ภารกิจรัก ภารกิจร้าย ลบลายนายกะล่อน
หนุ่มหล่อแสนจะเจ้าชู้อย่างชลกรกลับต้องมาตายเพราะยัยเฉาก๊วยเนี่ยนะ ทำไมพระเจ้าถึงได้เล่นตลกกับผมแบบนี้ ก็ดูคุณเธอสิยอมเป็นเมียที่น่ารักของเขาซะที่ไหน ชวนหย่าเช้าหย่าเย็นจนเขาทนไม่ไหว ก็ยัยนี่มาลดความมั่นใจของคนหล่อแบบเขาหมดน่ะสิ งานนี้มันก็เลยต้องมีการเอาคืน เพื่อลดความมั่นใจของผู้หญิงขี้เหร่แบบยัยนั่นบ้าง แล้วไหงไป ๆ มา ๆ คนหล่ออย่างเขากลับต้องมาตกหลุมรักยัยขี้เหร่จนถอนตัวไม่ขึ้นซะเอง เฮ้อออออออออเวรกรรม

Tags: รักหวานแหวว

ตอน: 1.เรื่องกลุ้มของณัฐนรี

นิยายเรื่องนี้เป็นภาคต่อของเรื่องหัวใจอ้อนรัก ที่ได้ลงไว้ในเว็บเด็กดีค่ะ ลองเข้าไปอ่านกันดูนะคะ

หลังจากที่เรื่องของสีหราชกับอรปรียากำลังจะจบแล้ว ก็เลยมาต่อด้วยเรื่องของสองหนุ่มชลกรกับน้ำปิงที่หลายคนเคยเรียกร้อง(คิดเอาเอง) ส่วนธันวากับใบตองคงต้องรอไปก่อนเพราะใบตองยังไม่โต เดี๋ยวนายธันว์จะเข้าไปเดินเล่นในคุกซะเปล่า เกริ่นนำก่อนค่ะ ถ้าใครอยากให้ไวเข้ามาเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ

นิลลจันทร์ (หนึ่งเดียว)(ผู้หญิงสีดำที่มีความฝันของตัวเอง)
อ่านตรงนี้แล้วอย่าเข้าใจผิดคิดว่านิลลจันทร์เป็นพวกลึกลับ โรคจิตเหมือนยัยปวีณานะคะ เพียงแต่ว่า สีดำมันเป็นสีที่ชวนให้ค้นหาน่ะค่ะ (แม้ว่าจะไม่มีใครอยากจะค้นก็เถอะ)

ตอนที่ 1
เรื่องกลุ้มของณัฐนรี

ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูทำให้ณัฐนรีงัวเงียลุกขึ้นจากที่นอนเดินไปเปิดประตูที่ไม่เคยได้ล็อคมาตั้งแต่เด็ก และเพราะไอ้ความเคยชินที่ไม่ยอมล็อคประตูนี่แหละที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เธอต้องมานอนกลุ้มใจจนดึกจนดื่นกว่าจะได้นอนก็ล่วงเข้าวันใหม่มาแล้วตั้งสองชั่วโมง

“คุณนรีเจ้า คุณอ้อนเปิ้นโทรมาหาเจ้า” สาวใช้วัยสามสิบต้น ๆ รีบรายงานเหตุผลให้กับหญิงสาวทราบเมื่อสบตากับเจ้านายสาวที่เปิดประตูออกมาแล้วหน้าตาไม่ค่อยสู้ดี

“อือ ขอบใจ” ณัฐนรีพูดจบก็เดินไปรับโทรศัพท์ที่วางอยู่ตรงโต๊ะข้างตู้เย็น

“ว่าไงจ๊ะน้องสาวคนสวย โทรหาแต่เช้ามีอะไรหรือเปล่า” ณัฐนรีกรอกเสียงไปตามสาย
“พี่นรีเพิ่งตื่นหรือคะ อ้อนโทรมารบกวนหรือเปล่า” เสียงหวานของน้องสาวคนสวยที่แม้จะต่างสายเลือดและรู้จักกันได้ไม่นานแต่เธอก็รักเพราะถูกในนิสัยใจคอ

“เมื่อคืนนอนไม่หลับน่ะ ว่าแต่น้องอ้อนมีอะไรกับพี่หรือเปล่าคะ”

“ก็วันนี้อาสิงห์บอกว่าจะพาอ้อนไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ที่ถูกขว้างพังไปแล้ว พี่นรีจะไปกับอ้อนหรือเปล่าคะ” ณัฐนรีนิ่งไปอึดใจคิดตามที่อรปรียาพูด ใช่สิโทรศัพท์ของเธอกับอรปรียาถูกปวีณาขว้างทิ้งไปแล้วตอนโดนจับตัวไป แถมยังถูกไฟไหม้ไม่เหลือซากอีก

“อือก็ดีเหมือนกัน ว่าแต่จะไปกี่โมงล่ะ”
“อาสิงห์นัดลูกค้าไว้ตอนบ่ายสามโมงที่แม่สายค่ะ เราก็ต้องออกจากที่นี่ประมาณเที่ยง อาสิงห์จะทิ้งอ้อนไว้ที่ห้างคนเดียวก็เป็นห่วง เลยให้อ้อนชวนพี่นรีไปด้วยน่ะคะ” ฟังอรปรียาพูดแล้วณัฐนรีถึงกับยิ้มขำ นี่ถ้าหากว่าไม่ห่วงเมียจ้างให้สีหราชคงไม่ยอมชวนเธอเป็นแน่

“จ้า งั้นพี่จะให้ไอ้เป็ดไปส่งที่ไร่ซักสิบเอ็ดโมงก็แล้วกัน จะไปขออาหารอร่อย ๆ ฝีมือน้องอ้อนกินน่ะ”

“ได้เลยค่ะ อ้อนจะทำของอร่อยไว้คอยนะคะ” ณัฐนรีถอนหายใจเฮือกหลังจากวางสาย ตาคู่สวยเหลือบมองนาฬิกาตรงผนัง

“เฮ้อ เพิ่งจะหกโมงครึ่งกลับไปนอนต่ออีกหน่อยคงดี เกงานซักวันเถอะ พี่พัฒน์คงไม่ว่า” เท้าคู่สวยก้าวเดินเข้าห้องล้มตัวลงไปบนเตียงนอน พลิกซ้ายพลิกขวาแต่ก็ไม่ยอมหลับ ในความคิดคำนึง ณัฐนรีหวนนึกไปถึงเรื่องที่ทำให้เธอต้องมากลุ้มใจในขณะนี้ ในเย็นวันพฤหัสฯของอาทิตย์ที่ผ่านมาเธอได้ไปนั่งดูการสอนเด็ก ๆ ทำขนมของอรปรียา ในไร่กำแหงหาญ ในตอนเย็นอรปรียา ณัฐนรี และทอหล้าได้ขับมอเตอร์ไซด์ไปที่ไร่ของลุงคำปันเพื่อจะซื้อข้าวโพด แต่ในระหว่างทางที่จะถึงไร่นั้น จู่ ๆ ทอหล้าที่นั่งอยู่ด้านท้ายที่สุดก็หล่นลงจากรถโดยคนขับอย่างณัฐนรีก็ไม่รู้สาเหตุ จนทำให้รถที่เธอขับเสียหลักล้มลงข้างทางพร้อมกับอรปรียา แต่ในขณะที่อรปรียากับเธอกำลังพยายามจะดึงขาให้ออกมาจากมอเตอร์ไซด์ที่ล้มทับอยู่ วิชัยกับปวีณาก็เดินตรงเข้ามาหาเธอกับอรปรียาแล้วใช้ผ้าที่มีกลิ่นฉุน ๆ ปิดจมูกไว้แล้วหลังจากนั้นสติของเธอก็ดับวูบ ฟื้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองกับอรปรียากำลังนั่งอยู่ในห้องหนึ่งในสภาพที่มือถูกมัดไว้ และเธอก็ได้รู้ว่าวิชัยกับปวีณาเป็นผู้ร้ายที่ข่มขืนแล้วฆ่าปรางทองคู่หมั้นของพิพัฒน์พี่ชายของณัฐนรีเมื่อสามปีที่แล้ว และยังมีเหยื่อที่เป็นเด็กสาวอีกสองคนเมื่อไม่นานนี่เอง

วิชัยเป็นลูกน้องของพ่อเลี้ยงสมชายพ่อของปวีณา ส่วนปวีณาเองเป็นน้องสาวฝาแฝดของประวิทย์ผู้ชายที่มาติดพันณัฐนรีตั้งแต่มัธยมแต่หญิงสาวก็ไม่สน และนั่นก็เป็นชนวนเหตุทั้งหมดที่ทำให้ปวีณาถูกละทิ้งจากพี่ชายแล้วเกือบถูกข่มขืนจนมีชายหนุ่มคนหนึ่งมาช่วยไว้ แต่หลังจากนั้นไม่นานผู้ชายคนนั้นก็ออกลาย ติดการพนันงอมแงมจนถูกขู่ฆ่า เลยให้พวกนักเลงนับสิบนอนกับแฟนของตัวเองเป็นค่ามัดจำ ทำให้ปวีณาบาดเจ็บเจียนตายและกลายเป็นคนจิตวิปริตตั้งแต่นั้น หญิงสาวโกรธเกลียดผู้หญิงทุกคนที่ได้รับความรักความเอาใจใส่จากครอบครัวและคนรอบข้าง และโดยเฉพาะณัฐนรีที่เป็นคนแย่งความรักจากพี่ชายของเธอไป ณัฐนรีกับอรปรียาถูกบังคับให้กินยากระตุ้นอารมณ์เข้าไปคนละเม็ด และในระหว่างที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน สีหราชซึ่งเป็นสามีของอรปรียากับพงษ์พันธ์ก็เข้าไปช่วยไว้ได้ทัน และน้ำปิงกับชลกรคนที่ณัฐนรีแสนเกลียดเพราะความเจ้าชู้ของเขาก็ตามมาสมทบ น้ำปิงซึ่งเธอรู้ภายหลังว่าเป็นตำรวจเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์ไว้ แล้วหลังจากนั้นทั้งปวีณาและวิชัยก็หายไปกับกองเพลิง ส่วนตัวเธอเองได้รับการช่วยเหลือจากชลกรคนที่ไม่อยากให้ช่วยมากที่สุด ชายหนุ่มมาส่งเธอที่บ้านเพราะคืนวันนั้นพิพัฒน์พี่ชายของเธอไม่อยู่ไปทำธุระที่เชียงใหม่ ส่วน ป้าดวงใจคนเก่าแก่กับหลานสาวก็ไม่อยู่เพราะติดรถพี่พัฒน์ไปเยี่ยมญาติที่เชียงใหม่ด้วย หลังจากพี่พัฒน์รู้ว่าเธอปลอดภัยก็ขอร้องให้ชลกรอยู่ดูแลน้องสาว ชายหนุ่มจึงไม่ได้ขับรถกลับไปยังไร่ของสีหราชที่เป็นที่ที่ชายหนุ่มพักอาศัยอยู่ชั่วคราว เพราะสีหราชขอร้องให้มาช่วยดูแลเรื่องรีสอร์ต

ยาที่กินเข้าไปทำให้ณัฐนรีเกิดอาการร้อน ๆ หนาว ๆ จนเธอต้องรีบไล่ชลกรที่อุ้มเธอมาส่งถึงห้องนอนให้รีบออกไปก่อนที่ตัวเองจะทนฤทธิ์ของยาไม่ไหวเพราะโหยหาสัมผัสจากเขา ซึ่งชายหนุ่มก็ออกไปจริง ๆ แต่ไม่ได้ล็อคประตูให้ ณัฐนรีถอดเสื้อผ้าแล้วพาตัวเองไปยืนกลางสายน้ำที่ไหลจากฝักบัวตั้งนานแต่ก็ไม่เป็นผล หญิงสาวพันผ้าขนหนูเพียงผืนเดียวออกมาจากห้องน้ำ พยายามสะกดอารมณ์ตัวเองที่กำลังพลุ่งพล่านเพราะโหยหาสัมผัสจากชลกร และเขาก็เข้ามาอีกครั้งด้วยความเป็นห่วงเมื่อได้ยินเสียงร้องโวยวายของเธอ และในตอนนั้นเธอก็เผลอจูบชลกรคนที่เธอแสนเกลียดเข้าให้ แถมชายหนุ่มยังฉวยโอกาสกอดจูบเธออีก แต่สุดท้ายเขาก็ให้เธอกินยาบางอย่างที่บอกว่าจะทำให้เธอหายจากอาการประหลาดนั้นได้ แต่สุดท้ายมันก็ไม่หายอย่างที่คิด และตอนนี้แหละที่เธอเกือบจะตกเป็นของเขา ซึ่งณัฐนรีก็ยังไม่แน่ใจอยู่ดีว่าเธอรอดพ้นจากเงื้อมมือคนเจ้าชู้ได้จริงหรือเปล่า เพราะเมื่อตอนเย็นของอีกวันเธอตื่นขึ้นมาพร้อมกันกับเขาก็อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าทั้งคู่ แถมพิพัฒน์ก็เข้ามาเห็นตอนที่ชลกรบังคับจูบเธอเพราะไม่พอใจที่เธอกล่าวหาว่าเขาน่ารังเกียจพอดี มันก็เลยกลายเป็นเรื่องยุ่ง จนคุณวรรณามารดาของชลกรต้องมาจัดการปัญหานี้ แถมยื่นข้อเสนอมาหน้าตาเฉยว่างานแต่งงานต้องจัดอีกสองอาทิตย์ที่จะถึงนี้ แม้ว่าคุณวรรณาจะกลับไปพร้อมกับทิ้งร่องรอยความแค้นของเธอกับชลกรหนุ่มเจ้าปัญหาไว้ เธอก็เพียรพยายามจะขอร้องพี่ชายอีกครั้งว่าไม่ต้องการแต่งงานแต่พิพัฒน์ก็ไม่ยอมฟัง สรุปคือเธอต้องแต่งงานกับคนเจ้าชู้ที่เธอแสนจงเกลียดจงชังที่ครั้งหนึ่งเคยทำให้เธอเกือบเจ็บตัวเพราะความขี้หลีของเขา ยังไม่พอดันไปเจอชายหนุ่มที่ไร่ของสีหราชอีกแล้วก็มีสาเหตุให้ทะเลาะกันได้ทุกครั้งที่เห็นหน้า นี่แหละสาเหตุที่ทำเอาหญิงสาวตาค้างนอนไม่หลับเมื่อคืน

“พี่นรีมาก่อนเวลานะคะเนี่ย” อรปรียาเอ่ยทักคนที่เธอยอมยกให้เป็นพี่สาว

“ก็เบื่อ ๆ น่ะสิน้องอ้อน แล้วพี่สิงห์ล่ะ ไม่มานั่งเฝ้าเมียอีกหรือไง” ณัฐนรีเอ่ยสัพยอก เพราะคนสนิทใคร ๆ ก็รู้ทั้งนั้นเกี่ยวกับเรื่องนิยายรักของสองหนุ่มสาว ที่บังเอิญเจอกันเมื่อตอนสีหราชไปหาไอ้คนเจ้าชู้ที่กำลังจะเป็นเจ้าบ่าวของเธอแล้วเจออรปรียาซึ่งเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ขึ้นไปเสิร์ฟอาหาร และเพราะความเข้าใจผิดเพราะอีตาชลกรดันบอกว่าจะส่งนางฟ้าไปให้ สีหราชเลยเข้าใจผิดปล้ำอรปรียาเข้า พอตื่นมาอีกครั้งสาวน้อยก็หายไป จากนั้นชายหนุ่มก็ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจตามหาอรปรียาด้วยความสำนึกผิดโดยมีชลกรคอยช่วยเหลือ จนสองปีต่อมาสีหราชก็ได้เจออรปรียาที่เมืองเชียงราย แล้วก็ลงเอยกันด้วยความหวานอย่างที่เห็น เฮ้อทำไมเธอไม่มีประสบการณ์ความรักเหมือนนิยายน่ารักโรแมนติกแบบนี้กับเค้ามั่งนะ

“กำลังจะมาค่ะ”
“ทำยังไงพี่ถึงจะมีผู้ชายน่ารักอย่างพี่สิงห์บ้างน๊า”

“ทำไมพี่นรีคิดแบบนั้นล่ะคะ พี่กรก็น่ารักนี่คะ”

“แหวะอีตานั่นน่ะเหรอ ใครจะไปรักลง”

“อ้อนก็เห็นว่าพี่กรน่ารักนี่คะ ทำงานก็เก่ง คุยก็สนุก ทำไมพี่นรีต้องเกลียดพี่กรด้วย” อรปรียาถามณัฐนรีด้วยความไม่เข้าใจที่เห็นทั้งคู่เจอหน้ากันเมื่อไหร่ต้องตั้งหน้าตั้งตาทะเลาะกันทุกครั้ง

“ก็ตอนที่เจอนายนั่นครั้งแรกมันไม่น่าประทับใจน่ะสิ”

“เล่าให้อ้อนฟังหน่อยได้หรือเปล่าคะ เผื่อพี่นรีเข้าใจผิด”

“โอ้ย ไม่มีทางเข้าใจผิดหรอกน้องอ้อน ประมาณสี่เดือนที่แล้วได้มั้ง ถ้าพี่จำไม่ผิดนะ ก็หลังลอยกระทง พี่ไปเดินเที่ยวที่ห้างฯ แล้วเกิดหิวขึ้นมาจะเดินไปต่อแถวเพื่อซื้ออาหาร จู่ ๆ อีตาปลาไหลนั่นก็เดินมาแทรกพี่เพื่อจะเข้าไปหลีผู้หญิงที่กำลังต่อแถวอยู่ด้านหน้าของพี่ ทำเอาพี่เกือบล้มแน่ะ แถมยังไม่รู้ตัวอีกว่าทำความเดือดร้อนให้คนอื่น” ณัฐนรีพูดอย่างฉุน ๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เจอกับชลกรในครั้งแรก

“พี่นรีพูดเองนะคะว่าพี่กรเค้าไม่รู้ แล้วทำไมพี่นรีต้องโกรธด้วย” ณัฐนรีมองดวงหน้าใสของอรปรียาแล้วถอนใจเฮือก เฮ้อ เป็นคนไม่คิดมากเจ้าคิดเจ้าแค้นแบบนี้นี่เองถึงได้ทำพี่สิงห์รักหัวปักหัวปำ

“ก็ถ้าตาพี่กรของน้องอ้อนไม่ทำท่าแผ่พังพานเป็นงูเขียวหางไหม้วิ่งไปหาแม่สาวนั่น พี่ก็คงไม่เกือบเจ็บตัวหรอก” ยังไงเธอก็ไม่ยอมยกโทษให้ง่าย ๆ หรอก

“คุยอะไรกันอยู่จ๊ะสาว ๆ” สีหราชเดินเข้ามาหาพร้อมกับหอมแก้มเนียนของภรรยาฟอดใหญ่ทำเอาอรปรียาหน้าแดง

“ก็คุยกันเรื่องของพี่กรกับพี่นรีกันอยู่ค่ะ” ณัฐนรีมองชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่กำลังนั่งโอบคนตัวเล็กแล้วก็ให้เกิดความอิจฉายิ่งนัก

“มีอะไรหรือนรี มองพี่แบบนี้ทำไม” สีหราชเลิกคิ้วถาม

“ก็มองด้วยความอิจฉาน้องอ้อนไงคะ พี่สิงห์น่ะรู้ตัวหรือเปล่าว่ากลายเป็นเจ้าชายในฝันของนรีอีกคนแล้วเนี่ย ผิดกับเพื่อนพี่ลิบลับ เชอะ ไม่อยากจะนึกให้เสียอารมณ์เลย” สีหราชได้แต่ส่ายหน้าให้กับความโชคร้ายของหญิงสาวที่ต้องมาแต่งงานกับชลกรผู้ชายจอมกะล่อนเพื่อนรักของเขา แต่จะว่าไปงานนี้เขาก็ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่ต้องโชคร้ายเพราะหญิงสาวตรงหน้าเขานี้ก็ร้ายใช่ย่อยเหมือนกัน

“เมื่อวานตอนเย็นก่อนป้าวรรณจะกลับ พี่ได้ยินว่านรีกับไอ้กรต้องแต่งงานกันอีกสองอาทิตย์ข้างหน้าใช่หรือเปล่า” สีหราชเอ่ยถึงคุณวรรณาที่ลงมาจัดการปัญหาให้กับชลกรพร้อมทั้งจัดการรวบรัดให้ณัฐนรีแต่งกับลูกชายตัวเอง แถมเปรยให้เขาฟังด้วยว่าถูกใจในความน่ารักและไม่ยอมใครของณัฐนรีที่คงจะเอาลูกชายจอมเจ้าชู้ของคุณวรรณาได้อยู่หมัด

“ใช่แล้วค่ะ พี่สิงห์ พี่พัฒน์ก็เป็นไปกับเค้าด้วย ดูสิคะ ลืมเรื่องของนรีหมดเลย ตอนนี้หันไปสนใจแต่คุณกาญ” ณัฐนรีนินทาพี่ชายซึ่งหลังจากปรางทองคู่หมั้นตายก็ไม่มีใจให้กับหญิงสาวคนไหนอีก จนบังเอิญมาเจอกับกาญจนาผู้จัดการรีสอร์ตของสีหราชแล้วเกิดชอบพอกันขึ้น แต่พิพัฒน์ก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมคบหาเพราะอยากจะจับตัวคนร้ายที่ฆ่าคู่หมั้นของตัวเองก่อน พอรู้ความจริงว่าใครเป็นคนร้ายแถมคนร้ายก็ด่วนตายไปแล้วด้วย ชายหนุ่มจึงบุกมาหากาญจนาที่รีสอร์ตของสีหราชแล้วก็ไม่รู้ไปพูดกันอีท่าไหน เมื่อวานเธอจึงเห็นพี่ชายนั่งทานข้าวทำตาหวานหยดให้กาญจนาจนณัฐนรีแทบจะสำลักความหวานตายไปกับคนทั้งคู่

“ว่าแต่พี่ปิงมาที่ไร่บ้างหรือเปล่าคะ” ณัฐนรีถามหาชายหนุ่มที่เธอนับถือว่าเป็นพี่ชายอีกคน ที่หน้าตาหล่อเหลาผิวคมเข้ม รูปร่างสูงพอ ๆ กับสีหราชที่ตอนแรกหญิงสาวเข้าใจว่าเป็นหัวหน้ารักษาความปลอดภัยของที่นี่ แต่เพิ่งมารู้ว่าเป็นตำรวจเข้ามาสืบหาข้อมูลของพวกคนร้ายฆ่าข่มขืนก็เมื่อวันเกิดเรื่องที่เธอกับอรปรียาถูกจับตัวไป

“มันก็กลับไปทำงานตามหน้าที่เดิมของมันนั่นแหละ”

“แล้วเพื่อนพี่สิงห์อีกคนล่ะคะ” ณัฐนรีกวาดตามองจนทั่วก็ไม่เห็น ก็วันนี้ตั้งใจว่าจะคุยกับชลกรพ่อยอดปลาไหลเรื่องงานแต่งนี่แหละ งานแต่งที่เธออยากจะยกเลิกแต่พอเจอกันทีไรก็มัวแต่ทะเลาะจนลืมเรื่องสำคัญทุกที

“กลับไปกับป้าวรรณตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะ เห็นบอกว่าไม่กี่วันก็จะลงมาอีก มันจะไปเอารถด้วยน่ะ เห็นบอกว่าขับแต่รถที่ไร่ของพี่มันเกรงใจ” สีหราชพูดถึงชรกรเพื่อนรักของเขาที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เรียนมัธยมพร้อมกับน้ำปิง แล้วจากนั้นก็เรียนระดับปริญญาตรีในสาขาการเกษตรเหมือนกัน ในขณะที่น้ำปิงแยกไปเรียนตำรวจที่โรงเรียนนายร้อย

“คุณป้ากลับไปแล้วเหรอคะ”

“อื้อกลับไปแล้วลงมาตั้งสองวันแล้วนี่ แถมได้ข่าวดีกลับไปอีกต่างหาก” สีหราชนึกถึงคุณวรรณาที่หลังจากขึ้นเครื่องมาลงที่สนามบินเชียงรายในตอนเย็นแล้วมาพักที่ไร่ของเขา ตอนเช้าก็บุกเข้าไปหาพิพัฒน์จนถึงฟาร์ม แถมกลับมาด้วยหน้าตายิ้มแย้ม ถูกอกถูกใจกับว่าที่ลูกสะใภ้เป็นยิ่งนัก จนเขากับน้ำปิงต้องช่วยกันเล่าเรื่องวีรกรรมของเพื่อนรักกับว่าที่ลูกสะใภ้ให้ฟังเพราะคุณวรรณาเล่นถามแบบไม่ตอบไม่ได้

“งั้นนรีขอถามข้อมูลเกี่ยวกันเพื่อนพี่หน่อยค่ะ พี่สิงห์ต้องตอบนรีมาให้หมดนะคะ” ในเมื่อไม่อยู่ณัฐนรีก็ถือโอกาสสอบถามข้อมูลของฝ่ายตรงข้ามคนที่เธออาจจะต้องรบไปกับเขาตลอดช่วงที่แต่งงานกัน ซึ่งเธอสัญญากับตัวเองว่าต้องไม่เกินหกเดือน ในเมื่อยกเลิกงานแต่งไม่ได้ จะหนีก็กลัวพี่ชายเสียหน้า ถ้าอย่างนั้นแต่งแล้วค่อยหาทางหย่าให้เร็วที่สุดดีกว่า แต่จะทำแบบไหนดีนะ

“เอ้า พี่ให้ความร่วมมือเต็มที่ เพราะนรีจะได้รับมือกับมันถูก”

“เพื่อนพี่เค้ามีแฟนหรือยังคะ” นี่แหละคำถามแรก เผื่อจะได้ดึงแฟนตานั่นเข้ามาทำลายพิธี

“แฟนเป็นตัวเป็นตนไม่มีหรอกนรี ใครจะไปจับมันได้ไล่มันทันล่ะ แต่จะว่าไปผู้หญิงที่เข้ามาหาไอ้กรแต่ละคนเขาก็เป็นประเภทไม่ผูกมัดกันนะ คบกันด้วยความพอใจทางกาย จากนั้นก็ต่างคนต่างไป ส่วนคนไหนที่เป็นผู้หญิงที่มันเห็นว่าดีจริง ๆ มันก็เลิกก่อนทุกที เพราะมันยังไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบใครจริงน่ะ” สีหราชเล่าถึงพฤติกรรมของเพื่อนที่เขาเห็นมาตั้งแต่มัธยมจนจบปริญญาตรีด้วยกัน แถมติดต่อไปมาหาสู่กันตลอดจนต่างคนต่างก็อายุปาเข้าไปสามสิบสองกันแล้ว

“เฮ้อ งั้นเรื่องที่นรีจะหาแฟนเค้ามาหยุดงานแต่งก็คงหมดหวังแล้ว”

“แล้วทำไมนรีไม่อธิบายให้พี่พัฒน์กับคุณป้าเข้าใจล่ะ ตามที่ไอ้กรเล่าพี่ว่ามันยังไม่มีอะไรไม่ใช่หรือไง”

“นรีจำไม่ค่อยได้หรอกค่ะ พี่สิงห์ แต่ก็คิดว่าไม่มีอะไร แต่คุณป้าน่ะสิคะ ยกเรื่องลูกขึ้นมาอ้างหาว่านรีจะถูกคนนินทาเสียหายบ้างล่ะ และก็จะท้องบ้างล่ะ พี่พัฒน์ก็เลยยอมตกลง” สีหราชได้ยินคำตอบถึงกับพูดไม่ออก แต่เขาก็คงจะพูดอะไรมากไม่ได้ แต่อย่างน้อยมันคงต้องมีซักวิธีที่จะทำให้เพื่อนรักคิดได้ และหยุดที่ผู้หญิงที่เขารักดังน้องสาวนี่เพียงคนเดียว

“อ้าวกลับมาแล้วเหรอครับคุณแม่” ชลธีเอ่ยทักมารดาที่เดินยิ้มเข้ามาหาเขา ชายหนุ่มเป็นลูกชายคนที่สองของคุณวรรณา กินตำแหน่งรองประธานรองจากพี่ชายคือชลกร มารดาของเขาโทรมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าจะเดินทางด้วยเครื่องบินออกจากเชียงรายช่วงดึกเมื่อคืนและกว่าจะมาถึงบ้านก็ค่อนดึก เขาก็นอนหลับไปแล้ว ส่วนคุณชลธรผู้เป็นบิดานอนพักที่สำนักงานของรีสอร์ตไม่ได้กลับบ้าน.

“ถ้าไม่กลับแกจะเห็นแม่หรือไงยะ เจ้าธี” คุณวรรณามองค้อน

“แหมวันนี้คุณวรรณาสุดสวยมีมุขมาเล่นกับลูกชายด้วย อารมณ์ดีแบบนี้แสดงว่ามีข่าวดี” ชลธีเอ่ยสัพยอกมารดา

“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก เพียงแต่ว่าแม่ได้ลูกสะใภ้ถูกใจก็เลยเก็บความดีใจไม่ค่อยอยู่น่ะ”

“หายไปสองวันกลับมาได้ลูกสะใภ้เลยหรือครับ ว่าแต่ของผมหรือของพี่กรล่ะ”

“รู้แล้วยังจะถามอีกนะแก ก็ของเจ้ากรนั่นล่ะ”

“พี่กรไปทำอีท่าไหนครับ ถึงให้ผู้หญิงจับได้ ทุกทีออกจะเก่ง”

“โอ้ยถ้าผู้หญิงที่มันเคยควงน่ะก็ใช่ อย่างแม่พิรี้พิไรนั่นไง ว่าแต่แม่นั่นมาอีกหรือเปล่า ตั้งแต่เจ้ากรมันไปช่วยสิงห์จัดการเรื่องรีสอร์ตเกือบสามเดือนแม่นั่นมาแล้วตั้งหลายรอบ” คุณวรรณาถามชลธีถึงเรื่องผู้หญิงที่เข้ามาติดพันลูกชายคนโตจอมเจ้าชู้ของเธอ

“คุณพิไลไม่ได้มาหรอกครับ แต่คุณฤทัยต่างหากที่มา”

“หาอะไรนะ แม่ฤทัยกลับมาจากต่างประเทศแล้วเหรอ ฉันไปแค่สองวันเองนะ ทำไมถึงได้มีแต่เรื่องยุ่งแบบนี้ แล้วแม่นั่นเค้าว่ายังไงบ้าง”

“ก็ไม่ว่าไงหรอกครับ มาถามหาพี่กรผมก็บอกไม่รู้ว่าอยู่ไหน หายไปตั้งหลายเดือนแล้วสงสัยจะหลงป่าที่ไหนเข้าซักที่เพื่อหนีคน เขาก็เลยหน้าเขียวหาว่าผมประชดจนคุณพ่อที่ได้ยินเสียงโวยวายของเขาออกมาช่วยยืนยันอีกคนว่าไม่รู้พี่กรหายไปไหน เขาถึงได้ยอมกลับครับ” ชลธีบรรยายเหตุการณ์ที่เขามักต้องประสบเกือบทุกวันกับบรรดาสาว ๆ ของพี่ชาย ที่ขนาดตัวเองไม่อยู่ยังสร้างความเดือดร้อนทิ้งไว้ให้

“โอ้ยฉันอยากจะเป็นลมกับเรื่องของมันจริง ๆ”

“อย่าเพิ่งครับ ผมยังไม่ได้เล่าให้คุณแม่ฟังอีกหลายคนนะครับ ที่มาหาพี่กรแบบไม่ซ้ำหน้าแต่ว่าผมจำชื่อไม่ได้เพราะไม่บ่อยเท่าสองคนนี่” เนื่องจากคุณวรรณาไม่ค่อยได้เข้ามาที่รีสอร์ตเหมือนเขากับพ่อก็เลยไม่ค่อยจะได้รู้เรื่องสาว ๆ ของพี่ชายเขามากนัก

“ต๊าย ยังจะมีอีกหรือนี่ ตากรนะตากร ไม่รู้ว่าเจ้าชู้ได้ใคร พ่อแกเขาก็ไม่เห็นจะเป็นแบบนั้น”

“บ่นอะไรกันล่ะวรรณ” คุณชลธรที่เพิ่งเดินเข้ามาที่สำนักงานหลังจากเดินตรวจความเรียบร้อยของบรรดาพนักงานแล้ว ‘รีสอร์ตชลวรรณ’ เป็นรีสอร์ตขนาดใหญ่ครบวงจร มีทั้งสนามกอล์ฟ ห้องอบซาวน์น่า สปา ทำให้มีลูกค้าทั้งไทยและต่างประเทศ

“ก็ไอ้เจ้ากรลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณน่ะสิคะ สร้างแต่ปัญหาไม่หยุดหย่อนวรรณล่ะอยากจับมันยัดเข้าที่เดิมจริง ๆ”

“วรรณยังไม่ชินกับมันอีกหรือไง” ชลธรย้อนถามภรรยาเพราะตั้งแต่ชกรเข้ารุ่นหนุ่มเขาก็เห็นวรรณาบ่นเรื่องลูกชายไม่เคยเว้น

“ใครมันจะไปทำใจได้ล่ะคุณ แต่คราวนี้แหละ วรรณได้ผู้ช่วยมาปราบเจ้ากรแล้ว แถมเป็นมือดีที่หาได้ยากอีก” คุณวรรณายิ้มแย้มเมื่อนึกถึงว่าที่ลูกสะใภ้คนสวยที่ท่าทางเอาเรื่องไม่ยอมใคร

“ใครอีกล่ะวรรณ ว่าแต่เรื่องเจ้ากรน่ะเป็นไงบ้าง”

“ก็วรรณจัดการเรียบร้อยแล้ว จะให้มันแต่งกับหนูนรีอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า”

“สองอาทิตย์ มันจะเร็วไปหรือเปล่าวรรณ คราวนี้ผู้หญิงเขาจับมันอยู่หมัดจนวรรณเถียงไม่ออกหรือไง”ชลธรถามภรรยาที่ร้อยวันพันปีไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนของชลกรจะสามารถจะชนะได้ ไม่ว่าจะงัดวิธีไหนออกมาก็ตาม

“ผิดแล้วค่ะคุณ เด็กคนนั้นเกลียดเจ้ากรจะตาย แถมไม่ยอมแต่งอีกต่างหาก วรรณเลยยกเรื่องท้องขึ้นมาอ้าง จนพี่ชายเขาต้องคล้อยตาม แล้วก็เลยต้องแต่งให้มันเร็ว ๆ ด้วย กลัวพี่ชายเขาจะเปลี่ยนใจค่ะ” คำบอกเล่าของภรรยาทำเอาชลธรต้องจ้องด้วยความแปลกใจ
“เด็กคนนั้นทำอีท่าไหนเนี่ย วรรณถึงได้ถูกใจถึงขนาดจับเขาเองแบบนี้”

“นั่นสิครับคุณแม่ ผมก็อยากรู้เหมือนกัน” ชลธีถามด้วยความอยากรู้อีกคน

“ก็ถูกใจตรงที่ไม่หลงเสน่ห์เจ้ากรนี่แหละค่ะคุณ วรรณถึงได้อยากได้มาเป็นลูกสะใภ้นัก”















หนึ่งเดียว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ส.ค. 2554, 12:18:33 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ส.ค. 2554, 12:56:09 น.

จำนวนการเข้าชม : 1582





   2.ภาพที่ไม่จางไปจากใจ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account