สามีรีเทิร์น
เขาต้องจากกับคนรักเพราะถูกกีดกันจากครอบครัวของเธอที่ชอบคนรวย และเมื่อวันที่เขามีพร้อมเขาก็กลับมาเอาคืน เอาคืนทุกอย่างรวมทั้งเมียของเขาที่ถูกใสตะกร้าล้างน้ำยกให้ผู้ชายอื่นด้วย
Tags: สามี, นิยายรัก, ลมหวน, อดีต, กลับมารักกัน
ตอน: ตอนที่ 11 >>> 100%
ตอนที่ 11 (ต่อ)
“ร้านสวยดีนะครับ แต่ฝีมือจะสู้คุณได้หรือเปล่านะ” อังเดรพูดกับภรรยาขณะเดินตามหลังคูเปอร์เข้าไปในร้านอาหารไทยที่กว้างขวางและบรรยากาศดี
“เป็นไงครับ” คูเปอร์ถามเมื่อเดินตามพนักงานที่เดินนำทั้งสามมาที่โซนริมแม่น้ำ ตามที่เขาแจ้งความประสงค์ตั้งแต่เดินเข้ามาในร้านเมื่อพนักงานเดินเข้าต้อนรับ
“บรรยากาศดีมาก กลางคืนคงโรแมนติกน่าดูนะคะคุณ” นางจินตนาพูดกับสามี
“ครับ เอาไว้วันหลังเรามาตอนกลางคืนบ้างดีกว่า” อังเดรบอกอย่างเห็นด้วย ลมพัดเย็นริมทะเลสาบกลางวันยังดูสวยและบรรยากาศดีขนาดนี้แล้วกลางคืนจะขนาดไหน
“สวยและบรรยากาศดีมากๆ เลยครับ” คูเปอร์เอ่ยเสริมสองสามีภรรยา แล้วยืนมือไปรับเมนูจากพนักงาน สั่งอาหารที่ตัวเองชอบสองอย่าง จึงเงยหน้าขึ้นมาถามคนเป็นแม่ “เอาอะไรเพิ่มอีกครับ”
นางจินตนาสั่งของตัวเองเพิ่มอีกแค่อย่างเดียวและอาหารไทยรสชาติไม่จัดให้สามีอีกสองอย่าง และเมื่อพนักงานเดินผละออกไปนางจินตนาทีรอจังหวะอยู่ก็รีบเอ่ยถาม
“บอกว่าที่นี้ตอนกลางคืนสวยมากแสดงว่าเคยพาสาวมาบ่อยละสิ ใครเอ่ย...” นางจินตนาลากเสียงล้อลูกชาย “หนูมิ้น”
“ใช่ที่ไหนละครับ” คูเปอร์รีบปฏิเสธเพราะไม่อยากจะให้มารดาจับได้ว่าที่เขาบอกว่าเป็นแค่เพื่อนกับมินรญานั้นมันใช่ที่ไหน แต่ดูเหมือนเขาจะเข้าใจผิด
“บ้า แม่ไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น แม่หมายถึงนู้น” นางพยักพเยิดไปที่หนุ่มสาวคู่หนึ่งที่เดินมานั่งอีกโต๊ะ ที่ไม่ห่างกันมากนัก “มากับใครน่ะ แฟนใหม่เหรอ คู้ปรู้จักหรือเปล่า...ลูก” ท้ายประโยคแผ่วลงเมื่อนางหันมาเจอหน้าตาถมึงทึงสายตาอย่างกับจะฆ่าใครสักคนให้ตาย และคนคนนั้นก็คือ...
“จะไปไหนลูก” นางจินตนารีบดึงแขนของลูกชายที่ลุกขึ้นปุ๊บปั๊บเอาไว้อย่างตกใจ
“ห้องน้ำครับ” นางมองหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ “จริงๆ ครับแม่” เมื่อคนเป็นลูกชายยืนยันนางจึงพยักหน้ารับแล้วปล่อย
“ผู้หญิงคนนี้เหรอที่คุณกับลูกพูดถึง น่ารักดีนะ”
“ค่ะ น่ารัก นิสัยดี” นางเอ่ยชมพลางมองหญิงสาวที่เหมือนจะนั่งเหม่อมากกว่าสนใจชายหนุ่มที่มาด้วยกัน แล้วนางก็ยิ้มพร้อมกับโบกมือทักทายมินรญาในจังหวะที่หญิงสาวมองมาทางนี้
มินรญาชะงักแล้วหันซ้ายหันขวาเอี้ยวตัวมองไปข้างหลังก็ไม่เห็นว่าจะมีใครนอกจากตัวเอง เธอจึงยิ้มแหยๆ และโบกมือตอบ ไม่คิดจะสนใจหญิงสาวที่พาสามีต่างชาติมารับประทานอาหาร ถ้าอีกฝ่ายไม่เรียกชื่อเธอ
“หนูมิ้น”
“ใคร คนรู้จักคุณเหรอ” ภูมินถามอย่างสงสัย
“ไม่รู้สิคะ เดี๋ยวฉันขอตัวแป๊บหนึ่งนะคะ” ว่าแล้วมินรญาก็ลุกขึ้นเดินตรงมาหาสองสามีภรรยาที่กวักมือเรียกอย่างเลี่ยงไม่ได้ระคนสงสัย
“สวัสดีค่ะ มี...” มินรญาที่เมื่อได้เห็นหน้าคนที่เรียกตนชัดๆ คำถามที่จะถามก็ถูกกลืนลงคอ “น้าจินใช่ไหมคะ”
“จ้ะ น้าเอง” และทันทีที่ได้รับคำยืนยัน น้ำตาก็คลอเบ้าก่อนจะไหลอาบแก้มนวล มินรญาทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าแล้วกราบลงที่ตักของคนตรงหน้า ก่อนจะเปลี่ยนเป็นโอบเอว “มิ้นขอโทษสำหรับทุกสิ่งที่แม่ทำกับน้าด้วยนะคะ”
“ลุกขึ้นเถอะคนมองใหญ่แล้ว” นางจินตนาบอกเสียงกลั้วหัวเราะพร้อมกับดึงร่างบางให้ลุกขึ้นมานั่งที่เก้าอี้ “แฟนของหนูยืนมองใหญ่เลย สงสัยจะเป็นห่วง”
มินรญาหันไปหาภูมินแล้วส่ายหน้าพร้อมกับส่งยิ้มให้อีกฝ่ายเป็นการบอกว่าไม่มีอะไร ก่อนจะหันมาพูดกับคนที่เธออยากจะเจอมากที่สุดอีกคน
“คุณน้ามาเมืองไทยตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
“เพิ่งมาถึงวันนี้แหละจ๊ะ...นี่สามีน้าคุณอังเดร คุณอังเดรคะนี้หนูมิ้นค่ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ได้ยินเรื่องคุณมานานแล้ว สวยน่ารักกว่าที่คิดอีกนะครับเนี่ย” อังเดรบอกขณะยื่นมือไปสัมผัสมือบาง นั่นทำให้มินรญาเลิกคิ้วทำหน้างงเล็กน้อย “ผมได้ยินเรื่องหนูจากคุณจินบ่อยๆ น่ะ”
“ขอบคุณค่ะ...อาหารมาแล้วมิ้นคงต้องขอตัวกลับโต๊ะก่อนนะคะ”
“มานั่งด้วยกันสิ” นางจินตนาถือวิสาสะชวน อย่างไม่คิดจะปรึกษาคนที่ตอนนี้กำลังไปห้องน้ำ
“ไม่เป็นไรค่ะ กวนคุณน้าเปล่าๆ”
“กวนอะไรกัน มานั่งกินกันหลายๆ คนสิสนุกดี นานๆ จะได้เจอกันที นะอย่าปฏิเสธน้าเลยนะ” นางจินตนาอ้อนวอนสุดฤทธิ์
“งั้นเดี๋ยวมิ้นของไปถามคุณเคนก่อนนะคะ”
“จ้ะ”
“จะดีเหรอให้อดีตแฟนของลูกชายพาแฟนใหม่มานั่งร่วมโต๊ะน่ะ” อังเดรถามอย่างกังวล เพราะก่อนหน้าเขาเห็นสายตาปานจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตายด้วยสายตาแล้วกลัวจะเกิดเรื่องจัง
“ดีสิคะ ก็เจ้าตัวเขาบอกเองว่าตอนนี้เป็นแค่เพื่อนกัน” หากนางจินตนากลับทำใจเย็น อย่างรู้จักนิสัยลูกชายเป็นอย่างดี
“คุณก็รู้ว่ามันไม่จริง” แม้จะมักนั่งฟังสองแม่ลูกคุยกันเสมอ แต่ก็พอรู้เพราะคำพูดกับการกระทำของคูเปอร์นั่นสวนทางกันอย่างเห็นได้ชัด
“ช่างสิคะก็เจ้าตัวเขายืนยัน มันก็ต้องรับได้สิถ้าหนูมิ้นจะเป็นแฟนกับผู้ชายที่ไหนก็ได้” นางจินตนาบอกอย่างไม่อินังขังขอบ ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับสองหนุ่มสาวที่กำลังเดินมา
“เชิญจ้ะเชิญ กินหลายๆ คนอร่อยดี” นางจินตนาบอก พร้อมกับรับไหว้หนุ่มหล่อหน่วยก้านดีอย่างเป็นมิตร ไม่ได้เคืองใจที่อีกฝ่ายเป็นศัตรูหัวใจของลูกชาย
หลังจากมินรญาแนะนำภูมินให้รู้จักกับผู้สูงวัยทั้งสองแล้วหันไปขอบคุณเด็กเสิร์ฟที่ย้ายโต๊ะให้ และพอดีกับอาหารที่นางจินตนาสั่งก็นำมาเสิร์ฟพอดี
คูเปอร์ชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นว่ามีใครอื่นนอกจากมารดากับพ่อเลี้ยง และใครอื่นหนึ่งในนั้นก็เป็นคนที่เขาไม่อยากเจอหน้าที่สุด...ภูมิน
“มาแล้วเหรอ แม่ชวนหนูมิ้นกับแฟนมาร่วมโต๊ะด้วยนะ”
คำว่า ‘แฟน’ ทำให้คูเปอร์ชะงักเป็นรอบที่สอง ชายหนุ่มขบกรามแน่น แต่พยายามปรับสีหน้าให้ดูปกติที่สุด แม้ข้างในมันจะเดือดจนอยากจะลากมินรญาที่นั่งรับประทานอาหารอย่างไม่คิดจะแก้ไขความเข้าใจผิดของมารดากลับไปลงโทษที่ห้องเดี๋ยวนี้ให้มันรู้แล้วรู้รอด
“แม่เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าครับ” เมื่อไม่แก้ตัว เขานี่แหละจะแก้ให้เอง
“เรื่องอะไร เรื่องแฟนหนูมิ้นนะเหรอ” นางจินตนาถาม แล้วเงียบรอฟังคำตอบจากลูกชาย แต่สิ่งที่ได้รับตอบกลับมาคือความเงียบและการปรายตามามองแล้วถอนหายใจ นั่นนางก็สรุปเองเลยว่าใช่
“แม่ไม่ได้พูดไปเองนะ ก็แม่ถามทั้งสองคนก็ไม่ได้ปฏิเสธนี่ ใช่ไหมจ๊ะ” นางหันไปถามภูมินที่นั่งกดยิ้มมุมปากมองคูเปอร์อย่างผู้ชนะ
“ครับ มิ้นเพิ่งตอบรับยอมคบผมเมื่อไม่กี่วันนี้เอง”
“อ้าวเหรอจ๊ะ น้านึกว่าคบกันหลายปีแล้วจนจะได้รับข่าวดีในเร็วๆ นี้เสียอีก” ครั้งนี้นางจินตนาบอกอย่างไม่รู้จริงๆ ใช่จะประชดลูกชาย ทว่ามันกลับทำให้คูเปอร์ถึงกับกลืนข้าวไม่ลง
“คือถ้ามิ้นเขายอมตกลงผมว่าก็น่าจะมีข่าวดีเร็วๆ นี้แหละครับ”
เคร้ง!
เสียงช้อนตกดังกระทบจาน ทำให้ทุกคนในโต๊ะต่างหันไปมองคนทั้งคู่เป็นตาเดียวกัน ใช่แล้ว ไม่ใช่แค่คูเปอร์ที่ทำช้อนหลุดมือเพราะตกใจ หากมินรญาก็เช่นกันเธอตกใจไม่ต่างกันที่จู่ๆ ก็โดนขอแต่งงานแบบไม่ทันตั้งตัว
“ผมอิ่มแล้ว” คูเปอร์รวบช้อนแล้วยกน้ำขึ้นดื่ม “ขอตัวไปรอที่รถนะครับแม่” พูดจบร่างสูงก็ลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะไปทันที
“ขอโทษทีนะจ๊ะที่ลูกชายเสียมารยาท”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ” ภูมินบอกอย่างอารมณ์ดีที่วันนี้ตนสามารถเอาชนะคู่แข่งแบบขาดรอย แถมได้ขอผู้หญิงที่รักแต่งงานแบบไม่เป็นทางการด้วย ตอนนี้ก็คงรอแต่คำตอบละ
“อ้าว อิ่มแล้วหรือจ๊ะ” นางจินตนาถามเมื่อเห็นว่ามินรญารวบช้อนแล้วยกน้ำขึ้นดื่ม
“ค่ะ พอดีว่าไม่ค่อยหิวเท่าไหร่นะคะ” มินรญาบอกพลางยิ้มแห้งๆ แล้วมองออกนอกร้านตลอด ตอนนี้ในใจมันสับสนกระวนกระวายใจหนึ่งอยากตามเพื่อไปคุยกับคูเปอร์ให้ชัดเจนว่าเรื่องเมื่อครู่เธอไม่รู้เรื่อง แต่อีกใจกลับบอกว่าเธอน่าจะคุยกับคนต้นเหตุอย่างภูมินให้ชัดเจนก่อน ไม่อย่างนั้นทุกอย่างอาจจะยุ่งวุ่นวายมากไปกว่านี้
“กลับกันเลยไหมครับ” ภูมินที่ดูเหมือนจะอารมณ์ดีกว่าใครเพื่อนเอ่ยถามมินรญาที่นั่งมองนาฬิกาข้อมือสลับกับประตูทางออกของร้านตลอดเวลา
“ก็ดีค่ะ...งั้นมิ้นขอตัวกลับไปทำงานก่อนนะคะ เดี๋ยวจะไม่ทัน ลานะคะ” หญิงสาวยกมือไหว้ผู้สูงวัยทั้งสองแล้วรีบเดินนำออกจากร้านอย่างเร่งรีบ โดยไม่คิดจะรอคนที่รอจ่ายค่าอาหาร “ยังไงผมฝากจ่ายค่าอาหารให้ด้วยนะครับ ลานะครับ” ภูมินยื่นค่าอาหารที่คิดว่าพอ เพราะเขามากินที่นี่บ่อย ให้กับนางจินตนาแล้วรีบยกมือไหว้ลา ก่อนจะรีบเดินตามร่างบางไป
“แล้วพวกเราล่ะจะกลับกันเลยไหม”
“ค่ะ ป่านนี้คนที่บอกว่าจะรออยู่ที่รถคงคลั่งตายแล้วมั้งคะ” นางจินตนาบอกติดตลก แม้จะรู้สึกสงสารลูกชาย แต่นางจะช่วยอะไรในเมื่อเจ้าตัวไม่ยอมรับความรู้สึกตัวเองทำไม
“เพราะคุณนั่นแหละ” อังเดรอดที่จะตำหนิภรรยาไม่ได้ จากที่ดูและได้ฟังเรื่องราวในอดีตของคูเปอร์จากปากภรรยามารู้เลยว่าชายหนุ่มนั้นรักผู้หญิงไทยที่ชื่อว่ามินรญานี้ขนาดไหน
“จะได้รู้ไงคะว่า เวลาไม่คอยท่า การเล่นตัวเก๊กท่ามันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น มีแต่เจ็บกับเจ็บ ยังรักก็บอกไปสิว่ายังรัก”
“คุณก็เห็นว่าฝ่ายนั้นเขามีแฟนแล้ว” อังเดรย้ำความเป็นจริง
“ไม่ได้ยินหรือคะว่า เพิ่งตกลงคบกันเมื่อสองสามวันนี่เอง ตาคู้ปมาที่นี่เป็นอาทิตย์สองอาทิตย์แล้วจะพูดจะปรับความเข้าใจกันป่านนี้มีความสุขลั้นลาไปแล้ว และอีกอย่างดูก็รู้ว่าหนูมิ้นเองก็ยังรักตาคู้ปเหมือนกัน ไม่รู้ทำอะไรกันอยู่ สงสัยอยากเจ็บอีกครอบละมั้ง” พูดจบนางก็ส่ายหน้าแล้วลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะ เมื่อสามีเคลียร์ค่าอาหารเสร็จ
อยากรู้นักจากนี้ลูกชายตัวดีของนางจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร...
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อัพตอนสุดท้ายแว้ววววววว ขอบคุณทุกการติดตาม ทั้งที่คอมเม้นและไม่ได้คอมเม้นนะคะ
เรื่องนี้จะทิ้งเอาไว้ให้อ่านจนกว่าจะผ่านการพิจารณาจากสำนักพิมพ์ที่ไหนที่หนึ่ง ผ่านที่ไหนแล้วจะมาแจ้งอีกทีนะคะ
ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปผู้เขียนจะอัพเรื่อง "เจ้าหัวใจแดนเถื่อน" ให้ได้อ่านกันอีกรอบนะคะ (ตอนนี้ยังไม่มีเรื่องใหม่อัพขออัพเรื่องเก่าให้อ่านแก้ขัดไปก่อนนะคะ) ยังไงก็ฝากด้วยค่า
ขอบคุณทุกการติดตามนะคะ (^_/\_^)
รดามณี
27/09/59
“ร้านสวยดีนะครับ แต่ฝีมือจะสู้คุณได้หรือเปล่านะ” อังเดรพูดกับภรรยาขณะเดินตามหลังคูเปอร์เข้าไปในร้านอาหารไทยที่กว้างขวางและบรรยากาศดี
“เป็นไงครับ” คูเปอร์ถามเมื่อเดินตามพนักงานที่เดินนำทั้งสามมาที่โซนริมแม่น้ำ ตามที่เขาแจ้งความประสงค์ตั้งแต่เดินเข้ามาในร้านเมื่อพนักงานเดินเข้าต้อนรับ
“บรรยากาศดีมาก กลางคืนคงโรแมนติกน่าดูนะคะคุณ” นางจินตนาพูดกับสามี
“ครับ เอาไว้วันหลังเรามาตอนกลางคืนบ้างดีกว่า” อังเดรบอกอย่างเห็นด้วย ลมพัดเย็นริมทะเลสาบกลางวันยังดูสวยและบรรยากาศดีขนาดนี้แล้วกลางคืนจะขนาดไหน
“สวยและบรรยากาศดีมากๆ เลยครับ” คูเปอร์เอ่ยเสริมสองสามีภรรยา แล้วยืนมือไปรับเมนูจากพนักงาน สั่งอาหารที่ตัวเองชอบสองอย่าง จึงเงยหน้าขึ้นมาถามคนเป็นแม่ “เอาอะไรเพิ่มอีกครับ”
นางจินตนาสั่งของตัวเองเพิ่มอีกแค่อย่างเดียวและอาหารไทยรสชาติไม่จัดให้สามีอีกสองอย่าง และเมื่อพนักงานเดินผละออกไปนางจินตนาทีรอจังหวะอยู่ก็รีบเอ่ยถาม
“บอกว่าที่นี้ตอนกลางคืนสวยมากแสดงว่าเคยพาสาวมาบ่อยละสิ ใครเอ่ย...” นางจินตนาลากเสียงล้อลูกชาย “หนูมิ้น”
“ใช่ที่ไหนละครับ” คูเปอร์รีบปฏิเสธเพราะไม่อยากจะให้มารดาจับได้ว่าที่เขาบอกว่าเป็นแค่เพื่อนกับมินรญานั้นมันใช่ที่ไหน แต่ดูเหมือนเขาจะเข้าใจผิด
“บ้า แม่ไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น แม่หมายถึงนู้น” นางพยักพเยิดไปที่หนุ่มสาวคู่หนึ่งที่เดินมานั่งอีกโต๊ะ ที่ไม่ห่างกันมากนัก “มากับใครน่ะ แฟนใหม่เหรอ คู้ปรู้จักหรือเปล่า...ลูก” ท้ายประโยคแผ่วลงเมื่อนางหันมาเจอหน้าตาถมึงทึงสายตาอย่างกับจะฆ่าใครสักคนให้ตาย และคนคนนั้นก็คือ...
“จะไปไหนลูก” นางจินตนารีบดึงแขนของลูกชายที่ลุกขึ้นปุ๊บปั๊บเอาไว้อย่างตกใจ
“ห้องน้ำครับ” นางมองหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ “จริงๆ ครับแม่” เมื่อคนเป็นลูกชายยืนยันนางจึงพยักหน้ารับแล้วปล่อย
“ผู้หญิงคนนี้เหรอที่คุณกับลูกพูดถึง น่ารักดีนะ”
“ค่ะ น่ารัก นิสัยดี” นางเอ่ยชมพลางมองหญิงสาวที่เหมือนจะนั่งเหม่อมากกว่าสนใจชายหนุ่มที่มาด้วยกัน แล้วนางก็ยิ้มพร้อมกับโบกมือทักทายมินรญาในจังหวะที่หญิงสาวมองมาทางนี้
มินรญาชะงักแล้วหันซ้ายหันขวาเอี้ยวตัวมองไปข้างหลังก็ไม่เห็นว่าจะมีใครนอกจากตัวเอง เธอจึงยิ้มแหยๆ และโบกมือตอบ ไม่คิดจะสนใจหญิงสาวที่พาสามีต่างชาติมารับประทานอาหาร ถ้าอีกฝ่ายไม่เรียกชื่อเธอ
“หนูมิ้น”
“ใคร คนรู้จักคุณเหรอ” ภูมินถามอย่างสงสัย
“ไม่รู้สิคะ เดี๋ยวฉันขอตัวแป๊บหนึ่งนะคะ” ว่าแล้วมินรญาก็ลุกขึ้นเดินตรงมาหาสองสามีภรรยาที่กวักมือเรียกอย่างเลี่ยงไม่ได้ระคนสงสัย
“สวัสดีค่ะ มี...” มินรญาที่เมื่อได้เห็นหน้าคนที่เรียกตนชัดๆ คำถามที่จะถามก็ถูกกลืนลงคอ “น้าจินใช่ไหมคะ”
“จ้ะ น้าเอง” และทันทีที่ได้รับคำยืนยัน น้ำตาก็คลอเบ้าก่อนจะไหลอาบแก้มนวล มินรญาทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าแล้วกราบลงที่ตักของคนตรงหน้า ก่อนจะเปลี่ยนเป็นโอบเอว “มิ้นขอโทษสำหรับทุกสิ่งที่แม่ทำกับน้าด้วยนะคะ”
“ลุกขึ้นเถอะคนมองใหญ่แล้ว” นางจินตนาบอกเสียงกลั้วหัวเราะพร้อมกับดึงร่างบางให้ลุกขึ้นมานั่งที่เก้าอี้ “แฟนของหนูยืนมองใหญ่เลย สงสัยจะเป็นห่วง”
มินรญาหันไปหาภูมินแล้วส่ายหน้าพร้อมกับส่งยิ้มให้อีกฝ่ายเป็นการบอกว่าไม่มีอะไร ก่อนจะหันมาพูดกับคนที่เธออยากจะเจอมากที่สุดอีกคน
“คุณน้ามาเมืองไทยตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
“เพิ่งมาถึงวันนี้แหละจ๊ะ...นี่สามีน้าคุณอังเดร คุณอังเดรคะนี้หนูมิ้นค่ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ได้ยินเรื่องคุณมานานแล้ว สวยน่ารักกว่าที่คิดอีกนะครับเนี่ย” อังเดรบอกขณะยื่นมือไปสัมผัสมือบาง นั่นทำให้มินรญาเลิกคิ้วทำหน้างงเล็กน้อย “ผมได้ยินเรื่องหนูจากคุณจินบ่อยๆ น่ะ”
“ขอบคุณค่ะ...อาหารมาแล้วมิ้นคงต้องขอตัวกลับโต๊ะก่อนนะคะ”
“มานั่งด้วยกันสิ” นางจินตนาถือวิสาสะชวน อย่างไม่คิดจะปรึกษาคนที่ตอนนี้กำลังไปห้องน้ำ
“ไม่เป็นไรค่ะ กวนคุณน้าเปล่าๆ”
“กวนอะไรกัน มานั่งกินกันหลายๆ คนสิสนุกดี นานๆ จะได้เจอกันที นะอย่าปฏิเสธน้าเลยนะ” นางจินตนาอ้อนวอนสุดฤทธิ์
“งั้นเดี๋ยวมิ้นของไปถามคุณเคนก่อนนะคะ”
“จ้ะ”
“จะดีเหรอให้อดีตแฟนของลูกชายพาแฟนใหม่มานั่งร่วมโต๊ะน่ะ” อังเดรถามอย่างกังวล เพราะก่อนหน้าเขาเห็นสายตาปานจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตายด้วยสายตาแล้วกลัวจะเกิดเรื่องจัง
“ดีสิคะ ก็เจ้าตัวเขาบอกเองว่าตอนนี้เป็นแค่เพื่อนกัน” หากนางจินตนากลับทำใจเย็น อย่างรู้จักนิสัยลูกชายเป็นอย่างดี
“คุณก็รู้ว่ามันไม่จริง” แม้จะมักนั่งฟังสองแม่ลูกคุยกันเสมอ แต่ก็พอรู้เพราะคำพูดกับการกระทำของคูเปอร์นั่นสวนทางกันอย่างเห็นได้ชัด
“ช่างสิคะก็เจ้าตัวเขายืนยัน มันก็ต้องรับได้สิถ้าหนูมิ้นจะเป็นแฟนกับผู้ชายที่ไหนก็ได้” นางจินตนาบอกอย่างไม่อินังขังขอบ ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับสองหนุ่มสาวที่กำลังเดินมา
“เชิญจ้ะเชิญ กินหลายๆ คนอร่อยดี” นางจินตนาบอก พร้อมกับรับไหว้หนุ่มหล่อหน่วยก้านดีอย่างเป็นมิตร ไม่ได้เคืองใจที่อีกฝ่ายเป็นศัตรูหัวใจของลูกชาย
หลังจากมินรญาแนะนำภูมินให้รู้จักกับผู้สูงวัยทั้งสองแล้วหันไปขอบคุณเด็กเสิร์ฟที่ย้ายโต๊ะให้ และพอดีกับอาหารที่นางจินตนาสั่งก็นำมาเสิร์ฟพอดี
คูเปอร์ชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นว่ามีใครอื่นนอกจากมารดากับพ่อเลี้ยง และใครอื่นหนึ่งในนั้นก็เป็นคนที่เขาไม่อยากเจอหน้าที่สุด...ภูมิน
“มาแล้วเหรอ แม่ชวนหนูมิ้นกับแฟนมาร่วมโต๊ะด้วยนะ”
คำว่า ‘แฟน’ ทำให้คูเปอร์ชะงักเป็นรอบที่สอง ชายหนุ่มขบกรามแน่น แต่พยายามปรับสีหน้าให้ดูปกติที่สุด แม้ข้างในมันจะเดือดจนอยากจะลากมินรญาที่นั่งรับประทานอาหารอย่างไม่คิดจะแก้ไขความเข้าใจผิดของมารดากลับไปลงโทษที่ห้องเดี๋ยวนี้ให้มันรู้แล้วรู้รอด
“แม่เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าครับ” เมื่อไม่แก้ตัว เขานี่แหละจะแก้ให้เอง
“เรื่องอะไร เรื่องแฟนหนูมิ้นนะเหรอ” นางจินตนาถาม แล้วเงียบรอฟังคำตอบจากลูกชาย แต่สิ่งที่ได้รับตอบกลับมาคือความเงียบและการปรายตามามองแล้วถอนหายใจ นั่นนางก็สรุปเองเลยว่าใช่
“แม่ไม่ได้พูดไปเองนะ ก็แม่ถามทั้งสองคนก็ไม่ได้ปฏิเสธนี่ ใช่ไหมจ๊ะ” นางหันไปถามภูมินที่นั่งกดยิ้มมุมปากมองคูเปอร์อย่างผู้ชนะ
“ครับ มิ้นเพิ่งตอบรับยอมคบผมเมื่อไม่กี่วันนี้เอง”
“อ้าวเหรอจ๊ะ น้านึกว่าคบกันหลายปีแล้วจนจะได้รับข่าวดีในเร็วๆ นี้เสียอีก” ครั้งนี้นางจินตนาบอกอย่างไม่รู้จริงๆ ใช่จะประชดลูกชาย ทว่ามันกลับทำให้คูเปอร์ถึงกับกลืนข้าวไม่ลง
“คือถ้ามิ้นเขายอมตกลงผมว่าก็น่าจะมีข่าวดีเร็วๆ นี้แหละครับ”
เคร้ง!
เสียงช้อนตกดังกระทบจาน ทำให้ทุกคนในโต๊ะต่างหันไปมองคนทั้งคู่เป็นตาเดียวกัน ใช่แล้ว ไม่ใช่แค่คูเปอร์ที่ทำช้อนหลุดมือเพราะตกใจ หากมินรญาก็เช่นกันเธอตกใจไม่ต่างกันที่จู่ๆ ก็โดนขอแต่งงานแบบไม่ทันตั้งตัว
“ผมอิ่มแล้ว” คูเปอร์รวบช้อนแล้วยกน้ำขึ้นดื่ม “ขอตัวไปรอที่รถนะครับแม่” พูดจบร่างสูงก็ลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะไปทันที
“ขอโทษทีนะจ๊ะที่ลูกชายเสียมารยาท”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ” ภูมินบอกอย่างอารมณ์ดีที่วันนี้ตนสามารถเอาชนะคู่แข่งแบบขาดรอย แถมได้ขอผู้หญิงที่รักแต่งงานแบบไม่เป็นทางการด้วย ตอนนี้ก็คงรอแต่คำตอบละ
“อ้าว อิ่มแล้วหรือจ๊ะ” นางจินตนาถามเมื่อเห็นว่ามินรญารวบช้อนแล้วยกน้ำขึ้นดื่ม
“ค่ะ พอดีว่าไม่ค่อยหิวเท่าไหร่นะคะ” มินรญาบอกพลางยิ้มแห้งๆ แล้วมองออกนอกร้านตลอด ตอนนี้ในใจมันสับสนกระวนกระวายใจหนึ่งอยากตามเพื่อไปคุยกับคูเปอร์ให้ชัดเจนว่าเรื่องเมื่อครู่เธอไม่รู้เรื่อง แต่อีกใจกลับบอกว่าเธอน่าจะคุยกับคนต้นเหตุอย่างภูมินให้ชัดเจนก่อน ไม่อย่างนั้นทุกอย่างอาจจะยุ่งวุ่นวายมากไปกว่านี้
“กลับกันเลยไหมครับ” ภูมินที่ดูเหมือนจะอารมณ์ดีกว่าใครเพื่อนเอ่ยถามมินรญาที่นั่งมองนาฬิกาข้อมือสลับกับประตูทางออกของร้านตลอดเวลา
“ก็ดีค่ะ...งั้นมิ้นขอตัวกลับไปทำงานก่อนนะคะ เดี๋ยวจะไม่ทัน ลานะคะ” หญิงสาวยกมือไหว้ผู้สูงวัยทั้งสองแล้วรีบเดินนำออกจากร้านอย่างเร่งรีบ โดยไม่คิดจะรอคนที่รอจ่ายค่าอาหาร “ยังไงผมฝากจ่ายค่าอาหารให้ด้วยนะครับ ลานะครับ” ภูมินยื่นค่าอาหารที่คิดว่าพอ เพราะเขามากินที่นี่บ่อย ให้กับนางจินตนาแล้วรีบยกมือไหว้ลา ก่อนจะรีบเดินตามร่างบางไป
“แล้วพวกเราล่ะจะกลับกันเลยไหม”
“ค่ะ ป่านนี้คนที่บอกว่าจะรออยู่ที่รถคงคลั่งตายแล้วมั้งคะ” นางจินตนาบอกติดตลก แม้จะรู้สึกสงสารลูกชาย แต่นางจะช่วยอะไรในเมื่อเจ้าตัวไม่ยอมรับความรู้สึกตัวเองทำไม
“เพราะคุณนั่นแหละ” อังเดรอดที่จะตำหนิภรรยาไม่ได้ จากที่ดูและได้ฟังเรื่องราวในอดีตของคูเปอร์จากปากภรรยามารู้เลยว่าชายหนุ่มนั้นรักผู้หญิงไทยที่ชื่อว่ามินรญานี้ขนาดไหน
“จะได้รู้ไงคะว่า เวลาไม่คอยท่า การเล่นตัวเก๊กท่ามันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น มีแต่เจ็บกับเจ็บ ยังรักก็บอกไปสิว่ายังรัก”
“คุณก็เห็นว่าฝ่ายนั้นเขามีแฟนแล้ว” อังเดรย้ำความเป็นจริง
“ไม่ได้ยินหรือคะว่า เพิ่งตกลงคบกันเมื่อสองสามวันนี่เอง ตาคู้ปมาที่นี่เป็นอาทิตย์สองอาทิตย์แล้วจะพูดจะปรับความเข้าใจกันป่านนี้มีความสุขลั้นลาไปแล้ว และอีกอย่างดูก็รู้ว่าหนูมิ้นเองก็ยังรักตาคู้ปเหมือนกัน ไม่รู้ทำอะไรกันอยู่ สงสัยอยากเจ็บอีกครอบละมั้ง” พูดจบนางก็ส่ายหน้าแล้วลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะ เมื่อสามีเคลียร์ค่าอาหารเสร็จ
อยากรู้นักจากนี้ลูกชายตัวดีของนางจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร...
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อัพตอนสุดท้ายแว้ววววววว ขอบคุณทุกการติดตาม ทั้งที่คอมเม้นและไม่ได้คอมเม้นนะคะ
เรื่องนี้จะทิ้งเอาไว้ให้อ่านจนกว่าจะผ่านการพิจารณาจากสำนักพิมพ์ที่ไหนที่หนึ่ง ผ่านที่ไหนแล้วจะมาแจ้งอีกทีนะคะ
ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปผู้เขียนจะอัพเรื่อง "เจ้าหัวใจแดนเถื่อน" ให้ได้อ่านกันอีกรอบนะคะ (ตอนนี้ยังไม่มีเรื่องใหม่อัพขออัพเรื่องเก่าให้อ่านแก้ขัดไปก่อนนะคะ) ยังไงก็ฝากด้วยค่า
ขอบคุณทุกการติดตามนะคะ (^_/\_^)
รดามณี
27/09/59
![](/images/icons/871.jpg)
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ก.ย. 2559, 16:54:13 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ก.ย. 2559, 16:54:13 น.
จำนวนการเข้าชม : 1071
<< ตอนที่ 11 >>> 50% |