ความทรงจำใต้ผืนทราย
หนึ่งรัก สองภพ คำสัญญา และการรอคอย
พระองค์-ฟาโรห์แห่งอียิปต์ และ นาง-สตรีผู้เสียความทรงจำ
สิ่งใดหนอนำทั้งสองมาพบกัน ...มันคือ โชคชะตา หรือ ความผูกพัน
พระองค์-ฟาโรห์แห่งอียิปต์ และ นาง-สตรีผู้เสียความทรงจำ
สิ่งใดหนอนำทั้งสองมาพบกัน ...มันคือ โชคชะตา หรือ ความผูกพัน
Tags: อียิปต์ ฟาโรห์ ย้อนยุค ทะเลทราย ความทรงจำ
ตอน: บทนำ
สวัสดีค่ะ นิยายเรื่องนี้เคยนำมาโพสต์ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้วภายใต้นามปากกา บุหลันรัศมิ์ (มีใครจำได้บ้างเอ่ย) โดยหลังจากโพสต์ครั้งนั้นแล้วก็ได้ทำการรีไรท์ครั้งใหญ่และตอนนี้ได้ออกมาเป็น ebook แล้วค่ะ ผู้เขียนจึงนำมาโพสต์อีกครั้งเพื่อเป็นตัวอย่างทดลองอ่าน หวังว่าคงชอบกันนะคะ
ทั้งนี้ ตอนนี้ผู้เขียนก็มีนิยายเรื่องที่สองแล้ว จะนำมาโพสต์พร้อม ๆ กันจากนี้ค่ะ อย่างไรลองมาอ่านและเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ^_^
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ผืนน้ำสีน้ำเงินเข้มของแม่น้ำไนล์ในยามต้องแสงแดดจนเป็นประกายระยิบระยับนั้น ดูมีมนต์ขลังอย่างประหลาด ความเขียวขจีของพืชพรรณและวิถีชีวิตของผู้คนตลอดสองฝั่งแม่น้ำที่ทอดตัวยาวไกล ยิ่งเพิ่มเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์น่าหลงใหลให้กับดินแดนแห่งนี้ ...ดินแดนที่ได้ชื่อว่า ของขวัญจากแม่น้ำไนล์
...อียิปต์ ดินแดนแห่งฟาโรห์
น่านฟ้าสูดหายใจเอาลมเย็นแสนสดชื่นเข้าไปเต็มปอด เมื่อได้มานั่งอยู่บนเรือเฟอร์รี่กลางแม่น้ำแบบนี้แล้ว เธอก็แทบไม่อยากละสายตาจากวิวทิวทัศน์ริมฝั่งแม้แต่น้อย แต่แดดที่จัดจ้านนอกจากจะทำให้เธอต้องใช้มือป้องตาอยู่ตลอดเวลาแล้ว สุดท้ายก็ทำให้หญิงสาวจำใจหยิบแว่นกันแดดสีเข้มขึ้นมาสวม สีสันที่สวยงามริมฝั่งแม่น้ำจึงต้องถูกบดบังด้วยสีชาของเลนส์แว่นตาอย่างช่วยไม่ได้
เธอเพิ่งขึ้นเรือล่องจากหุบผากษัตริย์ใกล้เมืองลักซอร์ มุ่งหน้าไปเทียบท่าเพื่อแวะชมวิหารแห่งเทพเจ้าฮอรัสที่เอ็ดฟู ก่อนจะไปสิ้นสุดการเดินทางที่อัสวาน อันอยู่ทางตอนใต้ของอียิปต์ ในยามสายใกล้เที่ยงเช่นนี้ แดดแรงจัดเสียจนครอบครัวของเธอเลือกที่จะนอนพักผ่อนในห้องพักด้านล่างแทน แปลกดีเหลือเกิน มีเพียงน่านฟ้าที่กลับนึกอยากจะชมแม่น้ำไนล์จนต้องขอตัวขึ้นมาสูดอากาศบนดาดฟ้าเรือเพียงลำพัง
แต่ จะว่าลำพังก็ไม่ใช่ เพราะดาดฟ้าเรือซึ่งเป็นทั้งที่พักและห้องอาหารในยามนี้นั้น ยังมีนักท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวตะวันตก ขึ้นมาอาบแดด นั่งเล่น นอนเล่นกันไม่น้อย ดูเผิน ๆ แล้ว เธอน่าจะเป็นชาวเอเชียเพียงคนเดียวในตอนนี้เสียด้วยซ้ำ
...ก็เป็นไรไป... น่านฟ้านึกพลางหมุนแหวนในนิ้วชี้ข้างขวาเล่น ก็เธออยากชมแม่น้ำไนล์ชัด ๆ บ้าง คงไม่ผิดกระมัง
แล้วหญิงสาวก็อดก้มลงมองแหวนที่กำลังสวมอยู่มิได้ แหวนซึ่งทำจากทองคำสลับเงิน มีหัวแหวนเป็นรูปใบหน้าสตรีไว้ผมแสกกลางมีใบหูเป็นวัววงนี้ เธอนึกชอบตั้งแต่เห็นครั้งแรก
‘แหวนเทพีฮาเธอร์ ศักดิ์สิทธิ์มากนะมิส ต้องเป็นเจ้าของเท่านั้นถึงจะใส่ได้ แล้วถ้าใส่ได้ผมให้ฟรีเลย’
เสียงบอกเล่าของคนขายแหวน ซึ่งเป็นเด็กชายชาวพื้นเมืองอายุราวสิบขวบ ที่อุตส่าห์ลอบเข้าไปเสนอขายให้เธอถึงในวิหารที่เดนเดราเมื่อวาน หวนกลับเข้ามาในความทรงจำ เดิมทีมีเพียงเธอและเด็กชายยืนอยู่ตามลำพัง แต่แล้ว น่านน้ำ พี่สาวฝาแฝดของเธอก็มาพบ ซึ่งก็ตื่นเต้นไม่น้อย จนแม้จะมาเจอทีหลังแต่ยังขอลองก่อน
แล้วก็น่าแปลกใจเหลือเกินว่า พี่น้ำของเธอใส่แหวนไม่ได้แม้แต่นิ้วเดียว ในขณะที่เธอ ใส่ได้พอดีตั้งแต่นิ้วแรกที่สวม
‘มันเป็นของมิส’
เด็กชายอุทานก่อนยืนยันว่าจะให้เธอโดยไม่คิดเงินอย่างที่ได้ลั่นวาจาไว้ แม้เธอยืนยันจะจ่ายแค่ไหนก็ตาม กระทั่งเธอและพี่สาวมัวง่วนกับการหาเงินเพื่อมาจ่าย เพียงแค่ไม่กี่วินาทีกระมัง เมื่อเงยหน้าอีกครั้ง คนขายก็อันตรธานไปอย่างไร้ร่องรอย แฝดผู้พี่ของเธอถึงกับอุทาน
‘เออ ดีนะ มาเที่ยววิหารเทพีฮาเธอร์ ก็ได้แหวนเทพีฮาเธอร์กลับไปฟรี ๆ’
น่านฟ้านึกขำ ...ก็อาจจะจริงอย่างว่า
ทว่า สำหรับน่านฟ้าเองแล้ว ลึก ๆ ในใจเธอกลับรู้สึกว่าแหวนวงนี้น่าจะเป็นของที่ระลึกที่มีความหมายมากทีเดียว เพราะสำหรับครอบครัวของเธอ การได้เดินทางมาอียิปต์ และโดยเฉพาะได้ไปเยี่ยมชมวิหารเทพีฮาเธอร์ที่เดนเดรานั้น มันเป็นมากกว่าแค่ การท่องเที่ยว
เพราะพ่อและแม่เคยเล่าให้เธอและพี่สาวฟังว่า เมื่อยี่สิบปีก่อน ตอนนั้นพ่อและแม่แต่งงานกันได้หลายปีแล้ว แต่ทำอย่างไรก็ไม่มีลูกเสียที กระทั่งได้มีโอกาสมาเที่ยวอียิปต์ และได้รู้มาว่า เทพีฮาเธอร์ นอกจากจะเป็นเทพีแห่งความรักและความงามแล้ว ในบางตำนานยังถือเป็นผู้ปั่นด้ายแห่งโชคชะตา แถมยังเป็นเทพีที่คอยดูแลเรื่องการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร เช่นเดียวกับเทพและเทพีอีกหลายองค์อีกด้วย
‘ตอนนั้นพ่อเขานึกยังไงก็ไม่รู้ บอกให้แม่ขอลูกกับเทพี แม่ยังท้วงพ่อเลยว่ามาขออะไรกับเทพโบราณ ไม่นึกว่ากลับไปจะท้องจริง ๆ จำได้ว่า ตอนไปฝากครรภ์ หมอลองนับวันให้ ยังบอกกับพ่อแม่เลยว่าสงสัยไปท้องที่อียิปต์ แถมออกมายังเป็นแฝดอีกแน่ะ’
น่านฟ้านึกถึงคำบอกเล่าของแม่แล้วก็นึกขันจริง ๆ พ่อของเธอก็ช่างคิดเสียเหลือเกิน
‘แต่พ่อก็บอกแม่นะ ว่าขอดี ๆ ขอให้เป็นลูกเราจริง ๆ จะได้ไม่มีลูกเทพีติดมา เดี๋ยวเทพีขอคืนละยุ่งเลย นี่ออกมาเป็นแฝดด้วย น่าคิดนะ’
พ่อพูดประโยคนี้เสริมขึ้นมา น่านฟ้าจำได้ว่าพ่อโดนแม่ตีจนเสียงดัง เพี๊ยะ
เอาเถิด ไม่ว่าพ่อกับแม่จะเชื่ออย่างไร แต่น่านฟ้าก็รู้สึกว่าเธอผูกพันกับเทพีฮาเธอร์เสียเหลือเกิน โดยเฉพาะเมื่อได้แหวนวงนี้มา รู้สึกราวกับว่า ตนเองมีต้นกำเนิดที่ไม่ธรรมดาเสียอย่างนั้น
น่านฟ้าก้มลงมองแหวนที่สวมอยู่อีกครั้ง แต่ในขณะกำลังมองเพลิน ก็รู้สึกเหมือนใครสักคนเดินผ่านแบบประชิดเสียจนแผ่นหลังของเธอสัมผัสกับผืนผ้าบางเบาที่ให้ความรู้สึกวูบไหวประหลาดจนขนลุกเกรียว
หญิงสาวผวาหันกลับไปมอง ทว่า เธอกลับเห็นเพียงแค่ความว่างเปล่า
น่านฟ้าสะกดความแปลกใจไว้ คิดเสียว่าหากมีคนเดินผ่าน ก็คงเดินไปไกลแล้วกระมัง แต่แล้วเมื่อสังเกตรอบกาย เธอก็คิดได้
...คน หายไปไหนกันหมด...
รีบถอดแว่นกันแดดออกจากใบหน้า เพ่งสายตาดูให้ตลอดถ้วนทั่ว ดาดฟ้าที่เคยมีนักท่องเที่ยวนานาชาติชมวิวอาบแดดกันเกือบทั่วบริเวณ บัดนี้ ...เหลือเธอเพียงคนเดียว
น่านฟ้ามองซ้ายมองขวา กังวลขึ้นมาอย่างจับใจ เตรียมก้าวเท้าออกไปแต่ พลัน ร่างเธอเหมือนถูกตรึงอยู่กับที่ แล้วก็ได้ยินเสียงหนึ่ง ดังก้องเข้ามาอย่างแปลกประหลาด เป็นเสียงผู้ชายตะโกนดังจนสุดเสียงด้วยภาษาที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่กลับเข้าใจราวกับเป็นภาษาแม่ คำที่ตะโกนนั้นมีความหมายว่า...
...กลับมา !
แทบจะทนไม่ไหว น่านฟ้าอยากวิ่งออกจากที่ตรงนั้นจนจับใจ แต่ทำไมเท้าเธอไม่ยอมก้าวเดินตามใจนึก แล้วเธอก็รู้สึกบางอย่างวูบไหวรุนแรงอยู่เบื้องหลัง แปลกดีที่เธอไม่ต้องการจะหันไปดู ทว่าร่างกายของเธอกลับทำตรงกันข้าม
แล้วเมื่อหันหน้ากลับไปทางแม่น้ำ เธอก็เห็น มีแสงสว่างแปลกประหลาดส่องสลัวอยู่ลึกลงไปในสายน้ำเบื้องหน้า แสงนั้น ยิ่งจ้องกลับยิ่งสว่างชัด กระทั่งเจิดจ้าขึ้นจนแสบตา น่านฟ้ากลัวจนจับใจ ร้องหาคนช่วยเท่าไรกลับไม่มีเสียงลอดออกไปแม้แต่น้อย แสงนั้นสว่างวาบเข้ามา ดูดกลืนเธอจนยากต้านทาน
ในที่สุด เธอก็กรีดร้องจนสุดเสียงเมื่อร่างกายหมุนคว้างอย่างไรทิศทางและไม่อาจควบคุม
เสียงน้ำจำนวนมหาศาลตีวนเข้าหู ร่างทั้งร่างเหมือนถูกดึงไปในกระแสอันเชี่ยวกราก มือของน่านฟ้าป่ายปะหาที่ยึด ทว่าไม่มีสิ่งใดให้ยึด
แล้วเวลานั้น น่านฟ้าก็รู้สึก เธอกำลังถูกดึงไปสู่ที่อันแสนไกล ...ที่ที่เธอไม่อาจลืมเลือน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ทั้งนี้ ตอนนี้ผู้เขียนก็มีนิยายเรื่องที่สองแล้ว จะนำมาโพสต์พร้อม ๆ กันจากนี้ค่ะ อย่างไรลองมาอ่านและเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ^_^
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ผืนน้ำสีน้ำเงินเข้มของแม่น้ำไนล์ในยามต้องแสงแดดจนเป็นประกายระยิบระยับนั้น ดูมีมนต์ขลังอย่างประหลาด ความเขียวขจีของพืชพรรณและวิถีชีวิตของผู้คนตลอดสองฝั่งแม่น้ำที่ทอดตัวยาวไกล ยิ่งเพิ่มเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์น่าหลงใหลให้กับดินแดนแห่งนี้ ...ดินแดนที่ได้ชื่อว่า ของขวัญจากแม่น้ำไนล์
...อียิปต์ ดินแดนแห่งฟาโรห์
น่านฟ้าสูดหายใจเอาลมเย็นแสนสดชื่นเข้าไปเต็มปอด เมื่อได้มานั่งอยู่บนเรือเฟอร์รี่กลางแม่น้ำแบบนี้แล้ว เธอก็แทบไม่อยากละสายตาจากวิวทิวทัศน์ริมฝั่งแม้แต่น้อย แต่แดดที่จัดจ้านนอกจากจะทำให้เธอต้องใช้มือป้องตาอยู่ตลอดเวลาแล้ว สุดท้ายก็ทำให้หญิงสาวจำใจหยิบแว่นกันแดดสีเข้มขึ้นมาสวม สีสันที่สวยงามริมฝั่งแม่น้ำจึงต้องถูกบดบังด้วยสีชาของเลนส์แว่นตาอย่างช่วยไม่ได้
เธอเพิ่งขึ้นเรือล่องจากหุบผากษัตริย์ใกล้เมืองลักซอร์ มุ่งหน้าไปเทียบท่าเพื่อแวะชมวิหารแห่งเทพเจ้าฮอรัสที่เอ็ดฟู ก่อนจะไปสิ้นสุดการเดินทางที่อัสวาน อันอยู่ทางตอนใต้ของอียิปต์ ในยามสายใกล้เที่ยงเช่นนี้ แดดแรงจัดเสียจนครอบครัวของเธอเลือกที่จะนอนพักผ่อนในห้องพักด้านล่างแทน แปลกดีเหลือเกิน มีเพียงน่านฟ้าที่กลับนึกอยากจะชมแม่น้ำไนล์จนต้องขอตัวขึ้นมาสูดอากาศบนดาดฟ้าเรือเพียงลำพัง
แต่ จะว่าลำพังก็ไม่ใช่ เพราะดาดฟ้าเรือซึ่งเป็นทั้งที่พักและห้องอาหารในยามนี้นั้น ยังมีนักท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวตะวันตก ขึ้นมาอาบแดด นั่งเล่น นอนเล่นกันไม่น้อย ดูเผิน ๆ แล้ว เธอน่าจะเป็นชาวเอเชียเพียงคนเดียวในตอนนี้เสียด้วยซ้ำ
...ก็เป็นไรไป... น่านฟ้านึกพลางหมุนแหวนในนิ้วชี้ข้างขวาเล่น ก็เธออยากชมแม่น้ำไนล์ชัด ๆ บ้าง คงไม่ผิดกระมัง
แล้วหญิงสาวก็อดก้มลงมองแหวนที่กำลังสวมอยู่มิได้ แหวนซึ่งทำจากทองคำสลับเงิน มีหัวแหวนเป็นรูปใบหน้าสตรีไว้ผมแสกกลางมีใบหูเป็นวัววงนี้ เธอนึกชอบตั้งแต่เห็นครั้งแรก
‘แหวนเทพีฮาเธอร์ ศักดิ์สิทธิ์มากนะมิส ต้องเป็นเจ้าของเท่านั้นถึงจะใส่ได้ แล้วถ้าใส่ได้ผมให้ฟรีเลย’
เสียงบอกเล่าของคนขายแหวน ซึ่งเป็นเด็กชายชาวพื้นเมืองอายุราวสิบขวบ ที่อุตส่าห์ลอบเข้าไปเสนอขายให้เธอถึงในวิหารที่เดนเดราเมื่อวาน หวนกลับเข้ามาในความทรงจำ เดิมทีมีเพียงเธอและเด็กชายยืนอยู่ตามลำพัง แต่แล้ว น่านน้ำ พี่สาวฝาแฝดของเธอก็มาพบ ซึ่งก็ตื่นเต้นไม่น้อย จนแม้จะมาเจอทีหลังแต่ยังขอลองก่อน
แล้วก็น่าแปลกใจเหลือเกินว่า พี่น้ำของเธอใส่แหวนไม่ได้แม้แต่นิ้วเดียว ในขณะที่เธอ ใส่ได้พอดีตั้งแต่นิ้วแรกที่สวม
‘มันเป็นของมิส’
เด็กชายอุทานก่อนยืนยันว่าจะให้เธอโดยไม่คิดเงินอย่างที่ได้ลั่นวาจาไว้ แม้เธอยืนยันจะจ่ายแค่ไหนก็ตาม กระทั่งเธอและพี่สาวมัวง่วนกับการหาเงินเพื่อมาจ่าย เพียงแค่ไม่กี่วินาทีกระมัง เมื่อเงยหน้าอีกครั้ง คนขายก็อันตรธานไปอย่างไร้ร่องรอย แฝดผู้พี่ของเธอถึงกับอุทาน
‘เออ ดีนะ มาเที่ยววิหารเทพีฮาเธอร์ ก็ได้แหวนเทพีฮาเธอร์กลับไปฟรี ๆ’
น่านฟ้านึกขำ ...ก็อาจจะจริงอย่างว่า
ทว่า สำหรับน่านฟ้าเองแล้ว ลึก ๆ ในใจเธอกลับรู้สึกว่าแหวนวงนี้น่าจะเป็นของที่ระลึกที่มีความหมายมากทีเดียว เพราะสำหรับครอบครัวของเธอ การได้เดินทางมาอียิปต์ และโดยเฉพาะได้ไปเยี่ยมชมวิหารเทพีฮาเธอร์ที่เดนเดรานั้น มันเป็นมากกว่าแค่ การท่องเที่ยว
เพราะพ่อและแม่เคยเล่าให้เธอและพี่สาวฟังว่า เมื่อยี่สิบปีก่อน ตอนนั้นพ่อและแม่แต่งงานกันได้หลายปีแล้ว แต่ทำอย่างไรก็ไม่มีลูกเสียที กระทั่งได้มีโอกาสมาเที่ยวอียิปต์ และได้รู้มาว่า เทพีฮาเธอร์ นอกจากจะเป็นเทพีแห่งความรักและความงามแล้ว ในบางตำนานยังถือเป็นผู้ปั่นด้ายแห่งโชคชะตา แถมยังเป็นเทพีที่คอยดูแลเรื่องการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร เช่นเดียวกับเทพและเทพีอีกหลายองค์อีกด้วย
‘ตอนนั้นพ่อเขานึกยังไงก็ไม่รู้ บอกให้แม่ขอลูกกับเทพี แม่ยังท้วงพ่อเลยว่ามาขออะไรกับเทพโบราณ ไม่นึกว่ากลับไปจะท้องจริง ๆ จำได้ว่า ตอนไปฝากครรภ์ หมอลองนับวันให้ ยังบอกกับพ่อแม่เลยว่าสงสัยไปท้องที่อียิปต์ แถมออกมายังเป็นแฝดอีกแน่ะ’
น่านฟ้านึกถึงคำบอกเล่าของแม่แล้วก็นึกขันจริง ๆ พ่อของเธอก็ช่างคิดเสียเหลือเกิน
‘แต่พ่อก็บอกแม่นะ ว่าขอดี ๆ ขอให้เป็นลูกเราจริง ๆ จะได้ไม่มีลูกเทพีติดมา เดี๋ยวเทพีขอคืนละยุ่งเลย นี่ออกมาเป็นแฝดด้วย น่าคิดนะ’
พ่อพูดประโยคนี้เสริมขึ้นมา น่านฟ้าจำได้ว่าพ่อโดนแม่ตีจนเสียงดัง เพี๊ยะ
เอาเถิด ไม่ว่าพ่อกับแม่จะเชื่ออย่างไร แต่น่านฟ้าก็รู้สึกว่าเธอผูกพันกับเทพีฮาเธอร์เสียเหลือเกิน โดยเฉพาะเมื่อได้แหวนวงนี้มา รู้สึกราวกับว่า ตนเองมีต้นกำเนิดที่ไม่ธรรมดาเสียอย่างนั้น
น่านฟ้าก้มลงมองแหวนที่สวมอยู่อีกครั้ง แต่ในขณะกำลังมองเพลิน ก็รู้สึกเหมือนใครสักคนเดินผ่านแบบประชิดเสียจนแผ่นหลังของเธอสัมผัสกับผืนผ้าบางเบาที่ให้ความรู้สึกวูบไหวประหลาดจนขนลุกเกรียว
หญิงสาวผวาหันกลับไปมอง ทว่า เธอกลับเห็นเพียงแค่ความว่างเปล่า
น่านฟ้าสะกดความแปลกใจไว้ คิดเสียว่าหากมีคนเดินผ่าน ก็คงเดินไปไกลแล้วกระมัง แต่แล้วเมื่อสังเกตรอบกาย เธอก็คิดได้
...คน หายไปไหนกันหมด...
รีบถอดแว่นกันแดดออกจากใบหน้า เพ่งสายตาดูให้ตลอดถ้วนทั่ว ดาดฟ้าที่เคยมีนักท่องเที่ยวนานาชาติชมวิวอาบแดดกันเกือบทั่วบริเวณ บัดนี้ ...เหลือเธอเพียงคนเดียว
น่านฟ้ามองซ้ายมองขวา กังวลขึ้นมาอย่างจับใจ เตรียมก้าวเท้าออกไปแต่ พลัน ร่างเธอเหมือนถูกตรึงอยู่กับที่ แล้วก็ได้ยินเสียงหนึ่ง ดังก้องเข้ามาอย่างแปลกประหลาด เป็นเสียงผู้ชายตะโกนดังจนสุดเสียงด้วยภาษาที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่กลับเข้าใจราวกับเป็นภาษาแม่ คำที่ตะโกนนั้นมีความหมายว่า...
...กลับมา !
แทบจะทนไม่ไหว น่านฟ้าอยากวิ่งออกจากที่ตรงนั้นจนจับใจ แต่ทำไมเท้าเธอไม่ยอมก้าวเดินตามใจนึก แล้วเธอก็รู้สึกบางอย่างวูบไหวรุนแรงอยู่เบื้องหลัง แปลกดีที่เธอไม่ต้องการจะหันไปดู ทว่าร่างกายของเธอกลับทำตรงกันข้าม
แล้วเมื่อหันหน้ากลับไปทางแม่น้ำ เธอก็เห็น มีแสงสว่างแปลกประหลาดส่องสลัวอยู่ลึกลงไปในสายน้ำเบื้องหน้า แสงนั้น ยิ่งจ้องกลับยิ่งสว่างชัด กระทั่งเจิดจ้าขึ้นจนแสบตา น่านฟ้ากลัวจนจับใจ ร้องหาคนช่วยเท่าไรกลับไม่มีเสียงลอดออกไปแม้แต่น้อย แสงนั้นสว่างวาบเข้ามา ดูดกลืนเธอจนยากต้านทาน
ในที่สุด เธอก็กรีดร้องจนสุดเสียงเมื่อร่างกายหมุนคว้างอย่างไรทิศทางและไม่อาจควบคุม
เสียงน้ำจำนวนมหาศาลตีวนเข้าหู ร่างทั้งร่างเหมือนถูกดึงไปในกระแสอันเชี่ยวกราก มือของน่านฟ้าป่ายปะหาที่ยึด ทว่าไม่มีสิ่งใดให้ยึด
แล้วเวลานั้น น่านฟ้าก็รู้สึก เธอกำลังถูกดึงไปสู่ที่อันแสนไกล ...ที่ที่เธอไม่อาจลืมเลือน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วินตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ก.ค. 2560, 21:45:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ก.ค. 2560, 21:46:17 น.
จำนวนการเข้าชม : 786
ตอนที่ 1 (1) >> |