สานหัวใจรัก
สานหัวใจรัก (ซีรีส์ชุดรักเอย)
เบญจากับวายุที่รักกันมาหลายปี จนในที่สุดตัดสินใจจะแต่งงานกัน แต่แม่ของทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างไม่ชอบอีกฝ่าย ทำให้ในวันเจรจาสู่ขอล่มไม่เป็นท่า...
“พวกเราลองทำอย่างที่ท่านต้องการดูไหมคะ”
“ห๊ะ! คุณว่าอะไรนะ...ผมไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม” วายุถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
“ไม่หรอกค่ะ เบญคิดอย่างนั้นจริงๆ แม่เบญไม่ชอบคุณ และแม่คุณเองก็...รังเกียจเบญ”
ท้ายประโยคน้ำเสียงของหญิงสาวสั่นเครือจนคนฟังใจไม่ดี “ผมขอโทษแทนท่านด้วย ผมรู้ว่าท่านพูดแรงเกินไป” แต่วายุก็ไม่รู้จะพูดอะไรที่มันดูดีกว่านี้
“แต่มันคือเรื่องจริง เรื่องจริงที่ฉันฟังแล้วถึงกับหน้าชา” เบญจาหัวเราะขืนๆ ปาดน้ำตาที่รื่นขึ้นมา ก่อนจะพูดต่อ “เบญรู้ว่าท่านไม่ชอบเบญ แต่ไม่คิดว่าจะมากขนาดนี้...แปดเปื้อนวงศ์ตระกูล” คราวนี้หญิงสาวถึงกลับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ปล่อยเสียงสะอื้นออกมาจนวายุตกใจ
“เบญ...ผมจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เบญไม่เป็นไร คุณอยู่ที่นั่นดีแล้ว ต่างคนต่างอยู่สักพัก บางทีอะไรๆ มันอาจจะเป็นไปในทางที่ดี” เบญจารีบห้าม ไม่อย่างนั้นเชื่อได้เลยว่าวายุมาหาเธอจริงๆ แน่
“คุณต้องการอย่างนั้นเหรอ” วายุครางถามด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด
“บางทีสิ่งที่ท่านเลือกให้มันอาจจะดีก็ได้นะคะ”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ซีรีส์ชุดรักเอย ประกอบด้วย 3 เรื่องดังนี้นะคะ
- สานหัวใจรัก (เบญจา+วายุ)
- ตื้อรัก (วริยา+สาธุ)
-รักนอกสายตา (มาภา+ภูมิ)
"สานหัวใจรัก" เป็นเล่มแรกของชุดซึ่งจะทยอยลงให้อ่านกันเรื่อยๆ จนครบ 70% หรือประมาณ 7 ตอนนะคะ
ปล.นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายเล่มเล็กราคาเบาๆ มีเฉพาะอีบุ๊คนะคะ
ติดตาม ติชมผลงานหรือพูดคุยกันได้ที่แฟนเพจ รดามณี-ไหมขวัญ นะคะ (รออยู่น้าาาา)
เบญจากับวายุที่รักกันมาหลายปี จนในที่สุดตัดสินใจจะแต่งงานกัน แต่แม่ของทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างไม่ชอบอีกฝ่าย ทำให้ในวันเจรจาสู่ขอล่มไม่เป็นท่า...
“พวกเราลองทำอย่างที่ท่านต้องการดูไหมคะ”
“ห๊ะ! คุณว่าอะไรนะ...ผมไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม” วายุถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
“ไม่หรอกค่ะ เบญคิดอย่างนั้นจริงๆ แม่เบญไม่ชอบคุณ และแม่คุณเองก็...รังเกียจเบญ”
ท้ายประโยคน้ำเสียงของหญิงสาวสั่นเครือจนคนฟังใจไม่ดี “ผมขอโทษแทนท่านด้วย ผมรู้ว่าท่านพูดแรงเกินไป” แต่วายุก็ไม่รู้จะพูดอะไรที่มันดูดีกว่านี้
“แต่มันคือเรื่องจริง เรื่องจริงที่ฉันฟังแล้วถึงกับหน้าชา” เบญจาหัวเราะขืนๆ ปาดน้ำตาที่รื่นขึ้นมา ก่อนจะพูดต่อ “เบญรู้ว่าท่านไม่ชอบเบญ แต่ไม่คิดว่าจะมากขนาดนี้...แปดเปื้อนวงศ์ตระกูล” คราวนี้หญิงสาวถึงกลับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ปล่อยเสียงสะอื้นออกมาจนวายุตกใจ
“เบญ...ผมจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เบญไม่เป็นไร คุณอยู่ที่นั่นดีแล้ว ต่างคนต่างอยู่สักพัก บางทีอะไรๆ มันอาจจะเป็นไปในทางที่ดี” เบญจารีบห้าม ไม่อย่างนั้นเชื่อได้เลยว่าวายุมาหาเธอจริงๆ แน่
“คุณต้องการอย่างนั้นเหรอ” วายุครางถามด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด
“บางทีสิ่งที่ท่านเลือกให้มันอาจจะดีก็ได้นะคะ”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ซีรีส์ชุดรักเอย ประกอบด้วย 3 เรื่องดังนี้นะคะ
- สานหัวใจรัก (เบญจา+วายุ)
- ตื้อรัก (วริยา+สาธุ)
-รักนอกสายตา (มาภา+ภูมิ)
"สานหัวใจรัก" เป็นเล่มแรกของชุดซึ่งจะทยอยลงให้อ่านกันเรื่อยๆ จนครบ 70% หรือประมาณ 7 ตอนนะคะ
ปล.นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายเล่มเล็กราคาเบาๆ มีเฉพาะอีบุ๊คนะคะ
ติดตาม ติชมผลงานหรือพูดคุยกันได้ที่แฟนเพจ รดามณี-ไหมขวัญ นะคะ (รออยู่น้าาาา)
Tags: สานหัวใจรัก,ไหมขวัญ,ชุดรักเอย,นิยารักโรแมนติก,แม่ผัว,ลูกสะใภ้
ตอน: ตอนที่ 3 >>> 50%
3
‘วันพรุ่งนี้’ เหลือโอกาสแค่วันนี้วันเดียวเท่านั้น ก่อนที่ผู้ใหญ่ทางฝ่ายของวายุจะเดินทางมาจรจาสู่ขอเบญจาลูกสาวของนาง
ความหวังที่จะได้ลูกเขยบ้านเดียวกันยังไม่มืดมิดบอดสนิทซะทีเดียว เมื่อเกลี่ยกล่อมเบญจาไม่ได้ บางทีมันก็ต้องหาตัวช่วย
“ธุอยู่ไหมจ๊ะแม่ทิพย์” นางจารุวรรณถามหาตัวช่วยกับนางทิพย์เพื่อนบ้านที่รักใคร่กลมเกลียวและมีแนวโน้มอยากเป็นทองแผ่นเดียวกัน
“อยู่จ้า แต่อาบน้ำอยู่เพิ่งกลับมาจากไร่นะ ว่าแต่แม่จามีอะไรหรือเปล่าดูสีหน้าไม่ดีเลย”
“ฉันจะมาคุยกับธุ เรื่องยัยเบญนะจ๊ะ”
“พอพูดถึงหนูเบญแล้วฉันก็อดเสียดายไม่ได้ นึกว่าจะได้เกี่ยวดองกัน”
“ฉันเองก็ไม่ต่างกันหรอกแม่ทิพย์ ผู้ชายดีๆ ขยันขันแข็งอย่างตาธุจะหาได้อีกที่ไหน แต่ลูกนี่สิมันไม่ฟังแม่เลย” นางจารุวรรณพูดอย่างเสียดายระคนหมดหวัง แต่เมื่อเห็นร่างสูงของสาธุเดินออกมาจากในบ้าน ดวงตาที่หม่นเศร้ากลับเป็นประกาย
“ธุจะไปไหนอีกหรือเปล่า” นางจารุวรรณเอ่ยถาม สาธุที่เดินตรงมาหา “ไม่ครับ ป้ามีอะไรจะใช้ผมหรือครับ”
“เปล่าหรอกป้ามีเรื่องจะคุยด้วยหน่อยน่ะ”
“เรื่องอะไรครับ” ชายหนุ่มถามพลางเดินไปนั่งเก้าอี้หินอ่อนตัวที่ว่างข้างๆ มารดา
“เรื่องยัยเบญจ้ะ”
เช้าวันใหม่แม้ทุกคนในบ้านจะกระตือรือร้นรู้สึกยินดีที่วันนี้จะมีแขกมาจากกรุงเทพฯ แต่มีนางจารุวรรณคนหนึ่งละที่ไม่เป็นอย่างนั้น นางยังคงนั่งหน้าบึ้งอยู่ภายในห้อง จนคนเป็นสามีอดที่จะเอ่ยเตือนไม่ได้
“ปล่อยวางซะบ้างเถอะแม่ อะไรที่ทำแล้วลูกมีความสุขก็ทำๆ ไปเถอะ”
“แม่ก็ไม่ได้ขัดอะไรนี่”
“เหรอ...แต่คำพูดกับสีหน้าของแม่มันไปคนละทางกันเลยนะ” คนเป็นสามีล้อเสียงกลั้วหัวเราะ “ไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะ เดี๋ยวครอบครัวของคุณยุเขาจะมาถึงแล้ว”
นางจารุวรรณถอนหายใจแล้วเงยหน้ามองสามี “ถ้าคนที่จะมาสู่ขอลูกเราคือตาธุมันคงดีเนาะ”
“แล้วเป็นคุณยุไม่ดียังไง พ่อก็เห็นว่าเขาก็เป็นคนดีนะ”
“ทำไร่ไถ่นา แม้แต่ปลอกมะพร้าวยังทำไม่เป็น” นางจารุวรรณยกตัวอย่างความไม่ดีในสายตาของตัวเองของวายุให้สามีฟัง
“นั่นไม่ใช่ความไม่ดี เขาไม่ได้ถูกเลี้ยงมาให้ทำงานแบบนี้นะแม่ ครอบครัวทำธุรกิจ เขาก็ต้องถูกสอนให้เรียนรู้เกี่ยวกับการบริหารการทำธุรกิจสิ จะมาสอนทำไร่ไถ่นาก็ตายกันพอดี และถ้ามองในทางกลับกันอย่างเราๆ จะไปบริหารงานใหญ่ๆ ร้อยล้านพันล้านอย่างเขาได้ไหมล่ะ ก็ไม่ได้ ธุรกิจเขาเจ๊งกันพอดี คนเรามันก็มีสิ่งที่ถนัดและไม่ถนัดต่างกันไป มีใครไหมที่จะเก่งไปซะทุกเรื่องจ้างให้ก็ไม่มีหรอก”
“ชอบขัดคออยู่เรื่อย ไม่เอาแม่ไม่คุยกับพ่อแล้ว” ว่าแล้วนางจารุวรรณก็เดินหน้าบึ้งไปจัดการอาบน้ำแต่งตัวรอการมาเยือนของญาติผู้ใหญ่ของวายุอย่างไม่เต็มใจนัก
ช่วงสายๆ รถตู้จากกรุงเทพฯ ก็วิ่งเข้ามาจอดในบ้านโดยมีวายุไปยืนดักรอให้คนขับเห็นจะได้เข้าบ้านถูก และเป็นอีกครั้งที่ชายหนุ่มวิ่งไปเปิดประตูรถให้กับคนในครอบครัว
“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่”
คนเป็นพ่อส่งยิ้มและตบบ่าลูกชายเบาๆ ก่อนจะก้าวลงมาบิดขี้เกียจสูดอากาศสดชื่นเข้าปอดให้คลายความล้าจากการนั่งรถมาหลายชั่วโมง
“นี่เหรอบ้านของแฟนเราน่ะ” ถามพลางกวาดสายตามองรอบๆ บ้านปูนชั้นเดียว แต่ดูใหญ่โต รอบๆ บริเวณบ้านล้อมรอบไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มีทั้งไม้ดอกไม้ประดับรวมไปถึงผักสวนครัวหลากหลายชนิด
“ครับ...เข้าบ้านกันดีกว่านะครับ ไปยัยยา”
วายุชวนน้องสาว แล้วเดินนำทุกคนเข้าบ้าน นางบุษกรกวาดสายตาไปรอบบ้านๆ ครั้งก่อนจะทำเสียงหึในลำคอพลางเบ้ปากน้อยๆ แล้วจึงเดินตามลูกชายและสามีไป
“สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่ เชิญนั่งก่อนค่ะ” เบญจายกมือไหว้บุพการีของคนรักพร้อมกับทำหน้าที่เจ้าบ้าน
“สวัสดีค่ะพี่เบญ” วริยาทักทายพร้อมกับยกมือไหว้ว่าที่พี่สะใภ้ “สวัสดีจ้ะ เดินทางมาเหนื่อยๆ ดื่มน้ำดื่มท่ากันก่อนนะคะ” ว่าแล้วหญิงสาวก็ยกแก้วน้ำดื่มเย็นๆ ในถาดไปให้ทุกคน แล้วเดินเลี่ยงเอาถาดไปเก็บและออกมานั่งที่โซฟาข้างๆ วายุ
โดยระหว่างนี้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็กำลังพูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบและเรื่องทั่วไป โดนเฉพาะนายวันดีกับนายวรุฒที่เหมือนจะพูดคุยกันถูกคอ เพราะพูดไปหัวเราะไป ผิดกับคนเป็นภรรยาของทั้งสองคนที่นั่งฟังนิ่งๆ พูดบ้างคุยถ้าโดนถามความเห็น
“เอ่อ...ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวเบญพาไปค่ะ”
“ไม่ต้อง!” นางบุษกรปฏิเสธเสียงเข้ม แต่เมื่อเห็นสายตาปรามจากสามีและแรงกระตุกที่แขนจากบุตรสาวทำให้นางต้องรีบออกตัว “ฉันหมายถึงไม่ต้องลำบากหรอก เดี๋ยวให้ยัยยาไปเป็นเพื่อน เธอแค่บอกทางไปก็พอ บ้านแค่นี้คงไม่หลงหรอกมั้ง”
“ยาขอพาคุณแม่ไปห้องน้ำนะคะ ไปค่ะพี่เบญ” ว่าแล้วก็รีบดึงแขนมารดาเดินตามคนรักของพี่ชาย ที่เดินแค่มาส่งและกลับออกไปที่ห้องรับแขกตามเดิม
“ทำไมคุณแม่พูดแบบนั้นออกไปล่ะคะ” วริยาถามมารดาเสียงไม่ดังเมื่ออยู่กันตามลำพัง
“แม่พูดอะไร” นางทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้
“ก็ทั้งเรื่องที่ทำเสียงแข็งใส่พี่เบญและเรื่องบ้าน”
“แม่ก็แค่พูดเรื่องจริง บ้านก็ดูใหญ่โตดีอยู่หรอกนะถ้าเทียบกับชาวบ้านละแวกนี้ แต่มันเทียบไม่ได้กับบ้านของเรา ดูห้องน้ำสิกว้างไม่ถึงครึ่งของห้องน้ำบ้านเราหรอกมั้ง ส่วนการตกแต่งภายในก็พอดูได้หรอกนะ แต่การตกแต่งภายนอกบอกเลยว่ารกไร้ซึ่งรสนิยมและความสวยงาม ทั้งผักทั้งดอกไม้ต้นไม้ปนมั่วกันไปหมด นี่แหละน้าเขาว่าคนบ้านนอก”
“แม่...” วริยาครางเรียกมารดาอย่างอ่อนใจ
E-book ดาวโหลดได้ที่เวบ MEB นะคะ
‘วันพรุ่งนี้’ เหลือโอกาสแค่วันนี้วันเดียวเท่านั้น ก่อนที่ผู้ใหญ่ทางฝ่ายของวายุจะเดินทางมาจรจาสู่ขอเบญจาลูกสาวของนาง
ความหวังที่จะได้ลูกเขยบ้านเดียวกันยังไม่มืดมิดบอดสนิทซะทีเดียว เมื่อเกลี่ยกล่อมเบญจาไม่ได้ บางทีมันก็ต้องหาตัวช่วย
“ธุอยู่ไหมจ๊ะแม่ทิพย์” นางจารุวรรณถามหาตัวช่วยกับนางทิพย์เพื่อนบ้านที่รักใคร่กลมเกลียวและมีแนวโน้มอยากเป็นทองแผ่นเดียวกัน
“อยู่จ้า แต่อาบน้ำอยู่เพิ่งกลับมาจากไร่นะ ว่าแต่แม่จามีอะไรหรือเปล่าดูสีหน้าไม่ดีเลย”
“ฉันจะมาคุยกับธุ เรื่องยัยเบญนะจ๊ะ”
“พอพูดถึงหนูเบญแล้วฉันก็อดเสียดายไม่ได้ นึกว่าจะได้เกี่ยวดองกัน”
“ฉันเองก็ไม่ต่างกันหรอกแม่ทิพย์ ผู้ชายดีๆ ขยันขันแข็งอย่างตาธุจะหาได้อีกที่ไหน แต่ลูกนี่สิมันไม่ฟังแม่เลย” นางจารุวรรณพูดอย่างเสียดายระคนหมดหวัง แต่เมื่อเห็นร่างสูงของสาธุเดินออกมาจากในบ้าน ดวงตาที่หม่นเศร้ากลับเป็นประกาย
“ธุจะไปไหนอีกหรือเปล่า” นางจารุวรรณเอ่ยถาม สาธุที่เดินตรงมาหา “ไม่ครับ ป้ามีอะไรจะใช้ผมหรือครับ”
“เปล่าหรอกป้ามีเรื่องจะคุยด้วยหน่อยน่ะ”
“เรื่องอะไรครับ” ชายหนุ่มถามพลางเดินไปนั่งเก้าอี้หินอ่อนตัวที่ว่างข้างๆ มารดา
“เรื่องยัยเบญจ้ะ”
เช้าวันใหม่แม้ทุกคนในบ้านจะกระตือรือร้นรู้สึกยินดีที่วันนี้จะมีแขกมาจากกรุงเทพฯ แต่มีนางจารุวรรณคนหนึ่งละที่ไม่เป็นอย่างนั้น นางยังคงนั่งหน้าบึ้งอยู่ภายในห้อง จนคนเป็นสามีอดที่จะเอ่ยเตือนไม่ได้
“ปล่อยวางซะบ้างเถอะแม่ อะไรที่ทำแล้วลูกมีความสุขก็ทำๆ ไปเถอะ”
“แม่ก็ไม่ได้ขัดอะไรนี่”
“เหรอ...แต่คำพูดกับสีหน้าของแม่มันไปคนละทางกันเลยนะ” คนเป็นสามีล้อเสียงกลั้วหัวเราะ “ไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะ เดี๋ยวครอบครัวของคุณยุเขาจะมาถึงแล้ว”
นางจารุวรรณถอนหายใจแล้วเงยหน้ามองสามี “ถ้าคนที่จะมาสู่ขอลูกเราคือตาธุมันคงดีเนาะ”
“แล้วเป็นคุณยุไม่ดียังไง พ่อก็เห็นว่าเขาก็เป็นคนดีนะ”
“ทำไร่ไถ่นา แม้แต่ปลอกมะพร้าวยังทำไม่เป็น” นางจารุวรรณยกตัวอย่างความไม่ดีในสายตาของตัวเองของวายุให้สามีฟัง
“นั่นไม่ใช่ความไม่ดี เขาไม่ได้ถูกเลี้ยงมาให้ทำงานแบบนี้นะแม่ ครอบครัวทำธุรกิจ เขาก็ต้องถูกสอนให้เรียนรู้เกี่ยวกับการบริหารการทำธุรกิจสิ จะมาสอนทำไร่ไถ่นาก็ตายกันพอดี และถ้ามองในทางกลับกันอย่างเราๆ จะไปบริหารงานใหญ่ๆ ร้อยล้านพันล้านอย่างเขาได้ไหมล่ะ ก็ไม่ได้ ธุรกิจเขาเจ๊งกันพอดี คนเรามันก็มีสิ่งที่ถนัดและไม่ถนัดต่างกันไป มีใครไหมที่จะเก่งไปซะทุกเรื่องจ้างให้ก็ไม่มีหรอก”
“ชอบขัดคออยู่เรื่อย ไม่เอาแม่ไม่คุยกับพ่อแล้ว” ว่าแล้วนางจารุวรรณก็เดินหน้าบึ้งไปจัดการอาบน้ำแต่งตัวรอการมาเยือนของญาติผู้ใหญ่ของวายุอย่างไม่เต็มใจนัก
ช่วงสายๆ รถตู้จากกรุงเทพฯ ก็วิ่งเข้ามาจอดในบ้านโดยมีวายุไปยืนดักรอให้คนขับเห็นจะได้เข้าบ้านถูก และเป็นอีกครั้งที่ชายหนุ่มวิ่งไปเปิดประตูรถให้กับคนในครอบครัว
“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่”
คนเป็นพ่อส่งยิ้มและตบบ่าลูกชายเบาๆ ก่อนจะก้าวลงมาบิดขี้เกียจสูดอากาศสดชื่นเข้าปอดให้คลายความล้าจากการนั่งรถมาหลายชั่วโมง
“นี่เหรอบ้านของแฟนเราน่ะ” ถามพลางกวาดสายตามองรอบๆ บ้านปูนชั้นเดียว แต่ดูใหญ่โต รอบๆ บริเวณบ้านล้อมรอบไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มีทั้งไม้ดอกไม้ประดับรวมไปถึงผักสวนครัวหลากหลายชนิด
“ครับ...เข้าบ้านกันดีกว่านะครับ ไปยัยยา”
วายุชวนน้องสาว แล้วเดินนำทุกคนเข้าบ้าน นางบุษกรกวาดสายตาไปรอบบ้านๆ ครั้งก่อนจะทำเสียงหึในลำคอพลางเบ้ปากน้อยๆ แล้วจึงเดินตามลูกชายและสามีไป
“สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่ เชิญนั่งก่อนค่ะ” เบญจายกมือไหว้บุพการีของคนรักพร้อมกับทำหน้าที่เจ้าบ้าน
“สวัสดีค่ะพี่เบญ” วริยาทักทายพร้อมกับยกมือไหว้ว่าที่พี่สะใภ้ “สวัสดีจ้ะ เดินทางมาเหนื่อยๆ ดื่มน้ำดื่มท่ากันก่อนนะคะ” ว่าแล้วหญิงสาวก็ยกแก้วน้ำดื่มเย็นๆ ในถาดไปให้ทุกคน แล้วเดินเลี่ยงเอาถาดไปเก็บและออกมานั่งที่โซฟาข้างๆ วายุ
โดยระหว่างนี้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็กำลังพูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบและเรื่องทั่วไป โดนเฉพาะนายวันดีกับนายวรุฒที่เหมือนจะพูดคุยกันถูกคอ เพราะพูดไปหัวเราะไป ผิดกับคนเป็นภรรยาของทั้งสองคนที่นั่งฟังนิ่งๆ พูดบ้างคุยถ้าโดนถามความเห็น
“เอ่อ...ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวเบญพาไปค่ะ”
“ไม่ต้อง!” นางบุษกรปฏิเสธเสียงเข้ม แต่เมื่อเห็นสายตาปรามจากสามีและแรงกระตุกที่แขนจากบุตรสาวทำให้นางต้องรีบออกตัว “ฉันหมายถึงไม่ต้องลำบากหรอก เดี๋ยวให้ยัยยาไปเป็นเพื่อน เธอแค่บอกทางไปก็พอ บ้านแค่นี้คงไม่หลงหรอกมั้ง”
“ยาขอพาคุณแม่ไปห้องน้ำนะคะ ไปค่ะพี่เบญ” ว่าแล้วก็รีบดึงแขนมารดาเดินตามคนรักของพี่ชาย ที่เดินแค่มาส่งและกลับออกไปที่ห้องรับแขกตามเดิม
“ทำไมคุณแม่พูดแบบนั้นออกไปล่ะคะ” วริยาถามมารดาเสียงไม่ดังเมื่ออยู่กันตามลำพัง
“แม่พูดอะไร” นางทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้
“ก็ทั้งเรื่องที่ทำเสียงแข็งใส่พี่เบญและเรื่องบ้าน”
“แม่ก็แค่พูดเรื่องจริง บ้านก็ดูใหญ่โตดีอยู่หรอกนะถ้าเทียบกับชาวบ้านละแวกนี้ แต่มันเทียบไม่ได้กับบ้านของเรา ดูห้องน้ำสิกว้างไม่ถึงครึ่งของห้องน้ำบ้านเราหรอกมั้ง ส่วนการตกแต่งภายในก็พอดูได้หรอกนะ แต่การตกแต่งภายนอกบอกเลยว่ารกไร้ซึ่งรสนิยมและความสวยงาม ทั้งผักทั้งดอกไม้ต้นไม้ปนมั่วกันไปหมด นี่แหละน้าเขาว่าคนบ้านนอก”
“แม่...” วริยาครางเรียกมารดาอย่างอ่อนใจ
E-book ดาวโหลดได้ที่เวบ MEB นะคะ

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 มิ.ย. 2559, 22:24:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 มิ.ย. 2559, 22:24:18 น.
จำนวนการเข้าชม : 920
<< ตอนที่ 2 >>> 100% | ตอนที่ 3 >>> 100% >> |