อัมฮารา...สุดปลายทางที่ความรัก (สนพ.ที่รัก)
เพราะคู่หมั้นหายตัวลึกลับในระหว่างปฏิบัติหน้าที่องค์การแพทย์ไร้พรมแดน ธารวารีจึงต้องออกตามหา โดยไม่รู้ว่านายพีคนจรที่คอยตามติด คือน้องชายของคู่หมั้นที่จากกันไปนานกว่าสิบปี สองหนุ่มสาวกับการเดินทางในดินแดนอารยธรรมเก่าแก่แห่งหนึ่งของโลก...อัมฮารา
Tags: ตามรักสุดแดนตะวัน อัมฮารา รักดราม่า ผจญภัย

ตอน: บทที่ 1/1 ตามหัวใจไปหาเธอ


บทที่ 1/1


“ที่ตะวันลาลับสายน้ำ... จุดเริ่มต้นแห่งธารน้ำสีเงิน... บลูไนล์
หลอมรวมก่อเกิดเป็นแม่น้ำไนล์ อันแสนกว้างใหญ่ไพศาลแห่งทวีปแอฟริกา
ดินแดนแห่งใบหน้าที่ถูกแสงแดดแผดเผา มากมายมรดกโลกเก้าแห่ง
ถิ่นกำเนิดทองคำสีดำ รสชาติอร่อยไม่เป็นสองรองใคร
ประเทศแห่งแสงอาทิตย์สาดส่องชั่วฤดูกาล นานสิบสามเดือน”
“สถานที่แห่งนั้นคือ อัมฮารา”


“อัมฮารา... ชื่อแปลกแต่โปรไฟล์เลิศมาก คนเขียนหนังสือเล่มนี้จะเขียนเกินจริงไปรึเปล่า ฉันอยากไปให้เห็นกับตาแล้วสิ”

ธารวารีถึงกับอุทาน หลังจากอ่านคำนิยามแล้วเกิดแรงบันดาลใจขึ้นมา เกือบสามชั่วโมงกับการท่องไปในโลกของตัวหนังสือและภาพถ่ายที่ดูสวยเกินจริงราวกับภาพวาดจากจิตรกรเอกประเมินค่ามิได้ กับหลากเรื่องราวแสนสนุกเร้าใจ ราวกับได้พาตัวเข้าไปผจญในดินแดนแห่งปริศนาซึ่งถูกถ่ายทอดโดยนักเขียนคอลัมน์ท่องเที่ยวคนดัง แปลกใจกับความรู้ใหม่ที่ไม่เคยรู้มาก่อน ทำให้ตื่นเต้นจนแทบวางไม่ลง

“อัมฮารานี่แหละ... คือเป้าหมายต่อไปของฉัน”

หญิงสาวหมายมั่นปั้นมือ สายตาทอดยาวไปยังบ้านหลังใหญ่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำที่มีลูกชายอยู่แดนไกลเป็นอีกแรงบันดาลใจให้ หล่อนปิดหนังสือนำเที่ยวที่อ่านไปแล้วกว่าค่อนเล่มวางเคียงกับแว่นสายตากรอบเล็กที่ถูกถอดออกวางบนโต๊ะไม้สี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ก่อนหน้า

ธารวารีจ้องหน้าปกหนังสือด้วยดวงตาเป็นประกาย ภาพธารน้ำใสทอดยาวตามธรรมชาติ อุดมไปด้วยป่าเขียวขจี พืชพันธ์ไม้หายากของป่าดิบชื้นหนาทึบกลางหุบเขา ตัดลักลั่นกับแม่น้ำบลูไนล์ไหลแรงแผ่เป็นผืนน้ำตกแนวยาว ภาพชาวเผ่าพื้นเมืองตรงหน้าปกดึงดูดใจ ทำให้อดจินตนาการไม่ได้

ร่างเพรียวบางสมส่วน ดวงหน้ากลมหมดจดไร้เครื่องสำอาง ในชุดเสื้อยืดแขนสั้นพอดีตัวกับกางเกงยีนส์ขาสั้นเหนือเข่าลุกบิดขี้เกียจแล้วนวดขมับขับไล่ความอ่อนเพลียจากการเพ่งสายตากับการอ่านยาวนาน

“คอยดูเถอะกลับมาคราวนี้ รับรองว่านิทรรศการภาพถ่ายของฉันจะต้องได้รับการจารึกในประวัติศาสตร์ ฉันจะต้องเป็นช่างภาพระดับโลกให้สมกับที่ใฝ่ฝัน”

ธารวารีนึกถึงคนไกล ถึงแม้ว่าตัวจะอยู่ห่างไกลกันอีกซีกโลกแต่ความผูกพันมิเคยจืดจาง หล่อนและเขาเฝ้ารอคอยที่จะได้ชื่นชมความสำเร็จของกันและกัน

“พี่รุจรอดูความสำเร็จของคู่หมั้นคนเก่งได้เลย” หล่อนพึมพำ “ รีคิดถึงพี่รุจ เมื่อไหร่จะได้เจอกันซะทีนะ”

แล้วความคิดถึงก็ต้องหยุดลง เมื่อร่างกายรับรู้ถึงแรงดึงจากข้างหลังจนเซหงายหลัง กว่าจะตั้งหลักได้เสียงใครบางคนที่คุ้นแสนคุ้นก็แผดดังข้างหู

“ฉันกลับมาแล้ว! ยายรี”

คนสวยเสียงใสยื่นหน้ามาทำท่าล้อเลียน หัวเราะขบขันอย่างอารมณ์ดี เมื่อเห็นเจ้าบ้านทำหน้าบูดรีบคว้าแว่นมาสวมแถมยังส่ายหน้ามึนงง

"ยายนุช มาถึงก็แกล้งกันเลยนะ"

ธารวารีค้อนขวับเพื่อนรักวงใหญ่ คนมาใหม่หยุดหัวเราะเดินอ้อมมานั่งม้านั่งตัวยาวตรงข้ามเจ้าบ้านที่กำลังจัดผมเผ้ายุ่งเหยิง
“อ่านอะไร… ท่าทางมีสมาธิน่าดู”

“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย มาถึงก็ทำผมฉันเสียทรงหมด”

“เสียทรงอะไร้ ผมยุ่งๆ ร้อยวันพันปีไม่เคยจะสนใจหวีนี่นะ กลัวเสียทรง” แอร์โฮสเตสสาวขึ้นเสียงสูงทำท่าแปลกใจ

ธารวารีค้อนขวับก่อนจะมองหน้าเพื่อนแล้วนึกได้ แบมือทวงของหน้าตาเฉย

“แล้วนี่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ไหน ของฝากที่สั่ง ได้มารึเปล่า”

“อะไรกันยะ ไม่เจอกันสองอาทิตย์ไม่ถามสักคำเป็นไงสบายดีไหม”

“ก็ต้องสบายอยู่แล้วสิ ไม่งั้นจะแกล้งฉันได้ยังไง”

“เออ ก็จริงของแก”

ชยานุชคล้อยตามหัวเราะเสียงดัง แล้วฉวยหนังสือปกสีสดที่วางแน่นิ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามขึ้นมาเปิดดู ไม่ยอมตอบเรื่องของฝากปล่อยให้คนรอคำตอบหรี่ตามอง

“อย่ามาลีลา ของฝากน้ำหอมเกรดเอจากปารีส อยู่ไหน”

“โอ๊ย! ลงเครื่องมายังไม่ทันได้พักเลยค่ะ คุณธารวารีขา ของฝากค่อยพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ขี้เกียจรื้อกระเป๋าจะตายอยู่แล้ว เพื่อนเหนื่อยมากเลยตอนนี้”

“ได้ยังไง เหนื่อยก็กลับไปนอนบ้านตัวสิ มาโต๋เต๋บ้านคนอื่นทำไม”

“ก็อยากมา คิดถึงแกไง”

“แน่หรือ ฉันนึกว่าคิดถึงคนอื่นมากกว่า” หล่อนดักคอ

“บ้าสิ แต่วันนี้เขาไม่มาตรวจอาการคุณป้าหรือ”

“ไม่มา... เสียใจด้วย วันนี้เขาติดสอนก็เลยไม่ได้แวะมาจ้ะ”

เจ้าของบ้านตอบแบบคนทันกัน ชยานุชถึงกับผิดหวังจนถอนหายใจเสียงดัง

“เงียบเลย ทีอย่างนี้ละพูดไม่ออก อยากเจอก็บอกมาเถอะ เพื่อนเชียร์นะ”

ธารวารีบอกแล้วหัวเราะขันคนหน้างอ แอร์โฮสเตสสาวไม่ตอบทำหูทวนลม เปิดหนังสือนำเที่ยวกลับไปกลับมาแล้วเฉไฉไปพูดเรื่องอื่น

“จะมาชวนไปกินข้าว อีกสี่วันฉันต้องบินอีกแล้ว คราวนี้ไปสวิสอยากได้อะไรบอก จะซื้อมาฝากหาให้ได้ทุกอย่างยกเว้นดาวกับเดือนและสจ๊วตหล่อ ๆ เพราะฉันจองหมดแล้ว”

“พอเลย... ไม่รบกวนไปทุกรอบถามทุกรอบ เงินก็ไม่เอา ใครจะกล้าฝากบ่อย ๆ”

“เถอะน่า ก็บอกแล้วไงสำหรับเพื่อนแล้วหาให้ได้ทุกอย่าง ยกเว้นสจ๊วตหล่อ ๆ ที่ฉันจอง แต่ถ้าผู้โดยสารหล่อ ๆ ก็ไม่แน่นะอาจมีติดเบ็ดสักคน เอามาแทนพี่รุจของแกเป็นไง”

“ไม่ต้องมาลามปามถึงพี่รุจเลย แล้วผู้โดยสารก็ไม่ใช่สินค้าเดลิเวอรี่นะ พูดเล่นไปได้เกิดใครมาได้ยินจะเสียถึงสายการบิน” ธารวารีเอ็ด

“จะเป็นไรไปยะ พูดตรงนี้เหยียบตรงนี้ ฉันก็แค่พูดเล่นกับแกสองคน”

“ระวังอย่าไปพูดเล่นกับใคร เรื่องแบบนี้ละเอียดอ่อนจะมีผลกับงานได้ แกก็รู้สมัยนี้โลกโซเชียลแรงขนาดไหน”

“จ้ะ ขอบใจที่เป็นห่วง แต่แหม! หมั่นไส้จริง ๆ เลย แม่คนรักแฟน”

“ทำไงได้ ก็มีแฟนคนเดียว ไม่รักแฟนจะให้รักแมวที่ไหน”

“ย่ะ! เบื่อจะแตะต้องพี่รุจแล้ว พูดอะไรไปออกรับแทนหมด แม่คนรักแฟนมากกว่าแมว”

“ก็ฉันไม่เลี้ยงแมว ก็ต้องรักแฟนน่ะ ถูกแล้ว”

ธารวารีแกล้งตอบหน้านิ่ง รู้ทั้งรู้ว่าคนฟังต้องหมั่นไส้ แล้วก็จริงเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะดังหลังจากจบคำพูด ชยานุชเปะปากท่าทางหมั่นไส้จริงจัง แล้วหันไปสนใจหนังสือที่เปิดค้างอยู่

“แล้วอ่านอะไรไม่เห็นจะจรรโลงใจ ทั้งเล่มมีแต่น้ำ ฟ้า ป่า เขา ต้นไม้เขียวรกเรื้อ แล้วยังจะคนป่าหน้าตาแปลก ๆ นี่อีก หรือว่าเพื่อนฉันเปลี่ยนรสนิยม”

“จะว่างั้นก็ได้ นี่เป็นเป้าหมายการเดินทางรอบนี้ของฉัน”

“ที่นี่น่ะนะ!”

แอร์โฮสเตสสาวจิ้มแรง ๆ ที่หน้าปก ภาพชายผิวดำแต้มหน้าทาสีบ่งบอกชาติพันธุ์เผ่าพื้นเมือง ดวงหน้าเข้มแก้มตอบคางบุ๋มเด่นที่รอยยิ้มพิมพ์ใจ ฟันขาวตัดกับสีผิวฉึบฉับ หญิงสาวถึงกับโยนหนังสือออกห่างจากตัว

“เบาหน่อยสิ เล่มนี้ฉันเพิ่งซื้อมายังอ่านไม่จบเลย” ธารวารีเอ็ด

หยิบหนังสือที่ถูกโยนไปเกือบสุดมุมโต๊ะขึ้นมากอดแนบอกแบบหวงแหน ชยานุชถึงกับหน้าเหยเก

“ถามจริง อะไรดลใจ หรือว่าโปรเจกต์ใหม่ ได้ยินว่าเสียงเรียกร้องนิทรรศการภาพถ่ายรอบสองมาแรง อยากเปลี่ยนสไตล์ว่างั้น”

“นั่นก็ส่วนหนึ่ง จริง ๆ แล้วฉันอยากนำเสนออะไรแปลกใหม่ เบื่อแล้วกับพวกแหล่งท่องเที่ยวฮิปสเตอร์ทั้งหลายที่แห่ไปกันจนเกร่อ เซลฟี่จนไม่มีอะไรน่าสนใจ แกเข้าใจไหมขึ้นชื่อว่างานศิลปะไม่เข้าใครออกใคร ฉันอยากนำเสนอมุมมองที่แตกต่าง ยิ่งสถานที่ที่เขาว่ากันว่าปราบเซียนได้ก็ยิ่งดี แล้วจะดีขึ้นไปอีกถ้ายิงปืนทีเดียวได้นกสองตัว ฉันอยากไปหาพี่รุจด้วย”

“ยายรีเอ๊ย! หายใจออกเป็นงาน หายใจเข้าเป็นพี่รุจ แม่ยอดหญิงสุดแสนจะรักเดียวใจเดียว แม่คนแสนดีแฟนหายไปสามปีไม่มีอิดออดสักนิด”

“ใครบอกไม่อิดออด ก็จะไปหาอยู่นี่ไง เขาหายไปนานเกินแล้วรอบนี้ ฉันใจคอไม่ดีเลย”

“รอบสุดท้ายที่ติดต่อมาตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วล่ะ”

“จากจดหมายฉบับสุดท้ายก็เกือบหกเดือนแล้ว แกเข้าใจฉันไหม”

“เข้าใจ อยากไปด้วยแต่ฉันต้องบินอีกแล้วนี่สิ”

ชยานุชตอบแล้วเอนกายลงนอนเล่นที่ม้านั่งยาวอีกฝั่งตรงข้ามกัน ถามถึงภาพหน้าปกที่ยังคาใจ

“ว่าแต่ฉันสงสัยในรูปนี้มันที่ไหน ไม่เคยเห็นเลย”

“อัมฮารา... ที่นี่คืออัมฮารา”



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน
เคยลงเรื่องนี้ไว้สองตอนแต่นานมากแล้ว (ล็อกอินเก่าใช้ไม่ได้แล้วค่ะ)
ตอนนี้เขียนจบแล้ว ขอลงตั้งแต่เริ่มแรกเลย
ขอบคุณมากๆ ค่ะ










lovereason2
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ต.ค. 2559, 21:13:32 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ต.ค. 2559, 21:13:32 น.

จำนวนการเข้าชม : 1403





   บทที่ 1/2 ตามหัวใจไปหาเธอ >>
แว่นใส 27 ต.ค. 2559, 07:43:04 น.
น่าสนใจดีค่ะ


lovereason2 27 ต.ค. 2559, 14:40:30 น.
ขอบคุณมากค่ะคุณแว่นใส ^^


ปริยาธร 28 ต.ค. 2559, 20:51:04 น.
อัมฮารา เพิ่งเคยได้ยิน
น่าสนใจมากค่ะ รอติดตามต่อไปนะจ๊ะ


lovereason2 29 ต.ค. 2559, 10:23:14 น.
เย้ๆ ขอบคุณมากค่ะ พี่นุ้ย ^^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account