เร้นรัก กามเทพ
กีรณา – สาวน้อยเจ้าของนัยน์ตาโศกผู้ยึดมั่นกับความรักความผูกพันแต่ครั้งยังเยาว์ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เธอก็ยังเฝ้ารอเขาคนนั้นผู้เป็นรักแรก และรักเดียวของเธอ สัญญาในครั้งนั้นยังคงผูกพันเธอไว้กับเขา ตราบเท่าลมหายใจจะคงอยู่

ภาณิณ – ความผูกพันแต่หนหลังที่ไม่อาจลืม แต่ด้วยเวลาและระยะทางที่ห่างไกลกันจะให้เชื่อได้อย่างไรว่าสาวน้อยคนนั้นจะยังคงมั่นในคำสัญญาในวัยเด็ก ทว่าความฝังใจยังคงเด่นชัด เขาจึงต้องกลับมาเพื่อตามหาหัวใจที่หล่นหาย

ตฤณ – แม้ไม่อาจครอบครอง แต่ขอเพียงให้ได้รัก และดูแลเธออย่างที่เขาเคยทำนับแต่จำความได้ จะมีสักวันไหนที่เขาจะได้พบกับความรักที่สามารถครอบครองได้อย่างแท้จริง



มาร่วมเป็นสักขีพยาน และรอพบกับเรื่องราวของความรัก ความผูกพันที่ต้องอาศัยกาลเวลา และหนทางอันยาวไกล มาเป็นเครื่องพิสูจน์คำว่ารักแท้ ใน ‘เร้นรักกามเทพ’
Tags: รักหวานๆ

ตอน: บทนำ : ภาพฝัน หรือ ความจริง

สายลมอ่อนยามบ่ายพัดต้องใบไม้ไหวระเรื่อยผ่านดงดอกไม้พาเอากลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกมะลิที่กำลังผลิบานอยู่เต็มต้นให้ส่งกลิ่นหอมเย็นๆ ไปทั่วบริเวณ ณ มุมหนึ่งในสวนหลังบ้านไม่ไกลจากเรือนกล้วยไม้ ใต้ต้นไม้ใหญ่ซึ่งที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงา ร่างบางของสาวน้อยนอนอยู่บนเสื่อผืนบางกับหมอนใบโตข้างกายมีตำรับตำราเกี่ยวกับพฤกษศาสตร์วางกองเป็นตั้งๆ เพื่อรอการอ่าน ทว่าเจ้าของหนังสือกลับมานอนหลับตาพริ้ม ทั้งที่ในมือยังคงถือหนังสือเล่มหนาคาอยู่กับอกเสียด้วยซ้ำ

วงหน้าใส รูปหัวใจ ยามพริ้มตาหลับดูอ่อนหวานจิ้มลิ้มชวนมอง แต่หากสังเกตดีๆ ก็จะพบว่าสองคิ้วเรียวของเจ้าตัวเวลานี้กลับมีรอยขมวดมุ่นเล็กน้อย ใบหน้าอ่อนเยาว์แฝงไว้ด้วยรอยหม่น อาการส่ายหน้าน้อยๆ โดยไม่รู้ตัวของเธอบอกให้รู้ว่ายามนี้สาวน้อยน่าจะกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความฝัน

ท่ามกลางหมอกสีขาวจางๆ ร่างบางพยายามสาวเท้าก้าวเดินตามคนร่างสูงที่เดินนำตรงหน้า หากแต่ไม่ว่าเธอจะพยายามเร่งฝีเท้าเท่าไร ระยะทางกลับดูเหมือนจะยิ่งห่าง จนเธอรู้สึกเหนื่อย และในที่สุดก็ตัดสินใจร้องเรียกเขา

‘ใบหม่อน จะไปไหน อย่าไป รอทิวลิปด้วย รอก่อน รอด้วย....’

สาวน้อยพยายามตะโกนบอก แต่ร่างสูงตรงหน้ากลับยังคงก้าวต่อไปอย่างไม่มีวี่แววว่าจะหยุด กีรณาจึงเปลี่ยนจากเดินเป็นวิ่ง พยายามวิ่งให้เร็วที่สุดด้วยความหวังที่จะตามเขาให้ทัน แต่แล้วจู่ๆ คนตรงหน้าก็หยุดเดินและหันกลับมา จากนั้นจึงเริ่มเดินและมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ

ดวงตาคู่คมจ้องสบลงมาในนัยน์ตาหวานแฝงรอยโศก หากมองไม่ผิด กีรณาคิดว่าเธอเห็นรอยรื้นอยู่ในนั้น ริมฝีปากได้รูปประทับรอยจูบลงบนเปลือกตาบางของเธออย่างบรรจง ติดตามมาด้วยเสียงกระซิบแผ่วเบา

‘พี่ขอโทษ’

แล้วเขาก็ผละจากไปโดยไม่ได้หันกลับมามองเธอที่ยังคงยืนนิ่งค้างอยู่ทางเบื้องหลัง นานเป็นครู่กว่าที่เธอจะตั้งสติได้ และทำท่าว่าจะวิ่งตาม ทว่าเบื้องหน้ากลับปราศจากร่างสูงของเขาคนนั้นไปเสียแล้ว

‘ใบหม่อน!!!’

กีรณาร้องเรียกจนสุดเสียง แล้วก็สะดุ้งตื่น

“โอย... ฝันไปหรอกหรือนี่? แย่จริงๆ เลย...” ว่าแล้วก็ยกมือบางขึ้นแตะที่เปลือกตาของตนเอง “แต่ว่า... ทำไม... จูบ...เมื่อกี้... ถึงเหมือนจริงนัก...” ดวงตาคู่สวยพลันรื้นไปด้วยหยาดน้ำใสๆ อย่างไม่ตั้งใจ ครั้นพอตั้งสติได้ เธอจึงสลัดความรู้สึกหม่นหมองนั้นออก และพยายามกลับไปเป็นกีรณาที่เข้มแข็งคนเดิม “เฮ้อ! ช่างเถอะ จะมามัวฝันถึงคนที่เขาลืมเราไปแล้วอยู่ทำไม อย่าโง่ให้มันมากนักเลย ยายทิวลิปเอ๋ย”

สาวน้อยพร่ำบ่นว่าตัวเองแล้วเหลือบมองท้องฟ้า

“ตายแล้ว เย็นขนาดนี้แล้วหรือนี่ ยังอ่านไปไม่ถึงไหนเลย ตายแน่...พรุ่งนี้สอบแล้วด้วย ตายๆๆๆๆ ทำไงดีล่ะทีนี้ ไม่น่าเผลอหลับไปเลยเรา”

ว่าแล้วร่างบางก็กุลีกุจอจัดแจงคว้าตำราขึ้นมากางอ่านอย่างขะมักเขม้น สลัดทิ้งทุกอย่าง ทั้งความฝันและความรู้สึกอุ่นวาบที่ยังคงฝังอยู่บนเปลือกตา แม้ว่าลึกๆ แล้วก็ยังอดคิดไม่ได้ว่า ความฝันในครั้งนี้ มันช่างเหมือนจริงเสียนี่กระไร

-------------------



นิลวนา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 ธ.ค. 2559, 13:29:10 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 ธ.ค. 2559, 13:29:10 น.

จำนวนการเข้าชม : 561





   1 : เมื่อเขากลับมา >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account