ด่านตรวจคนเข้าใจ
เซอุส แฮกเกอร์หนุ่มหลงตัวเอง
เจ้าหน้าที่จาง หน่วยตรวจคนเข้าเมืองหน้าดุ
ไอริณ ตำรวจสาวที่ไม่ชอบพกบัตรประจำตัว
เรื่องวุ่น ๆ จึงเริ่มขึ้น ที่...ด่านตรวจคนเข้าใจ...
เจ้าหน้าที่จาง หน่วยตรวจคนเข้าเมืองหน้าดุ
ไอริณ ตำรวจสาวที่ไม่ชอบพกบัตรประจำตัว
เรื่องวุ่น ๆ จึงเริ่มขึ้น ที่...ด่านตรวจคนเข้าใจ...
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: เจ้าหน้าที่จาง
กล่าวกันว่าชีวิตคือการเดินทางที่ต้องเรียนรู้อย่างไม่มีวันสิ้นสุด
ไม่มีใครรู้เส้นทางชีวิตในแต่ละวันจะพบเจอกับสิ่งใด แต่เพราะแบบนี้ ชีวิตจึงเป็นเรื่องท้าทาย
ใครจะคิดว่าคนอย่างไอริณจะมีวันเวลาแบบนี้ได้
หญิงสาวในชุดเอี๊ยมยีนส์ตัวโคร่งคลุมทับเสื้อยืดสีขาวลายการ์ตูนดูเหมือนเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะถูกเชิญออกมาจากเคาน์เตอร์หน่วยตรวจคนเข้าเมือง เธอกระพริบตาปริบ ๆ เดินตามเจ้าหน้าที่ชายวัยกลางหน้าตาดุดันไปที่ที่นั่งด้านหลังซึ่งจัดเรียงไว้ข้างห้องสัมภาษณ์เล็ก ๆ ซึ่งอยู่ติดกัน คงเพราะที่นี่ไม่ใช่ท่าเรือหลัก และช่วงนี้ก็ไม่ใช่เทศกาลท่องเที่ยว ที่นั่งตรงนั้นจึงว่างเปล่าไร้ผู้คน
เจ้าหน้าที่ที่พาเธอมาชี้ไปที่เก้าอี้แล้วหมุนตัวจากไปพร้อมหนังสือเดินทางของเธอโดยไม่พูดจา ปล่อยให้ไอริณได้แต่มองตามตาปริบ ๆ
เธอนั่งมองไปมองมาอยู่เพียงครู่ กำลังจะเปิดกระเป๋าหยิบนิยายที่เตรียมไว้มานั่งอ่าน เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็เดินเข้ามา
"มิสไอริณ..."
"อิสมี..." เธอเอ่ยรับ พร้อมลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ผายมือไปที่ห้องเล็ก ๆ ตรงหน้า
"เชิญครับ"
เธอเดินตามเขาเข้ามาในห้องเล็ก ๆ ที่มีเพียงโต๊ะไม้ติดผนังขนาดเท่าโต๊ะนักเรียนมัธยม วางคอมพิวเตอร์ไว้เครื่องหนึ่ง กับเก้าอี้ไม้สามตัวอยู่โดยรอบ เธอกระพริบตาปริบ ๆ เอียงคอมองเขาราวจะถาม ชายหนุ่มจึงดึงเก้าอี้นั่งด้านข้างออกมา แล้วบอกให้เธอนั่ง
"คุณคือมิสไอริณ..." ไอริณเพิ่งสังเกตว่าเขาเอ่ยถามด้วยสำเนียงบริติชเสนาะหู คนชอบภาษาอย่างเธอจึงอดจะคลี่ยิ้มอย่างพอใจบาง ๆ ไม่ได้
"ค่ะ" เอ่ยตอบพลางเลื่อนสายตาเริ่มสำรวจคนตรงหน้าอย่างจริงจัง แต่เพียงสบตาเรียวใต้กระจกแว่นใส เขาก็ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว
"คุณรอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวผมมา" เขาถือหนังสือเดินทางของเธอเดินออกไป
"อะไรนี่..." ไอริณถอนใจ กลอกตามองเพดานห้องแล้วเอียงคอมองตามหลังชายหนุ่มไป
เธอสูดลมหายใจยาว เมื่อเจ้าหน้าที่หนุ่มเดินกลับมาอีกครั้ง เขานั่งลงหน้าจอคอมพิวเตอร์ แล้วเริ่มพิมพ์ข้อมูลลงไป
"ชื่อของคุณคือ..."
"ไอริณ...ไอริณ รัตติรักษ์..." เธอเอ่ยย้ำ คลี่ยิ้มบางเมื่อมองใบหน้าขาวเนียน ผิวขาวเหลืองแบบหนุ่มเอเชียเข้ากับนัยน์ตาเรียวที่อยู่ใต้แว่น ริมฝีปากแดงบางเฉียบดูมีเสน่ห์ตามสไตล์หนุ่มตี๋
...ถ้าคนสัมภาษณ์หน้าตาแบบนี้...โดนโบกเข้ามาก็กำไรแล้ว...
"คุณมาทำอะไรที่นี่" คำถามเสียงเรียบ กลับทำให้ไอริณเผลอยิ้มที่มุมปาก
"ขอโทษนะคะ...ฉันมีสิทธิ์จะทราบชื่อคุณไหมคะ" เธอเอียงคอถามหน้าตาเฉย
คนที่นั่งมองจอคอมพิวเตอร์อยู่เมื่อครู่เงยหน้ามามองเธอทันที ในดวงตาเรียวหรี่ลงเล็กน้อยราวประเมิน ก่อนเอ่ยตอบ
"เจ้าหน้าที่จาง..."
ไอริณหรี่ตากัดริมฝีปากอย่างนึกรำคาญท่าทีเป็นทางการของคนตรงหน้า เธอยืดตัวตรง พยักหน้ารับอย่างอ่อนใจ "โอเค...ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ เจ้าหน้าที่จาง"
"คุณพร้อมจะตอบคำถามแล้วใช่ไหม"
"ฉันมาท่องเที่ยวค่ะ" เธอสบตาเขา ตอบอย่างตรงไปตรงมา
"มากับใคร"
"คนเดียวค่ะ" เขาเงยหน้ามองเธอเมื่อได้ยินคำตอบ
"คนเดียว..."
"นี่เป็นเหตุผลที่ฉันถูกเรียกมาที่นี่หรือเปล่าคะ...ผู้หญิงที่เดินทางคนเดียว" เธอเอ่ยถามกลั้วหัวเราะ
"ส่วนหนึ่ง..." เจ้าหน้าที่จางหันกลับไปสนใจกับจอคอมพิวเตอร์อยู่
"คุณจะกลับเมื่อไร"
"วันที่...15 ค่ะ" เธอเปิดกระเป๋าสตางค์ แล้วส่งเอกสารการจองตั๋วเครื่องบินให้ชายหนุ่ม "นี่...เอกสารการจองตั๋วเครื่องบินของฉันค่ะ"
เขารับเอกสารไปพลิกดู ก่อนพิมพ์ข้อมูลลงไป "แล้วคุณพักที่ไหน"
"ฟอเทรสฮิลล์ค่ะ" เธอเอ่ยชื่อโรงแรม
"มีเอกสารการจองห้องพักไหมครับ"
"ค่ะ แต่ฉันไม่ได้พิมพ์ออกมา" เธอเปิดสมาร์ทโฟน เลื่อนไปที่ภาพสแกนใบตอบรับการจองของโรงแรมแล้วส่งให้เขาดู
"ก่อนหน้านี้คุณไปมาเก๊ามาหรือ" เขาเอ่ยถามต่อเมื่อส่งสมาร์ทโฟนคืนให้เธอ
ไอริณพยักหน้ารับ "ค่ะ...ฉันลงจากเครื่องที่ฮ่องกงเมื่อวาน แล้วนั่งเรือไปมาเก๊าต่อ วันนี้จึงกลับมาเที่ยวที่ฮ่องกง"
"ที่มาเก๊า คุณไปไหนมาบ้าง"
หญิงสาวนิ่งงันไปครู่ด้วยความแปลกใจ ยังไม่เข้าใจว่าเธอไปเที่ยวที่ไหนบ้างในมาเก๊าจะเกี่ยวอะไรกับการตรวจคนเข้าเมืองของฮ่องกง
"ก็...ซีนาโด้สแควร์ วัดอาม่า แล้วก็...โคโลอานค่ะ" เธอตอบเพียงบางแห่งที่พอจำได้ หากให้เล่าทั้งหมด เกรงว่าเขาจะตกใจที่เธอใช้เวลาเพียงครึ่งวันกับหนึ่งคืนไปซนได้ขนาดนั้น
"อ้อ...มีรูปไหม ขอผมดูรูปหน่อย"
ไอริณหัวเราะ เธอเข้าใจแล้ว เขาต้องการตรวจสอบว่าเธอไปท่องเที่ยวมาจริง ๆ
"ในโทรศัพท์ฉันมีแต่รูปเซลฟี่นะคะ" เธอส่งสมาร์ทโฟนให้เขาเลื่อนดูภาพที่ถ่ายไว้ "ถ้าคุณยังไม่เชื่อ...ขอฉันหยิบกล้องแปปนะคะ"
เธอเดินออกจากห้องสัมภาษณ์มาเปิดกระเป๋าแบ็กแพคใบใหญ่ที่วางไว้หน้าห้อง ค้นเอากล้องตัวใหญ่ขึ้นมา เปิดภาพขึ้นจอให้ชายหนุ่ม "นี่ค่ะ...โบสถ์ฟรานซิสซาเวียร์ที่โคโลอานที่เป็นสถานที่ถ่ายทำซีรี่ย์เกาหลีเรื่องกุง คุณเคยดูไหม"
"นี่...วัดตำคุณ อยู่ใกล้ ๆ โบสถ์นั่นล่ะค่ะ เป็นวัดของชาวประมงที่นั่นเลยนะคะ กว่าฉันจะหาเจอนี่...หลงไปสุดขอบทะเลเลยล่ะ" เธอเลื่อนภาพไปเรื่อย ๆ แล้วหันมาเลิกคิ้วมองเขา
"คุณอยากดูภาพที่ไหนอีกไหมคะ"
เขาส่งโทรศัพท์คืนให้เธอ ท่าทางดูอ่อนใจกับผู้หญิงที่ไม่ได้มีความรู้สึกหวาดหวั่นสักนิดว่าเธอกำลังถูกสัมภาษณ์โดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง
"คุณทำงานหรือเรียนอยู่" เขาถามต่อเมื่อเธอรับกล้องมาวางบนโต๊ะแล้ว
"ทำงานค่ะ" เธออมยิ้มบาง ๆ รอให้เขาถามต่อ
"ทำอะไรครับ"
ไอริณกลอกตา เม้มปากอย่างเก้อเขิน "ฉันเป็นตำรวจค่ะ..."
เขาเงยหน้ามองเธออย่างประหลาดใจ "ตำรวจ..."
"ค่ะ...ฉันอยู่ฝ่ายปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยี"
"คุณมีแฟนหรือยัง"
ไอริณเอียงคอมองอย่างประหลาดใจ แต่เจ้าหน้าที่จางยังนั่งนิ่งราวเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ เธอจึงตอบ "ไม่มีค่ะ"
เจ้าหน้าที่จางนิ่งเงียบไปนาน เขาเปิดหนังสือเดินทางของเธอดูทีละหน้า ไอริณมองแล้วอมยิ้ม เธอเพิ่งไปทำหนังสือเดินทางฉบับนี้ใหม่เมื่อสองอาทิตย์ก่อน ไม่ต้องแปลกใจเลยที่ทุกหน้าจะมีเพียงความว่างเปล่า
"เพราะหนังสือเดินทางใหม่ด้วยหรือเปล่าคะ...เล่มเก่าฉันเพิ่งหมดอายุเมื่อเดือนกุมภาฯ"
"บอร์ดดิ้งพาสของมาเก๊าล่ะครับ"
เธอเปิดกระเป๋าสตางค์ หยิบกระดาษแผ่นเล็กที่มีคิวอาร์โค้ดซึ่งได้จากด่านตรวจของมาเก๊าขึ้นมา "คุณหมายถึงนี่หรือเปล่า"
เขารับมาสแกนเข้าคอมพิวเตอร์แล้วส่งคืนเธอ
"ผมขอดูบัตรประจำตัวที่ทำงานคุณได้ไหม"
ไอริณเลิกคิ้ว คลี่ยิ้มเจื่อน ๆ "ฉันไม่ได้เอามาค่ะ" เพราะกลัวว่าเอกสารสำคัญจะสูญหายระหว่างเดินทาง เธอจึงเลือกนำมาเฉพาะของที่คิดว่าจะเป็นคือหนังสือเดินทาง บัตรประจำตัวประชาชน และบัตรเครดิตอีก 1 ใบเท่านั้น
ชายหนุ่มมองหน้าเธอนิ่งอย่างประเมิน ไอริณจึงก้มลงเปิดสมาร์ทโฟน "ฉันอาจจะมีภาพเอกสารที่เก็บไว้"
มีภาพเอกสารแสดงตัวหลายฉบับอยู่ในอัลบั้มของสมาร์ทโฟน เพียงแต่ส่วนใหญ่เป็นภาษาไทยทั้งสิ้น เธอได้แต่กลอกตาอย่างอ่อนใจ เลื่อนไปมาก็เห็นภาพที่เธอสวมเครื่องแบบตำรวจถ่ายร่วมกับครอบครัว
"อ๊ะ...นี่ ๆ พอจะทำให้คุณเชื่อได้ไหมว่าฉันเป็นตำรวจจริง ๆ" เธอส่งสมาร์ทโฟนให้เขา เงยหน้ามองตาปริบ ๆ
เจ้าหน้าที่จางยังทำหน้านิ่ง มองเธออย่างเย็นชา ไอริณเหลือบมองสบตาเขาแล้วกลอกตาอย่างอ่อนใจ "ถ้าคุณไม่เชื่อ...เข้าไปดูในเฟซบุ๊คฉันก็ได้ ฉันมีงาน มีครอบครัว มีชีวิตที่ไทย...ไม่มาทำอะไรผิดกฎหมายที่บ้านเมืองคุณหรอก"
"เปิดสิ..."
"คะ..."
"เฟซบุ๊คคุณน่ะ"
ไอริณกลอกตา "ไม่ได้น่ะสิคะ ฉันยังไม่ได้เปิดโรมมิ่ง" ความละเอียดในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่จางทำให้เธอเริ่มหวั่นใจแล้ว โดยเฉพาะเมื่อไม่มีเอกสารสำคัญที่จะแสดงความมั่นคงของตัวเอง
ถ้าเธอถูกส่งกลับเมืองไทย ต้องมีคนรอหัวเราะเยาะแน่
ระหว่างที่เธอเริ่มหวั่นใจกับชะตาตัวเอง เจ้าหน้าที่จางก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เลื่อนนิ้วไปมาเพียงไม่นานก็วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ เลื่อนมาตรงหน้าเธอ
"เปิดสิ..."
ไอริณก้มลงมองจึงเห็นว่าเขาเปิดเฟซบุ๊คไว้ เธอพิมพ์ชื่อตัวเองลงไป หน้าโปรไฟล์ส่วนตัวก็ปรากฏขึ้นมา
เจ้าหน้าที่จางชะโงกมาดูจึงเห็นว่าบนหน้าจอมีเพียงภาพของหญิงสาวไม่กี่ภาพเท่านั้น
"ลืมไปเลยว่าฉันตั้งค่าล็อกไว้ให้เห็นแค่คนที่เป็นเพื่อน" เธอถอนใจ เบะปาก "ดูโพรไฟล์แม่ดีกว่า แม่ชอบลงรูปฉัน"
เขากลับกดส่งคำขอเป็นเพื่อนที่หน้าจอให้เธอ แล้วดึงโทรศัพท์คืน "ไม่ต้องหรอก เปิดโรมมิ่งแล้วคุณก็รับเฟรนด์ผมซะ"
ไอริณเงยหน้ามองอย่างประหลาดใจ ยังไม่ทันได้ถามอะไรเขาก็ตอบ
"หลังคุณรับเฟรนด์ ก็ลงภาพให้ผมตรวจสอบคุณได้...ผมจะได้มั่นใจว่าไม่ได้ปล่อยคุณเข้ามาทำอะไรผิดกฎหมายในบ้านเมืองผม"
ไอริณอ้าปากค้าง จ้องหน้าชายหนุ่มด้วยความมึนงง
ตรวจสอบกันอย่างนี้ก็ได้เหรอ...คุณเจ้าหน้าที่...
เขายื่นหนังสือเดินทางคืนให้เธอ แล้วลุกขึ้นยืน "คุณไปได้...เชิญ" เขาผายมือให้พร้อมหยิบกระเป๋าของเธอยื่นคืนให้หญิงสาว
ไอริณคว้ากระเป๋า สะพายเป้อย่างงุนงง ผู้ชายตัวโตถือวิสาสะดันไหล่เธอออกมาจากห้อง แล้วนำเธอไปที่ทางออกเล็ก ๆ
หญิงสาวเดินออกมาอย่างมึนงง เธอยังไม่ทันได้คิดจนเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ชะงักไป แล้วรีบเดินกลับมาหาเจ้าหน้าที่หนุ่มที่กำลังจะหมุนตัวกลับ
"ขอโทษนะคะ...ฉันจะซื้อออคโทพัสการ์ดได้ที่ไหนคะ"
ไม่ว่ารีวิวท่องเที่ยวฉบับไหนก็เน้นย้ำถึงความสำคัญของออคโทพัสการ์ดที่เป็นเหมือนบัตรเงินสดสำหรับการเดินทางในฮ่องกง
"ข้างบน...ชั้นสอง" เขาบอกแล้วเดินออกไป
ไอริณยืนมองรอบตัวที่ไร้ผู้คน เนื่องจากไม่ใช่เวลาเรือเข้า ที่ด่านตรวจจึงไม่มีทั้งนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ เธอเดินมองไปรอบ ๆ ก่อนจะพบทางออกเล็ก ๆ ที่กั้นเชือกไว้ หญิงสาวกระพริบตาปริบ ๆ ตัดสินใจกระโดดข้ามไปดื้อ ๆ เมื่อหันมามองอีกครั้งเธอก็ต้องอ้าปากค้าง ส่งยิ้มเจื่อน ๆ ให้เจ้าหน้าที่จาง
ชายหนุ่มยื่นมือมาปลดเชือกที่กั้นทางออกออก แล้วเดินผ่านมาหยุดมองหน้าหญิงสาว
"โรมมิ่งคุณอนุมัติหรือยัง"
ไอริณหยิบโทรศัพท์มาดู เมื่อเห็นข้อความแจ้งการเปิดใช้งานระบบอินเตอร์เน็ทต่างประเทศถูกส่งเข้ามา เธอก็พยักหน้ารับ
"ค่ะ..." เธอตอบแล้วนึกได้ รีบกดเข้าไปเปิดเฟซบุ๊ค "โอเค...ฉันกดรับคุณแล้ว จะเข้าไปตรวจสอบฉันก็เชิญเลย"
เจ้าหน้าที่จางไม่ได้หยิบโทรศัพท์ออกมา เขาเดินนำเธอไปขึ้นบันไดเลื่อน
"คุณ...จะไปไหนคะ"
"กินข้าว"
ไอริณพยักหน้ารับ เป็นอันว่าเจ้าหน้าที่จางไม่ได้คิดจะนำทางเธอ หญิงสาวไหวไหล่เบา ๆ เดินตามเขาขึ้นบันไดเลื่อนมาจนถึงชั้นสองที่เขาบอกว่ามีบัตรออคโทพัสจำหน่าย เธอมองรอบ ๆ ก็เห็นเพียงร้านอาหาร จึงยื่นมือไปแตะไหล่เจ้าหน้าที่จาง
"นี่..."
เขาหันมามองตาดุ ไอริณถึงกับเผลอกระโดดถอยห่าง ช้อนตามองเขากึ่งค้อนอย่างอดไม่ได้
แค่นี้ก็ต้องดุกันด้วยหรือ
"คุณบอกว่าซื้อออคโทพัสการ์ดได้ที่ชั้นสอง ตรงไหนเหรอคะ"
"หือ..." เขานิ่งไปครู่ ก่อนถาม "คุณหมายถึงออคโทพัสการ์ดเหรอ ต้องชั้นบนที่สถานีรถไฟฟ้า"
"อ้าว...แล้วที่คุณบอกว่าชั้นสอง"
"อ้อ...ผมคงฟังผิดไป คิดว่าออคโทพัส" เขายักคิ้ว มองไปทางขวามือ เมื่อไอริณมองตามจึงเห็นร้านขายปลาหมึกยักษ์ทอดกรอบ "เห็นนักท่องเที่ยวนิยมกันมาก"
ไอริณกลอกตามองฟ้าอย่างอ่อนใจ หน้าตาส่วนไหนของเธอที่ดูหิวโซจนเขาเข้าใจว่าออคโทพัสการ์ดของเธอเป็นเจ้าปลาหมึกยักษ์ไปได้
"แล้วรถไฟฟ้าต้องไปทางไหนคะ"
"ขึ้นบันไดไปอีกชั้นแล้วเดินตามป้ายไปเรื่อย ๆ" เขาบอกหน้านิ่ง แล้วเดินเข้าศูนย์อาหารไป
โชคดีที่ไอริณเป็นคนฉลาด เธอจึงหาป้ายบอกทางเจอและสามารถซื้อออคโทพัสการ์ด พาตัวเองมาถึงฟอเทรสฮิลล์ได้อย่างปลอดภัย
----
เอาปลาหมึกยักษ์มาฝากค่ะ
ไม่มีใครรู้เส้นทางชีวิตในแต่ละวันจะพบเจอกับสิ่งใด แต่เพราะแบบนี้ ชีวิตจึงเป็นเรื่องท้าทาย
ใครจะคิดว่าคนอย่างไอริณจะมีวันเวลาแบบนี้ได้
หญิงสาวในชุดเอี๊ยมยีนส์ตัวโคร่งคลุมทับเสื้อยืดสีขาวลายการ์ตูนดูเหมือนเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะถูกเชิญออกมาจากเคาน์เตอร์หน่วยตรวจคนเข้าเมือง เธอกระพริบตาปริบ ๆ เดินตามเจ้าหน้าที่ชายวัยกลางหน้าตาดุดันไปที่ที่นั่งด้านหลังซึ่งจัดเรียงไว้ข้างห้องสัมภาษณ์เล็ก ๆ ซึ่งอยู่ติดกัน คงเพราะที่นี่ไม่ใช่ท่าเรือหลัก และช่วงนี้ก็ไม่ใช่เทศกาลท่องเที่ยว ที่นั่งตรงนั้นจึงว่างเปล่าไร้ผู้คน
เจ้าหน้าที่ที่พาเธอมาชี้ไปที่เก้าอี้แล้วหมุนตัวจากไปพร้อมหนังสือเดินทางของเธอโดยไม่พูดจา ปล่อยให้ไอริณได้แต่มองตามตาปริบ ๆ
เธอนั่งมองไปมองมาอยู่เพียงครู่ กำลังจะเปิดกระเป๋าหยิบนิยายที่เตรียมไว้มานั่งอ่าน เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็เดินเข้ามา
"มิสไอริณ..."
"อิสมี..." เธอเอ่ยรับ พร้อมลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ผายมือไปที่ห้องเล็ก ๆ ตรงหน้า
"เชิญครับ"
เธอเดินตามเขาเข้ามาในห้องเล็ก ๆ ที่มีเพียงโต๊ะไม้ติดผนังขนาดเท่าโต๊ะนักเรียนมัธยม วางคอมพิวเตอร์ไว้เครื่องหนึ่ง กับเก้าอี้ไม้สามตัวอยู่โดยรอบ เธอกระพริบตาปริบ ๆ เอียงคอมองเขาราวจะถาม ชายหนุ่มจึงดึงเก้าอี้นั่งด้านข้างออกมา แล้วบอกให้เธอนั่ง
"คุณคือมิสไอริณ..." ไอริณเพิ่งสังเกตว่าเขาเอ่ยถามด้วยสำเนียงบริติชเสนาะหู คนชอบภาษาอย่างเธอจึงอดจะคลี่ยิ้มอย่างพอใจบาง ๆ ไม่ได้
"ค่ะ" เอ่ยตอบพลางเลื่อนสายตาเริ่มสำรวจคนตรงหน้าอย่างจริงจัง แต่เพียงสบตาเรียวใต้กระจกแว่นใส เขาก็ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว
"คุณรอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวผมมา" เขาถือหนังสือเดินทางของเธอเดินออกไป
"อะไรนี่..." ไอริณถอนใจ กลอกตามองเพดานห้องแล้วเอียงคอมองตามหลังชายหนุ่มไป
เธอสูดลมหายใจยาว เมื่อเจ้าหน้าที่หนุ่มเดินกลับมาอีกครั้ง เขานั่งลงหน้าจอคอมพิวเตอร์ แล้วเริ่มพิมพ์ข้อมูลลงไป
"ชื่อของคุณคือ..."
"ไอริณ...ไอริณ รัตติรักษ์..." เธอเอ่ยย้ำ คลี่ยิ้มบางเมื่อมองใบหน้าขาวเนียน ผิวขาวเหลืองแบบหนุ่มเอเชียเข้ากับนัยน์ตาเรียวที่อยู่ใต้แว่น ริมฝีปากแดงบางเฉียบดูมีเสน่ห์ตามสไตล์หนุ่มตี๋
...ถ้าคนสัมภาษณ์หน้าตาแบบนี้...โดนโบกเข้ามาก็กำไรแล้ว...
"คุณมาทำอะไรที่นี่" คำถามเสียงเรียบ กลับทำให้ไอริณเผลอยิ้มที่มุมปาก
"ขอโทษนะคะ...ฉันมีสิทธิ์จะทราบชื่อคุณไหมคะ" เธอเอียงคอถามหน้าตาเฉย
คนที่นั่งมองจอคอมพิวเตอร์อยู่เมื่อครู่เงยหน้ามามองเธอทันที ในดวงตาเรียวหรี่ลงเล็กน้อยราวประเมิน ก่อนเอ่ยตอบ
"เจ้าหน้าที่จาง..."
ไอริณหรี่ตากัดริมฝีปากอย่างนึกรำคาญท่าทีเป็นทางการของคนตรงหน้า เธอยืดตัวตรง พยักหน้ารับอย่างอ่อนใจ "โอเค...ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ เจ้าหน้าที่จาง"
"คุณพร้อมจะตอบคำถามแล้วใช่ไหม"
"ฉันมาท่องเที่ยวค่ะ" เธอสบตาเขา ตอบอย่างตรงไปตรงมา
"มากับใคร"
"คนเดียวค่ะ" เขาเงยหน้ามองเธอเมื่อได้ยินคำตอบ
"คนเดียว..."
"นี่เป็นเหตุผลที่ฉันถูกเรียกมาที่นี่หรือเปล่าคะ...ผู้หญิงที่เดินทางคนเดียว" เธอเอ่ยถามกลั้วหัวเราะ
"ส่วนหนึ่ง..." เจ้าหน้าที่จางหันกลับไปสนใจกับจอคอมพิวเตอร์อยู่
"คุณจะกลับเมื่อไร"
"วันที่...15 ค่ะ" เธอเปิดกระเป๋าสตางค์ แล้วส่งเอกสารการจองตั๋วเครื่องบินให้ชายหนุ่ม "นี่...เอกสารการจองตั๋วเครื่องบินของฉันค่ะ"
เขารับเอกสารไปพลิกดู ก่อนพิมพ์ข้อมูลลงไป "แล้วคุณพักที่ไหน"
"ฟอเทรสฮิลล์ค่ะ" เธอเอ่ยชื่อโรงแรม
"มีเอกสารการจองห้องพักไหมครับ"
"ค่ะ แต่ฉันไม่ได้พิมพ์ออกมา" เธอเปิดสมาร์ทโฟน เลื่อนไปที่ภาพสแกนใบตอบรับการจองของโรงแรมแล้วส่งให้เขาดู
"ก่อนหน้านี้คุณไปมาเก๊ามาหรือ" เขาเอ่ยถามต่อเมื่อส่งสมาร์ทโฟนคืนให้เธอ
ไอริณพยักหน้ารับ "ค่ะ...ฉันลงจากเครื่องที่ฮ่องกงเมื่อวาน แล้วนั่งเรือไปมาเก๊าต่อ วันนี้จึงกลับมาเที่ยวที่ฮ่องกง"
"ที่มาเก๊า คุณไปไหนมาบ้าง"
หญิงสาวนิ่งงันไปครู่ด้วยความแปลกใจ ยังไม่เข้าใจว่าเธอไปเที่ยวที่ไหนบ้างในมาเก๊าจะเกี่ยวอะไรกับการตรวจคนเข้าเมืองของฮ่องกง
"ก็...ซีนาโด้สแควร์ วัดอาม่า แล้วก็...โคโลอานค่ะ" เธอตอบเพียงบางแห่งที่พอจำได้ หากให้เล่าทั้งหมด เกรงว่าเขาจะตกใจที่เธอใช้เวลาเพียงครึ่งวันกับหนึ่งคืนไปซนได้ขนาดนั้น
"อ้อ...มีรูปไหม ขอผมดูรูปหน่อย"
ไอริณหัวเราะ เธอเข้าใจแล้ว เขาต้องการตรวจสอบว่าเธอไปท่องเที่ยวมาจริง ๆ
"ในโทรศัพท์ฉันมีแต่รูปเซลฟี่นะคะ" เธอส่งสมาร์ทโฟนให้เขาเลื่อนดูภาพที่ถ่ายไว้ "ถ้าคุณยังไม่เชื่อ...ขอฉันหยิบกล้องแปปนะคะ"
เธอเดินออกจากห้องสัมภาษณ์มาเปิดกระเป๋าแบ็กแพคใบใหญ่ที่วางไว้หน้าห้อง ค้นเอากล้องตัวใหญ่ขึ้นมา เปิดภาพขึ้นจอให้ชายหนุ่ม "นี่ค่ะ...โบสถ์ฟรานซิสซาเวียร์ที่โคโลอานที่เป็นสถานที่ถ่ายทำซีรี่ย์เกาหลีเรื่องกุง คุณเคยดูไหม"
"นี่...วัดตำคุณ อยู่ใกล้ ๆ โบสถ์นั่นล่ะค่ะ เป็นวัดของชาวประมงที่นั่นเลยนะคะ กว่าฉันจะหาเจอนี่...หลงไปสุดขอบทะเลเลยล่ะ" เธอเลื่อนภาพไปเรื่อย ๆ แล้วหันมาเลิกคิ้วมองเขา
"คุณอยากดูภาพที่ไหนอีกไหมคะ"
เขาส่งโทรศัพท์คืนให้เธอ ท่าทางดูอ่อนใจกับผู้หญิงที่ไม่ได้มีความรู้สึกหวาดหวั่นสักนิดว่าเธอกำลังถูกสัมภาษณ์โดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง
"คุณทำงานหรือเรียนอยู่" เขาถามต่อเมื่อเธอรับกล้องมาวางบนโต๊ะแล้ว
"ทำงานค่ะ" เธออมยิ้มบาง ๆ รอให้เขาถามต่อ
"ทำอะไรครับ"
ไอริณกลอกตา เม้มปากอย่างเก้อเขิน "ฉันเป็นตำรวจค่ะ..."
เขาเงยหน้ามองเธออย่างประหลาดใจ "ตำรวจ..."
"ค่ะ...ฉันอยู่ฝ่ายปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยี"
"คุณมีแฟนหรือยัง"
ไอริณเอียงคอมองอย่างประหลาดใจ แต่เจ้าหน้าที่จางยังนั่งนิ่งราวเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ เธอจึงตอบ "ไม่มีค่ะ"
เจ้าหน้าที่จางนิ่งเงียบไปนาน เขาเปิดหนังสือเดินทางของเธอดูทีละหน้า ไอริณมองแล้วอมยิ้ม เธอเพิ่งไปทำหนังสือเดินทางฉบับนี้ใหม่เมื่อสองอาทิตย์ก่อน ไม่ต้องแปลกใจเลยที่ทุกหน้าจะมีเพียงความว่างเปล่า
"เพราะหนังสือเดินทางใหม่ด้วยหรือเปล่าคะ...เล่มเก่าฉันเพิ่งหมดอายุเมื่อเดือนกุมภาฯ"
"บอร์ดดิ้งพาสของมาเก๊าล่ะครับ"
เธอเปิดกระเป๋าสตางค์ หยิบกระดาษแผ่นเล็กที่มีคิวอาร์โค้ดซึ่งได้จากด่านตรวจของมาเก๊าขึ้นมา "คุณหมายถึงนี่หรือเปล่า"
เขารับมาสแกนเข้าคอมพิวเตอร์แล้วส่งคืนเธอ
"ผมขอดูบัตรประจำตัวที่ทำงานคุณได้ไหม"
ไอริณเลิกคิ้ว คลี่ยิ้มเจื่อน ๆ "ฉันไม่ได้เอามาค่ะ" เพราะกลัวว่าเอกสารสำคัญจะสูญหายระหว่างเดินทาง เธอจึงเลือกนำมาเฉพาะของที่คิดว่าจะเป็นคือหนังสือเดินทาง บัตรประจำตัวประชาชน และบัตรเครดิตอีก 1 ใบเท่านั้น
ชายหนุ่มมองหน้าเธอนิ่งอย่างประเมิน ไอริณจึงก้มลงเปิดสมาร์ทโฟน "ฉันอาจจะมีภาพเอกสารที่เก็บไว้"
มีภาพเอกสารแสดงตัวหลายฉบับอยู่ในอัลบั้มของสมาร์ทโฟน เพียงแต่ส่วนใหญ่เป็นภาษาไทยทั้งสิ้น เธอได้แต่กลอกตาอย่างอ่อนใจ เลื่อนไปมาก็เห็นภาพที่เธอสวมเครื่องแบบตำรวจถ่ายร่วมกับครอบครัว
"อ๊ะ...นี่ ๆ พอจะทำให้คุณเชื่อได้ไหมว่าฉันเป็นตำรวจจริง ๆ" เธอส่งสมาร์ทโฟนให้เขา เงยหน้ามองตาปริบ ๆ
เจ้าหน้าที่จางยังทำหน้านิ่ง มองเธออย่างเย็นชา ไอริณเหลือบมองสบตาเขาแล้วกลอกตาอย่างอ่อนใจ "ถ้าคุณไม่เชื่อ...เข้าไปดูในเฟซบุ๊คฉันก็ได้ ฉันมีงาน มีครอบครัว มีชีวิตที่ไทย...ไม่มาทำอะไรผิดกฎหมายที่บ้านเมืองคุณหรอก"
"เปิดสิ..."
"คะ..."
"เฟซบุ๊คคุณน่ะ"
ไอริณกลอกตา "ไม่ได้น่ะสิคะ ฉันยังไม่ได้เปิดโรมมิ่ง" ความละเอียดในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่จางทำให้เธอเริ่มหวั่นใจแล้ว โดยเฉพาะเมื่อไม่มีเอกสารสำคัญที่จะแสดงความมั่นคงของตัวเอง
ถ้าเธอถูกส่งกลับเมืองไทย ต้องมีคนรอหัวเราะเยาะแน่
ระหว่างที่เธอเริ่มหวั่นใจกับชะตาตัวเอง เจ้าหน้าที่จางก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เลื่อนนิ้วไปมาเพียงไม่นานก็วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ เลื่อนมาตรงหน้าเธอ
"เปิดสิ..."
ไอริณก้มลงมองจึงเห็นว่าเขาเปิดเฟซบุ๊คไว้ เธอพิมพ์ชื่อตัวเองลงไป หน้าโปรไฟล์ส่วนตัวก็ปรากฏขึ้นมา
เจ้าหน้าที่จางชะโงกมาดูจึงเห็นว่าบนหน้าจอมีเพียงภาพของหญิงสาวไม่กี่ภาพเท่านั้น
"ลืมไปเลยว่าฉันตั้งค่าล็อกไว้ให้เห็นแค่คนที่เป็นเพื่อน" เธอถอนใจ เบะปาก "ดูโพรไฟล์แม่ดีกว่า แม่ชอบลงรูปฉัน"
เขากลับกดส่งคำขอเป็นเพื่อนที่หน้าจอให้เธอ แล้วดึงโทรศัพท์คืน "ไม่ต้องหรอก เปิดโรมมิ่งแล้วคุณก็รับเฟรนด์ผมซะ"
ไอริณเงยหน้ามองอย่างประหลาดใจ ยังไม่ทันได้ถามอะไรเขาก็ตอบ
"หลังคุณรับเฟรนด์ ก็ลงภาพให้ผมตรวจสอบคุณได้...ผมจะได้มั่นใจว่าไม่ได้ปล่อยคุณเข้ามาทำอะไรผิดกฎหมายในบ้านเมืองผม"
ไอริณอ้าปากค้าง จ้องหน้าชายหนุ่มด้วยความมึนงง
ตรวจสอบกันอย่างนี้ก็ได้เหรอ...คุณเจ้าหน้าที่...
เขายื่นหนังสือเดินทางคืนให้เธอ แล้วลุกขึ้นยืน "คุณไปได้...เชิญ" เขาผายมือให้พร้อมหยิบกระเป๋าของเธอยื่นคืนให้หญิงสาว
ไอริณคว้ากระเป๋า สะพายเป้อย่างงุนงง ผู้ชายตัวโตถือวิสาสะดันไหล่เธอออกมาจากห้อง แล้วนำเธอไปที่ทางออกเล็ก ๆ
หญิงสาวเดินออกมาอย่างมึนงง เธอยังไม่ทันได้คิดจนเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ชะงักไป แล้วรีบเดินกลับมาหาเจ้าหน้าที่หนุ่มที่กำลังจะหมุนตัวกลับ
"ขอโทษนะคะ...ฉันจะซื้อออคโทพัสการ์ดได้ที่ไหนคะ"
ไม่ว่ารีวิวท่องเที่ยวฉบับไหนก็เน้นย้ำถึงความสำคัญของออคโทพัสการ์ดที่เป็นเหมือนบัตรเงินสดสำหรับการเดินทางในฮ่องกง
"ข้างบน...ชั้นสอง" เขาบอกแล้วเดินออกไป
ไอริณยืนมองรอบตัวที่ไร้ผู้คน เนื่องจากไม่ใช่เวลาเรือเข้า ที่ด่านตรวจจึงไม่มีทั้งนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ เธอเดินมองไปรอบ ๆ ก่อนจะพบทางออกเล็ก ๆ ที่กั้นเชือกไว้ หญิงสาวกระพริบตาปริบ ๆ ตัดสินใจกระโดดข้ามไปดื้อ ๆ เมื่อหันมามองอีกครั้งเธอก็ต้องอ้าปากค้าง ส่งยิ้มเจื่อน ๆ ให้เจ้าหน้าที่จาง
ชายหนุ่มยื่นมือมาปลดเชือกที่กั้นทางออกออก แล้วเดินผ่านมาหยุดมองหน้าหญิงสาว
"โรมมิ่งคุณอนุมัติหรือยัง"
ไอริณหยิบโทรศัพท์มาดู เมื่อเห็นข้อความแจ้งการเปิดใช้งานระบบอินเตอร์เน็ทต่างประเทศถูกส่งเข้ามา เธอก็พยักหน้ารับ
"ค่ะ..." เธอตอบแล้วนึกได้ รีบกดเข้าไปเปิดเฟซบุ๊ค "โอเค...ฉันกดรับคุณแล้ว จะเข้าไปตรวจสอบฉันก็เชิญเลย"
เจ้าหน้าที่จางไม่ได้หยิบโทรศัพท์ออกมา เขาเดินนำเธอไปขึ้นบันไดเลื่อน
"คุณ...จะไปไหนคะ"
"กินข้าว"
ไอริณพยักหน้ารับ เป็นอันว่าเจ้าหน้าที่จางไม่ได้คิดจะนำทางเธอ หญิงสาวไหวไหล่เบา ๆ เดินตามเขาขึ้นบันไดเลื่อนมาจนถึงชั้นสองที่เขาบอกว่ามีบัตรออคโทพัสจำหน่าย เธอมองรอบ ๆ ก็เห็นเพียงร้านอาหาร จึงยื่นมือไปแตะไหล่เจ้าหน้าที่จาง
"นี่..."
เขาหันมามองตาดุ ไอริณถึงกับเผลอกระโดดถอยห่าง ช้อนตามองเขากึ่งค้อนอย่างอดไม่ได้
แค่นี้ก็ต้องดุกันด้วยหรือ
"คุณบอกว่าซื้อออคโทพัสการ์ดได้ที่ชั้นสอง ตรงไหนเหรอคะ"
"หือ..." เขานิ่งไปครู่ ก่อนถาม "คุณหมายถึงออคโทพัสการ์ดเหรอ ต้องชั้นบนที่สถานีรถไฟฟ้า"
"อ้าว...แล้วที่คุณบอกว่าชั้นสอง"
"อ้อ...ผมคงฟังผิดไป คิดว่าออคโทพัส" เขายักคิ้ว มองไปทางขวามือ เมื่อไอริณมองตามจึงเห็นร้านขายปลาหมึกยักษ์ทอดกรอบ "เห็นนักท่องเที่ยวนิยมกันมาก"
ไอริณกลอกตามองฟ้าอย่างอ่อนใจ หน้าตาส่วนไหนของเธอที่ดูหิวโซจนเขาเข้าใจว่าออคโทพัสการ์ดของเธอเป็นเจ้าปลาหมึกยักษ์ไปได้
"แล้วรถไฟฟ้าต้องไปทางไหนคะ"
"ขึ้นบันไดไปอีกชั้นแล้วเดินตามป้ายไปเรื่อย ๆ" เขาบอกหน้านิ่ง แล้วเดินเข้าศูนย์อาหารไป
โชคดีที่ไอริณเป็นคนฉลาด เธอจึงหาป้ายบอกทางเจอและสามารถซื้อออคโทพัสการ์ด พาตัวเองมาถึงฟอเทรสฮิลล์ได้อย่างปลอดภัย
----
เอาปลาหมึกยักษ์มาฝากค่ะ
ลิขิตรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ม.ค. 2560, 14:57:17 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ม.ค. 2560, 14:57:17 น.
จำนวนการเข้าชม : 1044
ไกด์กิติมศักดิ์ >> |
คิมหันตุ์ 6 ม.ค. 2560, 02:05:22 น.
เกลียดความตีหน้าตาย หน้ามึน แต่แอดเฟสกับขุ่นไอริณ คือหร่ะ คะ เจ้าหน้าที่จาง เนียนเกิ๊น 55555
เกลียดความตีหน้าตาย หน้ามึน แต่แอดเฟสกับขุ่นไอริณ คือหร่ะ คะ เจ้าหน้าที่จาง เนียนเกิ๊น 55555
kraten 7 ม.ค. 2560, 01:07:53 น.
จนท.จางแต่ชงเรื่องเข้าหาตัวเข้มเชอ...
จนท.จางแต่ชงเรื่องเข้าหาตัวเข้มเชอ...
sai 9 ม.ค. 2560, 15:46:58 น.
มีความเนียนนะคะ คุณ จนท จาง
มีความเนียนนะคะ คุณ จนท จาง
goszy 13 ม.ค. 2560, 20:01:43 น.
น่าานคุณจนท.จางจีบ
น่าานคุณจนท.จางจีบ