สานหัวใจรัก
สานหัวใจรัก (ซีรีส์ชุดรักเอย)
เบญจากับวายุที่รักกันมาหลายปี จนในที่สุดตัดสินใจจะแต่งงานกัน แต่แม่ของทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างไม่ชอบอีกฝ่าย ทำให้ในวันเจรจาสู่ขอล่มไม่เป็นท่า...
“พวกเราลองทำอย่างที่ท่านต้องการดูไหมคะ”
“ห๊ะ! คุณว่าอะไรนะ...ผมไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม” วายุถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
“ไม่หรอกค่ะ เบญคิดอย่างนั้นจริงๆ แม่เบญไม่ชอบคุณ และแม่คุณเองก็...รังเกียจเบญ”
ท้ายประโยคน้ำเสียงของหญิงสาวสั่นเครือจนคนฟังใจไม่ดี “ผมขอโทษแทนท่านด้วย ผมรู้ว่าท่านพูดแรงเกินไป” แต่วายุก็ไม่รู้จะพูดอะไรที่มันดูดีกว่านี้
“แต่มันคือเรื่องจริง เรื่องจริงที่ฉันฟังแล้วถึงกับหน้าชา” เบญจาหัวเราะขืนๆ ปาดน้ำตาที่รื่นขึ้นมา ก่อนจะพูดต่อ “เบญรู้ว่าท่านไม่ชอบเบญ แต่ไม่คิดว่าจะมากขนาดนี้...แปดเปื้อนวงศ์ตระกูล” คราวนี้หญิงสาวถึงกลับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ปล่อยเสียงสะอื้นออกมาจนวายุตกใจ
“เบญ...ผมจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เบญไม่เป็นไร คุณอยู่ที่นั่นดีแล้ว ต่างคนต่างอยู่สักพัก บางทีอะไรๆ มันอาจจะเป็นไปในทางที่ดี” เบญจารีบห้าม ไม่อย่างนั้นเชื่อได้เลยว่าวายุมาหาเธอจริงๆ แน่
“คุณต้องการอย่างนั้นเหรอ” วายุครางถามด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด
“บางทีสิ่งที่ท่านเลือกให้มันอาจจะดีก็ได้นะคะ”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ซีรีส์ชุดรักเอย ประกอบด้วย 3 เรื่องดังนี้นะคะ
- สานหัวใจรัก (เบญจา+วายุ)
- ตื้อรัก (วริยา+สาธุ)
-รักนอกสายตา (มาภา+ภูมิ)
"สานหัวใจรัก" เป็นเล่มแรกของชุดซึ่งจะทยอยลงให้อ่านกันเรื่อยๆ จนครบ 70% หรือประมาณ 7 ตอนนะคะ
ปล.นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายเล่มเล็กราคาเบาๆ มีเฉพาะอีบุ๊คนะคะ
ติดตาม ติชมผลงานหรือพูดคุยกันได้ที่แฟนเพจ รดามณี-ไหมขวัญ นะคะ (รออยู่น้าาาา)
เบญจากับวายุที่รักกันมาหลายปี จนในที่สุดตัดสินใจจะแต่งงานกัน แต่แม่ของทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างไม่ชอบอีกฝ่าย ทำให้ในวันเจรจาสู่ขอล่มไม่เป็นท่า...
“พวกเราลองทำอย่างที่ท่านต้องการดูไหมคะ”
“ห๊ะ! คุณว่าอะไรนะ...ผมไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม” วายุถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
“ไม่หรอกค่ะ เบญคิดอย่างนั้นจริงๆ แม่เบญไม่ชอบคุณ และแม่คุณเองก็...รังเกียจเบญ”
ท้ายประโยคน้ำเสียงของหญิงสาวสั่นเครือจนคนฟังใจไม่ดี “ผมขอโทษแทนท่านด้วย ผมรู้ว่าท่านพูดแรงเกินไป” แต่วายุก็ไม่รู้จะพูดอะไรที่มันดูดีกว่านี้
“แต่มันคือเรื่องจริง เรื่องจริงที่ฉันฟังแล้วถึงกับหน้าชา” เบญจาหัวเราะขืนๆ ปาดน้ำตาที่รื่นขึ้นมา ก่อนจะพูดต่อ “เบญรู้ว่าท่านไม่ชอบเบญ แต่ไม่คิดว่าจะมากขนาดนี้...แปดเปื้อนวงศ์ตระกูล” คราวนี้หญิงสาวถึงกลับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ปล่อยเสียงสะอื้นออกมาจนวายุตกใจ
“เบญ...ผมจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เบญไม่เป็นไร คุณอยู่ที่นั่นดีแล้ว ต่างคนต่างอยู่สักพัก บางทีอะไรๆ มันอาจจะเป็นไปในทางที่ดี” เบญจารีบห้าม ไม่อย่างนั้นเชื่อได้เลยว่าวายุมาหาเธอจริงๆ แน่
“คุณต้องการอย่างนั้นเหรอ” วายุครางถามด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด
“บางทีสิ่งที่ท่านเลือกให้มันอาจจะดีก็ได้นะคะ”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ซีรีส์ชุดรักเอย ประกอบด้วย 3 เรื่องดังนี้นะคะ
- สานหัวใจรัก (เบญจา+วายุ)
- ตื้อรัก (วริยา+สาธุ)
-รักนอกสายตา (มาภา+ภูมิ)
"สานหัวใจรัก" เป็นเล่มแรกของชุดซึ่งจะทยอยลงให้อ่านกันเรื่อยๆ จนครบ 70% หรือประมาณ 7 ตอนนะคะ
ปล.นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายเล่มเล็กราคาเบาๆ มีเฉพาะอีบุ๊คนะคะ
ติดตาม ติชมผลงานหรือพูดคุยกันได้ที่แฟนเพจ รดามณี-ไหมขวัญ นะคะ (รออยู่น้าาาา)
Tags: สานหัวใจรัก,ไหมขวัญ,ชุดรักเอย,นิยารักโรแมนติก,แม่ผัว,ลูกสะใภ้
ตอน: ตอนที่ 7 >>> 100%
ตอนที่ 7 (ต่อ)
และบังเอิญมากว่าผมกับไอ้ภูมิเป็นเพื่อนกันด้วย เรื่องมันเลยง่าย และที่ยังไม่ได้บอกคุณพ่อคุณแม่เพราะอยากจะให้ทั้งคู่มายืนยันด้วยตัวเอง”
“แต่ยารู้เพราะยาเป็นทีมพี่เบญกับพี่ยุค่ะ” วริยาบอกพลางยิ้มแป้นแล้น เลยได้ค้อนจากมารดาวงโต
“เป็นเพราะแกช้าอืดอาดยืดยาดเลยโดนแย่งไปก่อนเห็นไหมละ” นางบุษกรไม่วายต่อว่าลูกชาย
“สองคนนี้คบกันมานานพอๆ กับผมและเบญเลยนะครับ” วายุแย้ง
นางบุษกรเบ้ปากทันทีที่ได้ยินชื่อเบญจา “ถ้าเป็นอย่างนั้น นายภูมิอะไรนั่นก็คงไม่เป็นที่ต้องการของครอบครัวหนูบีละสิ ทางนั้นถึงบอกว่าลูกสาวตัวเองยังไม่มีใคร...”
“เหมือนที่คุณแม่ทำใช่ไหมครับ” วายุถาม พลางปรายตามองคนเป็นแม่แล้วทำเสียงหึในลำคอ
“พวกเราต่างหวังดี ช่วยปัดเหลือบไรที่คอยจ้องจะเอาแต่เงิน คุณสาก็คงเห็นไม่ต่างกันกับแม่” นางเอ่ยถึงสาริสามารดาของมาภา
“คุณแม่คิดไม่ผิดครับ ไอ้ภูมิมันไม่เป็นที่ต้องการของครอบครัวบี”
“ว่าแล้วไง ดูไม่มีผิด” นางยืดอกอย่างภาคภูมิใจในการมองคนของตน
“แต่นั่นเพราะทุกคนตัดสินมันจากแค่ภายนอก ไอ้ภูมิมันเป็นคนติดดินมาแต่ไหนแต่ไร ขนาดเรียนมหาลัยมันยังนั่งรถเมล์มาเรียน กินข้าวก็ร้านทั่วไปไม่ก็ร้านตามริมฟุตบาธ เพราะอะไรรู้ไหมครับ” วายุถามแล้วเงียบให้คนเป็นแม่ตอบ และคำตอบที่ได้ก็เหมือนกับที่เขาคิดไว้เปะ
“เพราะอะไรล่ะ ถ้าไม่เพราะมีปัญญาแค่นั่น หน้าอย่างนั้นจะมีปัญญาขับรถหรูๆ หรือกินอาหารที่ร้านหรูๆ แพงๆ ได้ยังไงจริงไหม”
ในน้ำเสียงของมารดานั้นช่างเหยียดหยันจนวายุเองต้องส่ายศีรษะ “คุณแม่เคยได้ยินนามสกุลกิตอัครศาสตร์ไหมครับ”
“ใครจะไม่รู้จัก มีธุรกิจครอบคลุมเกือบทุกอย่างรวยมาก รวยอภิมหารวย...ถ้าใครได้เกี่ยวดองด้วยโชคดีตายเลย” นางบุษกรบ่นอย่างเสียงดายเล็กๆ ที่ตระกูลนั้นลูกสาวเป็นฝั่งเป้นฝาไปแล้วทุกคน
“ภูมิ กิตอัครศาสตร์ คุณแม่ว่ารวยพอไหมครับ”
นางบุษกรถึงกับอึ้ง หันมามองคนเป็นลูกชายพร้อมกับครางถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ไม่จริง...นายภูมิเพื่อนของแกเนี่ยนะ”
“ผมถึงบอกไงครับว่าคุณแม่ชอบมองคนแค่ภายนอก แม่ของบีก็เหมือนกันตั้งแง่กับไอ้ภูมิทั้งที่ยังไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริง เดี๋ยวคงได้มีการหน้าแตกกันบ้าง” วายุมองมารดาแล้วยิ้มเมื่อท่านมองค้อนกลับมา “ส่วนคุณแม่ก็ตั้งแง่กับเบญ เพียงเพราะแค่เบญไม่ได้เกิดมาในตระกูลที่ใหญ่โตมีหน้ามีตาในวงสังคม แต่เชื่อเถอะครับว่าฐานะของครอบครัวของเบญเขาไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าเรา จะกินจะใช้ฟุ่มเฟือยก็ได้แต่พวกเขาเลือกที่จะอยู่อย่างพอเพียง ไม่รู้จะทำตัวอวดรวยไปเพื่ออะไร ในเมื่อสังคมที่พวกเขาอยู่คือสังคมที่จริงใจไม่ใช่สังคมสวมหน้ากากใส่กัน” พูดจบวายุก็ลุกขึ้นเดินหนี
“แม่จะมองหาคนอื่นที่เหมาะสมให้แกใหม่”
“ไม่มีใครเหมาะสมกับผมเท่ากับเบญหรอกครับ” วายุพูดโดยไม่หันมามองคนเป็นแม่
“แม่ไม่ยอมรับ” นางบุษกรสวนกลับทันที
“ผมก็ไม่ยอมรับผู้หญิงหน้าไหนทั้งนั้น ถ้าแม่ยังไม่เลิกยุ่งเรื่องนี้ ผมยอมออกจากตระกูลและเปลี่ยนนามสกุล เพื่อที่จะไม่ให้วงศ์ตระกูลอันสูงส่งของแม่มันแปดเปื้อน” ว่าแล้ววายุก็เดินออกจากบ้านโดยไม่สนใจเสียงตะโกนห้ามของคนเป็นแม่ที่ดังไล่หลัง
“ตายุ! กล้าขู่แม่เหรอ กลับมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน”
“พอเถอะคุณ จะไปบังคับลูกอะไรนักหนา” นายวรุฒที่นั่งฟังแม่ลูกเถียงกันอยู่นานเอ่ยปรามอย่างใจเย็น
“ก็ฉันอยากให้ลูกได้คนดีๆ จะได้มีความสุข”
“หนูเบญไม่ดีตรงไหน” นายวรุฒแย้งขึ้น ก่อนจะถอนหายใจเมื่อภรรยาไม่ตอบเอาแต่นั่งเงียบหน้าเชิด “คุณน่ะปล่อยวางบ้างเถอะ คิดถึงใจลูกมันบ้าง คุณไปบังคับขืนใจแบบนั้นผมถามจริงๆ เถอะคุณทำไปเพื่อความสุขของใคร ของตัวเองหรือลูกคิดเอา” พูดให้คิดเพียงแค่นั้นนายวรุฒก็เป็นอีกคนที่เดินหนี ตอนนี้จะเหลือก็แค่วริยาที่มองตามทุกฝ่ายอย่างเห็นใจ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้เห็นด้วยกับคนเป็นแม่เลย
“ทำไมไม่มีใครเห็นความหวังดีของแม่เลย” นางครางอย่างหมดแรงใจ
“แม่คะ...ทุกคนรู้ค่ะว่าแม่หวังดี แต่มันเป็นความหวังดีที่ไม่ถูกที่ถูกเวลาเท่านั้นเองค่ะ ยาอยากให้แม่คิดทบทวนดีๆ นะคะ ถ้าหากว่าคุณแม่มาอยู่ในฐานะเดียวกับพี่ยุ คุณแม่จะรู้สึกอย่างไร ยารู้นะคะว่าคุณพ่อคุณแม่แต่งงานกันเพราะความรัก แล้วทำไมพี่ยุต้องโดนบังคับและแต่งงานเพราะความรักไม่ได้ล่ะคะ ยาพูดได้แค่นี้ละคะ” วริยาตบที่หลังมือคนเป็นแม่เบาๆ แล้วลุกหนีไปอีกคน
“นี่ฉันต้องยอมใช่ไหม...”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อัพตอนสุดท้ายแล้วค่าาาาา
ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ แล้วพบกันใหม่เรื่องหน้าค่า ^_^
ดาวโหลด E-book ได้ที่เวบ MEB นะคะ
และบังเอิญมากว่าผมกับไอ้ภูมิเป็นเพื่อนกันด้วย เรื่องมันเลยง่าย และที่ยังไม่ได้บอกคุณพ่อคุณแม่เพราะอยากจะให้ทั้งคู่มายืนยันด้วยตัวเอง”
“แต่ยารู้เพราะยาเป็นทีมพี่เบญกับพี่ยุค่ะ” วริยาบอกพลางยิ้มแป้นแล้น เลยได้ค้อนจากมารดาวงโต
“เป็นเพราะแกช้าอืดอาดยืดยาดเลยโดนแย่งไปก่อนเห็นไหมละ” นางบุษกรไม่วายต่อว่าลูกชาย
“สองคนนี้คบกันมานานพอๆ กับผมและเบญเลยนะครับ” วายุแย้ง
นางบุษกรเบ้ปากทันทีที่ได้ยินชื่อเบญจา “ถ้าเป็นอย่างนั้น นายภูมิอะไรนั่นก็คงไม่เป็นที่ต้องการของครอบครัวหนูบีละสิ ทางนั้นถึงบอกว่าลูกสาวตัวเองยังไม่มีใคร...”
“เหมือนที่คุณแม่ทำใช่ไหมครับ” วายุถาม พลางปรายตามองคนเป็นแม่แล้วทำเสียงหึในลำคอ
“พวกเราต่างหวังดี ช่วยปัดเหลือบไรที่คอยจ้องจะเอาแต่เงิน คุณสาก็คงเห็นไม่ต่างกันกับแม่” นางเอ่ยถึงสาริสามารดาของมาภา
“คุณแม่คิดไม่ผิดครับ ไอ้ภูมิมันไม่เป็นที่ต้องการของครอบครัวบี”
“ว่าแล้วไง ดูไม่มีผิด” นางยืดอกอย่างภาคภูมิใจในการมองคนของตน
“แต่นั่นเพราะทุกคนตัดสินมันจากแค่ภายนอก ไอ้ภูมิมันเป็นคนติดดินมาแต่ไหนแต่ไร ขนาดเรียนมหาลัยมันยังนั่งรถเมล์มาเรียน กินข้าวก็ร้านทั่วไปไม่ก็ร้านตามริมฟุตบาธ เพราะอะไรรู้ไหมครับ” วายุถามแล้วเงียบให้คนเป็นแม่ตอบ และคำตอบที่ได้ก็เหมือนกับที่เขาคิดไว้เปะ
“เพราะอะไรล่ะ ถ้าไม่เพราะมีปัญญาแค่นั่น หน้าอย่างนั้นจะมีปัญญาขับรถหรูๆ หรือกินอาหารที่ร้านหรูๆ แพงๆ ได้ยังไงจริงไหม”
ในน้ำเสียงของมารดานั้นช่างเหยียดหยันจนวายุเองต้องส่ายศีรษะ “คุณแม่เคยได้ยินนามสกุลกิตอัครศาสตร์ไหมครับ”
“ใครจะไม่รู้จัก มีธุรกิจครอบคลุมเกือบทุกอย่างรวยมาก รวยอภิมหารวย...ถ้าใครได้เกี่ยวดองด้วยโชคดีตายเลย” นางบุษกรบ่นอย่างเสียงดายเล็กๆ ที่ตระกูลนั้นลูกสาวเป็นฝั่งเป้นฝาไปแล้วทุกคน
“ภูมิ กิตอัครศาสตร์ คุณแม่ว่ารวยพอไหมครับ”
นางบุษกรถึงกับอึ้ง หันมามองคนเป็นลูกชายพร้อมกับครางถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ไม่จริง...นายภูมิเพื่อนของแกเนี่ยนะ”
“ผมถึงบอกไงครับว่าคุณแม่ชอบมองคนแค่ภายนอก แม่ของบีก็เหมือนกันตั้งแง่กับไอ้ภูมิทั้งที่ยังไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริง เดี๋ยวคงได้มีการหน้าแตกกันบ้าง” วายุมองมารดาแล้วยิ้มเมื่อท่านมองค้อนกลับมา “ส่วนคุณแม่ก็ตั้งแง่กับเบญ เพียงเพราะแค่เบญไม่ได้เกิดมาในตระกูลที่ใหญ่โตมีหน้ามีตาในวงสังคม แต่เชื่อเถอะครับว่าฐานะของครอบครัวของเบญเขาไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าเรา จะกินจะใช้ฟุ่มเฟือยก็ได้แต่พวกเขาเลือกที่จะอยู่อย่างพอเพียง ไม่รู้จะทำตัวอวดรวยไปเพื่ออะไร ในเมื่อสังคมที่พวกเขาอยู่คือสังคมที่จริงใจไม่ใช่สังคมสวมหน้ากากใส่กัน” พูดจบวายุก็ลุกขึ้นเดินหนี
“แม่จะมองหาคนอื่นที่เหมาะสมให้แกใหม่”
“ไม่มีใครเหมาะสมกับผมเท่ากับเบญหรอกครับ” วายุพูดโดยไม่หันมามองคนเป็นแม่
“แม่ไม่ยอมรับ” นางบุษกรสวนกลับทันที
“ผมก็ไม่ยอมรับผู้หญิงหน้าไหนทั้งนั้น ถ้าแม่ยังไม่เลิกยุ่งเรื่องนี้ ผมยอมออกจากตระกูลและเปลี่ยนนามสกุล เพื่อที่จะไม่ให้วงศ์ตระกูลอันสูงส่งของแม่มันแปดเปื้อน” ว่าแล้ววายุก็เดินออกจากบ้านโดยไม่สนใจเสียงตะโกนห้ามของคนเป็นแม่ที่ดังไล่หลัง
“ตายุ! กล้าขู่แม่เหรอ กลับมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน”
“พอเถอะคุณ จะไปบังคับลูกอะไรนักหนา” นายวรุฒที่นั่งฟังแม่ลูกเถียงกันอยู่นานเอ่ยปรามอย่างใจเย็น
“ก็ฉันอยากให้ลูกได้คนดีๆ จะได้มีความสุข”
“หนูเบญไม่ดีตรงไหน” นายวรุฒแย้งขึ้น ก่อนจะถอนหายใจเมื่อภรรยาไม่ตอบเอาแต่นั่งเงียบหน้าเชิด “คุณน่ะปล่อยวางบ้างเถอะ คิดถึงใจลูกมันบ้าง คุณไปบังคับขืนใจแบบนั้นผมถามจริงๆ เถอะคุณทำไปเพื่อความสุขของใคร ของตัวเองหรือลูกคิดเอา” พูดให้คิดเพียงแค่นั้นนายวรุฒก็เป็นอีกคนที่เดินหนี ตอนนี้จะเหลือก็แค่วริยาที่มองตามทุกฝ่ายอย่างเห็นใจ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้เห็นด้วยกับคนเป็นแม่เลย
“ทำไมไม่มีใครเห็นความหวังดีของแม่เลย” นางครางอย่างหมดแรงใจ
“แม่คะ...ทุกคนรู้ค่ะว่าแม่หวังดี แต่มันเป็นความหวังดีที่ไม่ถูกที่ถูกเวลาเท่านั้นเองค่ะ ยาอยากให้แม่คิดทบทวนดีๆ นะคะ ถ้าหากว่าคุณแม่มาอยู่ในฐานะเดียวกับพี่ยุ คุณแม่จะรู้สึกอย่างไร ยารู้นะคะว่าคุณพ่อคุณแม่แต่งงานกันเพราะความรัก แล้วทำไมพี่ยุต้องโดนบังคับและแต่งงานเพราะความรักไม่ได้ล่ะคะ ยาพูดได้แค่นี้ละคะ” วริยาตบที่หลังมือคนเป็นแม่เบาๆ แล้วลุกหนีไปอีกคน
“นี่ฉันต้องยอมใช่ไหม...”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อัพตอนสุดท้ายแล้วค่าาาาา
ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ แล้วพบกันใหม่เรื่องหน้าค่า ^_^
ดาวโหลด E-book ได้ที่เวบ MEB นะคะ
เกศมณี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 มิ.ย. 2559, 22:09:41 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 มิ.ย. 2559, 22:09:40 น.
จำนวนการเข้าชม : 881
<< ตอนที่ 7 >>> 50% |