คู่หมั้นคืนเหงาใจ
ตำนานหนุ่มหล่อเลิศล้ำแห่งค่ำคืนเหงาใจ

ความรักเหงา ๆ รานร้าวและเร้าใจ ต่างคนต่างมีกิเลสตัณหา ต้องชดใช้บุญกรรมแห่งความรัก ติดตามข้ามภพชาติศาสนา หนึ่งหญิงสองชายผูกพัน
อ่านเรื่องนี้จบ แล้วคุณจะสงสารใคร? ระหว่าง...

นักดนตรีหนุ่มรูปหล่อ พ่อรวย ราวกับในตำนาน เทพบุตรจุติลงมาเกิดอย่าง ยุติ ผู้ตกอยู่ในวังวนแห่งความเปลี่ยวเหงา ทุกค่ำคืนผ่านไปจิตใจโหยหา แค่เพียงเป็นคนที่เขาเผลอใจรัก แต่เขาไม่ได้เลือก กลายเป็นเหมือนส่วนเกิน มิใช่ส่วนสำคัญ

หรือ... อภิมหาเศรษฐีหนุ่ม ใบหน้าสวยงามเลิศล้ำอย่าง ไทธรรพ์ ผู้เป็นที่รักยิ่งดั่งชีวิตจิตใจของสาวสวย ถึงแม้เขาจะเจ้าชู้ไปบ้าง แต่ทั้งชีวิตจิตใจทุ่มเทในรักจริงจัง แต่ความหวังกลับหักพังสลาย สุดท้ายต้องอยู่เดียวดายข้างกายไร้คู่ครอง

หรือ... สาวสวยแชมป์มวยไทยหญิง เพชรน้ำหนึ่ง ถึงจะมีเพียบพร้อมทุกสิ่ง แต่ต้องเกิดมาใช้เวรใช้กรรม ที่เคยกระทำไว้ในชาติก่อน แม้จะสามารถยืนหยัดขึ้นมายิ่งใหญ่ และจิตใจเข้มแข็ง ทนทานต่อความทุกข์กายทุกข์ใจได้ แต่ลึกลงไปข้างในนั้น ไร้ซึ่งความสุขแท้จริง
Tags: ไตรติมา, คู่หมั้นคืนเหงาใจ, ดราม่า, ซึ้ง, โรแมนติก,

ตอน: ตอน 1 [1]

ตอน 1 [1]

แถบชานเมืองกรุงเทพฯ ในเขตปริมณฑล จังหวัดนครปฐม

บ้านหลังใหญ่โตตัวตึกสีขาวและกระท่อมตายาย เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินห้องกระจก ปลูกอยู่ในเนื้อที่เกือบสิบสามไร่ ชื่อ ‘บ้านอนัญชนา’ สร้างมานานสิบปีแล้ว

ส่วนบ้านรั้วติดกันที่อยู่ถัดไปทางต้นซอย เป็นคฤหาสน์หรูหราสมฐานะผู้มีอันจะกิน อยู่ในเนื้อที่กว้างกว่าห้าไร่ ชื่อ ‘บ้านอมตนครา’

ทั้งสองบ้านนั้นเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันมายาวนาน มีประตูรั้วข้างบ้านที่ใช้ร่วมกัน เป็นทางสะดวกสำหรับไปมาหาสู่ แบ่งปันของกินของใช้ให้กันเสมอมาไม่เคยขาด

ยามหกโมงเย็น... โต๊ะม้าหินข้างกระท่อมตายาย คุณตากำลังนั่งพูดคุยกับเพื่อนบ้านชายหนุ่มรูปหล่อ

“ยุติ... ปีนี้อายุยี่สิบสี่จะยี่สิบห้าแล้วสินะ หน้าตาหล่อ ๆ อย่างนี้คงมีสาว ๆ มาเสนอตัว เป็นแฟนเยอะแยะ จนไม่รู้จะเลือกใครดีเลยล่ะสิ” คุณตาเอ่ยถามแกมสัพยอก

แม้วัยล่วงเลยมาถึงอายุเจ็ดสิบปีแต่คุณตายังดูแข็งแรงเกินวัย เพราะไม่เคยทิ้งการออกกำลังกายทำสวนด้วยตัวเอง อีกทั้งความทรงจำยังดีไม่มีเลอะเลือน จึงเป็นที่พึ่งทางใจให้ลูกหลานได้แวะเข้ามาหาพูดคุยปรึกษาเรื่องราวต่าง ๆ

“ครับ เยอะแยะนับไม่ถ้วนแต่เป็นแฟนเพลงแหละครับ” ชายหนุ่มรูปหล่อยิ้มรับ

“เห็นไปเรียนภาษาที่ญี่ปุ่นเป็นปี ไม่ได้สาวญี่ปุ่นติดไม้ติดมือกลับมาเป็นลูกสะใภ้ให้แม่เขาบ้างสักคนหรือ”

“ที่ผมอุตส่าห์ลงทุนไปเรียนภาษาญี่ปุ่นถึงประเทศเขาเพราะผมอยากได้แฟนเป็นสาวญี่ปุ่น แต่สาวญี่ปุ่นจีบยากมาก มีแต่คบผมแบบเพื่อน ผมเลยต้องเป็นโสด กลับมาเมืองไทยมือเปล่า ผู้หญิงไทยคงเหมาะกับผมมากกว่ามังครับ”

“ยังเป็นโสดอยู่ก็ดี ยังแสวงหาประสบการณ์ได้อีกมากใช่ไหม ผู้ชายเราก็แบบนี้ล่ะ” คุณตาพูดไปยิ้มไปเป็นคำพูดที่รู้ใจกันดี

“ครับมีบ้าง แต่ผมไม่ใช่คนเจ้าชู้ มีคนที่ผมคิดจริงจัง แต่มันเป็นไปได้ยากที่บ้านไม่ค่อยยอมรับเธอ หาว่าไม่เหมาะสมกันเพราะฐานะทางบ้านเธอไม่ร่ำรวย”

“แล้วไปเจอกันได้ยังไง เป็นลูกเต้าเหล่าใครกันล่ะ”

“เมื่อไม่กี่เดือนก่อนผมเพิ่งกลับจากญี่ปุ่น ยังไม่มีงานทำเลยไปสมัครเป็นนักดนตรีประจำผับในตำแหน่งมือกลอง ตัวเธอทำงานเป็นแคชเชียร์ที่หน้าตาสวยกว่าใครแถมนิสัยดี เจอกันครั้งแรกถูกใจเลย เธอเป็นลูกหลานคนธรรมดาไม่ร่ำรวยอะไร ผมว่าจะทำงานอีกไม่นาน แล้วจะไปเรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกาพอดีมีเพื่อนไปเรียนอยู่ที่โน่น ผมเบื่อบ้านครับ อยากไปอยู่ที่ไกล ๆ ”

“โก้ดีนี่... จะได้กลายเป็นนักเรียนนอก แล้วพ่อแม่ของยุติให้ไปไหมล่ะ”

“คงจะให้ไปครับ ผมว่าจะพาแฟนไปด้วยแล้วแอบไปแต่งงานอยู่ด้วยกันที่โน่น แต่กลัวแม่จะรู้แล้วตัดออกจากกองมรดก ยิ่งหมู่นี้แม่ชอบขู่ผมเรื่องนี้อยู่เรื่อย”

“ยุติเล่นดนตรีได้ ภาษาก็เก่ง อาชีพนักดนตรีไปอยู่ต่างประเทศน่าจะหางานทำได้ไม่ยาก เลี้ยงเมียเลี้ยงลูกได้นะ”

“แต่ค่าครองชีพสมัยนี้แพงมาก ถ้าช่วงที่กำลังเรียนแล้วทางบ้านตัดเงินค่าใช้จ่ายผมจะลำบาก”



ในสวนมะพร้าว บ้านอนัญชนา

“ยุติถอยไปห่าง ๆ อย่าไปยืนใต้ต้นมะพร้าว เดี๋ยวโดนลูกมะพร้าวตกใส่” คุณตาบอกกับยุติที่กำลังยืน แหงนหน้ามองลูกมะพร้าว ในขณะที่คุณตากำลังจะตัดขั้วของมะพร้าว โดยใช้ปลายตะขอที่มีใบมีดคมกริบ ออกแรงกระชากอย่างแรงเพียงครั้งเดียว มะพร้าวทั้งทลายขาดหลุดร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน “แค่นี้เดี๋ยวก็ได้กินน้ำมะพร้าวอ่อน”

“โอ้โฮ... คุณตาแข็งแรงมาก กระชากทีเดียวก้านมะพร้าวขาดฉับเลย” ชายหนุ่มเอ่ยชื่นชมผู้สูงวัย

“เพราะมีดปลายตะขอมันคมมาก ถึงตัดขาดได้ในทีเดียว ถ้ามีดไม่คมคงกระชากไม่ขาดหรอก” คุณตาพูดถ่อมตัว

“ต้นนี้มันสูงมากกว่าทุกต้นในสวนเลยนะคุณตา”

“ใช่ อีกไม่นานมะพร้าวในร่องนี้จะต้องถูกโค่นทิ้งเพื่อขายยอดอ่อน แล้วปลูกต้นใหม่แทน” คุณตาบอก

ยุติเข้าไปจับมะพร้าวทั้งทลายนั้นหวังจะแบกมันเพื่อนำไปให้คุณยายปอกเปลือก

“ท่าทางผมจะแบกไม่ไหว หนักมากมีมะพร้าวตั้งสิบลูกได้มั้ง แล้วจะขนไปกันยังไงดีครับ” เขาบอกเสียงอ่อย

“ไม่ต้องแบกหรอก ใช้เชือกลากไป” ว่าแล้วคุณตานำเชือกมามัดที่ก้านทลายมะพร้าว แล้วผลักมันลงไปในท้องร่องสวนซึ่งมีน้ำไม่ลึกมาก ดึงเชือกลากไปตามน้ำ ทำให้เบาแรงในการลาก

“อ๋อ... ใช้วิธีนี้ขนลากมะพร้าว” ยุติเพิ่งเข้าใจ ยิ้มออกมาได้

คุณตาลากมะพร้าวไปตามท้องร่อง จนสุดเขตสวนมะพร้าว มียายนั่งรอใต้ต้นมะม่วงที่ร่มครึ้มที่พื้นมีกระสอบพลาสติกปูรองพื้นอยู่ และมีถังสแตนเลสขนาดใหญ่วางข้างตัว เอาไว้ใส่มะพร้าวอ่อนที่ถูกปอกเปลือกแล้ว ถัดไปมีเตาอังโล่ตั้งอยู่ ซึ่งสองตายายมีอาชีพเสริมคือ ทำมะพร้าวอ่อนเผา ส่งขายให้ร้านขายของชำหน้าปากซอย

“เอ้า... ยายช่วยปอกมะพร้าวอ่อนให้ยุติกินสักลูกสองลูกสิ เดี๋ยวตาช่วยยายปอกด้วยดีกว่า ปอกให้หมดนี่แหละ แล้วเอาไปทำมะพร้าวเผาให้ที่บ้านยุติด้วย” ตาลากมะพร้าวขึ้นบนตลิ่งมาให้ยายที่นั่งรอ

ยุติลงนั่งข้าง ๆ ซึ่งมีกระสอบพลาสติกปูรองพื้นอยู่แล้ว เขาได้แต่มองดูสองตายายเพราะไม่รู้จะทำอะไร นอกจากรอกินมะพร้าวอ่อน

“ยุติกินได้แล้ว ยายเฉาะมะพร้าวอ่อนให้แล้ว” คุณยายยื่นมะพร้าวอ่อนให้ยุติรับมาแล้วยกขึ้นดื่มน้ำมะพร้าว

“น้ำมะพร้าวหวานอ่อน ๆ ไม่หวานแหลมเหมือนน้ำตาลทรายนะครับ มีกลิ่นหอมชวนกินด้วย”

“มะพร้าวที่ปลูกนี่เป็นพันธุ์มะพร้าวน้ำหอม ถ้าเอาไปต้มแล้วเผาจะยิ่งหอมหวานมากกว่านี้อีก” คุณตาบอก

“ลองตักเนื้อมะพร้าวอ่อน ๆ กินด้วยสิ เนื้อมันนิ่มกำลังพอดีกินนะยุติ” คุณยายบอกพร้อมยื่นช้อนให้ยุติ

ยุติจึงทำตามแล้วจึงได้ลิ้มรสชาติอ่อนนุ่มออกหวานของเนื้อมะพร้าวอ่อน ถึงกับยิ้มออกมาพลางกล่าวชื่นชม ยังคงกินต่อไปอย่างเอร็ดอร่อย

“อร่อยดีครับ ผมนี่โชคดีนะครับได้กินมะพร้าวอ่อนถึงสวนโดยตรงเลย”

สองตายายยิ้มให้ เอ็นดูเหมือนลูกเหมือนหลาน แล้วช่วยกันปอกมะพร้าวอ่อนต่อไป



ในขณะที่ชายหนุ่มมองไปเรื่อยเปื่อย มองไปถึงฝั่งกระท่อมตายาย บ้านทั้งหลังนั้นถูกปลูกสร้างด้วยไม้ซุง เป็นบ้านชั้นเดียวใต้ถุนสูงสไตล์คันทรี่ หน้าบ้านมีนอกชานยื่นออกมาติดต่อกับบันไดทางขึ้น ลูกกรงไม้ล้อมกรอบนอกชานมีด้านข้างปลูกดอกไม้กระถางหลากสีสัน เขาเคยเข้าไปภายในกระท่อมมีห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำและมีประตูเปิดออกไปยังทางเดินห้องกระจก ซึ่งเป็นทางเดินเชื่อมไปสู่ตัวตึกใหญ่ ความยาวของทางเดินห้องกระจกประมาณสิบเมตรถูกสร้างข้ามผ่านคลองน้ำใสอันเป็นคลองเล็ก ๆ ที่ถูกขุดขึ้นให้เชื่อมต่อกับบึงบัวที่เต็มไปด้วยดอกบัวปลูกไว้สำหรับใช้ถวายพระ ถัดจากบึงบัวไปจึงเป็นเขตสวนมะพร้าว มีร่องสวนที่อาศัยน้ำจากบึงบัวนี้ แต่ละร่องสวนมีไม้ไผ่ลำเดียวทอดให้เดินข้าม และมีไม้รวกเล็ก ๆ ทำเป็นราวจับพอช่วยพยุงไม่ให้เดินตกท้องร่องได้ง่าย

“เอ๊ะ!!” ยุติอุทาน สะดุดสายตาตรงทางเดินห้องกระจกมีหญิงสาวในชุดนอนสีขาวเดินมานั่งลงที่พื้นทางเดิน แล้วเปิดหน้าต่างกระจกออก มองจากที่เขานั่งอยู่นั้นระยะห่างกันพอสมควรจึงเห็นใบหน้าไม่ชัดเจน แต่ที่แน่ ๆ สายตาเขาดูไม่พลาดคือเป็นหญิงสาวและรูปร่างหน้าตาสวยแน่นอน “คุณตาคุณยายใครกันครับที่อยู่ตรงนั้น” เขาถามพร้อมกับพยักพเยิดให้สองตายายมองตาม

“อ้าว... จำไม่ได้เหรอยุติ ไม่เคยเจอกันเลยหกปีได้แล้วมั้ง นั่น... หนึ่ง เพิ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่น จู่ ๆ กลับเมืองไทยไม่บอกล่วงหน้า เพิ่งมาเมื่อคืนวานนี้เอง” คุณยายบอก

“หนึ่งเองหรอกเหรอ งั้นเดี๋ยวขอผมไปทักทายเขาหน่อยนะครับ”



ยุติเดินตรงไปหลังกระท่อมตายาย ถึงริมคลองฝั่งใกล้ทางเดินห้องกระจกที่สุด เห็นสาวสวยกำลังให้อาหารปลา ผมสีน้ำตาลอ่อนดัดลอนยาวปรกบ่า ไรผมปรกหน้าเรียวเล็ก ปากนิดจมูกหน่อย ดวงตาคมสวยมองมา ประสานสายตากับเขา แววตาสงสัยนั้นเบิ่งตาโตขึ้นเล็กน้อย

‘เอ๊ะ!! ใครมายืนจ้องมอง ทรงผมหน้าม้าทันสมัยสไตล์เกาหลี ผู้ชายคนนี้เป็นใคร’ เธอนึกในใจ เมื่อเขายิ้มให้เห็นฟันเขี้ยวเล็ก ๆ ‘ดูเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีทีเดียว’ แล้วเริ่มคุ้น ๆ ขึ้นมาในความรู้สึก

“สวยเหลือเกิน น้องเป็นมนุษย์หรือนี่... พี่นึกว่า ‘นางฟ้า’ ” ยุติยิ้มแย้มทักทายด้วยสำนวนจีบสาวที่เฉิ่มเชย แต่คาดหวังว่าสาวเจ้าจะยิ้มตอบชอบใจ แถมเผลอเหม่อจ้องมอง เพลินตากับความงามยิ่งของหญิงสาวจนอ้าปากค้าง ถ้าทำน้ำลายหกให้เห็นได้คงได้เห็นกันไปแล้ว “เพชรน้ำหนึ่ง... หนึ่งใช่ไหม” เขาเอ่ยถามด้วยความอยากพูดคุยด้วย

แต่สาวสวยเพียงพยักหน้ารับเท่านั้น ยังไม่เอ่ยคำใดออกมา

“นี่... พี่ยุติไง จำกันได้ไหม พี่เอง” พูดพลางรีบชี้นิ้วที่ตัวเอง เรียกร้องความสนใจ

“อ๋อ... พี่ยุตินี่เอง สวัสดีค่ะ” เพชรน้ำหนึ่งทักทายตอบ นึกออกทันที

สมัยเป็นเด็กถึงวัยรุ่นเขาเคยไว้ผมรองทรง ดูผิดแผกแตกต่างจากตอนนี้ราวกับเป็นคนละคน เมื่อเธอจำได้แล้วจึงยิ้มให้เขา เป็นรอยยิ้มที่เผยให้เห็นลักยิ้มมุมปากข้างขวา ยิ่งน่ารักน่าเอ็นดูขึ้นไปอีก

เรียกได้ว่าจี๊ดโดนใจชายหนุ่มเป็นที่สุด ยุติส่งสายตามองด้วยความรู้สึกเหมือนกับได้เจอรักแรกพบเมื่อสบตา ต่างคนต่างมองหน้า... ชะงักงันกันอยู่พักหนึ่ง

“ไม่เคยเจอกันเลยหลายปีแล้วนะ หนึ่งเปลี่ยนไปมากจนจำเกือบไม่ได้สวยขึ้นเป็นกอง นี่เรียนจบแล้วใช่ไหม” เขาเริ่มชวนคุย

“ค่ะเรียนจบแล้ว เอ่อ... หนึ่งขอตัวก่อน” เธอกล่าวตอบสั้น ๆ ด้วยท่าทางเอียงอาย และลุกขึ้นเดินหนีเข้าไปทางตึกใหญ่

“อ้าว! อยากคุยต่ออีกหน่อย ไปซะแล้ว” เขาบ่นอยู่คนเดียว ในใจนึกอยากตามไปดู และอยากเห็นหน้าเธอในระยะใกล้ชิดยิ่งกว่านี้อีก จึงรีบเดินอ้อมมาทางหน้าบ้าน เดินตรงไปที่ตึกใหญ่ ขึ้นบันไดเปิดประตูหน้า เดินเข้าไปในบ้าน พบแต่ห้องรับแขกว่างเปล่า ประตูกระจกตรงทางเดินมองเห็นโปร่งโล่งไม่มีใครอยู่ เปิดประตูเข้าไปในห้องครัวกลับเงียบไร้ผู้คน ยืนหันรีหันขวางอยู่ครู่หนึ่ง จึงเห็นประตูอีกบานที่จะเปิดไปสู่บันไดทางขึ้นชั้นสอง พอหมุนลูกบิดปรากฏว่ามันถูกล็อคเสียแล้ว
.
__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__
.
เริ่มเรื่องใหม่ค่ะ ช่วยติดตามกันนะคะ



ไตรติมา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 พ.ย. 2559, 14:48:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 พ.ย. 2559, 14:48:48 น.

จำนวนการเข้าชม : 1495





   ตอน 1 [2] >>
ไตรติมา 11 พ.ย. 2559, 14:52:32 น.
กดไลค์&ติดตามอัพเดท >> https://www.facebook.com/oranamarinlove
และติดตามอ่านนิยายเรื่องอื่นๆ ได้จากเพจนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account