ซุลนูรอยน์...The man with two lights
ซุลนูรอยน์ (Zul Nurain) คือ ผู้ครอบครองรัศมีทั้งสอง
หรือ ผู้มีสองรัศมี
คือ เรื่องราวความรักความผูกพันธ์ในครอบครัว...
และการสร้างครอบครัวภายใต้เงื่อนไขที่ถูกใครบางคนวางขึ้นมาเพื่อให้ตัวละครในเรื่องขับเคลื่อนชีวิตเดี่ยวไปสู่ชีวิตคู่...
จากชีวิตคู่...ไปสู่ครอบครัว
โดยมี 'บ้าน' เป็นรางวัลให้กับผู้ชนะที่ทำตามเงื่อนไข
ทั้งหมดได้...จนจบเกม
เมื่ออึกหนึ่งเหมือน 'ไฟเย็น'
ส่วนอีกหนึ่งเหมือน 'น้ำร้อน'
และ...
เมื่อร้อนกระหาย...ดับได้ด้วยน้ำเย็น
แล้วถ้าร้อนรนด้วยกิเลสของความอยาก...จะดับด้วยกับอะไร
และ
บ้านจะอบอุ่นได้...จะต้องใช้อะไรอบถึงจะอุ่น...
และ
ซุลนูรอยน์...จะเป็นฉายาของใคร ???
Tags: ดราม่า คาเวห์ มัสรานี มัสลัน นิมัสรา โซรัน ซูไฮล่า ซุลนูรอยน์ ผู้ครอบครองรัศมีทั้งสอง ความสัมพันธ์ในครอบครัว บ้าน
ตอน: ลำที่ 66 ตุ๊กตาล้มลุก (100%)
ณ ห้องลับใต้ดิน คฤหาสน์เจนนาลี สองพี่น้องสนทนากันเพียงลำพัง
“มันเป็นกับดัก…”
โซรันเอ่ยขึ้นเมื่อคาเวห์ต้องการที่จะเดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อกลับไปเป็นคนเดิม…
“กับดักของใคร…”
“ของทาคายูกิ…” คาเวห์ยกมุมปากก่อนจะประสานดวงตากับฝาแฝดของตน
“ยังไง?”
“คนๆนี้รู้ว่าเคนไม่ใช่คุโรสึกิ ดันยุตัวจริง…และเท่าที่ฉันรู้มา…และเคนคงไม่เคยบอกนาย…
ก็คือ…คนๆนี้ต้องการตัวนาย!”
โซรันหยุดเพียงนิด ก่อนจะอธิบายเสริมว่า
“ตอนที่ฉันส่งนายกับมัสไปฮันนีมูนที่ญี่ปุ่น…นายคงเห็นแล้วว่าเคนพยายามจะปล้นชิงตัวมัส…
นายเคยคิดหาคำตอบรึเปล่าว่าทำไม?”
คาเวห์กระตุกมุมปาก แววตาเป็นประกาย
“ทำไมฉันจะไม่เคยคิดหาเหตุผล…โดยเฉพาะเรื่องที่นายส่งฉันกับมัสไปอยู่ในบ้านพักหลังนั้น…
บ้านที่พ่อกับแม่ของพวกเราเคยไปพักตอนไปฮันนีมูนด้วยกันและยังเคยพาพวกเรา
ไปพักที่นั่นมาแล้ว...และเคนก็สิงอยู่ในบ้านหลังนั้นอยู่ด้วย…”
เหมือนโดนย้อนกลับ โซรันถึงกับยกใหล่
“นายเห็นเคนหรือ…”
“ตอนแรกไม่เห็นและไม่ได้คิดว่าเป็นเคน ฉันสงสัยว่าอาจจะเป็นใครก็ได้ทั้งนั้น…
ไม่จำเป็นต้องเป็นเคนหรือเป็นฝาแฝดของฉัน…
เพราะฉันไม่เคยมองคนแค่เปลือกหรือแค่ใบหน้า…ถ้ามองกันแค่นั้น
ฉันจะแยกแยะอะไรได้สักเท่าไหร่กัน…” ก่อนจะกล่าวสืบไปว่า
“มนุษย์เรามีองค์ประกอบอย่างอื่นที่มากกว่าใบหน้านะ…และสิ่งต่างๆเหล่านั้น
ล้วนเป็นเอกลักษณ์…ที่บ่งบอกตัวตนของคนๆนั้น…
บ่งบอกว่า…เรามีความแตกต่าง…ไม่มีใครเหมือนกัน…
แม้แต่นายกับฉัน หรือต่อให้เป็นเคน…เราสามคนไม่เหมือนกัน…
ฉันจึงตัดประเด็นเรื่องเปลือกหรือสิ่งที่ถูกฉาบเอาไว้ภายนอกทิ้ง…
สิ่งที่ฉันมุ่งและสนใจคือ การกระทำ…ที่จะนำพาไปสู่เป้าหมายของคนๆนั้นต่างหาก!
และถ้าฉันไม่ยอมเดินตามรอยที่คนๆนั้นทิ้งเอาไว้ตามรายทาง…
ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าคนๆนั้นจะไปที่ไหน…และต้องการอะไรกันแน่”
โซรันคลี่ยิ้มก่อนจะเอ่ยออกไปว่า
“งั้นนายก็ทำสำเร็จ…นายเดินตามรอยน้ันจนมาเจอฉัน…”
“นั่นมันไม่สำคัญเท่ากับว่า…นายจะพาฉันไปเจอใครต่างหาก…”
“แม่คือคนที่นายอยากเจอใช่มั้ยล่ะ…” คาเวห์ยิ้มตรงมุมปากก่อนจะส่ายหน้า
“นายไม่มีทางเดาใจฉันได้หรอกคิน…อย่างน้อยฉันก็ยังต้องการให้แม่พาฉันไปหาบางอย่าง…
แม่ไม่ใช่ที่สุดของที่สุดอย่างที่นายคิดหรอก
เพราะถ้าแม่คือเป้าหมายสูงสุดของฉัน…ตอนนี้ฉันก็ควรที่จะหยุดการเดินทางได้แล้วสิ…
หรือนายว่าไง…” โซรันยิ้มกริ่มก่อนจะส่ายหน้า
“ไม่หรอก…ที่นายยังไม่หยุดการเดินทางเพราะว่านายยังไม่ได้เจอแม่
ที่นายอยากเจอต่างหากคาย…เหมือนฉันนี่แหล่ะ…ฉันเองก็อยากเจอแม่ที่ฉันตามหาอยู่…
และ…ฉันยังไม่เจอ…” คาเวห์หันสายตาไปอีกทาง และนั่นทำให้โซรันถึงกับลอบยิ้ม
“อย่างน้อย…เราก็มีเป้าหมายที่เหมือนกันอยู่อย่างนึงแล้ว…เพียงแต่ฉันไม่รู้ว่าทำไม
นายต้องอยากเจอแม่…แม่ที่นายตามหา…สามารถให้อะไรแก่นายหรือคาย…
นายต้องการอะไรจากแม่หรือ?”
คาเวห์สบตาโซรันนิ่ง ทำเอาโซรันถึงกับยิ้มเจ้าเล่ห์
“อย่าคิดจะอ่านสายตาฉันเลยคาย…นายคงไม่ได้มีพรสวรรค์ในการอ่านใจคน
ผ่านทางสายตาหรอกใช่มั้ย…”
คาเวห์ผ่อนลมหายใจก่อนจะถามตรงจุดจี้ใจดำของอีกฝ่ายราวกับ
ได้ยินเสียงจากหัวใจของอีกฝ่ายว่า
“มาดามซันเดียกับแม่มะลุลีคือคนละคนกันใช่มั้ยคิน…”
โซรันถึงกับหุบยิ้มลงฉับพลัน มองคาเวห์อย่างคาดไม่ถึงว่าสัมผัสของคาเวห์จะรุนแรงขนาดนี้…
“นายคือคนๆเดียวที่ไม่พลัดถิ่นเหมือนฉันกับเคน…นายน่าจะรู้ดีกว่าฉันและเคน…
ว่า…ใครกันแน่ที่สังหารพ่อแล้วเผาบ้านหลังนั้น!
ระหว่างมาดามซันเดียกับแม่มะลุลี…”
“นายไปรู้อะไรมา!”
“มะลุลี กรินทร หายไปไหนซะล่ะ…ผู้หญิงที่ตั้งท้องเจนนินทร์หายไปอยู่ที่ไหน…
อย่างน้อยหน้าตาของเจนก็พอจะทำให้รู้ได้ว่า…เธอเป็นลูกสาวของใคร…
ดอนสนใจเจน…อยากได้เจนเป็นเมียอีกคน ก็เพราะว่าเจนไม่ใช่ลูก…
ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดใดๆกับตัวเองเลย…
ไม่ได้เป็นลูกติดท้องของเมียมาด้วยซ้ำ…ใช่มั้ย…”
โซรันถึงกับหันหน้าไปอีกทางแล้วเดินเบี่ยงไปยืนตรงหน้าต่างกระจก
“ระหว่างมาดามซันเดียกับแม่มะลุลี…ใครกันแน่เป็นแม่ของเราสามคน!”
คำถามนั้นทำเอาโซรันถึงกับน้ำตาคลอเบ้า และพยายามจะกลืนมันลงไปให้ได้
“ฉันไม่สงสัยในตัวพ่อบังเกิดเกล้าแล้ว…แต่ฉันสงสัยในตัวแม่…
ใครกันแน่คิน…นายต้องให้คำตอบฉัน…เพราะนายรู้ นายต้องรู้สิ…”
โซรันกลับส่ายหน้าก่อนจะหันมาหาคาเวห์
“ฉันไม่รู้…” ก่อนจะถามคาเวห์กลับไปว่า
“มาดามซันเดียรู้รึยังว่านายคือคาย ไม่ใช่ฉัน…” คาเวห์พยักหน้า
“แน่นอน…ฉลาดขนาดนั้นย่อมต้องจับผิดได้แน่นอน…”
“แล้วจับผิดได้ด้วยวิธีไหน…” คาเวห์ส่ายหน้า
“ฉันไม่รู้…รู้แต่ว่าแววตาคู่นั้นมันฟ้องว่ารู้แล้วว่าฉันไม่ใช่นาย…”
“แล้วเวลาอยู่ด้วย…นายรู้สึกยังไงล่ะ…สัมผัสได้ถึงความรักแบบแม่ที่มีต่อลูกบ้างรึเปล่า…”
คาเวห์ถึงกับเงียบกริบ…เพราะสิ่งที่เขาสัมผัสได้คือกำแพงขนาดใหญ่ที่ขวางกั้น
ไม่ให้เขาฝ่าเข้าไปยังหัวใจดวงนั้นของมาดามซันเดียได้
…ผู้หญิงคนนั้นดูอบอุ่น…อ่อนหวาน แต่ยากจะคาดเดา…
จนดูแตกต่างจากแม่ในความทรงจำของเขา!
“แตกต่างจากความทรงจำ…และจะว่าไป…มาดามซันเดียครอบครองคฤหาสน์เจนนาลี
ด้วยการซื้อขาย…ไม่ใช่มรดกจากสามีผู้ล่วงลับ…
ฉันจึงไม่คิดว่ามาดามซันเดียจะใช่มะลุลี กรินทร อย่างที่นายและมาดามซันเดีย
พยายามทำให้ฉันกับเจนเข้าใจแบบนี้มาตลอด…”
ก่อนจะกล่าวสืบไปว่า
“โดยได้มาผ่านการซื้อขายระหว่างมะลุลี กรินทรกับป้าทับทองที่เป็นพี่สาวของป้าทับทิม
ซึ่งเป็นเลขาของนาย…โดยในภายหลังจากการขายเพียงสองวัน…
บ้านพักตากอากาศที่ครอบครัวอันแสนสุขของเราไปพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาวก็ถูกเผา…
ผู้หญิงท้องแก่หน้าตาเหมือนแม่เรายิงพ่อและเผาท่าน…เผาบ้าน…
ควันไฟนั่นได้นำพาความสุขบินหายไปจากชีวิตฉัน…และชีวิตของพวกเราทั้งหมด…
แล้วนายจะไม่ให้ฉันออกตามหา…แม่…ในความทรงจำดีๆของฉันได้ยังไง…
ฉันแค่อยากรู้ว่าแม่คนนั้น…อยู่ที่ไหน? แล้วทำไมต้องยิงพ่อ ทำไมต้องเผาบ้าน
ทำไมถึงได้ทำลายครอบครัวอันแสนสุขของพวกเรา…
แม่ได้รับสิทธิ์ในการขายได้ยังไง...แล้วทำไมถึงขายทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้กับป้าทับทอง...
ก่อนจะทำลายครอบครัวตัวเองด้วย…แม่ทำแบบนั้นทำไม…ทำได้ยังไง…”
แววตาของคาเวห์เจ็บปวดทุกคราเมื่อนึกถึงภาพสะเทือนขวัญในอดีต
ก่อนจะสาวความออกมาว่า
“ซึ่งหลังจากนั้น…หลังจากที่มะลุลี กรินทรหายสาบสูญไปพร้อมกับคนอื่นๆในครอบครัว
เพราะเหตุเพลิงไหม้…ป้าทับทองก็ขายที่ในกรรมสิทธิ์ของตระกูลกรินทร
ให้กับผู้หญิงที่มีสัญชาติไทยชื่อซันเดีย เบย์…ซึ่งก็คือมาดามซันเดีย บอน…
ภรรยาของดอน บอน…โดยที่มาดามซันเดีย บอนมีหน้าตาเหมือนแม่มะลุลีของเรา
อย่างกับแกะออกมา…เหมือนอย่างกับเป็นฝาแฝดกัน!”
โซรันมองหน้าคาเวห์นิ่งทีเดียว เพราะคาดไม่ถึงว่าคาเวห์จะสามารถรู้รายละเอียดพวกนี้…
“นายรู้ได้ยังไง…ทั้งๆที่ฉันมั่นใจว่าข้อมูลนี้เป็นข้อมูลลับ…ป้าทับทองกับป้าทับทิม
เป็นคนบอกนายหรือคาย…เพราะนอกจากทั้งสองแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ความเป็นมาของเรื่องนี้…”
“ฮึ…ฉันมีวิธีรู้ของฉันเหมือนที่นายก็มีวิธีหาคำตอบของนายนั่นแหล่ะ…
เพราะฉันไม่เชื่อว่านายจะได้คำตอบจากปากของมาดามซันเดียแน่…
และอย่างน้อยๆฉันก็รู้ว่า…หน้ากากที่นายสวมอยู่น่ะ…คือหน้ากากของน้องชายอีกคนนึงของเรา…
แค่เกิดกันคนละท้องแม่เท่านั้นเอง…”
โซรันถึงกับตะลึงงันเมื่อคาเวห์เหมือนจะรู้ในสิ่งที่เขาไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะรู้!
“แถม…คาออส เบย์ ยังใช้นามสกุลเดิมของมาดามซันเดียอีก…
หรือนายจะไม่ยอมบอกฉันสักนิดว่า…เจ้าของใบหน้าที่นายยืมมาใช้อยู่นี้น่ะ…
เป็นน้องชายของเรา และเป็นหลานชายของมาดามซันเดีย
หลานชายที่เกิดจากน้องสาวต่างมารดาของมาดามซันเดีย…
และถ้ามาดามซันเดียคือแม่ผู้ให้กำเนิดเรา…ซันนี่ เบย์ ก็คือคุณตาของพวกเรา…
แล้วทำไม…คุณยายของเราถึงไม่เคยเอ่ยถึงท่านให้พวกเราฟัง…ไม่เคยพูดเกี่ยวกับท่านเลย…
ไม่เคยพูดถึงลูกสาวคนไหนของท่าน เรารู้เพียงแค่ว่า แม่มะลุลีเป็นลูกสาวคนเดียวของท่าน
ที่สำคัญ…แทนที่คุณยายของเราจะทำพินันกรรมยกที่ดินผืนสุดท้ายของตัวเอง
ให้กับลูกหลาน ท่านกลับยกให้…มัสรานี จิตซื่อตรง!
ก่อนที่มันจะถูกทำให้กลายเป็นโมฆะ…โดยให้พินัยกรรมนั่นเป็นพินัยกรรมที่ไม่สมบูรณ์
หลังจากที่เจ้าของคนเดิมเสียชีวิตไปแล้ว…
แต่สุดท้ายที่ดินผืนนั้นก็ตกไปเป็นของ…ท่านกวี อดิรัตน์เวคินทร์
ซึ่งเป็นพ่อของนายกวินทร์ นายกวินทร์ที่เป็นสามีของอลินดาที่เป็นอดีตคนรักของมัสลัน…
นี่ใช่มั้ย…เหตุผลที่นายเลือกมัสรานีมาเป็นเมียฉัน แล้วเลือกมัสลันให้เป็นสามีของเจน…
เพราะครอบครัวนี้เกี่ยวโยงกับความต้องการในส่วนลึกของนายด้วย…”
โซรันมองคาเวห์นิ่งทีเดียวเมื่อน้องชายฝาแฝดของเขาสาวปมที่คนในอดีตผูกเอาไว้
ออกมาทีละเส้นๆ
“ฉัน นายและเคน…เราต่างรักและผูกพันกับบ้านสวนของคุณยาย…
โดยเฉพาะนาย…นายเคยถึงกับเอ่ยปากขอบ้านหลังนั้นของคุณยาย
หากคุณยายไม่ต้องการมันแล้ว…แต่นายรู้...รู้แล้วว่า...คุณยายไม่ได้ต้องการ
ยกมันให้พวกเรา...แต่มีเจตนาที่จะยกมันให้มัสก่อนตาย...มันคือความต้องการ
ของคนตาย...และนิมัสราเหมือนจะทำให้แผนการเกือบทั้งหมดของนายพัง...
เมื่อนายทำให้นิท้องลูกของนาย!”
โซรันรู้สึกเหมือนมีก้อนแข็งๆแล่นเข้ามาจุกอยู่ตรงลำคอ ก่อนจะเปรยออกมาว่า
“นาย…เป็นใคร?เป็นใครกันแน่?” นั่นคือคำถามที่โซรันถามน้องชายฝาแฝดของเขา
“คือฝาแฝดของนายไงล่ะ…” คาเวห์ตอบแบบกำปั้นทุบดิน
“ฮึ...อย่างน้อยการที่เราสองคนมีลูกชายและลูกสาวฝาแฝดก็ดูจะไม่ใช่
เรื่องบังเอิญสักเท่าไหร่…หากว่าแม่ของพวกเรามีฝาแฝด…
แต่…ใครล่ะ…ใครคือแม่ที่คลอดเรามา…และใครคือแม่ที่เลี้ยงดูพวกเรา
ทำให้ทุกวันของเรามีแต่ความสุข…แม่เรา…คือคนไหนกันแน่?”
โซรันผ่อนลมหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง เมื่อเขาแทบไม่จำเป็นต้องปกปิดอะไรอีกฝ่าย
ให้เสียเวลา…
“บอกฉันได้มั้ยคิน…ว่ามาดามซันเดียบอกนายว่าไง…ตอนที่หอบนายไปอยู่ด้วยที่นีฮาล…”
โซรันทอดถอนใจก่อนจะบอกคาเวห์ตามตรงว่า
“บอกว่า…เป็นแม่มะลุลี…แต่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อเพื่อความปลอดภัย…
และนายคงรู้ว่า พอฉันโตขึ้นเรื่อยๆ ฉันย่อมต้องสงสัยว่าทำไมแม่ของฉันถึงมีลูก
กับดอน บอน แล้วไปแต่งงานกับผู้ชายอีกคน แล้วมีลูกสาวกับสามีคนใหม่คือ เจน
แต่สุดท้ายก็…ฆ่าสามีใหม่แล้วหวนกลับมาแต่งงานกับสามีเก่า…
ฉันแค่รู้สึกว่าแม่ที่ฉันรู้จักไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น…ไม่น่าจะสองใจ…เปลี่ยนใจได้ง่ายดาย…
แม่มีจิตใจมั่นคงและดูรักพ่อมาก…” คาเวห์ก้มหน้า ยกสองมือขึ้นคลึงขมับ
“ฉันเชื่อมาตลอดว่า แม่คือแม่คนเดิมที่ฉันรู้จักมาตั้งแต่รู้ความ…
แต่เพิ่งจะมาเสียใจอย่างที่สุด…ก็ตอนที่แอบได้ยินดอนขอเจนกับแม่…
แล้วแม่ก็ไม่ปฏิเสธ…ยินดีจะยกเจนให้ดอน…ทั้งสองพูดกันโดยมีนัยยะว่าเจนไม่ใช่ลูกของตัวเอง…
ทั้งๆที่เจนหน้าตาแกะออกมาจากมาดามซันเดียหรือแม่มะลุลีด้วยซ้ำไป…
ตอนนั้นฉันสงสารน้อง…อยากช่วยน้อง…เลยเฝ้าคิดหาหนทางมาตลอด…
ฉันวางแผนมานาน...นานจน…มันเพิ่งจะมาเห็นผล เมื่อเจนได้แต่งงานกับมัสลัน…
แล้วไปให้พ้นจากวงโคจรของทั้งสอง!พาไปไกลๆจากพวกเราทุกคน!”
“มาดามซันเดียรู้รึเปล่าว่านายแอบได้ยินเรื่องนั้น…” โซรันส่ายหน้า
“ไม่…ฉันเป็นนักแสดงนะคาย…นายก็เห็นแล้วว่า ฉันแสดงได้หลากหลายบทบาท…
และถ้าเจนไม่ใช่ลูกสาวของดอนกับมาดามซันเดีย เจนก็ต้องเป็นลูกสาวของฝาแฝด
ของมาดามซันเดีย…ฉันจึงเฝ้าตามหาผู้ที่เป็นดั่งกระจกสะท้อนเงาของมาดามซันเดีย…
อยากรู้ว่าฝาแฝดของท่านหายไปไหน…แล้วยังมีชีวิตอยู่รึเปล่า…”
คาเวห์ส่ายหน้าก่อนจะยกมือห้ามโซรันไว้
“พอก่อนเถอะ…สำหรับเรื่องของ…แม่…เรายังมีเวลาสำหรับเรื่องนี้อีกมาก…
และตอนนี้มันยังไม่สำคัญเท่าเรื่องของเคน…และฉันคิดว่า…มันถึงเวลาแล้ว
ที่ฉันจะต้องกลับไปเคลียร์เรื่องทุกอย่าง…ไม่ควรผลักภาระให้เคนแบกรับอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้”
“ก็ฉันบอกว่ามันคือกับดัก…ทำไมนายถึงยังจะเดินไปสู่กับดักนั่นอีก”
“เมื่อก่อนนายก็วางกับดักให้ฉันเดินไปหากับดักของนาย แล้วนายก็เห็นแล้วว่า…
ฉันทำยังไงกับกับดักของนาย…เผลอๆ…นี่อาจจะเป็นกับดักของนายอีกก็ได้…ใครจะไปรู้…”
โซรันเม้มปากก่อนจะยืนยันว่า
“นี่ไม่ใช่แน่ๆ…ฉันไม่ได้อยู่เบื้องหลังเรื่องของเคน…เคนเป็นอิสระจากแผนการของฉัน…
เพราะฉันเอื้อมไม่ถึงทาคายูกิ…คนๆนี้ไม่ใช่คนที่ใครจะเข้าถึงได้ง่ายๆนะคาย…
และการที่นายจะเดินไปสู่กับดักของคนๆนี้ ย่อมไม่ใช่เรื่องที่ปลอดภัยนัก…”
“หรือนายไม่อยากรู้ว่าทาคายูกิ…ต้องการอะไรจากฉัน…นายเป็นคนบอกฉันเองว่า
ทาคายูกิ…อยากเจอฉัน อยากได้ตัวฉัน…และนั่นอาจเป็นเหตุผลที่เคนต้องการตัวมัส
เพื่อต่อรองบางอย่างจากฉัน…ถึงได้พยายามจะช่วงชิงมัสไปจากฉัน…ในตอนนั้นก็เป็นได้...”
“ฮึ…นายเริ่มเข้าใจบางอย่างแล้ว…” ก่อนจะบอกว่า
“และสิ่งที่นายควรจะรู้เอาไว้ก็คือ…ทาคายูกิรู้มาตลอดว่าคุโรสึกิ ดันยุคือนาย…
และรู้ด้วยว่านายคือลูกชายอีกคนของดอน…
เพราะนายคงรู้ตัวดีว่านายกับมัสถูกไล่ล่าจากเคน…เพราะอะไร
ถ้าไม่ใช่เพราะว่า…เคนรู้จักนายดี…อาจจะดีกว่านายด้วยซ้ำ”
ก่อนจะถามเพื่อให้อีกฝ่ายคิดต่อ
“นายไม่สงสัยบ้างหรือว่า…ทาคายูกิรู้ได้ยังไง…รู้อะไรๆเกี่ยวกับพวกเราได้ยังไง”
รอยยิ้มตรงมุมปากของคาเวห์ผุดปราย
“จะแปลกอะไร ถ้าสึบาสะคือหนอน…เจ้านั่นคิดจะกำจัดฉันมาตลอด…
เพราะไม่ต้องการให้ฉันขวางทางการขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำของมัน…
สีบาสะไม่เคยคิดถึงเรื่องอะไรมากไปกว่าเรื่องอำนาจกับเรื่องใต้สะดือ”
“ถ้าอย่างนั้น…สึบาสะรู้รึเปล่าว่าเคนไม่ใช่ดันยุตัวจริง…”
“ถ้ามันร่วมหัวกับทาคายูกิ แน่นอน…ว่ามันย่อมต้องรู้…
แต่เจ้านี่ไม่เคยซื่อสัตย์กับใครหรอกนะ…”
“แล้วนายบอกเคนเรื่องนี้รึเปล่า…”
“เคนรู้…ฉันเตือนเขาแล้วว่าอย่าไว้ใจสึบาสะ…” โซรันกลอกตาไปมา
ก่อนจะถามเหมือนไม่แน่ใจว่าตัวเองควรถามออกไปรึเปล่า
สีหน้าของเขาขณะถามจึงดูกระอักกระอ่วนใจอยู่ไม่น้อย
“นายไว้ใจเคนแค่ไหน…นายมั่นใจแค่ไหนว่าเคนจะไม่หักหลังเรา…
นายก็รู้ว่าถึงเราจะเป็นพี่น้องกัน แต่เราก็…ห่างหายกันไป…
โตมากับสังคมและสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกัน…เคนอาจจะไม่ใช่เคนแบบที่เราเคยรู้จักมาก่อน
แล้วก็ได้…”
คาเวห์หันมาสบตากับพี่ชายฝาแฝด แล้วคลี่ยิ้มออกมา
“ถูกของนาย…เราสามคนโตมาในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมือนกัน…
เคนไม่ใช่เคนที่ฉันเคยรู้จัก…นายเองก็ไม่ใช่คินคนเดิมเมื่อตอนเด็กๆ
ฉันเองก็เช่นกัน…เราโตและเราก็เปลี่ยนแปลงไป…” ก่อนจะย้ำหนักๆว่า
“และเคนหักหลังนายกับฉันแน่…เขามีแผนการเป็นของเขาอยู่แต่เดิมแล้ว
ซึ่งฉันไม่รู้ว่าเคนมีแผนการสำหรับสิ่งใด…แต่ฉันมั่นใจอยู่อย่างนึงว่า…
เคนไม่ทำร้ายพวกเราหรอก…เขาคงไม่เลวขนาดฆ่าพ่อแม่พี่น้องของตัวเองแน่…”
โซรันพ่นลมหายใจออกมาด้วยสีหน้าที่ยังไม่คลายจากความเครียดและกังวลกับปัญหา
“เขาอาจถูกเสี้ยมมาแบบผิดๆก็ได้..."
"ฉันดูเคนออก...คนลักษณะแบบนั้น...ยากจะครอบงำหรือหลอกอะไรได้โดยง่าย...
เหมือนนายกับฉัน ที่ย่อมต้องสงสัยและหาคำตอบให้คลายจากความสงสัยนั่นแหล่ะ
เรา...ต่างก็มีหัวกบฎ...ไม่เชื่อสนิทใจจนกว่าจะหยุดการสงสัยเรื่องนั้นๆลง..."
"แล้วเราควรทำอย่างไรกับสถานการณ์นี้ดี…”
โซรันเริ่มปรึกษาหารือกับอีกคนด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าคิดไม่ออกแล้ว
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉัน…ส่วนนาย…ช่วยดูแลปกป้องลูกเมียของฉันด้วยก็แล้วกัน…
เพราะไปครั้งนี้…ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง…”
“นายจะเดินไปหากับดักเพียงลำพังหรือคาย…” คาเวห์พยักหน้า
“มีเพียงทางนี้ทางเดียวที่เหลืออยู่…เพราะถ้าฉันไม่ยอมให้พวกมันได้ในสิ่งที่พวกมันต้องการ…
ฉันก็คงไม่มีวันได้ในสิ่งที่ฉันต้องการเหมือนกัน มันจำเป็นต้องแลกเปลี่ยน
ผลประโยชน์ของกันและกัน…”
“แต่พวกนั้นมันไม่ใช่คนที่นายจะเข้าไปแลกอะไรๆแล้วไม่ขาดทุนกลับมาหรอกนะคาย…”
“ฉันอยู่กับพวกนั้นมานาน…นายอาจจะคิดว่าฉันไม่รู้จักทาคายูกิ…
แต่เชื่อฉันสิว่า…ฉันรู้จักคนๆนี้มากกว่านายแน่นอน…ไม่อย่างนั้นฉันก็คงไม่เลือกเคน
แทนที่จะเลือกนายให้ไปเป็นตัวแทนของฉัน…
เพราะระหว่างเคนกับนาย…แน่นอน…ฉันไว้ใจนายยิ่งกว่าเคน…
เพราะนายกับฉัน…มีบางอย่างที่เราก็รู้กันดี…ว่ามันสื่อถึงกันได้”
คาเวห์ยิ้มบาง โซรันยิ้มรับก่อนจะวาดแขนโอบใหล่คาเวห์เอาไว้
“ที่สำคัญ…นายไม่เหมาะกับบทบาทของดันยุเท่าเคน…อย่างที่เห็น เคนทำมิโฮท้อง…
ทั้งๆที่ฉันเตือนเอาไว้แล้วว่าให้ระวัง…แต่ก็พลาดจนได้…”
“นี่นายกำลังจะบอกว่า ถ้าฉันเป็นดันยุ ฉันก็คงทำมิโฮท้องเหมือนเคนใช่มั้ย…
นายเห็นฉันเป็นอะไร…”
“เป็นผู้ชายที่ไม่ได้เป็นหมัน!” โซรันถึงกับอึ้ง และยิ่งทึ่งเมื่อคาเวห์เฉลยว่า
“ฉันไม่เคยเชื่อเรื่องที่นายเคยบอกว่านายเป็นหมันและเป็นโรคมะเร็งน่ัน
อย่างจริงๆจังๆเลยจริงๆนะคิน…หรือจะเรียกง่ายๆก็คือ…ฉันจะไม่เคยปักใจเชื่อคำพูดคน
ในทันทีทันใดโดยไม่มองไปยังองค์ประกอบแวดล้อมอื่นๆ…ยิ่งท่าทางของนายที่มีต่อนิ…
มันยิ่งทำให้ฉันหมดความเชื่อนั้นไปทีละน้อย…
แล้วสุดท้าย…นายก็ทำนิท้อง!”
โซรันถึงกับใช้ลิ้นดุนกะพุ้งแก้มตัวเองแก้ขัดแก้เขิน
“คิดดูว่านิจะเป็นยังไง…ถ้านายเกิดทำมิโฮท้อง…เรื่องระหว่างนายกับนิก็จะยิ่ง
ยุ่งเหยิงอีรุงตุงนังยิ่งกว่าก่อนหน้านี้แน่ๆ...นั่นคือเรื่องที่ฉันไม่อาจปล่อยผ่าน…
เคนไม่มีพันธะผูกพัน ไม่เหมือนนาย…”
โซรันกระชับใหล่ที่โอบไว้แน่นขึ้นก่อนจะปล่อยออก
“และตอนนี้กระแสข่าวถูกปล่อยออกมาว่าคุโรสึกิ ดันยุตายไปแล้ว
เพราะฝีมือของนาคาอิ และดอนคือคนฆ่านาคาอิ…ฉันจึงอยากให้แน่ใจว่าเคนยังปลอดภัย…
ต่อให้กับดักนั่นจะเป็นยังไง…ฉันก็ไม่กลัวหรอกคิน…
เพราะกว่าจะเดินทางมาถึงจุดนี้ได้…ฉันตกลงไปในกับดักหลุมพรางมามากต่อมากแล้ว…
ซึ่งมันไม่สำคัญเท่ากับว่า…เราจะหาทางขึ้นมาได้ยังไง…ต่างหาก…
มนุษย์เรา…ไม่สู้ก็ตาย สู้ก็ตาย…ยังไงๆความตายก็ต้องมาถึงเราในสักวันอยู่ดี…
ต่อให้หลบเร้น ก็ใช่ว่าจะปลอดภัยจากความตาย…
ดอนกับมาดามซันเดียเองก็ดูเป็นกังวลไม่น้อยกับการหายตัวไปอย่างเงียบเชียบของเคน…
และ…ฉันไม่ต้องการให้ไอ้สึบาสะมันเป็นประมุขพรรคพระจันทร์สีดำ
เพราะทันทีที่มันมีอำนาจ…จะมีผู้คนอีกมากมายต้องเสียเลือดเสียเนื้อเพราะมัน…
ยิ่งกว่าตอนที่นาคาอิและเคนเป็น…ไอ้นี่มันไม่มีหัวใจ…จะเรียกว่าปราศจากความเป็นมนุษย์
ไปแล้วอย่างสิ้นเชิง…ก็ไม่แปลก…”
“แล้วนายไม่กลัวอมนุษย์ตนนี้หรือคาย…”
“ถ้าฉันกลัวมัน…ก็เท่ากับฉันกลัวเงามืดของตัวเอง…” ก่อนจะมองโซรันนิ่งขณะกล่าวว่า
“ไม่ว่ามนุษย์เราจะเกิดมามีสีอะไรก็ตาม…แต่เงาของมนุษย์กลับมีสีเดียวกันหมด…
ไอ้สึบาสะมันเคยเจอแต่เงาของฉัน…แต่มัน…ไม่เคยเจอเจ้าของเงานั่น…
มันจึงยัง...รู้จักฉัน...ไม่ดีพอ...หรืออาจจะแทบ...ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับฉันเลย!”
หากยังไม่ทันที่คาเวห์จะได้ทำตามแผนการดังกล่าว ก็มีคนเจาะเข้าระบบการสื่อสาร
ระหว่างเขากับเคนสำเร็จ…และคนๆนั้นคือ 'อะโอสึกิ ทาคายูกิ'
“ตกใจล่ะสิ…ที่ฉันเห็นแก…”
คาเวห์มองชายกลางคนรุ่นราวคราวเดียวกับดอนหรืออาจจะมากกว่า
หากพิจารณาที่หน้าตาและสังขารณ์ที่ร่วงโรยลงผ่านทางหน้าจอเครื่องมือสื่อสาร
ในห้องทำงานของตน…
“มีใครบางคนที่แกคงอยากเจอ…เขาอยู่ด้วยกับฉันตรงนี้…”
คาเวห์ถึงกับตาเบิกโพลงเมื่อเห็นน้องชายของเขานอนอยู่บนเตียง
มีสายระโยงระยางเต็มไปหมด…เป็นสภาพที่ต้องพึ่งพาเครื่องช่วยหายใจ
“ถ้าอยากได้ตัวมันกลับไป…แกต้องมารับตัวมันกลับไปด้วยตัวแกเอง
ห้ามส่งใครที่ไม่ใช่แกมา…และห้ามให้ใครรู้เรื่องนี้ทั้งนั้น…
ไม่อย่างนั้น…ฉันจะเป่าหัวน้องชายไม่รักดีของแกซะ!”
“ที่ไหน?”
“จำบ้านที่โดนเผาของพวกแกได้มั้ย…นั่นล่ะ…”
แล้วภาพทั้งหมดก็ถูกตัด…ทิ้งไว้เพียงหน้าจอที่ว่างเปล่าทันที
คาเวห์จ้องมองความว่างเปล่าบนหน้าจอนั่นก่อนจะหลับตาลง…เพ่ือชั่งใจ!
.....................โปรดติดตามตอนต่อไป.................
ระวังจะสงสารจนตกหลุมรักคนไม่ดีเข้านะคะ ^^
วันนี้อยากทำตัวน่ารักๆ ให้นักอ่านช่วยเอ็นดู เข้ามาเมนท์เป็นกำลังใจให้กันเยอะๆ
ด้วยการ แตกประเด็นให้นักอ่านตามแกะรอยปมในเรื่องนี้อย่างสะดวกกว่าเดิม
เพราะเชื่อว่า หลายท่าน ขี้เกียจกลับไปอ่านย้อนหลังและโยก็ขี้เกียจท้าวความเดิม
และเนื่องจากเรื่องนี้ยาวววววมากกกกก และโยไม่ได้อัพอย่างต่อเนื่อง นักอ่านอาจทำอะไร
ตกหล่นเพราะลืมเลือน และคนเขียนอาจจะทำไก่หลุดไปโดยไม่รู้ตัว เอาเป็นว่า
คราวนี้เต่าจะนำประเด็นสำคัญต่างๆในเรื่องนี้มาแปะเพื่อเป็นไกด์ให้นักอ่านกันตรงนี้เลยนะคะ
1.เริ่มจากการแต่งงานของคายกับมัส...ซึ่งคินเป็นคนสร้างเงื่อนไขทุกอย่างขึ้นมาทั้งหมด
โดยมีคฤหาสน์เจนนาลีเป็นรางวัล แต่สุดท้าย คายกับมัสกลับยกเลิกเงื่อนไขนั่น
ด้วยการไม่ใส่ใจจะทำตามและมัสไม่ได้ต้องการคฤหาสน์เจนนาลีอีกต่อไป...
เพราะมันแค่...ทางผ่านไปสู่...เป้าหมายของคายและคินเท่านั้น
2.ตอนสามหนุ่ม คิน คาย เคนยังเป็นเด็กน้อย บ้านพักตากอากาศถูกเผา
แม่ซึ่งกำลังท้องแก่ใกล้คลอด ตอนนั้นคายเห็นแม่กำลังเหนี่ยวไกปืนฆ่าพ่อ
แล้วเอาน้ำมันราดตัวพ่อแล้วก็เผาคนพร้อมบ้าน…แล้วคายหนีตะเลิดเปิดเปิง…
หลบหนีไปบ้านยายทัั้งๆที่ยายเสียชีวิตไปก่อนหน้านั้นแล้ว
หนูมัสเพื่อนข้างบ้านทีี่เป็นแฟนคนแรกก็ย้ายบ้านหนีไปซะแล้ว
(ทำไมถึงย้ายหนีหนอ)
3.ตอนไปฮันนีมูนที่ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น คินหรือโซรันเตรียมบ้านพัก
ที่พ่อกับแม่ของพวกเขาเคยไปพักอาศัยตอนฮันนีมูนด้วยกันที่นั่น
และยังพาพวกเขาไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกันที่นั่นมาแล้ว เจอเคน…
เคนพยายามช่วงชิงมัสไปจากคาย…แต่ไม่สำเร็จ
4.เคนชอบมัสและตอนเด็กๆเคยปลอมตัวเป็นคาย ซึ่งตอนนั้น
มัสได้ตกลงเป็นแฟนกับคายเพราะไอติมแท่งเดียวเสียแล้ว...
5.คายมารู้ในภายหลังว่าพ่อที่แท้จริงคือ ดอน บอน…ผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำธุรกิจทั้งสะอาด
และไม่สะอาดปะปนกัน...มีฉายาว่าเป็นราชาแห่งท้องฟ้าและท้องทะเล...
6.คินไม่เคยกลับไปบ้านที่พ่อกับแม่อยู่อีกเลยหลังจากเดินทางจากมา...
แถมยังส่งคายให้ไปสวมรอยแทนตนอีก ซึ่งคายตกลงแต่โดยดี ไม่มีขัดขืน
7.คินใช้หน้ากากอยู่เสมอ ไม่ยอมเปิดเผยหน้าจริงให้คนทั่วไปเห็น
8.คินเลือกคาออส เบย์ เป็นหน้ากาก โดยที่คาออส เบย์มีตัวตนจริงๆ
แต่หายสาบสูญไปแล้ว ซ้ำยังเป็นคนรักของดานิกา กรินทร
ซึ่งกรินทรคือ นามสกุลของพ่อที่เลี้ยงดูสามหนุ่มมาตั้งแต่เด็กๆ
และคือคนที่ถูกยิงและถูกเผาในกองไฟไปพร้อมๆกับบ้านพักตากอากาศหลังนั้น
9.มะลุลี หายไปไหน แล้วมาดามซันเดียเป็นใครกันแน่…
10.เจนนินทร์เป็นลูกของใครกันแน่?
11.ทาคายูกินำเคนไปเลี้ยงดู...แล้ว...เคนไปตกอยู่ในมือของทาคายูกิได้ยังไง?
12.คายเป็นลูกบุญธรรมของนาคาอิ…และคายเคยถูกลอบฆ่าเมื่อหลายปีก่อน
พร้อมกับแม่บุญธรรม ทำให้เครื่องบินตกในป่า
ก่อนจะรอดออกมา...แล้วเปลี่ยนชื่อมาเป็น คาเวห์ นาวาโฮ
ซึ่งได้สมัครเป็นยามเฝ้้าบ้านให้พี่ชายฝาแฝด…ที่คฤหาสน์เจนนาลี
บ้านเก่าที่พวกเขาเคยร่วมอาศัยด้วยกันเมื่อครั้งยังเยาว์
13.มีหลายอย่างที่ดูเหมือนบังเอิญ แต่มันจะบังเอิญขนาดนี้…ได้ยังไง???
14.มาดามซันเดียมีสิทธิ์ในคฤหาสน์เจนนาลี และได้ยกบ้านหลังนั้น
ให้เป็นสิทธิ์ของโซรันหรือคินในเวลาต่อมา ทำไม?
15.ทำไมคุณยายของสามหนุ่มถึงยกที่ดินผืนสุดท้ายของตนเองให้กับมัสรานี
ทั้งๆที่ตอนนั้นหนูมัสอายุแค่ไม่กี่ขวบด้วยซ้ำ หนูมัสและครอบครัวรู้เรื่องนี้รึเปล่า?
16.คาออส เบย์คือลูกของดอน จริงหรือ? แล้วยังมีชีวิตอยู่รึเปล่า
แล้วถ้าเกิดว่ายังมีชีวิตอยู่ ทำไมไม่โผล่ออกมา
17.เมื่อตอนเด็กๆ ดอนถูกเก็บมาจากข้้างถนนให้มาเป็นตุ๊กตาหุ่นยนต์
ให้กับทาคายูกิ...แล้วดอน...เป็นดอนในวันนี้ได้ยังไง?
18.ลูกชายและลูกสาวของทาคายูกิตายเกลี้ยง…ทำไมถึงตาย?
19.สึบาสะฆ่าพี่ชาย…และดอนรู้ไปถึงว่าครอบครัวของนาคาอินั้นเป็นมาอย่างไร…
รู้ดีไปถึงประวัติพ่อของนาคาอิที่ฆ่าพี่น้องและพ่อตัวเองเพื่อที่ตัวเองจะได้เป็นใหญ่
20.ใครคือผู้อยู่เบื้องหลังเพลิงไหม้เมื่อยี่สิบกว่าปีกันแน่?
21.ทำไมเคนถึงไปอยู่ในมือทาคายูกิ ที่รู้จักดอนดี...
22.ทำไมดอนถึงไม่ได้เลี้ยงดูลูกทั้งสามของตัวเอง…
23.ทำไมมัสรานีและครอบครัวจึงถูกเลือก…ทั้งๆที่ดูเหมือนไม่มีอะไรเลย...
แค่คนธรรมดาๆเท่านั้น
24.คายทำงานอะไรกันแน่…และคินมีเป้าหมายคืออะไร
ส่วนเคน…เขาคิดอะไรอยู่ในหัว…
25.กอมารุน กับ ซุลก๊อตไนท์...เกี่ยวข้องกับเรื่องราวเหล่านี้ยังไง?
26.พ่อกับแม่ของนางเอกเรื่องนี้ตายพร้อมกันด้วยอุบัติเหตุ...
ทั้งสามจึงเป็นเด็กกำพร้า ต้องย้ายที่อยู่บ่อยๆ...
27.บ้านของคุณยาย ที่ดินผืนสุดท้ายของคุณยายของพระเอก...อยู่ที่ไหน?
และสำคัญยังไง...ทำไมถึงมีคนอยากได้นักหนา...ใช่ที่ดินผืนเดียวกันกับที่
กอมารุนนำมาให้คายกับมัสเป็นของขวัญวันแต่งงานรึเปล่า???
เอามาให้แค่ 27 ปมนะคะ ส่วนปมที่เหลือ...ปล่อยให้นักอ่านหาดีกว่า...ฮ่าาาาาา
(บอกแล้วว่าเรื่องนี้ปมไม่ได้เยอะเลย...ส่วนตัวละครก็ไม่ได้งอกเพิ่มนะคะ
แค่เปิดตัวเอาไว้ตอนต้นๆเรื่องแล้วปล่อยผ่านให้นักอ่านลืมๆไปซะ
แล้วจึงค่อยย้อนกลับไปนำตัวมาให้นักอ่านงงว่านี่ใครแล้วหว่า โผล่มาจากไหนเนี่ย
แล้วมาได้ยังไง คนเขียนขุดขึ้นมาจากหลุมที่เคยกลบเอาไว้ก่อนหน้านี้ทำไมหว่า แหะๆ) ^^
ปล.ฉากหวานๆชักเริ่มน้อยไปนิด...เต่าเลยคิดว่า ตอนหน้าจะเอาฉากหวานๆมาให้นักอ่าน
หายขมคอค่ะ สนใจขนมไทยหรือว่าขนมชาติใด รีเควสกันมาได้นะคะ ^^
ปล.อีกที...โยขอนำคอมเมนท์ของนักอ่านจากตอนที่แล้วรวบยอดไปตอบทีเดียว
ในตอนหน้านะคะ ^^
ขอบคุณทุกท่านที่ให้การติดตามนิยายที่ทั้งยาวและยืดเรื่องนี้มากๆค่ะ
ตอนนี้ได้เวลารวบหัวรวบหางปมนิยายยาวๆเรื่องนี้แล้วน่ะค่ะ
มาร่วมเป็นกำลังใจให้เต่าและตัวละครเรื่องนี้กันเยอะๆนะคะ ต้องการกำลังใจ
จากนักอ่านมากๆ ^^
........สุดท้ายไม่ท้ายสุด.........
ขอให้สุขภาพแข็งแรงท้ังกายและใจกันถ้วนหน้าทุกท่านนะคะ
"เต่าโย"
yoraya
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ส.ค. 2559, 21:12:47 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ส.ค. 2559, 21:12:47 น.
จำนวนการเข้าชม : 1811
<< ลำที่ 65 It's Alright (100%) |
Kikkyntw 18 ส.ค. 2559, 22:12:26 น.
ปมเยอะมากก ชอบจุง ในใจก็คิดอยู่แล้วนะคะว่า มาดามซันเดียน่าจะมีแฝด เพราะติดใจประโยค ที่มาดามเคยถามมัสในคราบนิว่า พี่สาวหน้าตาเหมือนกันมั้ย
ดอนดูรักและห่วงลูกมากนะคะ แต่ทำไมถึงเกิดกรณี คาออส ขึ้น แล้วก็เรื่องที่คุณยายยกบ้านให้มัส แอบคิดว่าครอบครัวมัส ฝ่ายพ่อหรือแม่จริงๆแล้วต้องเป็นญาติกับคุณยาย..
ตัวละครไม่เยอะขึ้น แต่ๆละตัวมีบทบาทชัดเจนมากขึ้น
หลังจากนี้อาจจะไม่ค่อยได้มาเม้นนะคะ ใกล้จะสอบเนแล้วค่ะ แต่จะมาตามอ่านทุกตอนนะคะ
ตอนไหนติดใจมากจะเม้นเลยค่ะ 555555
เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ สู้ๆ
ปมเยอะมากก ชอบจุง ในใจก็คิดอยู่แล้วนะคะว่า มาดามซันเดียน่าจะมีแฝด เพราะติดใจประโยค ที่มาดามเคยถามมัสในคราบนิว่า พี่สาวหน้าตาเหมือนกันมั้ย
ดอนดูรักและห่วงลูกมากนะคะ แต่ทำไมถึงเกิดกรณี คาออส ขึ้น แล้วก็เรื่องที่คุณยายยกบ้านให้มัส แอบคิดว่าครอบครัวมัส ฝ่ายพ่อหรือแม่จริงๆแล้วต้องเป็นญาติกับคุณยาย..
ตัวละครไม่เยอะขึ้น แต่ๆละตัวมีบทบาทชัดเจนมากขึ้น
หลังจากนี้อาจจะไม่ค่อยได้มาเม้นนะคะ ใกล้จะสอบเนแล้วค่ะ แต่จะมาตามอ่านทุกตอนนะคะ
ตอนไหนติดใจมากจะเม้นเลยค่ะ 555555
เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ สู้ๆ
แว่นใส 18 ส.ค. 2559, 22:27:03 น.
จะหนีจากหลุมพรางยังไงนะ
จะหนีจากหลุมพรางยังไงนะ
Fidavs 18 ส.ค. 2559, 23:21:08 น.
อ่านตอนนี้แล้วอธิบายความรู้สึกไม่ถูก ทุกอย่างมันตื้อไปหมด ลางสังหรณ์บอกว่าเหมือนจะเกิดอะไรขึ้นกับเฮียคาย -- สงสารมัสกับลูกๆ
อ่านตอนนี้แล้วอธิบายความรู้สึกไม่ถูก ทุกอย่างมันตื้อไปหมด ลางสังหรณ์บอกว่าเหมือนจะเกิดอะไรขึ้นกับเฮียคาย -- สงสารมัสกับลูกๆ
kaelek 18 ส.ค. 2559, 23:29:26 น.
จะบอกว่าจำได้ว่ามีปมอะไรบ้าง แต่แค่ตอนนี้ตอนเดียว ก็เฉลยไปหลายปมแต่ก็เหมือนจะเพิ่มไปในคราวเดียวสำหรับเค้า ฮือๆๆ ทุกคนเกี่ยวโยงกันหมดเลย ..ทำไมคุณโยถึงเตือนว่าอย่าสงสารผิดคน ..ในใจก็คิดแบบเดียวกับพี่คายเลยนะ ว่าพี่เคนไม่น่าจะร้ายถึงขั้นทำร้ายพี่น้องได้ลงคอ ลุ้นต่อไปสินะ!!!
จะบอกว่าจำได้ว่ามีปมอะไรบ้าง แต่แค่ตอนนี้ตอนเดียว ก็เฉลยไปหลายปมแต่ก็เหมือนจะเพิ่มไปในคราวเดียวสำหรับเค้า ฮือๆๆ ทุกคนเกี่ยวโยงกันหมดเลย ..ทำไมคุณโยถึงเตือนว่าอย่าสงสารผิดคน ..ในใจก็คิดแบบเดียวกับพี่คายเลยนะ ว่าพี่เคนไม่น่าจะร้ายถึงขั้นทำร้ายพี่น้องได้ลงคอ ลุ้นต่อไปสินะ!!!
Kim 19 ส.ค. 2559, 00:01:51 น.
คายจะเอาตัวรอดยังไงจากกับดักนี้ เคนจะร่วมมือกับคนไม่ดีหรือจะช่วยพี่ชายตัวเอง
คายจะเอาตัวรอดยังไงจากกับดักนี้ เคนจะร่วมมือกับคนไม่ดีหรือจะช่วยพี่ชายตัวเอง
โคนันคุงคนเดิม 19 ส.ค. 2559, 08:10:16 น.
โหปมเต็มเลยถ้าใครเส้นโลหิตในสมองแตกจะทำยังไงเนี๊ยะคุณโย55555/ยังเชื่อมั่นในพี่เคนเป็นคนดีนะแต่อาจมีแผนซักหน่อย/มาดามน่ากลัวสุดนะความรู่้สึกติอนนี้เอาใจช่วยพี่คายไปพลางๆก่อน
คิดถืงน้องแฝดๆแอบคิดในใจ^^
โหปมเต็มเลยถ้าใครเส้นโลหิตในสมองแตกจะทำยังไงเนี๊ยะคุณโย55555/ยังเชื่อมั่นในพี่เคนเป็นคนดีนะแต่อาจมีแผนซักหน่อย/มาดามน่ากลัวสุดนะความรู่้สึกติอนนี้เอาใจช่วยพี่คายไปพลางๆก่อน
คิดถืงน้องแฝดๆแอบคิดในใจ^^