รัตนมณีแห่งหัวใจ (รัตน)

Tags: ความรักเดียวที่กษัตริย์แดนเถื่อนมีต่อเจ้าหญิงแห่งรัตนที่ตราตรึงในหัวใจ

ตอน: ตอนที่ 10/3 (100%) & 11/1


ตอนที่ 10/3 (100%)

องค์อคินทรงยิ้มอย่างมีความสุขทั้งที่ยังหลับพระเนตร ว่าที่ราชินีของพระองค์ช่างน่ารักจริงๆ
นิ้วพระหัตถ์แข็งแรงลูบหนวดเคราบนใบหน้าอย่างเสียดายที่จะต้องหายไปในไม่ช้า

ณ บ้านหลังใหญ่ปลูกอยู่นอกเมืองหลวงของรัตนนคร ชายหนุ่มรูปร่างสูงสง่าสวมชุดดำโพกศีรษะด้วย
ผ้าสีเดียวกันปิดหน้าเหลือไว้แค่ลูกตามาพร้อมผู้ติดตามอีกคน แต่งกายลักษณะเดียวกัน ทั้งสองมายืนอยู่หน้า
บ้านเพื่อรอใครคนหนึ่งกลับมา สักพักก็เห็นชายชราช่างวาดภาพเดินกลับมา ชายชราพอเห็นคนทั้งคู่ก็ทักขึ้นว่า

“ท่านทำไมมาเงียบๆ เชิญในบ้านก่อน” จากนั้นก็เดินนำชายลึกลับทั้งสองเข้าไปในบ้าน พาเข้าห้อง
หนังสือเพื่อพูดคุยตามลำพัง

“ท่านเสนาบดี ท่านวาดภาพอยู่ตลาดตั้งนานแล้ว ได้เรื่องอะไรบ้าง” องค์ตีรณธรตรัสถามพลางใช้
สองพระหัตถ์ปลดผ้าโพกพระเศียรออก

“ก็หลายเรื่องอยู่พ่ะย่ะค่ะ จะให้กราบบังคมทูลเรื่องใดก่อนดี” อดีตเสนาบดีเฒ่ากราบบังคมทูลถาม

“เอาเฉพาะเรื่องสำคัญก็พอ เราไม่มีเวลามากนัก”

“เวลานี้ในรัตนมีชาวสินธุอยู่เต็มไปหมด บ้างก็มาเปิดร้านขายผ้า บ้างก็แฝงตัวมาในคราบของพ่อค้า
ต่างเมือง และยังมีนางกำนัลคนสนิทของพระมเหสีวัสสิกามาซื้อผ้าของชาวสินธุเป็นประจำด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

องค์ตีรณธรทรงนิ่งไปพักหนึ่งก่อนทอดถอนพระทัยอย่างหนัก
“ขอบใจท่านเสนาบดี เห็นทีรัตนอาจต้องผจญศึกรอบทิศ นักรบพิเศษของเราฝึกไปถึงไหนแล้ว”

“อย่าทรงกังวลไปเลยพ่ะย่ะค่ะ ฝนจะตกฟ้าจะร้องไม่มีใครไปห้ามได้ ขอแค่เรามีเกราะกำบังที่ดีก็พอ”

“เรายังมองไม่เห็นเกราะกำบังที่ว่านั่น ประชาชนและทหารของเราอ่อนแอเกินไป ลำพังแค่นักรบพิเศษ
ไม่กี่หมื่นคนคงช่วยอะไรได้ไม่มากหรอก”

“ทรงลืมไปแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ ว่ายังมีหิรัณย์นคร ข้าพระองค์เชื่อว่า องค์อคินจะทรงช่วยรัตนได้”

“อย่าเพิ่งหวังท่านเสนา เรายังไม่รู้ว่าองค์อคินทรงคิดอย่างไรกับเรา ท่านจับตามองต่อไป เราจะ
พยายามถ่วงเวลาสินธุให้นานที่สุด ขอให้เรามีเวลาเตรียมการบางอย่างให้พร้อมก่อน จากนั้นเราจะลองเสี่ยง
ติดต่อกับองค์อคินดู เรายังไม่แน่ใจว่าทรงเป็นมิตรหรือศัตรู แต่ที่น่าเป็นห่วงคือน้องหญิงไม่รู้ว่าจะทนได้หรือ
เปล่าที่ต้องไปอยู่กับพวกนักรบแดนเถื่อน” ถึงอย่างไรก็ทรงเป็นห่วงพระขนิษฐาองค์น้อยอยู่ดี

“ข้าพระองค์คิดว่าองค์อคินต้องช่วยเราแน่ ” อดีตเสนาบดีเฒ่าดูมั่นใจมาก

“ขอให้เป็นอย่างที่คิดเถอะ เราขอเวลาศึกษาหิรัณย์ให้ถ่องแท้ก่อนค่อยตัดสินใจ เราต้องไปแล้ว
ท่านเองก็รักษาตัวด้วย ทุกอย่างเป็นความลับ จำไว้” ทรงเสด็จพระราชดำเนินกลับทันที
==========================================================================

ว่าที่ราชินีแห่งหิรัณย์ทรงตื่นบรรทมบนที่นอนนุ่มนิ่ม พระวรกายงดงามบางอรชรยังคงซุกอยู่ในผ้าห่ม
ผืนใหญ่อันอบอุ่น ดวงเนตรกลมโตงดงามทอดมองไปรอบๆถึงรู้ว่าได้มาประทับในห้องนอนกว้างใหญ่ ด้านนอก
ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะอันหนาวเย็นแต่ภายในห้องกลับอบอุ่นด้วยแปลวไฟจากดุ้นฟืนท่อนใหญ่หลายดุ้นในเตาผิง

‘เรามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรก็เราหลับอยู่ในรถนี่นา ใครพาเรามาที่นี่ แล้วองค์อคินไปไหน ทำไมถึงมีหิมะ
ปกคลุมไปทั่ว เมื่อวานอากาศยังดูสบายท้องฟ้าแจ่มใสอยู่เลยนี่แล้วทำไมวันนี้ถึงมีหิมะตกเป็นหน้าหนาวไปได้
ใครกันที่เปลี่ยนชุดให้เรา’ ทรงพยายามหาคำตอบอยู่นานก็ไม่พบคำตอบ

สักพักเสียงเปิดประตูห้องก็ดังขึ้น ตามมาด้วยหญิงสาวสี่คนสวมกระโปรงยาวทอจากผ้าหนาๆปักลาย

สวยสีดำยาวเลยเข่า สวมรองเท้าหนังสีดำสูงเลยชายกระโปรง ท่อนบนเป็นเสื้อสีขาวแขนยาวปักลายสวย
สวมทับด้วยเสื้อตัวนอกแขนกุดสีดำทอจากผ้าหนาๆ ปิดทับด้วยผ้าคลุมสีขาวยาวถึงชายกระโปรงอีกตัว
สงสัยจะเป็นผ้าคลุมกันหนาว แต่ละนางเกล้าผมเป็นมวยไว้ข้างหลังอย่างเรียบร้อยมีเครื่องประดับเงินรูปใบไม้
เสียบอยู่ที่มวยผม คนที่ดูอาวุโสกว่าเพื่อนเดินเข้ามาหา ยิ้มให้ด้วยไมตรี ส่งสายตาชื่นชมและยินดี

“ทรงตื่นบรรทมแล้วหรือเพคะ พวกหม่อมฉันนำน้ำสรงพระพักตร์กับฉลองพระองค์ตัวใหม่มาให้เพคะ
องค์เหนือหัวทรงกำชับพวกหม่อมฉันให้ดูแลพระนางให้ดี ไม่อย่างนั้นจะถูกปลดออกจากตำแหน่ง” เสียงทักนั้น
ดูยินดีนัก

“เดี๋ยวพวกเจ้าเป็นใคร ช่วยบอกเราทีองค์อคินเสด็จไปไหน” รับสั่งถามด้วยสุรเสียงไพเราะอ่อนหวาน
จนหญิงสาวทั้งหมดอดยิ้มอย่างปลื้มปิติไม่ได้

“พวกหม่อมฉันเป็นนางกำนัลที่ดูแลพระตำหนักอุดรนี้เพคะ องค์อคินทรงพาพระนางมาพักที่นี่ตั้งแต่
เมื่อคืนแล้วรับสั่งว่าพระนางเสวยหมูป่าหมักกับน้ำแกงดอกนิทราคงบรรทมจนถึงเช้า จากนั้นก็เสด็จไป
ประทับยังห้องบรรทมข้างๆเพคะ”

ว่าที่ราชินีทรงฉิวจัดเมื่อรู้ว่าถูกคนเจ้าเล่ห์หลอกอีกแล้ว ที่แท้ก็ถูกวางยา ‘คอยดูนะ เจอตัวเมื่อไหร่จะ
จับโกนหนวดเคราออกให้หมดเลยคนเจ้าเล่ห์’

สีหน้าพวกนางกำนัลเริ่มวิตกเมื่อเห็นพระพักตร์งดงามดังแสงสุริยาในยามเช้าเริ่มงอง้ำหรือเรากราบ
ทูลอะไรผิดไป ถึงได้กริ้วนัก

ว่าที่ราชินีทรงเห็นสีหน้าตื่นตกใจของเหล่านางกำนัลแล้วพระโอษฐสวยสดงดงามก็ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
“ขอบใจที่บอกให้เรารู้ เราอยากชำระกายหน่อย ไหนละจ๊ะห้องน้ำ”

ใบหน้าเหล่านางกำนัลยิ้มออกทันที ใจมาเป็นกอง รีบนำเสด็จไปห้องสรงเพื่อผลัดเปลี่ยนฉลอง
พระองค์ใหม่

ตอนที่ 11/1
ออกจากห้องสรง ว่าที่ราชินีทรงฉลองพระองค์ชุดใหม่เป็นเสื้อสีเหลืองครีมปักลายสวยแขนยาว รับกับ
กระโปรงยาวสีเดียวกันเนื้อผ้าบางเบาเนียนนุ่มปักลวดลายสวยงามยาวคลุมข้อพระบาท ดูแล้วไม่น่าจะป้อง
กันความหนาวได้แต่พอใส่แล้วกลับอบอุ่นได้อย่างประหลาด ฉลองพระบาทด้วยรองเท้าหนังสีขาวนุ่มนิ่ม
นางกำนัลที่ถวายการรับใช้กราบทูลว่า

“ที่หิรัณย์เรามีผ้าไหมชนิดพิเศษเพคะ เวลาอากาศหนาวจะทำให้ร่างกายอบอุ่นแต่เวลาอากาศร้อนจะ
ให้รู้สึกเย็นสบายแก่ผู้สวมใส่ น่าเสียดายที่นานๆทีจะผลิตได้สักผืน ชาวบ้านสามัญชนน้อยคนนักจะมีโอกาสได้
สวมใส่ ฉลองพระองค์ชุดนี้องค์อคินทรงให้ช่างตัดเป็นพิเศษ ยังมีผ้าคลุมสีขาวตัวยาวกับหมวกในตัวอีกถึงจะ
ครบชุดเพคะ พระนางใส่แล้วดูงดงามมาก ตั้งแต่เกิดมานอกจากสมเด็จพระราชินีองค์ก่อน หม่อมฉันยังไม่เคย
เห็นหญิงใดงดงามราวเทพธิดามาจุติเท่าพระนางเลยนะเพคะ”

คำว่าสมเด็จพระราชินีองค์ก่อนทำให้ว่าที่ราชินีทรงสนพระทัยขึ้นมาทันที
“ใครกัน สมเด็จพระราชินีองค์ก่อน” รับสั่งถามทันควัน นางกำนัลช่างพูดยิ้มบางๆ

“พระราชมารดาขององค์อคินเพคะ ความจริงพวกหม่อมฉันดีใจนะเพคะที่องค์อคินทรงคิดอภิเษก
ไม่อย่างนั้นเหล่าขุนนางในราชสำนักต้องกังวลถึงเรื่องทายาทแห่งวงค์สุริยะแน่ๆ ปกติทรงใส่พระทัยแต่ราชกิจ
กับปราบปรามผู้รุกรานตามชายแดน สองพระเนตรไม่เคยแลหญิงใด พวกหม่อมฉันยังแปลกใจอยู่เลยเพคะ
อยู่ดีๆก็มีพระบรมราชโองการไปทั่วหิรัณย์ให้เตรียมต้อนรับพระราชินีของพระองค์”

นางกำนัลช่างพูดกราบทูลพลางช่วยจัดแต่งพระเกศายาวสลวยให้เป็นมวย จากนั้นก็เอาปิ่นทับทิมรูป
พระอาทิตย์มาปักลงบนพระเกศา ว่าที่ราชินี ทรงรู้สึกไม่พอพระทัยนักกับคำว่าทายาท

‘ฮึ..อภิเษกกับการมีทายาท ดี...จะได้หาคนมาทำหน้าที่แทนให้’

“เอาล่ะพอแล้ว เจ้าจะตอบคำถามเราได้หรือยังว่าองค์อคินประทับอยู่ที่ไหน” ทรงย้ำคำถามเดิม
ที่นางกำนัลยังไม่ได้ตอบ

“องค์อคินเสด็จไปที่เหมืองเงินแต่เช้ามืดแล้วเพคะ ท่านชาครมากราบบังคมทูลถวายรายงานว่า
เมื่อคืนหิมะตกหนัก ทำให้เหมืองเงินใหญ่ที่สุดของหิรัณย์ถล่มผู้คนติดอยู่ในเหมืองมากมาย ทรงรีบควบ
ม้าออกไปพร้อมทหารอีกจำนวนหนึ่งไม่รู้ว่าวันนี้จะได้เสด็จกลับมาไหม ทุกครั้งจะประทับอยู่ที่เหมืองเป็นวันๆ
ไม่ยอมเสด็จไปไหนจนกว่าทุกอย่างจะกลับสู่ภาวะปกติ หิรัณย์เราโชคดีเพคะ มีองค์เหนือหัวที่ห่วงใยราษฎร”
นางกำนัลเล่าอย่างภาคภูมิใจ

ว่าที่ราชินีทรงรู้สึกกังวลขึ้นมาเฉยๆ แล้วรับสั่งถามต่อ “เหมืองที่ว่าอยู่ไกลจากพระตำหนักมั้ย”
“ไกลอยู่เพคะ จะเสด็จหรือเพคะ หม่อมฉันจะให้ทหารราชองครักษ์มานำเสด็จไป” นางกำนัลกราบ
ทูลจบก็ทำท่าจะเดินไปบอกทหารราชองครักษ์ แต่สุรเสียงหวานขัดขึ้นก่อน

“เดี๋ยวจ๊ะ พวกเจ้าช่วยจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม ยาทำความสะอาดแผล ยาแก้ไข้ แก้ปวด ของใช้จำเป็น
เช่นผ้าสะอาด ผ้าห่ม เสื้อผ้า หลายๆชุดหน่อย แล้วเราค่อยไปกัน”

เหล่านางกำนัลทำหน้าไม่เข้าใจจึงทรงอธิบายเพิ่มเติม
“เราจะไปช่วยองค์อคินอีกแรง แม้เป็นหญิงก็ช่วยได้ เหมืองถล่ม อาจมีคนได้รับบาดเจ็บ พวกทหารที่
ไปช่วยคงหิว ผู้ชายออกแรง เราเป็นหญิงให้ออกแรงอย่างผู้เชายคงทำไม่ได้ เราช่วยในสิ่งที่ผู้หญิงทำได้ดีกว่า
ผู้ชาย พวกเจ้ารีบไปเตรียมได้แล้ว ถ้าช้าเราอาจช่วยชีวิตคนไม่ทันนะ”

“เพคะ” เหล่านางกำนัลทุกคนต่างรู้สึกชื่นชมในความฉลาดรอบคอบของราชินีในอนาคต ต่างคนต่าง
นึกไม่ถึงว่าจะทรงมีความคิดลึกซึ้งละเอียดอ่อนได้ถึงเพียงนี้ อีกทั้งพระศิริโฉมก็ยากจะหาหญิงใดเปรียบได้
องค์อคินทรงพระปรีชานักในการเลือกราชินีคู่พระทัยแห่งหิรัณย์
=======================================================================


ณ ตลาดใจกลางเมืองของรัตนนคร พระมเหสีวัสสิกาทรงฉลองพระองค์ในชุดสาวชาวบ้านค่อนข้าง
เก่า มีผ้าผืนบางปิดพระพักตร์ไว้ครึ่งหนึ่ง ดวงเนตรงดงามทอดมองเครื่องประดับชิ้นหนึ่งในร้านขายเครื่อง
ประดับ สายพระเนตรทอดมองราวกับอยากได้นักหนา ผิดกับนางกำนัลสีดาที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าอย่างดี
บอกถึงความมีฐานะทว่ากลับดูเจ้าอารมย์ราวกับคุณหนูลูกผู้ดีที่ถูกตามใจจนเสียคน

“เจ้าหลีกไปซะ จนแล้วยังไม่เจียมอีก คิดซื้อเครื่องประดับแพงๆแข่งกับข้า ช่างไม่รู้จักส่องกระจกดู
ตัวเองเสียเลย”

“จริงของคุณหนู คนจนอย่างข้าก็ได้แค่ชื่นชม คงไม่มีเงินซื้อเครื่องประดับแพงๆใส่แข่งกับคุณหนู
หรอก” พระสุรเสียงหวานๆนั้นชวนให้สงสารนักแล้วทรงส่งสายพระเนตรวิงวอนไปยังเจ้าของร้าน

“ นายท่านขอข้าดูเครื่องประดับของท่านจะได้ไหมเจ้าคะ” เจ้าของร้านได้ยินแล้วอดสงสารไม่ได้
จึงหยิบกำไลข้อมืออันหนึ่งถวาย

“เอ้านี่แม่หนูข้าให้เจ้า เผื่อว่าเจ้าจะได้มีเครื่องประดับสวยๆไว้ใส่อวดเหมือนเด็กสาวคนอื่นบ้าง”
ชายเจ้าของร้านเต็มไปด้วยเมตตา ทรงแกล้งทำเป็นลังเลไม่กล้ารับ หญิงผู้เป็นภรรยาจึงคะยั้นคะยอให้รับ

“รับไปเถอะแม่หนู จะได้ไม่น้อยหน้าสาวๆคนอื่นในเมืองนี้”

การกระทำของเจ้าของร้านสองสามีภรรยานั้นทำให้พระนางซาบซึ้งในพระทัยนักจึงทรงยื่นพระหัตถ์
เรียวงามไปรับ

“ขอบคุณค่ะท่านลุงท่านป้า ข้าจะไม่ลืมเมตตาของพวกท่านเลย ข้าต้องรีบกลับไปช่วยแม่ทำงานแล้ว”
ทรงยกพระหัตถ์ขึ้นไหว้เจ้าของร้านสองสามีภรรยาก่อนเสด็จจากมาพร้อมนางกำนัลสีดาที่ทำหน้าไม่พอใจ

“ทำไมต้องลดองค์ไปไหว้ชาวบ้านด้วยเพคะ “

“สีดาเจ้าไม่เข้าใจ เราได้คำตอบให้กับตัวเองแล้ว เรากลับกันเถอะ”

นางกำนัลสีดาทำท่าสงสัย คำตอบอะไร? ผิดกับพระนางที่ได้คำตอบให้กับพระองค์เองแล้ว

‘องค์ตีรณธรพูดถูก เราไม่ได้ถูกหลอก ชาวรัตนมีจิตใจดีงาม หากต้องเจอกับความโหดร้ายทารุณจะ
เป็นเช่นไร แล้วจะทำอย่างไรดี หากทางสินธุเร่งรัดมาคงยากที่จะเลี่ยงคำสั่งท่านพ่อกับพี่ชาย แต่ไม่ว่าข้างหน้า
จะเป็นอย่างไร เราต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อชาวรัตนกับสินธุ แม้สุดท้ายผู้ที่ต้องเจ็บปวดคือเราก็ยอม’
=======================================================================
********************************************************************************************************************************
********************************************************************************************************************************



เพลงใบไม้
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 31 ก.ค. 2559, 21:05:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 31 ก.ค. 2559, 21:05:30 น.

จำนวนการเข้าชม : 1063





<< ตอนที่ 10/2   ตอนที่ 11/2 >>
konhin 1 ส.ค. 2559, 07:26:54 น.
เรื่องการเมืองกลายเป็นว่าผู้หญิงเป็นหมากไปซะหมดเลย น่าสงสารนะ


Zephyr 1 ส.ค. 2559, 07:31:26 น.
ตกลงวัสสิกาเลือกแล้วที่จะเป็นคนดี


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account