รัตนมณีแห่งหัวใจ (รัตน)
Tags: ความรักเดียวที่กษัตริย์แดนเถื่อนมีต่อเจ้าหญิงแห่งรัตนที่ตราตรึงในหัวใจ
ตอน: ตอนที่ 12/1
ตอนที่ 12
ภายในห้องรับรองพระราชอาคันคุกะส่วนพระองค์แห่งองค์ตีรณธร วรธรรอเข้าเฝ้าอยู่พอเห็นพระวรกาย
สูงสง่ามาถึงก็โค้งตัวลงถวายบังคมตามธรรมเนียมชาวหิรัณย์ องค์ตีรณธรทรงโบกพระหัตถ์ห้ามไว้
\\
“ไม่ต้องมากพิธีท่านผู้แทนพระองค์ วันนี้ท่านมาพบเราเป็นการส่วนตัวไม่จำเป็นต้องคำนึงกฎ
ระเบียบในวังหลวง ทำตัวตามสบายเถอะ ท่านมีเรื่องอะไรก็บอกมาไม่ต้องเกรงใจ”
“ถ้าอย่างนั้น ข้าพระองค์ขอขอนำความจากองค์อคินมากราบบังคมทูลให้ทรงทราบพ่ะย่ะค่ะ “
วรธรไม่อยากให้เสียเวลาจึงรีบเข้าเรื่องเมื่อนั่งลงบนเก้าอี้รับแขกตัวหรูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เดี๋ยวก่อนท่าน เราขอถามหน่อย น้องหญิงของเราเป็นอย่างไรบ้าง” ทรงเป็นห่วงพระขนิษฐา
องค์น้อยไม่น้อย
วรธรยิ้มเล็กน้อยที่มุมปากรกไปด้วยหนวดเคราพลางนึกชื่นชมกษัตริย์หนุ่มผู้นี้ เห็นทีคงเป็นพี่ที่รัก
น้องมากนอกเหนือจากหน้าที่เจ้าแผ่นดิน
“ทรงพระสำราญดีพ่ะย่ะค่ะ องค์อคินทรงพาชมทั่วหิรัณย์ก่อนจะมีพระราชพิธีอภิเษกสมรสพร้อม
กับสถาปนาให้เป็นราชินีคู่บารมีของพระองค์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ขอทรงวางพระทัย องค์อคินทรงดูแลและ
ยกย่องให้เกียรติพระขนิษฐาของพระองค์มากพ่ะย่ะค่ะ”
“ฝากขอบพระทัยองค์อคินแทนเราด้วย เราอยากรบกวนท่านอีกเรื่อง เราขอฝากนางกำนัลคนสนิท
ที่รับใช้น้องหญิงของเราคนหนึ่งไปยังหิรัณย์กับท่านด้วย หวังว่าคงไม่เป็นการรบกวนท่านมากเกินไป”
“ข้าพระองค์ยินดีเป็นอย่างยิ่งพ่ะย่ะค่ะ”
“ขอบใจ เอาล่ะเข้าเรื่องของท่านได้แล้ว”
“พ่ะย่ะค่ะ องค์อคินทรงทราบว่ามีโจรป่าอาจหาญมาปล้นขบวนรถม้าพระที่นั่งที่นำเจ้าสาวของพระองค์
ไปสู่หิรัณย์แล้วทรงไม่สบายพระทัยนัก ทรงดำริจะจัดการเรื่องนี้ด้วยพระองค์เอง จึงให้ข้าพระองค์มาขออนุญาต
พระองค์ให้หิรัณย์มาช่วยปราบปรามพวกโจรป่าที่บังอาจทำการฮึกเหิมหมิ่นเกียรติหิรัณย์ ขอทรงพิจารณา
ด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
พระพักตร์คมเข้มนิ่งสงบ องค์ตีรณธรกำลังใช้ความคิด นึกไม่ถึงองค์อคินจะมาแทรกได้ถูกจังหวะ
ในขณะที่พระองค์ยังหาเหตุผลมาปฏิเสธสินธุไม่ได้ หิรัณย์อาจมาด้วยเหตุผลอย่างที่อ้างหรือมากกว่านั้น
ช่างยากต่อการคาดเดานัก ผิดกับสินธุที่ยกเหตุนี้มาเป็นข้ออ้างในการส่งทหารเข้ามาควบคุมรัตนนคร
เห็นทีต้องฉวยโอกาสนี้เล่นกลย้อนกลับทางสินธุบ้าง
“ความปรารถนาดีขององค์อคินเราขอรับด้วยใจ เรื่องนี้เกิดในรัตนนคร เราในฐานะผู้ปกครองต้องรับ
ผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นเอง หากเราต้องการความช่วยเหลือจะรีบส่งคนไปทูลขอองค์อคินทันที”
วรธรพอได้ยินพระราชดำรัสตอบก็ยิ้มน้อยๆ องค์ตีรณธรสมเป็นกษัตริย์นักการทูตจริงๆแม้จะถูกสินธุ
บังคับจนไม่มีทางเลือกและการยื่นมือเข้ามาช่วยของหิรัณย์ก็เท่ากับช่วยรัตนให้พ้นจากการถูกสินธุกดดันได้
แต่กลับปฏิเสธ ทรงคิดอะไรอยู่กันแน่ ยากจะคาดเดาความคิดของกษัตริย์หนุ่มผู้นี้จริงๆ
“พ่ะย่ะค่ะ เห็นทีข้าพระองค์ต้องขอกราบถวายบังคมลาเสียที รบกวนเวลาของพระองค์มานานแล้ว”
“เราขอขอบใจอีกครั้ง ท่านคงเหนื่อยและอยากพัก เราจะให้คนพาไปยังเรือนรับรอง ก่อนท่านกลับ
เราขอฝากจดหมายแสดงความขอบคุณในน้ำพระทัยขององค์อคินไปด้วย เชิญพักให้สบายท่านผู้แทนพระองค์”
จากนั้นก็ทรงมีรับสั่งให้ทหารมหาดเล็กมานำทางให้
============================================================================
ตำหนักพระมเหสีวัสสิกา พระนางกำลังกลัดกลุ้มพระทัยกับเรื่องที่ไม่มีทางออก ทรงไม่รู้จะทำประการ
ใดดีกับเรื่องที่พระราชบิดากับพระเชษฐาบีบคั้น ทรงทอดถอนพระทัยอย่างหนักด้วยความอัดอั้นในพระทัย
พระเนตรงดงามทอดมองไปด้านนอกเนิ่นนานจึงไม่รู้ว่าองค์ตีรณธรได้เสด็จมาประทับยืนอยู่ใกล้ๆแล้ว
“องค์หญิง หม่อมฉันมีเรื่องจะบอก” พระสุรเสียงแห่งองค์ตีรณธรดังขึ้นทำลายความเงียบ
พระนางทรงหันพระพักตร์มามองพร้อมสุรเสียงไม่ยินดียินร้าย
“บอกหม่อมฉันไปก็ไม่มีประโยชน์ หม่อมฉันไม่เคยคิดทำอะไรเพื่อรัตนนครอยู่แล้ว ทุกอย่างเพื่อ
สินธุเท่านั้น”
องค์ตีรณธรทรงสดับแล้วรู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก ‘จริงสิ..ยังจะหวังอะไรจากชาวสินธุอีก ในเมื่อทราบอยู่แล้ว
ว่าทำไมกษัตริย์สินนพจึงยอมยกพระราชธิดาคนโปรดให้’
“จริงสินะ รัตนจะไปหวังอะไรจากสินธุ แต่หม่อมฉันจำเป็นต้องทำหน้าที่พระสวามีขององค์หญิงใน
เรื่องที่องค์หญิงต้องการให้ช่วย วันนี้ผู้แทนพระองค์จากหิรัณย์มาพบและร้องขอสิ่งเดียวกันกับที่ทางสินธุ
ขอมา หม่อมฉันรู้สึกว่าทั้งสองนครต่างหวังดีกับรัตนนคร หากหม่อมฉันตอบรับความช่วยเหลือจากหิรัณย์
ก็ควรจะตอบรับสินธุด้วยเพื่อความเสมอภาค แต่หม่อมฉันได้ปฏิเสธไปแล้ว หวังว่าองค์หญิงคงมีคำตอบ
ให้องค์จิรัชย์ได้แล้ว หม่อมฉันขอตัว”
พระวรกายสูงสง่าจากไปทันที ทิ้งให้พระนางประทับอยู่ตามลำพังเหมือนเดิม ใช่..องค์ตีรณธรทรง
ทำหน้าที่พระสวามีช่วยแก้ปัญหาให้ แต่ไม่เคยรับรู้ถึงความเจ็บปวดที่พระนางได้รับจากการกระทำของผู้
เป็นสวามีสักนิด
‘ทำไมหม่อมฉันต้องมีใจให้พระองค์ด้วย ความจริงหม่อมฉันควรทำตามที่ท่านพ่อกับเจ้าพี่มอบ
หมายให้แต่หม่อมฉันกลับทำร้ายพระองค์กับชาวรัตนไม่ลง’
น้ำพระเนตรเริ่มเอ่อคลอดวงเนตรคู่งามแล้วทรงรีบระงับเสีย ได้..ในเมื่อทรงทำหน้าที่แล้วเราก็ควรทำ
หน้าที่เหมือนกัน ให้คำตอบพี่ชายว่ารัตนปฏิเสธเหมือนดั่งที่ได้ปฏิเสธหิรัณย์เช่นกัน
คิดแล้วทรงทอดถอนพระทัยพระเนตรทอดมองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมายเหมือนเดิมเป็นเวลานาน
กว่าจะขยับพระวรกายออกจากตำหนักไป
======================================================================
ณ หิรัณย์นคร ว่าที่ราชินีทอดพระเนตรพระตำนักกลางน้ำ สร้างด้วยไม้สักทั้งหลังบนเนินหินขนาด
ใหญ่ตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลสาบกว้างใหญ่ รอบๆทะเลสาบมีต้นสนกับต้นไม้สีสวยขึ้นหนาแน่นตามแนวป่า
เขากว้างใหญ่ น้ำในทะเลสาบเป็นสีฟ้าอมเขียว ใสราวมรกตจนเห็นฝูงปลาสีสวยพากันแหวกว่ายไปมาอยู่ใต้
พื้นน้ำใส ทั้งยังมีสะพานไม้ทอดยาวจากพระตำหนักกลางน้ำจนถึงฝั่งดูแล้วช่างงดงามราวกับภาพในฝัน
ไม่น่าเชื่อตลอดทางก่อนถึงพระตำหนักนี้มีแต่ฝนสลับแดดแต่พอเข้าเขตพระตำหนักท้องฟ้ากลับ
แจ่มใส ช่างแปลกนักกับสภาพดินฟ้าอากาศเช่นนี้
“เมื่อก่อนหม่อมฉันไม่เคยรู้สึกว่าธรรมชาติของหิรัณย์สวยงามน่าหลงใหลเพราะเห็นจนชิน แต่ตอนนี้
รู้สึกว่าสวยเกินคำบรรยาย” องค์อคินทรงเปรยขึ้นให้ว่าที่ราชินีได้ยิน
“นั่นสิเพคะ ทำไมต้องรอให้คนอื่นเห็นค่าเสียก่อนค่อยคิดได้ คนแบบนี้ใช้ไม่ได้จริงๆ ทรงเห็นด้วย
กับหม่อมฉันหรือไม่” สุรเสียงหวานทูลถามอย่างใสซื่อนัก องค์อคินทรงพระสรวลเบาๆ
“ใช้ไม่ได้จริงๆ ถ้าหม่อมฉันพบตัวจะจับตัวมาให้องค์หญิงลงโทษดีไหม” ทรงเลี้ยวไปจนได้สิน่า
ดวงพักตร์งดงามสดใสบึ้งตึงทันที
ชาครเห็นว่าหากปล่อยให้สองพระองค์ทรงปะทะคารมกันต่อไปคงไม่จบและจะเสด็จไม่ถึงพระตำ
หนักจึงรีบกราบบังคมทูลขัดขึ้น
“ข้าพระองค์คิดว่ารีบเสด็จดีกว่า มีสิ่งสวยงามอีกมากให้ชื่นชมอยู่ในพระตำหนักพ่ะย่ะค่ะ”
“จริงสิเกือบลืม ขอบใจชาครที่เตือน องค์หญิงรีบไปดีกว่าหม่อมฉันมีอะไรมอบให้ในพระตำหนัก
รับรองเห็นแล้วต้องถูกใจแน่ๆ” พระหัตถ์ใหญ่แข็งแรงก็จับข้อพระกรเรียวเล็กนุ่มนิ่มนำพาไปยังพระตำหนักทันที
พอเสด็จถึงว่าที่ราชินีก็ทรงแย้มพระโอษฐ์ด้วยความยินดีเป็นล้นพ้นเมื่อได้พบนางกำนัลอุษามายืนรับ
เสด็จพร้อมเหล่านางกำนัลในพระตำหนักอีกสองสามคน แต่ละคนสวมชุดสีเหลืองอ่อนทั้งชุดทอจากผ้าฝ้าย
ลายสวยคาดด้วยผ้าสีน้ำตาลที่เอวตัวเสื้อเป็นเสื้อแขนสั้น ตัวกระโปรงดูคล้ายผ้าซิ่นยาวแค่เข่า การแต่งกาย
ของสตรีหิรัณย์ดูแตกต่างกันมากในแต่ละภาคแต่ทรงผมเหมือนกันคือเกล้าเป็นมวยอยู่ด้านหลัง
‘เห็นทีคงหนีไม่พ้นถูกจับแต่งตัวใหม่แน่ แต่ก็สนุกดีเหมือนกัน’
พระบาทบอบบางก้าวเข้าไปใกล้นางกำนัลอุษา สองพระหัตถ์เรียวงามเอื้อมไปจับมือนางกำนัลอุษาไว้
“เราดีใจมากที่เจอเจ้าที่นี่อุษา ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่ได้” รับสั่งถามด้วยความแปลกพระทัย
อุษายิ้มน้อยๆที่มุมปากหากนัยน์ตาคู่สวยกลับมีน้ำใสๆเอ่อคลอด้วยความยินดีและรีบระงับเสียเมื่อ
เห็นว่าใม่สมควร
“ทรงถามองค์อคินเองดีกว่าเพคะ”
ดวงพักตร์งดงามหันกลับไปหาตัวต้นเรื่องทันที ดวงเนตรกลมโตคู่งามทอดมองพระพักตร์คมเข้มที่รก
ไปด้วยหนวดเคราหมือนต้องการคำตอบ
“ไว้คืนนี้ หม่อมฉันจะตอบ มีเรื่องด่วนต้องไปทำก่อน พวกเจ้าดูแลว่าที่ราชินีให้ดี คืนนี้ให้พ่อครัว
เตรียมอาหารอย่างดีไว้ต้อนรับด้วย” จากนั้นพระบาทยาวๆก็ก้าวจากไปพร้อมชาครทิ้งให้ว่าที่ราชินีประทับ
อยู่กับนางกำนัลทั้งหลาย
“พวกเจ้าช่วยบอกเราหน่อย องค์อคินเสด็จไปไหนอีก นี่มันจวนค่ำแล้วนะ” ทรงมีรับสั่งถามพวก
นางกำนัลจนได้
“พวกหม่อมฉันไม่แน่ใจเพคะ ทุกครั้งที่เสด็จมาประทับที่นี่ ทรงอาศัยเป็นที่บรรทมเฉยๆ เสด็จออกไป
กับท่านชาครแต่เช้าและจะเสด็จกลับมาตอนมืดค่ำเป็นประจำเพคะ เห็นพวกทหารราชองครักษ์บอกว่า
เสด็จไปสำรวจชายแดนด้านติดกับสาครเมืองในปกครองของสินธุซึ่งมักเกิดเหตุปะทะกันบ่อยเพคะ” นางกำนัล
คนหนึ่งกราบทูลให้ทรงทราบ
“หมายความว่าที่นี่เกิดเหตุปะทะกันบ่อยๆระหว่างสาครกับหิรัณย์หรือจ๊ะ” รับสั่งถามต่อ
“ใช่เพคะ พวกหม่อมฉันเห็นจนชินแล้ว” นางกำนัลคนเดิมกราบทูลต่อ
ว่าที่ราชินีทรงอดกังวลไม่ได้ จากที่นางกำนัลบอก หิรัณย์เองก็ต้องผจญกับการรุกรานจากสินธุโดย
ผ่านนครในปกครองอยู่ตลอดเวลา หมายความว่าไม่ได้มีเพียงรัตนเท่านั้นที่ถูกสินธุบีบ หิรัณย์ก็เหมือนกัน
แต่ติดที่หิรัณย์มีกองทัพที่เข้มแข็ง ภูมิประเทศก็ไม่เป็นรอง พรุ่งนี้จะลองขอร้องให้องค์อคินพาไปชมทะเลบ้าง
ชาวรัตนทุกคนไม่เคยมีใครได้เห็นทะเลยกเว้นเจ้าพี่กับพี่หญิง ไม่รู้ว่าที่รัตนจะเป็นอย่างไรบ้าง หวังว่าพี่หญิง
คงไม่หลงคารมชาวสินธุจนลืมนึกถึงความปลอดภัยของบ้านเมือง ทรงทอดถอนพระทัยเมื่อนึกถึงเรื่องยุ่งยาก
ที่กำลังจะเกิดกับรัตนนครเพราะองค์ตีรณธรทรงมีไมตรีตอบทางหิรัณย์โดยยกพระขนิษฐาให้องค์อคิน
===================================================================
๕๕๕๕วันนี้แค่นี้ก่อนนะ เพลียจัด อยากพักจ้า๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
ชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชช
ภายในห้องรับรองพระราชอาคันคุกะส่วนพระองค์แห่งองค์ตีรณธร วรธรรอเข้าเฝ้าอยู่พอเห็นพระวรกาย
สูงสง่ามาถึงก็โค้งตัวลงถวายบังคมตามธรรมเนียมชาวหิรัณย์ องค์ตีรณธรทรงโบกพระหัตถ์ห้ามไว้
\\
“ไม่ต้องมากพิธีท่านผู้แทนพระองค์ วันนี้ท่านมาพบเราเป็นการส่วนตัวไม่จำเป็นต้องคำนึงกฎ
ระเบียบในวังหลวง ทำตัวตามสบายเถอะ ท่านมีเรื่องอะไรก็บอกมาไม่ต้องเกรงใจ”
“ถ้าอย่างนั้น ข้าพระองค์ขอขอนำความจากองค์อคินมากราบบังคมทูลให้ทรงทราบพ่ะย่ะค่ะ “
วรธรไม่อยากให้เสียเวลาจึงรีบเข้าเรื่องเมื่อนั่งลงบนเก้าอี้รับแขกตัวหรูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เดี๋ยวก่อนท่าน เราขอถามหน่อย น้องหญิงของเราเป็นอย่างไรบ้าง” ทรงเป็นห่วงพระขนิษฐา
องค์น้อยไม่น้อย
วรธรยิ้มเล็กน้อยที่มุมปากรกไปด้วยหนวดเคราพลางนึกชื่นชมกษัตริย์หนุ่มผู้นี้ เห็นทีคงเป็นพี่ที่รัก
น้องมากนอกเหนือจากหน้าที่เจ้าแผ่นดิน
“ทรงพระสำราญดีพ่ะย่ะค่ะ องค์อคินทรงพาชมทั่วหิรัณย์ก่อนจะมีพระราชพิธีอภิเษกสมรสพร้อม
กับสถาปนาให้เป็นราชินีคู่บารมีของพระองค์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ขอทรงวางพระทัย องค์อคินทรงดูแลและ
ยกย่องให้เกียรติพระขนิษฐาของพระองค์มากพ่ะย่ะค่ะ”
“ฝากขอบพระทัยองค์อคินแทนเราด้วย เราอยากรบกวนท่านอีกเรื่อง เราขอฝากนางกำนัลคนสนิท
ที่รับใช้น้องหญิงของเราคนหนึ่งไปยังหิรัณย์กับท่านด้วย หวังว่าคงไม่เป็นการรบกวนท่านมากเกินไป”
“ข้าพระองค์ยินดีเป็นอย่างยิ่งพ่ะย่ะค่ะ”
“ขอบใจ เอาล่ะเข้าเรื่องของท่านได้แล้ว”
“พ่ะย่ะค่ะ องค์อคินทรงทราบว่ามีโจรป่าอาจหาญมาปล้นขบวนรถม้าพระที่นั่งที่นำเจ้าสาวของพระองค์
ไปสู่หิรัณย์แล้วทรงไม่สบายพระทัยนัก ทรงดำริจะจัดการเรื่องนี้ด้วยพระองค์เอง จึงให้ข้าพระองค์มาขออนุญาต
พระองค์ให้หิรัณย์มาช่วยปราบปรามพวกโจรป่าที่บังอาจทำการฮึกเหิมหมิ่นเกียรติหิรัณย์ ขอทรงพิจารณา
ด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
พระพักตร์คมเข้มนิ่งสงบ องค์ตีรณธรกำลังใช้ความคิด นึกไม่ถึงองค์อคินจะมาแทรกได้ถูกจังหวะ
ในขณะที่พระองค์ยังหาเหตุผลมาปฏิเสธสินธุไม่ได้ หิรัณย์อาจมาด้วยเหตุผลอย่างที่อ้างหรือมากกว่านั้น
ช่างยากต่อการคาดเดานัก ผิดกับสินธุที่ยกเหตุนี้มาเป็นข้ออ้างในการส่งทหารเข้ามาควบคุมรัตนนคร
เห็นทีต้องฉวยโอกาสนี้เล่นกลย้อนกลับทางสินธุบ้าง
“ความปรารถนาดีขององค์อคินเราขอรับด้วยใจ เรื่องนี้เกิดในรัตนนคร เราในฐานะผู้ปกครองต้องรับ
ผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นเอง หากเราต้องการความช่วยเหลือจะรีบส่งคนไปทูลขอองค์อคินทันที”
วรธรพอได้ยินพระราชดำรัสตอบก็ยิ้มน้อยๆ องค์ตีรณธรสมเป็นกษัตริย์นักการทูตจริงๆแม้จะถูกสินธุ
บังคับจนไม่มีทางเลือกและการยื่นมือเข้ามาช่วยของหิรัณย์ก็เท่ากับช่วยรัตนให้พ้นจากการถูกสินธุกดดันได้
แต่กลับปฏิเสธ ทรงคิดอะไรอยู่กันแน่ ยากจะคาดเดาความคิดของกษัตริย์หนุ่มผู้นี้จริงๆ
“พ่ะย่ะค่ะ เห็นทีข้าพระองค์ต้องขอกราบถวายบังคมลาเสียที รบกวนเวลาของพระองค์มานานแล้ว”
“เราขอขอบใจอีกครั้ง ท่านคงเหนื่อยและอยากพัก เราจะให้คนพาไปยังเรือนรับรอง ก่อนท่านกลับ
เราขอฝากจดหมายแสดงความขอบคุณในน้ำพระทัยขององค์อคินไปด้วย เชิญพักให้สบายท่านผู้แทนพระองค์”
จากนั้นก็ทรงมีรับสั่งให้ทหารมหาดเล็กมานำทางให้
============================================================================
ตำหนักพระมเหสีวัสสิกา พระนางกำลังกลัดกลุ้มพระทัยกับเรื่องที่ไม่มีทางออก ทรงไม่รู้จะทำประการ
ใดดีกับเรื่องที่พระราชบิดากับพระเชษฐาบีบคั้น ทรงทอดถอนพระทัยอย่างหนักด้วยความอัดอั้นในพระทัย
พระเนตรงดงามทอดมองไปด้านนอกเนิ่นนานจึงไม่รู้ว่าองค์ตีรณธรได้เสด็จมาประทับยืนอยู่ใกล้ๆแล้ว
“องค์หญิง หม่อมฉันมีเรื่องจะบอก” พระสุรเสียงแห่งองค์ตีรณธรดังขึ้นทำลายความเงียบ
พระนางทรงหันพระพักตร์มามองพร้อมสุรเสียงไม่ยินดียินร้าย
“บอกหม่อมฉันไปก็ไม่มีประโยชน์ หม่อมฉันไม่เคยคิดทำอะไรเพื่อรัตนนครอยู่แล้ว ทุกอย่างเพื่อ
สินธุเท่านั้น”
องค์ตีรณธรทรงสดับแล้วรู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก ‘จริงสิ..ยังจะหวังอะไรจากชาวสินธุอีก ในเมื่อทราบอยู่แล้ว
ว่าทำไมกษัตริย์สินนพจึงยอมยกพระราชธิดาคนโปรดให้’
“จริงสินะ รัตนจะไปหวังอะไรจากสินธุ แต่หม่อมฉันจำเป็นต้องทำหน้าที่พระสวามีขององค์หญิงใน
เรื่องที่องค์หญิงต้องการให้ช่วย วันนี้ผู้แทนพระองค์จากหิรัณย์มาพบและร้องขอสิ่งเดียวกันกับที่ทางสินธุ
ขอมา หม่อมฉันรู้สึกว่าทั้งสองนครต่างหวังดีกับรัตนนคร หากหม่อมฉันตอบรับความช่วยเหลือจากหิรัณย์
ก็ควรจะตอบรับสินธุด้วยเพื่อความเสมอภาค แต่หม่อมฉันได้ปฏิเสธไปแล้ว หวังว่าองค์หญิงคงมีคำตอบ
ให้องค์จิรัชย์ได้แล้ว หม่อมฉันขอตัว”
พระวรกายสูงสง่าจากไปทันที ทิ้งให้พระนางประทับอยู่ตามลำพังเหมือนเดิม ใช่..องค์ตีรณธรทรง
ทำหน้าที่พระสวามีช่วยแก้ปัญหาให้ แต่ไม่เคยรับรู้ถึงความเจ็บปวดที่พระนางได้รับจากการกระทำของผู้
เป็นสวามีสักนิด
‘ทำไมหม่อมฉันต้องมีใจให้พระองค์ด้วย ความจริงหม่อมฉันควรทำตามที่ท่านพ่อกับเจ้าพี่มอบ
หมายให้แต่หม่อมฉันกลับทำร้ายพระองค์กับชาวรัตนไม่ลง’
น้ำพระเนตรเริ่มเอ่อคลอดวงเนตรคู่งามแล้วทรงรีบระงับเสีย ได้..ในเมื่อทรงทำหน้าที่แล้วเราก็ควรทำ
หน้าที่เหมือนกัน ให้คำตอบพี่ชายว่ารัตนปฏิเสธเหมือนดั่งที่ได้ปฏิเสธหิรัณย์เช่นกัน
คิดแล้วทรงทอดถอนพระทัยพระเนตรทอดมองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมายเหมือนเดิมเป็นเวลานาน
กว่าจะขยับพระวรกายออกจากตำหนักไป
======================================================================
ณ หิรัณย์นคร ว่าที่ราชินีทอดพระเนตรพระตำนักกลางน้ำ สร้างด้วยไม้สักทั้งหลังบนเนินหินขนาด
ใหญ่ตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลสาบกว้างใหญ่ รอบๆทะเลสาบมีต้นสนกับต้นไม้สีสวยขึ้นหนาแน่นตามแนวป่า
เขากว้างใหญ่ น้ำในทะเลสาบเป็นสีฟ้าอมเขียว ใสราวมรกตจนเห็นฝูงปลาสีสวยพากันแหวกว่ายไปมาอยู่ใต้
พื้นน้ำใส ทั้งยังมีสะพานไม้ทอดยาวจากพระตำหนักกลางน้ำจนถึงฝั่งดูแล้วช่างงดงามราวกับภาพในฝัน
ไม่น่าเชื่อตลอดทางก่อนถึงพระตำหนักนี้มีแต่ฝนสลับแดดแต่พอเข้าเขตพระตำหนักท้องฟ้ากลับ
แจ่มใส ช่างแปลกนักกับสภาพดินฟ้าอากาศเช่นนี้
“เมื่อก่อนหม่อมฉันไม่เคยรู้สึกว่าธรรมชาติของหิรัณย์สวยงามน่าหลงใหลเพราะเห็นจนชิน แต่ตอนนี้
รู้สึกว่าสวยเกินคำบรรยาย” องค์อคินทรงเปรยขึ้นให้ว่าที่ราชินีได้ยิน
“นั่นสิเพคะ ทำไมต้องรอให้คนอื่นเห็นค่าเสียก่อนค่อยคิดได้ คนแบบนี้ใช้ไม่ได้จริงๆ ทรงเห็นด้วย
กับหม่อมฉันหรือไม่” สุรเสียงหวานทูลถามอย่างใสซื่อนัก องค์อคินทรงพระสรวลเบาๆ
“ใช้ไม่ได้จริงๆ ถ้าหม่อมฉันพบตัวจะจับตัวมาให้องค์หญิงลงโทษดีไหม” ทรงเลี้ยวไปจนได้สิน่า
ดวงพักตร์งดงามสดใสบึ้งตึงทันที
ชาครเห็นว่าหากปล่อยให้สองพระองค์ทรงปะทะคารมกันต่อไปคงไม่จบและจะเสด็จไม่ถึงพระตำ
หนักจึงรีบกราบบังคมทูลขัดขึ้น
“ข้าพระองค์คิดว่ารีบเสด็จดีกว่า มีสิ่งสวยงามอีกมากให้ชื่นชมอยู่ในพระตำหนักพ่ะย่ะค่ะ”
“จริงสิเกือบลืม ขอบใจชาครที่เตือน องค์หญิงรีบไปดีกว่าหม่อมฉันมีอะไรมอบให้ในพระตำหนัก
รับรองเห็นแล้วต้องถูกใจแน่ๆ” พระหัตถ์ใหญ่แข็งแรงก็จับข้อพระกรเรียวเล็กนุ่มนิ่มนำพาไปยังพระตำหนักทันที
พอเสด็จถึงว่าที่ราชินีก็ทรงแย้มพระโอษฐ์ด้วยความยินดีเป็นล้นพ้นเมื่อได้พบนางกำนัลอุษามายืนรับ
เสด็จพร้อมเหล่านางกำนัลในพระตำหนักอีกสองสามคน แต่ละคนสวมชุดสีเหลืองอ่อนทั้งชุดทอจากผ้าฝ้าย
ลายสวยคาดด้วยผ้าสีน้ำตาลที่เอวตัวเสื้อเป็นเสื้อแขนสั้น ตัวกระโปรงดูคล้ายผ้าซิ่นยาวแค่เข่า การแต่งกาย
ของสตรีหิรัณย์ดูแตกต่างกันมากในแต่ละภาคแต่ทรงผมเหมือนกันคือเกล้าเป็นมวยอยู่ด้านหลัง
‘เห็นทีคงหนีไม่พ้นถูกจับแต่งตัวใหม่แน่ แต่ก็สนุกดีเหมือนกัน’
พระบาทบอบบางก้าวเข้าไปใกล้นางกำนัลอุษา สองพระหัตถ์เรียวงามเอื้อมไปจับมือนางกำนัลอุษาไว้
“เราดีใจมากที่เจอเจ้าที่นี่อุษา ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่ได้” รับสั่งถามด้วยความแปลกพระทัย
อุษายิ้มน้อยๆที่มุมปากหากนัยน์ตาคู่สวยกลับมีน้ำใสๆเอ่อคลอด้วยความยินดีและรีบระงับเสียเมื่อ
เห็นว่าใม่สมควร
“ทรงถามองค์อคินเองดีกว่าเพคะ”
ดวงพักตร์งดงามหันกลับไปหาตัวต้นเรื่องทันที ดวงเนตรกลมโตคู่งามทอดมองพระพักตร์คมเข้มที่รก
ไปด้วยหนวดเคราหมือนต้องการคำตอบ
“ไว้คืนนี้ หม่อมฉันจะตอบ มีเรื่องด่วนต้องไปทำก่อน พวกเจ้าดูแลว่าที่ราชินีให้ดี คืนนี้ให้พ่อครัว
เตรียมอาหารอย่างดีไว้ต้อนรับด้วย” จากนั้นพระบาทยาวๆก็ก้าวจากไปพร้อมชาครทิ้งให้ว่าที่ราชินีประทับ
อยู่กับนางกำนัลทั้งหลาย
“พวกเจ้าช่วยบอกเราหน่อย องค์อคินเสด็จไปไหนอีก นี่มันจวนค่ำแล้วนะ” ทรงมีรับสั่งถามพวก
นางกำนัลจนได้
“พวกหม่อมฉันไม่แน่ใจเพคะ ทุกครั้งที่เสด็จมาประทับที่นี่ ทรงอาศัยเป็นที่บรรทมเฉยๆ เสด็จออกไป
กับท่านชาครแต่เช้าและจะเสด็จกลับมาตอนมืดค่ำเป็นประจำเพคะ เห็นพวกทหารราชองครักษ์บอกว่า
เสด็จไปสำรวจชายแดนด้านติดกับสาครเมืองในปกครองของสินธุซึ่งมักเกิดเหตุปะทะกันบ่อยเพคะ” นางกำนัล
คนหนึ่งกราบทูลให้ทรงทราบ
“หมายความว่าที่นี่เกิดเหตุปะทะกันบ่อยๆระหว่างสาครกับหิรัณย์หรือจ๊ะ” รับสั่งถามต่อ
“ใช่เพคะ พวกหม่อมฉันเห็นจนชินแล้ว” นางกำนัลคนเดิมกราบทูลต่อ
ว่าที่ราชินีทรงอดกังวลไม่ได้ จากที่นางกำนัลบอก หิรัณย์เองก็ต้องผจญกับการรุกรานจากสินธุโดย
ผ่านนครในปกครองอยู่ตลอดเวลา หมายความว่าไม่ได้มีเพียงรัตนเท่านั้นที่ถูกสินธุบีบ หิรัณย์ก็เหมือนกัน
แต่ติดที่หิรัณย์มีกองทัพที่เข้มแข็ง ภูมิประเทศก็ไม่เป็นรอง พรุ่งนี้จะลองขอร้องให้องค์อคินพาไปชมทะเลบ้าง
ชาวรัตนทุกคนไม่เคยมีใครได้เห็นทะเลยกเว้นเจ้าพี่กับพี่หญิง ไม่รู้ว่าที่รัตนจะเป็นอย่างไรบ้าง หวังว่าพี่หญิง
คงไม่หลงคารมชาวสินธุจนลืมนึกถึงความปลอดภัยของบ้านเมือง ทรงทอดถอนพระทัยเมื่อนึกถึงเรื่องยุ่งยาก
ที่กำลังจะเกิดกับรัตนนครเพราะองค์ตีรณธรทรงมีไมตรีตอบทางหิรัณย์โดยยกพระขนิษฐาให้องค์อคิน
===================================================================
๕๕๕๕วันนี้แค่นี้ก่อนนะ เพลียจัด อยากพักจ้า๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
ชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชช
เพลงใบไม้
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ส.ค. 2559, 21:35:28 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 ส.ค. 2559, 21:35:28 น.
จำนวนการเข้าชม : 1364
<< ตอนที่ 11/2 | ตอนที่ 12/2 >> |
Zephyr 28 ส.ค. 2559, 21:47:08 น.
เรื่องเริ่มยุ่งเหยิงละ
เรื่องเริ่มยุ่งเหยิงละ