ห้วงฝันวันรัก (ผ่านพิจารณาสนพ.)
กิรณา ย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่ได้เพียงไม่นาน แต่แล้วชีวิตกลับต้องพลิกผันเมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่ง หล่อนได้ข้ามผ่านไปยังช่วงเวลาอนาคต!

ภายใต้ความลึกลับของกาลเวลาที่ชวนพิศวงนั้น ไม่มีสิ่งใดเลวร้ายไปกว่าการที่หญิงสาวต้องมารับรู้ถึงการจากไปอย่างกะทันหันของบุพการี โดยไร้ซึ่งต้นสายปลายเหตุ ดรัล ในฐานะเพื่อนบ้านที่แสนดี แม้จะไม่ค่อยถูกชะตากับสาวข้างบ้านอย่างกิรณาตั้งแต่แรกพบเสียเท่าไหร่ แต่จำต้องยื่นมือเข้ามาช่วยคลี่คลายเงื่อนงำที่เกิดขึ้น

อดีต ปัจจุบัน อนาคต...เหตุการณ์ในช่วงเวลาใดกันแน่ที่มีแต่ความหลอกลวง...
Tags: เวลา ดราม่า ไซไฟ ฆาตกรรม หมอ บรรณารักษ์ สืบ อนาคต อบอุ่น เพื่อนบ้าน โรแมนติก

ตอน: บทที่ 3---45%

บทที่ 3 (ต่อ)


กิรณารู้สึกเหมือนมีคนมาหยุดยืนตรงหน้าจึงละสายตาจากงานบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ เงยหน้าสบมอง ทว่าหล่อนต้องตาฝาดไปแน่ๆ เพราะภาพผู้เข้ามาใช้บริการที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะยามนี้ กลายเป็นภาพฉากหลังเบลอๆ เบื้องหน้าหญิงสาวนั้น ดรัลกำลังยืนรออยู่หน้าเคาน์เตอร์ยืน-คืนหนังสือ !

ชายหนุ่มข้างบ้านกระแอมไอเล็กน้อย เขาคงอ่านสีหน้าหล่อนออก นั่นแหละบรรณารักษ์สาวถึงได้รีบหยิบหนังสือที่เขาวางไว้บนเคาน์เตอร์มาจัดการให้ เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นเสียดสีการเมือง เหมาะกับหน้าซีเรียสๆ ของเขาอยู่

“วันนี้นึกครึ้มอะไรขึ้นมาคะ ปกติฉันไม่เคยเห็นคุณแวะมาอ่านหนังสือที่นี่เลย”

“เผอิญผม...เอิ่ม...ว่างพอดี เลยลองแวะเข้ามาดูนิดหน่อย” ดรัลอึกอัก แถมยังทำหน้าปูเลี่ยนๆ ชอบกล บรรณารักษ์สาวเห็นแล้วอดอมยิ้มให้ไม่ได้ นึกขันในสีหน้านั้น ส่งหนังสือคืนเขา

“คุณเลิกงานกี่โมง จะติดรถผมกลับบ้านรึเปล่า...คือ ผมเห็นฟ้ามันดูครึ้มๆ เหมือนฝนจะตก เมื่อเช้าคุณไม่ได้ขับรถมาทำงานไม่ใช่เหรอ ไหนๆ บ้านเราสองคนก็อยู่ติดกันอยู่แล้ว ถ้าผมไม่ถามก็ดูจะใจจืดใจดำเกินไปหน่อย”

ดรัลอธิบายเสียยาวเหยียดราวกับกลัวสาวตรงหน้าจะจับพิรุธได้ยังไงยังงั้น หากเขาไม่รู้ตัวหรอกว่า คำว่าใจจืดใจดำของเขานั้นทำให้หญิงสาวที่กำลังหัวใจพองโตอยู่ดีๆ ห่อเหี่ยวหัวใจในบัดดล ผู้ชายอะไร ตอนไม่พูดก็ดูดีอยู่หรอก แต่อ้าปากพูดทีไรแต่ละคำเชือดเฉือนคมกริบไม่ต่างจากกรรไกรโรง’บาล ปากจัดชะมัด

จากว่าจะยอมตกลงไปกับเขาแต่แรก เปลี่ยนใจทันควัน

“ขอบคุณนะคะคุณดรัลที่ยังอุตส่าห์มีน้ำใจถามฉันเรื่องนี้ แต่ถ้าคุณกลัวฉันจะหาว่าใจจืดใจดำ ขอให้คุณสบายใจได้ เพราะฉันจะไม่ว่าคุณแม้แต่คำเดียว”

“คุณหมายความว่าไง”

ดรัลถามกลับมาตาใส ไม่ได้รับรู้ในอาการขุ่นเคืองของสาวเจ้าสักนิด และนั่นทำให้กิรณาหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม เชิดหน้าใส่เขา ลุกหนีออกมาจากตรงนั้น

ดรัลยังคงตามหลังมา “รถคุณยังอยู่ที่อู่อยู่เลยไม่ใช่เหรอ”

“ฉันมีคนมารับแล้ว ถ้าคุณเสร็จธุระของคุณแล้วก็เชิญขับรถกลับบ้านไปคนเดียวเถอะค่ะ”

“ใครมารับคุณ เพื่อน ?”

กิรณาไม่ตอบ เอาแต่ลุกลี้ลุกลนมองหาเพื่อนบรรณารักษ์ด้วยกันเผื่อจะช่วยกันคนปากเสียช่างถามออกไปห่างๆ ได้บ้าง แต่หวานตาดันหายไปช่วยผู้เข้าใช้บริการรายอื่นหาหนังสืออยู่นั่นเอง

สุดท้าย...บรรณารักษ์สาวเลยถูกปล่อยลอยแพ ออกมายืนรอรถเมล์ตัวคนเดียวหลังเลิกงาน

กิรณาได้แต่ชะเง้อคอมองหารถเมล์ทั้งหน้ามุ่ย ก็หล่อนมีคนมารับที่ไหนกันเล่า แค่ตอบปัดดรัลไปส่งๆ ดรัลก็ดันพาซื่อเชื่อว่าหล่อนมีคนมารับแล้วจริงๆ ยอมผละไปง่ายๆ เสียอย่างนั้น ให้มันได้อย่างนี้สิ !

ฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เล่นเอาสาวเจ้ากระโดดเหยงหลบเข้าไปใต้ชายคาป้ายรถเมล์แทบไม่ทัน เช่นเดียวกับคนแถวนั้นที่ต่างหาที่หลบฝนกันให้วุ่น ฝนสาดกระเซ็นเข้ามาจนกิรณาต้องใช้กระเป๋าสะพายป้องหน้าตัวเองไว้เป็นเกราะกำบังแม้ว่าทั้งผมเผ้าเสื้อผ้าจะชื้นด้วยละอองฝนหมดแล้วก็ตาม ชั่ววินาทีนั้น หญิงสาวมีสภาพเปียกปอนไม่ต่างจากลูกสุนัขตกน้ำ พาลนึกโกรธชายหนุ่มข้างบ้านขึ้นมาที่ทิ้งกันไปง่ายๆ

"เพราะคุณคนเดียว อีตาหมอบ้า! นอกจากจะปากเสียแล้วยังชอบทำร้ายจิตใจผู้...คุณ!” คำว่า ‘ผู้หญิง’ กลืนหายลงคอ เพราะกิรณาถึงกับสะดุ้งโหยงเมื่ออยู่ดีไม่ว่าดีหันไปเห็นชายหนุ่มข้างบ้าน กำลังยืนกอดอกกางร่มจ้องมองหล่อนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

“ขะ...คุณโผล่มาได้ไงเนี่ย”

“เมื่อกี้คุณพูดถึงใคร”

“ฉัน...เอ่อ...” กิรณาหน้าซีดเผือด ก็หล่อนนึกว่าเขากลับบ้านไปแล้วน่ะสิ

ดรัลดึงกิรณาเข้ามาหลบฝนใต้ร่มคันเดียวกัน สาวเจ้าตั้งท่าจะโวยวายขัดขืน ดรัลเลยจำต้องเอ่ยขัด

"พอเถอะคุณ ฝนตกหนักขนาดนี้ยังมีแก่ใจมาต่อล้อต่อเถียงอีก รีบกลับบ้าน จะได้รีบๆ นอน พรุ่งนี้ยังต้องตื่นเช้ามาทำงาน”

“แต่ฉัน...” กิรณาลังเล ใจหนึ่งหล่อนก็อยากขึ้นรถเขากลับบ้าน แต่อีกใจหนึ่งยังเคืองเขาอยู่ที่ไม่คิดจะพยายามถามให้รู้เรื่องสักคำ เลยทำเป็นชะเง้อคอยืดคอยาวมองหารถเมล์อยู่นั่นเอง หากคราวนี้ดรัลไม่ยอมปล่อยสาวเจ้าไปง่ายๆ ถือวิสาสะเอามือมาโอบเอวหญิงสาวไว้

"เดี๋ยวผมไปส่งคุณเอง"

ชายหนุ่มข้างกายพูดสั้นๆ แค่นั้น แต่ด้วยความที่อยู่ใกล้กัน คำพูดของดรัลจึงเหมือนกระซิบที่ข้างหูหล่อน น้ำเสียงของเขานั้นทุ้มนุ่มลึกสุภาพน่าฟังกว่าเดิมมาก ชนิดที่ทำเอาสาวขัดขืนเมื่อครู่นิ่งลงถนัดตา ไม่วายสัมผัสได้ถึงอ้อมแขนแข็งแกร่งของดรัลที่กระชับแน่นขึ้นเพื่อให้หล่อนกระเถิบกายเข้ามาใกล้ ก่อนที่จะพากันเดินกึ่งวิ่งฝ่าสายฝนไปขึ้นรถด้วยกันในเวลาถัดมา




สรัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 มิ.ย. 2560, 14:55:14 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 มิ.ย. 2560, 14:55:14 น.

จำนวนการเข้าชม : 746





<< บทที่ 3---25%   บทที่ 3---70% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account