รักร้อนๆ-Horse farm (เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "กลร้ายร่ายรัก")
คุณหนึ่ง สัตวแพทย์สาวสวยจอมห้าว และเค็มจนเดดซี
เรียกพี่ และเธอมีดีกรีเป็นเจ้าของฟาร์มม้าแข่ง
ที่อุตส่าห์มีม้าสายพันธุ์ดีแสนล่ำบึ้กเหมาะแก่การเป็นพ่อ
พันธุ์...แต่..เธอกลับไร้ชายหนุ่มพันธุ์ห้าวมาแนบข้าง
ซึ่งแตกต่างกับม้าของเธอที่สุด..
..ในขณะที่ม้าเธอขายน้ำเชื้อแทบไม่ทัน
แต่ไหงเธอดันขายไม่ออกเสียนี่...
เรียกพี่ และเธอมีดีกรีเป็นเจ้าของฟาร์มม้าแข่ง
ที่อุตส่าห์มีม้าสายพันธุ์ดีแสนล่ำบึ้กเหมาะแก่การเป็นพ่อ
พันธุ์...แต่..เธอกลับไร้ชายหนุ่มพันธุ์ห้าวมาแนบข้าง
ซึ่งแตกต่างกับม้าของเธอที่สุด..
..ในขณะที่ม้าเธอขายน้ำเชื้อแทบไม่ทัน
แต่ไหงเธอดันขายไม่ออกเสียนี่...
Tags: คุณหนึ่ง,ฟาร์มม้า,ภาม
ตอน: ตอนที่ 1ภูคำฟาร์มม้าแข่ง
***ถ้าพบคำผิดขออภัยด้วยนะคะ ยังไม่ได้ตรวจทานน่ะค่ะ ^O^**
บทที่ 1
หญิงสาวซึ่งยืนเกาะรั้วจนเห็นเพียงเรือนร่างสูงเพรียวระหงสมส่วน ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวขาวสะอาดและสอดชายไว้ใต้กางเกงสีดำแค่เพียงด้านหลัง ทำให้ชายหนุ่มซึ่งหยุดยืนมองเธอห่างๆ เกิดอาการลังเลอยู่บ้าง อชิระคิดแล้วคิดอีกและตรึกตรองอยู่หลายตลบ กว่าเขาจะตัดสินใจเดินตรงไปหาเธอ จนเมื่อชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้และยืนห่างหญิงสาวในระยะที่พอจะพูดคุยกันได้ เขาก็เริ่มพูดสิ่งที่ต้องการ
“เราน่าจะหาเทรนเนอร์เพิ่มอีกสักคนนะครับคุณหนึ่ง”
ถึงจะพอเดาคำตอบของอีกฝ่ายว่าจะเป็นเช่นไร แต่เมื่อได้ยินเธอพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแกมยโสเล็กน้อย อชิระก็เหมือนจะขัดหูขัดตาขณะได้ยินอยู่ดี
“ภูคำยังมีคุณหนึ่ง เราไม่จำเป็นต้องหาเทรนเนอร์มาเพิ่มหรอกค่ะ”
นั่นยังไง!แค่เริ่มเธอก็ตอบเหมือนไม่ต้องคิด มิหนำใบหน้าที่สดชื่นและแพผมที่ปลิวไสวกับสายลมของที่ราบกลางหุบกว้าง ยังไม่ยอมมองมาทางเขา ราวกับเธอไม่เห็นความสลักสำคัญของคำพูดเขาแม้แต่น้อย
“คุณหนึ่งครับ ฟาร์มภูคำมันโตเร็วมาก และผมก็ทราบว่ามันมาจากความสามารถของคุณหนึ่งที่ดูแลอย่างดี แต่ที่ผมเสนอว่าน่าจะหาคนสอนขี่ม้าฝีมือดีๆมาเพิ่มอีกสักคน ก็เพราะคิดว่าน่าจะช่วยแบ่งเบาภาระคุณหนึ่งได้”
“ถึงภูคำจะโตมากแต่คุณหนึ่งก็มั่นใจว่า ตัวเองยังสามารถทำได้นะคะ”
“ผมรู้ว่าคุณหนึ่งเก่ง แต่คุณหนึ่งควรจะหาคนมาแทนมือบ้าง”
ชายหนุ่มตอบอย่างดื้อดึง และแล้วการปะทะคารมระหว่างเขาและเธอก็เหมือนจะเริ่มอย่างทุกครั้ง
“ภูคำมีคุณบ๊อบแล้วนี่คะเราจะหาเทรนเนอร์มาเพิ่มอีกทำไม คุณหนึ่งไม่อยากเพิ่มค่าใช้จ่ายอีกนะคะ”
การโต้กลับโดยอ้างถึงเทรนเนอร์คนเก่าของหญิงสาว เล่นเอาอชิระต้องบ่นพึม
“บ๊อบอาจจะเก่งแต่หมอนั่นมันก็กินเหล้าเป็นน้ำ จนบางครั้งเล่นเอาเสียงานเสียการก็มี และที่สำคัญคุณหนึ่งรู้หรือเปล่าว่าหมอนั่นน่ะมันเริ่มทำตัวไม่น่าไว้ใจ”
“ยังไงคะ”
“ขอผมหาข้อมูลเกี่ยวกับบ๊อบอีกสักนิด แล้วผมจะรายงานให้คุณหนึ่งทราบนะครับ”
“ได้ค่ะ! แต่ช่วงที่คุณอชิหาข้อมูล คุณหนึ่งก็ขอไม่จ้างเทรนเนอร์เพิ่มนะคะ”
ใบหน้าสดใสของหญิงสาวขณะส่งยิ้มกว้างขวางมาให้เมื่อเธอเบือนหน้ามามองเขา แทนที่จะทำให้อชิระหลงไปกับเสน่ห์อันเหลือเฟือ ก็หาไม่ เพราะชายหนุ่มกำลังหงุดหงิดแกมหมั่นไส้ กับดวงตาสุกสกาวที่แฝงวี่แววแห่งชัยชนะของเธอนั่นต่างหาก
ถ้าท่านไม่สั่งให้เขาตามมาช่วยดูแลเธอละก็ อย่าหวังว่าเขาจะตามมาอยู่กับยายคุณหนูจอมตืดนี่ และเมื่อคิดถึงตรงนี้อชิระ ก็เอ่ยเสียงแข็งอย่างไม่คิดถนอมน้ำใจเธอกลับไปบ้าง
“ถ้าคุณหนึ่งไม่ต้องการเสียค่าใช้จ่ายเพราะ..งก..เอาอย่างนี้ก็แล้วกันผมมีข้อเสนอใหม่”
“คุณอชิระพูดว่าคุณหนึ่งงกหรือคะ”
“ครับคุณหนึ่งงกมาก แล้วใครๆเขาก็รู้กันทุกคนหรือคุณหนึ่งจะเถียง”
ดวงตาโตๆของเธอที่มองมาอย่างตกใจและไม่เชื่อว่าจะได้ยินคำพูดนั้น ทำให้อชิระต้องพูดย้ำตรงๆเมื่อสุดจะทนกับหญิงสาวคนนี้ แล้วเก็ตถวาต้องโต้กลับชนิดไม่ตกฟากอย่างทุกครั้ง
“คุณหนึ่งไม่งกนะคะ แต่ที่ทำก็เพราะต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายต่างหาก คุณอชิระก็รู้ว่าภูคำมีค่าใช้จ่ายมาก”
“ผมทราบว่าที่นี่ใช้เงินจำนวนมาก แต่ภูคำก็สร้างรายได้ให้คุณหนึ่งไม่น้อย นี่ไม่นับเงินก้นถุงที่ท่านให้คุณหนึ่งเอามาใช้เปิดฟาร์มม้าแข่งอีกต่างหาก แต่ผมว่าไอ้เงินก้อนนั้นของคุณหนึ่งน่าจะขึ้นราไปหมดแล้วมั้ง เพราะรู้สึกว่าคุณหนึ่งไม่เคยเอามาใช้เลยนี่”
“คุณอชิระ! ถ้าคุณไม่มีความรู้เกี่ยวกับม้าและคุณไม่ใช่คนของคุณพ่อ คุณหนึ่งจะ..”
“จะไล่ผมออกเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายหรือครับ ผมว่าคุณหนึ่งไม่ทำแน่เพราะทุกวันนี้ ผมก็กินเงินเดือนจากท่าน คุณหนึ่งไม่เคยจ่ายเงินเดือนผมสักบาท แล้วคุณหนึ่งจะเอาเหตุผลอะไรมาไล่คนที่ทำงานให้คุณฟรีๆ”
เก็ตถวาต้องเม้มปากแน่นก่อนจะละความสนใจจากม้าเบื้องหน้า เพราะเธอต้องหันขวับแล้วใช้สายตาจิกชายหนุ่มปากมากซึ่งยืนอยู่ไม่ห่างนั่น หนอย..ทำเป็นพูดดี ถ้าเขาไม่เก่งจนช่วยเธอเปิดฟาร์มภูคำมาจนได้ขนาดนี้ อีตาอชิระนี่คงได้ถูกเธอไล่เปิดเปิง
“หยุดเถียงกันเถอะค่ะ คุณหนึ่งขอตัวไปตรวจม้าดีกว่า”
“อย่าเพิ่งไปสิครับคุณหนึ่ง ผมยังพูดข้อเสนอที่ว่าใหม่นั้นไม่จบ”
“พูดมาเร็วๆเลยค่ะ คุณหนึ่งขี้เกียจเถียงกับคุณ”
แม้หญิงสาวจะทำท่าทางเหมือนเบื่อหน่าย แต่อชิระก็จำเป็นต้องพูดข้อเสนอไป เนื่องจากเขาเริ่มได้ยินข่าวบางอย่างจากเทรนเนอร์มือหนึ่งของฟาร์มภูคำ และนั่นมันทำให้เขาไม่ไว้ใจเจ้าบ๊อบจนอยากหาทางพิสูจน์ ..ฟาร์มนี้เขานับว่าตนเองเริ่มสร้างมากับมือ ถ้าจะให้ไอ้ฝรั่งตาน้ำข้าวนั่นมาทำให้ย่อยยับ เรื่องอะไรที่เขาจะยอมยืนนิ่งเฉย
“ในเมื่อคุณหนึ่งไม่ต้องการมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ผมเลยนึกขึ้นมาได้ว่าตอนที่ภูคำสั่งเจ้าสกายเข้ามา ทางฟาร์มม้าที่ต่างประเทศเขาบอกว่าจะให้ยืมเทรนเนอร์ฝีมือดีมาช่วยดูแลให้”
“จริงหรือคะทำไมคุณหนึ่งไม่รู้”
“มันเป็นข้อตกลงเล็กๆน้อยๆที่เขาเสนอมาภายหลังนะครับ สงสัยเขาจะเห็นว่าคุณหนึ่งบ้าจนกล้าสู้ราคาเจ้าสกายจนไม่สนใจอย่างอื่น เขาเลยบอกตามมาทีหลัง”
คำกระแนะกระแหนของชายหนุ่มแทนที่จะทำให้เธอโกรธ กลับกลายเป็นสร้างความดีใจให้กับหญิงสาว จนอชิระเองที่ต้องเป็นฝ่ายโคลงศีรษะกับท่าทางตื่นเต้นของเธอ
“กี่เดือนคะคุณอชิระ”
“อะไรกี่เดือน”
“ก็เทรนเนอร์ที่เขาจะส่งมาดูแลม้าให้เราฟรีน่ะสิ”
“ใครเขาจะให้มากขนาดนั้น เขาให้สองสัปดาห์ครับคุณหนึ่งไม่ใช่เป็นเดือน”
ชายหนุ่มพูดเสียงห้วนแล้วเป็นฝ่ายตวัดตาขุ่นๆกลับไปบ้าง แต่ไหนเลยที่ยายจอมงกจะทำท่าเข้าใจ เพราะเขายังเห็นเธอยิ้มได้ทั้งๆที่คิ้วโค้งเรียวนั้นยังขมวดนิดๆ
“สองสัปดาห์..น้อยไปหน่อยแต่ก็ยังดีนะคะ เพราะถ้าเราต้องจ้างเทรนเนอร์จากฟาร์มนั่นมันน่าจะใช้เงินเป็นแสนถ้าอย่างนั้นเอาตามที่คุณอชิระบอกนะคะ แล้วก็ช่วยติดต่อเรื่องนี้ให้คุณหนึ่งด้วย”
“ผมจะรีบทำให้”
เขาตอบห้วนกุดแล้วหมุนตัวเตรียมเดินจากไป แต่เสียงใสๆที่ดังตามมานั้นทำให้ชายหนุ่มต้องหยุดชะงัก
“เดี๋ยวค่ะ..แล้วค่าใช้จ่ายในการเดินทางละคะ เราต้องออกให้เขาด้วยหรือเปล่า”
“โล่งใจได้เลยครับคุณหนึ่ง เพราะทางโน้นเขาบริการฟรี”
“ขอบคุณค่ะ”
เสียงหัวเราะแผ่วของเธอก่อนจะตามมาด้วยการตะโกนเรียกม้าตัวโปรด ทำให้อชิระต้องเดินหนีลิ่วแล้วบ่นต่อว่าหญิงสาวไปด้วย..แปลกที่พี่สาวกับน้องสาวช่างต่างกันได้อย่างลิบลับ เพราะในขณะที่คุณสองใจกว้างเหมือนแม่น้ำ แต่ยายคุณหนึ่งคนนี้กลับขี้เหนียวพอๆกับตังเม
อชิระเดินกลับเข้าไปในห้องทำงาน และที่นั่นถูกสร้างมาจากไม้ปีก จนกลายเป็นบ้านชั้นเดียวหลังกว้างทอดขวางในแนวทิศทางการขึ้นลงของดวงอาทิตย์ ซึ่งบ้านหลังนี้แบ่งเป็นห้องพักของเก็ตถวา รวมทั้งใช้เป็นที่ทำงานของเขาในบางครั้ง ซึ่งมันตั้งอยู่บนเนินห่างจากคอกม้าและสนามวิ่งเล่นร่วมครึ่งกิโล
พื้นที่อันกว้างขวางของฟาร์มภูคำ ตั้งอยู่บนที่ราบกลางหุบเขาและที่ผืนนี้ถูกปรับเป็นฟาร์มครั้งแรกเมื่อสองปีก่อน ซึ่งน่าจะนับตั้งแต่คุณหนึ่งเรียนจบสัตวแพทย์ แล้วนึกอยากทำฟาร์มม้าแข่งขึ้นมาเสียอย่างนั้น ครั้งแรกอชิระไม่เห็นด้วย เพราะเขาคิดว่าเก็ตถวาคงจะเห่ออะไรชั่วพักชั่วครู่ แต่ในเมื่อบิดาของเธอเห็นดีเห็นงาม จนกล้ายกพื้นที่ตรงนี้ให้ง่ายๆพร้อมให้เขามาช่วยในคราวเดียวกัน อชิระก็แทบจะนึกอยากบีบคอคุณหนึ่งเสียให้รู้แล้วรู้รอด
เขาไม่อยากทำงานร่วมกับเธอสักนิด แต่ในเมื่อเจ้านายสั่งเขาจึงได้แต่ตามใจท่าน และตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา เขาและเก็ตถวาก็เริ่มทำฟาร์มแห่งนี้พร้อมๆกับทะเลาะเบาะแว้งกันมาเรื่อยๆ จนเขาทั้งแอบแช่งชักให้ฟาร์มภูคำเจ๊งไปไม่รู้กี่รอบ
แต่เหมือนโชคจะเข้าข้างลูกสาวของเจ้านาย หรือว่าดวงเขาจะซวยเพราะเธอก็ไม่รู้ เพราะแค่ทำฟาร์มยังไม่ทันเสร็จสมบูรณ์ ม้าที่เก็ตถวาลงทุนเดินทางไปหาด้วยตนเองถึงต่างประเทศ และนำเข้าเป็นตัวแรกพร้อมกับที่เธอฟูมฟักได้ไม่ถึงสองเดือนก่อนจะลงสนามแข่ง มันดันเข้าวินได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ในขณะที่เก็ตถวากระโดดโลดเต้นเพราะชัยชนะและบ้างานเพิ่มมากกว่าเดิม อชิระกลับเริ่มผูกพันกับม้าซึ่งตนเองดูแลอยู่ในคอก จนที่สุดเขาก็คล้ายจะทำใจไม่ได้ เมื่อคิดว่าสักวันตนเองอาจต้องไปจากที่นี่...ชายหนุ่มเริ่มทำงานจริงๆจังๆ หลังจากปล่อยเธอมานาน และยิ่งเขาลงมาคลุกคลีจัดการมากเท่าไหร่ อชิระก็เริ่มแปลกใจในหลายๆเรื่องที่ได้รู้
วงการม้าแข่งไม่ได้ขาวสะอาดหรือสดชื่น เหมือนฟาร์มภูคำที่เขาทำอยู่ และยิ่งเวลาผ่านไปเมื่อเก็ตถวา เริ่มใช้และจ้างเทรนเนอร์อย่างเจ้าบ๊อบ เขาก็ยิ่งต้องระวังความปลอดภัยให้คุณหนึ่งเป็นทวีคูณ ..ความเหนื่อยล้าประกอบกับการได้รับข่าวจากเพื่อนหนุ่ม ซึ่งเขาเคยไปอยู่ฟาร์มม้าที่ต่างประเทศด้วยกัน ทำให้อชิระต้องปรึกษาเรื่องกวนใจเหล่านี้ด้วย ซึ่งสุดท้ายเขาก็ได้รับคำแนะนำบางอย่างซึ่งอชิระก็เห็นดีเห็นงาม จนยอมทำตามข้อเสนอเหล่านั้น
“ว่ายังไงคุณหนึ่งเธอตกลงใช่มั้ย”
เสียงเพื่อนของเขาดังมาจากโทรศัพท์และแค่ได้ยินอชิระก็ตวาดกลับเสียงห้วนเหมือนฉุน
“ตกลงกะผีอะไร กูบอกแล้วว่าเธอเค็มมึงก็ไม่เชื่อ”
“อ้าว ถ้าไม่ตกลงมึงจะทำยังไงวะอชิ ยังงี้แผนการไล่ไอ้บ๊อบออกจากฟาร์มมิต้องล้มไม่เป็นท่าอย่างนั้นเรอะ”
“สงสัยกูต้องวิ่งไปบอกท่านเหมือนเดิม แล้วก็ขอเงินท่านสักก้อนเพื่อจ้างเทรนเนอร์ที่มึงว่า”
“แล้วถ้าคุณหนึ่งรู้ว่ามึงจ้างมา เธอจะไม่ว้ากเอาหรือวะ ได้ยินแกว่าเธอเค็มไม่ใช่หรือ”
“ก็อย่าให้รู้สิโว้ย กูบอกเธอไปว่าที่ฟาร์มนั่นเขามีเทรนเนอร์ให้ยืมฟรีสองอาทิตย์”
“ไอ้อชิบ้า ฟาร์มระดับนี้เขาไม่มีบริการแบบนั้นมึงก็รู้ เทรนเนอร์ที่นี่มีคลาสนะโว้ยค่าตัวแต่ละคนไม่ใช่เล่นๆ”
เพื่อนหนุ่มที่ด่าลั่นออกมาเ รียกรอยยิ้มบางๆให้แต้มขึ้นบนมุมปากของชายหนุ่มก่อนจะพูดตอบอีกฝ่าย
“กูรู้ ถึงบอกว่าจะขอเงินท่านไปจ้างยังไง”
“ก็ตามใจมึงนะอชิ ว่าแต่ถ้ามึงจ้างเทรนเนอร์ไปแล้วมึงจะไล่ไอ้บ๊อบออกใช่มั้ย”
“กูคิดไว้อย่างนั้นนะ”
“แต่ถ้าครบสองอาทิตย์หละ มึงจะไปหาเทรนเนอร์ที่ไหนให้เธอเพราะคนที่มึงจ้างไปเขาก็ต้องกลับไม่ใช่เหรอ”
“สองอาทิตย์ถมเถไปที่จะหา แต่ว่าตอนนี้ขอให้กูได้หาเหตุไล่ไอ้บ๊อบออกไปก่อน”
“มึงมั่นใจแล้วใช่มั้ยว่าไอ้บ๊อบมันคิดไม่ซื่อกับฟาร์มภูคำ”
“แปดสิบเปอร์เซ็นว่ะ แต่ว่าไล่ออกไว้ก่อนดีกว่าอย่างน้อยเทรนเนอร์เก่งๆคงพอจะหาได้ แต่ถ้าไอ้บ๊อบอยู่ที่นี่นานอีกนิด กูว่าม้าของคุณหนึ่งมีสิทธิ์ตายยกคอกนะมึง นี่เจ้าสกายก็ไม่ได้ลงสนามมานัดนึงแล้วนะ”
“อาการไม่ดีขึ้นเลยหรือ ไหนมึงบอกว่าคุณหนึ่งเป็นสัตวแพทย์”
“ก็ใช่เธอดูแลมันอยู่แต่มันก็ต้องใช้เวลาบ้าง ว่าแต่มึงหาเทรนเนอร์เก่งๆให้กูได้ใช่มั้ย”
“หาน่ะหาได้ แต่เดินทางไกลถึงประเทศไทยน่ะ กูต้องใช้ความพยายามหน่อยแล้วค่าจ้างก็น่าจะสูงเอาการ เอาเป็นว่ากูรับปากมึงก็ได้ว่ะ”
“ขอบใจมากเพื่อน แค่นี้นะเดี๋ยวว่างๆจะโทรมาหา”
อชิระวางโทรศัพท์ก่อนจะสะดุ้งโหย งเพราะเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นก็พบกับหญิงสาวกำลังยืนมองมาจากประตูห้องทำงานซึ่งประตูเปิดกว้าง..ร่างบางที่เดินเอื่อยๆเข้ามาพร้อมตรงเข้าหาตู้เย็นทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะต่อว่าอีกครั้ง
“ทำไมมาไม่ให้ซุ่มให้เสียง ยืนแอบฟังคนอื่นพูดแบบนี้ไม่ดีสักนิด”
“บ่นเข้าไป! นี่ถ้าคุณหนึ่งไม่คิดว่าคุณอชิระเหมือนพี่ชายละก้อ เราคงได้ลงมือลงไม้กันบ้าง”
“นิสัยแย่ๆแบบนี้ไม่เหมาะจะเป็นน้องสาวผมหรอกครับ คุณสองนั่นต่างหากที่น่ารักจนพอจะเป็นน้องได้”
เก็ตถวาเดือดปุดๆเมื่อเจอวาจาเชือดเฉือนจากชายหนุ่ม และเมื่อปากเธอไม่ว่างเพราะกำลังยกแก้วน้ำเย็นจัดขึ้นดื่ม ทำให้หญิงสาวต้องยืนนิ่งดื่มน้ำ ก่อนจะวางแก้วเปล่าลงด้วยสีหน้าชื่นอกชื่นใจ แต่ชวนขัดตาเขาอย่างที่สุด และเมื่อพออารมณ์เย็นลงอีกครั้ง หญิงสาวก็หมุนตัวเพื่อหันไปเผชิญหน้าเขา ก่อนจะมองใบหน้าคมนั้นแล้วเอ่ยถามยิ้มๆ
“คุณอชิระอยากได้ยายสองเป็นน้องๆจริงๆหรือคะ งั้นแสดงว่าที่ผ่านๆมาคุณหนึ่งคงคิดผิดเองนะสิ”
“พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง”
“ตกลงคุณอชิระต้องการให้คุณหนึ่งอธิบายให้ชัดกว่านี้ใช่มั้ยคะ”
ดวงตาพราวระยับเหมือนกลั้นหัวเราะของเธอ ทำให้ชายหนุ่มต้องลุกพรวดทั้งหน้าตาแดงเรื่ออย่างปิดไม่มิด อชิระถลึงตาให้หญิงสาวก่อนจะย่ำโครมๆออกไปจากห้อง แต่เสียงหัวเราะที่ดังไล่หลังมันทำให้เขาเหมือนจะหน้าร้อนผ่าวมากขึ้นไปอีก..เขาไม่เคยคิดว่าเธอจะกล้าเอาเรื่องของน้องสาวมาพูดกับเขาแบบนี้
“ยายตัวดี ระวังไว้เหอะสักวันจะเจอคนที่แสบกว่าตัวเอง”
ชายหนุ่มพึมพำเสียงห้วน แล้วรีบเดินตรงไปยังรถที่จอด ก่อนจะขับออกไปด้วยความหงุดหงิด ยิ่งคิดว่าตนเองทำอะไรลูกสาวเจ้านายไม่ได้ เขาก็พาลโกรธเก็ตถวาจนอยากจะเลิกอยู่ที่ฟาร์มแห่งนี้สักที
.....................................................
บทที่ 1
หญิงสาวซึ่งยืนเกาะรั้วจนเห็นเพียงเรือนร่างสูงเพรียวระหงสมส่วน ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวขาวสะอาดและสอดชายไว้ใต้กางเกงสีดำแค่เพียงด้านหลัง ทำให้ชายหนุ่มซึ่งหยุดยืนมองเธอห่างๆ เกิดอาการลังเลอยู่บ้าง อชิระคิดแล้วคิดอีกและตรึกตรองอยู่หลายตลบ กว่าเขาจะตัดสินใจเดินตรงไปหาเธอ จนเมื่อชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้และยืนห่างหญิงสาวในระยะที่พอจะพูดคุยกันได้ เขาก็เริ่มพูดสิ่งที่ต้องการ
“เราน่าจะหาเทรนเนอร์เพิ่มอีกสักคนนะครับคุณหนึ่ง”
ถึงจะพอเดาคำตอบของอีกฝ่ายว่าจะเป็นเช่นไร แต่เมื่อได้ยินเธอพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแกมยโสเล็กน้อย อชิระก็เหมือนจะขัดหูขัดตาขณะได้ยินอยู่ดี
“ภูคำยังมีคุณหนึ่ง เราไม่จำเป็นต้องหาเทรนเนอร์มาเพิ่มหรอกค่ะ”
นั่นยังไง!แค่เริ่มเธอก็ตอบเหมือนไม่ต้องคิด มิหนำใบหน้าที่สดชื่นและแพผมที่ปลิวไสวกับสายลมของที่ราบกลางหุบกว้าง ยังไม่ยอมมองมาทางเขา ราวกับเธอไม่เห็นความสลักสำคัญของคำพูดเขาแม้แต่น้อย
“คุณหนึ่งครับ ฟาร์มภูคำมันโตเร็วมาก และผมก็ทราบว่ามันมาจากความสามารถของคุณหนึ่งที่ดูแลอย่างดี แต่ที่ผมเสนอว่าน่าจะหาคนสอนขี่ม้าฝีมือดีๆมาเพิ่มอีกสักคน ก็เพราะคิดว่าน่าจะช่วยแบ่งเบาภาระคุณหนึ่งได้”
“ถึงภูคำจะโตมากแต่คุณหนึ่งก็มั่นใจว่า ตัวเองยังสามารถทำได้นะคะ”
“ผมรู้ว่าคุณหนึ่งเก่ง แต่คุณหนึ่งควรจะหาคนมาแทนมือบ้าง”
ชายหนุ่มตอบอย่างดื้อดึง และแล้วการปะทะคารมระหว่างเขาและเธอก็เหมือนจะเริ่มอย่างทุกครั้ง
“ภูคำมีคุณบ๊อบแล้วนี่คะเราจะหาเทรนเนอร์มาเพิ่มอีกทำไม คุณหนึ่งไม่อยากเพิ่มค่าใช้จ่ายอีกนะคะ”
การโต้กลับโดยอ้างถึงเทรนเนอร์คนเก่าของหญิงสาว เล่นเอาอชิระต้องบ่นพึม
“บ๊อบอาจจะเก่งแต่หมอนั่นมันก็กินเหล้าเป็นน้ำ จนบางครั้งเล่นเอาเสียงานเสียการก็มี และที่สำคัญคุณหนึ่งรู้หรือเปล่าว่าหมอนั่นน่ะมันเริ่มทำตัวไม่น่าไว้ใจ”
“ยังไงคะ”
“ขอผมหาข้อมูลเกี่ยวกับบ๊อบอีกสักนิด แล้วผมจะรายงานให้คุณหนึ่งทราบนะครับ”
“ได้ค่ะ! แต่ช่วงที่คุณอชิหาข้อมูล คุณหนึ่งก็ขอไม่จ้างเทรนเนอร์เพิ่มนะคะ”
ใบหน้าสดใสของหญิงสาวขณะส่งยิ้มกว้างขวางมาให้เมื่อเธอเบือนหน้ามามองเขา แทนที่จะทำให้อชิระหลงไปกับเสน่ห์อันเหลือเฟือ ก็หาไม่ เพราะชายหนุ่มกำลังหงุดหงิดแกมหมั่นไส้ กับดวงตาสุกสกาวที่แฝงวี่แววแห่งชัยชนะของเธอนั่นต่างหาก
ถ้าท่านไม่สั่งให้เขาตามมาช่วยดูแลเธอละก็ อย่าหวังว่าเขาจะตามมาอยู่กับยายคุณหนูจอมตืดนี่ และเมื่อคิดถึงตรงนี้อชิระ ก็เอ่ยเสียงแข็งอย่างไม่คิดถนอมน้ำใจเธอกลับไปบ้าง
“ถ้าคุณหนึ่งไม่ต้องการเสียค่าใช้จ่ายเพราะ..งก..เอาอย่างนี้ก็แล้วกันผมมีข้อเสนอใหม่”
“คุณอชิระพูดว่าคุณหนึ่งงกหรือคะ”
“ครับคุณหนึ่งงกมาก แล้วใครๆเขาก็รู้กันทุกคนหรือคุณหนึ่งจะเถียง”
ดวงตาโตๆของเธอที่มองมาอย่างตกใจและไม่เชื่อว่าจะได้ยินคำพูดนั้น ทำให้อชิระต้องพูดย้ำตรงๆเมื่อสุดจะทนกับหญิงสาวคนนี้ แล้วเก็ตถวาต้องโต้กลับชนิดไม่ตกฟากอย่างทุกครั้ง
“คุณหนึ่งไม่งกนะคะ แต่ที่ทำก็เพราะต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายต่างหาก คุณอชิระก็รู้ว่าภูคำมีค่าใช้จ่ายมาก”
“ผมทราบว่าที่นี่ใช้เงินจำนวนมาก แต่ภูคำก็สร้างรายได้ให้คุณหนึ่งไม่น้อย นี่ไม่นับเงินก้นถุงที่ท่านให้คุณหนึ่งเอามาใช้เปิดฟาร์มม้าแข่งอีกต่างหาก แต่ผมว่าไอ้เงินก้อนนั้นของคุณหนึ่งน่าจะขึ้นราไปหมดแล้วมั้ง เพราะรู้สึกว่าคุณหนึ่งไม่เคยเอามาใช้เลยนี่”
“คุณอชิระ! ถ้าคุณไม่มีความรู้เกี่ยวกับม้าและคุณไม่ใช่คนของคุณพ่อ คุณหนึ่งจะ..”
“จะไล่ผมออกเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายหรือครับ ผมว่าคุณหนึ่งไม่ทำแน่เพราะทุกวันนี้ ผมก็กินเงินเดือนจากท่าน คุณหนึ่งไม่เคยจ่ายเงินเดือนผมสักบาท แล้วคุณหนึ่งจะเอาเหตุผลอะไรมาไล่คนที่ทำงานให้คุณฟรีๆ”
เก็ตถวาต้องเม้มปากแน่นก่อนจะละความสนใจจากม้าเบื้องหน้า เพราะเธอต้องหันขวับแล้วใช้สายตาจิกชายหนุ่มปากมากซึ่งยืนอยู่ไม่ห่างนั่น หนอย..ทำเป็นพูดดี ถ้าเขาไม่เก่งจนช่วยเธอเปิดฟาร์มภูคำมาจนได้ขนาดนี้ อีตาอชิระนี่คงได้ถูกเธอไล่เปิดเปิง
“หยุดเถียงกันเถอะค่ะ คุณหนึ่งขอตัวไปตรวจม้าดีกว่า”
“อย่าเพิ่งไปสิครับคุณหนึ่ง ผมยังพูดข้อเสนอที่ว่าใหม่นั้นไม่จบ”
“พูดมาเร็วๆเลยค่ะ คุณหนึ่งขี้เกียจเถียงกับคุณ”
แม้หญิงสาวจะทำท่าทางเหมือนเบื่อหน่าย แต่อชิระก็จำเป็นต้องพูดข้อเสนอไป เนื่องจากเขาเริ่มได้ยินข่าวบางอย่างจากเทรนเนอร์มือหนึ่งของฟาร์มภูคำ และนั่นมันทำให้เขาไม่ไว้ใจเจ้าบ๊อบจนอยากหาทางพิสูจน์ ..ฟาร์มนี้เขานับว่าตนเองเริ่มสร้างมากับมือ ถ้าจะให้ไอ้ฝรั่งตาน้ำข้าวนั่นมาทำให้ย่อยยับ เรื่องอะไรที่เขาจะยอมยืนนิ่งเฉย
“ในเมื่อคุณหนึ่งไม่ต้องการมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ผมเลยนึกขึ้นมาได้ว่าตอนที่ภูคำสั่งเจ้าสกายเข้ามา ทางฟาร์มม้าที่ต่างประเทศเขาบอกว่าจะให้ยืมเทรนเนอร์ฝีมือดีมาช่วยดูแลให้”
“จริงหรือคะทำไมคุณหนึ่งไม่รู้”
“มันเป็นข้อตกลงเล็กๆน้อยๆที่เขาเสนอมาภายหลังนะครับ สงสัยเขาจะเห็นว่าคุณหนึ่งบ้าจนกล้าสู้ราคาเจ้าสกายจนไม่สนใจอย่างอื่น เขาเลยบอกตามมาทีหลัง”
คำกระแนะกระแหนของชายหนุ่มแทนที่จะทำให้เธอโกรธ กลับกลายเป็นสร้างความดีใจให้กับหญิงสาว จนอชิระเองที่ต้องเป็นฝ่ายโคลงศีรษะกับท่าทางตื่นเต้นของเธอ
“กี่เดือนคะคุณอชิระ”
“อะไรกี่เดือน”
“ก็เทรนเนอร์ที่เขาจะส่งมาดูแลม้าให้เราฟรีน่ะสิ”
“ใครเขาจะให้มากขนาดนั้น เขาให้สองสัปดาห์ครับคุณหนึ่งไม่ใช่เป็นเดือน”
ชายหนุ่มพูดเสียงห้วนแล้วเป็นฝ่ายตวัดตาขุ่นๆกลับไปบ้าง แต่ไหนเลยที่ยายจอมงกจะทำท่าเข้าใจ เพราะเขายังเห็นเธอยิ้มได้ทั้งๆที่คิ้วโค้งเรียวนั้นยังขมวดนิดๆ
“สองสัปดาห์..น้อยไปหน่อยแต่ก็ยังดีนะคะ เพราะถ้าเราต้องจ้างเทรนเนอร์จากฟาร์มนั่นมันน่าจะใช้เงินเป็นแสนถ้าอย่างนั้นเอาตามที่คุณอชิระบอกนะคะ แล้วก็ช่วยติดต่อเรื่องนี้ให้คุณหนึ่งด้วย”
“ผมจะรีบทำให้”
เขาตอบห้วนกุดแล้วหมุนตัวเตรียมเดินจากไป แต่เสียงใสๆที่ดังตามมานั้นทำให้ชายหนุ่มต้องหยุดชะงัก
“เดี๋ยวค่ะ..แล้วค่าใช้จ่ายในการเดินทางละคะ เราต้องออกให้เขาด้วยหรือเปล่า”
“โล่งใจได้เลยครับคุณหนึ่ง เพราะทางโน้นเขาบริการฟรี”
“ขอบคุณค่ะ”
เสียงหัวเราะแผ่วของเธอก่อนจะตามมาด้วยการตะโกนเรียกม้าตัวโปรด ทำให้อชิระต้องเดินหนีลิ่วแล้วบ่นต่อว่าหญิงสาวไปด้วย..แปลกที่พี่สาวกับน้องสาวช่างต่างกันได้อย่างลิบลับ เพราะในขณะที่คุณสองใจกว้างเหมือนแม่น้ำ แต่ยายคุณหนึ่งคนนี้กลับขี้เหนียวพอๆกับตังเม
อชิระเดินกลับเข้าไปในห้องทำงาน และที่นั่นถูกสร้างมาจากไม้ปีก จนกลายเป็นบ้านชั้นเดียวหลังกว้างทอดขวางในแนวทิศทางการขึ้นลงของดวงอาทิตย์ ซึ่งบ้านหลังนี้แบ่งเป็นห้องพักของเก็ตถวา รวมทั้งใช้เป็นที่ทำงานของเขาในบางครั้ง ซึ่งมันตั้งอยู่บนเนินห่างจากคอกม้าและสนามวิ่งเล่นร่วมครึ่งกิโล
พื้นที่อันกว้างขวางของฟาร์มภูคำ ตั้งอยู่บนที่ราบกลางหุบเขาและที่ผืนนี้ถูกปรับเป็นฟาร์มครั้งแรกเมื่อสองปีก่อน ซึ่งน่าจะนับตั้งแต่คุณหนึ่งเรียนจบสัตวแพทย์ แล้วนึกอยากทำฟาร์มม้าแข่งขึ้นมาเสียอย่างนั้น ครั้งแรกอชิระไม่เห็นด้วย เพราะเขาคิดว่าเก็ตถวาคงจะเห่ออะไรชั่วพักชั่วครู่ แต่ในเมื่อบิดาของเธอเห็นดีเห็นงาม จนกล้ายกพื้นที่ตรงนี้ให้ง่ายๆพร้อมให้เขามาช่วยในคราวเดียวกัน อชิระก็แทบจะนึกอยากบีบคอคุณหนึ่งเสียให้รู้แล้วรู้รอด
เขาไม่อยากทำงานร่วมกับเธอสักนิด แต่ในเมื่อเจ้านายสั่งเขาจึงได้แต่ตามใจท่าน และตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา เขาและเก็ตถวาก็เริ่มทำฟาร์มแห่งนี้พร้อมๆกับทะเลาะเบาะแว้งกันมาเรื่อยๆ จนเขาทั้งแอบแช่งชักให้ฟาร์มภูคำเจ๊งไปไม่รู้กี่รอบ
แต่เหมือนโชคจะเข้าข้างลูกสาวของเจ้านาย หรือว่าดวงเขาจะซวยเพราะเธอก็ไม่รู้ เพราะแค่ทำฟาร์มยังไม่ทันเสร็จสมบูรณ์ ม้าที่เก็ตถวาลงทุนเดินทางไปหาด้วยตนเองถึงต่างประเทศ และนำเข้าเป็นตัวแรกพร้อมกับที่เธอฟูมฟักได้ไม่ถึงสองเดือนก่อนจะลงสนามแข่ง มันดันเข้าวินได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ในขณะที่เก็ตถวากระโดดโลดเต้นเพราะชัยชนะและบ้างานเพิ่มมากกว่าเดิม อชิระกลับเริ่มผูกพันกับม้าซึ่งตนเองดูแลอยู่ในคอก จนที่สุดเขาก็คล้ายจะทำใจไม่ได้ เมื่อคิดว่าสักวันตนเองอาจต้องไปจากที่นี่...ชายหนุ่มเริ่มทำงานจริงๆจังๆ หลังจากปล่อยเธอมานาน และยิ่งเขาลงมาคลุกคลีจัดการมากเท่าไหร่ อชิระก็เริ่มแปลกใจในหลายๆเรื่องที่ได้รู้
วงการม้าแข่งไม่ได้ขาวสะอาดหรือสดชื่น เหมือนฟาร์มภูคำที่เขาทำอยู่ และยิ่งเวลาผ่านไปเมื่อเก็ตถวา เริ่มใช้และจ้างเทรนเนอร์อย่างเจ้าบ๊อบ เขาก็ยิ่งต้องระวังความปลอดภัยให้คุณหนึ่งเป็นทวีคูณ ..ความเหนื่อยล้าประกอบกับการได้รับข่าวจากเพื่อนหนุ่ม ซึ่งเขาเคยไปอยู่ฟาร์มม้าที่ต่างประเทศด้วยกัน ทำให้อชิระต้องปรึกษาเรื่องกวนใจเหล่านี้ด้วย ซึ่งสุดท้ายเขาก็ได้รับคำแนะนำบางอย่างซึ่งอชิระก็เห็นดีเห็นงาม จนยอมทำตามข้อเสนอเหล่านั้น
“ว่ายังไงคุณหนึ่งเธอตกลงใช่มั้ย”
เสียงเพื่อนของเขาดังมาจากโทรศัพท์และแค่ได้ยินอชิระก็ตวาดกลับเสียงห้วนเหมือนฉุน
“ตกลงกะผีอะไร กูบอกแล้วว่าเธอเค็มมึงก็ไม่เชื่อ”
“อ้าว ถ้าไม่ตกลงมึงจะทำยังไงวะอชิ ยังงี้แผนการไล่ไอ้บ๊อบออกจากฟาร์มมิต้องล้มไม่เป็นท่าอย่างนั้นเรอะ”
“สงสัยกูต้องวิ่งไปบอกท่านเหมือนเดิม แล้วก็ขอเงินท่านสักก้อนเพื่อจ้างเทรนเนอร์ที่มึงว่า”
“แล้วถ้าคุณหนึ่งรู้ว่ามึงจ้างมา เธอจะไม่ว้ากเอาหรือวะ ได้ยินแกว่าเธอเค็มไม่ใช่หรือ”
“ก็อย่าให้รู้สิโว้ย กูบอกเธอไปว่าที่ฟาร์มนั่นเขามีเทรนเนอร์ให้ยืมฟรีสองอาทิตย์”
“ไอ้อชิบ้า ฟาร์มระดับนี้เขาไม่มีบริการแบบนั้นมึงก็รู้ เทรนเนอร์ที่นี่มีคลาสนะโว้ยค่าตัวแต่ละคนไม่ใช่เล่นๆ”
เพื่อนหนุ่มที่ด่าลั่นออกมาเ รียกรอยยิ้มบางๆให้แต้มขึ้นบนมุมปากของชายหนุ่มก่อนจะพูดตอบอีกฝ่าย
“กูรู้ ถึงบอกว่าจะขอเงินท่านไปจ้างยังไง”
“ก็ตามใจมึงนะอชิ ว่าแต่ถ้ามึงจ้างเทรนเนอร์ไปแล้วมึงจะไล่ไอ้บ๊อบออกใช่มั้ย”
“กูคิดไว้อย่างนั้นนะ”
“แต่ถ้าครบสองอาทิตย์หละ มึงจะไปหาเทรนเนอร์ที่ไหนให้เธอเพราะคนที่มึงจ้างไปเขาก็ต้องกลับไม่ใช่เหรอ”
“สองอาทิตย์ถมเถไปที่จะหา แต่ว่าตอนนี้ขอให้กูได้หาเหตุไล่ไอ้บ๊อบออกไปก่อน”
“มึงมั่นใจแล้วใช่มั้ยว่าไอ้บ๊อบมันคิดไม่ซื่อกับฟาร์มภูคำ”
“แปดสิบเปอร์เซ็นว่ะ แต่ว่าไล่ออกไว้ก่อนดีกว่าอย่างน้อยเทรนเนอร์เก่งๆคงพอจะหาได้ แต่ถ้าไอ้บ๊อบอยู่ที่นี่นานอีกนิด กูว่าม้าของคุณหนึ่งมีสิทธิ์ตายยกคอกนะมึง นี่เจ้าสกายก็ไม่ได้ลงสนามมานัดนึงแล้วนะ”
“อาการไม่ดีขึ้นเลยหรือ ไหนมึงบอกว่าคุณหนึ่งเป็นสัตวแพทย์”
“ก็ใช่เธอดูแลมันอยู่แต่มันก็ต้องใช้เวลาบ้าง ว่าแต่มึงหาเทรนเนอร์เก่งๆให้กูได้ใช่มั้ย”
“หาน่ะหาได้ แต่เดินทางไกลถึงประเทศไทยน่ะ กูต้องใช้ความพยายามหน่อยแล้วค่าจ้างก็น่าจะสูงเอาการ เอาเป็นว่ากูรับปากมึงก็ได้ว่ะ”
“ขอบใจมากเพื่อน แค่นี้นะเดี๋ยวว่างๆจะโทรมาหา”
อชิระวางโทรศัพท์ก่อนจะสะดุ้งโหย งเพราะเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นก็พบกับหญิงสาวกำลังยืนมองมาจากประตูห้องทำงานซึ่งประตูเปิดกว้าง..ร่างบางที่เดินเอื่อยๆเข้ามาพร้อมตรงเข้าหาตู้เย็นทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะต่อว่าอีกครั้ง
“ทำไมมาไม่ให้ซุ่มให้เสียง ยืนแอบฟังคนอื่นพูดแบบนี้ไม่ดีสักนิด”
“บ่นเข้าไป! นี่ถ้าคุณหนึ่งไม่คิดว่าคุณอชิระเหมือนพี่ชายละก้อ เราคงได้ลงมือลงไม้กันบ้าง”
“นิสัยแย่ๆแบบนี้ไม่เหมาะจะเป็นน้องสาวผมหรอกครับ คุณสองนั่นต่างหากที่น่ารักจนพอจะเป็นน้องได้”
เก็ตถวาเดือดปุดๆเมื่อเจอวาจาเชือดเฉือนจากชายหนุ่ม และเมื่อปากเธอไม่ว่างเพราะกำลังยกแก้วน้ำเย็นจัดขึ้นดื่ม ทำให้หญิงสาวต้องยืนนิ่งดื่มน้ำ ก่อนจะวางแก้วเปล่าลงด้วยสีหน้าชื่นอกชื่นใจ แต่ชวนขัดตาเขาอย่างที่สุด และเมื่อพออารมณ์เย็นลงอีกครั้ง หญิงสาวก็หมุนตัวเพื่อหันไปเผชิญหน้าเขา ก่อนจะมองใบหน้าคมนั้นแล้วเอ่ยถามยิ้มๆ
“คุณอชิระอยากได้ยายสองเป็นน้องๆจริงๆหรือคะ งั้นแสดงว่าที่ผ่านๆมาคุณหนึ่งคงคิดผิดเองนะสิ”
“พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง”
“ตกลงคุณอชิระต้องการให้คุณหนึ่งอธิบายให้ชัดกว่านี้ใช่มั้ยคะ”
ดวงตาพราวระยับเหมือนกลั้นหัวเราะของเธอ ทำให้ชายหนุ่มต้องลุกพรวดทั้งหน้าตาแดงเรื่ออย่างปิดไม่มิด อชิระถลึงตาให้หญิงสาวก่อนจะย่ำโครมๆออกไปจากห้อง แต่เสียงหัวเราะที่ดังไล่หลังมันทำให้เขาเหมือนจะหน้าร้อนผ่าวมากขึ้นไปอีก..เขาไม่เคยคิดว่าเธอจะกล้าเอาเรื่องของน้องสาวมาพูดกับเขาแบบนี้
“ยายตัวดี ระวังไว้เหอะสักวันจะเจอคนที่แสบกว่าตัวเอง”
ชายหนุ่มพึมพำเสียงห้วน แล้วรีบเดินตรงไปยังรถที่จอด ก่อนจะขับออกไปด้วยความหงุดหงิด ยิ่งคิดว่าตนเองทำอะไรลูกสาวเจ้านายไม่ได้ เขาก็พาลโกรธเก็ตถวาจนอยากจะเลิกอยู่ที่ฟาร์มแห่งนี้สักที
.....................................................

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 ส.ค. 2554, 00:55:24 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ส.ค. 2554, 00:55:24 น.
จำนวนการเข้าชม : 3275
ตอนที่ 2 >> |


somo 7 ส.ค. 2554, 09:27:46 น.
รอติดตามค่า เป็นเรื่องแนวใหม่ดี อิอิ อยากมีความรู้เรื่องม้าแข่ง ฟาร์มม้า
รอติดตามค่า เป็นเรื่องแนวใหม่ดี อิอิ อยากมีความรู้เรื่องม้าแข่ง ฟาร์มม้า
