แรงรักบุษบา (รอก่อนนะคะ)
การพบกันอย่างมีปริศนา
แต่ได้นำพา ความรัก มาสู่หัวใจทั้งสอง

"ธรรศ" นายแบบ-นักแสดงสุดหล่อ
เกิดความสนใจ "รวินท์รดา" สาวครีเอทีฟมาดห้าว
แต่เรื่องนี้ไม่ง่าย รวินท์รดา พยายามหนีให้ห่างจาก ธรรศ
ยิ่งเขาตามติด เธอก็ยิ่งวิ่งหนี
ถ้าหนีไปนอกโลกได้แล้วเขาไม่ตามเธอก็จะทำ!

แต่มันก็ไม่ง่ายสำหรับ รวินท์รดา เช่นกัน
เมื่อเธอยิ่งหนี กลับพบว่ายิ่งกลายเป็นวิ่งสามขา
ถ้าคนใดคนหนึ่งล้ม อีกคนก็เจ็บเหมือนกัน

นอกจากจะไขปริศนา "ลึกลับ"
ก็ไม่มีทางอื่น
และหัวใจก็ไม่อาจปฏิเสธ "ความรัก"
ที่เกิดขึ้นได้เช่นกัน
Tags: ปิ่นนลิน ลึกลับ ปริศนา

ตอน: ตอนที่ 13 - 100%

ตอนที่ 13 - 100%


“นั่นนางแบบเป็นอะไรอะครับ” ห้องศิลป์ชะเง้อมองคนหลายคนรุมล้อมนางแบบสาวสวยอยู่ก็นึกสนใจด้วยเช่นกัน และเป็นต้าหลิงที่เดินตรงมาทางเขาอย่างรีบร้อน

“คุณเดหลีโดนอะไรบาดแขนไม่รู้ครับ เลือดไหลเยอะมาก ผมจะไปเตรียมรถเพื่อพาคุณเดหลีไปทำแผลครับพี่ปั้น”

“ว่าไงนะ”

ปราชญ์ดาทะลึ่งลุกพรวดจากเก้าอี้ ผุดตรงไปยังจุดเกิดเหตุ ปราณนท์พาเดหลีไปทำแผลที่โรงพยาบาลหลังจากปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว รอยเลือดของเดหลีหยดลงพื้นเป็นจุด ๆ ได้ยินเจ้าหน้าที่ดูแลรถแข่งบอกว่าโชคดีที่เลือดนางแบบไม่เลอะรถแข่งราคาแพงจนปราชญ์ดาหันไปส่งสายตาตำหนิ คนเจ็บอยู่แท้ ๆ ดันมาห่วงเรื่องไม่เป็นเรื่องได้

แต่ปราชญ์ดาก็เลิกสนใจเรื่องกวนใจเพราะอาการยืนหน้าเครียดนิ่ง ๆ ของธรรศชวนให้เขากังวลใจมากกว่า

“นายไม่ได้บาดเจ็บอะไรใช่ไหม” เสียงของปราชญ์ดาปลุกคนยืนเหม่อให้รู้สึกตัว ธรรศสบตาคนถามก่อนจะพยายามยิ้มให้

“ไม่เป็นไรครับ นี่เลือดของเดหลีทั้งนั้น ผมว่าผมไปเปลี่ยนชุดก่อนดีกว่า” ธรรศบอกจบก็เดินตรงไปยังรถบ้านที่เช่าไว้สำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้า

“เกิดอะไรขึ้นน่ะบัว ทำไมนางแบบถึงบาดเจ็บได้ล่ะ” ห้องศิลป์เข้ามาถามเพื่อนสนิทสาว รวินท์รดาหายแน่นหน้าอกแล้วแต่ยังไม่หายตกใจกับบางสิ่งบางอย่างที่เธอเห็น ทำให้ไม่ทันได้ยินเสียงของเพื่อนซี้ กระทั่งถูกเขย่าตัวเบาๆ

“บัว! บัวเป็นอะไรไป”

“ไม่ได้เป็นอะไร” รวินท์รดาตอบแบบนั้น แต่คิ้วเรียวเหนือดวงตากลมยังขมวดมุ่น สงสัยว่าเธอตาฝาดไปเองเพราะทำงานดึก นอนก็น้อย หรือเป็นความจริงกันแน่

“พี่อาร์ตี้คะ มิวว่าเรากลับกันดีกว่านะคะ หัวหน้าตามแล้วค่ะ” คอลัมนิสต์สาวเดินมาตาม โชคดีที่การสัมภาษณ์รองผู้บริหารหนุ่มแห่งสยาม อาร์ทีทีนั้นเสร็จก่อนที่เกิดเรื่องเดหลีจนต้องหยุดถ่ายแบบกะทันหัน ห้องศิลป์พยักหน้าตอบรุ่นน้องสาวแล้วหันมาร่ำลารวินท์รดาที่ยังไม่หายหน้าเครียด

“อาร์ตไปก่อนนะ แล้วเดี๋ยวจะโทรหา เรามีเรื่องต้องคุยกันนะบัว”

“เรื่องอะไรน่ะ” รวินท์รดาถามกลับ แต่เพื่อนตัวดีกลับทำตัวมีลับลมคมในเอาแต่ยักไหล่ ไม่ยอมตอบมาดี ๆ แล้วหนีกลับไปเฉย รวินท์รดาถอนหายใจดังเฮ้อกับเพื่อนซี้ก่อนความสนใจของเธอจะไปหยุดที่ใครอีกคนซึ่งเพิ่งเดินออกมาจากรถบ้าน ธรรศในเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินและกางเกงสีน้ำตาลอ่อน เขาเดินตรงมาทางเธอด้วยสีหน้าไม่สบายใจ แต่ประกายออร่าความหล่อเหลาไม่ได้ลดลงเลย

“เสื้อพวกนี้เลอะเลือดของเดหลี ไว้ผมจะจ่ายค่าเสียหายให้นะ” ธรรศบอกพร้อมยื่นสูทสีดำซึ่งเขาใส่ไว้ในถุงให้อย่างเรียบร้อย สูทที่ใช้ถ่ายแบบมีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นสปอนเซอร์ให้ แต่ถ้าชุดเลอะหรือขำรุดก็ต้องมีค่าเสียหายให้ทางแบรนด์

รวินท์รดาตัดสินใจเองไม่ได้ว่าจะรับค่าเสียหายจากนายแบบ นางแบบหรือลูกค้า เธอจึงรับชุดมาถือไว้ในมือก่อน เรื่องค่าเสียหายคงต้องให้ฝ่ายโปรดักชั่นคุยกับทางเจ้านายกันเอง

“ผมว่าวันนี้เราคงไม่ได้ถ่ายแบบกันแล้วล่ะ ค่าใช้จ่ายถ้าเกิดต้องเซ็ตถ่ายใหม่ในวันหลัง เรื่องนี้คงต้องปรึกษาพี่ปั้นอีกที” ธรรศเหลือบมองไปทางปราชญ์ดาที่ยืนคุยโทรศัพท์มือถืออยู่อีกฝั่ง

“คุณธรรศคะ” รวินท์รดาเรียก เมื่อธรรศหันกลับมาสบตา รวินท์รดากลับพูดไม่ออก เธอยังไม่แน่ใจว่าที่เธอเห็นตอนเดหลีร้องกรี๊ดจากอาการบาดเจ็บเมื่อครู่ เธอมองเห็นผีตัวดำทะมึนนั่นยืนอยู่ด้านหลัง พอเดหลีร้องไห้หวาดกลัว มันก็หัวเราะอย่างพอใจ ก่อนจะลอยไปริมสนามแข่งรถ รวินท์รดาจ้องตามตาไม่กะพริบจนเห็นว่าผีตัวนั้นหายไปในตัวชองช่อแก้ว แต่ความตกใจทำให้รวินท์รดาไม่แน่ใจว่าเธอตาฝาดไปเองหรือเปล่า

ช่อแก้วเกี่ยวอะไรกับผีวายร้ายตัวนั้น ถ้าเธอมองเห็นผิดไปเองก็เท่ากับใส่ร้ายคนอื่นน่ะสิ

“ว่าไงครับบัว” ธรรศถามเมื่อหญิงสาวเงียบไป ทั้ง ๆ ที่ทำหน้าเหมือนมีเรื่องจะบอกเขา

“คือ … วันนี้คุณคงไม่สังเกต แต่บัวใส่กำไลที่คุณให้มาด้วย ขอบคุณนะคะ บัวชอบมากเลย” รวินท์รดาเปลี่ยนเป็นเรื่องกำไลอย่างแนบเนียน พร้อมอวดกำไลเงินวงเรียบ ๆ แต่สวยถูกใจตรงข้อมือให้ชายหนุ่มได้เห็น

ธรรศอมยิ้ม ดวงตาที่คิดมากเมื่อครู่เริ่มประกายความสดใส

“ผมดีใจที่คุณชอบ ผมต้องไปแล้วล่ะ ไว้จะโทรหานะ” ธรรศเริ่มกังวลสายตาคนรอบ ๆ ที่มองเขากับรวินท์รดาอย่างสงสัย จึงรีบแยกย้ายจากเธอ เขากลับไปหาปราชญ์ดาอีกครั้งได้ยินพี่ชายกำลังปรับแผนงานกับทางเอเจนซี่และทีมถ่ายแบบอยู่

ธรรศกำลังกังวล และเครียดไม่น้อยเลยว่าที่เดหลีบาดเจ็บนั้นจะเกี่ยวกับอาถรรพณ์ของตัวเขาเองหรือไม่ เขาเป็นตัวต้นเหตุให้คนอื่นต้องบาดเจ็บ เดือดร้อนอีกแล้วหรือเปล่า?



พอลงจากรถยนต์ ปราชญ์ดาไม่ได้ตรงเข้าบ้านหลังใหญ่ทันที แต่กลับมุ่งหน้าไปบ้านคุณปู่คุณย่าแทน และเมื่อเขาถามเด็กรับใช้ในบ้านก็รู้ว่าช่อแก้วพักผ่อนอยู่ในห้องส่วนตัว เขาไม่รอช้าที่จะเดินไปหาช่อแก้วพร้อมคำถามในใจ

“ช่อ พี่เอง พี่ปั้น ออกมาคุยกับพี่หน่อยสิ” ปราชญ์ดายืนเคาะประตูอยู่หน้าห้อง เขารออยู่ครู่ใหญ่ช่อแก้วถึงเปิดประตูห้อง หญิงสาวผู้เรียบร้อยใบหน้าอ่อนหวานดูเซื่องซึมและอ่อนเพลีย

“พี่ปั้นมีอะไรหรือคะ ช่อปวดหัวค่ะเลยอยากพักผ่อน” ช่อแก้วถามน้ำเสียงเบา แววตาบอกว่าเธออ่อนเพลียมากจริงๆ

“วันนี้ช่อไปที่สนามแข่งมาหรือเปล่า พี่เหมือนจะเห็นช่อที่นั่น” ปราชญ์ดาถามให้แน่ใจ เขาไม่ใช่คนสายตาฟ่าฟาง ตาฝาดไปเองแน่นอน

ช่อแก้วทำหน้างุนงง พลางยกมือกุมขมับ

“ช่อปวดหัวตั้งแต่บ่ายแล้ว ช่อไม่ได้ไปไหนหรอกค่ะพี่ปั้น พี่ปั้นตาฝาดไปเองหรือเปล่าคะ”

“ตาฝาดงั้นหรือ” ปราชญ์ดาส่ายหน้าไปมา เขาไม่ใช่คนประเภทนั้นแน่นอน แต่ท่าทางของช่อแก้วก็ดูเหมือนคนป่วย

“ช่อนอนตลอดวันเลยค่ะ ถามเด็กในบ้านก็ได้ แค่กๆ” หญิงสาวไอเบาๆ แล้วนิ่วหน้าอย่างทรมานกับอาการป่วย “ทำไมคะ พี่ปั้นไม่เชื่อช่อหรือคะ ช่อจะกล้าไปเจอหน้าพี่ธรรศได้ยังไงกัน พี่ปั้นก็เห็นว่าช่อถูกพี่ธรรศปฏิเสธกลางโต๊ะอาหารแบบนั้น ช่อไม่กล้ามองหน้าพี่ธรรศอีกแล้วล่ะค่ะ”

“พี่ขอโทษ” ปราชญ์ดาได้ฟังก็สงสารหญิงสาวตรงหน้าขึ้นมา “พี่คงตาฝาดเห็นใครหน้าตาคล้ายช่อล่ะมั้ง ขอโทษนะ แล้วนี่ป่วยมากไหม ไปหาหมอมั้ย พี่จะพาไป”

ช่อแก้วสะดุ้งเพราะอยู่ๆ มือของปราชญ์ดายื่นมาแตะหน้าผากของเธอ ช่อแก้วเงยหน้ามองคนตัวสูงหน้าตาเหรอหรา นี่เป็นครั้งแรกที่ปราชญ์ดาสัมผัสและถามเธออย่างเป็นห่วง

“ไม่ต้องไปหาหมอหรอกค่ะพี่ปั้น ช่อกินยาไปแล้ว ถ้าได้นอนพักคงจะดีขึ้นค่ะ”

“ก็นอนพักซะนะ … สำหรับเรื่องของธรรศก็อย่าไปคิดมากเลย คนไม่รักกันจะให้มาแต่งงานกันมันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอยู่แล้ว ช่อควรลองมองหาคนที่รักช่อดูนะ”

ปราชญ์ดาไม่เคยพูดน้ำเสียงอ่อนโยนกับเธอมาก่อนเลย ทำให้ช่อแก้วได้แต่มองอย่างทำตัวไม่ถูก และเขาก็ยังเอ่ยต่อด้วยโทนเสียงเช่นเดิม

“น้องสาวพี่คนนี้ก็สวยและน่ารักเหมาะสมที่จะได้ออกเรือนกับผู้ชายดีๆ พี่จะมองหาหนุ่มนักธุรกิจนิสัยดีสักคนให้ คนที่เพียบพร้อมสำหรับช่อแก้ว หลานรักของคุณย่า”

ช่อแก้วไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธความปรารถนาดีของอีกฝ่าย เธอกลับเข้าห้องนอนและยืนอยู่ในความมืดเพียงลำพัง พอเธอตั้งสติได้ก็ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างช้าๆ ก่อนจะค่อยๆ ทรุดตัวนั่งกองกับพื้น ดวงตากลมเต็มไปด้วยความหวาดกลัวจนมือไม้สั่น ช่อแก้วเพิ่งโกหกปราชญ์ดาไปว่าไม่ได้ไปที่สนามแข่ง ทั้งที่จริงเธอไปที่นั่นด้วยความตั้งใจแอบไปดูธรรศ เธออาจจะไม่ชอบแฟนสาวของธรรศ หากชั่วขณะนั้นเธอกลับไม่ชอบใจสายตาของเดหลียามจ้องมองธรรศมากกว่า

แต่เพียงแค่ไม่ชอบในใจ เดหลีก็ร้องกรี๊ดออกมาพร้อมเลือดไหลจากแขนของนางแบบสาว ช่อแก้วนึกไม่ออกว่าทำไมเพียงเธอคิดหมั่นไส้เดหลี เดหลีก็บาดเจ็บแบบนั้น แล้วตอนนั้นอีกตอนที่เธอไม่พอใจรวินท์รดา ครีเอทีฟสาวคนรักของธรรศ อยู่ๆ รถเข็นของก็พุ่งใส่รวินท์รดาแต่โชคดีที่รถเข็นล้มลงก่อน ไม่อย่างนั้นรวินท์รดาก็คงเจ็บหนักน่าดู

“ทำไมล่ะ หรือว่าเรามีเวทมนต์” ช่อแก้วตั้งคำถามปุ๊บ ก็ส่ายหน้าปั๊บ ไม่มีทางมีเรื่องอัศจรรย์เกิดขึ้นได้แน่นอน

โดยช่อแก้วไม่รับรู้เลยว่ามีวิญญาณผีสาวในชุดดำนั่งคุกเข่าจ้องหน้าเธออยู่ ผีสาวหัวเราะอย่างพอใจก่อนรอยยิ้มของมันจะกลายเป็นบูดบึ้งแล้วหายตัววับไปอยู่ตรงสนามหญ้าแทน

นิล ผีสาวในชุดดำยืนประจัญหน้ากับวิญญาณร่างผ่องแผ้วของท่านหญิงบุษบา

“กล้าโผล่มาหาข้าแล้วหรือ นังท่านหญิง” นิลตวาดถาม “หลังจากหลบเลี่ยงข้ามานาน ยอมโผล่หน้ามาแล้วหรือ”

ท่านหญิงบุษบาพยายามจะพูด แต่ด้วยคำสาปทำให้เธอกลายเป็นผีไบ้อยู่อย่างนี้

“ข้าลืมไปว่าท่านพูดอะไรไม่ได้ ทำไม ท่านคิดจะห้ามข้างั้นหรือ” นิลเอ่ยถามพลันหัวเราะเยาะเสียงดัง “ท่านห้ามข้าไมได้หรอกท่านหญิง ท่านจงเฝ้ามองน้องสาวของท่านถูกแย่งคนรักไปอีกชาติ เช่นที่มันเคยทำไว้กับข้า อย่าได้ยื่นมือมายุ่งอีก ความเจ็บแค้นที่ข้าได้รับนั้นเยอะแค่ไหนท่านก็น่าจะรู้ … ข้าไม่ใช่คนดี ไม่มีวันเป็นคนดีแสนดีที่ถูกหลอกอย่างท่านแล้วจะอยู่เฉย! ข้าจะเอาคืน! พวกบ้านนี้จะต้องไม่มีความสุข!!”

บุษบาแค้นใจที่ทำอะไรไม่ได้เลย เธอได้แต่มองผีร้ายพกเอาความแค้นเต็มอกหายตัวไปจากเธออีกครั้ง บุษบาตะโกนห้ามผีร้าย แต่ที่ได้คือความเงียบเท่านั้น เมื่อไหร่กัน … เมื่อไหร่ที่เธอจะหาทางปลดคำสาปที่ปิดปากเธอเช่นนี้ได้!

บุษบาตวัดสายตาซึ่งเต็มไปด้วยน้ำใสๆ มองไปยังหน้าต่างชั้นสองของเรือนสีขาวหลังใหญ่ เธอเคยได้ยินว่าสามีภรรยาคือคนคนเดียวกัน และเขาก็เห็นเธอ เขาจะสามารถรับรู้ได้ไหมว่าเธอกำลังทรมานอยู่ ปราชญ์ดาจะช่วยเธอได้หรือเปล่านะ เขาจะช่วยน้องสาวของเธอและน้องชายของเขาได้หรือไม่ บุษบาไม่อยากทนทรมานกับการไม่ได้ผุดได้เกิดเช่นนี้ต่อไปอีกแล้ว



สายๆ ของวันเสาร์ ธรรศนั่งเหม่ออยู่บนโซฟาหน้าโทรทัศน์ ธรรศไม่ได้สนใจข่าวต่างประเทศที่ถูกเปิดทิ้งไว้ และไม่ได้สนใจแม้กระทั่งจะมีคนเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ เขา

กระทั่งคนมาใหม่ถามออกมา

“คิดอะไรอยู่”

ธรรศสะดุ้งเล็กน้อยเพราะไม่รู้สึกตัวเลยว่าพี่ชายเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ เขาภายในห้องนั่งเล่นของบ้านหลังน้อยกลางสวนตั้งแต่เมื่อไหร่ ปราชญ์ดาสวมเสื้อยืดคอวีแขนสั้นสีเทาเข้ม กางเกงผ้าสีขาวขายาว ผมสั้นไม่ได้เซ็ตปล่อยเซอร์สบาย ๆ เพราะวันนี้เป็นวันหยุดที่ไม่ต้องไปทำงาน ส่วนตัวธรรศก็อยู่ในเสื้อยืดสีกรมกางเกงขาสั้นถึงเข่าสีน้ำตาลอ่อน สภาพเซอร์ไม่ต่างกับพี่ชาย แม้ตอนบ่ายเขาจะต้องออกร่วมงานเปิดตัวแบรนด์นาฬิกาไฮโซที่ห้างสรรพสินค้าหรูกลางเมือง ธรรศคิดว่าเดี๋ยวต้าหลิงก็มารับเขา และพาเขาไปแต่งตัวทำผมอยู่ดี ธรรศจึงพักผ่อนสบาย ๆ ก่อนถึงเวลานัดได้

“คิดไปเรื่อยน่ะครับ” ธรรศตอบตามความจริง เขาเองก็จับประเด็นไม่ได้เพราะคิดหลายเรื่องมากเลย

“นี่ เมื่อคืนพี่ฝันเรื่องประหลาดด้วยล่ะธรรศ”

“เรื่องอะไรหรือครับ” ธรรศถามกลับ แปลกใจไม่น้อยที่พี่ชายชวนคุยเรื่องความฝันทั้งที่ไม่เคยมีประเด็นพูดคุยเรื่องแนวนี้มาก่อนเลย

“ฝันเห็นนายแต่งงานกับคุณบัว น่าแปลกที่บรรยากาศในความฝันมันเก่ามากเลย ไม่เหมือนปัจจุบันนี้” ปราชญ์ดาเองยังประหลาดใจ ปกติก็ไม่ใช่คนช่างฝัน แถมฝันเรื่องโรแมนติกอะไรทำนองนี้ยิ่งไม่เคยมีมาก่อน แถมตอนจบของความฝันก็ไม่ดีด้วย ในความฝันนั้นปราชญ์ดาเห็นรวินท์รดาร้องไห้แทบขาดใจอยู่เพียงลำพัง ไม่รู้ว่าเจ้าบ่าวหนีหายไปไหน

“ผมรู้ว่าพี่อยากให้ผมสมหวังกับคุณบัว แต่มันยังเร็วไปนะครับ” ธรรศยิ้มตอบพี่ชาย แม้รวินท์รดาจะยอมเปิดใจให้ แต่ทุกอย่างยังค่อยเป็นค่อยไปอยู่ ที่สำคัญเธอยังไม่ได้บอกรักเขาเลย

“วันนี้ก็ว่างๆ ทำไมนายไม่ไปเที่ยวกับแฟนนายล่ะ” ปราชญ์ดาเห็นน้องชายนั่งเหงาๆ คนเดียวจึงแนะนำ

“ตอนบ่ายผมมีอีเวนท์น่ะครับ” ธรรศเหลือบมองนาฬิกาบนผนัง จริงๆ งานเปิดตัวนาฬิกาแบรนด์ไฮโซก็ใช้เวลาแค่สองชั่วโมง หลังจากนั้นเขาก็ว่างไม่มีงานต่อที่ไหน คำแนะนำของพี่ชายก็น่าสนใจอยู่เหมือนกัน ธรรศมองเลยไปยังกรอบรูปวาดสีน้ำรูปดอกบัว มีโอกาสแล้วก็รีบถามพี่ชายคลายความสงสัยทันที

“จริงสิพี่ปั้น รูปดอกบัวสีเหลืองนั่นพี่ได้มาจากไหนหรือครับ”

“อ้อ พี่ได้มาจากร้านขายของเก่า ได้มาหลายเดือนแล้วล่ะ” ปราชญ์ดาโกหกน้องชาย รูปนี้ได้มาจากบ้านเก่าที่เพิ่งซื้อไว้ต่างหาก และปราชญ์ดาก็ยังไม่อยากให้ใครรู้เรื่องบ้านเพิ่มอีกแม้แต่คนเดียว

“คุณบัวก็มีรูปนึง ผมว่าคงเป็นเรื่องบังเอิญ” ธรรศบอก ซึ่งปราชญ์ดาเดาว่าคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ห้องศิลป์บอกเองนี่ว่าต้องการถ่ายรูปดอกบัวในสระน้ำบ้านเก่า ที่รวินท์รดามีก็เป็นดอกบัวดอกเดียวกันนั่นล่ะ

“งั้นวันนี้ผมกลับดึกสักคืนก็แล้วกัน” ธรรศบอกพร้อมลุกจากโซฟา หน้าตาสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด “จะพาแฟนไปดูหนัง หาโอกาสแวะไปหาดาร์ลิ้งซะหน่อยก็ดี”

“ดาร์ลิ้ง?” ปราชญ์ดาหัวเราะดังหึ เพราะคิดว่าน้องชายเรียกแฟนด้วยคำหวานเลี่ยน แท้จริงแล้วธรรศหมายถึงแมวเปอร์เซียตัวหนึ่งต่างหาก!


จบตอน


นำนิยายมาส่งแล้วค่า

รู้สึกเขียนไปเยอะๆ บทหวานจะน้อยเหลือเกิ๊น TwT คนเขียนก็ยุ่งจนหวานไม่ออก
จะพยายามปรับส่วนที่เหลือให้หวานมากขึ้นค่ะ

พระนางก็ยังโดนแย่งซีนอยู่ ตรงนี้ปิ่นเองก็เริ่มรู้สึก คงเพราะปราชญ์ดาก็เป็นตัวเอกอีกตัวที่คู่ของเขายังไม่ปรากฏตัว (หรือยังไงต้องอ่านต่อไปอีกหน่อยค่ะ) แล้วยังมีตอนพระนางหวานให้กันอยู่นะคะ สัญญาว่ามีค่ะ TwT

ตรงนี้จะพยายามให้ดีมากกว่าเดิม TwT รู้สึกพลังชีวิตห่อๆ หดๆ ไงไม่รู้

ขอฝากนิยายด้วยนะคะ ฮือๆ


ตอบคอมเมนท์ค่า


คุณ kaelek - ช่อแก้วจะมีพรรคพวกด้วยล่ะค่ะ บรื๋อออ

คุณ แว่นใส - ผีจะทำอะไรช่อแก้วหรือเปล่าน้าา ^^

คุณ พอใจ - ฮะๆ ฮาๆ พี่ปั้นยังไม่มีคู่เลย รอดูต่อไปนะค้า

คุณ Zephyr - พลังรักช่อแก้วเหลือล้นอยู่ค่ะ น่าจะหมดพลังแล้วเลิกตามตอแยพี่ธรรศบ้างไรบ้างเนอะ


พบกันใหม่ตอนหน้านะคะ ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ



ปิ่นนลิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ธ.ค. 2559, 02:20:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ธ.ค. 2559, 02:22:48 น.

จำนวนการเข้าชม : 1172





<< ตอน 13 - 50%   
แว่นใส 20 ธ.ค. 2559, 06:12:47 น.
คู่พี่ปั้นคือท่านหญิงบุษบาหรือเปล่า


พอใจ 25 ธ.ค. 2559, 09:20:48 น.
เพราะช่อแก้ว มีจิตใจที่ตรงกับนิล ผีดำนั่นรึเปล่านะ อิจฉาริษยา เลยทำให้นิลเข้าสิงได้ง่ายๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account