แสบนักไม่ให้รักยังไงไหว
อหังการ์ หนุ่มหล่อเจ้าของไร่ ที่ดั๊นไปจับตัวคนที่ทำร้ายน้องชายเขามาผิดตัวแต่กลับไม่รู้ แต่ไอ้ที่จับมาน่ะ ไม่ได้จะมาทำทารุณกรรมเหมือนนิยายจำพวกแก้แค้นแสนรักทั้งหลาย ก็แค่อยากจะสั่งสอนให้เจ้าหล่อนได้รู้ซะบ้างว่าการหารายได้พิเศษประเภทนอนสบายได้เงินเยอะน่ะ มันผิด แต่กลับกลายเป็นว่าแม่เจ้าประคุณดันแสบซะจนเขาแทบดิ้น และก็ต้องตกใจที่ความแสบนั้นมันทำให้เขาถอนรักจากเธอไม่ได้


Tags: หวานแหววจนแสบซ่า

ตอน: 4.สู้ตายแบบธารใส

ตอนที่ 4
สู้ตายแบบธารใส

หลังจากที่ผู้ร้ายรูปหล่อที่ขโมยหัวใจเธอไปด้วยเดินออกจากห้องไปแล้ว ธารใสก็ลุกขึ้นสำรวจไปรอบ ๆ ห้องที่มองเห็นได้เพียงลาง ๆ สายตาคู่สวยก็พบเจอแต่เครื่องมือทำความสะอาดบ้านเท่านั้น นอนจากนั้นก็ไม่มีอะไรซักอย่าง ไม่รู้มีไฟหรือเปล่า เมื่อกี้ก็ลืมถามเอาความกับพี่หล่อ ตาสวยพยายามมองลอดรอยแตกของฝาไม้ แต่ก็ไม่เห็นอะไรซักอย่างนอกจากความมืด ธารใสพยายามครุ่นคิดอย่างหนักว่าเธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับคนชื่อพิลึกกึกกือที่พี่หล่อคนนั้นพูดใส่ร้ายได้ยังไง หรือจะเป็นคนที่เข้ามาติดพัน เพราะบางคนเธอไม่ได้รู้จักชื่อ และก็ขี้เกียจจะถามเพราะไม่ได้สนใจ

หรือว่า....แล้วมันหรืออะไรล่ะ คิดไม่ออก สรุปแล้ว พี่หล่อจับตัวเธอมาผิดจริง ๆ นั่นแหละ แต่จะสาเหตุอะไร มันเริ่มผิดจากตรงไหนอันนี้เธอเองก็ไม่รู้ แต่ช่างเถอะ ตอนนี้มันก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ก็แกอยากเสียบกุญแจคาไว้ให้พี่หล่อเข้าไปง่าย ๆ ทำไมล่ะยัยลูกหนู หรือมันจะเป็นพรมลิขิตที่ทำให้เธอมาเจอเขา ต้องใช่แน่ ๆ ก็เราอุตส่าห์นอนคิดนอนฝัน ร่ำร้องอยากจะได้ผัวหล่อโครต ๆ เซอร์ ๆ แสบ ๆ แล้วก็ดุ ๆ ไม่ใช่หรือวะไอ้ลูกหนู ดีเหมือนกันจะได้หาโอกาสแทะโลมพี่หล่อไปด้วย ธารใสคิดปลอบใจตัวเองไปสารพัดเพื่อลดความกังวล(ซึ่งไม่แน่ใจว่าตอนนี้ไอ้ความกังวลที่ว่ามันมีบ้างซักนิดหรือเปล่า) ก็มันไม่มีอะไรจะทำให้มันดีกว่านี้แล้วนี่

ร่างสวยทรุดนั่งกับพื้น เพราะเดินวนจนเมื่อย แถมตอนนี้ ในนี้ก็มืดจนมองอะไรไม่เห็นซะแล้ว หาทางหนีก็ไม่รู้จะหนียังไง ห้องนี้ดันไม่มีหน้าต่าง แล้วคิดดูสิถ้าหนีออกไปสภาพแบบนี้ ก็เท่ากับหนีเสือปะจระเข้ พอดีพอร้ายดันไปเจอจระเข้หน้าตาหน้าเกลียดหื่นกระหายแล้วก็ยิ่งแย่ไปกันใหญ่ อยู่กับเสือหล่อ ๆ คนเดียวก็ยังพอรับมือไหว แต่ไม่ว่ายังไง ก็อยากจะใส่เสื้อผ้าให้มันดีกว่านี้ จะได้อุ่นใจบ้าง อุตส่าห์รักษาความสาวมาตั้งยี่สิบเอ็ดปี เพื่อที่จะมาเจอหนุ่มโครตหล่อคนนี้นี่แหละ แต่เรื่องอะไรล่ะที่จะยอมยกให้เขาง่าย ๆ มันคงจะไม่มีทาง เพราะดูท่าแล้วเขาก็ไม่ได้ปลื้มอะไรเธอเลยซักนิด แถมยังรังเกียจอีกต่างหาก แต่จะว่าเขาก็ไม่ได้ในเมื่อเขาเข้าใจผิด อันนี้ลูกหนูยกโทษให้นะพี่หล่อ

เอ๊ะ หรือพี่หล่อเขาจะมีเมียแล้ววะ ตายห่าแล้วยัยลูกหนู คิดจะงาบเขาทั้งที่ยังไม่ได้ข้อมูลอะไรซักอย่าง อันดับแรกเราต้องสืบให้ได้ก่อนว่าเขามีเมียแล้วหรือยัง สองถ้าเขามีแล้วเราต้องหาทางหนีให้ได้ เพราะขืนอยู่ต่อไปได้มีการแย่งผัวชาวบ้านเขาแน่ ก็ยกใจให้เขาไปจนหมดซะขนาดนั้นแล้ว ถึงแม่จะปากคอเลาะร้ายแต่ก็สอนให้เธอรู้จักระวังรักษาตัวเป็นอย่างดี และที่แม่เกลียดที่สุดก็คือการแย่งผัวชาวบ้าน ดังนั้นแม่ถึงได้อยู่เป็นโสดมาจนป่านนี้ เพราะแม่บอกว่าแม่รักพ่อที่สุด อีกอย่างผู้ชายสมัยนี้หาที่โสดจริง ๆ นั่นยากมีแต่จะมาหลอกเท่านั้น อีกอย่างมันก็แน่อยู่แล้วที่ว่าสวยเลือกได้ขนาดนี้ หาผู้ชายดี ๆ ได้อีกถมเถ แต่สาธุ๊ ขอให้พี่หล่อยังไม่มีเมียทีเท้อ

หลังจากที่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยวุ่นวายอยู่คนเดียวเป็นเวลานาน ตาคู่สวยก็เริ่มปรือเพราะง่วงนอน ร่างเล็กขดงอเป็นกุ้งเพราะความเย็นของอากาศ หลับเป็นตาย โดยลืมไปว่าตัวเองกำลังถูกจับมาเป็นจำเลยรักซะสนิท

อหังการ์เปิดประตูเข้ามาในเวลาสามทุ่ม หลังจากที่ไปรื้อชุดเก่า ๆ ของแม่ ที่แม่จะเอาไปบริจาค มาให้แม่วันทองตัวดีสวมใส่ เพื่อป้องกันร่างกายที่สวยแค่เปลือกนอก ให้รอดพ้นจากสายตาของบรรดาลูกน้องหนุ่ม ๆ ทั้งหลาย ก็ยัยสวยแสบนี่สวยน้อยเสียเมื่อไหร่ ถ้าหากไม่ใช่ผู้หญิงมักง่าย ใช้ร่างกายเปลืองไว้หลอกผู้ชายเล่น และที่สำคัญยังทำร้ายน้องชายเขาจนเกือบตาย อหังการ์ก็ยังไม่แน่ใจว่าตัวเขาเองจะทนทานต่อเสน่ห์ของเธอไหวหรือเปล่า เจอผู้หญิงสวยมาก็มากแต่ไม่มีใครดึงดูดใจของเขาได้เท่ายัยสวยแสบคนนี้มาก่อนเลย

อหังการ์ใช้ไฟฉายส่องกราดหาร่างสวย จนแสงจากดวงไฟไปกระทบกับร่างเล็กที่นอนขดเป็นกุ้งเพราะความหนาว ปากหนายิ้มเหยียด ขนาดถูกผู้ชายจับตัวมาแบบนี้ แม่ตัวดียังไม่มีสะทกสะท้านหวาดกลัว ถ้าเป็นสาวบริสุทธิ์จริง ๆ คงไม่มานอนหลับอุตุให้ท่าเขาแบบนี้หรอก มือใหญ่เอื้อมไปเปิดสวิทซ์ไฟที่ติดอยู่ด้านบนประตูจนแสงสีแดงสว่างนวลไปทั่วห้อง

“นี่ ๆ เธอน่ะ ตื่นได้แล้ว” อหังการ์ใช้มือสะกิดต้นแขนนวล

“อื้อ อย่ากวนได้มั้ย ไอ้ภพ ไอ้นุ ฉันจะนอน พวกแกอยากนอนก็นอนไป แต่ตอนนี้ห้ามกวน ฉันไม่มีอารมณ์” ธารใสที่กำลังหลับสบายฝันว่าถูกเพื่อนปลุกให้ลุกขึ้นมานั่งดูหนังที่พวกมันเพิ่งซื้อมา ก็ยกมือขึ้นปัดมือที่กำลังสะกิดเพราะความเคยชิน ที่เวลาตัวเองเข้าไปนอนรอเพื่อนทั้งสามที่ห้องก็ปล่อยตัวตามสบายแบบนี้ แต่คนที่ได้ยินกลับคิดไปอีกทาง ว่าผู้หญิงคนนี้ช่างสกปรกสิ้นดี ปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนไม่สนใจ ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชายไม่ว่าจะเป็นคนไหนก็รับได้หมด

“นี่เธอน่ะ ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้ แหกตาดูซะบ้างว่าใคร ฉันไม่ใช่ผัวคนใดคนหนึ่งของเธอนะ” อหังการ์ตวาดเสียงดัง จนร่างสวยถึงกับสะดุ้งลุกขึ้นพรวดพราด

“อ้าวพี่เองเหรอ” ตาคู่สวยที่กำลังงัวเงียเบิกกว้าง ถึงจะคิดเรื่อยเปื่อยไปบ้า ๆ สารพัดตามเรื่องตามราว แต่ก็ไม่ใช่ว่าเธออยากจะเสียความบริสุทธิ์ตอนนี้ซะหน่อย คนอย่างไอ้ลูกหนูไม่ชอบให้ใครมาปล้ำ เพราะเธอต้องเป็นคนปล้ำก่อนเท่านั้น เพราะถือคติว่าใครลงมือก่อนคนนั้นได้เปรียบ แต่ก่อนที่จะได้คิดอะไรเลยเถิดเลอะเทอะมากกว่านั้น เสียงตวาดของผู้ร้ายโครตหล่อก็ดังขึ้นซะก่อน

“แล้วเธอนึกว่าเป็นใครล่ะ คิดว่าคู่ขามันจะมาช่วยหรือไง” อหังการ์จับร่างสวยของธารใสเขย่าจนหัวสั่นหัวคลอน จนคนสวยชักโมโห เป็นไงเป็นกันล่ะงานนี้ ถึงจะหล่อขนาดไหน แต่บังอาจมาทำรุนแรงกับคนสวย แบบนี้มันก็ยอมไม่ได้

“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ คนบ้า เป็นผู้ชายภาษาอะไร หาความเป็นสุภาพบุรุษไม่ได้เลย”

“สุภาพบุรุษงั้นเหรอ ผู้หญิงแพศยาอย่างเธอนี่ มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะแสดงความเป็นสุภาพบุรุษด้วย เหมือนอย่างน้องชายฉันไงล่ะ ที่ต้องเกือบตายเพราะผู้หญิงไร้ค่าอย่างเธอ” หนอยตาบ้า คำก็แพศยา สองคำก็ไร้ค่า คอยดูนะซักวันจะให้มาสยบคาอกผู้หญิงแพศยาไร้ค่าเลยคอยดู เอาวะเป็นไงเป็นกันล่ะไอ้ลูกหนู ไม่หนงไม่หนีมันแล้ว ถ้าไม่ได้ผู้ชายโครตหล่อตรงหน้ามาทำผัวไอ้ลูกหนูไม่ถอย อยากท้าทายดีนักใช่มั้ย

“ทำไมพูดแทงใจดำแค่นี้ ถึงกับเถียงไม่ออกเลยเหรอ” อหังการ์ยิ้มเหยียด เมื่อเห็นปากคู่สวยที่กำลังเม้มสนิท กับดวงตากลมโตที่จ้องมองเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ

“แล้วซักวันพี่จะเสียใจที่พูดกับลูกหนูแบบนี้ อย่าเผลอมาซบอกผู้หญิงแพศยาเข้าล่ะ” ธารใสเถียงคำไม่ตกฟาก จ้องตอบอย่างไม่มีลดละ

“ไม่มีวันนั้นแน่นอน อย่าละเมอ เอ้านี่เสื้อผ้าใส่ซะ ฉันไม่อยากเห็นรูปร่างสกปรกของเธอ” พูดจบก็ผลักร่างเล็กสวยของธารใสเต็มแรงจนหงายหลัง ชุดคลุมถลกขึ้นมาจนเห็นโคนขา มือบางรีบตะครุบปิดทันที

“เชอะไอ้ของบูดเน่าพรรค์นั้นน่ะ ฉันไม่อยากจะมองหรอก เสียสายตาชะมัด เห็นแล้วจะอ๊วก สงสัยคืนนี้คงหลับไม่ลง” อหังการ์พูดจบก็ปิดประตูกระแทกดังสนั่นหวั่นไหว ธารใสได้แต่กัดฟันกรอด ใจดวงน้อยฮึดสู้ขึ้นมาทันทีทันใด ก็มันน่าโมโหมั้ยล่ะ เกิดมาไม่เคยมีใครมาดูถูกแบบนี้มาก่อน จะไถ่ถามซักคำว่าเธอเป็นใคร แล้วทำผิดจริงหรือเปล่าก็ไม่มี เอาแต่ตะคอกดูถูก ผู้ชายบ้า ๆ ๆ ๆ ปากร้ายที่สุด คอยดูนะแม่จะเอาคืนให้เข็ด จะทำให้รักให้หลงจนหัวปักหัวปำจนไม่มีเวลาไปมองใคร โทษฐานที่บังอาจมาทำให้คนสวยเจ็บใจแถมต้องเจ็บตัวอีก

หลังจากที่ได้ระบายอารมณ์และความขุ่นข้องหมองใจเสร็จแล้ว ตาคู่สวยจึงเหลือบไปมองเสื้อผ้าที่คนหล่อแต่ใจร้ายแถมยังบ้าที่สุดโยนให้ มือสวยจึงเอื้อมไปหยิบเสื้อผ้าที่กองไว้ขึ้นมาดู

“ผ้าถุง จะให้ใส่ผ้าถุงเนี่ยนะ พี่หล่อนี่ดูละครมากเกินไปหรือเปล่าวะ ไหนว่าไม่อยากให้อ่อยไง ได้เมื่อต้องการนัก เดี๋ยวพรุ่งนี้ไอ้ลูกหนูจัดให้” เสียงหวานบ่นพึมพำ ค้อนประหลับประเหลือกฝากลมไปให้คนใจร้ายแต่หล่อร้ายกาจเผื่อเขาจะได้ยิน มือสวยพลิกดูเสื้อผ้าต่อไป แล้วก็ต้องอุทานลั่น

“เสื้อคอกระเช้า บ้าหรือเปล่าเนี่ย ชุดที่ให้ใส่นี่มันโป้ทั้งนั้นนะโว้ย” ปากบางบ่นขมุบขมิบ มันจะไม่โป้หรอกถ้าให้คนอื่นใส่ แต่ขืนเราใส่ไป มันได้โป๊แน่ ๆ เกิดมายังไม่เคยใส่ผ้าถุงเลยซักครั้ง ให้ตายเถอะ แถมกางเกงขาสั้นก็ไม่มีให้ใส่ทับอีก มันยังไงกันเนี่ยอยากจะบ้าตาย แล้วดูสิมีแต่ผ้าถุงสามผืน กับเสื้อคอกระเช้าสีม่วงอีกสองตัว ที่สำคัญเสื้อชั้นในไม่มี ดีจริง ๆ เลยนะพี่หล่อ คอยดูเถอะ พรุ่งนี้ได้บ้านแตก

“นี่ ๆ แม่วันทอง ตื่นซะทีสิ” อหังการ์ที่เปิดประตูเข้ามาในเวลาเจ็ดโมงเช้า เมื่อเห็นแม่ตัวแสบยังหลับอุตุถึงกับโมโหแผดเสียงลั่น

“จะเสียงดังทำไม ไม่ได้หูหนวกซักหน่อย” ธารใสลุกขึ้นมาหน้าตาบูดบึ้ง ก็เมื่อคืนน่ะสิ กว่าจะได้นอนก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนหลับไม่ลง ทั้งเรื่องทางบ้านถ้าแม่รู้ว่าลูกสาวหายไปแล้วจะทำยังไง ไหนจะไอ้เพื่อนสามตัวนั่นอีก กว่าจะได้นอนก็เกือบเช้าแล้ว ยังจะมาปลุกเสียงดังอีก

“ลืมแล้วหรือไงว่าเธอน่ะมันเป็นได้แค่เชลยห้ามเถียง” ตาคู่สวยค้อนขวับ ดู๊ดู แค่เถียงแคนี้ก็ยังไม่ได้ คนบ้า เผด็จการที่สุด

“ไม่ต้องมามองฉันแบบนั้น ห้ามนินทาด้วยสายตาเข้าใจมั้ย” ธารใสจ้องตาคมดุไม่กระพริบ ก่อนจะรีบเบือนหนีเมื่อร่างสูงเดินเข้ามาหาด้วยท่าทางโกรธจัด

“อย่าบังอาจมาเมิน และทำดัดจริตใส่ฉัน ลุกขึ้น” อหังการ์ไม่พูดเปล่า มือใหญ่กระชากไหล่เล็กกลมกลึงติดมือขึ้นมาด้วย ธารใสถึงกับเดือดปุด ๆ แต่ก็พยายามระงับเต็มที่

“ออกมานี่ ฉันจะให้เธอทำความสะอาดบ้าน” มือใหญ่แข็งแรงจับต้นแขนกลมกลึงกระชากจนร่างสวยปลิวไปตามแรง แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาโกรธต้องหาข้อมูลเบื้องต้นก่อน ตากลมโตกวาดมองไปทั่วบริเวณห้องที่เธอถูกขัง ห้องนี้เป็นห้องขนาดเล็กใช้สำหรับเก็บของ ตอนนี้ร่างสูงของเขากำลังพาเธอเดินออกมายังระเบียงหน้าบ้านที่สร้างยื่นออกไปจากตัวบ้าน พร้อมทั้งมุงหลังคาเสร็จสรรพ และตามชายคาก็มีกระถางกล้วยไม้แขวนไว้อยู่รายรอบ มีบันไดอยู่ตรงกลางระเบียงสำหรับเดินลงไปด้านล่างอยู่ห้าขั้น น่านเอาให้ละเอียด เรือนหลังนี้เป็นไม้ทั้งหลัง น่ารักเหมือนบ้านในฝัน รอบ ๆ ตัวบ้านมีดอกไม้ปลูกอยู่เต็มไปหมด มันคงจะน่ารักและดีกว่านี้ถ้าตาคู่สวยของเธอจะไม่เจอต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ล้อมรอบจนสุดลูกหูลูกตา กับต้นอะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมด บรรยากาศด้านนอกดูแล้วเหมือนพวกหนังสยองขวัญ ที่ไอ้พวกเพื่อนสามตัวของเธอชอบดู นึกแล้วก็หวาด ๆ ว่าคนหล่อเหลาข้างกายเธอนี้จะเป็นพวกโรคจิตวิปริตฆ่าหันศพ หรือไม่ก็พวกโรคจิตที่ชอบถือเลื่อยไฟฟ้าไล่ฆ่าคนหรือเปล่าวะ

“มองอะไร ห๊า” อหังการ์ตะคอกเสียงดัง เมื่อเห็นตาคู่สวยที่กำลังเหลือบมองมาทางเขา

“แล้วก็ดูสิ นุ่งชุดบ้าบออะไรของเธอ ใส่มาทำไมไอ้เสื้อคลุมเนี่ย ถอดออก” เสียงดังตะคอกสั่งสนั่นหวั่นไหว จนธารใสนึกเป็นห่วงกลัวว่าคนรูปหล่อจะเจ็บคอเอา แถมมือใหญ่ของเขายังกระชากเสื้อคลุมสีชมพูหวานลายเต่าตัวน้อยที่เธออุตส่าห์ไปเลือกซื้อออกจากตัว เท่านั้นยังไม่พอ เขายังฉีกมันด้วยมือเปล่า ๆ จนมันเละไม่มีชิ้นดี พี่ลูกหนูขอโทษด้วยนะน้องเต่า โธ่พี่รูปหล่อนี่ก็ช่างกระไร เสียงดังอยู่ได้ โมโหแบบนี้บ่อย ๆ เดี๋ยวก็ได้หัวใจวายตายก่อนจะได้เป็นผัวไอ้ลูกหนูหรอก

“ไปทำงานได้แล้ว หัดทำงานซะบ้าง จะได้รู้จักความเหน็ดเหนื่อยว่ามันเป็นยังไง เงินทองแต่ละบาทกว่าจะหาได้มันลำบากขนาดไหน ไม่ใช่รักสบายเอาแต่นอนอ้าซ่าอย่างเดียว” อหังการ์พูดจบประโยคก็ผลักร่างสวยของธารใสจนหัวแทบคะมำ หญิงสาวถึงกับกัดฟันกรอด ๆ กับประโยคเจ็บแสบของเขา เสื้อชั้นในก็ไม่มีใส่อุตส่าห์เอาผ้าคลุมอาบน้ำมาสวมทับเพราะกลัวเขาจะหาว่าอ่อย ดีล่ะต้องการนักใช่มั้ย ทีนี้ล่ะแม่จะอ่อยให้ดู ล้างตาไว้คอยได้เลย

ธารใสมองคนรูปหล่อที่พอพูดเสร็จก็เดินปึงปังลงส้นหนัก ๆ ไปนั่งตรงเก้าอี้หวายที่จัดเป็นชุดน่ารัก มีเก้าอี้หวายสี่ตัว สานเป็นเกลียวสวยมีเบาะรองนั่งสีชมพู กับโต๊ะหวายทรงกลมที่ตรงกลางมีถ้วยกาแฟที่มีควันลอยขึ้นส่งกลิ่นหอม แต่พอนั่งปุ๊บ ตาคมกริบก็เหลือบมาทางเธออีกครั้ง

“ยืนทำบื้ออะไรอยู่ได้ บอกให้ทำงานไง” ธารใสตวัดตามอง

“รู้แล้วว่าให้ทำงาน แต่ให้ทำอะไรล่ะพี่ ลูกหนูจะได้ทำถูก” อหังการ์ชะงักกึกกับคำยอกย้อนนั้น

“งั้นเริ่มตรงนี้ก่อน กวาดบ้าน ถูบ้านให้สะอาด เอาตรงระเบียงนี่แหละ” นิ้วใหญ่ชี้สั่ง ธารใสจึงเดินเข้าไปหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดและแอบกระซิบขอบคุณในใจ ที่อุตส่าห์ช่วยนอนเป็นเพื่อนเธอเมื่อคืนออกมา จัดการปัดกวาดระเบียงจนสะอาดเอี่ยม พร้อมกับเอาไม้ถูพื้นขึ้นมาซักบิดน้ำจนแห้งแล้วถูพื้นอย่างตั้งอกตั้งใจ ฮีโธ่เรื่องแค่นี้เอง ทำมาแต่เด็กจนโตทำไมจะทำไม่ได้วะ อหังการ์หันมองด้วยความประหลาดแกมไม่พอใจ นี่เรากะจะให้แม่ตัวดีทำงานหนัก ๆ ให้รู้จักสำนึก เขาก็คิดว่าเจ้าหล่อนจะทำอะไรไม่เป็นซักอย่าง แต่นี่ดูสิเช็ดสะอาดเอี่ยมอ่องซะขนาดนี้ แบบนี้มันก็ไม่สะใจน่ะสิ

“นี่แม่วันทอง บ้านนี้ห้ามใช้ไม้ถูพื้น ต้องใช้มือถูเท่านั้น นั่งลงไปถูเดี๋ยวนี้เลย นี่ตรงที่ฉันเหยียบนี่ยังไม่ได้ถูเลย ไม่เห็นสะอาดซักหน่อย” อหังการ์พูดพร้อมกับชี้นิ้วสั่ง ธารใสถึงกับหน้ามุ่ย พยายามอย่างยิ่งที่จะหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้เขา เพราะกลัวหน้าอกหน้าใจขาวผ่องจะออกมายั่วให้เขาเห็น แต่ในเมื่อคนรูปหล่อต้องการอันนี้ก็ช่วยไม่ได้ เพราะแม่จะโชว์ให้ดูเดี๋ยวนี้แหละ อย่ากลับคำเผลอมาซบมันเข้าล่ะ มือเล็กบิดผ้าขี้ริ้วที่ซักในน้ำจนสะอาดบิดพอหมาดเดินไปเช็ดพื้นตรงตำแหน่งที่เขานั่งอยู่ อหังการ์ที่กำลังจิบกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์อย่างสบายอารมณ์ ถึงกับสำลักกาแฟพรวดน้ำหูน้ำตาไหล เมื่อหันไปมองแม่ตัวแสบที่กำลังนั่งก้มถูพื้นอย่างตั้งอกตั้งใจ และก็รู้สึกว่าจะตั้งอกตั้งใจจนเกินไป เพราะก้มเกินพอดี จนคอเสื้อหย่อนลงจนเห็นหน้าอกอวบสวยขาวนวลเนียนปรากฏแก่สายตา แล้วอหังการ์ก็ยังมองทะลุไปถึงสะดือเล็กน่ารักนั่นด้วย จนชายหนุ่มโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

อหังการ์จับไหล่กลมกลึงกระชากร่างสวยเข้าหาตัวเองจนใกล้ พร้อมตะคอกเสียงดังจนธารใสต้องเบือนหน้าหนี เพราะแสบแก้วหู “มานี่เลยเธอนี่มันแสบจริง ๆ เลยนะ ทำไมถึงไม่ใส่เสื้อชั้นใน คิดว่าอ่อยแบบนี้แล้วฉันจะหลงกลเธอหรือไง ไม่ต้องลงทุนให้เสียเวลาหรอก เพราะไม่มีวันนั้นแน่นอน” จบประโยคนั้นตากลมโตก็ถลึงใส่เขา

“แล้วมันมีให้ลูกหนูใส่หรือเปล่าล่ะพี่หล่อ ตัวเองเป็นคนพาเค้ามาแบบนี้แท้ ๆ แล้วยังจะมาว่าคนอื่นเค้าอีก” อหังการ์มองปากเล็กจิ้มลิ้มที่กำลังเถียงเขาฉอด ๆ แล้วอยากจะบดขยี้มันให้เละคาปากนัก ผู้หญิงอะไรอย่างนี้ แสบเหลือทน โดนขนาดนี้แล้วยังไม่รู้สึก

“จำใส่สมองสวย ๆ แต่แสนจะสกปรกของเธอไว้นะ ว่าฉันชื่อเชิด และอย่าบังอาจมาเถียงฉันอีก” ธารใสมองตาคมกริบที่กำลังจ้องเธออย่างจะกินเลือดกินเนื้อแล้วก็ได้แต่เซ็ง นี่ถ้าตาพี่แกเป็นมีดมีหวังผิวขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะของไอ้ลูกหนูถูกบาดเป็นแผลเหวอะหวะไปทั้งตัวหมดสวยกันแน่ ๆ คราวนี้ แม่จะไปฟ้องศาลโลกให้รับเลี้ยงตลอดชีวิตเลยคอยดู

“ได้ยินที่ฉันพูดมั้ย ห๊ะ” ธารใสหันหน้าหนี กับคำตะคอกที่ดังสนั่นหวั่นไหวนั้น สงสัยชาติที่แล้วพี่หล่อคงจะทำบุญด้วยลำโพง เสียงถึงได้ดังขนาดนี้ เชอะ คนอะไรชื่อเชิด เชิดอะไรล่ะ แต่ก็เหมาะสมดี พวกคอตั้งดีแต่เชิดคอสั่ง น่าจะเปลี่ยนเป็นยะโสโอหังซะมากกว่า

“ได้ยินแล้วพี่เชิด และลูกหนูก็ขอบอกพี่เชิดไว้ด้วย ว่าลูกหนูชื่อธารใสไม่ใช่วันทอง” อหังการ์ถึงกับควันออกหู เมื่อได้ยินประโยคนั้นจากปากคู่สวย ผู้หญิงอะไรเหลือเกินจริง ๆ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครเถียงเขาคำไม่ตกฟากแบบนี้ ยัยแสบนี่ไม่ได้กลัวเขาซักนิดเลยใช่มั้ย ปากหนาได้รูปฉกวูบไปยังปากแดงจิ้มลิ้มอย่างรวดเร็ว บดเบียดจุมพิตเพื่อต้องการลงโทษ จนธารใสเจ็บระบมไปหมด พอสมใจก็ผลักร่างสวยของเธอกระแทกกับพื้นจนร่างสวยล้มนอนหงายหลัง ผ้าถุงถลกขึ้นจนเห็นชั้นใน เท่านั้นยังไม่พอด้านบนเสื้อก็ยังเปิดขึ้นเห็นหน้าท้องขาวนวลเนียนเกือบถึงหน้าอก

“นายครับ นายครับ นายเชิดอยู่ก่อ” สำเนียงที่เป็นภาษาคำเมืองชัดถ้อยชัดคำทำให้ธารใสขมวดคิ้ว แต่ก่อนที่จะทันได้คิดอะไร มือใหญ่ของคนรูปหล่อแต่ใจร้ายก็กระชากตัวเธอขึ้นมา แล้วดันให้ไปอยู่ด้านหลังของเขา

“มีอะไรไอ้ปาม” อหังการ์ถามลูกน้องหนุ่มวัยยี่สิบห้าปี ที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา แต่ตามองเลยไปข้างหลังด้วยความไม่พอใจ ว่าแต่เมื่อกี้มันคงไม่เห็นแม่ตัวดีตอนกำลังโป๊หรอกนะ

“หูแตกหรือไงไอ้ปาม ไม่ได้ยินที่ฉันถามเรอะ” ปาณัสม์ที่กำลังมองหญิงสาวตัวน้อยแสนสวยขาวผ่องไปทั้งตัว ที่ยืนอยู่ด้านหลังเจ้านายหนุ่มถึงกับสะดุ้งตกใจกับเสียงตวาดนั้น รีบก้มหน้าหลบตาพร้อมตอบออกไปอย่างหวาด ๆ

“คือว่าคุณเกดมาหานายครับ” ธารใสมองหนุ่มตรงหน้า แล้วก็ได้แต่เห็นใจยิ่งนัก ไม่รู้ทำกรรมอะไรไว้ถึงได้มีเจ้านายขี้โมโหปากร้ายแบบนี้

“มาทำไม ของเราก็จะส่งให้วันนี้อยู่แล้วนี่”

“เห็นคุณเกดบอกว่าอยากมาดูของด้วยตัวเองครับ”

“ยุ่งฉิบหาย เดี๋ยวฉันตามไป อ้ออีกอย่างนะไอ้ปาม เวลาฉันไม่อยู่แกอย่าเสือกมาบ้านหลังนี้อีก เข้าใจมั้ย”

“เข้าใจครับ”

“เข้าใจก็ไปได้แล้ว” อหังการ์ตวาดไล่เสียงดัง จนคนถูกตวาดรีบลนลานเดินกลับไปทางเก่า

“มองอะไรของเธอ ห๊า ห้ามอ่อยลูกน้องฉันเด็ดขาด ไม่งั้นจะโดนยิ่งกว่าเมื่อกี้อีก” ธารใสที่กำลังชะเง้อคอมองตามหลังชายหนุ่มน่าสงสาร เพื่อสังเกตว่าเขาเดินไปทางไหนเพื่อหาทางหนีทีไล่ ถึงกับรีบหดคอ สงสารหูตัวเองชะมัด กลัวว่ามันจะหนวกเอาซักวัน คนอะไรหน้าตาก็หล่อเหลาจนใจละลายกลายเป็นดวงเดียวกับเขาไปแล้ว แต่นิสัยแย่จัดจนใช้ไม่ได้ ปากเสีย ปากจัด เสียงดัง ขี้โมโห แถมยังจูบไม่เป็นสับปะรดอีก อุตส่าห์ฝันหวานว่าจูบแรกกับคนที่รักคงจะหวานปานน้ำผึ้ง แต่เมื่อกี้ที่ได้เจอมันบอระเพ็ดชัด ๆ ทั้งเจ็บทั้งขมจนปากระบมไปหมด

“เข้าไปทำความข้างในให้สะอาดด้วย ถ้าเธออยากจะนอนที่นอนดี ๆ ห้องใหญ่ของฉัน กวาดพื้นอย่างเดียวห้ามแตะต้องอย่างอื่น ติดกับห้องเก็บของน่ะของเธอ และอย่าพยายามหนีเด็ดขาด ที่นี่มีแต่คนงานพม่ากลัดมันเต็มไปหมด แต่ถ้าเธอชอบฉันก็ไม่ว่า เผื่อจะติดใจ แต่ฉันขอบอกก่อนนะว่าพวกมันไม่มีเงินจ่าย” ธารใสไม่พูดได้แต่ส่งค้อนให้เฉย ๆ รีบเดินเข้าไปข้างใน แต่ยังไม่ถึงไหนก็ได้ยินเจ้านายหัวใจเรียกไว้ซะก่อน

“นี่เธอ เดี๋ยวฉันจะไปซื้อเสื้อชั้นในให้ เธอใส่ไซด์อะไร” คนถามถามเหมือนเรื่องธรรมดา แต่คนถูกถามหน้าร้อนจนแทบแตก บ้าที่สุด อยู่ ๆ ก็มาถามขนาดหน้าอกกันง่าย ๆ แบบนี้นะเหรอ เก่งนักไม่ใช่หรือไง วันก่อนก็เห็น เมื่อกี้ก็เห็นแล้วนี่ กะขนาดเอาเองสิ ฮีโธ่ไม่แน่จริงนี่หว่า

“ไม่ตอบแบบนี้แปลว่าไม่ใส่ใช่มั้ย แบบนี้ก็ดีนะ ให้มันห้อยโทงเทงจนถึงเข่าเลย จะได้ไม่มีใครสนใจ”

“เอาจ๊ะ พี่เชิด ลูกหนูใส่บีเจ็ดสิบจ๊ะ” ธารใสรีบระล่ำระลักบอก กลัวคนรูปหล่อจะเปลี่ยนใจ ไม่ได้กลัวว่ามันจะห้อยโทงเทงเหมือนเขาว่าหรอก แต่กลัวว่ามันจะสะดุดตาคนมาเห็น แล้วจะยิ่งไม่ปลอดภัย เพราะเธอไม่ได้อยากโชว์ใครนอกจากเขา ก็ขนาดใส่เสื้อผ้าจนมิดชิดอย่างชุดโรงงานยังกลายเป็นขวัญใจของพวกหนุ่ม ๆ ไม่เว้นแม้แต่ผัวชาวบ้าน จนต้องโดนไล่ออกจากงานข้อหาทำให้คนอื่นเดือดร้อนเพราะความสวยเลย แล้วขืนไม่ใส่ขึ้นมา พวกหนุ่ม ๆ คงได้พากันมารุมตอมเหมือนผึ้งดอมดมน้ำหวานแล้วจะแย่ เพราะตั้งใจไว้ว่าไม่ได้อยากอ่อยใคร นอกจากผู้ชายรูปหล่อแต่ใจร้ายที่กำลังเดินลับหายไปเพียงคนนี้คนเดียวเท่านั้น










หนึ่งเดียว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ส.ค. 2554, 12:10:49 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ส.ค. 2554, 12:52:58 น.

จำนวนการเข้าชม : 1473





<< 3.หล่อโครต ๆ   
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account