: + : + : + : + : ผู้ช่วยกามเทพ : + : + : + : + :
นี่มันไม่ใช่แค่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก หรือราหูอมธรรมดาละ

อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ทายาทคนเล็กบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่ง และเจ้าของบริษัทจับคู่ยอดฮิตแห่งยุค อยากรู้นักว่าเธอเคยไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนแล้วลืมแก้บนหรือเปล่า ทำไมเรื่องวุ่นๆถึงประดังเข้ามาในชีวิตแบบนี้ก็ไม่รู้

เพราะถูกแม่จับคลุมถุงชนกับคนแปลกหน้า ลูกสาวคนเล็กที่ถูกเลี้ยงอย่างเอาแต่ใจมาตลอดจึงประกาศกร้าวขอแต่งงานกับเพื่อนสนิทเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แต่โชคร้ายที่แม่เล่นใหญ่ชนิดรัชดาลัยเธียเตอร์ชิดซ้าย เมื่อบังคับกันดีๆไม่ได้ ท่านจึงตัดความช่วยเหลือทางการเงินจนเหี้ยน ทำให้เธอยิ่งต้องเอาชนะคำสั่งของแม่ให้ได้

สาวัช ปรเมศวร์ เกิดมาในฐานะลูกเมียน้อย เขาจึงทำตัวให้เลือนรางที่สุด เมื่อบ้านที่พรั่งพร้อมด้วยเงินทอง ชื่อเสียงและอำนาจ แต่กลับไม่เคยมีความรักให้เขาสักนิด สาวัชจึงชดเชยให้ตัวเองด้วยการปฏิเสธทุกคำร้องขอจากคนภายนอก ใครๆก็ว่าเขาเย็นชา ไร้น้ำใจ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แต่สาวัชก็ไม่เคยแคร์

ครั้นหนทางแห่งผลประโยชน์ชักนำ อิงอรุณจำต้องเข้าขอความช่วยเหลือจากสาวัช เมื่อคนหนึ่งเติบโตด้วยความรักพร้อมพรั่งรอบกายจนกลายเป็นคนแสนเอาแต่ใจ ต้องมาเจอกับคนที่ชีวิตแล้งไร้ความรักแถมยังไม่เคยตามใจใคร ย่อมต้องมีสักคนเป็นฝ่ายถอย!

เมื่อคนสุดขั้วสองคนต้องมาเจอกันในภารกิจเอาตัวรอดของอิงอรุณ ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น แต่คนที่ใจอ่อนก่อน บอกรักก่อน อาจไม่ใช่คนแพ้เสมอไปก็ได้!



♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥

หายไปสองปี หวังว่าเพื่อนๆคงยังไม่ลืมสิริณกันนะค้า
ผู้ช่วยกามเทพ เป็นตอนต่อของ สนิมดอกรักค่ะ
อ่านแยกกันได้ ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอ่านสนิมดอกรักก่อนจะยิ่งได้อรรถรสสุดฤทธิ์ (ขายของค่ะ 555)

เช่นเคยนะคะ สิริณยินดีและน้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
จะติก็ได้ ชมก็ยิ่งดี อ่านแล้วจัดเต็มกันได้เลย
มิต้องกลัวคนเขียนนอยด์ค่ะ

ฝากเนื้อฝากตัว ฝากผลงานไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต

หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น

ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^

♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
www.facebook.com/SirinFC
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 32 (100%)

เพียงรถแวะจอดหน้าร้านสะดวกซื้อในสถานีน้ำมัน สาวัชก็หันมาทางเธอ

“พักรถสักครู่ คุณจะได้แล้วก็ยืดเส้นยืดสายที่ต้องอุดอู้มาในรถเล็กๆ แล้วก็เข้าห้องน้ำก่อนเดินทางต่อ”

“ไม่เห็นจะอุดอู้ตรงไหนเลย รถคุณไม่ได้คันเท่ากล่องไม้ขีดนะคะ เบาะก็นุ่ม เลกรูมก็กว้างยืดขาได้สบาย แถมแอร์ก็เย็นฉ่ำ อิงน่ะนั่งสบายจนเกือบหลับเลยนะ” เธอยู่หน้าบอกสารถีจำเป็น เสกวาดตามองไปนอกรถด้วยความสนใจ “ปั๊มพ์นี้ของกินเยอะจัง เลือกไม่ถูกเลย”

“ถ้าคุณหิวเดี๋ยวผมแวะร้านอาหารให้ดีกว่า”

“ไม่เอาอะค่ะ ตรงนี้ก็มีของกินเยอะแยะ ทั้งฮอตดอก ลูกชิ้นทอด ขนมจีบซาลาเปา หมูปิ้งข้าวเหนียว อุ๊ย! ตรงนั้นมีขนมครกด้วย แหม...นี่ถ้ามีไอติมปิดท้ายด้วยก็แจ่มเลย” เธอร่ายเมนู พลางจับตามองชายหนุ่มอย่างตั้งใจ และก็เป็นดังคาด...เขามีสีหน้าไม่สบายใจ ติดจะอึดอัดด้วยซ้ำ

อิงอรุณสังเกตตั้งแต่ขึ้นรถแล้วว่าสาวัชพยายามซ่อนความกังวลเอาไว้ แค่ออกเดินทางได้ไม่เท่าไร ชายหนุ่มเพียรย้ำถามซ้ำๆ ใส่ใจอย่างยิ่งที่จะให้เธอได้รับความสะดวกสบายเต็มที่จากรถญี่ปุ่นคันโทรมๆของเขา จนเธอชวนคุยเรื่องมโนสาเร่ เขาจึงค่อยเบาใจและทำท่าเหมือนลืมๆความวิตกไปได้บ้าง

แล้วนี่...พอแวะพักรถ เขาก็กลับสู่โหมดเดิมอีกครั้ง เป็นสาวัชภาคที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน สงสัยเขาห่วงเธอจะเสื่อมเกียรติของเทียมสุบรรณ หากต้องซื้อของในร้านข้างทางเช่นนี้รับประทาน!

“คุณอิง...”

เรื่องอะไรจะปล่อยให้เขาคิดมาก อิงอรุณทำหน้าตื่นเต้น ชี้ไปยังรถเข็นคันหนึ่งที่อยู่ค่อนข้างไกล “โอ๊ย! พรหมลิขิตหรือเปล่าเนี่ย นั่นมันวาฟเฟิลฮ่องกงนี่นา” เธอหันไปทางสาวัช “อิงอยากกินมาตั้งหลายวันละ ใครจะเชื่อเนี่ยว่ามาไกลจากกรุงเทพฯขนาดนี้ ยังอุตส่าห์มีวาฟเฟิลฮ่องกงให้กินด้วย”

“พรหมลิขิต?” สาวัชทวนคำคิ้วขมวดมุ่น “วาฟเฟิลฮ่องกงเนี่ยนะ”

“ช่าย เพราะอิงกับคนขายร้านนี้มีวาสนาต่อกัน เคยทำบุญมาด้วยกัน โชคชะตาก็เลยหมุนให้อิงได้มาเจอกับวาฟเฟิลฮ่องกงสมใจไงคะ”

“นี่ถึงยุคที่ประเทศไทยมีสามจีแล้วนะ คุณยังจะปล่อยชีวิตไปตามที่โชคชะตากำหนดอีกเหรอ”

“แหม...คุณสาวัชนี่ไม่โรแมนติกเลย” อิงอรุณค้อน “ต่อให้เราใช้สี่จีได้ทั่วประเทศแล้ว ถึงตอนนั้นคุณก็ต้องหัดเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็นบ้างนะคะ พระเจ้าน่ะท่านออกแบบชีวิตมนุษย์ให้มีทั้งอารมณ์ เหตุผลและสิ่งเร้าต่างๆอีกมากมาย เราต้องรื่นรมย์กับทุกๆด้านของชีวิต ใช้อารมณ์บ้างสลับกับเหตุผลหรือบางทีก็ไม่ต้องใช้อะไรเลย เสี่ยงหัวก้อยประมาณเนี้ย ชีวิตจะได้มีเรื่องสนุกๆให้แปลกใจบ้าง” อิงอรุณลงจากรถมุ่งหน้าไปยังร้านขนมที่หมายตา รับรู้ได้ว่าชายหนุ่มก้าวตามมาเคียงข้าง

“เสี่ยงหัวก้อยเนี่ยนะ คุณจบปริญญามาจริงหรือเปล่าเนี่ย พูดจาเหมือนสาวช่างฝันชั้นมัธยมเลย”

“ไม่โกรธค่ะ ถือว่าเป็นคำชมนะ การปล่อยให้ความเป็นเด็กในตัวเราได้โลดแล่นบ้าง ดีจะตาย” อิงอรุณยักคิ้ว

“เด็กตะกละน่ะสิ รายการที่คุณไล่มาเมื่อกี้ ขืนซื้อครบทุกอย่าง รถผมคงไม่พอใส่หรอก”

“แหม...ตะกละที่ไหนคะ เขาเรียกเด็กกำลังโตต่างหาก”

“ดีนะที่คุณไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่แตะโน่นนิดนี่หน่อย ไม่กล้ากินอะไรต่อมิอะไรไปหมด”

“ดียังไงคะ”

“ผู้หญิงแบบนั้นน่ารำคาญ”

“งั้นก็หาแฟนกินเก่งๆแบบอิงนะคะ คนไหนที่เห็นแววว่าจะมีข้อเสียที่คุณไม่ชอบ ก็รีบชิงตัดใจก่อนเลย จะได้ไม่ต้องถลำใจลึกเกินไป”

“รอให้ผมรักผู้หญิงคนนั้นก่อน แล้วค่อยรับรู้ข้อเสียทั้งหมดของเธอดีกว่า เพราะแบบนั้นไม่ว่าจะมีอะไรรออยู่ แต่คนอย่างผมถ้ารักแล้วก็จะไม่มีวันเปลี่ยนใจโดยเด็ดขาด”

“แหม...หาว่าอิงเป็นเด็กประถม อุดมคติของคุณสาวัชน่ะ ไร้เดียงสากว่าเด็กอนุบาลซะอีก”

“คุณพูดจาแบบนี้กับวิทยากรของบริษัทได้ยังไง” ชายหนุ่มดุเสียงเข้ม

แต่พอเธอหันไปมองหน้าเขาไม่ยักทำหน้าขรึม ริมฝีปากดูจะมีรอยยิ้มนิดๆด้วยซ้ำ สงสัยคนที่มาด้วยกันวันนี้เป็นสาวัชตัวปลอม เพราะเขาแก่ยิ้มบ่อยผิดหูผิดตา แถมยังพูดเยอะคำขึ้นจนเธอเลิกนับไปแล้ว

“วันนี้วันหยุด เรามาสำรวจสถานที่สำหรับคอร์สใหม่กัน เพราะฉะนั้นตอนนี้คุณเป็นเพื่อนร่วมงานของอิงต่างหาก”

“งั้นให้โอกาสผมเลี้ยงขนมเพื่อนร่วมงานละกัน” เขาสรุปดื้อๆ “ทุกอย่างที่คุณซื้อวันนี้ ขอผมเป็นเจ้าภาพนะ”

“อิงกินเก่งนะคะ”

“ผมเลี้ยงไหว” สาวัชเน้นประโยคเสียงหนัก

“งั้นสั่งวาฟเฟิลก่อน แล้วเราไปซื้อหมูปิ้งกับลูกชิ้นทอดไว้กินบนรถ ระหว่างรอก็เข้ามินิมาร์ทซื้อไอศกรีมกินฆ่าเวลา”

สาวัชพยักหน้าว่าง่าย พร้อมกับผายมือให้เธอนำทาง

อิงอรุณหัวเราะคิก เดินช็อปปิ้งของกินอย่างสนุกสนาน ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าที่เจริญอาหารจนรับประทานหมดเกลี้ยง สาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่ ระหว่างอาหารพวกนี้อร่อยถูกปากจริงๆ หรือเป็นเพราะทุกอย่างที่กระทำร่วมกับสาวัชล้วนดีงาม และควรค่าแก่การฉกฉวยความสุขเหล่านั้นไว้ให้ได้มากที่สุด



เสียงไอแหบๆของที่ดังลอดมาจากในห้อง ทำให้ริสาขมวดคิ้วด้วยความกังวล หญิงสาวเคาะประตูเบาๆแล้วผลักเข้าไปในห้องทำงานของบิดาโดยไม่รอฟังคำอนุญาต ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้เลือดในกายร้อนฉ่าด้วยความโกรธเกรี้ยวเช่นทุกครั้ง ธนานั่งอยู่บนโซฟากำลังอ่านนิตยสารการเงิน โดยมีสาวิตรีซุกตัวอยู่ประชิดติดกัน และเพียงเห็นเธอเต็มตา ‘ผู้หญิงของพ่อ’ ก็ขยับตัวนั่งตรงอย่างเชื่องช้า

นั่นทำให้บิดาเงยขึ้น และสังเกตเห็นเธอเสียที “อ้าว...อาหยงเองเหรอ วันนี้วันอาทิตย์ ลื้อไม่ไปไหนหรือ”

“หยงเคลียร์งานน่ะค่ะ” เธอรีรอ เห็นอาการของบิดาแล้วชักอยากให้ท่านพักผ่อน มากกว่าเอาเรื่องมารบกวนรกใจ

“อึกอักอย่างนี้มีอะไรจะคุยกับเตี่ยหรือเปล่า”

“นิดหน่อยค่ะ แต่เอาไว้วันหลังก็ได้”

“ไม่ต้องวันหลังหรอก มีอะไรก็พูดมา”

เธอปรายตาไปทาง ‘คนนอก’ ฝืนยิ้มยากเย็น กดเสียงต่ำให้ฟังสุภาพที่สุด “ขอหยงคุยกับเตี่ยตามลำพังได้ไหมคะ”

สาวิตรีอิดออดเล็กน้อย ครั้นไม่ได้ยินบิดาเธอแย้ง ฝ่ายนั้นจึงบิดริมฝีปาก ขยับลุกจากเก้าอี้อย่างไม่เต็มใจ

“อย่าคุยนานนักนะคะ เสี่ยหายใจไม่ค่อยสะดวก น้าอยากให้ท่านพักมากๆหน่อย” สาวิตรีหยุดยืนตรงหน้าเธอ ไม่วายทำทีห่วงใยธนาชนิดที่เธออยากให้ตุ๊กตาทองนักแสดงยอดเยี่ยมเลยทีเดียว

“หยงห่วงท่านไม่แพ้ใครในบ้านนี้หรอกค่ะ” ยิ่งเธอเต้นเร่าโกรธกริ้วก็มีแต่จะเข้าทางอีกฝ่ายให้สะใจไปเท่านั้น ในเมื่อเสแสร้งมา เธอก็ทำเป็นรู้ไม่ทัน ให้อีกฝ่ายผิดหวังนั่นแหละดีที่สุด!

ริสาคอยจนสาวใหญ่งับประตูสนิทแล้ว จึงเข้าไปนั่งข้างๆบิดา แตะแขนท่านด้วยความเป็นห่วง “ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลรอบนี้ เตี่ยหอบหนักจังเลย ตัวบวมๆด้วย ไปให้หมอเช็กปอดดูหน่อยไหมคะ”

ธนาโบกมือ “เฮ้ย! เตี่ยไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย ก็แค่บวมน้ำเอง ลื้ออย่ามายัดเยียดโรคให้เตี่ยเลย เอ้าไหน! ลื้อมีเรื่องอะไรจะคุยก็ว่ามา”

“หยงไปพบคุณสุพจน์ เทียมสุบรรณ ประธานกรรมการบริหารบริษัทสยามดริ๊งค์คอร์ปอเรชันมาค่ะ หยงจะสรุปเนื้อหาให้เตี่ยฟังแบบย่อๆนะคะ คุณสุพจน์เสนอให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงินกับปรเมศวร์เทรดดิ้งค่ะ

“ไม่รับ” ธนาตอบทันควัน สีหน้ายโสภาคภูมิ “เราไม่ได้อดอยากลำบากถึงกับต้องรับความช่วยเหลือจากใคร”

“คุณสุพจน์แค่อยากเป็นพันธมิตรทางธุรกิจค่ะเตี่ย เขาพูดทำนองว่าวันหน้าบริษัทเราจะเติบโตกว่านี้ อาจต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้น” ริสาเอ่ยอย่างระมัดระวัง ครั้นเห็นบิดาไม่มีทีท่าว่าจะอารมณ์ขึ้น จึงหยั่งเชิงด้วยการ “หยงคิดว่าเขาพูดถึงวันที่ราคาหุ้นเราจะขึ้นไปแตะ ๔๒ บาทค่ะ”

ธนาหรี่ตา “ทำไมถึงต้องเป็น ๔๒ บาท”

ริสาเม้มปากชั่งใจ สุดท้ายจึงตอบตามตรง “ตอนที่รู้ว่าซูเปอร์โคลาจะทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ สาวัชเสนอให้จ้างบริษัทที่ปรึกษาประเมินราคาหุ้นของเราเผื่อไว้ใช้ตอบโต้กับสเปน ตอนนี้ผลการประเมินออกมาแล้ว ที่ปรึกษาทางการเงินระบุว่าราคาหุ้นพีอาร์เอ็มควรจะซื้อขายกันที่ราคาสี่สิบสองบาท ถึงจะเป็นมูลค่าที่เหมาะสมค่ะ”

“แปลว่าข้อมูลจากที่ปรึกษาทางการเงินของเราหลุดไปถึงมือสยามดริ๊งค์แล้วงั้นเหรอ”

“หยงค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นอย่างนั้นค่ะ”

“ดีที่ทางนั้นยังแค่เสนอความช่วยเหลือเพื่อจะได้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกันไว้ ไม่ใช่เสนอขอซื้อบริษัทเรา!”

“เขาไม่ทำมารยาทแย่ๆอย่างนั้นหรอกค่ะ ใครก็รู้ว่าปรเมศวร์เทรดดิ้งเป็นหยาดเหงื่อและความภาคภูมิใจของบรรพบุรุษตระกูลเรา ยังไงเตี่ยก็ไม่มีวันยอมให้ตกไปอยู่ในมือคนอื่นอยู่แล้ว”

“ให้มันจริงเถอะ ทุกคนก็รู้กันอยู่ว่าไอ้สุพจน์คนนี้มันบ้าดีเดือด ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า ใครจะไปมั่นใจได้ล่ะว่าวันนึงมันจะไม่เกิดบ้าอยากได้บริษัทเราขึ้นมา” ธนาปรามาสด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ก่อนตามด้วยเสียงไอแห้งๆและอาการหอบอย่างหนักจนตัวงอ ทำให้ริสาหน้าเสีย

“เตี่ยไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอกน่า” ธนาโบกมือ เมื่อเห็นเธอละล้าละลังวุ่นวายใจ “ถ้าลื้อไม่มีอะไรแล้ว ก็ไปเถอะ ออกไปแล้วเรียกอาสาเข้ามาหาเตี่ยด้วยนะ ให้อีรอนานแล้ว เดี๋ยวอีจะโกรธ”

ริสากัดริมฝีปากด้วยความน้อยใจ ในยามอาการเพียบขนาดนี้ ธนายังมีแก่ใจห่วงความรู้สึกผู้หญิงคนนั้นมากกว่าตัวเอง ทว่าเท่าที่เธอทำได้กลับมีเพียงกระเถิบออกห่างแล้วลุกขึ้นยืน บอกเสียงเรียบแค่ “งั้นหยงขอตัวนะคะ เดี๋ยวจะเรียกคุณสาเข้ามาให้ค่ะ”

หญิงสาวคอเชิดแข็งเมื่อผลักประตูออกมาแล้วพบว่าสาวิตรียืนเตร่อยู่ไม่ห่าง ทั้งยังถลันเข้าไปในห้องโดยไม่รอฟังใดๆทั้งสิ้น ริสาปรายตาสังเกตความเป็นไปในห้อง ก็พบว่าสาวิตรีกุลีกุจอผวาเข้าไปลูบหลังลูบไหล่ให้บิดาของเธออย่างรู้ใจ

ซีอีโอคนล่าสุดของปรเมศวร์เทรดดิ้งกำมือแน่น เมื่อเห็นชัดตาว่าธนาเอนพิงโซฟาส่งยิ้มซีดเซียวให้ผู้หญิงคนนั้น ยิ้ม...ที่เธอกับแม่ไม่เคยได้รับเลยตลอดทั้งชีวิต!





: + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + ​:




วันหยุด แต่เราก็ไม่หยุดหวานกันโนะ :D










สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 มิ.ย. 2559, 13:42:56 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 มิ.ย. 2559, 13:42:56 น.

จำนวนการเข้าชม : 1073





<< ตอนที่ 32 (40%)   ตอนที่ 33 (33%) >>
Kim 25 มิ.ย. 2559, 14:38:02 น.
สงสารริสานะ คู่นั้นก็หวานกันเข้าไป หวานให้ลืมพันเทพกันไปเลย


konhin 25 มิ.ย. 2559, 16:53:56 น.
หึๆๆ ไปเที่ยวกับผู้ชายอื่นไม่บอกแฟนแบบนี้ หนูอิงยังคิดไม่ได้เนอะ


พอใจ 25 มิ.ย. 2559, 17:47:02 น.
แล้วถ้าเตี่ยรึริสารู้ว่าสาวัชรู้จัก สนิทสนมกับลูกสาวสยามดริ๊งค์ จะเป็นยังไงนะ แล้วนี่เตี่ยก็อาการหนักมากแล้วน๊าาาา


นักอ่านเหนียวหนึบ 25 มิ.ย. 2559, 19:07:26 น.
มันนนนนนนนดูหวานอมขมกลืนอะ ตอนนี้อ่านละไม่หวานเลย ขื่นๆ ฝืนๆ ไม่เป็นตัวเองกันซักคน


Zephyr 26 มิ.ย. 2559, 19:23:38 น.
คู่สาวัชกพอิงยังเรื่อยๆนะ
แต่คู่เสี่ยป้าสา นี่ไม่ไหวนะ
ป้าสาซ่าเสี่ยทางอ้อมนะ
เราเซ็งคู่รุ่นดึกนี่มากกกก 555 ขัดอกขัดใจ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account