แหวนปฏิพัทธ์ (ขาย E-book ที่ meb และ ookbee ในชื่อว่า "หนึ่งใจในรอยกาล" แล้วนะคะ)
ปาฏิหาริย์บางอย่างทำให้ธราต้องย้อนเวลากลับไปในอดีต

เพื่อพบกับทินกร ชายผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือเธอจากการโดนทำร้าย

เขาเป็นดาราดังที่ทำตัวแย่ๆ จนในปัจจุบันชีวิตตกอับ ไร้งานละคร

เธอจึงพยายามที่จะช่วยเหลือเขาเป็นการตอบแทน

แม้ความหวังดีของเธอจะสร้างความหงุดหงิดน่ารำคาญสำหรับเขาแค่ไหน

แต่เธอก็ยังพยายามที่จะทำให้สำเร็จ แต่ยิ่งพยายามมากเท่าไหร่ หัวใจเธอก็ยิ่งพังมากขึ้นเท่านั้น

จนทุกอย่างมาถึงทางเลือก ระหว่างหัวใจกับเป้าหมาย อะไรสำคัญกว่า....
Tags: รักโรแมนติก,ดารา,นักเขียน

ตอน: ตอนที่ 28 ...ผิดสัญญา

แสงแดดแยงตาแต่เช้าตรู่ ทำให้หญิงสาวที่นอนนิ่งสนิท ค่อยๆ ขยับเปลือกตาช้าๆ เมื่อมองเห็นภาพในห้องเลือนรางเหลือเกิน เธอก็หลับตาลงอีกครั้งเพื่อปรับสภาพ พลันที่หูได้ยินเสียงชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นไม่ไกลนักนั่นแหละ ธราถึงตื่นได้เต็มตา

“ครับ วันนี้ผมไม่ไป พอดีป่วยนิดหน่อย เมื่อคืนตากฝนมา อ้อเดี๋ยวก่อน เอ่อ...คุณปารวัตรมายัง อ๋อๆ ขอบคุณมาก” ทินกรกดวางสายที่เพิ่งโทรไปลางานผ่านดาว ก่อนจะหันกลับมาเพื่อพบดวงตากลมโตที่มองมาอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่นั้นจ้องเขาอยู่นานอย่างสื่อความหมาย มีทั้งกังวล และเป็นห่วง

“อ้าว ตื่นแล้วเหรอ” ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม มองใบหน้ากึ่งหลับกึ่งตื่นนั้นด้วยรอยยิ้มแพรวพราว

หญิงสาวพยักหน้านิดๆ ก่อนหันมองบรรยากาศรอบด้าน แล้วเอ่ยออกไปด้วยเสียงแหบพร่า “พาฉันมาอยู่ในห้องคุณทำไม
“ก็คุณป่วย ผมต้องดูแลอย่างใกล้ชิด”

ธราแปลกใจนัก เธอจำได้ว่าเมื่อคืนเธอยังสบายดีอยู่ มาวันนี้เธอจะไม่สบายได้อย่างไร ร่างเล็กพยายามฝืนตัวยืนขึ้นอย่างดื้อรั้น แต่ก็เดินไปได้ไม่กี่ก้าวเมื่อศีรษะที่หนังอึ้งทำให้ภาพเบื้องหน้าพร่าเลือน

ทินกรถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนอุ้มคนดื้อรั้นกลับมาไว้ที่เตียงนอนตามเดิม “นอนสิคุณ ผมไม่ปล้ำหรอก แค่เมื่อคืนผมก็อิ่มละ”

หญิงสาวเบิกตาโพลง กะพริบตาถี่ๆ ไล่ความมึนงง “คุณว่าอะไรนะ เมื่อคืนทำไม”

ก๊อก ก๊อก ก๊อก!

เสียงเคาะประตูดังขึ้นหยุดบทสนทนาทุกอย่าง ร่างสูงขำคิกคักก่อนจะปรี่เดินออกไปทันทีเพราะคาดคะเนได้ว่าใครมา

“เอาข้าวต้มที่สั่งไว้มาให้แล้วค่ะคุณเพลิง” แม่บ้านยื่นถาดข้าวต้มให้ชายหนุ่ม ก่อนปราดมองเข้ามาในห้อง “เป็นยังไงบ้างหนูชล”

“ดีขึ้นแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ” ธราบอกเสียงแผ่ว ในใจได้แต่ภาวนาให้ส่วนเกินออกไปเสียที ในเมื่อเธอยังไม่ได้รับคำตอบจากทินกร จะให้เธอมีอารมณ์คุยกับใครได้อย่างไร

ชายหนุ่มปิดประตูลงพร้อมทั้งถือถาดข้าวต้มมาวางไว้ข้างเตียง มือใหญ่โอบประคองให้คนตัวเล็กขึ้นนั่งช้าๆ “กินข้าวต้มซะ เดี๋ยวจะได้กินยาแล้วนอนพัก คุณทำให้ผมต้องหยุดงาน เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมมีอัดรายการ โปรโมทละคร ไม่ไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นคุณต้องหายวันนี้”

“ยังไม่กินหรอกค่ะ คุณบอกฉันมาก่อนว่าที่คุณพูดเมื่อกี้หมายความว่ายังไง”

ทินกรยักไหล่ท่าทางน่าเกลียด “ก็หมายความตามที่พูด”

“ก็...ก็คุณพูดว่า...อิ่ม” หญิงสาวกำผ้าห่มแน่น หัวใจสั่นสะท้าน เกรงกลัวคำตอบที่เขาพูดมาเหลือเกิน

พระเอกหนุ่มมองท่าทีของคนตัวเล็กอย่างขบขันนัก หากไม่เห็นว่าป่วยอยู่ เขาก็อยากจับจูบให้หนำใจ หมั่นเขี้ยวปากอิ่มนั้นจริงๆ

“ผมพูดเล่น ไม่มีไรหรอก กินข้าวเถอะนะ” มือใหญ่ปัดผมที่กรุยกรายรกดวงหน้าหวาน ก่อนจะตักข้าวมาเป่าแล้วป้อนให้อย่างดี
นี่เขาเป็นอะไรไปแล้ว ทำไมต้องดูแลดีขนาดนี้ นั่นก็เป็นคำถามที่เขาตอบตัวเองไม่ได้เช่นกัน

ธรากินข้าวต้มจนหมดในเวลาไม่นาน ชายหนุ่มผ่อนกายเธอให้นอนราบแล้วห่มผ้าให้ก่อนจะมุดเข้าไปนอนเคียงข้าง บนหมอนเดียวกัน

หญิงสาวหันมามองเขาอย่างประหลาดใจระคนเกรงกลัว “มานอนตรงนี้ทำไม ถ้าจะนอนก็นู่น หมอนนู้นสิ”

“ผมรู้ว่าคุณหนาว” ไม่พูดเปล่า อ้อมแขนแกร่งยังดึงรั้งร่างเล็กมาแนบชิดโอบกอดไว้อย่างแน่นหนา ไม่สนมือนุ่มที่ดิ้นรนจะผละออกเลยสักนิด

“ฉันไม่ได้หนาวค่ะ ไม่ได้อาการแย่ขนาดนั้น คุณปล่อยเถอะ”

“ไม่ปล่อย” และรัดแน่นขึ้นด้วยซ้ำ “ตัวคุณมันอุ่นดี ลมหายใจคุณก็อุ่น ปากคุณก็นุ่มด้วย”

“เฮ้ยคุณ!” หญิงสาวแหวใส่เมื่อได้ยินประโยคเมื่อครู่ ไม่กล้าหลับในอ้อมกอดเขาแน่ คนไว้ใจไม่ได้แบบนี้ “พูดอะไรช่วยนึกถึงแฟนคุณด้วยนะคะ ตอนนี้คุณมีแฟนอยู่ ลืมหรือเปล่า”

“เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ ผมรู้ดีว่าผมทำอะไรอยู่”

“มันเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้นฉันไม่รู้หรอกนะ แต่คุณก็ยังไม่เลิกกันนี่ ฉันรู้เท่าที่คนทั้งประเทศรู้ค่ะ ว่าคุณสองคนคบกันออกสื่อ ยิ่งเรามาใกล้กันมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งเสียภาพพจน์มากขึ้นเท่านั้น คุณพูดเองไม่ใช่เหรอคะว่าฉันเป็นของเล่น ไร้ค่าไร้ราคา ไม่อยากยุ่งด้วย แล้วคุณก็...”

ทินกรขำในลำคอ ปิดปากประกบกลีบปากบางที่ยังพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด รำคาญคำพูดพวกนี้ชะมัด แล้วก็ยังหงุดหงิดตัวเองด้วยที่ไม่สามารถรอให้เธอเต็มใจได้สักที หัวใจของชายหนุ่มเต้นแรงระรัวขึ้นในอีกระดับเมื่อบดริมฝีปากลงไปได้อย่างไม่เกรงกลัวไข้หวัด

นาทีนี้เป็นอะไรตายก็ยอมทั้งนั้น...

คนตัวเล็กเริ่มดิ้น พยายามผละจูบจากริมฝีปากที่กดทับลงมาอย่างหนักหน่วง ก่อนที่อาการรุกล้ำอย่างไม่มีมารยาทจะแปรเปลี่ยนเป็นเรียกร้อง นุ่มนวลและหอมหวาน ลมหายใจของธราเริ่มขาดห้วง ความร้อนเพราะพิษไข้ตอนนี้ดูเป็นเรื่องเล็กไปทีเดียว เมื่อความร้อนรุ่มในกายสาวพุ่งพล่านขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ เผลอจูบตอบกลับไปตอนไหนก็ไม่รู้เลย

อยากจะถามทินกรนักว่าเขากำลังสำลักความหอมหวานเหมือนที่เธอเป็นอยู่หรือเปล่า

“อือ...พะ...พอแล้ว” ธราเริ่มร้องขอกับริมฝีปากร้อนที่ยังคงบดจูบอย่างไม่เห็นใจคนป่วยไข้ที่กำลังจะขาดอากาศหายใจตาย
ทินกรถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนผละออก ผงกศีรษะมองหน้าคนที่แก้มแดงจัดซุกอกเขาอย่างเขินอาย แขนแกร่งกอดคนตัวเล็กแน่นขึ้นพร้อมทั้งลูบศีรษะเธออย่างอ่อนโยน

“ผมไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกตอนนี้ยังไงดี” เสียงทุ้มพึมพำอยู่กับหน้าผากนวลเนียน “แต่ถ้าคิดว่าตัวเองเป็นของเล่น ก็รู้ไว้เถอะว่าคุณเป็นของเล่นชิ้นโปรดที่ผมหวงมาก ไม่อยากให้ใครมาแย่ง”

ธรานอนหลับไปนานแล้วในอ้อมอกของชายหนุ่ม ลมหายใจที่ผ่อนออกเป็นจังหวะก็ทำให้หัวใจเขาอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นกับใครคนไหน เขาตลกตัวเองที่สุดเมื่อนึกถึงคำพูดตอนอัดรายการครั้งที่แล้วกับอัจฉรา

‘ก็เหมือนเวลาที่เราดูละครน่ะครับ พระนางทะเลาะกัน นางเอกเถียง พระเอกจูบ ผมก็ทำไม่ต่างกับพระเอกหรอก’

พูดไปได้ยังไงกันนะ ในเมื่อไม่เคยทำ ไม่เคยรู้สึกอยากจะทำแบบนั้นกับอัจฉราเลยสักครั้งตั้งแต่มีกันและกันมา แต่ช่างน่าแปลกนักที่ความรู้สึกปรารถนามันกลับเกิดขึ้นเมื่ออยู่กับยายตัวเล็กจอมวุ่นวายอย่างเหลือประมาณจนไม่อาจห้ามใจได้
ผู้หญิงคนนี้เป็นจูบแรก และจะเป็นจูบเดียวของเขาตลอดไป…

เสียงโทรศัพท์ไม่พึงประสงค์ดังขึ้น ชายหนุ่มเหลือบมองที่โต๊ะข้างเตียงอย่างหงุดหงิดนัก เขาหยิบโทรศัพท์เล็กๆ ของธราขึ้นมาดู ก่อนหน้ามุ่ยอย่างหงุดหงิดใจเมื่อเห็นรายชื่อคนโทรเข้า

‘พี่ปุ่น’

ชายหนุ่มผละกายออกจากร่างเล็กที่นอนซุกอย่างหาความอบอุ่น เมื่อห่มผ้าให้เธอเรียบร้อยแล้วจึงออกไปกดรับสายนอกห้อง
ทินกรปรับเสียงให้เข้มกว่าปกติแล้วกรอกลงไปทันที “ฮัลโหล”

...[เอ่อ...นั่นเบอร์น้องชลใช่ไหมครับ]

“ใช่ครับ ทำไมเหรอ”

...[แล้วคุณเป็นใคร อ๋อ พี่ชายของชลสินะ สวัสดีครับ ผมชื่อปุ่น เป็นคนสนิทของชลครับ วันนี้ชลไม่มาทำงาน เมื่อเช้าผมไปหาที่ห้องก็ไม่เจอ ไม่ทราบว่าเป็นอะไรหรือเปล่า”

พระเอกหนุ่มขำคิกคักอย่างหมั่นไส้นัก คนสนิทของชลอย่างนั้นเหรอ ตลกสิ้นดี!

“ชลบอกคุณว่าผมเป็นพี่ชายเหรอ จริงๆ ผมเป็นสามีเขาต่างหาก ต้องขอโทษด้วยที่ภรรยาผมออกจะเจ้าชู้นิดหน่อย หว่านเสน่ห์ไม่เลือกจริงๆ เดี๋ยวผมคงต้องจัดการละ”

...[ฮะ? หมายความว่ายังไง]

“หมายความว่าผมเป็นสามีเธอครับ แค่นี้ก่อนนะเธอป่วยอยู่ ผมต้องไปดูแล พรุ่งนี้เธอคงไปทำงานได้ แต่คุณไม่ต้องมารับหรอก เดี๋ยวผมไปส่งเอง สวัสดี!” ประโยคสุดท้ายเขากระแทกเสียงด้วยความสะใจก่อนกดวาง นึกหน้าผู้กำกับหนุ่มตอนนี้ออกเลยทีเดียว

...กระอักเลือดตายไปเลยคุณปารวัตร โทษฐานที่มายุ่งกับของเล่นชิ้นโปรดของผม!

“พี่เพลิงคะ!” เสียงเรียกจากด้านหลังทำเอาทินกรสะดุ้งเฮือก ก่อนหันกลับมาสบตากับหญิงสาวหน้าตาสะสวย “เห็นทีมงานบอกว่าพี่ป่วย แล้วทำไมพี่ไม่โทรบอกฟ้าล่ะคะ โทรบอกพี่ดาวทำไม”

ชายหนุ่มปรับสีหน้าให้เรียบเฉยที่สุดทั้งที่ในใจเจ็บปวดปางตาย พยายามไม่สนความเป็นห่วงเป็นใยที่ฉายชัดออกจากแววตาอัจฉรา แวบหนึ่งที่เขานึกอยากถามเธอเหลือเกินว่าเมื่อไหร่จะเลิกเล่นละครตบตาเขาเสียที

“พี่ไม่เป็นอะไรมากหรอก ฟ้าไม่ต้องเป็นห่วง แล้วมานี่ที่กองไม่ว่าเหรอ”

“ฟ้าขอมาแค่แป๊บเดียวค่ะ เอานี่มาให้พี่เพลิงดู สิ่งที่พี่ทิ้งไว้ในงานเมื่อวาน” ประโยคหลังนั้นกดต่ำเพื่อให้เขารู้ว่าเธอกำลังโกรธ แต่เขาไม่สนใจอะไรนัก รับหนังสือมาพิมพ์มาอ่าน ก่อนจะยื่นคืนกลับไปอย่างไม่ใยดี

ภาพธราหอมแก้มเขาเมื่อคืนนี้ กับอีกภาพที่เขาพาตัวผู้หญิงปริศนาออกมากลางงาน โชคดีที่ทั้งสองภาพไม่สามารถเห็นหน้าฝ่ายหญิงได้ชัดเลย แต่เห็นหน้าเขานี่สิ ชัดที่สุด

“ขอบคุณที่เอามาให้ดู พรุ่งนี้ตอนไปอัดรายการคงได้พูดกันเรื่องนี้ซะทีให้มันจบๆ ไป”

“จบๆ ไป หมายความว่าไงคะ”

“หมายถึงเรื่องสัญญาน่ะ มันควรจบดีกว่า ตอนนี้มันอาจไม่จำเป็นแล้วก็ได้ ฟ้าเป็นนางเอก มีคนมากมายชื่นชอบ น่าจะพอแล้วเนอะ ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว เราควรต้องไปมีชีวิตของตัวเองกันสักที”

“หมายความว่าพี่คิดจะผิดสัญญากับฟ้าเพื่อมาคลุกคลีกับคนต้อยต่ำที่พี่เคยดูถูกอย่างงั้นเหรอคะ” นางเอกสาวเริ่มขึ้นเสียง อย่างไรก็ตามเธอต้องสำคัญกับผู้ชายคนนี้ที่สุดสิ

ไร้คำตอบจากปากทินกร เขายืนนิ่งมองดวงหน้างดงามนั้นอย่างเจ็บปวด ความเสียใจมันไม่เคยหายไป มันจะชัดขึ้นทุกครั้งที่ได้สานสบกับดวงตาคู่สวย ชายหนุ่มขยับร่างไปบังประตูไว้เมื่อเห็นเธอมองเหมือนจะเปิดเข้าไป

“ฟ้าขอเข้าไปในห้องได้ไหมคะ”

“ไม่ได้” ประกาศิตเด็ดขาดทำให้หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น รู้แน่ชัดแล้วว่าแม่ทีมงานตัวดีที่ปารวัตรไม่ได้พาไปกองด้วยเมื่อเช้านั้นอยู่ที่ใด

เธอส่งเสียงฮึในลำคอ จ้องมองใบหน้าคมเข้มนั้นด้วยดวงตาที่ต่างไปจากเดิม

“ได้ค่ะพี่เพลิง งั้นเจอกันพรุ่งนี้ที่สตู ดูเอาแล้วกันว่าจะจบได้ไหม” พูดจบ หญิงสาวก็หมุนตัวกลับอย่างเร็วทิ้งปลายผมสลวยให้สะบัดโดนหน้าชายหนุ่มอย่างให้รู้ว่าไม่พอใจ มือใหญ่ยกขึ้นลูบแก้มเบาๆ โดยที่สายตาไม่ละไปจากร่างเพรียวที่เดินห่างออกไป

ความรักจากคนที่เขาเคยถวิลหา ไกลห่างจากเขาออกไปเรื่อยๆ

ชายหนุ่มกุมหน้าอกด้านซ้ายของตัวเองแน่น หวังให้ความเจ็บมันจารึกลงไปในหัวใจ จดจำไว้ไม่ควรสงสารหรือเอื้ออาทรใดๆ ต่ออัจฉราอีก แต่เขากลับทำไม่ได้เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา เขารักและคิดถึงเธอมากเพียงใด อย่างไรเขาก็ทำร้ายผู้หญิงน่าสงสารคนนี้ไม่ได้อีกแล้ว สิ่งเดียวที่เขาทำได้ในตอนนี้ คือปกป้องคนป่วยที่นอนอยู่ในห้องให้เจ็บช้ำเพราะเขาน้อยที่สุดก็เท่านั้น

ทั้งอัจฉรา และสายน้ำในหัวใจเขา เขาสูญเสียใครไปไม่ได้จริงๆ

____________________________________________________________________________________

ฝากติดตามเพจด้วยน้าาา ชื่อเพจว่า "เอวาลิน - นักเขียน" ค่ะ

และฝากซื้ออีบุคที่ www.mebmarket.com ด้วยงับบบ ชื่อเรื่อง "หนึ่งใจในรอยกาล"

ใกล้จะหยุดอัพแล้วน้าาาา



เอวาลิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 พ.ย. 2559, 10:37:49 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 พ.ย. 2559, 10:37:49 น.

จำนวนการเข้าชม : 822





<< ตอนที่ 27 ...ลักหลับ   
Zephyr 3 ธ.ค. 2559, 13:05:00 น.
ผท_ไมต้องแคร์นังฟ้าร่วงนั่นด้วย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account