ใยรัก...ลวงจันทร์
'ปภาวิน' ประสบเหตุการณ์ร้ายแรงในคืนหนึ่ง
'วราลี' คือที่พึ่งเดียวของเขา
แต่ทว่า แม้เขาจะเป็นถึงว่าที่ทายาท สืบทอดกิจการบริษัทอัญมณีและเครื่องประดับอันดับต้นๆ ของเมืองไทยก็ตาม สิ่งเดียวที่หญิงสาวรับรู้ในตอนนี้คือปภาวินเป็นผอ-สระอี-ผี ! แถมยังเป็นผีเจ้าเล่ห์เพทุบาย ลามกขั้นเทพด้วย เขาคอยตามตื้อหล่อนไม่เลิกรา เพียงเพราะแค่ต้องการความช่วยเหลือจากผู้หญิงธรรมดาๆ อย่างหล่อนก็เท่านั้น
วราลีต้องช่วยพาวิญญาณหนุ่มอย่างปภาวินกลับเข้าร่างให้เร็วที่สุด โดยที่หารู้ไม่ว่าในเวลาเดียวกันนั้น...ภายใต้ความเคียดแค้นพยาบาทที่ยังคงถูกซุกซ่อน…
มีใครบางคนรอวันเอาคืน !
'วราลี' คือที่พึ่งเดียวของเขา
แต่ทว่า แม้เขาจะเป็นถึงว่าที่ทายาท สืบทอดกิจการบริษัทอัญมณีและเครื่องประดับอันดับต้นๆ ของเมืองไทยก็ตาม สิ่งเดียวที่หญิงสาวรับรู้ในตอนนี้คือปภาวินเป็นผอ-สระอี-ผี ! แถมยังเป็นผีเจ้าเล่ห์เพทุบาย ลามกขั้นเทพด้วย เขาคอยตามตื้อหล่อนไม่เลิกรา เพียงเพราะแค่ต้องการความช่วยเหลือจากผู้หญิงธรรมดาๆ อย่างหล่อนก็เท่านั้น
วราลีต้องช่วยพาวิญญาณหนุ่มอย่างปภาวินกลับเข้าร่างให้เร็วที่สุด โดยที่หารู้ไม่ว่าในเวลาเดียวกันนั้น...ภายใต้ความเคียดแค้นพยาบาทที่ยังคงถูกซุกซ่อน…
มีใครบางคนรอวันเอาคืน !
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทที่ 2---20%
บทที่ 2
ธเนศเลี้ยวรถเข้ามาในโรงพยาบาล อยู่ดีไม่ว่าดีก็มีเด็กผู้ชายวิ่งตัดหน้ารถเล่นเอาเจ้าหล่อนกรี๊ดแตกตกใจรีบเบรกรถดังเอี๊ยด
คนงานชายผิวคล้ำที่อยู่แถวนั้นตกใจไม่แพ้กันรีบเข้ามาจับตัวเด็กไว้ คาดว่าเป็นพ่อของเด็กคนนั้น ผงกศีรษะขอโทษธเนศยกใหญ่รู้ตัวว่าผิด ก่อนลากลูกชายตัวดีให้กลับไปบริเวณด้านหน้าอาคารโรงพยาบาลด้วยกัน
"พ่อแม่สมัยนี้เลี้ยงลูกภาษาอะไร ปล่อยให้เดินทะเล่อทะล่าออกมากลางถนนได้"
ธเนศบ่นอย่างหัวเสีย บุญแค่ไหนที่แม่คุณเหยียบเบรกทัน
วราลีนั่งอยู่ข้างๆ เป็นฝ่ายมองตามสองพ่อลูกคู่นั้นไป เพิ่งสังเกตเห็นว่าทางโรงพยาบาลกำลังติดตั้งป้ายชื่อใหม่ คนงานที่เป็นพ่อคนเมื่อครู่ก็คงอยู่ในกลุ่มนั้น ใกล้ๆ จุดที่คนงานรวมตัวกันมีรถเข็นขายผลไม้อยู่เจ้าหนึ่ง วราลีอยากซื้อผลไม้โปรดไปเอาใจมารดาเลยขอลงจากรถก่อน
“แกกับเมธไปเยี่ยมแม่ก่อนเลยก็ได้ เดี๋ยวฉันซื้อผลไม้เสร็จแล้วตามขึ้นไปเอง”
ธเนศพยักหน้ารับรู้ ปล่อยวราลีลงหน้ารถเข็นผลไม้เรียบร้อยก็วนรถรอบวงเวียนขนาดเล็กบริเวณหน้าอาคารโรงพยาบาล เพื่อขับเลยไปจอดในอาคารจอดรถของโรงพยาบาลซึ่งอยู่ด้านหลัง
แม่ค้าเห็นลูกค้ารายใหม่เข้ามา จากที่กำลังนั่งหาวหวอดก็กระตือรือร้นลุกขึ้นมาขายผลไม้ นอกจากแตงโมสีแดงฉ่ำน่าทานซึ่งเป็นผลไม้โปรดของมารดาแล้ว วราลีเลือกซื้อผลไม้อีกสองสามอย่างเผื่อเพื่อนกับน้องชายด้วย
"คุณ! อย่าไปตรงนั้น"
ใครอีกคนโพล่งขึ้นมา หากวราลีไม่ได้สนใจ หล่อนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าถูกเรียก มัวแต่ก้มหน้าก้มตาจะรีบเดินเข้าไปในโรงพยาบาล กระทั่งมีแรงมหาศาลของใครคนนั้นเข้ามาผลักวราลีเต็มแรงจนร่างหญิงสาวพุ่งถลาไปข้างหน้า เสียหลักล้ม จังหวะเดียวกับที่มีค้อนหล่นลงมาบนพื้นเฉียดศีรษะวราลีไปชนิดฉิวเฉียดชวนสยอง !
คนในละแวกนั้นตื่นตระหนกตกใจกันถ้วนหน้า คนงานที่กำลังวุ่นกับการติดตั้งป้ายโรงพยาบาลอยู่บนนั่งร้านหน้าถอดสี
"ยัยลี!"
ธเนศออกจากโรงพยาบาลมาทันเห็นวราลีถลาล้มไปนอนกองกับพื้นพอดี ร้องเรียกเสียงหลงวิ่งเข้ามาดูเพื่อน คนงานเจ้าของค้อนรีบปีนจากนั่งร้านลงมาเช่นกัน ขณะที่คนที่เดินผ่านไปมาแถวนั้นได้แต่ยืนมุงดูอยู่ห่างๆ
"เป็นไงบ้างแก โอเคใช่มั้ย"
ไม่มีคำตอบจากวราลี หล่อนยังคงช็อก หน้าซีดเผือด เบิกตากว้างแทบถลนจ้องมองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า...นัยน์ตาคู่นั้นของหญิงสาวมีเงาสะท้อนของชายหนุ่มคนหนึ่ง ยืนอยู่หลังคนงานเจ้าของค้อนอันนั้น
ธเนศช่วยพยุงเพื่อนลุกขึ้น ผลไม้ที่เพื่อนซื้อมาไม่ต้องพูดถึง หล่นกระจายเกลื่อนพื้น
"แกจอดรถแล้วหรอ" วราลีค่อยๆ ตั้งสติได้ ถามเพื่อนเสียงแหบพร่า
“ฉันได้ที่จอดรถข้างตึกน่ะ ก็เลยไม่ต้องเสียเวลาขับไปถึงด้านหลัง แต่น้องแกโน่น ลงรถปุ๊บก็เดินพุ่งปรู๊ดเป็นจรวดเข้าประตูด้านข้างโรง’บาลหายหัวไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ฉันเลยว่าจะมาช่วยแกเลือกผลไม้เนี่ย”
“จริงด้วย ผลไม้ตกพื้นหมดเลยแก” วราลีทำท่าจะเป็นพลเมืองดีก้มเก็บ ธเนศทนไม่ได้ดึงเพื่อนไว้
“นี่ยัยลี ยังมีอารมณ์มาห่วงผลไม้อีก เดินอีท่าไหนถึงสะดุดหกล้มเอาได้ แล้วดู ที่ออกตั้งเยอะแยะ ยังอุตริเดินผ่านนั่งร้าน หาเรื่องจริงๆ แกเนี่ย"
ธเนศต่อว่าเป็นเดือดเป็นร้อนแทน วราลีเลยมีสีหน้าเหยเกออกมา นึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้แล้วถึงกับกลืนน้ำลายฝืดคอ
"ฉันก็แค่จะเดินเข้าไปในโรงพยาบาล แต่...เอิ่ม...คนงานดันทำค้อนหล่นลงมาเกือบโดนหัวฉัน"
"อะไรนะ!" ธเนศเสียงสูงปรี๊ด ใจหล่นไปที่ตาตุ่ม จะหันไปแวดใส่คนงานที่ยืนหน้าเสียสำนึกผิดอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ร้อนถึงวราลีต้องดึงเพื่อนไว้
"ช่างเถอะแก ฉันไม่ได้เป็นอะไร โชคดีมีคนช่วยผลักฉันออกมาก่อน"
วราลีจะหันไปชี้บอกเพื่อน ถ้าเข้าใจไม่ผิดคนที่ช่วยหล่อนไว้น่าจะเป็นชายแปลกหน้าคนนั้นที่ยืนอยู่หลังคนงานเจ้าของค้อน
แต่แล้วหญิงสาวต้องหันซ้ายแลขวามองหาชายคนนั้นให้วุ่น เขาไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว...
ธเนศไม่สนใจเรื่องนั้นเท่าไหร่ เพื่อนรอดปลอดภัยก็ดีแล้วเลยหันไปเขม่นมองด้วยสายตาตำหนิคนงานตัวต้นเหตุที่ทำงานสะเพร่า เจ้าหล่อนตวัดสายตาอย่างเอาเรื่องไปทางคนงานอีกคนด้วยซึ่งยืนอยู่ข้างๆ กัน จำได้แม่นว่าเป็นพ่อของเด็กผู้ชายที่วิ่งตัดหน้ารถหล่อน
********************
แวะมาต่อให้อีกนิดจ้า^^ ชายหนุ่มคนนั้นเป็นใครหนอ อิอิ
ธเนศเลี้ยวรถเข้ามาในโรงพยาบาล อยู่ดีไม่ว่าดีก็มีเด็กผู้ชายวิ่งตัดหน้ารถเล่นเอาเจ้าหล่อนกรี๊ดแตกตกใจรีบเบรกรถดังเอี๊ยด
คนงานชายผิวคล้ำที่อยู่แถวนั้นตกใจไม่แพ้กันรีบเข้ามาจับตัวเด็กไว้ คาดว่าเป็นพ่อของเด็กคนนั้น ผงกศีรษะขอโทษธเนศยกใหญ่รู้ตัวว่าผิด ก่อนลากลูกชายตัวดีให้กลับไปบริเวณด้านหน้าอาคารโรงพยาบาลด้วยกัน
"พ่อแม่สมัยนี้เลี้ยงลูกภาษาอะไร ปล่อยให้เดินทะเล่อทะล่าออกมากลางถนนได้"
ธเนศบ่นอย่างหัวเสีย บุญแค่ไหนที่แม่คุณเหยียบเบรกทัน
วราลีนั่งอยู่ข้างๆ เป็นฝ่ายมองตามสองพ่อลูกคู่นั้นไป เพิ่งสังเกตเห็นว่าทางโรงพยาบาลกำลังติดตั้งป้ายชื่อใหม่ คนงานที่เป็นพ่อคนเมื่อครู่ก็คงอยู่ในกลุ่มนั้น ใกล้ๆ จุดที่คนงานรวมตัวกันมีรถเข็นขายผลไม้อยู่เจ้าหนึ่ง วราลีอยากซื้อผลไม้โปรดไปเอาใจมารดาเลยขอลงจากรถก่อน
“แกกับเมธไปเยี่ยมแม่ก่อนเลยก็ได้ เดี๋ยวฉันซื้อผลไม้เสร็จแล้วตามขึ้นไปเอง”
ธเนศพยักหน้ารับรู้ ปล่อยวราลีลงหน้ารถเข็นผลไม้เรียบร้อยก็วนรถรอบวงเวียนขนาดเล็กบริเวณหน้าอาคารโรงพยาบาล เพื่อขับเลยไปจอดในอาคารจอดรถของโรงพยาบาลซึ่งอยู่ด้านหลัง
แม่ค้าเห็นลูกค้ารายใหม่เข้ามา จากที่กำลังนั่งหาวหวอดก็กระตือรือร้นลุกขึ้นมาขายผลไม้ นอกจากแตงโมสีแดงฉ่ำน่าทานซึ่งเป็นผลไม้โปรดของมารดาแล้ว วราลีเลือกซื้อผลไม้อีกสองสามอย่างเผื่อเพื่อนกับน้องชายด้วย
"คุณ! อย่าไปตรงนั้น"
ใครอีกคนโพล่งขึ้นมา หากวราลีไม่ได้สนใจ หล่อนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าถูกเรียก มัวแต่ก้มหน้าก้มตาจะรีบเดินเข้าไปในโรงพยาบาล กระทั่งมีแรงมหาศาลของใครคนนั้นเข้ามาผลักวราลีเต็มแรงจนร่างหญิงสาวพุ่งถลาไปข้างหน้า เสียหลักล้ม จังหวะเดียวกับที่มีค้อนหล่นลงมาบนพื้นเฉียดศีรษะวราลีไปชนิดฉิวเฉียดชวนสยอง !
คนในละแวกนั้นตื่นตระหนกตกใจกันถ้วนหน้า คนงานที่กำลังวุ่นกับการติดตั้งป้ายโรงพยาบาลอยู่บนนั่งร้านหน้าถอดสี
"ยัยลี!"
ธเนศออกจากโรงพยาบาลมาทันเห็นวราลีถลาล้มไปนอนกองกับพื้นพอดี ร้องเรียกเสียงหลงวิ่งเข้ามาดูเพื่อน คนงานเจ้าของค้อนรีบปีนจากนั่งร้านลงมาเช่นกัน ขณะที่คนที่เดินผ่านไปมาแถวนั้นได้แต่ยืนมุงดูอยู่ห่างๆ
"เป็นไงบ้างแก โอเคใช่มั้ย"
ไม่มีคำตอบจากวราลี หล่อนยังคงช็อก หน้าซีดเผือด เบิกตากว้างแทบถลนจ้องมองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า...นัยน์ตาคู่นั้นของหญิงสาวมีเงาสะท้อนของชายหนุ่มคนหนึ่ง ยืนอยู่หลังคนงานเจ้าของค้อนอันนั้น
ธเนศช่วยพยุงเพื่อนลุกขึ้น ผลไม้ที่เพื่อนซื้อมาไม่ต้องพูดถึง หล่นกระจายเกลื่อนพื้น
"แกจอดรถแล้วหรอ" วราลีค่อยๆ ตั้งสติได้ ถามเพื่อนเสียงแหบพร่า
“ฉันได้ที่จอดรถข้างตึกน่ะ ก็เลยไม่ต้องเสียเวลาขับไปถึงด้านหลัง แต่น้องแกโน่น ลงรถปุ๊บก็เดินพุ่งปรู๊ดเป็นจรวดเข้าประตูด้านข้างโรง’บาลหายหัวไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ฉันเลยว่าจะมาช่วยแกเลือกผลไม้เนี่ย”
“จริงด้วย ผลไม้ตกพื้นหมดเลยแก” วราลีทำท่าจะเป็นพลเมืองดีก้มเก็บ ธเนศทนไม่ได้ดึงเพื่อนไว้
“นี่ยัยลี ยังมีอารมณ์มาห่วงผลไม้อีก เดินอีท่าไหนถึงสะดุดหกล้มเอาได้ แล้วดู ที่ออกตั้งเยอะแยะ ยังอุตริเดินผ่านนั่งร้าน หาเรื่องจริงๆ แกเนี่ย"
ธเนศต่อว่าเป็นเดือดเป็นร้อนแทน วราลีเลยมีสีหน้าเหยเกออกมา นึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้แล้วถึงกับกลืนน้ำลายฝืดคอ
"ฉันก็แค่จะเดินเข้าไปในโรงพยาบาล แต่...เอิ่ม...คนงานดันทำค้อนหล่นลงมาเกือบโดนหัวฉัน"
"อะไรนะ!" ธเนศเสียงสูงปรี๊ด ใจหล่นไปที่ตาตุ่ม จะหันไปแวดใส่คนงานที่ยืนหน้าเสียสำนึกผิดอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ร้อนถึงวราลีต้องดึงเพื่อนไว้
"ช่างเถอะแก ฉันไม่ได้เป็นอะไร โชคดีมีคนช่วยผลักฉันออกมาก่อน"
วราลีจะหันไปชี้บอกเพื่อน ถ้าเข้าใจไม่ผิดคนที่ช่วยหล่อนไว้น่าจะเป็นชายแปลกหน้าคนนั้นที่ยืนอยู่หลังคนงานเจ้าของค้อน
แต่แล้วหญิงสาวต้องหันซ้ายแลขวามองหาชายคนนั้นให้วุ่น เขาไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว...
ธเนศไม่สนใจเรื่องนั้นเท่าไหร่ เพื่อนรอดปลอดภัยก็ดีแล้วเลยหันไปเขม่นมองด้วยสายตาตำหนิคนงานตัวต้นเหตุที่ทำงานสะเพร่า เจ้าหล่อนตวัดสายตาอย่างเอาเรื่องไปทางคนงานอีกคนด้วยซึ่งยืนอยู่ข้างๆ กัน จำได้แม่นว่าเป็นพ่อของเด็กผู้ชายที่วิ่งตัดหน้ารถหล่อน
********************
แวะมาต่อให้อีกนิดจ้า^^ ชายหนุ่มคนนั้นเป็นใครหนอ อิอิ

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 เม.ย. 2559, 20:06:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 เม.ย. 2559, 20:06:09 น.
จำนวนการเข้าชม : 946
<< บทที่ 1---100% | บทที่ 2---50% >> |


สรัน 20 พ.ค. 2559, 16:16:59 น.
55555 ถั่วต้มแล้วคร๊าบบบบบบ
55555 ถั่วต้มแล้วคร๊าบบบบบบ