รัตนมณีแห่งหัวใจ (รัตน)

Tags: ความรักเดียวที่กษัตริย์แดนเถื่อนมีต่อเจ้าหญิงแห่งรัตนที่ตราตรึงในหัวใจ

ตอน: ตอนที่ 12/2

ตอนที่ 12/2

องค์ตีรณธรเสด็จมาหาพระขนิษฐาที่ตำหนักอีกครั้งเพื่อหยั่งความรู้สึก เจ้าของตำหนักถอนสายบัว
ถวายบังคมอย่างเป็นทางการ

“หญิงไม่ต้องมากพิธีก็ได้เราพี่น้องกัน” รับสั่งอย่างเป็นกันเอง

“เจ้าพี่ยังคิดว่าหญิงเป็นน้องอีกหรือ คิดว่ามีแต่หญิงอัมน้องสาวคนโปรดของเจ้าพี่เสียอีก” สุรเสียง
ประชดประชันกึ่งน้อยพระทัยทูล

องค์ตีรณธรทรงทอดถอนพระทัย นึกไม่ถึงพระขนิษฐาที่ทรงรักมากเป็นพิเศษกลับไม่เข้าใจพระองค์
ผิดกับอีกคนที่ดูเหมือนจะเข้าใจมากกว่าแต่ด้วยความที่รักและเอ็นดูมากกว่าจึงทรงไม่ใส่พระทัยนัก

“พี่เพิ่งรู้ว่าน้องสาวของพี่กลายเป็นคนช่างประชดประชัน เรื่องหญิงอัมมันจบไปแล้ว หญิงยังไม่หาย
เคืองพี่อีกหรือคะ” พระสุรเสียงอ่อนโยนนั้นทำให้พระขนิษฐารู้สึกละอาย

“หญิงขอโทษค่ะ นี่ก็ดึกมากแล้วเจ้าพี่มีเรื่องด่วนกับหญิงหรือคะถึงได้มาหา”

“พี่มีเรื่องหนึ่งอยากถามหญิง ถ้าหากสินธุส่งคนมาสู่ขอหญิงให้กับองค์จิรัชย์หญิงจะว่าอย่างไร”
ตรัสถามด้วยพระสุรเสียงจริงจังขณะที่ดวงพักตร์งดงามสง่าของพระราชกุมารีอาวิสาเริ่มแดงเรื่อเล็กน้อย
และนั่นก็ทำให้องค์ตีรณธรทรงเข้าพระทัยได้ทันที ว่าพระขนิษฐาคิดอย่างไร ทรงรู้สึกผิดหวังนัก

‘น้องหญิงนะน้องหญิงช่างไม่เท่าทันเล่ห์สินธุเลย ผู้ชายอย่างจิรัชย์ไม่เคยมอบความจริงใจให้กับ
หญิงใด นอกจากตักตวงผลประโยชน์ที่จะได้เท่านั้น’

ขณะที่พระเชษฐาเป็นกังวลเพราะห่วงน้อง พระขษิฐากลับเป็นสุข ‘ความฝันของเราใกล้เป็นจริงแล้ว’
“พี่ชายล้อหญิงเล่นหรือเปล่าคะ ถ้าเป็นจริงคงมีอะไรมากกว่านั้น” ถึงอย่างไรพระราชกุมารีอาวิสาก็
ยังคงสงวนท่าทีเพื่อไม่ให้พระเชษฐาจับได้และดูไม่งาม

“จริงอย่างน้องหญิงว่า หากปฏิเสธก็เท่ากับหักหน้ากษัตริย์สินนพ แต่ถ้ารับ...พี่อดห่วงไม่ได้
กลัวน้องหญิงจะมีอันตราย” องค์ตีรณธรตรัสตามตรง

“เจ้าพี่ไม่ต้องห่วงหญิง ยิ่งเราปฏิเสธยิ่งทำให้กระเทือนความสัมพันธ์ระหว่างกัน ครั้งนี้หญิงขอทำหน้าที่
เพื่อรัตนบ้าง หลังจากที่หญิงอัมได้ทำแล้ว” พระขนิษฐายอมอย่างง่ายดายโดยอ้างเพื่อบ้านเมืองทว่ากลับทำให้
พระองค์เป็นกังวลมากขึ้น

‘นี่สิน่ากลัวยิ่งกว่า ช่างเขลานักน้องหญิง ยากนักที่จะเตือน ยากนักที่จะห้าม’

“ขอบใจน้องหญิง” องค์ตีรณธรเสด็จจากไปอย่างเสียพระทัยในการตัดสินใจของพระขนิษฐาร่วมอุทร

ดวงพักตร์งดงามสง่ายิ้มที่หลอกพระเชษฐาได้แต่กลับลืมไปว่าพระเชษฐาหาใช่ไร้ซึ่งปัญญารู้ไม่เท่าทัน
และถ้าหากพระราชกุมารีอาวิสาทรงเห็นอนาคตได้คงจะไม่ปลื้มปิติกับสิ่งที่ได้ตัดสินใจทำลงไปในครั้งนี้แน่
===========================================================================

ณ ชายฝั่งทะเลของหิรัณย์นคร องค์อคินประทับบนหลังอาชาคู่พระทัยบนหน้าผาสูงทอดพระเนตรชาย
ฝั่งตรงข้าม เห็นเรือลำใหญ่คล้ายเรือบรรทุกสินค้าประมาณสองสามลำกำลังแล่นเข้ามาในเขตน่านน้ำหิรัณย์

“ชาคร เจ้าคิดว่าเป็นเรือสินค้าจริงๆหรือเป็นเรือรบสาครที่ส่งมาเพื่อลองดีกับทัพเรือของหิรัณย์”
ตรัสถามชาครซึ่งนั่งบนหลังม้ากับทหารราชองครักษ์จำนวนหนึ่ง

“ถ้าเป็นเรือสินค้าจริง ต้องขออนุญาตอย่างเป็นทางการเพื่อผ่านน่านน้ำ แต่นี่กลับไม่ ข้าพระองค์
คิดว่าเป็นเรือรบมากกว่า” ชาครประเมินจากประสบการณ์

“ดี..ถ้าอย่างนั้นเจ้าไปสั่งทหารให้ยิงธนูไฟกับปืนใหญ่ไปยังเรือสินค้าทั้งสามลำ และเพื่อเป็นการตอบ
แทนที่ส่งคนมาลอบเผาหมู่บ้านชายทะเลของเรา ข้าขอมอบของขวัญขอบคุณพวกมันก่อน หวังว่าคงชอบนะ”

องค์อคินทรงหยิบคันธนู ยิงธนูไฟเจ็ดดอกไปยังเรือสินค้าปลอม ลูกธนูไฟทั้งเจ็ดดอกตกลงที่เรือลำที่อยู่
ตรงกลางพอดี เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกสองลำรีบยิงปืนใหญ่ใส่เรือรบหิรัณย์ตอบโต้ทันที

“ตอบโต้ได้เร็วมาก พวกเรารีบไปที่เรือรบ ข้าขอสนุกกับพวกนี้ก่อนกลับ อยากรู้นักว่าพวกมันจะกล้า
มาลองดีกับหิรัณย์อีกไหม” ทรงควบอาชาคู่พระทัยมุ่งตรงไปยังเรือรบหิรัณย์ทันที
=====================================================================

ณ พระตำหนักกลางน้ำ ว่าที่ราชินีทอดพระเนตรพระกระยาหารค่ำมากมายบนโต๊ะเสวยแล้วทรงเมิน
เสด็จไปราวระเบียงไม้ประดับด้วยโคมไฟสีสวยตามหัวเสาแซมด้วยดอกไม้สีสวยเป็นระยะๆ ดวงเนตรกลมโต
งดงามทอดมองผิวน้ำยามต้องแสงจันทราใสจนสะท้อนเห็นดวงพักตร์งดงามในกรอบพระเกศายาวสลวยสีน้ำ
ตาลเข้มชัดเจน ทั้งยังมีเสียงจั๊กจั่นเรไรพากันร้องขับขานดั่งเสียงเพลงจากธรรมชาติยามค่ำคืนท่ามกลางสายน้ำ
สวยรอบๆหุบเขา ดูแล้วเป็นภาพที่ประทับใจมาก

“อุษาธรรมชาติที่นี่สวยงามมาก เราชักไม่อยากไปไหนแล้วสิ” สุรเสียงหวานใสบอกกับนางกำนัลอุษา
ที่ถวายการรับใช้อยู่ใกล้ๆ

“เพคะ แต่หม่อมฉันว่าเสวยก่อนดีกว่า ตั้งแต่เสด็จมาถึงทรงไม่แตะต้องพระกระยาหารเลยนะเพคะ
ไม่ทรงหิวหรือเพคะ” อุษากราบทูลด้วยความเป็นห่วง

“ยังหรอก เรายังไม่หิว อาหารตั้งมากมายแค่เห็นก็อิ่มแล้ว รอให้คนสั่งมารับผิดชอบเองท่าจะดี
ป่านนี้แล้วยังไม่เสด็จกลับอีก หรือว่าเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น” สุรเสียงหวานพึมพำปนห่วงใย

อุษาลอบยิ้ม ยังไม่ทันที่จะกราบทูลต่อ เสียงทรงอำนาจก็แทรกขึ้น

“ขอบใจองค์หญิงที่ห่วงใยหม่อมฉัน” อุษารีบถอนสายบัวถวายบังคมลาทันทีอย่างรู้หน้าที่เมื่อเห็น
องค์อคินเสด็จกลับถึงแล้ว

พระวรกายสูงใหญ่กับฉลองพระองค์เปื้อนเขม่าดินปืนเต็มไปหมดเดินเข้ามาหาว่าที่ราชินีซึ่งหัน
พระพักตร์มามองพอดี

“ใครบอกว่าหม่อมฉันห่วง หม่อมฉันรอคนมารับผิดชอบอาหารบนโต๊ะต่างหาก ทรงมอมแมมเลอะเทอะ
เปรอะเปื้อนอย่างนี้น่าจะชำระพระวรกายก่อนนะเพคะ”

“จริงสิลืมไป องค์หญิงทรงเป็นเจ้าแห่งความสะอาด หม่อมฉันขอตัวสักครู่ แล้วจะมารับผิดชอบ
อาหารให้ แต่ห้ามหนีไปก่อนนะ องค์หญิง”

“รับรองไม่หนีแน่ ทรงติดค้างคำถามหม่อมฉันหลายข้อ ถ้าหม่อมฉันไม่ได้คำตอบคงนอนไม่หลับ
และพระองค์เองก็อย่าจะหวังได้หลับ” สุรเสียงหวานขู่กรายๆ องค์อคินทรงพระสรวลเบาๆก่อนรีบเสด็จไป
ห้องสรง
===========================================================================
***** หายไปนานเพราะมีงานเยอะ ไม่มีเวลา แต่ต่อไปนี้จะมาลงให้บ่อยๆ จนจบ เข้ามาตามทุกวัน จะโพสให้เลยแล้วขอ
พักสักพักค่ะ หวังว่าจะไม่ต่อว่าและลืมกันนะคะ คนอ่านที่น่ารัก คนเขียนใจดีลงให้จนจบแน่นอน ไม่มีกั๊ก แล้วจบกันที
กับเรื่องแต่งยาก ๆ เรื่องนี้ แต่งเพราะชอบอยากอ่านเองแต่อดแบ่งปันไม่ได้ ถ้าลืมักนก็มีงอนไม่โพสให้อีก ๕๕๕๕๕๕๕๕



เพลงใบไม้
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ต.ค. 2559, 20:26:33 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ต.ค. 2559, 20:26:33 น.

จำนวนการเข้าชม : 890





<< ตอนที่ 12/1   ตอนที่ 13/1 >>
Zephyr 20 ต.ค. 2559, 15:38:58 น.
กลัวเมียตั้งกะยังไม่เริ่มเลยค่า


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account