เกมรักบรรณาการร้อน ชุดรักเร่าร้อน
Tags: เกมรักบรรณาการร้อน, มายา, รักเร่าร้อน, นิยายรัก, บำเรอ, หลงรัก
ตอน: ตอนที่ 1 โจรสลัดมือสังหาร (ครึ่งแรก)
1
โจรสลัดมือสังหาร
ร่างที่ถูกลูกกระสุนจากอาวุธดำเมี่ยมไร้เสียงพุ่งเข้าใส่อย่างแม่นยำค่อยๆ ทรุดลงกับพื้น เลือดสีแดงที่ไหลทะลักออกจากช่องท้องเลอะเปื้อนกำแพงเป็นทาง แต่นั่นไม่ได้ทำให้มือสังหารรู้สึกสะทกสะท้าน เข้าใช้เท้าเหยียบซ้ำลงไปทีแผล ขณะที่มือก็ยังใช้อาวุธในมือจ่อแล้วกำลังจะถามอะไรบางอย่างออกไป
“กรี๊ดดด...อุ๊บ!”
เจ้าของเสียงยืนตัวแข็งทื่อดวงตาเบิกกว้าง หัวใจเต้นรัวราวกับมีกลองนับสิบใบตีอยู่ในอกรีบยกมือขึ้นตะปบปากที่หลุดเสียงกรีดร้องอย่างตกใจ เมื่อบังเอิญเดินหลงเข้าบริเวณซอกตึกเปลี่ยวแล้วเห็นการฆาตรกรรม
เธอหวังจะไม่ให้มือสังหารนั้นรู้ตัว แต่ดูเหมือนมันจะไม่เป็นผล ชายร่างสูงใหญ่ผมเผ้ายุ่งเหยิงหนวดเครารกรุงรังหันขวับมาทันที
“ใคร!”
น้ำเสียงกร้าวทรงพลังสบถถาม ร่างสูงใหญ่ผละจากเหยื่อที่ตอนนี้นอนชักกระตุกแล้วแน่นิ่งไป มาที่แขกไม่ได้รับเชิญ
และนั่นทำให้เจ้าของร่างบอบบางที่ยืนตัวสั่นงกๆ ฟันกระทบกันดังกึกๆ ได้เห็นใบหน้าของฆาตกรโหดชัดขึ้น ว่านอกจากหนวดเคราและผมเผ้าที่ดูไม่ได้แล้ว ตาขวาของไอ้ฆาตกรยังถูกปิดด้วยผ้าคาดตาดูคล้ายกับโจรสลัดยิ่งเพิ่มความน่ากลัวขึ้นไปอีกเท่าตัว
“มาทำอะไร!”
คนถูกถามสะดุ้งโหยงก้าวถอยหลังพลางส่ายศีรษะแทนคำตอบ เพราะตอนนี้เธอไม่สามารถเอื้อนเอ่ยคำพูดใดๆ ออกไปได้ ลำคอมันแห้งผาดตีบตันไปหมด
น้ำตาที่รื่นขึ้นมาจากความกลัวไหลลงอาบแก้มและก่อนที่ตัวเธอจะโดนฆาตกรรมเป็นรายต่อไป หญิงสาวพยายามตั้งสติแล้วหมุนตัววิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ไม่คิดแม้แต่จะหันกลับไปมองว่าเจ้าฆาตรกรโหดคนนั้นได้ตามมาหรือไม่
ไออุ่นวิ่งมายืนหายใจหอบตัวโยนมองซ้ายมองขวามองหน้ามองหลังพลางเช็ดน้ำตาด้วยมือที่สั่นเทาอยู่หน้าคาบาเรต์โชว์ ที่เธอและเพื่อนๆ เพิ่งดูโชว์จบไปได้ไม่นาน แต่ด้วยวันนี้ทั้งพรีเซนงานและทำกิจกรรมตามตารางกิจกรรมของทางบริษัทที่จัดเที่ยวพร้อมกับการสัมนานอกสถานที่ประจำปีมันก็ทำให้เธอเหนื่อยจนไม่อยากไปต่อ อยากกลับไปทิ้งตัวลงนอนแผ่หราอยู่บนที่นอนนุ่มๆ มากกว่า
ดังนั้นหลังจากดูคาบาเร่ย์โชว์จบเธอกับเพื่อนๆ ที่ยังจะเที่ยวต่อจึงแยกกัน และไม่น่าเชื่อว่ามีเธอคนเดียวเท่านั้นที่อยากจะกลับไปนอน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะมั่นใจว่าตัวเองจำทางกลับโรงแรมที่พักได้ ทว่าไม่รู้เพราะเหนื่อยหรือง่วงจัด ความมั่นใจที่มีไม่ได้ช่วยอะไรเลย
…เธอหลงทาง ยิ่งเดินก็ยิ่งเปลี่ยวและ…เจอดีเข้าจนได้
“เอาไงดีล่ะทีนี้”
หญิงสาวที่สติมาแต่ปัญญายังไม่ค่อยเกิดเท่าไหร่ยืนเกาหัวแกรกๆ หันซ้ายหันขวา ก่อนจะวกกลับมาก้มดูนาฬิกาข้อมือ เกือบจะสี่ทุ่มแล้ว จะเอาไงดี ให้กลับโรงแรมคนเดียวตอนนี้เธอคงไม่เอา โทร.ให้ใครสักคนมารับดีกว่า อย่างน้อยเดินเที่ยวก็คงดีกว่าถูกฆ่าหมกซอกตึก
ว่าแล้วก็ล้วงโทรศัพท์ขึ้นมายังไม่ทันจะได้กดต่อสายหางตาก็เหลือบไปเห็นฝรั่งร่างสูงสองคนที่เดินเด่นมาแต่ไกลๆ ‘โจรสลัดมือสังหาร’ เอาฉายานี้ไปเพราะมันเหมาะกับเฮียมาก
บรรลัยแล้ว…ไอ้หน้าหล่อที่เดินมาด้วยกันมันชีโบ้ชี้เบ้มาที่คาบาเร่ย์โชว์ที่เธอยืนอยู่ จะมาทำไมคะเฮียโหด วันนี้เขาหมดรอบแสดงแล้ววว…ไปที่อื่นไป๊ มือบางทำท่าโบกไล่ แน่ะ! ไม่ไป ไปเองก็ได้วะ…
ไออุ่นรีบหมุนตัววิ่งหนีเข้าไปในฝูงชนนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศด้วยความเร็วเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะเร็วได้ กึ่งวิ่งกึ่งเดินเบี่ยงหลบไปเรื่อยๆ อย่างไม่รู้จุดหมาย เธอต้องหนีให้พ้น…พ้นไหม…พ้นไหม
“กรี๊ดดด! อุ๊บ!”
ไม่พ้น…เธอหนีไม่พ้นหรือนี่ ไออุ่นที่โดนล๊อคคอปิดปากพยายามดิ้นรนขัดขืนอย่างคนที่กำลังเอาตัวรอดจากความตาย และอาเฮียแกโหดได้ใจจริงๆ คนมากมายแต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยเธอเลยสักคน พวกแล้งน้ำใจ ถ้าตายไปจะตามมาหลอกมาหลอน ไออุ่นคร่ำครวญ น้ำตาเริ่มซึมจากหางตา
แต่…เอะ! มีเสียงหัวเราะสดใสใกล้ๆ หู
เธอหยุดดิ้นและหันขวับ!
“จ๊ะเอ๋! ยัยออออ” ใบหน้าทะเล้นปรากฏตรงหน้าและคนที่เรียกเธอว่า ‘ออออ’ ไม่มีใครเลย…
“อีนังวิทยา!”
“ว๊าย! หยาบคาย…ไอซ์…บอกให้เรียกไอซ์ให้ติดปาก วิทยงวิทยาอะไรลืมมันไปได้เลย บอกไม่รู้จักฟังเดี๋ยวแม่ฆ่าหักคอเลยนี่”
ไอซ์ชื่อเล่นที่ตั้งขึ้นใหม่หรือวิทยาชื่อจริงในบัตรประชาชนจีบปากจีบคอสั่งสอนเพื่อนสาวคนสวยอย่างไม่จริงจังนัก ขณะเดียวกันก็คอยเล่นหูเล่นตาให้ท่าฝรั่งที่เดินเฉียด เดินห่าง แต่ไม่ห่างจากเรดาห์จับผู้ชายของนางเป็นระยะๆ
“ก็ใครใช้ให้แกเล่นแบบนี้ล่ะ”
ไออุ่นสะบัดตัวออกห่างเพื่อนสาวประเภทสองร่างบึก ป้ายมือปาดหางตาป้อยๆ ขณะที่ใจยังเต้นระส่ำอกสั่นขวัญแขวน
“โอ๋…ขวัญเอ๋อขวัญมาแม่นางออออ” ออออ เป็นชื่อย่อจากชื่อเต็ม ไออุ่น ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันต่างกันตรงไหนสองพยางค์เหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าของชื่ออย่างเธอก็ไม่เคยค้าน แม้ได้ยินตอนแรกจะงงระคนขำไม่น้อย ดีน่ะที่ชื่อ ไออุ่น ถ้าชื่อ ดวงดาว ล่ะมีหวังฮากว่านี้
“เอ้อ แล้วนี่เธอ…ไหนว่าจะกลับโรงแรมไงยะหล่อน ทำไมมาวิ่งลิ้นห้อยหน้าตื่นอยู่แถวนี้ล่ะ หรือว่าโดนฝรั่งไล่ตะครุบ ไหนๆๆ คนไหนเอ่ย…หล่อไหม”
“ไม่! เฮ้ย! ไม่ใช่” มือบางตีเข้าที่ไหล่กว้างภายใต้เสื้อรัดติ้ว “ฉันแค่เปลี่ยนใจเท่านั้น เห็นหลังแกไวๆ เลยรีบวิ่งตามมา”
“อ๋อ….แล้วไป” บอกอย่างไม่ติดใจสงสัยอะไร จากนั้นก็คว้าเกี่ยวแขนเรียวเล็กเข้าไปกอดและยิ้มอย่างหมายมาด “งั้นเราสองไปเดินท่องราตรีส่องหนุ่มๆ กันดีกว่า” ไออุ่นพยักหน้ารับอย่างไว เกาะแขนล่ำเอาไว้แน่น ณ ตอนนี้จะพาเธอไปไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละ ไม่เกี่ยงขอให้มีชีวิตรอดปลอดภัยกลับไปหายายที่บ้านก็พอ
“กะจะมาพักผ่อนแม่งมาทำให้เสียอารมณ์”
ชายหนุ่มหน้าตาดุดันรกครึ้มไปด้วยหนวดเคราและผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงล้วงบุหรี่ขึ้นมาจุดพลางบ่นอย่างหงุดหงิด
ไมก้า พาสคาร์รี่ อดีตทหารหน่วยรบพิเศษ SAS[1]ทายาทโดยตรงเพียงคนเดียวของตระกูลพาสคาร์รี่ที่มีธุรกิจมากมายมหาศาลเกือบทุกแขนงอยู่ในมือ หลังจากปลดประจำการตัวเองจากอาชีพที่รักเพราะสูญเสียดวงตาข้างขวาจากการปฏิบัติหน้าที่ ไมก้าห์ก็เขามารับตำแหน่งผู้กุมบังเหี้ยธุรกิจทุกอย่างต่อจากบิดารวมถึงศัตรูคู่แค้นต่างๆ ที่ขยันตามล้างตามฆ่าหมายเอาชีวิตได้ทุกฝีก้าว แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านสมรภูมิมาอย่างโชกโชนเรื่องแค่นี้ไม่ได้ทำให้เขาหวาดกลัวหรือสะดุ้งสะเทือนเลยแม้แต่น้อย
ดวงตาดุกร้าวที่เหลือเพียงข้างเดียว ส่วนอีกข้างถูกผ้าคาดตาสีดำสนิทปิดเอาไว้กวาดมองไปทั่วบริเวณที่ตัวเองก้าวผ่านอย่างไม่วางใจ แม้คืนนี้เขาจะจัดการไปแล้วหนึ่ง แถมมีผู้หญิงเอ๋อๆ มาเห็นและวิ่งหนีป่าราบหนีไปไหนแล้วก็ไม่รู้ หรือยัยนั่นจะไปแจ้งตำรวจ คงเจอหรอก คนอย่างเขาไม่คิดจะทิ้งหลักฐานให้ใครดมกลิ่นได้ง่ายๆ
และหมอนี้จัดการไปอีกสอง เขาเหลือบตามอง คาร์ลอส เลขาพ่วงตำแหน่งบอดีการ์ดที่เดินเก๊กหน้าหล่อให้สาวแท้สาวเทียมแทะโลมและส่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้เป็นระยะๆ แต่ทันทีที่พวกเธอเหล่านั้นมองเลยผ่านมาที่เขาเป็นต้องสะดุ้งโหยงรีบหลบสายตาก้มหน้าเดินหนีแทบจะทันที ฮึ! ไม่แปลกหรอกเพราะดูยังไงๆ ก็เทพบุตรเดินคู่มากับมหาโจร
มันเทพบุตร เขามหาโจร
“นี่เหรอที่นายบอกจะพามาดูโชว์” ไมก้าห์ทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้นแล้วใช้ปลายเท้าบดขยี้ เงยหน้าขึ้นมองภาพนางโชว์ในชุดอลังการตรงหน้า
“ใช่ แต่ดูเหมือนวันนี้จะหมดรอบแล้ว”
คาร์ลอสบอดี้การ์ดสุดหล่อลูกเสี้ยวบราซิล-อังกฤษ-ไทยพลิกนาฬิกาข้อมือดูพลางยักไหล่ ไม่ทัน พวกเขาเสียเวลาไปกับการโดนไล่ล่าและเป็นฝ่ายไล่ล่าไปเป็นชั่วโมง
“ไม่มีอะไรน่าจรรโลงใจสักอย่าง”
“นั่นเป็นไง” ไมก้าห์หันขวับตามที่บอดีการ์ดพยักพเยิดด้วยรอยยิ้มแปลกๆ และเป็นจังหวะเดียวกับที่แขนของเขาโดนรวบไปกอด
“หาเพื่อนเที่ยวหรือคะสุดหล่อ ไปด้วยกันไหม เถื่อนเร้าใจอย่างนี้ชอบ…”
แต่กูไม่ชอบ…ไมก้าห์สบถในใจ รูปร่างก็เล็กบางดีอยู่ หน้าอกหน้าใจที่ดันขึ้นมาจนล้นทะลักเสื้อเกาะอกก็พอดูได้ แต่หน้าที่โบ๊ะจนขาววอกหันมองทีสะดุ้ง เสียงใหญ่ที่ดัดจนเล็กแหลมชวนขนลุกนี่แหละทำให้ชายหนุ่มสะบัดขยับตัวหนีแล้วดันร่างสูงของคาร์ลอสไปให้เธอคนที่ยืนกะพริบตาปริบๆ ขนตาปลอมยาวหนาเป็นแพขยับพึ่บๆ และไม่ผิดหวังนางคว้าหมับทันที เขาเองก็เดินหนีทันทีเช่นกัน ไม่สนใจด้วยว่าคาร์ลอสจะเอาตัวรอดจากสาวประเภทสองหิวโซคนนั้นได้อย่างไร
ไมก้าห์เดินทอดน่องดึงบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบอัดเข้าปอดอีกครั้ง ขณะที่สายตาก็กวาดมองผู้คนที่เดินกันขวักไขว่ เขาแทบจะไม่สนใจร้านรวงสองข้างทางอย่างนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เขาเดินตรงไป…ตรงไป…และก็ตรงไป ก่อนจะเลี้ยวเข้าผับแห่งหนึ่งที่คิดว่าน่าจะดีในสายตา
ร่างสูงใหญ่ที่เดินเข้ามาเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ พอสมควร ไม่ใช่เพราะหล่อสะดุดตา หากแต่สภาพเยี่ยงโจรสลัดนั่นต่างหากเล่า เจ้าตัวรู้ดีแต่ไม่คิดจะสนใจปัจจุบันคนส่วนใหญ่ตัดสินกันจากรูปลักษณ์ภายนอกมากกว่าข้างใน ดังนั้นไม่แปลกเลยที่หลายๆ คนกระโดดเข้าใส่ก้อนกรวดที่ถูกห่อหุ้มด้วยเปลือกสวยงามมากกว่าเพชรแท้ที่ห่อหุ้มด้วยผ้าขี้ริ้ว
[1] SAS ย่อมาจาก สเปเชียลแอร์เซอร์วิส (Special Air Service; ตัวย่อ: SAS) เป็นหน่วยรบพิเศษทางอากาศแห่งกองทัพอังกฤษ ซึ่งได้รับคำชมเชยและยกย่องเช่นเดียวกันกับ หน่วย Delta Force กับ Navy Seal ของ สหรัฐอเมริกา
อัพให้อ่านกันอีกรอบนะคะหลังจากที่อัพรอบแรกเมื่อนานนนนนนมาแล้ว ฮ่าๆๆๆ รอบนี้จะพยายามอัพให้อ่านกันทุกวัน ถ้าไม่มีเหตุขัดข้องนะคะ และที่สำคัญตอนนี้อัพที่เดียว 3 เรื่องในวันเดียวกันเลย เช้า กลางวัน เย็น กันเลย
อัพตอนเช้า เจ้าหัวใจแดนเถื่อน ตามไปอ่านคลิ๊กที่ชื่อเรื่องเลยค่า
อัพตอนกลางวัน ก็เรื่องนี้แหละจ้า เกมรักบรรณาการร้อน
อัพตอนเย็นและอาจจะเลทไปช่วงดึกๆ เรื่อง ขอความรักที่... ตามอ่านคลิ๊กที่ชื่อเรื่องตามไปเลยค่า
ขอบคุณทุกการติดตามเป็นกำลังใจให้นักเขียนด้วยนะจ๊ะ ^_^
ดาวโหลด E-book ได้ที่
- เวบ MEB
- เวบ hytexs
- เวบ ebook
โจรสลัดมือสังหาร
ร่างที่ถูกลูกกระสุนจากอาวุธดำเมี่ยมไร้เสียงพุ่งเข้าใส่อย่างแม่นยำค่อยๆ ทรุดลงกับพื้น เลือดสีแดงที่ไหลทะลักออกจากช่องท้องเลอะเปื้อนกำแพงเป็นทาง แต่นั่นไม่ได้ทำให้มือสังหารรู้สึกสะทกสะท้าน เข้าใช้เท้าเหยียบซ้ำลงไปทีแผล ขณะที่มือก็ยังใช้อาวุธในมือจ่อแล้วกำลังจะถามอะไรบางอย่างออกไป
“กรี๊ดดด...อุ๊บ!”
เจ้าของเสียงยืนตัวแข็งทื่อดวงตาเบิกกว้าง หัวใจเต้นรัวราวกับมีกลองนับสิบใบตีอยู่ในอกรีบยกมือขึ้นตะปบปากที่หลุดเสียงกรีดร้องอย่างตกใจ เมื่อบังเอิญเดินหลงเข้าบริเวณซอกตึกเปลี่ยวแล้วเห็นการฆาตรกรรม
เธอหวังจะไม่ให้มือสังหารนั้นรู้ตัว แต่ดูเหมือนมันจะไม่เป็นผล ชายร่างสูงใหญ่ผมเผ้ายุ่งเหยิงหนวดเครารกรุงรังหันขวับมาทันที
“ใคร!”
น้ำเสียงกร้าวทรงพลังสบถถาม ร่างสูงใหญ่ผละจากเหยื่อที่ตอนนี้นอนชักกระตุกแล้วแน่นิ่งไป มาที่แขกไม่ได้รับเชิญ
และนั่นทำให้เจ้าของร่างบอบบางที่ยืนตัวสั่นงกๆ ฟันกระทบกันดังกึกๆ ได้เห็นใบหน้าของฆาตกรโหดชัดขึ้น ว่านอกจากหนวดเคราและผมเผ้าที่ดูไม่ได้แล้ว ตาขวาของไอ้ฆาตกรยังถูกปิดด้วยผ้าคาดตาดูคล้ายกับโจรสลัดยิ่งเพิ่มความน่ากลัวขึ้นไปอีกเท่าตัว
“มาทำอะไร!”
คนถูกถามสะดุ้งโหยงก้าวถอยหลังพลางส่ายศีรษะแทนคำตอบ เพราะตอนนี้เธอไม่สามารถเอื้อนเอ่ยคำพูดใดๆ ออกไปได้ ลำคอมันแห้งผาดตีบตันไปหมด
น้ำตาที่รื่นขึ้นมาจากความกลัวไหลลงอาบแก้มและก่อนที่ตัวเธอจะโดนฆาตกรรมเป็นรายต่อไป หญิงสาวพยายามตั้งสติแล้วหมุนตัววิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ไม่คิดแม้แต่จะหันกลับไปมองว่าเจ้าฆาตรกรโหดคนนั้นได้ตามมาหรือไม่
ไออุ่นวิ่งมายืนหายใจหอบตัวโยนมองซ้ายมองขวามองหน้ามองหลังพลางเช็ดน้ำตาด้วยมือที่สั่นเทาอยู่หน้าคาบาเรต์โชว์ ที่เธอและเพื่อนๆ เพิ่งดูโชว์จบไปได้ไม่นาน แต่ด้วยวันนี้ทั้งพรีเซนงานและทำกิจกรรมตามตารางกิจกรรมของทางบริษัทที่จัดเที่ยวพร้อมกับการสัมนานอกสถานที่ประจำปีมันก็ทำให้เธอเหนื่อยจนไม่อยากไปต่อ อยากกลับไปทิ้งตัวลงนอนแผ่หราอยู่บนที่นอนนุ่มๆ มากกว่า
ดังนั้นหลังจากดูคาบาเร่ย์โชว์จบเธอกับเพื่อนๆ ที่ยังจะเที่ยวต่อจึงแยกกัน และไม่น่าเชื่อว่ามีเธอคนเดียวเท่านั้นที่อยากจะกลับไปนอน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะมั่นใจว่าตัวเองจำทางกลับโรงแรมที่พักได้ ทว่าไม่รู้เพราะเหนื่อยหรือง่วงจัด ความมั่นใจที่มีไม่ได้ช่วยอะไรเลย
…เธอหลงทาง ยิ่งเดินก็ยิ่งเปลี่ยวและ…เจอดีเข้าจนได้
“เอาไงดีล่ะทีนี้”
หญิงสาวที่สติมาแต่ปัญญายังไม่ค่อยเกิดเท่าไหร่ยืนเกาหัวแกรกๆ หันซ้ายหันขวา ก่อนจะวกกลับมาก้มดูนาฬิกาข้อมือ เกือบจะสี่ทุ่มแล้ว จะเอาไงดี ให้กลับโรงแรมคนเดียวตอนนี้เธอคงไม่เอา โทร.ให้ใครสักคนมารับดีกว่า อย่างน้อยเดินเที่ยวก็คงดีกว่าถูกฆ่าหมกซอกตึก
ว่าแล้วก็ล้วงโทรศัพท์ขึ้นมายังไม่ทันจะได้กดต่อสายหางตาก็เหลือบไปเห็นฝรั่งร่างสูงสองคนที่เดินเด่นมาแต่ไกลๆ ‘โจรสลัดมือสังหาร’ เอาฉายานี้ไปเพราะมันเหมาะกับเฮียมาก
บรรลัยแล้ว…ไอ้หน้าหล่อที่เดินมาด้วยกันมันชีโบ้ชี้เบ้มาที่คาบาเร่ย์โชว์ที่เธอยืนอยู่ จะมาทำไมคะเฮียโหด วันนี้เขาหมดรอบแสดงแล้ววว…ไปที่อื่นไป๊ มือบางทำท่าโบกไล่ แน่ะ! ไม่ไป ไปเองก็ได้วะ…
ไออุ่นรีบหมุนตัววิ่งหนีเข้าไปในฝูงชนนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศด้วยความเร็วเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะเร็วได้ กึ่งวิ่งกึ่งเดินเบี่ยงหลบไปเรื่อยๆ อย่างไม่รู้จุดหมาย เธอต้องหนีให้พ้น…พ้นไหม…พ้นไหม
“กรี๊ดดด! อุ๊บ!”
ไม่พ้น…เธอหนีไม่พ้นหรือนี่ ไออุ่นที่โดนล๊อคคอปิดปากพยายามดิ้นรนขัดขืนอย่างคนที่กำลังเอาตัวรอดจากความตาย และอาเฮียแกโหดได้ใจจริงๆ คนมากมายแต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยเธอเลยสักคน พวกแล้งน้ำใจ ถ้าตายไปจะตามมาหลอกมาหลอน ไออุ่นคร่ำครวญ น้ำตาเริ่มซึมจากหางตา
แต่…เอะ! มีเสียงหัวเราะสดใสใกล้ๆ หู
เธอหยุดดิ้นและหันขวับ!
“จ๊ะเอ๋! ยัยออออ” ใบหน้าทะเล้นปรากฏตรงหน้าและคนที่เรียกเธอว่า ‘ออออ’ ไม่มีใครเลย…
“อีนังวิทยา!”
“ว๊าย! หยาบคาย…ไอซ์…บอกให้เรียกไอซ์ให้ติดปาก วิทยงวิทยาอะไรลืมมันไปได้เลย บอกไม่รู้จักฟังเดี๋ยวแม่ฆ่าหักคอเลยนี่”
ไอซ์ชื่อเล่นที่ตั้งขึ้นใหม่หรือวิทยาชื่อจริงในบัตรประชาชนจีบปากจีบคอสั่งสอนเพื่อนสาวคนสวยอย่างไม่จริงจังนัก ขณะเดียวกันก็คอยเล่นหูเล่นตาให้ท่าฝรั่งที่เดินเฉียด เดินห่าง แต่ไม่ห่างจากเรดาห์จับผู้ชายของนางเป็นระยะๆ
“ก็ใครใช้ให้แกเล่นแบบนี้ล่ะ”
ไออุ่นสะบัดตัวออกห่างเพื่อนสาวประเภทสองร่างบึก ป้ายมือปาดหางตาป้อยๆ ขณะที่ใจยังเต้นระส่ำอกสั่นขวัญแขวน
“โอ๋…ขวัญเอ๋อขวัญมาแม่นางออออ” ออออ เป็นชื่อย่อจากชื่อเต็ม ไออุ่น ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันต่างกันตรงไหนสองพยางค์เหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าของชื่ออย่างเธอก็ไม่เคยค้าน แม้ได้ยินตอนแรกจะงงระคนขำไม่น้อย ดีน่ะที่ชื่อ ไออุ่น ถ้าชื่อ ดวงดาว ล่ะมีหวังฮากว่านี้
“เอ้อ แล้วนี่เธอ…ไหนว่าจะกลับโรงแรมไงยะหล่อน ทำไมมาวิ่งลิ้นห้อยหน้าตื่นอยู่แถวนี้ล่ะ หรือว่าโดนฝรั่งไล่ตะครุบ ไหนๆๆ คนไหนเอ่ย…หล่อไหม”
“ไม่! เฮ้ย! ไม่ใช่” มือบางตีเข้าที่ไหล่กว้างภายใต้เสื้อรัดติ้ว “ฉันแค่เปลี่ยนใจเท่านั้น เห็นหลังแกไวๆ เลยรีบวิ่งตามมา”
“อ๋อ….แล้วไป” บอกอย่างไม่ติดใจสงสัยอะไร จากนั้นก็คว้าเกี่ยวแขนเรียวเล็กเข้าไปกอดและยิ้มอย่างหมายมาด “งั้นเราสองไปเดินท่องราตรีส่องหนุ่มๆ กันดีกว่า” ไออุ่นพยักหน้ารับอย่างไว เกาะแขนล่ำเอาไว้แน่น ณ ตอนนี้จะพาเธอไปไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละ ไม่เกี่ยงขอให้มีชีวิตรอดปลอดภัยกลับไปหายายที่บ้านก็พอ
“กะจะมาพักผ่อนแม่งมาทำให้เสียอารมณ์”
ชายหนุ่มหน้าตาดุดันรกครึ้มไปด้วยหนวดเคราและผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงล้วงบุหรี่ขึ้นมาจุดพลางบ่นอย่างหงุดหงิด
ไมก้า พาสคาร์รี่ อดีตทหารหน่วยรบพิเศษ SAS[1]ทายาทโดยตรงเพียงคนเดียวของตระกูลพาสคาร์รี่ที่มีธุรกิจมากมายมหาศาลเกือบทุกแขนงอยู่ในมือ หลังจากปลดประจำการตัวเองจากอาชีพที่รักเพราะสูญเสียดวงตาข้างขวาจากการปฏิบัติหน้าที่ ไมก้าห์ก็เขามารับตำแหน่งผู้กุมบังเหี้ยธุรกิจทุกอย่างต่อจากบิดารวมถึงศัตรูคู่แค้นต่างๆ ที่ขยันตามล้างตามฆ่าหมายเอาชีวิตได้ทุกฝีก้าว แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านสมรภูมิมาอย่างโชกโชนเรื่องแค่นี้ไม่ได้ทำให้เขาหวาดกลัวหรือสะดุ้งสะเทือนเลยแม้แต่น้อย
ดวงตาดุกร้าวที่เหลือเพียงข้างเดียว ส่วนอีกข้างถูกผ้าคาดตาสีดำสนิทปิดเอาไว้กวาดมองไปทั่วบริเวณที่ตัวเองก้าวผ่านอย่างไม่วางใจ แม้คืนนี้เขาจะจัดการไปแล้วหนึ่ง แถมมีผู้หญิงเอ๋อๆ มาเห็นและวิ่งหนีป่าราบหนีไปไหนแล้วก็ไม่รู้ หรือยัยนั่นจะไปแจ้งตำรวจ คงเจอหรอก คนอย่างเขาไม่คิดจะทิ้งหลักฐานให้ใครดมกลิ่นได้ง่ายๆ
และหมอนี้จัดการไปอีกสอง เขาเหลือบตามอง คาร์ลอส เลขาพ่วงตำแหน่งบอดีการ์ดที่เดินเก๊กหน้าหล่อให้สาวแท้สาวเทียมแทะโลมและส่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้เป็นระยะๆ แต่ทันทีที่พวกเธอเหล่านั้นมองเลยผ่านมาที่เขาเป็นต้องสะดุ้งโหยงรีบหลบสายตาก้มหน้าเดินหนีแทบจะทันที ฮึ! ไม่แปลกหรอกเพราะดูยังไงๆ ก็เทพบุตรเดินคู่มากับมหาโจร
มันเทพบุตร เขามหาโจร
“นี่เหรอที่นายบอกจะพามาดูโชว์” ไมก้าห์ทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้นแล้วใช้ปลายเท้าบดขยี้ เงยหน้าขึ้นมองภาพนางโชว์ในชุดอลังการตรงหน้า
“ใช่ แต่ดูเหมือนวันนี้จะหมดรอบแล้ว”
คาร์ลอสบอดี้การ์ดสุดหล่อลูกเสี้ยวบราซิล-อังกฤษ-ไทยพลิกนาฬิกาข้อมือดูพลางยักไหล่ ไม่ทัน พวกเขาเสียเวลาไปกับการโดนไล่ล่าและเป็นฝ่ายไล่ล่าไปเป็นชั่วโมง
“ไม่มีอะไรน่าจรรโลงใจสักอย่าง”
“นั่นเป็นไง” ไมก้าห์หันขวับตามที่บอดีการ์ดพยักพเยิดด้วยรอยยิ้มแปลกๆ และเป็นจังหวะเดียวกับที่แขนของเขาโดนรวบไปกอด
“หาเพื่อนเที่ยวหรือคะสุดหล่อ ไปด้วยกันไหม เถื่อนเร้าใจอย่างนี้ชอบ…”
แต่กูไม่ชอบ…ไมก้าห์สบถในใจ รูปร่างก็เล็กบางดีอยู่ หน้าอกหน้าใจที่ดันขึ้นมาจนล้นทะลักเสื้อเกาะอกก็พอดูได้ แต่หน้าที่โบ๊ะจนขาววอกหันมองทีสะดุ้ง เสียงใหญ่ที่ดัดจนเล็กแหลมชวนขนลุกนี่แหละทำให้ชายหนุ่มสะบัดขยับตัวหนีแล้วดันร่างสูงของคาร์ลอสไปให้เธอคนที่ยืนกะพริบตาปริบๆ ขนตาปลอมยาวหนาเป็นแพขยับพึ่บๆ และไม่ผิดหวังนางคว้าหมับทันที เขาเองก็เดินหนีทันทีเช่นกัน ไม่สนใจด้วยว่าคาร์ลอสจะเอาตัวรอดจากสาวประเภทสองหิวโซคนนั้นได้อย่างไร
ไมก้าห์เดินทอดน่องดึงบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบอัดเข้าปอดอีกครั้ง ขณะที่สายตาก็กวาดมองผู้คนที่เดินกันขวักไขว่ เขาแทบจะไม่สนใจร้านรวงสองข้างทางอย่างนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เขาเดินตรงไป…ตรงไป…และก็ตรงไป ก่อนจะเลี้ยวเข้าผับแห่งหนึ่งที่คิดว่าน่าจะดีในสายตา
ร่างสูงใหญ่ที่เดินเข้ามาเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ พอสมควร ไม่ใช่เพราะหล่อสะดุดตา หากแต่สภาพเยี่ยงโจรสลัดนั่นต่างหากเล่า เจ้าตัวรู้ดีแต่ไม่คิดจะสนใจปัจจุบันคนส่วนใหญ่ตัดสินกันจากรูปลักษณ์ภายนอกมากกว่าข้างใน ดังนั้นไม่แปลกเลยที่หลายๆ คนกระโดดเข้าใส่ก้อนกรวดที่ถูกห่อหุ้มด้วยเปลือกสวยงามมากกว่าเพชรแท้ที่ห่อหุ้มด้วยผ้าขี้ริ้ว
[1] SAS ย่อมาจาก สเปเชียลแอร์เซอร์วิส (Special Air Service; ตัวย่อ: SAS) เป็นหน่วยรบพิเศษทางอากาศแห่งกองทัพอังกฤษ ซึ่งได้รับคำชมเชยและยกย่องเช่นเดียวกันกับ หน่วย Delta Force กับ Navy Seal ของ สหรัฐอเมริกา
อัพให้อ่านกันอีกรอบนะคะหลังจากที่อัพรอบแรกเมื่อนานนนนนนมาแล้ว ฮ่าๆๆๆ รอบนี้จะพยายามอัพให้อ่านกันทุกวัน ถ้าไม่มีเหตุขัดข้องนะคะ และที่สำคัญตอนนี้อัพที่เดียว 3 เรื่องในวันเดียวกันเลย เช้า กลางวัน เย็น กันเลย
อัพตอนเช้า เจ้าหัวใจแดนเถื่อน ตามไปอ่านคลิ๊กที่ชื่อเรื่องเลยค่า
อัพตอนกลางวัน ก็เรื่องนี้แหละจ้า เกมรักบรรณาการร้อน
อัพตอนเย็นและอาจจะเลทไปช่วงดึกๆ เรื่อง ขอความรักที่... ตามอ่านคลิ๊กที่ชื่อเรื่องตามไปเลยค่า
ขอบคุณทุกการติดตามเป็นกำลังใจให้นักเขียนด้วยนะจ๊ะ ^_^
ดาวโหลด E-book ได้ที่
- เวบ MEB
- เวบ hytexs
- เวบ ebook
เกศมณี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 ธ.ค. 2559, 16:11:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ธ.ค. 2559, 16:11:09 น.
จำนวนการเข้าชม : 911
ตอนที่ 1 โจรสลัดมือสังหาร (ครึ่งหลัง) >> |