เจ้าหัวใจแดนเถื่อน
เพราะเงื่อนไขของบุพการี ‘ทรรศิกา’ จำต้องไปใช้ชีวิตที่บ้านนอกคอกนา เป็นเวลาหนึ่งเดือน และที่นั่นเองเธอก็ได้พบกับ ‘เขา’ หนุ่มหล่อคมเข้ม ที่มีทั้งความเถื่อนและอ่อนโยนจนเริ่มทำให้หัวใจของเธอหวั่นไหว
เพราะคิดว่าเป็นคุณหนูจากเมืองกรุงประเภทเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ทำให้ ‘อคิราภ์’ รู้สึกไม่ชอบ ‘ทรรศิกา’ ตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า
แต่ตัวจริงที่สวยราวกับนางฟ้าเดินดิน ทำเอาหัวใจเขาถึงกับหวั่นไหว นานวันยิ่งใกล้ชิดเขาก็ไม่อยากให้เธอจากไป อยากให้มาเป็น เจ้าหัวใจในแดนเถื่อน แห่งนี้ แต่ทว่าเขาจะทำอย่างไร เมื่อสาวเจ้ากลับมีเจ้าของจับจองหัวใจอยู่แล้ว
“วันหลังเวลาขอของจากผู้ใหญ่หัดพูดให้มันเพราะๆ หน่อยสิ...เอ้า เอาไปไม่เห็นน่าพิศวาสตรงไหนไซส์อนุบาลซะขนาดนั้น”
หลังจากแกล้งจนพอใจ มือหนาจึงวางเสื้อชั้นในตัวน้อยพาดลงบนบ่าของหญิงสาว ที่ยืนหน้าตูมหายใจฟืดฟาด ก่อนจะพาร่างสูงของตัวเองเดินหายเข้าห้องน้ำไปอย่างไม่สนใจคนที่ยืนตัวสั่น เพราะโกรธและอายที่โดนดูถูก
“อะ...ไอ้บ้า! ไซส์อนุบาลบ้านคุณนะสิคัพบี จำไว้เลยนะ...โธ่เอ๊ย! ตัวเองเหมือนกับหนอนใบชาล่ะสิถึงได้มาว่าคนอื่นทุเรศ”
มือหนาที่กำลังจะดึงผ้าเช็ดตัวออกจากเอว เปลี่ยนมายืนถอนหายใจหนักๆ เอากับเขาสิยัยคุณหนูผู้ไม่รู้จักแพ้ เดี๋ยวได้รู้สึก ชายหนุ่มคิดอย่าหมั่นเขี้ยว
“ดูถูกใช่ไหม หนอนใบชาใช่ไหม...ได้...อย่างนี้มันต้องพิสูจน์ให้เห็นกับตา”
เพราะคิดว่าเป็นคุณหนูจากเมืองกรุงประเภทเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ทำให้ ‘อคิราภ์’ รู้สึกไม่ชอบ ‘ทรรศิกา’ ตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า
แต่ตัวจริงที่สวยราวกับนางฟ้าเดินดิน ทำเอาหัวใจเขาถึงกับหวั่นไหว นานวันยิ่งใกล้ชิดเขาก็ไม่อยากให้เธอจากไป อยากให้มาเป็น เจ้าหัวใจในแดนเถื่อน แห่งนี้ แต่ทว่าเขาจะทำอย่างไร เมื่อสาวเจ้ากลับมีเจ้าของจับจองหัวใจอยู่แล้ว
“วันหลังเวลาขอของจากผู้ใหญ่หัดพูดให้มันเพราะๆ หน่อยสิ...เอ้า เอาไปไม่เห็นน่าพิศวาสตรงไหนไซส์อนุบาลซะขนาดนั้น”
หลังจากแกล้งจนพอใจ มือหนาจึงวางเสื้อชั้นในตัวน้อยพาดลงบนบ่าของหญิงสาว ที่ยืนหน้าตูมหายใจฟืดฟาด ก่อนจะพาร่างสูงของตัวเองเดินหายเข้าห้องน้ำไปอย่างไม่สนใจคนที่ยืนตัวสั่น เพราะโกรธและอายที่โดนดูถูก
“อะ...ไอ้บ้า! ไซส์อนุบาลบ้านคุณนะสิคัพบี จำไว้เลยนะ...โธ่เอ๊ย! ตัวเองเหมือนกับหนอนใบชาล่ะสิถึงได้มาว่าคนอื่นทุเรศ”
มือหนาที่กำลังจะดึงผ้าเช็ดตัวออกจากเอว เปลี่ยนมายืนถอนหายใจหนักๆ เอากับเขาสิยัยคุณหนูผู้ไม่รู้จักแพ้ เดี๋ยวได้รู้สึก ชายหนุ่มคิดอย่าหมั่นเขี้ยว
“ดูถูกใช่ไหม หนอนใบชาใช่ไหม...ได้...อย่างนี้มันต้องพิสูจน์ให้เห็นกับตา”
Tags: นิยายรัก,โรแมนติก,เกศมณี,รดามณี,ไหมขวัญ,ทำมือ,บ้านนอก
ตอน: ตอนที่ 4 >>> 50%
ตอนที่ 4
ท่ามกลางแสงสีในยามค่ำคืนเหล่าผีเสื้อราตรี ทั้งหลายต่างโบยบินออกมาหาความสุขสำราญ หลังจากที่ต้องเหน็ดเหนื่อยกับการทำงานมาตลอดทังวัน ไม่เว้นแม้แต่เจ้าพ่อนักท่องราตรีอย่างเดชาธรที่หายหน้าหายตาไปหลายวัน คืนนี้เขามาพร้อมความโสดสนิทที่จะมีตลอดนับจากนี้ไปเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม เนื่องจากแฟนสาวของเขาต้องไปทำงานให้บิดาที่ต่างจังหวัด
“พี่ธรคะ ทางนี้ค่ะ” หญิงสาวรูปร่างขาวสวยหมวยอึ๋มในชุดเกาะอกสีดำรัดรูปแนบเข้ากับลำตัวจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกันโบกไม้โบกมือพร้อมกับตะโกนเรียกชายหนุ่มแข่งกับเสียงเพลงที่ดงกระหึมทันทีที่ร่างสูงปรากฏตัว
คนถูกเรียกยกยิ้มนัยน์ตาพราวไหวระริกอย่างชอบใจ เมื่อหันไปเจอสาวสวยรูปร่างอวบอั๋นในชุดเซ็กซี่น่าฟัดของคู่ขาคนล่าสุด ที่เขาควงลับๆ มานานหลายปี และนานที่สุดถ้าเทียบกับคนอื่นๆ เดชาธรยืนมองหญิงสาวอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ ยังไงซะคืนนี้เธอคนนี้ต้องมีทีเด็ดมาเซอร์ไพรส์เขาแน่ แค่คิดก็แทบทนรอไม่ไหว ขายาวๆ จึงรีบสาวเท้าตรงเข้าไปหาหญิงสาวทันที
“คิดถึง...” เดชาธรเอ่ยเสียงหวาน ขณะทิ้งตัวลงนั่งพร้อมกับดึงใบหน้าหญิงสาวเข้ามาบดจูบอย่างร้อนแรง ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่น้อยหน้าเผยอปากรับและจูบตอบเขาอย่างเร่าร้อนไม่ต่างกัน ผ่านไปชั่วอึดใจ ก่อนทั้งสองจะยอมถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง นึกเสียดายว่าที่นี่ไม่ใช่ห้อง
“บอกว่าคิดถึงแต่ไม่ค่อยมาหาเลยนะคะ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นคล้ายกำลังน้อยใจ แต่นัยน์ตาที่สงมากลับหวานเชื่อม
“พอดีพี่ติดงานใหญ่ปลีกตัวมาไม่ได้เลย คืนนี้พี่จะชดเชยให้ก็แล้วกันนะดีไหม” ไม่พูดเปล่ามือหนาของเดชาธรยังลูบคลึงสำรวจไปทั่วร่างอวบ
“พูดจริงหรือเปล่าคะ” หญิงสาวเอื้อนเอ่ยเสียงหวานพร้อมกับเบียดกระแซะเข้าหาให้ชายหนุ่มได้จับอย่างถนัดมือ
“จริงสิ พี่เคยโกหกเราเสียที่ไหนละ...ว่าแล้วพี่ก็อยากจะชดเชยขึ้นมาเสียแล้วสิ”
“บ้า...พูดอะไรก็ไม่รู้ นั่งก้นยังไม่ทันร้อนเลย” หญิงสาวพูดพลางทุบอกกว้างอย่างเหนียมอาย
“ก้นไม่ร้อน แต่อย่างอื่นมันร้อนนี่ครับ” ชายหนุ่มกระซิบเสียงพร่า เป่าลมเข้าที่หูของเธอแผ่วเบา การกระทำนั้นทำให้หญิงสาวถึงกับขนลุกซู่ บริเวณนั้นถือเป็นจุดอ่อนของเธอที่ชายหนุ่มรู้จักเป็นอย่างดี
“งะ...งั้นเราก็กลับกันเถอะค่ะ ชักอยากรู้แล้วสิว่าพี่ธรจะชดเชยยังไง” เสียงหวานสั่นพร่าเอ่ยติดขัดเล็กน้อย ตอนนี้อารมณ์ ของเธอก็เริ่มร้อนไม่ต่างกัน
เสียงปิดประตูห้องดังปัง! ร่างทั้งสองก็โผเข้าหากันราวกับแม่เหล็กต่างขั้ว เดชาธรบดจูบหญิงสาวอย่างดูดดื่มและร้อนแรงพร้อมกันนั้นก็จัดการดึงทึ้งเสื้อผ้าออกจากร่างขาวอวบไม่สนใจว่าเสื้อผ้าราคาแพงนั้นจะมีสภาพเป็นเช่นไร ซึ่งไม่ต่างกับหญิงสาวที่กำลังจัดการกับเสื้อผ้าของชายหนุ่มอย่างรู้งานอยู่เช่นกัน เพียงไม่นานร่างของเขาและเธอก็อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า แล้วบทรักที่มีฝ่ายหญิงควบคุมเกมก็เริ่มขึ้น เดชาธรถึงกับครางออกมาอย่างพอใจ เมื่อหญิงสาวเล้าโลมและบรรเลงเพลงพิศวาสปนเปรอให้เขาอย่างช่ำชอง ซึ่งสิ่งนี้ เองทำให้ชายหนุ่มติดใจเสน่ห์สาวแรงสูงนางนี้อย่างขาดไม่ได้
ขณะไฟพิศวาสของทังคู่กำลังลุกโชนได้ที่เสียงโทรศัพท์ของเดชาธรก็แผดเสียง ตอนแรกชายหนุ่มว่าจะไม่รับ คิดว่าสักพักคนโทรคงจะยอมตัดใจวางสายไปเอง แต่จนแล้วจนรอดเสียงนั้นยังคงดังสร้างความรำคาญใจให้ทั้งเขาและคู่ขาอยู่ไม่ยอมหยุด เดชาธรจึงตัดสินใจยุติกิจกรรมพิศวาสชั่วครู่ แล้วเดินไปหยิบกางเกงที่ถูกถอดกองทิ้งไว้ข้าง
เตียงขึ้นมาล้วงเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดรับด้วยสีหน้าบึ้งตึง
“ฮัลโหล” เสียงห้วนกรอกออกไปตามสายอย่างอารมณ์เสีย
“พี่ธรทำไมรับสายศิช้าจังเลยล่ะคะ” เสียงใสของทรรศิกาทำให้เดชาธรถึงกับตกใจรีบปรับน้ำเสียงห้วนให้เป็นน้ำเสียงหวานหยดทันที
“อ๋อ...พอดีพี่อาบน้ำอยู่ครับ น้องศิมีอะไรหรือเปล่านี่พี่รีบวิ่งออกมารับโทรศัพท์ ทั้งที่ยังสระผมค้างไว้อยู่เลยนะเนี่ย”
“อุ๊ย! อย่างนั้นหรือคะ ศิไม่รู้ศิต้องขอโทษด้วยนะคะ ศิแค่จะโทรมาบอกพี่ธรว่าศิเดินทางมาถึงบ้านเพื่อนคุณพ่อแล้ว” หญิงสาวบอกอย่างรู้สึกผิด ซึ่งต่างกับแฟนหนุ่มที่ตอนนี้อารมณ์เสียและค้างสุดๆ ใจแทบไม่อยากจะคุยต่ออยากตัดสายเพื่อยุติการสนทนากับเธอเดี๋ยวนี้ แต่เขาก็ฉลาดพอที่จะไม่ทำอย่างที่คิด
“ครับ ได้ยินอย่างนี้แล้วพี่ก็สบายใจ นี่คิดว่าถ้าน้องศิไม่โทรมาพี่กะว่าถ้าอาบน้ำ เสร็จจะโทรไปหาอยู่พอดีเลย ไม่อย่างนั้นพี่คงนอนไม่หลับเพราะเป็นห่วงน้องศิแน่ๆ” ชายหนุ่มเอ่ยคำหวานด้วยน้ำเสียงที่เริ่มสั่นพร่าเพราะสาวเจ้าทีนอนรออยู่บนเตียงเริ่มจะอดใจรอไม่ไหวต้องลุกขึ้นมาเล้าโลมคลอเคลียกระตุ้นชายหนุ่มให้วางสายเร็วขึ้น
“แหม...ดีใจจังที่พี่ธรเป็นห่วง เอาเป็นว่าศิไม่กวนพี่ธรแล้วกันนะคะให้พี่ธรไปอาบน้ำต่อแล้วเข้านอนนะคะ”
“ครับฝันดีนะ เดี๋ยวคืนนี้พี่จะไปหาในฝัน”
“แล้วศิจะรอค่ะ พี่ธรก็นอนหลับฝันดีนะคะ”
แค่ทรรศิกาวางสาย เดชาธรก็ปิดเครื่องตัดปัญหาการถูกรบกวน แล้ววางมันทิ้งไว้ ปลายเตียงอย่างไม่สนใจ เพราะสิ่งที่รออยู่ตรงหน้ามีอะไรๆ น่าสนใจและดึงดูดมากกว่ า
เยอะ
เช้ามืดของทุกวันภายในห้องครัวที่ถูกสร้างขึ้นใต้ถุนบ้านเพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้สอยจะมีเสียงของการทำกับข้าวและพูดคุยกันของแม่ครัวดังสลับกันขึ้นเป็นระยะๆ ในวันนี้ก็ไม่ต่างกันเสียงเหล่านั้นยังคงดังเป็นกิจวัตร แต่ที่ต่างไปก็คือห้องนอนที่เคยว่างมานานบัดนี้มันได้มีเจ้าของแล้วตั้งแต่เมื่อคืน และที่สำคัญห้องๆ นี้มันอยู่ตรงกับห้องครัวพอดีเปะ เป็นเหตุให้หญิงสาวที่กำลังอยู่ในห้วงนิทรารมย์ถึงกับสะดุ้งตื่นอย่างตกใจ
ร่างสมส่วนพลิกตัวนอนหงายพร้อมกับขมวดคิ้วแล้วกลอกตามองเพดานไปมา
ระหว่างนั้นสมองน้อยๆ ของเธอก็กำลังประมวลผลว่าตอนนี้เธอกำลังนอนอยู่ที่ไหน และเสียงคล้ายกำลังตำอะไรบางอย่างดังโป๊ก! โป๊ก! อยู่ข้างหูราวกับว่ามันกำลังเกิดขึ้นอยู่ในห้องนอนของตัวเอง มันคือเสียงอะไร และตอนนี้สิ่งที่พอจะนึกได้ก็คือเธอได้มาอาศัยอยู่ที่บ้านของเพื่อนของบิดาที่ต่างจังหวัด
“เสียงอะไรเนี่ย...นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ทำไมมันถึงได้เสียงดังอย่างนี้” หญิงสาวลุกขึ้นกึ่งนั่งกึ่งนอน แล้วเอี้ยวตัวหยิบนาฬิกาข้อมือที่ถอดออกวางไว้ข้างหมอนขึ้นมาดู เมื่อเห็นว่าเพิ่งจะตีห้าร่างสมส่วนก็ล้มตัวลงนอนพยายามข่มตาให้หลับลงอีกครั้งแต่จนแล้วจนรอดพลิกซ้ายก็แล้วพลิกขวาก็แล้วขนาดใช้หมอนปิดหูเสียงจากด้านล่างก็ยังเล็ดลอดขึ้นมารบกวนการนอนของเธออยู่เป็นระยะๆ เมื่อทำอะไรไม่ได้ทรรศิกาจึงตัดสินใจลุกขึ้นนั่งพร้อมกับถอนหายใจออกมาหนัก ๆ ถ้าอยากจะหลับตอนนี้คงต้องพึ่งยานอนหลับสถานเดียวละมั้ง หญิงสาวคิดพลางเกาศีรษะที่ยุ่งอยู่แล้วให้ยุ่งเข้าไปอีก
“เฮ้อ...ไหนๆ ก็ตื่นแล้วลุกเลยก็แล้วกัน ก็ดีนานๆ จะได้ตื่นแต่เช้ากับเขาเสียที”หญิงสาวพูดพลางจัดเก็บที่นอนให้เข้าที่ก่อนจะลงไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันเรียกความสดชื่น หลังจากนั้นก็ขึ้นมาแต่งองค์ทรงเครื่อง ซึ่งก่อนจะเดินทางมาที่นี่เมื่อรู้ว่าจะต้องมาใช้ชีวิตอยู่ท้องไร่ท้องนาเธอจึงเตรียมมาเฉพาะเสื้อผ้าที่ดูเรียบๆ สบายๆ อย่างพวกเสื้อยืดกางเกงยีนและกางเกงขาสั้นธรรมดาๆ มาเต็มกระเป๋า
ใช้เวลาไม่นานร่างสมส่วนก็อยู่ในชุดเสื้อยืดสีชมพูกับกางเกงยีนขาสั้นเสมอเข่า ทรรศิกาสำรวจความเรียบร้อยหน้ากระจกอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องหรือหลงลืมจึงออกจากห้องแล้วเดินลงมาข้างล่างตรงไปที่ห้องครัว ต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องตื่นก่อนเวลาอันควรทันที
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
เสียงทักที่ดังมาจากประตูพร้อมกับการปรากฏตัวของสาวสวยแปลกหน้า ทำให้ทุกคนในห้องครัวหันไปมองทรรศิกาแล้วขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัยว่าเธอคนนี้เป็นใคร เว้นแต่นางรดาที่เป็นเจ้าบ้านเมื่อหันมาเจอหญิงสาวนางก็คลี่ยิ้มแล้วเอ่ยทักเป็นคนแรก
“อ้าว หนูศิตื่นแล้วหรือจ๊ะ ตื่นมาทำไมแต่เช้าเชียว”
หญิงสาวส่งยิ้มหวานแทนคำตอบขณะเดินเข้ามาข้างในจะให้เธอบอกได้ยังไงว่าตื่นเพราะเสียงจากห้องครัวนี่แหละ
“ต๊าย! นี่เหรอแม่รดาคนที่แม่รดาบอกว่าจะมาพักที่นี่ หน้าตาสวยจังเลยดูผิวสิขาวผ่องเป็นยองใยสมกับเป็นคุณหนูมาจากกรุงเทพจริงๆ ชื่ออะไรจ๊ะแม่คุณ”
“ชื่อศิค่ะ เป็นลูกสาวของเพื่อนน้ารดากับน้าภพค่ะ จะมาพักอยู่ที่นี่เดือนหนึ่ง...ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะจ๊ะ” หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้พร้อมกับพูดฝากฝังตัวเองเสร็จสรรพอย่างไม่ถือตัว สร้างความประทับใจและเอ็นดูให้กับนางลำไยไม่น้อย
“ยินดีเลยจ้ะ อยากรู้อะไรถามได้ไม่ต้องเกรงใจนะคนกันเองทังนั้น เอ้อ...นี่ลูกสาวป้าชื่อลูกปัด ไหว้พี่เขาซะสิลูกปัด”
หญิงสาวอีกคนที่กำลังนั่งหั่นเนื้อหมูอยู่เงยหน้าขึ้นมองทรรศิกานิดหนึ่ง ก่อนหญิง สาวจะยกมือไหว้แบบขอไปทีตามคำสั่งของมารดา
ซึ่งทรรศิกาก็รับไหว้ด้วยรอยยิ้ม ไม่สนใจแววตาและสีหน้าดูไม่เป็นมิตรของอีกฝ่ายที่ฉายออกมาอย่างเปิดเผย เพราะตอนนี้เธอสนใจกับสิ่งที่ทุกคนกำลังทำมากกว่า
“อืม...ทุกคนมีอะไรให้ศิช่วยไหมคะ” หญิงสาวถามพร้อมกับชะเง้อคอมองคนนั้นทีคนนี้ทีอย่างสนใจ
“อย่าลำบากเลยหนูศินั่งดูเฉยๆ ก็พอแล้วละ”
“แต่ศิอยากช่วยนี่คะ และอีกอย่างน้ารดาก็รับปากศิแล้วว่าจะสอนศิทำกับข้าวห้ามผิดสัญญาด้วย” หญิงสาวทำแก้มป่องพูดทวงสัญญากับนางรดาอย่างไม่เคอะเขิน
เพราะเมื่อวานทั้งสองได้พูดคุยกันอย่างถูกคอราวกับรู้จักกันมานานหลายปี
“งั้นหนูศิช่วยล้างมะเขือแล้วเอามาหันก็แล้วกันนะจ๊ะ น้าจะทำแกงเขียวหวาน หันแล้วแช่น้ำไว้เลยนะเดี๋ยวมะเขือจะช้ำมันจะไม่น่าทาน” นางรดาสั่งก่อนจะหันไปสนใจหม้อแกงที่ตนกำลังปรุงรสอยู่ โดยหลงลืมไปว่าคนที่นางสั่งงานเป็นแม่ครัวมือใหม่ที่ถือว่าใหม่เอามากๆ
“ค่ะ”หญิงสาวยืนจ้องถุงมะเขืออยู่ชั่วครู่ก่อนจะลงมือทำตามความคิด
ของตัวเองว่ามันน่าจะหันไม่ต่างกันการการหันคะน้าหรือว่าผักบุ้งหรอกมั้ง
ด้วยความที่ไม่ชอบใจตั้งแต่ได้ยินผู้เป็นน้าบอกว่าจะมีคุณหนูจากกรุงเทพ ซึ่งเป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทมาพักอยู่ที่นี่สักระยะหนึ่งทำให้ปัถยาคอยเหลือบตามองทรรศิกาอย่างจับผิด ไม่ใช่ว่าเธอมีอคติหรืออิจฉาผู้หญิงหุ่นดีผิวขาวหน้าตาสะสวยกว่า แต่เธอแค่ไม่อยากให้ผู้หญิงคนไหนก็ตามมาอยู่ร่วมชายคากับหนุ่มที่เธอหมายตาไว้อย่างอคิราภ์เท่านั้น ทุกวันนี้ก็ใช่ว่าชายหนุ่มจะสนใจตัวเธอมากมาย ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจมากนัก เพราะผู้หญิงที่เข้าวนเวียนป้วนเปี้ยนในชีวิตอคิราภ์ส่วนมากเข้ามาประเดี๋ยวประด๋าวแล้วก็ผ่านเลยไป แต่กับผู้หญิงคนนี้แค่เห็นหน้าเธอก็รู้สึกหวั่นใจอย่างบอกไม่ถูกมันรู้สึกคล้ายกับว่าการปรากฏตัวของคุณหนูชาวกรุงคนนี้จะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป ขณะที่หั่นหมูไปชำเลืองมองศัตรูหัวใจที่เธอคิดเอาเองไปคิ้วโก่งโค้งของปัถยาก็ขมวดเข้าหากัน แล้วเพ่งมองมะเขือที่ถูกหันเป็นแว่นกลมๆ ลอยอยู่เหนือผิวน้ำในกะละมังใบเล็ก
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ดาวโหลด Ebook ได้ที่
- MEB
- hytexst
- ebook
ขอบคุณทุกการติดตามนะคะ ^_^
ท่ามกลางแสงสีในยามค่ำคืนเหล่าผีเสื้อราตรี ทั้งหลายต่างโบยบินออกมาหาความสุขสำราญ หลังจากที่ต้องเหน็ดเหนื่อยกับการทำงานมาตลอดทังวัน ไม่เว้นแม้แต่เจ้าพ่อนักท่องราตรีอย่างเดชาธรที่หายหน้าหายตาไปหลายวัน คืนนี้เขามาพร้อมความโสดสนิทที่จะมีตลอดนับจากนี้ไปเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม เนื่องจากแฟนสาวของเขาต้องไปทำงานให้บิดาที่ต่างจังหวัด
“พี่ธรคะ ทางนี้ค่ะ” หญิงสาวรูปร่างขาวสวยหมวยอึ๋มในชุดเกาะอกสีดำรัดรูปแนบเข้ากับลำตัวจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกันโบกไม้โบกมือพร้อมกับตะโกนเรียกชายหนุ่มแข่งกับเสียงเพลงที่ดงกระหึมทันทีที่ร่างสูงปรากฏตัว
คนถูกเรียกยกยิ้มนัยน์ตาพราวไหวระริกอย่างชอบใจ เมื่อหันไปเจอสาวสวยรูปร่างอวบอั๋นในชุดเซ็กซี่น่าฟัดของคู่ขาคนล่าสุด ที่เขาควงลับๆ มานานหลายปี และนานที่สุดถ้าเทียบกับคนอื่นๆ เดชาธรยืนมองหญิงสาวอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ ยังไงซะคืนนี้เธอคนนี้ต้องมีทีเด็ดมาเซอร์ไพรส์เขาแน่ แค่คิดก็แทบทนรอไม่ไหว ขายาวๆ จึงรีบสาวเท้าตรงเข้าไปหาหญิงสาวทันที
“คิดถึง...” เดชาธรเอ่ยเสียงหวาน ขณะทิ้งตัวลงนั่งพร้อมกับดึงใบหน้าหญิงสาวเข้ามาบดจูบอย่างร้อนแรง ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่น้อยหน้าเผยอปากรับและจูบตอบเขาอย่างเร่าร้อนไม่ต่างกัน ผ่านไปชั่วอึดใจ ก่อนทั้งสองจะยอมถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง นึกเสียดายว่าที่นี่ไม่ใช่ห้อง
“บอกว่าคิดถึงแต่ไม่ค่อยมาหาเลยนะคะ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นคล้ายกำลังน้อยใจ แต่นัยน์ตาที่สงมากลับหวานเชื่อม
“พอดีพี่ติดงานใหญ่ปลีกตัวมาไม่ได้เลย คืนนี้พี่จะชดเชยให้ก็แล้วกันนะดีไหม” ไม่พูดเปล่ามือหนาของเดชาธรยังลูบคลึงสำรวจไปทั่วร่างอวบ
“พูดจริงหรือเปล่าคะ” หญิงสาวเอื้อนเอ่ยเสียงหวานพร้อมกับเบียดกระแซะเข้าหาให้ชายหนุ่มได้จับอย่างถนัดมือ
“จริงสิ พี่เคยโกหกเราเสียที่ไหนละ...ว่าแล้วพี่ก็อยากจะชดเชยขึ้นมาเสียแล้วสิ”
“บ้า...พูดอะไรก็ไม่รู้ นั่งก้นยังไม่ทันร้อนเลย” หญิงสาวพูดพลางทุบอกกว้างอย่างเหนียมอาย
“ก้นไม่ร้อน แต่อย่างอื่นมันร้อนนี่ครับ” ชายหนุ่มกระซิบเสียงพร่า เป่าลมเข้าที่หูของเธอแผ่วเบา การกระทำนั้นทำให้หญิงสาวถึงกับขนลุกซู่ บริเวณนั้นถือเป็นจุดอ่อนของเธอที่ชายหนุ่มรู้จักเป็นอย่างดี
“งะ...งั้นเราก็กลับกันเถอะค่ะ ชักอยากรู้แล้วสิว่าพี่ธรจะชดเชยยังไง” เสียงหวานสั่นพร่าเอ่ยติดขัดเล็กน้อย ตอนนี้อารมณ์ ของเธอก็เริ่มร้อนไม่ต่างกัน
เสียงปิดประตูห้องดังปัง! ร่างทั้งสองก็โผเข้าหากันราวกับแม่เหล็กต่างขั้ว เดชาธรบดจูบหญิงสาวอย่างดูดดื่มและร้อนแรงพร้อมกันนั้นก็จัดการดึงทึ้งเสื้อผ้าออกจากร่างขาวอวบไม่สนใจว่าเสื้อผ้าราคาแพงนั้นจะมีสภาพเป็นเช่นไร ซึ่งไม่ต่างกับหญิงสาวที่กำลังจัดการกับเสื้อผ้าของชายหนุ่มอย่างรู้งานอยู่เช่นกัน เพียงไม่นานร่างของเขาและเธอก็อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า แล้วบทรักที่มีฝ่ายหญิงควบคุมเกมก็เริ่มขึ้น เดชาธรถึงกับครางออกมาอย่างพอใจ เมื่อหญิงสาวเล้าโลมและบรรเลงเพลงพิศวาสปนเปรอให้เขาอย่างช่ำชอง ซึ่งสิ่งนี้ เองทำให้ชายหนุ่มติดใจเสน่ห์สาวแรงสูงนางนี้อย่างขาดไม่ได้
ขณะไฟพิศวาสของทังคู่กำลังลุกโชนได้ที่เสียงโทรศัพท์ของเดชาธรก็แผดเสียง ตอนแรกชายหนุ่มว่าจะไม่รับ คิดว่าสักพักคนโทรคงจะยอมตัดใจวางสายไปเอง แต่จนแล้วจนรอดเสียงนั้นยังคงดังสร้างความรำคาญใจให้ทั้งเขาและคู่ขาอยู่ไม่ยอมหยุด เดชาธรจึงตัดสินใจยุติกิจกรรมพิศวาสชั่วครู่ แล้วเดินไปหยิบกางเกงที่ถูกถอดกองทิ้งไว้ข้าง
เตียงขึ้นมาล้วงเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดรับด้วยสีหน้าบึ้งตึง
“ฮัลโหล” เสียงห้วนกรอกออกไปตามสายอย่างอารมณ์เสีย
“พี่ธรทำไมรับสายศิช้าจังเลยล่ะคะ” เสียงใสของทรรศิกาทำให้เดชาธรถึงกับตกใจรีบปรับน้ำเสียงห้วนให้เป็นน้ำเสียงหวานหยดทันที
“อ๋อ...พอดีพี่อาบน้ำอยู่ครับ น้องศิมีอะไรหรือเปล่านี่พี่รีบวิ่งออกมารับโทรศัพท์ ทั้งที่ยังสระผมค้างไว้อยู่เลยนะเนี่ย”
“อุ๊ย! อย่างนั้นหรือคะ ศิไม่รู้ศิต้องขอโทษด้วยนะคะ ศิแค่จะโทรมาบอกพี่ธรว่าศิเดินทางมาถึงบ้านเพื่อนคุณพ่อแล้ว” หญิงสาวบอกอย่างรู้สึกผิด ซึ่งต่างกับแฟนหนุ่มที่ตอนนี้อารมณ์เสียและค้างสุดๆ ใจแทบไม่อยากจะคุยต่ออยากตัดสายเพื่อยุติการสนทนากับเธอเดี๋ยวนี้ แต่เขาก็ฉลาดพอที่จะไม่ทำอย่างที่คิด
“ครับ ได้ยินอย่างนี้แล้วพี่ก็สบายใจ นี่คิดว่าถ้าน้องศิไม่โทรมาพี่กะว่าถ้าอาบน้ำ เสร็จจะโทรไปหาอยู่พอดีเลย ไม่อย่างนั้นพี่คงนอนไม่หลับเพราะเป็นห่วงน้องศิแน่ๆ” ชายหนุ่มเอ่ยคำหวานด้วยน้ำเสียงที่เริ่มสั่นพร่าเพราะสาวเจ้าทีนอนรออยู่บนเตียงเริ่มจะอดใจรอไม่ไหวต้องลุกขึ้นมาเล้าโลมคลอเคลียกระตุ้นชายหนุ่มให้วางสายเร็วขึ้น
“แหม...ดีใจจังที่พี่ธรเป็นห่วง เอาเป็นว่าศิไม่กวนพี่ธรแล้วกันนะคะให้พี่ธรไปอาบน้ำต่อแล้วเข้านอนนะคะ”
“ครับฝันดีนะ เดี๋ยวคืนนี้พี่จะไปหาในฝัน”
“แล้วศิจะรอค่ะ พี่ธรก็นอนหลับฝันดีนะคะ”
แค่ทรรศิกาวางสาย เดชาธรก็ปิดเครื่องตัดปัญหาการถูกรบกวน แล้ววางมันทิ้งไว้ ปลายเตียงอย่างไม่สนใจ เพราะสิ่งที่รออยู่ตรงหน้ามีอะไรๆ น่าสนใจและดึงดูดมากกว่ า
เยอะ
เช้ามืดของทุกวันภายในห้องครัวที่ถูกสร้างขึ้นใต้ถุนบ้านเพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้สอยจะมีเสียงของการทำกับข้าวและพูดคุยกันของแม่ครัวดังสลับกันขึ้นเป็นระยะๆ ในวันนี้ก็ไม่ต่างกันเสียงเหล่านั้นยังคงดังเป็นกิจวัตร แต่ที่ต่างไปก็คือห้องนอนที่เคยว่างมานานบัดนี้มันได้มีเจ้าของแล้วตั้งแต่เมื่อคืน และที่สำคัญห้องๆ นี้มันอยู่ตรงกับห้องครัวพอดีเปะ เป็นเหตุให้หญิงสาวที่กำลังอยู่ในห้วงนิทรารมย์ถึงกับสะดุ้งตื่นอย่างตกใจ
ร่างสมส่วนพลิกตัวนอนหงายพร้อมกับขมวดคิ้วแล้วกลอกตามองเพดานไปมา
ระหว่างนั้นสมองน้อยๆ ของเธอก็กำลังประมวลผลว่าตอนนี้เธอกำลังนอนอยู่ที่ไหน และเสียงคล้ายกำลังตำอะไรบางอย่างดังโป๊ก! โป๊ก! อยู่ข้างหูราวกับว่ามันกำลังเกิดขึ้นอยู่ในห้องนอนของตัวเอง มันคือเสียงอะไร และตอนนี้สิ่งที่พอจะนึกได้ก็คือเธอได้มาอาศัยอยู่ที่บ้านของเพื่อนของบิดาที่ต่างจังหวัด
“เสียงอะไรเนี่ย...นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ทำไมมันถึงได้เสียงดังอย่างนี้” หญิงสาวลุกขึ้นกึ่งนั่งกึ่งนอน แล้วเอี้ยวตัวหยิบนาฬิกาข้อมือที่ถอดออกวางไว้ข้างหมอนขึ้นมาดู เมื่อเห็นว่าเพิ่งจะตีห้าร่างสมส่วนก็ล้มตัวลงนอนพยายามข่มตาให้หลับลงอีกครั้งแต่จนแล้วจนรอดพลิกซ้ายก็แล้วพลิกขวาก็แล้วขนาดใช้หมอนปิดหูเสียงจากด้านล่างก็ยังเล็ดลอดขึ้นมารบกวนการนอนของเธออยู่เป็นระยะๆ เมื่อทำอะไรไม่ได้ทรรศิกาจึงตัดสินใจลุกขึ้นนั่งพร้อมกับถอนหายใจออกมาหนัก ๆ ถ้าอยากจะหลับตอนนี้คงต้องพึ่งยานอนหลับสถานเดียวละมั้ง หญิงสาวคิดพลางเกาศีรษะที่ยุ่งอยู่แล้วให้ยุ่งเข้าไปอีก
“เฮ้อ...ไหนๆ ก็ตื่นแล้วลุกเลยก็แล้วกัน ก็ดีนานๆ จะได้ตื่นแต่เช้ากับเขาเสียที”หญิงสาวพูดพลางจัดเก็บที่นอนให้เข้าที่ก่อนจะลงไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันเรียกความสดชื่น หลังจากนั้นก็ขึ้นมาแต่งองค์ทรงเครื่อง ซึ่งก่อนจะเดินทางมาที่นี่เมื่อรู้ว่าจะต้องมาใช้ชีวิตอยู่ท้องไร่ท้องนาเธอจึงเตรียมมาเฉพาะเสื้อผ้าที่ดูเรียบๆ สบายๆ อย่างพวกเสื้อยืดกางเกงยีนและกางเกงขาสั้นธรรมดาๆ มาเต็มกระเป๋า
ใช้เวลาไม่นานร่างสมส่วนก็อยู่ในชุดเสื้อยืดสีชมพูกับกางเกงยีนขาสั้นเสมอเข่า ทรรศิกาสำรวจความเรียบร้อยหน้ากระจกอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องหรือหลงลืมจึงออกจากห้องแล้วเดินลงมาข้างล่างตรงไปที่ห้องครัว ต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องตื่นก่อนเวลาอันควรทันที
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
เสียงทักที่ดังมาจากประตูพร้อมกับการปรากฏตัวของสาวสวยแปลกหน้า ทำให้ทุกคนในห้องครัวหันไปมองทรรศิกาแล้วขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัยว่าเธอคนนี้เป็นใคร เว้นแต่นางรดาที่เป็นเจ้าบ้านเมื่อหันมาเจอหญิงสาวนางก็คลี่ยิ้มแล้วเอ่ยทักเป็นคนแรก
“อ้าว หนูศิตื่นแล้วหรือจ๊ะ ตื่นมาทำไมแต่เช้าเชียว”
หญิงสาวส่งยิ้มหวานแทนคำตอบขณะเดินเข้ามาข้างในจะให้เธอบอกได้ยังไงว่าตื่นเพราะเสียงจากห้องครัวนี่แหละ
“ต๊าย! นี่เหรอแม่รดาคนที่แม่รดาบอกว่าจะมาพักที่นี่ หน้าตาสวยจังเลยดูผิวสิขาวผ่องเป็นยองใยสมกับเป็นคุณหนูมาจากกรุงเทพจริงๆ ชื่ออะไรจ๊ะแม่คุณ”
“ชื่อศิค่ะ เป็นลูกสาวของเพื่อนน้ารดากับน้าภพค่ะ จะมาพักอยู่ที่นี่เดือนหนึ่ง...ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะจ๊ะ” หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้พร้อมกับพูดฝากฝังตัวเองเสร็จสรรพอย่างไม่ถือตัว สร้างความประทับใจและเอ็นดูให้กับนางลำไยไม่น้อย
“ยินดีเลยจ้ะ อยากรู้อะไรถามได้ไม่ต้องเกรงใจนะคนกันเองทังนั้น เอ้อ...นี่ลูกสาวป้าชื่อลูกปัด ไหว้พี่เขาซะสิลูกปัด”
หญิงสาวอีกคนที่กำลังนั่งหั่นเนื้อหมูอยู่เงยหน้าขึ้นมองทรรศิกานิดหนึ่ง ก่อนหญิง สาวจะยกมือไหว้แบบขอไปทีตามคำสั่งของมารดา
ซึ่งทรรศิกาก็รับไหว้ด้วยรอยยิ้ม ไม่สนใจแววตาและสีหน้าดูไม่เป็นมิตรของอีกฝ่ายที่ฉายออกมาอย่างเปิดเผย เพราะตอนนี้เธอสนใจกับสิ่งที่ทุกคนกำลังทำมากกว่า
“อืม...ทุกคนมีอะไรให้ศิช่วยไหมคะ” หญิงสาวถามพร้อมกับชะเง้อคอมองคนนั้นทีคนนี้ทีอย่างสนใจ
“อย่าลำบากเลยหนูศินั่งดูเฉยๆ ก็พอแล้วละ”
“แต่ศิอยากช่วยนี่คะ และอีกอย่างน้ารดาก็รับปากศิแล้วว่าจะสอนศิทำกับข้าวห้ามผิดสัญญาด้วย” หญิงสาวทำแก้มป่องพูดทวงสัญญากับนางรดาอย่างไม่เคอะเขิน
เพราะเมื่อวานทั้งสองได้พูดคุยกันอย่างถูกคอราวกับรู้จักกันมานานหลายปี
“งั้นหนูศิช่วยล้างมะเขือแล้วเอามาหันก็แล้วกันนะจ๊ะ น้าจะทำแกงเขียวหวาน หันแล้วแช่น้ำไว้เลยนะเดี๋ยวมะเขือจะช้ำมันจะไม่น่าทาน” นางรดาสั่งก่อนจะหันไปสนใจหม้อแกงที่ตนกำลังปรุงรสอยู่ โดยหลงลืมไปว่าคนที่นางสั่งงานเป็นแม่ครัวมือใหม่ที่ถือว่าใหม่เอามากๆ
“ค่ะ”หญิงสาวยืนจ้องถุงมะเขืออยู่ชั่วครู่ก่อนจะลงมือทำตามความคิด
ของตัวเองว่ามันน่าจะหันไม่ต่างกันการการหันคะน้าหรือว่าผักบุ้งหรอกมั้ง
ด้วยความที่ไม่ชอบใจตั้งแต่ได้ยินผู้เป็นน้าบอกว่าจะมีคุณหนูจากกรุงเทพ ซึ่งเป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทมาพักอยู่ที่นี่สักระยะหนึ่งทำให้ปัถยาคอยเหลือบตามองทรรศิกาอย่างจับผิด ไม่ใช่ว่าเธอมีอคติหรืออิจฉาผู้หญิงหุ่นดีผิวขาวหน้าตาสะสวยกว่า แต่เธอแค่ไม่อยากให้ผู้หญิงคนไหนก็ตามมาอยู่ร่วมชายคากับหนุ่มที่เธอหมายตาไว้อย่างอคิราภ์เท่านั้น ทุกวันนี้ก็ใช่ว่าชายหนุ่มจะสนใจตัวเธอมากมาย ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจมากนัก เพราะผู้หญิงที่เข้าวนเวียนป้วนเปี้ยนในชีวิตอคิราภ์ส่วนมากเข้ามาประเดี๋ยวประด๋าวแล้วก็ผ่านเลยไป แต่กับผู้หญิงคนนี้แค่เห็นหน้าเธอก็รู้สึกหวั่นใจอย่างบอกไม่ถูกมันรู้สึกคล้ายกับว่าการปรากฏตัวของคุณหนูชาวกรุงคนนี้จะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป ขณะที่หั่นหมูไปชำเลืองมองศัตรูหัวใจที่เธอคิดเอาเองไปคิ้วโก่งโค้งของปัถยาก็ขมวดเข้าหากัน แล้วเพ่งมองมะเขือที่ถูกหันเป็นแว่นกลมๆ ลอยอยู่เหนือผิวน้ำในกะละมังใบเล็ก
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ดาวโหลด Ebook ได้ที่
- MEB
- hytexst
- ebook
ขอบคุณทุกการติดตามนะคะ ^_^
เกศมณี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ต.ค. 2559, 12:02:42 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ต.ค. 2559, 12:02:42 น.
จำนวนการเข้าชม : 962
<< ตอนที่ 3 >>> 100% | ตอนที่ 4 >>> 100% >> |