ใยรัก...ลวงจันทร์
'ปภาวิน' ประสบเหตุการณ์ร้ายแรงในคืนหนึ่ง
'วราลี' คือที่พึ่งเดียวของเขา

แต่ทว่า แม้เขาจะเป็นถึงว่าที่ทายาท สืบทอดกิจการบริษัทอัญมณีและเครื่องประดับอันดับต้นๆ ของเมืองไทยก็ตาม สิ่งเดียวที่หญิงสาวรับรู้ในตอนนี้คือปภาวินเป็นผอ-สระอี-ผี ! แถมยังเป็นผีเจ้าเล่ห์เพทุบาย ลามกขั้นเทพด้วย เขาคอยตามตื้อหล่อนไม่เลิกรา เพียงเพราะแค่ต้องการความช่วยเหลือจากผู้หญิงธรรมดาๆ อย่างหล่อนก็เท่านั้น

วราลีต้องช่วยพาวิญญาณหนุ่มอย่างปภาวินกลับเข้าร่างให้เร็วที่สุด โดยที่หารู้ไม่ว่าในเวลาเดียวกันนั้น...ภายใต้ความเคียดแค้นพยาบาทที่ยังคงถูกซุกซ่อน…

มีใครบางคนรอวันเอาคืน !
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ 1---100%

บทที่ 1 (ต่อ)


ด้วยความที่เป็นเวลาเลิกเรียน หน้าโรงเรียนจึงพลุกพล่านทั้งเด็กนักเรียนทั้งผู้ปกครองที่มารอรับลูกๆ บริเวณป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียนก็เบียดเสียดอัดแน่นไปด้วยผู้คนไม่แพ้กัน วราลีกับวรเมธก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่สองพี่น้องเพียงแค่อาศัยชายคารถเมล์หลบร่มเพราะนัดกับธเนศไว้ รายนั้นจะขอไปเยี่ยมวรกานดาด้วยเลยอาสาแกมบังคับเพื่อนสาวให้รอมารับไปโรงพยาบาลพร้อมกัน

“ค่อยยังชั่ว ฉันนึกว่าแกจะชิ่งฉัน พาน้องแกขึ้นรถเมล์ไปเยี่ยมแม่แกก่อนซะแล้ว”

ธเนศแซวทันทีที่วราลีก้าวขึ้นรถ

วราลีเพียงยิ้มๆ แต่รอยยิ้มดูแห้งแล้งพิกล เหลือบมองน้องชายผ่านกระจกมองหลังเป็นห่วงตามประสา

วรเมธนั้นแยกไปนั่งเบาะหลังให้วราลีได้นั่งกับเพื่อนที่เบาะหน้าข้างคนขับ ขึ้นรถได้น้องชายตัวดีก็หยิบหูฟังมาอุดหูนั่งฟังเพลงในโทรศัพท์มือถือตัวเองคล้ายกับต้องการอยู่เงียบๆ คนเดียว พี่สาวสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่างตั้งแต่แยกกันหน้าห้องเรียนแล้ว แต่ในเมื่อน้องชายไม่พูดอะไร หล่อนเองก็ไม่อยากถามให้เสียอารมณ์

“รถมันจะติดอะไรนักหนาเนี่ย” ธเนศบ่นแล้วทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอตามเคยยามรู้สึกขัดใจ

ไม่ว่าจะมองไปเลนไหนมีแต่รถจอดติดไฟแดงยาวเป็นหางว่าว คนขับเลยหันมาเปิดวิทยุฟังเพลงแก้เซ็ง เห็นอยู่หรอกว่าเพื่อนสาวเริ่มนั่งเกร็งๆ มีเม็ดเหงื่อผุดพราวตามไรผมเหมือนไม่ค่อยมั่นใจในสวัสดิภาพตัวเองเท่าไหร่ วราลีไม่ค่อยพิสมัยกับการนั่งรถยนต์มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

“โทษนะแกที่มาช้า พอดีฉันเม้าท์กับเพื่อนที่ทำงานเพลินไปหน่อยเลยออกจากบริษัทช้าไปนิด”

“ท่าทางแกว่างนะถึงมีเวลาเม้าท์มอยกับเพื่อนได้”

“โอ๊ย ช่วงนี้คนที่บริษัทไม่มีแก่จิตแก่ใจจะทำงานกันหรอกย่ะ” ธเนศเล่าแล้วเอามือป้องปากนินทา

"ก็คุณอรจิรา เจ้าของบริษัทที่ฉันเคยเล่าให้แกฟังไง กำลังเฮิร์ทหนักเรื่องลูกชาย...อ้าว นี่แกยังไม่เห็นข่าวอีกเหรอ"

เพื่อนทำหน้างุนงง ธเนศเลยอาศัยจังหวะรถติดหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดหาข่าวที่ว่าตามเว็บไซต์ให้เพื่อนสาวดู

วราลีนั้นพอจะจำชื่ออรจิราได้เพราะเป็นถึงประธานบริษัทอรจิรา จิวเวอรี่ จำกัด (มหาชน) บริษัทอัญมณีและเครื่องประดับอันดับต้นๆ ของเมืองไทยที่ธเนศทำงานอยู่ แต่ช่วงนี้วราลีงานท่วมหัว แถมยังมีเรื่องมารดาให้ต้องเป็นห่วงอีกเลยไม่มีเวลามารับรู้ข่าวสารใด

"วันเกิดเรื่อง พวกเพื่อนๆ ที่ทำงานโทร.มาบอกฉันอยู่เหมือนกัน ไอ้พวกนี้ก็ช่างสอดรู้สอดเห็นเรื่องเจ้านายไปเสียทุกเรื่อง หูตาเป็นสับปะรด ไวกว่าฉันอีก ฉันเพิ่งมาเห็นข่าวจะๆ ก็เช้าอีกวันได้ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะก่อนที่แม่แกจะเข้าโรง'บาลได้วันนึงมั้ง"

วราลีอืออาในลำคอรับรู้สิ่งที่เพื่อนเล่าพลางอ่านข่าวที่เพื่อนว่า ข่าวนั้นพูดถึงบุตรชายของอรจิราชื่อปภาวิน ภิรมย์รักษ์ ว่าที่ทายาทสืบทอดกิจการบริษัทอรจิรา จิวเวอรี่ จำกัด (มหาชน) ถูกยิงหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งขณะที่ไปทานอาหารมื้อค่ำกับดาราสาวชื่อเพทาย เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าปภาวินน่าจะถูกกระสุนลูกหลงจากกลุ่มนักเลงหัวไม้ ที่กำลังก่อเหตุไล่ยิงคู่อริอยู่แถวนั้น ขณะนี้ปภาวินยังนอนอาการโคม่าอยู่ในห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลเดียวกับที่มารดาของวราลีนอนพักรักษาตัว

ใต้ข่าวมีภาพของชายหนุ่มเคราะห์ร้ายผู้นั้นด้วยกับคลิปให้สัมภาษณ์ ภาพหน้าคลิปเป็นภาพหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก ผมซอยสั้น สวมชุดเดรสสั้นสีชมพูหวานซ่อนเปรี้ยวนิดๆ กำลังถูกสื่อรุมจ่อไมค์ขอสัมภาษณ์ วราลีเดาว่าน่าจะเป็นดาราสาวที่ถูกพูดถึงในข่าวเลยกดเปิดคลิปดู

"ใจเย็นๆ ค่ะคุณน้องนักข่าว"

เสียงในคลิปข่าวดังขึ้นผ่านลำโพงโทรศัพท์มือถือของธเนศ เจ้าของเสียงไม่ใช่เพทายแต่เป็นผู้ชายรูปร่างท้วมสวมชุดสีสันแสบทรวง มีท่าทางกระตุ้งกระติ้งน่าจะเป็นพวกเดียวกับธเนศ กำลังยืนประจันหน้ากับกลุ่มนักข่าวหลายสิบคนที่กรูกันเข้ามายื่นไมค์ขอสัมภาษณ์ แต่ประเด็นคือนักข่าวไม่ได้ขอสัมภาษณ์ชายชุดสีสันแสบทรวงคนนั้น นักข่าวเล็งไปที่หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ ต่างหาก ทั้งสองเหมือนเพิ่งออกมาจากสถานีตำรวจเพราะข้างหลังเป็นบันไดหน้าโรงพัก

หญิงสาวข้างๆ ชายสวมชุดสีสันแสบทรวงคนนั้น มีสีหน้ากระอักกระอ่วนไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ หน้าที่จึงตกมาที่เจ๊คนเดิม พูดแทรกขึ้นมาเพื่อดึงดูดความสนใจไปที่หล่อนแทน

"คืออย่างนี้ค่ะ คุณน้องนักข่าวต้องเข้าใจนะคะว่าน้องพายกำลังช็อคแล้วก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น้องพายยังไม่พร้อมตอบคำถามจริงๆ ค่ะ แต่เอาสั้นๆ เลยนะคะ พี่ในฐานะผู้จัดการส่วนตัวของน้องพาย ขอยืนยันค่ะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นน้องพายไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น น้องเขาก็แค่ออกมาทานข้าวกับคุณปภาวินฉลองที่เรียนจบ ตามประสาแฟน อุ๊บส์ เอ่อ ตามประสาเพื่อนที่สนิ๊ทสนิทน่ะค่ะ ไหนๆ น้องพายก็เรียนจบแล้วเนอะ น้องจะกลับมาเล่นละครแน่นอนค่ะ ยังไงพี่ขอฝาก..."

เสียงในคลิปจบแค่นั้นเพราะหลังๆ วราลีเห็นว่าชักไร้สาระจึงปิดคลิป

"ไม่ไหวเลยแกเนี่ย ตอนนี้ข่าวเขาออกแทบทุกช่อง ยัยเจ๊ผู้จัดการนั่นแหละตัวดีกระพือเข้าไป กะให้คุณน้องพายอะไรนั่นเป็นข่าวชัดๆ"

ธเนศฟังคลิปสัมภาษณ์นั้นด้วยเลยอารมณ์ขึ้น เผลอๆ จะอินกว่าคนกดฟัง เพราะวราลีไม่มีความเห็นใดนอกจากส่งโทรศัพท์มือถือคืนเพื่อน หญิงสาวมองว่ามันก็แค่ข่าว อย่างมากเลยแค่รู้สึกสงสารในความโชคร้ายของผู้ชายในข่าว แปลกใจในความบังเอิญโลกกลมมากกว่าที่ชายผู้นั้นนอนพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลเดียวกับมารดา อีกทั้งยังระยะเวลาไล่เลี่ยกัน #


**************
มาตามสัญญาจ้า อัพจบบทที่ 1 เรียบร้อยครัช ขอเสียงหน่อย ฮิ้วววววว 555555



สรัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 เม.ย. 2559, 21:50:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 เม.ย. 2559, 21:50:11 น.

จำนวนการเข้าชม : 734





<< บทที่ 1---75%   บทที่ 2---20% >>
Zephyr 22 เม.ย. 2559, 19:18:04 น.
จะได้เจอกันยังน่ะ


สรัน 28 เม.ย. 2559, 20:07:16 น.
ใกล้แว้ววว บทถัดไปแอบมีลุ้นนะคะ ฮี่ๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account