรอีกแล้ว แม้กระทั่ง

ความรู้สึกของตัวเอง

“อย่ากลัวเลยลูก ถ้าน้องซันรักหนูปลาน้องซันก็ต้องเชื่อว่าความรักของลูกจะทำให้หนูปลา

กลับมาอย่างแน่นอน” รอยยิ้มอ่อนโยนในแบบที่ชายหนุ่มคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็กระบายอยู่บนใบหน้า

คุณโฉมฉาย และรอยยิ้มแบบนี้ของมารดาก็ทำให้เขาอบอุ่นใจนัก

“ขอบคุณครับหม่าม๊า ผมรู้สึกดีขึ้นมากเลย แต่หม่าม๊าครับ...ถ้าปาลิกากลับมาหม่าม๊าจะ

ว่าอะไรไหมที่ เอ่อ...ปาลิกาจะไม่ใช่ลูกสาวของหม่าม๊าเพียงอย่างเดียวแล้ว แต่จะเป็นคนที่ผมรัก

ด้วยนะครับ” แต่ท้ายประโยคยังไม่วายจะกริ่งเกรง

“ทำไมลูกถึงคิดว่าหม่าม๊าต้องว่าด้วยล่ะจ๊ะ”

“ไม่รู้สิครับ ผมรู้ว่าหม่าม๊ารักปาลิกาเหมือนกับที่รักผม แต่ถ้าปาลิกาเปลี่ยนมาเป็นคนรัก

ของผมหม่าม๊าอาจจะ...เอ่อ...ผมแค่กลัวจะเป็นเหมือนกรณีครอบครัวเฮียอ๋าแค่นั้นเองครับ

หม่าม๊า” นั่นเป็นสิ่งที่ตะวันฉายแอบกังวลอยู่ลึกๆ แม้เขาจะรู้จักมารดาดีแต่ก็อดวิตกไม่ได้ เพราะ

ตอนนี้อะไรที่เกี่ยวข้องกับปาลิกา แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มันก็ดูยิ่งใหญ่และสามารถโยก

ไหวหัวใจของเขาให้คลอนแคลนได้ทั้งนั้น คุณโฉมฉายยิ้มอย่างเข้าใจ

“น้องซัน...หม่าม๊ากับป่ะป๊ารักหนูปลาเหมือนลูกคนหนึ่งก็เพราะตัวของหนูปลาเองนะลูก

ไม่เคยรังเกียจหนูปลาไม่ว่าอยู่ในฐานะไหน ไม่เกี่ยวกับชาติตระกูลว่าเป็นใครมาจากไหน สิ่งที่

หม่าม๊าแอบกลัวมาตลอดก็คือ กลัวว่าหนูปลาจะไปจากเดอะซัน กรุ๊ปฯ

“หลังจากเรียนจบก็ทีหนึ่งแล้วที่หม่าม๊าแอบลุ้นว่าหนูปลาจะเลือกทางเดินใหม่ที่ไม่ใช่

เดอะซัน กรุ๊ปฯ หรือไม่ และหากเป็นเช่นนั้นจริงหม่าม๊าคงห้ามไม่ได้เพราะชีวิตเป็นของหนูปลา คง

ทำได้แค่เพียงคอยสนับสนุน ส่งเสริมในเส้นทางที่หนูปลาเลือก แต่ทว่าตอนนั้นหนูปลากลับเลือก

อยู่ที่นี่ พอมาตอนนี้ก็มีสิ่งที่ทำให้หม่าม๊ากังวลอีกจนได้”

“อะไรเหรอครับ”

“ก็กังวลว่าหนูปลาจะแต่งงานมีครอบครัวไป และกลัวว่านั่นจะเป็นเหตุผลที่ทำให้หนูปลา

ไปจากเราจริงๆ น่ะสิ แม้ว่าจะแต่งกับตาอ๋าหม่าม๊าก็คงเป็นห่วงอยู่ดี หม่าม๊ารักและเป็นห่วงหนู

ปลาไม่น้อยไปกว่าน้องซันหรอกนะลูก หม่าม๊าย่อมอยากให้ลูกๆ ของหม่าม๊ามีความสุข

เพราะฉะนั้นหม่าม๊าจึงยินดีมากกว่าหากลูกกับหนูปลารักกันจริงๆ ”

“ขอบคุณมากครับหม่าม๊า” ชายหนุ่มรีบกล่าวขอบคุณด้วยความยินดีและโล่งใจ

“น้องซันรู้ไหม ลูกเป็นแก้วตาดวงใจของป่ะป๊ากับหม่าม๊านะจ๊ะ น้องซันเกิดจากความรัก

ของป่ะป๊าและหม่าม๊า เป็นสิ่งวิเศษที่สุดที่เบื้องบนมอบให้ป่ะป๊ากับหม่าม๊า อะไรที่เป็นความสุขของ

ลูกหม่าม๊ายินดีเสมอ และเรื่องนี้คงไม่ใช่แค่หม่าม๊าเท่านั้นที่ยินดีและเต็มใจ

“หากป่ะป๊ากับยายปลิกยังอยู่ก็คงรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นลูกอย่ากังวลในเรื่องนี้

เลยจ้ะ แต่ตอนนี้น้องซันสัญญากับหม่าม๊าได้ไหมว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นลูกจะไม่ยอมหมดหวัง ทั้ง

เรื่องของหนูปลา เรื่องงาน และทุกเรื่องในชีวิต จะคิดถึงเสมอว่าหม่าม๊าอยู่กับลูกตลอดเวลา”

สายตาของผู้เป็นแม่ที่จับจ้องลูกชายอยู่นั้นเต็มไปด้วยความรัก ห่วงใยและปรารถนาดี ตะวันฉาย

รู้สึกเต็มตื้นอยู่ในอก น้ำตาแห่งความซาบซึ้งปริ่มตรงขอบตา

“ผมสัญญาครับหม่าม๊า ขอบคุณมากนะครับ ผมรักหม่าม๊ามากที่สุดเลย” ชายหนุ่มเสียง

สั่นเครือขณะกระพุ่มมือกราบแนบอกผู้เป็นมารดาด้วยความรู้สึกทั้งอบอุ่น ตื้นตันใจ และเต็มเปี่ยม

ไปด้วยความหวังเหมือนทุกครั้งที่เขาเจ็บปวด เหนื่อยล้า สับสน สิ้นหวังและสารพัดความรู้สึกที่

ย่ำแย่ คุณโฉมฉายผู้เป็นแม่จะอยู่เคียงข้างคอยโอบกอด ปลอบโยน ปลุกปลอบกำลังใจให้เขาอยู่

เสมอ ตั้งแต่เป็นเด็กชายตัวเล็ก

ในชีวิตของตะวันฉายมีพ่อและแม่ที่มีอิทธิพลต่อเขามากที่สุด แม้จะเป็นคนละส่วน คนละ

ด้านที่แตกต่างกัน แต่เมื่อผสมผสานกันแล้วกลับทำให้เขาเป็นเขาจนถึงทุกวันนี้ เพราะพ่อของเขา

เป็นส่วนที่คอยสั่งสอนสิ่งต่างๆ ในชีวิต คอยตักเตือนในตอนที่ทำอะไรผิดพลาด แต่ก็ด้วยท่าที

ละมุนละม่อมและถ้อยคำที่มีเหตุมีผล ปฏิบัติต่อตะวันฉายราวกับเขาเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งที่สามารถ

แสดงความคิดเห็นและเหตุผลของตัวเองได้ และหากไม่ถูกต้องผู้เป็นพ่อจะคอยบอกคอยสอน

ค่อยๆ ปรับเขาให้กลับมาสู่ทิศทางที่ถูกต้อง

แต่แม่ของเขาก็เป็นส่วนที่ให้ความสำคัญทางด้านจิตใจ คอยให้ความรัก ความห่วงใยและ

ความเข้าใจ ตลอดจนถ้อยคำปลอบประโลมที่สามารถเพิ่มเติมกำลังใจให้เขาได้เสมอ ตะวันฉาย

รู้สึกว่าตัวเองช่างโชคดีเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นลูกของพ่อและแม่ แม้วันนี้จะเหลือแม่เพียงคนเดียว

ที่ยังอยู่เคียงข้างเขา แต่ชายหนุ่มรู้ดีว่าความรัก ห่วงใยของมารดาจะทำให้เขาผ่านสิ่งต่างๆ ไปได้

และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะไม่มีวันลืมว่าผู้เป็นแม่จะอยู่เคียงข้างเขาเสมอเหมือนที่เคยเป็นมา

สายตาที่ประมุขของเดอะซัน กรุ๊ปฯ ทอดมองมองลูกชายเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและ

เข้าใจ ด้วยทราบดีว่าอีกฝ่ายรู้สึกเช่นไรภายใต้สภาวะเช่นนี้ ตั้งแต่วันที่รู้จากป้าแต๋วถึงความรู้สึก

ของตะวันฉายและปาลิกาที่มีต่อกัน คุณโฉมฉายก็มาถามเอาความกับพวกเพื่อนๆ ทั้งหยางและ

หยินมี่ ตอนนั้นสองพี่น้องเองก็ไม่ค่อยมั่นใจในข้อสันนิษฐานนี้นัก


ผู้เป็นแม่เองจึงได้แอบสังเกตท่าทีของลูกชายและพอจะมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง จนกระทั่ง

ปาลิกาหนีไปสภาพของตะวันฉายตั้งแต่วินาทีนั้นจนมาถึงบัดนี้ เป็นสิ่งตอกย้ำความมั่นใจให้กับ

คุณโฉมฉายได้ดีจนเต็มเปี่ยมชนิดที่ว่าไม่ต้องถามไถ่อะไรกับใครให้มากความอีก แม้กระทั่งกับเจ้า

ตัวเอง

ส่วนความรู้สึกที่คุณโฉมฉายมีต่อปาลิกานั้น เหมือนที่เธอได้บอกกับลูกชายไปเมื่อครู่จริงๆ

เพราะเธอรักปาลิกาเหมือนลูกแท้ๆ ปาลิกาเป็นคนในครอบครัวของเธอ ไม่ว่าที่สุดแล้วหญิงสาวจะ

อยู่ในฐานะไหนในครอบครัวเธอก็ยินดีเสมอ

เพราะเหตุนี้หลังจากที่ปาลิกาจากไป ประมุขของเดอะซัน กรุ๊ปฯ อดคิดโทษตัวเองไม่ได้ว่า

เพราะความละเลย ไม่ใส่ใจคนทั้งคู่ โดยเฉพาะปาลิกาที่ถูกบีบคั้นจิตใจจนต้องหนีไปอย่างนี้ และ

สิ่งที่เธอทำได้ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือการยืนหยัดอยู่เคียงข้างลูกชาย คอยให้กำลังใจเขาและช่วยตาม

หาปาลิกาให้พบในเร็ววัน


ตอบเม้นต์จ้าาา
คุณ Kim-เอาไว้ตอนหน้านะคะ สปอยเอาไว้ก่อน แต่จะอัพเป็นตอนสุดท้ายแล้ว ขอบคุณมากๆเลยค่าาา ที่ติดตามกันมาตลอด ^_^

##ตะวัน (ร้าย) ฉายรักจะอัพฯ ตอนหน้า เป็นตอนสุดท้ายนะคะ
ใครที่รักนายซันกับนู๋ปลาก็ติดตามกันต่อไปได้ในรูปแบบ E-Book และเล่มเน้อ...
ขอบคุณทุกท่านติดตามอ่านกันมาตลอดค่า ##


E-Book

meb

https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6
InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNzEyOTE2
IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMzgxMjEiO30

ookbee
http://www.ookbee.com/shop/BookInfo?pid=98584580-bd7a-41a5-b478-e21b171e2807&affiliateCode=1168c15837084f8bbb5cf6fde0ca707d

ebooks.in.th
http://www.ebooks.in.th/ebook/38567/%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%A7
%E0%B8%B1%E0%B8%99_(%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%
B8%A2)_%E0%B8%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81/

hytexts
http://www.hytexts.com/ebook/book/B006744




กานพลู
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 มี.ค. 2559, 20:50:06 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 มี.ค. 2559, 20:50:53 น.

จำนวนการเข้าชม : 1153





<< บทที่ 31   
สิรินดา 6 มี.ค. 2559, 18:53:53 น.
แวะมาทักทายค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account