โซ่รักสีรุ้ง
"เด็กคนนั้น...เป็นลูกใคร" ห้าปีผ่านมา เธอคิดว่าชินชากับความเจ็บปวดแล้ว แต่ความจริงความรู้สึกนั้นเพียงแต่ตกตะกอนอยู่ก้นบึ้งหัวใจรอเวลาที่ใครสักคนจะกวนตะกอนนั้นขึ้นมา ให้เจ็บรวดร้าวยอกแสลงไปทั้งหัวใจ
Tags: ศศิภา,อรุณฉาย,ท้อง,หย่า,หนี,แต่งงาน,ศศิอักษร

ตอน: บทที่ ๕.๒ - จูบแสนหวาน

***ขอเปลี่ยนจากคำว่าเธอเป็นหล่อนค่ะ***



สายรุ้งยังคงเป็นสายรุ้ง แม้จะเรียนจบแล้วหล่อนก็ยังคงความอ่อนหวาน ไร้เดียงสา อ่อนต่อโลก และไร้จุดเด่นในสายตาของหนุ่มๆ โดยเฉพาะในสายตาของพนมกร เขามองหล่อนเป็นขนมหวานที่วางอยู่ตรงหน้า ไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครคิดจะแย่งชิง เขาจะหยิบกินเมื่อไรก็ได้ตามแต่ใจปรารถนา หรืออยากจะวางทิ้งไว้เฉยๆ ก็ย่อมได้เช่นกัน

พนมกรนั้นดูแลเอาใจใส่สายรุ้งเป็นอย่างดี เสมือนแฟนหนุ่มๆ ทั่วๆ ไป ไปรับไปส่ง พาไปดินเนอร์ใต่แสงเทียน วันเกิดก็มีของขวัญมาให้ หรือบางทีก็มีเซอร์ไพรส์บ้างให้ชีวิตรักมีความตื่นเต้นเล็กๆ น้อยๆ และเพื่อให้หล่อนประทับใจ

เรื่องหึงหวงน่ะ ลืมไปได้เลย พนมกรไม่เคยหึงหล่อน ไม่แม้จะแตะความรู้สึกนั้นเพราะรอบๆ ตัวหล่อนแวดล้อมไปด้วยผู้หญิง ไม่เคยมีหนุ่มๆ มาข้องแวะแม้สักคน เขาเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมว่าสายรุ้งไม่มีทางหลุดรอดมือเขาไปได้ เขามั่นใจมาตลอดจนกระทั่งวันนี้...วันที่เขาวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาหล่อนด้วยความเป็นกังวลว่าหล่อนจะโกรธที่เขาติดงานจนไปรับหล่อนไม่ได้

ในห้องรับแขกบ้านนาฏยรัตน์ เขากลับพบคนที่ไม่ควรได้พบ

...นายศิวนาถ นั่งอย่างสบายอารมร์และพูดคุยหัวร่อต่อกระซิกกับคนรักของเขาอย่างสนิทสนม

นับตั้งแต่เรียนจบ สายรุ้งก็เข้าไปทำงานที่บริษัทของบิดาในตำแหน่งเลขาณุการของกรรมการผู้จัดการหนุ่มไฟแรง ซึ่งคนคนนั้นก็คือผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาในเวลานี้

‘พี่กรคะ นี่คุณศิ เจ้านายของรุ้งค่ะ’

หล่อนเคยแนะนำเขาให้รู้จักกับอีกฝ่ายเมื่อสองเดือนก่อน เป็นการทักทายอย่างผิวเผินและเป็นไปตามมารยาทเท่านั้น

หลังจากครั้งแรกที่พบกัน เขาก็พบกับศิวนาถอีกสองสามครั้ง

ครั้งที่สอง เขาเห็นศิวนาถพูดคุยแย้มยิ้มกับสายรุ้งอย่างสนิทสนมราวกับรู้จักกันมาหลายปี รอยยิ้ม และดวงตาแวววาวของหล่อนนั้น สร้างความแปลกใจให้เขาได้ไม่น้อย เพราะปกติแล้วสายรุ้งไม่ใช่คนที่จะพูดคุยกับหนุ่มๆ ด้วยท่วงท่าสบายๆ เช่นนั้น หล่อนจะต้องประหม่า เคอะเขิน ไม่มั่นใจ แต่กับชายผู้นี้ สายรุ้งกลับมอบความสนิทสนมให้อย่างง่ายดาย

ครั้งที่สาม เขาไปรับหล่อนที่บริษัท ทันได้เห็นศิวนาถมอบของสิ่งหนึ่งให้กับหล่อน...เป็นสร้อยข้อมือห้อยจี้ฝังเพชรรูปหัวใจ เป็นของขวัญราคาแพง และสื่อถึงบางสิ่งที่เจ้านายหรือคนที่เป็นเพียงคนรู้จักไม่สมควรมอบให้แก่กัน

และครั้งล่าสุดก็คือวันนี้

“คุณศิอาสามาส่งรุ้งค่ะ”

“อ้าว...แล้วนายพันล่ะ”

เขาเอ่ยถามคนขับรถที่มักจะไปรับไปส่งหล่อนมาตั้งแต่สมัยหล่อนเรียนชั้นประถม

“รถเสียน่ะค่ะ คุณศิยังไม่กลับพอดี เขาก็เลยอาสามาส่ง”

พนมกรพยักหน้ารับรู้ พลางเขม้นมองชายตรงหน้าด้วยความรู้สึกไม่ถูกชะตา...นับเป็นครั้งแรกที่เขามองใครคนหนึ่งด้วยสายตาเช่นนี้

ปกติแล้ว แม้จะไม่ชอบหน้าสักเพียงใด เขาก็ไม่เคยแสดงออกอย่างชัดแจ้งเช่นนี้ เขาจะเก็บงำความรู้สึกในด้านลบนั้นไว้ในก้นบึ้งของหัวใจจนแทบไม่มีใครสังเกตได้

ถ้าพูดว่าวันนี้เขา ‘ฟิวส์ขาด’ ก็น่าจะได้กระมัง เพราะความไม่พอใจเด่นหราอยู่บนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาอย่างปิดไม่มิด

“งานหนักหรือคะวันนี้”

เสียงใสๆ ของสายรุ้งเรียกให้เขาเบือนสายตาไปมองหล่อน

“พี่กรดูเหนื่อยๆ นะคะ กลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ”

“อะไรกัน?” เป็นครั้งแรกอีกเช่นนั้นที่น้ำเสียงของเขาขุ่นมัวกว่าปกติ “พี่เพิ่งมาถึง รุ้งก็ไล่พี่เสียแล้วหรือ”

คนฟังหน้าเสีย ดวงตาหม่นแสงและสับสนด้วยไม่เคยสัมผัสกับความแข็งขึงเช่นนี้มาก่อน

“เปล่านะคะ รุ้งไม่ได้ไล่ รุ้งแค่...”

พูดไม่ทันจบประโยคด้วยซ้ำ คนรักที่อารมณ์ไม่อยู่กับร่องกับรอยก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน

“พี่รีบมาหารุ้งก็เพราะเป็นห่วง ว่าจะพารุ้งไปดินเนอร์ข้างนอกด้วย” ว่าพลางผุดลุก ไม่ลืมที่จะคว้ามือเล็กแล้วดึงให้ลุกตาม เขาบีบมือหล่อนกระชับแน่นจนสายรุ้งนิ่วหน้า “ต้องขอโทษคุณศิวนาถด้วยนะครับ ผมไม่ทราบจริงๆ ว่ารุ้งมีแขก ไม่อย่างนั้นผมคงพารุ้งไปดินเนอร์วันอื่นแล้ว แต่น่าเสียดายวันนี้ผมจองโต๊ะไว้...”

“ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร”

ศิวนาถเหมือนจะเข้าใจสถานการณ์ดี เขาลุกขึ้นยืน ส่งยิ้มให้กับคนทั้งสองแล้วเอ่ยลาในทันที

“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับก่อนเลยดีกว่า ไว้พบกันพรุ่งนี้นะครับคุณรุ้ง”

ประโยคท้ายหันมาส่งสายตาวับหวานกับหล่อน พานให้คนที่ยืนข้างๆ ขบกรามแน่น มือใหญ่บีบมือเล็กแน่นเข้าอย่างไม่รู้ตัว

“ขอบคุณมากๆ ค่ะคุณศิ”

สายรุ้งข่มความเจ็บ แล้วส่งยิ้มหวานให้อีกฝ่าย รอจนกระทั่งเขาเดินลับหายไป จึงหันมามองคนรักของตน

“พี่กรคะ” ยามทอดเสียงเรียกเขา ปลายหางเสียงก็ยังคงอ่อนหวานเหมือนปกติ จะมีที่แตกต่างไปจากเดิมก็คือความหวาดๆ ที่ซ่อนอยู่ในนั้น “รุ้งเจ็บ”

คำนั้นทำให้พนมกรได้สติ เขาก้มมองมือของตัวเองที่บีบมือเล็กๆ ของหล่อนจนแดงก่ำ แล้วรีบปล่อยโดยเร็ว

“ขอโทษ” คำขอโทษสั้นๆ ปลายเสียงติดจะห้วนเช่นนี้เป็นสิ่งที่สายรุ้งไม่คุ้นเอาเสียเลย หล่อนจึงยิ่งใจไม่ดี หญิงสาวมองใบหน้ากระด้างของคนรัก กลืนน้ำลายหนึ่งเอื๊อกก่อนถามเสียงเบา

“วันนี้อารมณ์ไม่ดีเหรอคะ”

“ใช่”

“โกรธใครมาคะ โกรธรุ้งหรือเปล่า หรือเป็นเรื่องงาน?”

เมื่อถามจบ หล่อนพลันสะดุ้งเมื่อคนตัวโตรั้งเอวหล่อนเข้าไปกอด วงแขนของเขากระชับร่างเล็กๆ แนบแน่น ก่อนผู้เป็นเจ้าของจะก้มหน้าลงมา มืออีกข้างจับปลายคางของหล่อน บังคับให้เงยหน้าสบตาเขา

“ไม่ใช่เรื่องงาน แล้วก็ไม่ได้โกรธด้วย...แต่พี่หึง!”


“คะ?”

ดวงตาอันอ่อนหวานที่ทอดมองมามีความงุนงงและคาดไม่ถึง สายรุ้งไม่เคยพบเจอสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน หล่อนไม่เคยมีคนรัก ไม่เคยสัมผัสกับความหึงหวงของหนุ่มๆ และแม้จะคบกับพนมกรมาแรมปี เขาก็ไม่เคยแสดงอารมณ์ในลักษณะนี้มาก่อนเช่นกัน

“หึง? หึงรุ้ง...หรือคะ”

“แล้วจะให้พี่หึงใคร”

สุ้มเสียงยังคงห้วนกว่าปกติ จนสายรุ้งชักวางตัวไม่ถูก ได้แต่ยืนอึ้ง พูดอะไรไม่ออกอยู่พักใหญ่ เมื่อมองสบดวงตาอันเข้มข้นรุนแรงด้วยอารมณ์อันคุกรุ่น หล่อนเพิ่งเข้าใจในตอนนั้นเองว่าหล่อนไม่ได้รู้จักพนมกรในทุกแง่มุมอย่างที่คิด...อย่างน้อยๆ ตอนนี้ เขาก็เสมือนเป็นคนอีกคนที่หล่อนไม่รู้จัก

“พี่ไม่ชอบให้รุ้งไปสนิทสนมกับหมอนั่น”

แล้วคำเรียกนั่นอีก ‘หมอนั่น’ หล่อนไม่ชอบเอาเสียเลย

สายรุ้งขมวดคิ้ว ริมฝีปากเม้มเข้าหากัน ขณะที่ดวงตาฉายวาบถึงความไม่พอใจ

เพราะสายรุ้งเป็นคนไม่ซับซ้อน พนมกรจึงจับความรู้สึกได้ง่าย แม้เพียงแค่มองสบตาเขาก็เข้าใจอารมณ์ของหล่อนอย่างทะลุปรุโปร่ง

“พี่ขอโทษ” พนมกรรีบปรับอารมณ์ของตนเองในทันที...สายรุ้งคือ ‘คนพิเศษ’ ที่เขาต้องเฝ้าฟูมฟักทะนุถนอม “พี่อาจจะหึงรุ้งมากเกินไปจน...” เขานิ่งคิดอยู่อึดใจก่อนไหวไหล่ “...จนทำตัวเหมือนเด็ก”

เขาทอดถอนใจ คลายความเคร่งเครียดด้วยการคลายอ้อมกอดของตนออกเล็กน้อย ก่อนเกยปลายคางบนศีรษะของหล่อน

“รุ้งอาจจะไม่พอใจที่พี่ทำตัวแบบนี้ แต่พี่ห้ามตัวเองไม่ได้จริงๆ เห็นรุ้งอยู่กับคุณศิวนาถทีไร พี่เป็นต้องโมโหทุกที”

ชายหนุ่มกลั้นใจเรียกชายคนนั้นว่าคุณ ทั้งที่อยากจะเรียกว่า ‘ไอ้’ เต็มแก่

“ขอโทษด้วยนะรุ้ง พี่จะพยายามปรับปรุงตัวเอง จะไม่งอแงแบบเด็กๆ เหมือนวันนี้อีก”

ร่างอันแข็งขืนในอ้อมกอดของเขาผ่อนคลายลง เขาได้ยินหล่อนผ่อนลมหายใจยาวก่อนเขยิบตัวเข้าหาเขา...เพียงเท่านี้ เขาก็รู้แล้วว่าหล่อนให้อภัย ความขุ่นเคืองที่มีมาก่อนหน้านี้มลายหายสิ้นไปหมดแล้ว

รอยยิ้มจุดขึ้นบนมุมปากราวอิสตรี...อย่างสมใจและพึงใจ

“โกรธพี่หรือเปล่าคะ”

ไม่บ่อยนักที่เขาจะใช้คำ คะ ขา กับหล่อน ส่วนใหญ่เขาจะใช้เวลาต้องงอนง้อหรือออดอ้อนหล่อนเท่านั้น

“รุ้งจะโกรธทำไมคะ รุ้งแค่ไม่เข้าใจเฉยๆ”

สายรุ้งเงยหน้าสบตาเขา ดวงตากลมโตคู่นั้นกลับมาวับหวานและทำให้หัวใจของเขาแช่มชื่นเช่นเดิม

“ไม่เข้าใจว่า?”

“เรื่องหึงไงคะ ก็คุณศิกับรุ้งเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องกันเท่านั้นเอง”

“รุ้งคิดว่าเขาเป็นเจ้านาย แต่คุณศิเขาคิดว่ารุ้งเป็นลูกน้องหรือเปล่า”

“ก็ต้องคิดสิคะ” สายรุ้งตอบทันควันโดยไม่เสียเวลาคิด “คุณศิไม่มีทางคิดอะไรเกินเลยกับรุ้งหรอกค่ะ”

“รู้ได้ยังไงคะ” พนมกรจับปลายคางของหล่อน บีบเบาๆ อย่างหยอกล้อ “รุ้งของพี่ออกจะน่ารักแบบนี้ ใครไม่หลงก็บ้าแล้ว”

“ฮื้อ...ไม่ใช่แล้วค่ะ” หล่อนส่ายหน้าพลางหัวเราะร่วน “มีพี่กรคนเดียวแหละค่ะที่เห็นว่ารุ้งน่ารัก”

“ก็ดีน่ะสิ ให้พี่เห็นรุ้งน่ารักคนเดียวก็พอแล้ว จะได้ไม่มีใครมาแย่งรุ้งไปจากพี่”

บรรยากาศเดิมๆ กลับคืนมา...สายรุ้งมองเขาด้วยความขวยเขิน แก้มนวลแดงระเรื่ออย่างน่ารัก ริมฝีปากเต็มอิ่ม สวยด้วยสีปากตามธรรมชาติเม้มเข้าหากัน คนมองเสียดายที่จะไม่ได้มองมันอีกจึงวางนิ้วโป้งลงบนนั้น...แผ่วเบาราวปีกผีเสื้อ แต่กลับทำให้หล่อนสะท้าน

“รุ้งเป็นของพี่แล้ว...” คนพูดถึงกับแสดงความเป็นเจ้าของอย่างเอาแต่ใจ “...เป็นแล้วต้องเป็นเลย รู้ไหม”

ริมฝีปากคู่นั้นสั่นระริก เชิญชวน...น่าแปลกเหลือเกิน กับผู้หญิงคนอื่นที่ทาลิปสติกสีแดงจัดจ้า แถมยังส่งจูบยั่วยวน เขายังไม่รู้สึกอยากจูบมากเท่านี้เลย

สายรุ้ง ‘ยั่ว’ เขา โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลยสักนิด

เขาพยายามห้ามตัวเองแล้ว...รู้ว่าสายรุ้งไม่ชอบการสัมผัสจาบจ้วงเกินกว่ากอด และจับมือ หากยากเกินจะห้ามใจ ในที่สุด ความปรารถนาก็กำชัยชนะ เขาโน้มหน้า ประทับจุมพิตลงบนเรียวปากนั้น ...สนิทแนบ และเต็มไปด้วยความโหยหา ราวกับไม่ได้สัมผัสกับสิ่งนี้มานานแสนนาน

จูบนั้นประทับลึกซึ้ง เนิ่นนานและเต็มไปด้วยความเสน่หาจนสายรุ้งครางผะแผ่ว

กว่าจะยั้งใจตัวเองได้ สายรุ้งก็แทบหลอมละลายในอ้อมกอดเขาเสียแล้ว

พนมกรถอนริมฝีปากออก ลมหายใจถี่กระชั้น และร้อนจัดรินรดบนพวงแก้มของหล่อน

“พี่หวงรุ้งเหลือเกิน อยากแต่งงานเสียวันนี้พรุ่งนี้...” เขาทอดถอนใจ พลางเลื่อนริมฝีปากขึ้นมาจุมพิตหน้าผากเกลี้ยงเกลา “หัวใจของรุ้งพี่ไม่อยากแบ่งให้ใคร รุ้งต้องรักพี่ เป็นของพี่คนเดียว อย่าแบ่งหัวใจให้ใครนะคะ”

คำตอบของสายรุ้งคือการซุกซบใบหน้าลงบนอกของเขา








ศศิภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ก.ย. 2559, 07:34:57 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ก.ย. 2559, 07:34:57 น.

จำนวนการเข้าชม : 1521





<< บทที่ ๕.๑ - จูบแสนหวาน   บทที่ ๖ - หัวใจอันซับซ้อน ๑ >>
Zephyr 19 ก.ย. 2559, 00:00:35 น.
เอิ่ม รุกแรง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account