เจ้าหัวใจมาเฟีย (ฉบับรีไรต์)
“ผมใช่ไก่อ่อนวัยตื่นเพศ ตื่นฮอร์โมน เพราะฉะนั้นอย่าบังคับให้ต้องจีบเมียตัวเองแต่คุณควรจะใช้งานมือโปรคนนี้ให้ถูกหน้าที่ อย่างน้อยจะได้ไม่เสียของ”
การพบหน้ากันครั้งแรก แพรวา ต้องกลายเป็นสาวเอสคอร์ตที่เขาใช้เป็นเครื่องมือเขี่ยผู้หญิงอีกคนทิ้ง
ในครั้งที่สองเขากลับลากเธอขึ้นเตียง ช่วงชิงเอาความสาวไปโดยที่เธอไม่ทันได้ทัดทาน นั่นก็เป็นเหตุผลอันยอดเยี่ยมแล้วที่ควรต้องอยู่ให้ห่างจากมาเฟียผู้ดุดัน อันตราย
ถึงแม้ว่านักกายภาพบำบัดสาวจะประพฤติตัวตามเหตุผลข้างต้นนั้นได้ดีสักเพียงใด
เธอควรต้องรู้เอาไว้ว่า... นอกจากเขาจะเป็นมาเฟียผู้ดุดัน อันตรายแล้ว ยังเชี่ยวชาญในการบังคับข่มขู่!
เมื่อหญิงสาวใบหน้างดงามหล่นลงกลางเตียงให้เขาได้ตักตวงเอาความหอมหวานจากเรือนกายแล้ว จึงไม่มีเหตุผลใดที่ อาเชอร์ เฟร์นานโด จะหันหลังกลับไปใส่ใจในลำดับขั้นก่อนหลังของความสัมพันธ์จากค่ำคืนอันเริงร้อนนั้น
สาวบริสุทธ์ควรต้องหัวอ่อน ว่านอนสอนง่าย หลงใหลได้ปลื้มกับความร้อนแรงทางกาย เรียนรู้ชั้นเชิงจากผู้เชี่ยวชาญเรื่องบนเตียงซึ่งผู้หญิงค่อนโลกใฝ่หาแล้วหันมาปรนเปรอเขาให้พึงใจในคราวเดียวกัน
ให้สมกับข้อได้เปรียบที่เธอมีเวลาอยู่บนเตียงของเขาเนิ่นนานกว่าผู้หญิงทั่วไป
...แม้จะถูกอบรมเลี้ยงดูให้เติบโตมาเป็นอย่างดี แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายที่สร้างรอยอัปยศไว้บนเรือนกายอย่างน่าอดสูใจแล้ว แพรวาไม่เกรงกลัวที่จะตอบโต้เขาแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน เธอสร้างกำแพงขึ้นมาป้องกันตัวเองอย่างหนาแน่นเสียจนลืมไปว่า ทุกย่างก้าวของเธออยู่ในสายตาของมาเฟียผู้ทรงอิทธิพล
การต่อต้าน หลีกหนีของเธอกำลังสั่นคลอนความเชื่อมั่นที่เกิดขึ้นตลอดวัยหนุ่ม
หรือเขาต้องหันกลับไปมองหา ดอกไม้ เครื่องเพชร การดินเนอร์ใต้แสงเทียนเพื่อใช้ล่อลวงเมียตัวเองให้ปีนขึ้นเตียงอีกครั้ง!?
เช่นนี้แล้วเธอจะต้านทานมาเฟียผู้ขยันใช้เสน่ห์ทางกาย ‘ล่อลวงให้หลงใหล’ ทุกครั้งที่เผลอ... เขาจะใช้อาวุธอันร้ายกาจกะเทาะกำแพงหัวใจให้พังทลายจนไม่เหลือชิ้นดีได้อย่างไร
เจ้าหัวใจมาเฟีย ฉบับรีไรต์นี้เพิ่มฉากหวานที่ทำให้ต้องอมยิ้มไปกับความรักของอาเชอร์และเบนเซม่าที่มีให้นางเอก เพิ่มเนื้อหาให้เต็มอิ่ม เพิ่มตอนพิเศษอย่างจุใจ ตามคำเรียกร้องของนักอ่านที่อยากเก็บสะสมแทนเล่มเดิมหรือบางท่านยังไม่เคยได้สัมผัสกับความรักของดอนอาเชอร์และนักฟุตบอลหนุ่มซึ่งเคยตีพิมพ์มาแล้วครั้งหนึ่ง
การพบหน้ากันครั้งแรก แพรวา ต้องกลายเป็นสาวเอสคอร์ตที่เขาใช้เป็นเครื่องมือเขี่ยผู้หญิงอีกคนทิ้ง
ในครั้งที่สองเขากลับลากเธอขึ้นเตียง ช่วงชิงเอาความสาวไปโดยที่เธอไม่ทันได้ทัดทาน นั่นก็เป็นเหตุผลอันยอดเยี่ยมแล้วที่ควรต้องอยู่ให้ห่างจากมาเฟียผู้ดุดัน อันตราย
ถึงแม้ว่านักกายภาพบำบัดสาวจะประพฤติตัวตามเหตุผลข้างต้นนั้นได้ดีสักเพียงใด
เธอควรต้องรู้เอาไว้ว่า... นอกจากเขาจะเป็นมาเฟียผู้ดุดัน อันตรายแล้ว ยังเชี่ยวชาญในการบังคับข่มขู่!
เมื่อหญิงสาวใบหน้างดงามหล่นลงกลางเตียงให้เขาได้ตักตวงเอาความหอมหวานจากเรือนกายแล้ว จึงไม่มีเหตุผลใดที่ อาเชอร์ เฟร์นานโด จะหันหลังกลับไปใส่ใจในลำดับขั้นก่อนหลังของความสัมพันธ์จากค่ำคืนอันเริงร้อนนั้น
สาวบริสุทธ์ควรต้องหัวอ่อน ว่านอนสอนง่าย หลงใหลได้ปลื้มกับความร้อนแรงทางกาย เรียนรู้ชั้นเชิงจากผู้เชี่ยวชาญเรื่องบนเตียงซึ่งผู้หญิงค่อนโลกใฝ่หาแล้วหันมาปรนเปรอเขาให้พึงใจในคราวเดียวกัน
ให้สมกับข้อได้เปรียบที่เธอมีเวลาอยู่บนเตียงของเขาเนิ่นนานกว่าผู้หญิงทั่วไป
...แม้จะถูกอบรมเลี้ยงดูให้เติบโตมาเป็นอย่างดี แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายที่สร้างรอยอัปยศไว้บนเรือนกายอย่างน่าอดสูใจแล้ว แพรวาไม่เกรงกลัวที่จะตอบโต้เขาแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน เธอสร้างกำแพงขึ้นมาป้องกันตัวเองอย่างหนาแน่นเสียจนลืมไปว่า ทุกย่างก้าวของเธออยู่ในสายตาของมาเฟียผู้ทรงอิทธิพล
การต่อต้าน หลีกหนีของเธอกำลังสั่นคลอนความเชื่อมั่นที่เกิดขึ้นตลอดวัยหนุ่ม
หรือเขาต้องหันกลับไปมองหา ดอกไม้ เครื่องเพชร การดินเนอร์ใต้แสงเทียนเพื่อใช้ล่อลวงเมียตัวเองให้ปีนขึ้นเตียงอีกครั้ง!?
เช่นนี้แล้วเธอจะต้านทานมาเฟียผู้ขยันใช้เสน่ห์ทางกาย ‘ล่อลวงให้หลงใหล’ ทุกครั้งที่เผลอ... เขาจะใช้อาวุธอันร้ายกาจกะเทาะกำแพงหัวใจให้พังทลายจนไม่เหลือชิ้นดีได้อย่างไร
เจ้าหัวใจมาเฟีย ฉบับรีไรต์นี้เพิ่มฉากหวานที่ทำให้ต้องอมยิ้มไปกับความรักของอาเชอร์และเบนเซม่าที่มีให้นางเอก เพิ่มเนื้อหาให้เต็มอิ่ม เพิ่มตอนพิเศษอย่างจุใจ ตามคำเรียกร้องของนักอ่านที่อยากเก็บสะสมแทนเล่มเดิมหรือบางท่านยังไม่เคยได้สัมผัสกับความรักของดอนอาเชอร์และนักฟุตบอลหนุ่มซึ่งเคยตีพิมพ์มาแล้วครั้งหนึ่ง
Tags: ดอนอาเชอร์, นักฟุตบอล, มาเฟีย,
ตอน: ตอนที่ 3 50%
ยิ่งรู้ว่าต้องถูกขังอยู่ในห้องกับเขาตามลำพัง แพรวายิ่งดิ้นอย่างเอาเป็นเอาตาย เรี่ยวแรงของคนที่กระเสือกกระสนเอาตัวรอดนั้นมากเกินกว่าที่อาเชอร์คาดคิดไว้นัก เธอจึงสามารถผละออกจากการเกาะกุมของเขาได้แล้วหมุนตัวกลับไปทุบประตูบานใหญ่พร้อมเสียงเอะอะโวยวาย
“เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ ฉันบอกให้เปิด ได้ยินไหม...” ทั้งร้องทั้งทุบประตูสลับกับเหลือบสายตามองคนที่ยืนทำหน้าตึงอยู่ไม่ไกล
“ร้องจนเสียงแหบก็ไม่มีใครได้ยินหรอก มาคุยกันดีๆ” อาเชอร์บอกด้วยน้ำเสียงติดรำคาญใจในขณะที่ก้าวเข้าไปด้านใน แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ยังยืนเกาะอยู่ตรงประตูราวกับว่ามันจะช่วยคุ้มภัยได้ “ให้เร็ว!”
อีกครั้งที่แพรวาอ้าปากค้างอย่างเหลืออด “ไม่คุย ไม่มีอะไรต้องคุยแล้วก็ไม่ต้องมาทำท่าเหมือนฉันเป็นตัวน่ารำคาญ ปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะ”
“ตามใจ”
ไม่คุยก็ไม่คุย ดี! เดี๋ยวจากนี้ไปก็ทำทุกอย่างตามใจเขาคนเดียว ทำให้มันหมดสิ้นความคลางแคลงใจกันไปว่าความรู้สึกที่บรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ทั้งยังรบกวนจิตใจให้เขาเสียสมาธิอยู่บ่อยครั้งตลอดระยะเวลาเกือบสองเดือนนี้มันจะจางหายไปบ้างหรือเปล่า มาเฟียหนุ่มคิดในใจและเดินเข้าไปในห้องน้ำโดยไม่สนใจว่าเธอจะกำลังคิดหาวิธีเอาตัวรอดออกจากห้องนี้
ถึงแม้เขาจะไม่ได้ใช้กำลังอย่างที่นึกหวาดกลัวแต่การที่เขาถอดเสื้อผ้าแล้วเดินหายเข้าไปด้านในยิ่งทำให้แพรวาอยากร้องไห้ หากต้องสั่งให้รีบหาวิธีพาตัวเองออกไปจากสถานการณ์อันยากลำบากนี้โดยเร็ว
เธออยู่บนชั้นสูงสุดของตึกสูงระฟ้า เพนต์เฮาส์หรูติดกระจกใสรอบด้าน เมื่อมองออกไปจึงเห็นเพียงแค่แสงไฟเป็นจุดเล็กๆ เท่านั้นเช่นนี้แล้วจะร้องขอความช่วยเหลือจากใครได้
เจ้าของฝ่าเท้าบอบบางกำลังวิ่งไปมาจนทั่วห้อง เสียงสายน้ำที่ตกกระทบพื้นดังลอดออกมาให้ได้ยินกลับกลายเป็นเสียงที่ทำให้เธออกสั่นขวัญแขวน รีบวิ่งกลับไปยังประตูอีกครั้งลองสุ่มกดรหัสเปิดประตูอีกหลายต่อหลายครั้ง กระเป๋าถือที่มีอุปกรณ์สื่อสารก็หล่นอยู่หน้าห้อง
ฉลาดน้อยไปไหมกับการเดาสุ่มใส่รหัสผ่านเพื่อเปิดประตู อาเชอร์ส่ายหน้าให้กับผู้หญิงที่วางท่าเป็นปฏิปักษ์กับความต้องการของเขาทุกครั้งเมื่อพบหน้า
อย่าหวังว่าเธอจะนอนรอเขาอยู่บนเตียงด้วยเครื่องแต่งกายน้อยชิ้น ไขว้เท้าเปิดเปลือยให้เห็นเรือนร่างวับๆ แวมๆ หรือปลุกอารมณ์เสน่หาให้คุโชนด้วยการเปิดเกมรุกด้วยชั้นเชิงที่เขาแทบจะไม่ต้องทำอะไร อาเชอร์ยังเดาอารมณ์ของเธอไม่ออก ร้ายไปกว่านั้นเธอยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขามายืนซ้อนอยู่ข้างหลังอยู่ครู่หนึ่งแล้ว
“รหัสเปิดประตูอยู่ในปากผม”
เสียงห้าววางอำนาจดังขึ้นอยู่เหนือกระหม่อมเธอพร้อมๆ กับความรู้สึกหวาดกลัวสุดชีวิตเมื่อเขายกร่างเธอขึ้นอีกครั้งแล้วพาเดินเข้าไปในห้องนอน
“จะพาฉันไปไหน เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ” หยดน้ำที่เกาะพราวอยู่บนแผงอกแกร่งแทรกซึมเข้าไปในเดรสชุดสวย ความเย็นเพียงน้อยนิดที่แผ่นหลังบอบบางสัมผัสได้นั้นกลับทำให้เย็นยะเยือกไปทั้งร่างกายและจิตใจ
“ถ้าอยากได้รหัสเปิดก็ต้องมีอะไรมาแลกเปลี่ยนกันหน่อยล่ะ”
“ไม่ ฉันไม่มีอะไรจะให้ อย่าทำแบบนี้” ห้ามเสียงสั่นแทบจะร้องไห้เมื่อถูกปล่อยให้ร่วงหล่นลงบนเตียงนอน
“แต่ผมจะเอา” อาเชอร์โต้กลับทันควันพร้อมคว้าเข้าที่ข้อเท้าเล็กซึ่งตั้งใจจะคลานหนี เธอจึงเสียหลักนอนคว่ำเพราะถูกแรงที่มีมากกว่าลากเข้าหาตัว ผลคือเดรสชุดสวยร่นขึ้นสูงเปิดเผยให้เห็นขาเรียวนวลเนียน
“ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ฉันจะแจ้งตำรวจ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ” แพรวาตะโกนทั้งยังพลิกตัว งอเข่าขาข้างที่เป็นอิสระตั้งใจจะถีบเตะเขาสุดแรง แต่มีหรือที่เธอจะสู้รบปรบมือกับมาเฟียผู้รอบจัด
เมื่อเดรสตัวสวยร่นขึ้นอยู่ตรงสะโพกผายนั่นยิ่งเปิดโอกาสให้เขาได้จัดการลอกมันออกจากตัวเธอทางศีรษะ อาเชอร์ครางฮือเมื่อเห็นร่างน่าปรารถนาในลักษณะเกือบเปลือย ครั้งแรกที่มาเฟียหนุ่มกวาดสายตามองอย่างอ้อยอิ่ง ไม่เคยคิดว่าผิวกายอันกระจ่างตานี้จะให้ความรู้สึกหลากหลายถึงเพียงนี้
น่าปรารถนาและควรค่าแก่การทะนุถนอม...
แพรวาไม่ได้กรีดร้องเช่นเคยเพราะรีบยกแขนทั้งสองข้างขึ้นกอดอก ปิดบังเนื้อตัวจากสายตาของเขาตามสัญชาตญาณ ทว่าท่าทีที่เขานิ่งงันอยู่ชั่วครู่กลับเปิดโอกาสให้เธอได้กระทำการเรียกสติเขาในทันที
เพียะ!...
ใบหน้าคร้ามคมสะบัดตามแรงฝ่ามือที่กระแทกเข้าอย่างจัง อาเชอร์หลับตาลงระงับอารมณ์โกรธอย่างที่สุด ความรู้สึกแสนวิเศษที่เกิดขึ้นเลือนหายไปชั่วขณะ
แพรวามองตามฝ่ามือใหญ่ที่เลื่อนขึ้นแตะตรงใบหน้า แน่นอนว่าปลายนิ้วของเขาสัมผัสได้ถึงเลือดที่ซึมออกมาเพราะปลายเล็บที่เธอตั้งใจข่วนและตบหน้าเขาในคราวเดียวกัน
“ช่วยเรียกสติไม่ให้คุณทำเรื่องบ้าๆ ไง อย่ามามองฉันแบบนี้นะ” ตวาดดุด้วยเสียงสั่นเครือ
อาเชอร์ละสายตาจากปลายนิ้วที่มีเลือดของตนติดอยู่แล้วแค่นยิ้มให้ผู้หญิงตรงหน้า เขาโกรธเพราะเป็นครั้งแรกที่ถูกผู้หญิงตบจนหน้าหัน ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงต้องต่อต้าน เล่นตัวจัดจนน่าโมโหทั้งที่ความจริงแล้ว ถ้าเธอมีสิทธิ์ร่วมงานเลี้ยงเมื่อครู่ควรต้องรู้จักเขา
แล้วเพราะเหตุใดถึงได้ต่อต้าน ทำให้ทุกอย่างยุ่งยากจนต้องเกิดเรื่องเช่นนี้ “ไม่รู้หรือไงว่าผมเป็นใคร”
“เป็นมาเฟียชั่ว ไร้ยางอาย ไร้จิตสำนึกไง ถึงได้กล้าดีลากฉันมาทำเรื่องชั่วร้ายแบบนี้” โต้กลับทันควัน
“อ่อ...” ครางรับเพียงเท่านั้นและก้มหน้าลงตั้งใจจะจูบสั่งสอนจนเธอต้องถอนคำพูด แต่พลาดเป้าไปนิดเพราะร่างอรชรอยู่ไม่เป็นสุข ปลายจมูกและริมฝีปากร้อนรุ่มถึงได้มีโอกาสซุกไซ้อยู่ข้างแก้มเนียนเรื่อยไปจนถึงใบหูบางและซอกคอระหง
“อย่านะ ฉันไม่เต็มใจ อื้อ...” แพรวาเบือนหน้าหนีปากและจมูกที่ตามติดเธอเป็นพัลวัน สมองกำลังคิดหาทางเอาตัวรอด การตอบโต้เขาแบบตาต่อตาฟันต่อฟันนั้นไม่ได้ผลเลยสักนิด หนำซ้ำเธอยังตกที่นั่งลำบากเพราะไม่อาจต่อกรกับเรี่ยวแรงของผู้ชายที่มีร่างกายใหญ่โตกว่าเกือบสองเท่า “ไม่ๆ คุยกันก่อนได้ไหม ฉันขอร้อง”
อาเชอร์ประหลาดใจเมื่อท่าทีเธอเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ทั้งน้ำเสียงและแววตา การดิ้นรนต่อสู้ก็ชะงักงัน “ก็นึกว่าชอบแบบนี้ นี่ผมยังคิดอยู่เลยว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าคุณจะขอให้มัดมือมัดเท้าด้วยรึเปล่า”
เขาคิดอย่างนั้นจริงๆ เพราะมันเป็นวิธีการที่สาวๆ ทั่วไปมักใช้ปลุกอารมณ์ปรารถนา ไม่ให้ซ้ำซากจำเจ แล้วเธอก็คงจะไม่ต่างไปจากสาวๆ ที่เขาเคยพบเจอมาสักเท่าไหร่ เห็นได้จากอารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยวต่อต้านสุดชีวิตแล้วมาพูดดีออดอ้อน
กรี๊ด... แพรวาหวีดร้องออกมาอย่างเหลืออดกับคำพูดนั้น จากที่คิดจะใช้ไม้นวมเข้าเกลี้ยกล่อมแต่พอได้ยินถึงการกระทำแบบซาดิสม์นั้นทุกอย่างที่คิดเอาไว้กลับพังทลาย
“ปล่อยฉัน... ไอ้มาเฟียหื่นกาม ฉันจะแจ้งตำรวจ ลากคอแกเข้าคุก” ตะโกนใส่หน้าเขาอย่างไม่เกรงกลัว ทั้งยังงอเข่าขึ้นมาที่หน้าอกเพื่อกันไม่ให้เขากดตัวลงมา
นั่นไง ผิดจากที่คิดไว้เสียเมื่อไหร่ อาเชอร์คิดในใจและหัวเราะร่วน แต่กลับเป็นเสียงหัวเราะที่ทำให้แพรวาอยากจะร้องไห้
“ก็เข้าใจหรอกนะว่าอยากให้ตื่นเต้น แต่ผมชอบแบบเร็ว... ร้อน... มันถึงทำรอบได้ไงล่ะ” อาเชอร์ยั่วอารมณ์พร้อมเอื้อมมือไปหยิบเครื่องป้องกันในลิ้นชักจากโต๊ะเตี้ยข้างเตียง
“ไม่เอานะ... คุณอย่าทำอะไรฉันเลย มันไม่สนุกหรอก ฉันไม่เต็มใจ” ไร้ประโยชน์ที่จะขอร้องเช่นนั้น เมื่อลดสายตามองในสิ่งที่เขากำลังทำกับตัวเอง คล่องแคล่ว รวดเร็วเพียงแค่เสี้ยววินาทีก็โถมตัวเข้าทาบทับเธอ สอดมือเข้าใต้แผ่นหลังเพื่อปลดตะขอบราเซียร์
ก้อนเนื้อหยุ่นนุ่มแน่นมือเผยตัวให้เห็น เมื่อไร้สิ่งห่อหุ้ม ยอดทรวงสีหวานทำให้อาเชอร์ครางยาว จ้องความงดงามซึ่งซ่อนรูปจนเขาสามารถตอบตัวเองได้โดยไม่ต้องเสียเวลาคิด เพราะไม่เคยได้เห็นทรวงอกอันงดงามเช่นนี้
“คุณสวยจนผมแทบลืมหายใจ...” จบคำพูดก็ก้มลงครอบครองยอดทรวงสีหวานด้วยปากและลิ้น ในขณะที่กดข้อมือบางทั้งสองข้างไว้เหนือศีรษะด้วยฝ่ามือเพียงข้างเดียว
“โอ... มะ...ไม่นะ อย่าทำกับฉันแบบนี้”
“แล้วอยากให้ทำแบบไหน” ถามในขณะที่ย้ายจากยอดทรวงไปยังอีกข้างหนึ่ง ตวัดปลายลิ้นปลุกเร้าอารมณ์ในกายสาวให้เดือดพล่าน ยิ่งเขาฟอนเฟ้นยอดทรวงที่หดตัวเข้ากับกลางฝ่ามือ เธอยิ่งตอบสนอง แอ่นอก เสนอตัวให้สวนทางกับเสียงกระเส่าที่ห้ามปรามอย่างสิ้นเชิง
แม้คิดว่าคลื่นความเสียวซ่านที่ได้รับจะทำให้ร่างกายอ่อนปวกเปียก เรี่ยวแรงต่อต้านสูญสลายแต่เมื่อเขาเลื่อนฝ่ามือต่ำลงไปยังกลางกายแล้วใช้ปลายนิ้วบดขยี้ ร่ายมนตราเสน่หาที่ทำให้ระบบความคิดล่มสลาย ส่งเสียงครางกระเส่าจนต้องตกใจกับเสียงของตัวเอง
“มะ...ไม่” แพรวาส่ายหน้าอย่างหมดรูป เธอกำลังสิ้นหนทางพ่ายแพ้ต่อเขา เหลือเพียงแค่คำพูดเท่านั้นที่ยังสามารถใช้ประท้วง เรียกร้องความตั้งใจของตนเอง “คุณต้อง เสียใจที่ทำกับฉัน แบบนี้”
“เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ ฉันบอกให้เปิด ได้ยินไหม...” ทั้งร้องทั้งทุบประตูสลับกับเหลือบสายตามองคนที่ยืนทำหน้าตึงอยู่ไม่ไกล
“ร้องจนเสียงแหบก็ไม่มีใครได้ยินหรอก มาคุยกันดีๆ” อาเชอร์บอกด้วยน้ำเสียงติดรำคาญใจในขณะที่ก้าวเข้าไปด้านใน แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ยังยืนเกาะอยู่ตรงประตูราวกับว่ามันจะช่วยคุ้มภัยได้ “ให้เร็ว!”
อีกครั้งที่แพรวาอ้าปากค้างอย่างเหลืออด “ไม่คุย ไม่มีอะไรต้องคุยแล้วก็ไม่ต้องมาทำท่าเหมือนฉันเป็นตัวน่ารำคาญ ปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะ”
“ตามใจ”
ไม่คุยก็ไม่คุย ดี! เดี๋ยวจากนี้ไปก็ทำทุกอย่างตามใจเขาคนเดียว ทำให้มันหมดสิ้นความคลางแคลงใจกันไปว่าความรู้สึกที่บรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ทั้งยังรบกวนจิตใจให้เขาเสียสมาธิอยู่บ่อยครั้งตลอดระยะเวลาเกือบสองเดือนนี้มันจะจางหายไปบ้างหรือเปล่า มาเฟียหนุ่มคิดในใจและเดินเข้าไปในห้องน้ำโดยไม่สนใจว่าเธอจะกำลังคิดหาวิธีเอาตัวรอดออกจากห้องนี้
ถึงแม้เขาจะไม่ได้ใช้กำลังอย่างที่นึกหวาดกลัวแต่การที่เขาถอดเสื้อผ้าแล้วเดินหายเข้าไปด้านในยิ่งทำให้แพรวาอยากร้องไห้ หากต้องสั่งให้รีบหาวิธีพาตัวเองออกไปจากสถานการณ์อันยากลำบากนี้โดยเร็ว
เธออยู่บนชั้นสูงสุดของตึกสูงระฟ้า เพนต์เฮาส์หรูติดกระจกใสรอบด้าน เมื่อมองออกไปจึงเห็นเพียงแค่แสงไฟเป็นจุดเล็กๆ เท่านั้นเช่นนี้แล้วจะร้องขอความช่วยเหลือจากใครได้
เจ้าของฝ่าเท้าบอบบางกำลังวิ่งไปมาจนทั่วห้อง เสียงสายน้ำที่ตกกระทบพื้นดังลอดออกมาให้ได้ยินกลับกลายเป็นเสียงที่ทำให้เธออกสั่นขวัญแขวน รีบวิ่งกลับไปยังประตูอีกครั้งลองสุ่มกดรหัสเปิดประตูอีกหลายต่อหลายครั้ง กระเป๋าถือที่มีอุปกรณ์สื่อสารก็หล่นอยู่หน้าห้อง
ฉลาดน้อยไปไหมกับการเดาสุ่มใส่รหัสผ่านเพื่อเปิดประตู อาเชอร์ส่ายหน้าให้กับผู้หญิงที่วางท่าเป็นปฏิปักษ์กับความต้องการของเขาทุกครั้งเมื่อพบหน้า
อย่าหวังว่าเธอจะนอนรอเขาอยู่บนเตียงด้วยเครื่องแต่งกายน้อยชิ้น ไขว้เท้าเปิดเปลือยให้เห็นเรือนร่างวับๆ แวมๆ หรือปลุกอารมณ์เสน่หาให้คุโชนด้วยการเปิดเกมรุกด้วยชั้นเชิงที่เขาแทบจะไม่ต้องทำอะไร อาเชอร์ยังเดาอารมณ์ของเธอไม่ออก ร้ายไปกว่านั้นเธอยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขามายืนซ้อนอยู่ข้างหลังอยู่ครู่หนึ่งแล้ว
“รหัสเปิดประตูอยู่ในปากผม”
เสียงห้าววางอำนาจดังขึ้นอยู่เหนือกระหม่อมเธอพร้อมๆ กับความรู้สึกหวาดกลัวสุดชีวิตเมื่อเขายกร่างเธอขึ้นอีกครั้งแล้วพาเดินเข้าไปในห้องนอน
“จะพาฉันไปไหน เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ” หยดน้ำที่เกาะพราวอยู่บนแผงอกแกร่งแทรกซึมเข้าไปในเดรสชุดสวย ความเย็นเพียงน้อยนิดที่แผ่นหลังบอบบางสัมผัสได้นั้นกลับทำให้เย็นยะเยือกไปทั้งร่างกายและจิตใจ
“ถ้าอยากได้รหัสเปิดก็ต้องมีอะไรมาแลกเปลี่ยนกันหน่อยล่ะ”
“ไม่ ฉันไม่มีอะไรจะให้ อย่าทำแบบนี้” ห้ามเสียงสั่นแทบจะร้องไห้เมื่อถูกปล่อยให้ร่วงหล่นลงบนเตียงนอน
“แต่ผมจะเอา” อาเชอร์โต้กลับทันควันพร้อมคว้าเข้าที่ข้อเท้าเล็กซึ่งตั้งใจจะคลานหนี เธอจึงเสียหลักนอนคว่ำเพราะถูกแรงที่มีมากกว่าลากเข้าหาตัว ผลคือเดรสชุดสวยร่นขึ้นสูงเปิดเผยให้เห็นขาเรียวนวลเนียน
“ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ฉันจะแจ้งตำรวจ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ” แพรวาตะโกนทั้งยังพลิกตัว งอเข่าขาข้างที่เป็นอิสระตั้งใจจะถีบเตะเขาสุดแรง แต่มีหรือที่เธอจะสู้รบปรบมือกับมาเฟียผู้รอบจัด
เมื่อเดรสตัวสวยร่นขึ้นอยู่ตรงสะโพกผายนั่นยิ่งเปิดโอกาสให้เขาได้จัดการลอกมันออกจากตัวเธอทางศีรษะ อาเชอร์ครางฮือเมื่อเห็นร่างน่าปรารถนาในลักษณะเกือบเปลือย ครั้งแรกที่มาเฟียหนุ่มกวาดสายตามองอย่างอ้อยอิ่ง ไม่เคยคิดว่าผิวกายอันกระจ่างตานี้จะให้ความรู้สึกหลากหลายถึงเพียงนี้
น่าปรารถนาและควรค่าแก่การทะนุถนอม...
แพรวาไม่ได้กรีดร้องเช่นเคยเพราะรีบยกแขนทั้งสองข้างขึ้นกอดอก ปิดบังเนื้อตัวจากสายตาของเขาตามสัญชาตญาณ ทว่าท่าทีที่เขานิ่งงันอยู่ชั่วครู่กลับเปิดโอกาสให้เธอได้กระทำการเรียกสติเขาในทันที
เพียะ!...
ใบหน้าคร้ามคมสะบัดตามแรงฝ่ามือที่กระแทกเข้าอย่างจัง อาเชอร์หลับตาลงระงับอารมณ์โกรธอย่างที่สุด ความรู้สึกแสนวิเศษที่เกิดขึ้นเลือนหายไปชั่วขณะ
แพรวามองตามฝ่ามือใหญ่ที่เลื่อนขึ้นแตะตรงใบหน้า แน่นอนว่าปลายนิ้วของเขาสัมผัสได้ถึงเลือดที่ซึมออกมาเพราะปลายเล็บที่เธอตั้งใจข่วนและตบหน้าเขาในคราวเดียวกัน
“ช่วยเรียกสติไม่ให้คุณทำเรื่องบ้าๆ ไง อย่ามามองฉันแบบนี้นะ” ตวาดดุด้วยเสียงสั่นเครือ
อาเชอร์ละสายตาจากปลายนิ้วที่มีเลือดของตนติดอยู่แล้วแค่นยิ้มให้ผู้หญิงตรงหน้า เขาโกรธเพราะเป็นครั้งแรกที่ถูกผู้หญิงตบจนหน้าหัน ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงต้องต่อต้าน เล่นตัวจัดจนน่าโมโหทั้งที่ความจริงแล้ว ถ้าเธอมีสิทธิ์ร่วมงานเลี้ยงเมื่อครู่ควรต้องรู้จักเขา
แล้วเพราะเหตุใดถึงได้ต่อต้าน ทำให้ทุกอย่างยุ่งยากจนต้องเกิดเรื่องเช่นนี้ “ไม่รู้หรือไงว่าผมเป็นใคร”
“เป็นมาเฟียชั่ว ไร้ยางอาย ไร้จิตสำนึกไง ถึงได้กล้าดีลากฉันมาทำเรื่องชั่วร้ายแบบนี้” โต้กลับทันควัน
“อ่อ...” ครางรับเพียงเท่านั้นและก้มหน้าลงตั้งใจจะจูบสั่งสอนจนเธอต้องถอนคำพูด แต่พลาดเป้าไปนิดเพราะร่างอรชรอยู่ไม่เป็นสุข ปลายจมูกและริมฝีปากร้อนรุ่มถึงได้มีโอกาสซุกไซ้อยู่ข้างแก้มเนียนเรื่อยไปจนถึงใบหูบางและซอกคอระหง
“อย่านะ ฉันไม่เต็มใจ อื้อ...” แพรวาเบือนหน้าหนีปากและจมูกที่ตามติดเธอเป็นพัลวัน สมองกำลังคิดหาทางเอาตัวรอด การตอบโต้เขาแบบตาต่อตาฟันต่อฟันนั้นไม่ได้ผลเลยสักนิด หนำซ้ำเธอยังตกที่นั่งลำบากเพราะไม่อาจต่อกรกับเรี่ยวแรงของผู้ชายที่มีร่างกายใหญ่โตกว่าเกือบสองเท่า “ไม่ๆ คุยกันก่อนได้ไหม ฉันขอร้อง”
อาเชอร์ประหลาดใจเมื่อท่าทีเธอเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ทั้งน้ำเสียงและแววตา การดิ้นรนต่อสู้ก็ชะงักงัน “ก็นึกว่าชอบแบบนี้ นี่ผมยังคิดอยู่เลยว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าคุณจะขอให้มัดมือมัดเท้าด้วยรึเปล่า”
เขาคิดอย่างนั้นจริงๆ เพราะมันเป็นวิธีการที่สาวๆ ทั่วไปมักใช้ปลุกอารมณ์ปรารถนา ไม่ให้ซ้ำซากจำเจ แล้วเธอก็คงจะไม่ต่างไปจากสาวๆ ที่เขาเคยพบเจอมาสักเท่าไหร่ เห็นได้จากอารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยวต่อต้านสุดชีวิตแล้วมาพูดดีออดอ้อน
กรี๊ด... แพรวาหวีดร้องออกมาอย่างเหลืออดกับคำพูดนั้น จากที่คิดจะใช้ไม้นวมเข้าเกลี้ยกล่อมแต่พอได้ยินถึงการกระทำแบบซาดิสม์นั้นทุกอย่างที่คิดเอาไว้กลับพังทลาย
“ปล่อยฉัน... ไอ้มาเฟียหื่นกาม ฉันจะแจ้งตำรวจ ลากคอแกเข้าคุก” ตะโกนใส่หน้าเขาอย่างไม่เกรงกลัว ทั้งยังงอเข่าขึ้นมาที่หน้าอกเพื่อกันไม่ให้เขากดตัวลงมา
นั่นไง ผิดจากที่คิดไว้เสียเมื่อไหร่ อาเชอร์คิดในใจและหัวเราะร่วน แต่กลับเป็นเสียงหัวเราะที่ทำให้แพรวาอยากจะร้องไห้
“ก็เข้าใจหรอกนะว่าอยากให้ตื่นเต้น แต่ผมชอบแบบเร็ว... ร้อน... มันถึงทำรอบได้ไงล่ะ” อาเชอร์ยั่วอารมณ์พร้อมเอื้อมมือไปหยิบเครื่องป้องกันในลิ้นชักจากโต๊ะเตี้ยข้างเตียง
“ไม่เอานะ... คุณอย่าทำอะไรฉันเลย มันไม่สนุกหรอก ฉันไม่เต็มใจ” ไร้ประโยชน์ที่จะขอร้องเช่นนั้น เมื่อลดสายตามองในสิ่งที่เขากำลังทำกับตัวเอง คล่องแคล่ว รวดเร็วเพียงแค่เสี้ยววินาทีก็โถมตัวเข้าทาบทับเธอ สอดมือเข้าใต้แผ่นหลังเพื่อปลดตะขอบราเซียร์
ก้อนเนื้อหยุ่นนุ่มแน่นมือเผยตัวให้เห็น เมื่อไร้สิ่งห่อหุ้ม ยอดทรวงสีหวานทำให้อาเชอร์ครางยาว จ้องความงดงามซึ่งซ่อนรูปจนเขาสามารถตอบตัวเองได้โดยไม่ต้องเสียเวลาคิด เพราะไม่เคยได้เห็นทรวงอกอันงดงามเช่นนี้
“คุณสวยจนผมแทบลืมหายใจ...” จบคำพูดก็ก้มลงครอบครองยอดทรวงสีหวานด้วยปากและลิ้น ในขณะที่กดข้อมือบางทั้งสองข้างไว้เหนือศีรษะด้วยฝ่ามือเพียงข้างเดียว
“โอ... มะ...ไม่นะ อย่าทำกับฉันแบบนี้”
“แล้วอยากให้ทำแบบไหน” ถามในขณะที่ย้ายจากยอดทรวงไปยังอีกข้างหนึ่ง ตวัดปลายลิ้นปลุกเร้าอารมณ์ในกายสาวให้เดือดพล่าน ยิ่งเขาฟอนเฟ้นยอดทรวงที่หดตัวเข้ากับกลางฝ่ามือ เธอยิ่งตอบสนอง แอ่นอก เสนอตัวให้สวนทางกับเสียงกระเส่าที่ห้ามปรามอย่างสิ้นเชิง
แม้คิดว่าคลื่นความเสียวซ่านที่ได้รับจะทำให้ร่างกายอ่อนปวกเปียก เรี่ยวแรงต่อต้านสูญสลายแต่เมื่อเขาเลื่อนฝ่ามือต่ำลงไปยังกลางกายแล้วใช้ปลายนิ้วบดขยี้ ร่ายมนตราเสน่หาที่ทำให้ระบบความคิดล่มสลาย ส่งเสียงครางกระเส่าจนต้องตกใจกับเสียงของตัวเอง
“มะ...ไม่” แพรวาส่ายหน้าอย่างหมดรูป เธอกำลังสิ้นหนทางพ่ายแพ้ต่อเขา เหลือเพียงแค่คำพูดเท่านั้นที่ยังสามารถใช้ประท้วง เรียกร้องความตั้งใจของตนเอง “คุณต้อง เสียใจที่ทำกับฉัน แบบนี้”
ศิริพารา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ส.ค. 2559, 11:05:06 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ส.ค. 2559, 11:05:06 น.
จำนวนการเข้าชม : 1287
<< ตอนที่ 2 100% | ตอนที่ 3 100% >> |
แว่นใส 26 ส.ค. 2559, 14:31:28 น.
จะเอาคืนยังไงให้สาสมดีนะ
จะเอาคืนยังไงให้สาสมดีนะ