อธิษฐานสลับรัก
ณิชารีย์ สาวอวบเกินพิกัด เธอทำงานอยู่ในบริษัทกาแฟลดน้ำหนักที่มีแต่สาวๆ หุ่นดี ผอมเพรียวด้วยกันทั้งนั้น
ขณะที่เธอกับเพื่อนซี้ เป็นจุดด้อยของบริษัท
วันหนึ่งเมื่อเพื่อนรัก ชวนกันไปที่ศาลเจ้าแม่มุ่ยเฮียง
คำอธิษฐานแบบส่งๆ ทำให้เกิดเรื่องวุ่นๆ ขึ้น เธอกลายเป็นสาวสวยหุ่นดี
พรแบบพิลึกๆ จะช่วยทำให้เธอได้พบกับเนื้อคู่ตัวจริงได้หรือไม่ มาลองลุ้นกัน
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ 1 ศาลเจ้าแม่ศักดิ์สิทธิ์

เล่าก่อนอ่านนิดหนึ่งนะคะ ในฐานะที่ไม่ได้ลงนิยายในเว็บเลิฟมานานมากๆ อันที่จริงไม่ได้ลงนิยายในเน็ตมานาน เพราะว่า งานยุ่งค่ะ มีภารกิจมากมาย รัดตัวไปหมดบวกกับหน้าที่คุณแม่ รับส่งลูกด้วยคะ่

ความจริงนิยายเรื่องนี้เขียนมาได้สักพักแล้วค่ะ แต่พักไปช่วงที่ วันที่ 13 ตค 2559 ด้วยความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ ตอนนี้กลับมาเขียนใหม่ แต่ยังเตาะแตะอยู่ค่ะ ตั้งใจว่า จะมาลงนิยายให้นักอ่านได้ลองอ่านกันดูค่ะ ใครจะโพสต์ทักทายหรือคอมเม้นท์อะไร ฝากไว้ได้นะคะ ต้องขออภัยด้วยเพราะ รู้สึกเหมือนย้อนมาเป็นมือใหม่อีกครั้ง หวังว่า คงจะมีความสุขและรอยยิ้มกับนิยายเรื่องนี้บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ



ณิชารีย์เกลียดสีขาว เพราะมันทำให้สาวอวบระยะสุดท้ายอย่างหล่อนดูบานขึ้นอีกเท่าตัว ใครกันที่ออกแบบยูนิฟอร์มของบริษัทกาแฟสลิมเชพให้เป็นผ้ายืดแถมยังแนบกระชับไปกับลำตัว โชคดีที่หญิงสาวไม่จำเป็นต้องสวมเครื่องแบบทุกวัน ยกเว้นในวันประชุมของบริษัทอย่างเช่นวันนี้

หญิงสาวมองเงาสะท้อนในกระจกก่อนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ผ้าสีขาวแนบไปกับทุกสัดส่วนทำให้ณิชารีย์คล้ายกับมีห่วงยางรอบตัวเป็นลอนๆ ยังไม่รวมถึงสะโพกที่เด้งดึ๋งเป็นจังหวะยามก้าวเดิน โชคร้ายที่หน้าท้องของหล่อนไม่ได้แบนราบเหมือนกับพนักงานคนอื่นๆ ทำให้การสวมชุดนี้เปรียบเสมือนการฆ่าตัวตายทางอ้อม

ไม่ใช่ว่า หญิงสาวไม่พยายามลดน้ำหนัก หล่อนพยายามทำมาตลอด ตั้งแต่เล็กๆ แล้วคำว่า ผอมดูจะห่างไกลจากสารนุกรมชีวิตของเด็กหญิงเป็นอย่างมาก และนั่นทำให้หล่อนเกลียดคำว่า ยุ้ย เพราะมันทำให้นึกถึงแก้มที่มีเนื้อยื่นออกมามากจนเกินงาม และอะไรก็ตามที่ออกเสียงคล้ายๆ กันนี้ เช่นพลุ้ย ซึ่งหมายถึง หน้าท้องยื่นออกมาอย่างกับคนอ้วน หรือว่า ตุ้ยนุ้ย ซึ่งแปลว่า สาวร่างอวบเป็นต้น


หล่อนอยากจะฉีกพจนานุกรมภาษาไทยที่บัญญัติคำประเภทนี้ออกให้หมด ทำไมต้องมีการคิดถ้อยคำแรงๆ แบบนี้ขึ้นมาด้วย แต่ไม่ว่า จะเกลียดยูนิฟอร์มสักแค่ไหน แต่วันนี้หล่อนก็ต้องสวมมันออกไปอย่างเลี่ยงไม่ได้


ทางบริษัทมีกฎว่า ต้องสวมเครื่องแบบทุกครั้งที่คุณพริตาประธานกรรมการบริษัทเรียกประชุม และเนื่องจากเป็นประชุมสำคัญพนักงานทุกคนจึงขาดงานไม่ได้ แค่จินตนาการถึงตอนก้าวขึ้นรถไฟฟ้าและมีตัวเปรียบเทียบเป็น บรรดาสาวออฟฟิศที่ล้วนแต่รูปร่างผอมเพรียวลม ผู้หญิงเหล่านั้นช่างมีเอวที่คอดกิ่วจนณิชารีย์อดสงสัยไม่ได้ ว่า พวกหล่อนเอาลำไส้ที่ในตำราชีววิทยาว่า กันว่า ยาวถึงสี่สิบเซนติเมตรไปเก็บไว้ที่ไหน


ณิชารีย์สำรวจความเรียบร้อยหน้ากระจกก่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่ แท้ที่จริงคือ พยายามทำใจกับภาพบาดตาตรงหน้าต่างหาก หญิงสาวไม่ลืมหยิบตัวช่วยคือ กระเป๋าสะพายใบโปรดขึ้นมา หวังว่า มันคงช่วยบดบังความ’ล้ำหน้า ‘ได้ไม่มากก็น้อย
โปรแกรมแชตที่เรียกกันว่า ไลน์มีเสียงเตือน หญิงสาวรีบกดดูคนที่ส่งข้อความเข้ามาคือ เพื่อนซี้มีชื่อว่า ลำดวน ณิชารีย์ทำงานในบริษัทแห่งนี้มาห้าปีแล้ว แม้รอบกายเต็มไปด้วยคู่แข่งแต่ยังดีที่มีสาวผิวคล้ำฟันเหยินเป็นเพื่อนแท้

เพื่อนสาวมีชื่อเดิมว่า ลำดวน แต่มักจะชอบให้คนในบริษัทเรียกกันด้วยชื่อใหม่ที่ดูคล้ายลูกครึ่ง ลำดวนเป็นสาวอีสานแท้ๆ ใบหน้าจึงเป็นรูปเหลี่ยม คางกว้างพอประมาณ จมูกที่แบนราบหาดั้งไม่เจอ เพื่อนสาวมักจะปรารภเสมอว่า สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เกิดจากสารสลายดั้งที่มีอยู่มากในอาหารหลักของภาคอีสานอย่างข้าวเหนียวต่างหาก แต่ภายใต้หน้าตาสุดแสนธรรมดาแต่กลับซุกซ่อนจิตใจที่งดงามราวกับนางฟ้า ในบรรดาเพื่อนร่วมงานลำดวนมีน้ำใจที่สุด ผิดกับคนอื่นๆ ที่สวยแต่รูปแต่ภายในจิตใจกลับดำมืดด้วยความริษยา

ณิชารีย์กดปุ่มโทรฟรีจากโปรแกรมแชตขึ้นมา เพื่อประหยัดค่าโทรศัพท์และกรอกเสียงไปตามสาย
“ว่าไงจ้ะลำดวน”


เสียงกรี๊ดดังขึ้นอย่างยาวนาน จนณิชารีย์ต้องดึงหูออกจากโทรศัพท์ออกห่าง เพิ่งนึกได้ว่า ตนพลาด!
“ฉันบอกแล้วไงแกว่า ห้ามเรียกว่า ลำดวน ต้องเรียกว่า ลอร่า”

หญิงสาวยกมือปิดปาก ลืมไปว่า เพื่อนรักเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการแล้วเมื่อหลายเดือนก่อน แถมยังปิดประกาศไว้หน้าออฟฟิศให้ทุกคนทราบอย่างทั่วกันด้วย แต่คงเพราะติดปาก สาเหตุที่เปลี่ยนก็เพราะทนคำบ่นจากหนุ่มตาน้ำข้าวจากโปรแกรมหาคู่ทางอินเทอร์เน็ตบ่นไม่ไหว ทั้งแพทริก ปีเตอร์ ไรอัล เจมส์และสจ๊วต ต่างไม่ชอบชื่อลำดวนเพราะว่า บ่นว่า ออกเสียงยาก พวกเขาถือโอกาสนี้ขอเลิก เพื่อนสาวจึงรีบเปลี่ยนชื่อใหม่ในทันทีแต่จนบัดนี้ลำดวนก็ยังไม่มีแฟน

“ฉันขอโทษ ลืมตัวทุกที”

“เดี๋ยวฉันก็เรียกชื่อเล่นสมัยเด็กของเธอบ้างหรอก”

หญิงสาวเบ้หน้าเมื่อนึกถึงสรรพนามสารพัด ตั้งแต่...ตุ่มต่อขา ยายหมูอ้วน พังแป้น พะโล้และอื่นๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสรรพนามที่บอกให้รู้ว่า ณิชารีย์ไม่ได้เพิ่งจะมีหุ่นแบบนี้ น้ำหนักเกินมาตรฐานอยู่กับหล่อนมานานมากแล้ว มารดาบอกว่า ตั้งแต่คลอดเด็กหญิงตัวโตกว่าเพื่อน น้ำหนักที่มากกว่าสี่กิโลกรัมทำให้คลอดทางช่องคลอดไม่ได้จนต้องผ่าตัด

ในวัยเด็กณิชารีย์เลี้ยงง่าย กินจุและนอนเก่ง ส่งผลให้น้ำหนักตัวพุ่งแซงหน้าเด็กวัยเดียวกันมาตลอด เมื่อเข้าโรงเรียนก็ยังเจริญอาหาร ครูตักอาหารใส่ถาดหลุมเท่าไหร่หล่อนก็กินจนหมดเพราะไม่อยากให้เสียของ พอขึ้นชั้นมัธยมหล่อนก็ยังกินเก่งเหมือนเช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นของอร่อยเจ้าดังที่ไหน หญิงสาวก็ต้องรีบรุดไปชิม และเนื่องจากเจ้าตัวไม่เล่นกีฬาชนิดใดๆ เลย หุ่นจึงอวบเกิดพิกัดมาตลอด

“พอเลย ..ห้ามเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเย็นนี้ฉันไม่ไปวัดกับเธอแน่”

“ใครบอกว่า วัด...ฉันจะไปศาลเจ้าแม่มุ่ยเฮียงต่างหาก ศักดิ์สิทธิ์มากเลยนะ”

กิจวัตรประจำของเพื่อนสาวก็คือ การตระเวนขอพรเรื่องคู่จากสถานศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ทั้งศาลเจ้า ไทย จีน แขก ฝรั่ง ไม่ว่า จะอยู่กรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด ไม่ว่าไกลแค่ไหน ขอให้มีชื่อเสียง เพื่อนรักไม่เคยพลาด อย่างเช่นวันนี้สองสาวนัดกันไว้ว่า หลังจากประชุมเสร็จณิชารีย์จะทำหน้าที่เป็นสารถีพาเพื่อนรักไปบนบาลหาเนื้อคู่
“จะอะไรก็ช่างเถอะ ถ้าขืนล้อชื่อตอนเด็ก ข้อตกลงทั้งหมดเป็นอันยกเลิก”
“ไม่เอาน่า ฉันพูดเล่นน่า”

“แล้วที่ส่งข้อความมานี่มีอะไร”

“ก็แค่อยากจะเตือนว่า วันนี้อย่าลืมเอาไฟล์รูปกับรายงานการประชุมไปด้วย”

“ถ้าเรื่องนั้นเรียบร้อยแล้ว ฉันใส่กระเป๋าเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืน แล้วแฟ้มเอกสารที่ให้ถ่ายเอกสารเรียบร้อยแล้วใช่ไหม”
“แน่นอนจ้ะ ลอร่าเสียอย่าง ตื่นเต้นไหมนิด วันนี้จะต้องพรีเซนต์โปรเจกต์ให้คุณแพมฟัง”

“ไม่มาก คิดว่า พอไหวอยู่”

“เยี่ยมจริงเลยเพื่อนฉัน สมแล้วที่กำลังจะได้เลื่อนเป็นหัวหน้าแผนกมาร์เก็ตติ้ง”


เมื่อต้นอาทิตย์มีข่าวลือออกมาว่า คุณพริตาจะเลื่อนตำแหน่งให้กับพนักงานคนหนึ่ง ขึ้นแทนที่พนักงานอาวุโสที่ลาออกไป และคนที่มีผลงานโดดเด่นเข้าตากรรมการก็คงไม่แคล้วต้องเป็นณิชารีย์ ยอดขายเมื่อไตรมาสที่แล้วพุ่งกระฉูดก็เพราะหล่อน
“พอเลย เธอรู้ได้ยังไงว่า เป็นฉัน”

“รู้สิ ใครๆ เขาก็เดาได้ ไม่ใช่เธอแล้วจะเป็นใครได้ยายนิด”

“เอาไว้ให้ได้เสียตำแหน่งจริงก่อนเถอะ ไม่อยากฝันค้าง ฉันต้องรีบออกจากคอนโดแล้ว เดี๋ยวไปไม่ทัน ไม่อยากเข้าบริษัทสาย”

เพื่อนรักพูดอีกสองสามประโยคณิชารีย์รับคำ หลังจากคุยกันสักพักก็รีบกดวางสาย และเปิดประตูออกไป หล่อนปิดประตูห้อง สำรวจความเรียบร้อยด้วยการเช็คลูกบิดซ้ำอีกครั้ง และเดินตรงไปที่ลิฟต์ ที่นั่นเองณิชารีย์ก็ได้พบกับเขา...


ร่างสูงของชายหนุ่มดูดีเฉกเช่นทุกวัน เขาชื่อ ปกรณ์ ชื่อเล่นว่า โดม เหมือนพระเอกละครและนักร้องชายที่ได้รับความนิยมอย่างสูงสุดขณะนี้ นอกจากชื่อจะเหมือนแล้ว ใบหน้าหล่อเหลาไม่ต่างกันอีกด้วย ณิชารีย์ชอบใช้เวลาในช่วงเช้าแอบสำรวจชายหนุ่มอยู่บ่อยๆ ส่วนสูงที่น่าจะมากกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตร ช่วงไหล่กว้างจนมองเห็นมัดกล้ามที่เรียงตัวกันเป็นลอนสวย อกหนั่นแน่นน่าซุกซบ

หญิงสาวไม่แปลกใจที่ชายหนุ่มมีรูปร่างที่เพอร์เฟกต์นั่นก็เพราะหล่อนเคยเห็นเขา สะพายเป้ของฟิตเนสชื่อดังแห่งหนึ่งอยู่เป็นประจำ ทุกเช้าชายหนุ่มจะออกจากห้องพักเป็นเวลาใกล้เคียงกับหล่อน แต่ที่น่าเศร้าก็คือ ปกรณ์ไม่เคยทักหญิงสาวเลยสักครั้ง ผิดกับผู้หญิงอีกคนที่ตกเป็นเป้าสายตาของเขาทุกครั้งที่เจอ ทำไมณิชารีย์ถึงรู้ ก็เพราะหล่อนแอบมองเขาตลอดเวลานั่นเอง
“สวัสดีครับคุณแซลลี่ วันนี้ไปทำงานแต่เช้าเลยนะครับ”

ชายหนุ่มส่งยิ้มหวานเป็นใบเบิกทางให้กับศรัญรัชต์ แบรนด์แอมบาสเดอร์ของกาแฟสลิมเชพ ไม่แปลกหรอกที่ผู้ชายทุกคนจะอยากรู้จัก หญิงสาวคือ ต้นแบบของผู้หญิงที่ทั้งสวย หุ่นดีและฉลาด หล่อนจบการศึกษาจากประเทศอังกฤษแถมยังเป็นลูกครึ่ง

ส่วนสูงที่มากกว่าหญิงไทยทั่วๆ ไป รูปร่างเพรียวแต่อวบอิ่มโดยเฉพาะหน้าอกหน้าใจ เมื่อปกรณ์ทักศรัญรัชต์ก็ยิ้มหวานตอบ คงเคยชินเสียแล้วกับการโดนผู้ชายขายขนมจีบ

“คุณโดมก็ออกเช้าเหมือนกันนะคะ”

“ผมมาเวลานี้ประจำครับ วันนี้คุณแซลลี่ต้องใส่ชุดยูนิฟอร์มหรือครับ”

ณิชารีย์ซึ่งกลายเป็นบุคคลที่สามไปโดยปริยาย ปรายตามองหญิงสาวร่างเพรียวตรงหน้า แม้จะอยู่ในชุดผ้ายืดสีขาวเหมือนๆ กันเปี๊ยบแต่ทำไมช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว

หุ่นของแซลลี่ผอมเพรียว เอวคอด สะโพกผาย หน้าท้องแบนราบ ท่อนขาเรียวยาวที่โผล่พ้นชุด กระโปรงสอบสั้นกลับทำให้เกิดส่วนโค้งส่วนเว้าที่รัญจวนใจ ณิชารีย์เพ่งสายตาไปที่เอว หล่อนมั่นใจว่า ผู้หญิงทุกคนต้องมีจุดอ่อน บางทีอาจมีรอยย่นตรงขอบเอว บ่งถึงเนื้อส่วนเกินที่แพลมออกมา หรือ ไม่ก็รอยพับตรงกางเกงชั้นในที่มีเนื้อล้นออกมาบ้าง แต่ทำไมศรัญรัชต์ไม่มีเลย...
โอ้ ฟ้าช่างไม่ยุติธรรม..ผู้หญิงคนนี้ช่างไร้ที่ติ…

“ใช่ค่ะ วันนี้มีประชุมใหญ่ของบริษัท พนักงานทุกคนต้องแต่งเครื่องแบบ แซลลี่เลยต้องรีบออกเร็วหน่อย เพราะกลัวจะไปสาย”

พูดจบหญิงสาวก็ปรายตามาทางณิชารีย์ อะไรคงไม่ร้ายเท่ากับการออกมายืนประจันความงามกับผู้หญิงที่ทั้งสวยและหุ่นดีด้วยชุดที่เหมือนกันเปี๊ยบแต่ต่างกันที่ขนาดและหุ่นของผู้สวมใส่ หน้าท้องที่เป็นลอนๆ เด้งดึ๋งกับผ้ายืดทำให้ณิชารีย์แพ้อย่างหมดท่า

ประตูลิฟต์ที่เปิดออกพอดี ปกรณ์ผายมือให้หญิงสาวเข้าไปก่อน ส่วนเขาเองก็ก้าวตามเข้าไป ณิชารีย์ชำเลืองมองนาฬิกาอย่างลังเล ถ้าไม่ใช่เพราะใบหน้าของเจ้านายสาวผุดขึ้นมาในความคิด หล่อนคงไม่ยอมเอาตัวไปเปรียบเทียบในระยะประชิดให้เกิดปมด้อยหรอก หญิงสาวจำต้องก้าวตามเข้าไป ตามด้วยชายอีกคนที่สวมแว่นกรอบดำ เขาเลือกจะยืนชิดพนังด้านหนึ่ง

“อ้าวหนูนิด พอดีเลย”

ศรัญรัชต์เอ่ยทักขึ้นก่อน ด้วยสีหน้าที่ณิชารีย์มั่นใจว่า ไม่ใช่ด้วยความหวังดีแน่

“หนูนิด”

ปกรณ์ทวนคำด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ ก็แน่ล่ะ พบกันมาหลายครั้งแล้วแต่ชายหนุ่มไม่เคยเหลียวมองหล่อนด้วยซ้ำ เอาแต่กดมือถือเล่นอยู่ตลอดเวลา

“ชื่อเล่นของณิชารีย์ค่ะ หรือเรียกว่า หนูนิดก็ได้ เราสองคนทำงานอยู่บริษัทเดียวกัน นิดอยู่แผนกเซลล์มาร์เก็ตติ้ง”
ศรัญรัชต์ช่วยแนะนำให้เสร็จศัพท์ แต่สำหรับณิชารีย์แล้วกลับรู้สึกอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี หนี ทำไมพ่อกับแม่ถึงได้ตั้งชื่อเล่นให้ลูกสาวแบบนี้ ชื่อ หนูนิด ตอนเด็กๆ คงจะน่ารักดี แต่ตอนนี้อะไรๆ ก็ไม่นิดแล้ว หญิงสาวร่างอวบหันไปพยักหน้า ปกรณ์อมยิ้ม

“ชื่อน่ารักดีนะครับ หนูนิด”

หญิงสาวจับได้ถึงความเย้ยหยันในน้ำเสียงนั้น โลกช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย ไม่ว่า ใครหน้าไหน ที่ได้ยืนใกล้กับแบรนด์แอมบาสเดอร์สุดสวยของกาแฟลดน้ำหนักอย่างศรัญรัชต์ล้วนแต่ดูด้อย

“ค่ะ คุณแม่ตั้งให้ คงไม่รู้ว่า ลูกสาวโตขึ้นจะอ้วน”

“ตายแล้ว...นิดไม่ได้อ้วนสักหน่อย แค่อวบๆ แล้วก็มีหน้าท้องมากหน่อยเท่านั้นเอง”

ประโยคที่ดูเหมือนปลอบแต่รู้สึกได้ถึงความประชดประชันในน้ำเสียง คนนอกที่ไม่รู้จักศรัญรัชต์คงคิดว่า หล่อนเป็นเจ้าหญิงที่แสนดี แต่หลังจากทำงานด้วยกันมาสามปี ณิชารีย์ถึงได้รู้ซึ้ง ว่า ภายใต้หน้ากากแห่งความสวยที่แท้คือ ความร้ายกาจ ศรัญรัชต์ไม่เคยรู้จักคำว่า แพ้ หล่อนมักหาทางโจมตีและเหยียบย่ำคู่ต่อสู้จนถล่มจมดิน

“ไม่ต้องปลอบหรอกจ้ะ ฉันรู้ตัวดี ขอบใจมากนะแซลลี่ที่ช่วยแนะนำให้รู้จักคุณปกรณ์”

“ผมไม่ยักรู้นะครับว่า คุณหนูนิด อยู่ชั้นเดียวกับผม ความจริงเราน่าจะเจอกันบ่อยด้วยซ้ำ แต่ผมไม่ทันสังเกต”

ไม่เพียงไม่สังเกตแม้แต่หางตาปกรณ์ยังไม่แลหล่อนด้วยซ้ำ คำพูดตอกย้ำว่า หล่อนคือ ผู้หญิงที่ผู้ชายทุกคนพากันเมิน
“ฉันว่า หนูนิดอวบน่ารักดีออก จริงไหมคะคุณโดม”


“เอ่อ...ครับ...น่ารักดี แต่ถ้าลดน้ำหนักสักนิด คงจะดีกว่านี้ ไหนๆ ก็ทำงานอยู่บริษัทกาแฟลดน้ำหนักแล้ว”

ณิชารีย์หน้าชาราวกับถูกตบหน้า กัดฟันกรอดๆ ประตูลิฟต์เปิดออกราวกับระฆังเคาะเมื่อหมดยก หล่อนไม่รอช้ารีบก้าวออกไปก่อน แค่นี้ก็อายจะแย่อยู่แล้วเพื่อนที่ทำงานต่างประณามว่า หล่อนว่า อวบระยะสุดท้าย ถ้าอยู่ในสังคมอื่นคงจะไม่เป็นไร แต่เป็นเพราะรอยกายเต็มไปด้วยคนหุ่นดี รวมถึงแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่างศรัญรัชต์ที่ผอมเพรียวจนผู้หญิงทั่วประเทศพากันอิจฉา

“ขอบคุณนะคะคุณปกรณ์ที่แนะนำ” หญิงสาวหันไปพูดกับศรัญรัชต์บ้าง” ฉันขอล่วงหน้าไปก่อนนะแซลลี่ “

ณิชารีย์จ้ำอ้าวไปข้างหน้าอย่างไม่ลังเล ถ้าหูไม่ฝาดหล่อนคิดว่า ได้ยินเสียงหัวเราะลอยลมมาของหนุ่มสาวที่เดินตามมาข้างหลัง

การได้พบหนุ่มในฝันแต่ต้องหน้าแตกหมอไม่รับเย็บทำให้ณิชารีย์หงุดหงิดมากกว่าเดิม ดังนั้นเมื่อได้พบกับลำดวนที่ออกมายืนรอหน้าบริษัท หล่อนจึงหน้าบึ้งบอกบุญไม่รับ
“เป็นอะไรกันยายนิด ทำไมหน้าบูดเป็นยักษ์ขมูขีแบบนี้”

“เปล่า” หล่อนโต้เสียงห้วน

“ตามพจนานุกรมของฉัน ถ้าบอกว่า เปล่าแสดงว่า มีแหงมๆ บอกมาเสียดีๆ”

“พอเลยลำดวน ห้ามใช้ทฤษฏีจิตวิเคราะห์กับฉันเด็ดขาด มันแสลงใจ”

ใช่..ลำดวนเป็นนักวิเคราะห์การตลาดของบริษัทและพ่วงตำแหน่งเซลล์ไปด้วย ทุกอย่างคงจะดีถ้าหากเพื่อนสาวจะไม่ใช่กฎนั้นกับความคิดของเพื่อนสาวด้วย ทั้งในเรื่องงานเรื่องส่วนตัว

หลังจากที่ณิชารีย์เคยปรับทุกข์กับเพื่อนซี้ว่า หล่อนเป็นเพียงคนเดียวในบริษัทกาแฟที่มีน้ำหนักสูงเกินมาตรฐาน ลำดวนก็รีบวิเคราะห์หาเหตุผลทันทีว่า นั่นเป็นเพราะณิชารีย์ยังไม่มีแฟนจึงยังไม่มีแรงจูงใจ หญิงสาวแอบเถียงในใจว่า ไม่เกี่ยว ไม่ใช่ว่า หล่อนไม่อยากสวยแต่พอจะพยายามลดน้ำหนักทีไรก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับความหิวโหยอยู่เรื่อยไป หลายครั้งที่ยอมอดข้าวจนเป็นลม แต่พอหายดีก็กลับมากินหนักเหมือนเดิมทุกครั้ง ไม่ว่า จะเป็นขนม ของหวาน เบเกอรี่ ไอศกรีมล้วนแล้วแต่เป็นของโปรด
“ใจเย็นๆ สิ ฉันจะทำอย่างนั้นกับเพื่อนซี้อย่างเธอได้ยังไงกัน”

ทั้งสองเป็นเพื่อนรัก เนื่องจากทั้งสองนั้นแตกต่างจากทุกคนในบริษัท หลายครั้งที่หญิงสาวอดคิดไม่ได้ว่า ตอนสอบสัมภาษณ์ พริตาคัดคนจากความสวยหรือเปล่า

นับตั้งแต่ประธานบริษัทอย่างคุณพริตา ที่หุ่นดีราวกับนางแบบ ทั้งรูปร่างสูง ขาเพรียวยาว รวมถึงหัวหน้าแผนก ฝ่ายเซลล์มาร์เกตติ้ง บัญชี บุคคล หรือแม้กระทั่งแม่บ้านของบริษัท ทุกคนล้วนแล้วแต่ผอมเพรียวด้วยกันทั้งนั้น มีเพียงณิชารีย์ที่อวบอั๋นกว่าเพื่อน ส่วนลำดวนนั้นแม้ไม่อ้วนแต่หุ่นก็ผอมเก้งก้างไม่สมส่วน ทุกครั้งที่ทั้งสองเดินด้วยกัน คนมักจะล้อว่า เหมือนเลขสิบ
“รู้ก็ดีแล้ว เพราะฉะนั้นอย่ามากวนฉันตอนนี้ ฉันต้องรีบทบทวนรายงานการประชุม”

ณิชารีย์แอบน้อยใจในปมด้อยของตน แต่หล่อนก็เปลี่ยนมันให้เป็นแรงผลักดันตัวเองให้เหนือกว่าคนอื่นๆ ในเรื่องงาน เมื่อปีที่ผ่านมายอดขายของกาแฟสลิมเชพพุ่งขึ้นเป็นอันดับหนึ่งก็เพราะหล่อน

หญิงสาวเป็นคนตั้งใจ และไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค มีความคิดสร้างสรรค์ หล่อนมาถึงที่ทำงานแต่เช้าตรู่และกลับบ้านเป็นคนสุดท้าย ที่ผ่านมาจึงเป็นตัวเต็งที่จะได้เลื่อนตำแหน่ง

“เอานี่ ฉันถ่ายเอกสารตามที่เธอสั่งเอาไว้แล้ว”

ลำดวนยื่นแฟ้มเอกสารทั้งหมดให้เพื่อนตรวจทาน
“ขอบใจมากนะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ วันนี้เป็นวันสำคัญของเธอ ถ้าให้เดานะคุณแพมต้องประกาศเลื่อนตำแหน่งหลังการประชุมแน่ๆ”
“ฉันไม่กล้าหวังหรอก แต่ถ้าเป็นจริงขึ้นมา ฉันจะพาเธอไปเลี้ยงฉลองใหญ่เลยคอยดู”

ลำดวนกระมิดกระเมี้ยนเดินมาใกล้ณิชารีย์

“เรื่องเลี้ยงเอาไว้ก่อนก็ได้ แต่อย่าลืมสัญญา เรื่องนี้สำคัญกว่า” สาวผิวคล้ำเอียงหน้ามากระซิบ และกะพริบตาปริบๆ เป็นเชิงขอร้อง

“สัญญา”

“ก็เรื่องจะไปหาเจ้าแม่กับฉันยังไงล่ะ”

“อ๋อ....” ณิชารีย์ลากเสียงยาวเหยียด” ที่แท้ก็เรื่องนี้เอง ฉันไม่ลืมหรอก เธออยากจะไปขอแฟนกับเจ้าแม่”

ความปรารถนาอันสูงสุดของลำดวนก็คือ อยากมีแฟนต่างชาติและแต่งงาน ใช้ชีวิตบั้นปลายด้วยการย้ายไปอยู่ต่างประเทศ มีเงินใช้ให้สามีหาเลี้ยง แต่คงเพราะหน้าตาและกิริยาที่ดูจะล้นเกินไปสักนิดทำให้หลายปีมาแล้วแต่ก็ยังไม่มีคนมาจีบ

ลำดวนไม่ย่อท้อสมัครเข้าโปรแกรมหาคู่ทางอินเทอร์เน็ตที่มีอย่างดาษดื่นแต่สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลว เพราะหนุ่มๆ ที่หล่อนแชตด้วยถ้าไม่ใช่ลุงแก่ๆ ซึ่งกำลังป่วยหนักอยากหาผู้หญิงไปดูแล ก็เป็นฝรั่งนิโกรผิวดำที่จนแสนจนแต่จงใจหลอกสาวไทยให้ไปทำงานหาลำไพ่พิเศษ สุดท้ายพอรู้ทันเพื่อนรักก็รีบสลัดทิ้งทันที

“จำได้ก็ดีแล้ว ไม่อย่างนั้น ฉันงอนจริงๆ ด้วย”

“ฉันได้ยินว่า เจ้าแม่มุ่ยเฮียงศักดิ์สิทธ์มาก ใครขออะไรก็ได้หมด”

“โม้เกินไปหรือปล่า ขอแล้วได้ทุกอย่างเนี่ยนะ”

“ไม่เชื่อก็คอยดูก็แล้วกัน ภายในเจ็ดวันนับจากนี้ฉันจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเขาเสียที”



tangtangmeow
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 พ.ย. 2559, 19:57:08 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 พ.ย. 2559, 19:57:27 น.

จำนวนการเข้าชม : 1385





   บทที่ ๒ หัวหน้าคนใหม่ 70% >>
แว่นใส 11 พ.ย. 2559, 07:13:21 น.
หายไปนานเลย คิดถึงจ้า


Pat 11 พ.ย. 2559, 08:03:57 น.
กลับมาแล้ว


tangtangmeow 13 พ.ย. 2559, 15:52:35 น.

สวัสดีค่ะคุณแว่นใส คุณ Pat ดีใจที่แวะมาทักทายกันค่ะ เดี๋ยวจะลงให้อ่านทุกอาทิตย์นะคะ กำลังกระดืบๆ ไป ตอนนี้ได้เกินครึ่งเรื่องแล้วค่ะ


PiNVE 15 พ.ย. 2559, 16:12:28 น.
จะรออ่านนะค่ะ


tangtangmeow 1 ธ.ค. 2559, 09:19:51 น.
ยินดีต้อนรับค่ะ แวะมาบ่อยๆ นะคะ จะได้ไม่เหงา แหะๆ


Zephyr 3 ธ.ค. 2559, 10:33:08 น.
ว้าวๆ ลุ้นไปกับนางด้วย


tangtangmeow 23 ธ.ค. 2559, 21:14:09 น.
ยินดีต้อนรับค่ะ อ่านกันต่อนะคะ มีเจ็ดตอนแว้ว


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account