เสือซ่อนรัก
เมื่อเสือตกหลุมรัก...แม่สาวบ้านนอกผู้ประเปรียวเหมือนหมูป่าโทน เสือจำต้องซ่อนเล็บให้เหยื่อตายใจ จนกว่าแม่สาวตาคมจะเผลอ...
Tags: เสืออิฐ
ตอน: บทที่ 9
เย็นวันต่อมา ปพลส่งข้อความสั้น ๆ มาว่า ‘ไปหาอะไรกินกัน เดี๋ยวเราไปรับ’
จารุมาศถอนใจ หล่อนรู้ดีว่าอีกฝ่ายคงมิใช่ต้องการแค่ ‘หาอะไรกิน’ อย่างที่ว่า เพราะเมื่อคืนหลังแยกกันที่ผับ ชายหนุ่มก็เงียบไป ไร้วี่แววว่าจะโทร.มา ‘เม้ง’ หล่อน ที่แท้รอคุยแบบตัวต่อตัวนี่เอง...
โต๊ะทำงานข้าง ๆ ยังว่างเปล่า ไม่รู้ว่าสาวิตรีหาทางออกกับ ‘ปัญหา’ ของหล่อนได้หรือยัง...เมื่อเช้าแผนกบุคลากรแจ้งว่าสาวรุ่นพี่โทร.มาลาป่วยอีกหนึ่งวัน เท่ากับว่าจารุมาศจะไม่เจอหน้าเพื่อนร่วมแผนกจนกว่าจะถึงวันจันทร์
หญิงสาวรู้สึกเป็นห่วง อย่างน้อยก็ในฐานะเพื่อนร่วมงาน แม้สาวิตรีไม่เคยหยิบยื่นน้ำใจใด ๆ แก่หล่อน แต่จารุมาศมิใช่คนประเภทเดียวกัน...หล่อนมันคนบ้านนอก ใครเจ็บใครหายใครตาย ลูกใครแต่งลูกใครบวชรู้กันทั้งอำเภอในเวลาอันสั้นแบบปากต่อปาก ไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบกันมิได้ขาด
หล่อนตัดสินใจโทร.หาสาวิตรี หากพอกดเบอร์แนบหูกับโทรศัพท์ ก็มีเสียงยียวนดังเบื้องหลัง
“ยังไม่ทันเลิกงานเลย โทร.ให้หนุ่มขับเบนซ์มารับเหรอจ๊ะ”
ภาณียืนอยู่ตรงนั้น ใบหน้าแต่งเข้มจนดูดุเช่นเคย บวกสีสันสดแสบตาของเดรสรัดรูปที่หล่อนชอบสวมใส่ ทำให้ยิ่งดูน่ากลัวเข้าไปใหญ่ แต่จารุมาศไม่กลัว หล่อนหันมองสาวใหญ่ ตอบสุภาพว่า
“เปล่าค่ะ จาวจะโทร.หาพี่สา เห็นว่าลาป่วย เลยอยากสอบถามอาการ”
อีกฝ่ายยิ้มเยาะ ร่างใหญ่นั้นไม่เข้ามาในแผนก แต่ยืนพิงขอบพาร์ทิชั่น ในมือถือแฟ้มบาง “รายนั้นเขาไม่ได้ป่วยจริง ๆ หรอก เธอรู้หรือแกล้งโง่กันแน่ ว่ายายสาน่ะป่วยใจ เพราะท้อง...แต่คนเป็นพ่อเด็กเขาไม่รับ”
จารุมาศเบิกตา มิใช่เพราะตกใจกับข้อมูล เนื่องจาก ‘เจ้าของเรื่อง’ เอ่ยปากบอกหล่อนไปแล้ว หากที่ประหลาดใจเพราะภาณีพูดด้วยน้ำเสียงหยามเยาะ สีหน้าสีตาดูสะใจยังไงพิกล
แต่...ทำไมภาณีถึงทราบเรื่องนี้ล่ะ...
“อย่ามัวเสียเวลากับเรื่องคนอื่นอยู่เลย เธอตรวจบัญชีหรือยัง”
“ยังค่ะ แต่วันนี้มีใบเสร็จไม่ถึงสิบใบ...”
“รีบ ๆ ทำเข้าเถอะน่ะ” ภาณีขัด “เสร็จงานแล้วอยากจะโทร.หาใครก็ตามใจ ทำบันทึกมาด้วยนะ...” ร่างใหญ่ในชุดสีสดหมุนตัวเดินจากไป ทิ้งให้จารุมาศเม้มปากนิ่ง
คนอะไรแล้งน้ำใจ...หล่อนก็แค่จะโทรศัพท์หาสาวิตรี เพื่อสอบถามอาการป่วยแค่ไม่กี่นาที เอาเถอะ...หล่อนผิดเองก็ได้
บัญชีวันนี้มีปัญหา เพราะเงินเกินอีกแล้ว คราวนี้เกินมาไม่กี่ร้อย จารุมาศจึงต้องตรวจทานหลายรอบ ก่อนเข้าพบภาณี ฝ่ายนั้นกำลังนั่งเติมแป้งเติมลิปสติกเช่นเคย
“เดี๋ยวฉันจัดการเอง” สาวใหญ่พูดสั้น ๆ เมื่อจารุมาศรายงานเรื่องเงินเกิน
บริษัทเก่าที่จารุมาศทำงาน ไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินเกิน มีแต่เงินขาด...ทำให้พนักงานบัญชีอย่างหล่อนหนาว ๆ ร้อน ๆ อยู่เรื่อย ระบบตรวจทานและทำบันทึกเป็นหลักฐานไว้ จึงทำให้อุ่นใจอยู่บ้าง แต่สำหรับที่นี่...หัวหน้าฝ่ายออกปากว่าจะ ‘จัดการเอง’ จารุมาศจึงไม่ยุ่งเกี่ยว ด้วยคิดว่าหล่อนทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จเรียบร้อยก็เพียงพอแล้ว ภาณีมีหน้าที่ตรวจสอบอีกครั้งก่อนส่งเจ้านายเซ็น หากสาวใหญ่ไม่ท้วงติงอะไรก็แสดงว่าไม่มีปัญหา
ปพลขับรถของแฟนสาวมาจอดเทียบหน้าบริษัทตอนเกือบหกโมง จารุมาศนั่งรอในออฟฟิศ ฟ้าครึ้มทำให้บรรยากาศมืดสลัวจนต้องเปิดไฟบางจุด แต่มีพนักงานอยู่ทำโอทีสองสามคน ทำให้ไม่น่ากลัวนัก หล่อนโทร.หาสาวิตรี แต่ฝ่ายนั้นไม่รับสาย คงไม่อยากรับโทรศัพท์กระมัง
อาทิตย์กลับไปแล้ว เขาเดินผ่านแผนกไปโดยไม่เหลือบมองจารุมาศ ซึ่งเงยหน้าขึ้นจากงานพอดี แต่หล่อนตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวหรือพูดคุยกับเขาอีกถ้าไม่จำเป็น จึงไม่ใส่ใจท่าทีเขานัก
“กินอะไรดี” ปพลเอ่ยถามเมื่อจารุมาศก้าวขึ้นนั่งเรียบร้อย
“แล้วแต่เธอสิ เรากินได้ทุกอย่างอยู่แล้ว” หญิงสาวคาดเข็มขัดนิรภัย “เอารถแฟนมารับเราแบบนี้ แฟนเธอเขาไม่ว่าเหรอ”
“วันนี้เขาไม่อยู่น่ะ ไปฮ่องกงกับเพื่อน ๆ” ปพลตอบเนือย ๆ “แฟนเราเขาไฮโซ วันศุกร์ทีไรเขาก็บินไปกินข้าวเย็นที่ฮ่องกงบ้างละ สิงคโปร์บ้างละ อย่างใกล้ก็บินไปเชียงใหม่ ภูเก็ต...หาเรื่องใช้เงิน”
“แล้วทำไมเธอไม่ไปกับเขาล่ะ” จารุมาศสงสัย
“เมื่อก่อนก็ไปบ้าง แต่หลัง ๆ ไม่ไหว รูดการ์ดจนไส้แห้ง เขาอยากไปก็ให้เขาไปเองจ่ายเอง”
“แฟนเธอคงรวยมากสินะ” หญิงสาวเดา ปพลพยักหน้ารับ
“พ่อแม่เขาทำธุรกิจส่งออกพวกเครื่องกลโรงงาน ปีหนึ่ง ๆ กำไรไม่รู้กี่สิบล้าน ตัวเขาเองก็เป็นพีอาร์ฯ บริษัทออร์กาไนเซอร์ เงินเดือนเรือนแสนแหละ”
“มิน่า...” จารุมาศอุทาน มองหน้าหม่น ๆ ของเพื่อนแล้วพูดต่อว่า “เงินเดือนเขาสูงจัง บ้านก็รวย นี่แสดงว่าเขารักเธอจริง ๆ นะเนี่ย...เอ้อ...เราไม่ได้จะว่าปพลนะ คือเราหมายถึง...”
“เราเข้าใจ” ปพลหัวเราะ “แต่เพราะเขารวยกว่านี่แหละ ที่ทำให้เราลำบากใจ”
“แต่สมัยนี้มันไม่มีแล้วนะ ไอ้การที่ผู้ชายต้องเป็นฝ่ายนำ เป็นฝ่ายหาเลี้ยงน่ะ” หญิงสาวพูด ตามองเบื้องหน้า “เป็นเรา ถ้าหาเงินได้มากกว่าแฟน เราก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเราหรอก เราจะบอกแฟนว่าไม่เป็นไร อย่ารู้สึกต้อยต่ำ ขอให้เราสองคนรักกันจริง ๆ ก็พอ...”
ปพลยิ้มบาง คุยกับคนบ้านเดียวกัน...มันรู้สึกดีแบบนี้เอง
หากแวบหนึ่งก็อดคิดถึงอิฐไม่ได้...จารุมาศก็เหมือนอิฐ...เพื่อนรูปงามเองแม้ทำเฉย ไม่เอ่ยปากสอดรู้ แต่ก็เฝ้ามองเขากับแฟนสาวอยู่ห่าง ๆ ด้วยความห่วงใยเช่นกัน
‘เมื่อเดือนก่อนฟางชวนไปบาหลี เดือนนี้ข้าเลยยังช็อตอยู่ว่ะ...’
เขาเคยเปรยให้อิฐฟัง ยามเพื่อนเอ่ยชวนไปปาร์ตี้ซึ่งต้องใช้เงินทั้งนั้น และอิฐจะรับฟังโดยดี ไม่บังคับกดดันให้เขารู้สึกแย่ แถมยังช่วยเหลือด้วยการให้ยืมเงินอีกต่างหาก
นานเข้าปพลก็เกรงใจเพื่อนไปเอง พอแฟนสาวชวนไปกินไปช้อปฯ เมืองนอก เขาก็ปฏิเสธ ปล่อยให้หล่อนโกรธงอนไปตามเรื่อง
โธ่เอ๋ย...ลำพังเงินเดือนพนักงานบริษัทไม่กี่หมื่น แค่ไป ‘กินข้าว’ ที่ฮ่องกงครั้งเดียวก็หมดแล้ว ขืนต้องทำแบบนี้ทุกวันศุกร์ เขาเป็นอดตายกันพอดี...ถึงรู้สึกผิดที่ปล่อยให้ฟางไปกับเพื่อน ๆ และออกเงินเที่ยวเองก็เถอะ หล่อนร่ำรวยกว่าเขานี่นา...
อิฐไม่เคยปริปากท้วงติง แต่แววตายามรับฟังปพลระบาย เหมือนกับจารุมาศตอนนี้ ที่มีความเข้าอกเข้าใจระคนเห็นใจ...
รถเลี้ยวเข้าซอยเล็ก ๆ เห็นป้ายร้านอาหารหมูจุ่มใหญ่โตเบื้องหน้า บุฟเฟต์ต่อหัวไม่ถึงร้อยบาท จารุมาศชอบอกชอบใจ “แถวบ้านเราก็มีแล้วนะ หมูกระทะร้านหนึ่ง หมูจุ่มอีกร้านหนึ่ง...เป็นร้านเล็ก ๆ เปิดมาเกือบปีละ รสชาติน้ำจิ้มสุดยอดเลย...เดี๋ยวถ้าปพลกลับบ้าน ลองไปกินกัน เจ้าของร้านหมูจุ่มเป็นเพื่อนของติ้ง...จำไอ้ติ้งได้ไหม”
“คนที่ท้วม ๆ ผมสั้น ๆ น่ะเหรอ”
หญิงสาวหัวเราะ “เดี๋ยวนี้ไม่ท้วมแล้ว อ้วนเลยล่ะ”
“ตอนนี้เขาทำงานอะไร” ปพลถาม
“เปิดร้านขายน้ำกับไอศกรีมอยู่ในตลาด”
การได้พูดคุยถึงเพื่อนเก่า ทำให้ปพลอารมณ์ดีขึ้น แต่เขายังไม่ลืมเรื่องสำคัญที่ต้องการคุยกับจารุมาศ ดังนั้นพอพนักงานทยอยยกอาหารจำพวกเนื้อหมู เนื้อไก่ ลูกชิ้น ตับ ปลา ผักสารพัดตามแบบฉบับจิ้มจุ่มมาเสิร์ฟเสร็จเรียบร้อย ชายหนุ่มก็ยิงคำถามทันที
“ตกลงจาวจะเอายังไง เรื่องไอ้อิฐ”
จารุมาศกำลังใช้ส้อมตีไข่ในถ้วยใบน้อย หล่อนชะงักมองตาเพื่อน
“จาวอยากคบกับมันใช่ไหม”
หญิงสาวไม่ตอบ ค่อย ๆ เทไข่สีเหลืองนวลลงในหม้อแล้วปิดฝา
“อิฐมันชอบจาวนะ คงเพราะจาวทำให้มันหายเบื่อหายเศร้า” ปพลหรี่ตามองเพื่อน “แต่จาวต้องไม่ลืมว่า จาวกับมันเพิ่งรู้จักกันแค่ไม่กี่วัน ที่เราเห็นในผับเมื่อวาน...มันไม่เร็วไปหน่อยเหรอ”
จารุมาศนิ่งเงียบ หล่อนเข้าใจดีว่าอีกฝ่ายหมายความอย่างไร
“อิฐน่ะ...เคยอกหัก...อกหักแบบสาหัสสากรรจ์เลยละ” ปพลจิบเบียร์ “แฟนของมัน...ทิ้งมันไปแต่งงานกับคนอื่น...ทั้งที่คบกับมันมาตั้งแต่สมัยเรียน เมื่อเกือบสองปีก่อน...ตอนที่เธอไป ไอ้อิฐเหมือนไม่ใช่คน...ไม่สิ เหมือนคนนี่แหละ แต่ไม่มีชีวิต ไม่มีวิญญาณ กินเหล้าแทนน้ำ ไม่ไปทำงาน หมกตัวอยู่แต่ในคอนโดฯ ไม่อาบน้ำ ไม่นอน...”
จารุมาศตาโต
“มันรักผู้หญิงคนนั้นมาก รักแบบที่เรียกว่าตายแทนได้เลยละจาว เราคบกับมันตั้งแต่ปีหนึ่งใช่ไหม นั่นแหละ...มันก็เริ่มคบกับแฟนมันตอนนั้น แล้วไม่เคยมีคนอื่น ไม่เคยนอกใจ ทั้งที่มีผู้หญิงสาว ๆ สวยกว่าแฟนมันเข้ามาหามันเรื่อย แต่มันไม่เคยแลใคร มันรักแฟนมันมาก...ตามใจทุกอย่าง เวลาทะเลาะกันมันเป็นฝ่ายง้อตลอด...”
แววตาของปพลเหม่อนิด ๆ ยามนึกถึงอดีต สาว ๆ นักศึกษาหลายคน ทอดสายตาริษยาไปยังชลัลดา ยามหล่อนเยื้องย่างลงจากรถคันงาม มีอิฐ หนุ่มหล่อตัวสูงโปร่ง แทบจะประคองเดินเคียงกันไป
คู่นี้ไม่เคยห่างกัน ถ้าเห็นชลัลดาที่ไหน ที่นั่นต้องมีอิฐ
สาวสวยมักนั่งเชิดหน้า ท่าทางหยิ่งยโส มีอิฐนั่งใบหน้าเรียบเฉยอยู่ข้าง ๆ ยามทำกิจกรรม เป็นภาพคุ้นตาของคนทั้งมหาวิทยาลัย ใคร ๆ ก็อิจฉาชลัลดา ที่มีแฟนทั้งหล่อ รวย แถมนิสัยดี รักเดียวใจเดียวเช่นอิฐ
แต่ไม่มีใครอิจฉาอิฐ...โดยเฉพาะเพื่อนในกลุ่ม พวกผู้ชายต่างรู้กันว่าหล่อนสวย แต่ให้สวยแค่ไหนก็ตาม นิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจ และชอบประชดประชัน รวมถึงดูถูกคนของหล่อนก็ทำให้เพื่อน ๆ ของอิฐเอือมระอา ยิ่งปพลด้วยแล้ว เขานึกเกลียดชลัลดาด้วยซ้ำ
ปิดเทอมใหญ่หลังสอบเสร็จตอนปีสาม ปพลตัดสินใจบวชทดแทนคุณพ่อแม่ เพื่อนสนิทในกลุ่มไปกันทุกคน บางคนหนีบแฟนไปด้วย นัยว่าอยากไปเห็นบ้านของปพล และเที่ยวพักผ่อนไปในตัว แต่ชลัลดาย่นจมูก แสดงท่าทางรังเกียจเมื่อพูดออกมาว่า
‘ไม่เอาหรอก...ฟ้าไม่ชอบบ้านนอก ไม่ชอบความลำบาก’
แม้อิฐจะหว่านล้อมอย่างไร สาวสวยก็ยังเบะปากไม่เลิก...ที่ปพลรู้สึกเกลียด เพราะคำพูดทั้งหมดนั่น หล่อนพูดต่อหน้าเขา โดยไม่เกรงใจอิฐแม้แต่น้อย หล่อนมักเป็นแบบนี้ ไม่ว่าอิฐจะติติงยังไง หล่อนก็พูดซ้ำ ๆ ว่า
‘ก็ฟ้าเป็นของฟ้าแบบนี้ ที่บ้านเลี้ยงฟ้ามาแบบนี้...’
คือโตมาแบบคนรวย คนกรุงจ๋าว่างั้นเถอะ...ปพลแอบเหน็บในใจ หล่อนอ้างไปอย่างนั้นเอง จริง ๆ แล้วคนเมืองหลวงฐานะร่ำรวยไม่ได้เป็นอย่างหล่อนไปหมดเสียหน่อย หล่อนมันก็แค่เอาแต่ใจตัวเอง คิดว่าตนเหนือกว่าคนอื่น เป็นศูนย์กลางของจักรวาล...ชายหนุ่มหมั่นไส้
ก่อนนั้นชลัลดาเองก็ไม่เห็นปพลในสายตาอยู่แล้ว หล่อนอาจพูดคุยกับคนอื่น ๆ บ้าง แต่กับปพลที่สนิทกับอิฐที่สุด สาวสวยมักมองข้ามหัวไปอย่างไม่แยแส
‘ถ้าแกลำบากใจ ก็ไม่ต้องไปนะอิฐ’ ปพลเอ่ยเมื่ออยู่กันตามลำพัง ‘ฟ้าอาจจะโกรธก็ได้ ถ้าแกไปบ้านข้า’
‘เรื่องอะไร แกบวชทั้งที ข้าจะไม่ไปได้ยังไง’ อิฐเสียงดัง
เพราะอิฐเป็นแบบนี้ เขาถึงรู้สึกเสียดายที่เพื่อนคบกับผู้หญิงอย่างชลัลดา
ยอมรับว่าตอนสองคนเลิกกัน ปพลดีใจอยู่ลึก ๆ
“ทำไม...คุณอิฐถึงถูกทิ้งล่ะ” จารุมาศเอ่ยถามทำลายภวังค์ แววตาหล่อนอยากรู้ปิดไม่มิด
“ยายฟ้า...แฟนเก่าไอ้อิฐน่ะ...ชอบแข่งขันประชันกับพวกผู้หญิงด้วยกัน” ปพลยักไหล่ “อย่างว่านะ...จาวคงเคยได้ยิน ไอ้ข้ออ้างประเภทที่ว่า ‘เราเลิกกันเถอะ...เธอดีเกินไป’ แบบเนี้ย...นั่นแหละ ไอ้อิฐเจอกับตัวเองจัง ๆ เลย ยายนั่นขอเลิกด้วยเหตุผลนี้แหละ เพราะไปเจอแบดบอยตัวเอ้ของวงการเข้าน่ะสิ”
คนฟังย่นคิ้วไม่เข้าใจ
“หมอนั่นเป็นลูกชายนักธุรกิจ ไม่ได้เป็นดาราอะไร แต่มีชื่อเสียงเพราะพวกดารานักร้องตามจับกันให้วุ่น ก็อย่างว่า มันรวย...วัน ๆ ไม่ทำงาน เข้าผับบาร์ให้สาว ๆ ไล่จับเล่น ฟ้าเองก็เป็นหนึ่งในนั้น”
“ทั้ง ๆ ที่คบอยู่กับคุณอิฐน่ะหรือ”
“แน่นอน” ชายหนุ่มเสียงสูง คีบเนื้อหมูใส่หม้อ “ฟ้าเขาชอบเที่ยว ยิ่งเที่ยวกลางคืนยิ่งชอบ งานอีเวนท์เอยอะไรเอยเขาเอาหมด เขาชอบทำตัวเด่นดัง จะว่าไปมีแฟนอย่างไอ้อิฐก็เด่นอยู่แล้ว แต่ยังไม่ดังพอ เลยหันไปเล่นกับคนใหม่ เห็นว่ารู้จักกันในปาร์ตี้เปิดผับของดาราคนหนึ่ง ช่วงนั้นไอ้อิฐอยู่ซานฟรานฯ มั้ง ไปประชุมหรืออะไรนี่แหละ แล้วสานสัมพันธ์กัน เรียกว่าพอไอ้อิฐกลับมา ก็หงายหลังตึงเลย เพราะฟ้าประกาศหมั้นกับผู้ชายคนนั้นพอดี”
จารุมาศตาค้าง มือถือตะเกียบนิ่งอยู่ราวไร้เรี่ยวแรงฉับพลัน
“รวดเร็วใช่ไหมล่ะ” ปพลแค่นยิ้ม “ฟ้าเขาเป็นแบบนั้นแหละ เขาใจร้อน...” ชายหนุ่มเน้นเสียง
“ไม่ใช่แค่ใจร้อน...” หญิงสาวเอ่ยยากเย็น ตายังเบิกโพลง “แต่ยังใจร้ายด้วยนะเนี่ย...”
หล่อนไม่คาดคิดว่าจะได้ยินเรื่องราวนี้...ปพลเอ่ยครั้งหนึ่งว่าอิฐเคยมีแฟน และเลิกกับแฟนไปแล้ว...แต่หล่อนไม่คิดว่า ‘รายละเอียด’ มันจะชวนหดหู่แบบนี้
‘ผู้หญิง...เหมือนกันหมดหรือเปล่า...’
ประโยคปริศนาที่อิฐพึมพำยามเข้ามานอนกอดหล่อนในคืนนั้น ที่แท้ความจริงคืออย่างนี้นี่เอง!
หมายความว่าเขายังเจ็บปวดกับอดีตรักครั้งก่อนอยู่
หล่อนเข้าใจแล้ว...ว่าทำไมปพลถึงเตือนหล่อนเสมอมา
แววตาหญิงสาวหมองลง ตามองควันฉุยจากหม้อดินเบื้องหน้า
“เธอจะบอกเราว่า...” จารุมาศกลืนน้ำลาย “คุณอิฐ...เขาไม่ได้ชอบเราจริง ๆ ใช่ไหม...เขาแค่เห็นเราเป็นตัวแก้เหงา ช่วยให้เขาลืมความเจ็บปวด แค่ชั่วครั้งชั่วคราว อย่างนั้นใช่ไหม”
“ใช่” ปพลจ้องหน้าเพื่อนเขม็ง
“แล้ว...ทำไมต้องเป็นเราด้วยล่ะปพล” หญิงสาวเสียงสั่น
“ไม่ใช่ต้องเป็นจาวหรอก จะเป็นผู้หญิงคนไหนก็ได้ จาวยังไม่เข้าใจหรือไง” ชายหนุ่มพูดชัดเจน “ที่ผ่านมา ไอ้อิฐมันก็คบผู้หญิงคนนั้นคนนี้มาตลอด แต่ไม่ยืนยาว ไม่จริงจังอะไร จาวเข้าใจไหม โอเคว่าจาวอาจไม่ใช่สเปกมันนะ จาวสงสัยตรงนี้ใช่ไหม...ใช่ จาวไม่ใช่ผู้หญิงในสเปกมันเลย มันชอบผู้หญิงแบบยายฟ้า แต่ที่มันสนใจจาว เพราะจาวอยู่กับมัน ใกล้ชิดมันน่ะ จาวเข้าใจไหม...ไอ้อิฐมันเป็นเสือ...มีเนื้อมาวางตรงหน้าก็กินทั้งนั้นแหละ...มันไม่คิดจะคบหากับจาวจริงจังหรอก เราเตือนเพราะหวังดี เราเป็นห่วงจาวนะ”
ราวกับหัวใจของหล่อนสั่นสะเทือนไปด้วยประโยคเหล่านั้น
ปพลพูดมีเหตุผล...และเหตุผลดูหนักแน่นเหลือเกิน หลังได้ฟังเรื่องราวของอิฐแล้ว
นั่นสินะ...หล่อนไม่ใช่สเปกของเขาเสียหน่อย แถมเขายังรักแฟนเก่ามาก หล่อนมันหลงตัวเองว่าเขาชอบ...เขาสนใจ ทั้งที่มันเป็นไปไม่ได้ตั้งแต่แรก...เหมือนที่หล่อนเคยบอกกับปพลนั่นไง!
“อิฐกับฟ้าน่ะ...” ปพลเอ่ย เมื่อเห็นแววตาร้าวรานของจารุมาศ “ก็เหมาะสมกันดีแล้ว เราไม่ได้จะว่าจาวไม่คู่ควร แต่จาวกับไอ้อิฐ ดูยังไงก็ไม่เหมาะสมกัน...เรามันคนบ้านนอกนะจาว ยังไง ๆ มันก็เส้นบาง ๆ มาคั่นระหว่างเรากับคนเมือง อย่างเรากับแฟน...ทุกวันนี้ก็มีปัญหาหลาย ๆ เรื่อง แต่จริง ๆ แล้วเรารู้ ว่าลึก ๆ แล้วปัญหาพวกนั้นมันก็เกิดจากที่มา ...พื้นเพของแต่ละคนนั่นแหละ เรากับเขาไม่เหมือนกัน คิดกันคนละแบบ ยิ่งไอ้อิฐ เสือผู้หญิงเมืองกรุง...กับจาว...สาวซื่อจากบ้านนอก ยิ่งน่าเป็นห่วงใช่ไหมล่ะ...”
ท้ายประโยคปพลพูดให้ฟังตลก แต่จารุมาศไม่ขำ สีหน้าหล่อนเคร่งเครียด
“หรือจาวอยากจะลอง”
คำถามนั้นทำให้หญิงสาวกะพริบตาถี่ ราวดึงตัวเองออกจากความรู้สึกมืดมิดเมื่อครู่ได้แล้ว
“ไม่รู้สิ...”
“จาวฟังนะ” ชายหนุ่มน้ำเสียงจริงจัง “เราเองก็คุยกับไอ้อิฐเรื่องนี้เหมือนกัน แต่มันยืนยันกับเราว่ามันจะคบกับจาว...เราเองก็รักมันนะ มันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา แต่เรื่องผู้หญิง เราไม่ไว้ใจมันน่ะ...ที่เราเล่าให้จาวฟังเนี่ย เราพูดความจริงทุกอย่าง ถ้าจาวสงสัยก็ถามไอ้อิฐ ไม่ต้องกลัว มันไม่ใช่คนโกหกหรอก”
“โธ่...” จารุมาศอุทธรณ์ “ใครจะกล้าถามล่ะปพล...”
“ไม่นะ ถามได้ ถามมันเลย” ปพลยืนยัน “แต่บอกก่อนนะ มันอาจเล่าทุกอย่างที่จาวถามอย่างไม่ปิดบัง แต่เรื่องอนาคต ถ้าจาวถามมันว่า จะจริงจังหรือเปล่า เราพนันได้เลย มันตอบจาวไม่ได้แน่ ๆ”
คำพูดของปพลยิ่งฟังน่ากลัวมากขึ้นทุกที
ถ้าอย่างนั้นที่ผ่านมา...อ้อมกอดอบอุ่นของเขา จูบแผ่วเบาบนหน้าผากและริมฝีปาก กับสัมผัสหนัก ๆ ยามปากแดง ๆ นั้นนาบบนแก้ม...
นั่นก็แค่ ‘ฉากรัก’ ของอิฐงั้นหรือ...
ใช่สินะ...เขาก็คงทำแบบนี้กับผู้หญิงที่ผ่านมาในชีวิตของเขา
จารุมาศถอนใจเฮือก ลมหายใจแผ่วสะท้านทว่าเจ็บปวด
อิฐขอให้หล่อนตัดสินใจ...แล้วหล่อนจะตัดสินใจว่ายังไงล่ะ...จะคบกับเขาโดยไม่รู้อนาคตหรือไร
ถ้ามันจบลงอย่างรวดเร็ว เป็นเพียงความฝันชั่วข้ามคืน หล่อนจะเสียใจแค่ไหนนะ...
ตอนนี้ก็สนใจเขา ชอบเขาขึ้นมานิด ๆ แล้ว...ต่อไปถ้าถึงขั้นรัก...แล้วเขาทิ้งหล่อนไป เหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ จารุมาศจะ ‘รับ’ มันได้แค่ไหน
หล่อนเป็นคนซื่อและจริงใจ ไม่เคยมีแฟน แต่ตั้งใจว่าหากคบกับใครก็ขอให้คบกันยาวนาน มั่นคงต่อกัน ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะโคจรมาเจอกับอิฐได้ ยิ่งฟังที่ปพลเล่า อิฐยิ่งดูอันตรายสำหรับหล่อน...
เสือผู้หญิง...กับสาวซื่อจากบ้านนอกงั้นหรือ...ใช่...มันไม่เหมาะสมกันจริง ๆ
แต่...
“จาวเก็บคำพูดเราไปคิด ไตร่ตรองให้ดีนะ แต่ถ้าอยากจะคบกับไอ้อิฐก็ตามใจ ยังไงมีเราอยู่ด้วย ไอ้อิฐมันก็คงเกรงใจเราบ้างแหละ แต่อย่างว่า...จาวคิดว่าจะสบายใจหรือเปล่า ที่จะคบกับเสือมีปมอย่างไอ้อิฐน่ะ...”
ประโยคนั้นแทงใจหล่อนอีกแล้ว แน่นอนว่าไม่ต้องถึงกับคบอิฐจริงจังหรอก แค่นี้หล่อนก็ไม่สบายใจจะแย่แล้ว
เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าบนตักดังขึ้น หญิงสาวสะดุ้งจากอาการเหม่อ รีบหยิบขึ้นมาดู
เบอร์อิฐ...
“มันเหรอ” ปพลถาม จารุมาศพยักหน้า หล่อนถือโทรศัพท์ในมือไว้อย่างนั้นโดยไม่รับสาย
“จาวอยากรับก็รับเถอะ” ปพลว่า คีบชิ้นตับร้อน ๆ จิ้มน้ำจิ้มใส่ปาก แม้คุยเรื่องเครียด แต่เขาก็ยังทานเอร็ดอร่อย ผิดกับจารุมาศที่กินไม่ลงตั้งแต่แรก
หล่อนตัดสินใจไม่รับสาย เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า ครู่ใหญ่ ๆ มันก็ดังขึ้นอีก แต่จารุมาศก็แข็งใจไม่รับ
อิฐโทร.เข้าอีกหลายครั้ง จนปพลขับรถไปส่งหล่อนที่คอนโดฯ ตอนสองทุ่ม ก่อนลงจากรถจารุมาศหยิบโทรศัพท์ออกมาดู
หกสายไม่ได้รับ...อิฐจะคิดยังไงนะ...คิดว่าหล่อนติดธุระ หรือไม่ก็...เขาไม่รู้นี่นะ ว่าตอนนี้หล่อนชักจะหวาดกลัวเขาขึ้นมาจริง ๆ แล้ว
“มันคงไม่ได้รอจาวอยู่ข้างบนหรอกนะ”
น้ำเสียงปพลชวนขนลุก ทำให้หญิงสาวนึกถึง ‘เสือ’ จริง ๆ...เสือ...ที่รอตะปบและกินเหยื่ออย่างเลือดเย็น
“ไม่หรอก” เสียงหล่อนที่ตอบเพื่อนแหบพร่าสิ้นดี “เขารับปากเราแล้ว ว่าจะกลับไปอยู่บ้าน...”
“เดี๋ยวเราลองเช็กดีกว่า” ปพลล้วงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าเสื้อเชิ้ต
“อย่าเลย” หญิงสาวร้องห้าม แต่อีกฝ่ายไม่ฟัง เขากดเบอร์เพื่อน
“อิฐ...อยู่ไหนวะ”
มีเสียงเพลงจังหวะกระชั้นดังมาตามสาย
“อยู่เอนทรี กับพวกไอ้ปาล์ม แกมาสิวะ” น้ำเสียงอิฐราบเรียบเช่นเคย ปพลโล่งใจเมื่อได้ยินเสียงคุยกันใกล้ ๆ
“เออ...อยากไปว่ะ แต่ไม่ว่าง ต้องกลับไปเตรียมโปรเจ็คต์ พรุ่งนี้มีประชุมครึ่งเช้า ดื่มเผื่อด้วยละกันว่ะ”
“อ้าว แล้วนี่แกยังไม่ได้กลับห้องอีกเหรอ อยู่ไหน...ออฟฟิศเหรอวะ”
ปพลเบิกตาเมื่อนึกได้ว่าพลาดไปแล้ว!
“เออ...อยู่บริษัท แต่กำลังจะกลับแล้ว แค่นี้นะ”
เขาวางสาย หันมองจารุมาศซึ่งจ้องมาอย่างสงสัย
“มันดื่มอยู่กับเพื่อน...ใกล้ ๆ บริษัทมันนั่นแหละ หวังว่าคืนนี้มันคงกลับไปนอนบ้านมันนะ”
แววตาปพลวาววับ ยามมองสบมา หญิงสาวก็มองตอบ แต่แววตาหล่อนสับสนไม่แน่ใจ
“เราก็ไม่อยากให้เขามาหรอก” หล่อนพูดจากใจจริง
เพราะหล่อนยังไม่อยากเจอเขาตอนนี้...หล่อนยังไม่พร้อม หัวใจยังเต้นแผ่ว ทรวงอกเหมือนจะร้าวนิด ๆ จากเรื่องราวที่ได้ฟัง
หล่อนบอกลาปพล ก่อนเดินไปยังลิฟต์ด้วยท่าทางหงอย ๆ
ชายหนุ่มรู้สึกเห็นใจเพื่อนอยู่ครามครัน เขาออกรถด้วยสีหน้าหมอง ๆ เช่นกัน
จาวก็น่าสงสาร...แต่จะไปรักชอบไอ้อิฐได้ยังไง ไม่เหมาะสมกันสักนิด...หล่อนบอบบางเกินไปที่จะคบหากับเสือเมืองกรุงอย่างอิฐ
..........................................................................................................................
อิฐมองเพื่อน ๆ เต้นรำรอบโต๊ะอย่างสนุกสนาน ตัวเขาเองไม่ถึงกับเพลิน แต่ก็ไม่ใช่เบื่อ เขาอยากไปหาจารุมาศ แต่โทร.ไปหลายครั้งหล่อนไม่รับสาย สงสัยจะติดธุระหรือไม่ได้อยู่ใกล้โทรศัพท์ อิฐมองในแง่ดี
แต่เมื่อครู่ ปพลทำให้เขาสงสัย
ฝ่ายนั้นโทร.มาถามว่าอยู่ไหน...ยังมิทันจะเอ่ยถามว่ามีธุระอะไรถึงโทร.มา เพื่อนก็รีบวางสาย ดูมีพิรุธชอบกล
“เอ้อ...อิฐ”
เพื่อนหนุ่มชื่อปาล์ม ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานแต่ต่างแผนกกัน เซเข้ามาทิ้งตัวนั่งข้าง ๆ จนโซฟาสีแดงยุบฮวบ “แกได้ข่าวแฟนเก่าแกหรือเปล่า”
อิฐเลิกคิ้ว “ทำไมวะ”
“เมื่อเช้าพวกผู้หญิงที่แผนกข้าน่ะ เขาว่าเห็นคอลัมน์กอสสิปในหนังสือพิมพ์ฉบับเช้า ว่าไอ้ภัทรมันดอดพายายดาราที่ชื่อแอ๊บ ที่ทำนมปลอมแล้วไม่ยอมรับน่ะ ไปนอนกันถึงภูเก็ต แล้วยายฟ้าจับได้ เลยไปอาละวาดที่กองถ่าย...”
“ข่าวนานหรือยัง”
อิฐถาม เพราะเขาเพิ่งเจอชลัลดาไม่นานนี่เอง
“ไม่รู้สิ...แต่สาว ๆ เขาวิจารณ์กันว่า รายนี้ไอ้ภัทรมันเอาจริงว่ะ เพราะแอบคบกับยายแอ๊บมานานแล้วนี่” ปาล์มมองหน้าขาวดูเย็นเยือกของเพื่อน ในบริษัท ไม่มีใครไม่รู้เรื่องของอิฐกับชลัลดา
“แย่เลยนะ...ไปเจอคนอย่างไอ้ภัทร...อยู่กับแกแต่แรกก็ดีแล้ว...”
เขาพูดแค่นั้นก็ถูกดึงไปเต้นรำต่อ อิฐนิ่งเงียบท่ามกลางเสียงเพลงอึกทึก
ข่าวคราวของชลัลดากับสามี มักลอยวนเวียนใกล้ตัว นี่เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้อิฐลืมหล่อนไม่ได้เสียที หลังเลิกรากันใหม่ ๆ ประธานบริษัทจะส่งเขาไปทำงานที่สาขาใหญ่ในยุโรป เพื่อน ๆ เห็นด้วยเพราะสงสารอิฐที่ต้องมารับรู้ข่าวการแต่งงานของชลัลดากับปฏิภัทร แต่ชายหนุ่มแข็งใจปฏิเสธ
เขาไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องหนีด้วยเล่า
มองผิวเผิน แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่รักมากจากไป ทำไมอิฐถึงเจ็บช้ำมากมาย ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเขาหรอก...อิฐไม่มีวันลืม ก่อนที่ฟ้าจะบอกเลิก เป็นวันที่แสนจะโหดร้ายทารุณจิตใจของอิฐยิ่งนัก
ถึงกระนั้น...เขาก็ยังดีกับหล่อน...แม้ความรักที่มอบให้ มันจะหมดลงตั้งแต่ ‘วันนั้น’ หากบางอย่างยังคาใจ
คนอื่นอาจมองว่าเขาไม่มีวันลืมชลัลดา แต่อิฐรู้ตัวดีว่าแท้จริงแล้ว...
เสียงกรี๊ดกร๊าดของเพื่อน ๆ ดังกระทบหู อิฐสลัดศีรษะ รู้สึกมึนนิด ๆ จากแอลกอฮอล์ เขาลุกขึ้นสะกิดปาล์ม
“อะไรวะ เพิ่งสี่ทุ่มครึ่งเอง” ฝ่ายนั้นโวยวายเมื่ออิฐขอตัวกลับ
อากาศข้างนอกอบอ้าว บอกให้รู้ว่าฝนกำลังจะตกอีกแล้ว เขารู้สึกคิดถึงจารุมาศ จึงกดเบอร์หล่อนอีกครั้ง
คราวนี้หล่อนรับสาย
“คะ คุณอิฐ”
ตอนแรกชายหนุ่มจะบอกให้หล่อนเรียกชื่อเขาเฉย ๆ แต่คิดไปคิดมา...หล่อนเรียกเขาแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน...มันทำให้รู้สึกว่าหล่อนยังทิ้งระยะห่างกันนิดหน่อย เร้าใจดี...
“คุณอยู่ที่ไหนครับ ผมโทร.หาตั้งหลายครั้ง”
ตอนนี้เขาไม่ ‘กั๊ก’ อีกแล้ว คำพูดคำจาแบบคนที่รู้สึกผูกพันกัน เขาจะเอามาใช้กับจารุมาศ เหมือนที่เคยใช้มันกับชลัลดา ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีวันพูดเช่นนี้กับผู้หญิงคนอื่น...
“ฉัน...ฉัน...” จารุมาศนึกหาคำแก้ตัว “ฉันลืมเปิดเสียงโทรศัพท์น่ะค่ะ...”
“ตอนนี้คุณอยู่ที่ห้องแล้วหรือยัง”
“ค่ะ”
“ผมไปหาได้ไหม”
อิฐถามง่าย ๆ แต่สำหรับจารุมาศ ช่างเป็นคำถามที่ตอบได้ยากเย็นเหลือเกิน!
เมื่อไม่รู้จะตอบเขาอย่างไร หล่อนก็เลือกที่จะเงียบ และชายหนุ่มก็สัมผัสความเงียบน่าอึดอัดนั้นได้ เขาย่นคิ้วเข้ม “มีอะไรหรือเปล่าครับคุณจาว”
ใจหญิงสาวร้อนรุ่ม...ทำยังไงดี จะตอบเขาว่ายังไงดี...
เพราะโกหกใครไม่เป็น ยามมีบางอย่างต้องปกปิด หล่อนเลยเลือกที่จะนิ่งเงียบ มากกว่าสรรหาคำโกหก
“ไอ้พลมันมาพูดอะไรกับคุณอีกล่ะ” อิฐหมดความอดทน หลังฉุกคิดถึงโทรศัพท์แปลก ๆ จากเพื่อนสนิท “มันคงใส่ไฟให้คุณกลัวผมอีกแล้วใช่ไหม”
จารุมาศกลืนน้ำลาย เขาฉลาดจริง ๆ
“เขาไม่ได้ใส่ไฟนะคะ...เขา...” หล่อนอึกอัก จะพูดว่ายังไงดีเรา เรื่องอดีตของอิฐเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่จะพูดออกมา...อิฐอาจสะเทือนใจ ก็ปพลบอกว่าเขารักแฟนเก่าของเขามากนี่นา แต่รายนั้นก็ยืนยันเอง ว่าหล่อน ‘ถาม’ อิฐได้
แต่มันจะเป็นการดีหรือ ที่ถามถึงอดีตรักของเขา
จารุมาศไม่อยากรื้อฟื้น หล่อนกลัวเขาเจ็บปวด...นี่หล่อนแคร์เขาใช่ไหม
“คุณจาว” น้ำเสียงอิฐร้อนรน เพราะหญิงสาวเงียบไปนานเหลือเกิน “คุณกลัวผมใช่ไหม”
เขารู้...มิใช่กลัวว่าเขาจะฉวยโอกาส แต่กลัวตัวตน กลัวหัวใจของเขา...จารุมาศกลัวที่จะคบหากับเขา
อิฐเข้าใจดี ว่าปพลก็ต้องรักและห่วงใยจารุมาศในฐานะเพื่อน จึงอดเตือนหล่อนไม่ได้ แต่เขาก็รู้สึกชอบจารุมาศจากใจจริงเช่นกัน เพียงแต่ภาพลักษณ์และฉายาของเขา ทำให้ปพลไม่ไว้ใจ
เขาคงต้องหาทางพิสูจน์ใช่ไหม...แม้ไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าอนาคตจะคบกับหล่อนได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า
หรือเขาจะถอย...เขาลงทุนลงแรงกับผู้หญิงคนนี้มากไปหรือเปล่า เพราะเห็นหล่อนแปลกไปกว่าผู้หญิงคนอื่น เลยอยากลองลิ้ม...ว่าหล่อนจะมีรสชาติอย่างไร...เช่นนั้นหรือเปล่า
ไม่...อิฐลองตั้งคำถามกับตัวเองมาหลายครั้งแล้ว เขาจะไม่ลังเลอีก
ปพลจะว่าอย่างไรก็ช่าง เสือตัวนี้ไม่ยอมแพ้หรอก
เขาอยากกินจารุมาศ และเขาจะต้อง‘กิน’ หล่อนให้ได้
..............................................................................................................................
‘เอาไว้ค่อยคุยกัน...’
อิฐจบบทสนทนาน่าอึดอัดลง เมื่อจารุมาศยังนิ่งเงียบ เขาวางสายพร้อมอาการเจ็บแปลบในอกของหญิงสาว
คืนนั้นหล่อนนอนไม่หลับ จะว่าไปตั้งแต่มาอยู่ห้องอิฐ โดยเฉพาะคืนที่เขาอยู่ด้วย หล่อนก็นอนไม่ค่อยหลับอยู่แล้ว แต่คืนนี้หนักหน่อยเพราะเครียด กว่าจะหลับจริง ๆ ก็เกือบตีสี่
ดังนั้นวันเสาร์ต่อมาหล่อนจึงตื่นสายเต็มที่ เกือบเก้าโมงที่จารุมาศงัวเงียลุกจากเตียง ถอดเสื้อผ้าแล้วก้าวเข้าห้องน้ำ หลังอาบน้ำสระผมคลายง่วง หล่อนก็โพกศีรษะด้วยผ้าผืนเล็ก พันกายด้วยผ้าเช็ดตัวหลวม ๆ เดินออกมายังห้องครัวเพื่อหุงข้าว กะว่าแต่งตัวดรายผมเสร็จข้าวก็สุกพอดี
หากพอก้าวเท้าเข้าห้องรับประทานอาหาร ก็เห็นอิฐอยู่ที่โต๊ะ
เขานั่งหันหน้ามาทางนี้ บนโต๊ะมีถ้วยกาแฟ
“คุณอิฐ!”
จารุมาศอุทานได้แค่นั้นก็รีบเร้นกายแอบข้างประตู
เขาเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร!
ชายหนุ่มเห็นหล่อนเต็มตาเลยละ ร่างค่อนข้างบางในผ้าเช็ดตัวสีฟ้าอ่อน เห็นไหล่เนียน เรียวขาสีแทนเปลือยเปล่าโผล่พ้นชายผ้า...แต่นี่มิใช่เวลามา ‘คิด’ อย่างอื่น
“คุณมาตั้งแต่เมื่อไรคะ” หญิงสาวถาม รู้สึกอายที่ตัวเองไม่เรียบร้อยต่อหน้าเขาอีกแล้ว
“ราว ๆ แปดโมงครับ” อิฐตอบเรียบ ๆ “เห็นคุณยังหลับอยู่ เลยไม่กล้าปลุก...คือผมไม่ได้เปิดประตูห้องนอนคุณนะ แต่เห็นว่าห้องมันเงียบ ๆ...”
จารุมาศยืนนิ่ง ตามองพื้น
หล่อนสะเทือนใจเมื่อนึกถึงเมื่อวาน เพราะท่าทีแปลก ๆ ของหล่อนหรือเปล่า...ถึงทำให้อิฐมาที่นี่แต่เช้า...
เขาแคร์หล่อนอย่างนั้นหรือ
“ผมไม่ได้มาคุยเรื่องไอ้พลหรอก ไม่อยากทำให้คุณเครียด แค่อยากมาหา...”
ร่างสูงในเสื้อทีเชิ้ตสีเข้ม กางเกงยีนส์ซีด ลุกจากเก้าอี้ เดินช้า ๆ มาหยุดตรงประตู ยิ้มเอ็นดูเมื่อเห็นร่างเล็กกว่ายืนสั่นอยู่
“ไปดูหนังกันไหมครับ”
จารุมาศสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงดังใกล้ตัว
มือขาวแตะลงบนบ่าเปลือย
“ถ้าคุณไม่อยากไป ผมก็จะกลับ ไม่รบกวนหรอก”
จารุมาศหายตัวสั่น มือกำปมผ้าเช็ดตัวไว้แน่น สีหน้าครุ่นคิด
อิฐจ้องมองเสี้ยวหน้าหล่อน เขาชอบผู้หญิงคนนี้จัง...ตอนเขากอดหล่อนไม่ขัดขืน ตอนเขาจูบหล่อนก็ไม่ดิ้นหนี ไม่ว่าจะทำอะไร หล่อนโอนอ่อนผ่อนตาม แต่ไม่ยักเทใจให้เขาเต็มร้อยเสียที บางครั้งก็แสดงท่าทางหวาดกลัว ลังเลสับสน ทำให้อิฐรู้สึกว่าตนเองเป็นต่ออยู่ก็ไม่ใช่...จะว่าเป็นรองก็ไม่เชิง อิฐชอบความรู้สึกนี้
เช่นเวลานี้ รู้ทั้งรู้ว่าเขาอันตราย หล่อนก็ยังยืนนิ่งให้เขาสัมผัส ทั้งที่ตัวเองก็อยู่ในผ้าเช็ดตัวผืนเดียว
ไม่หรอกมั้ง...เดี๋ยวพอเขาแตะต้องหล่อนมากเข้า...หล่อนก็จะ ‘เผ่นแผล็ว’ หนีไปรวดเร็ว ไม่เชื่อคอยดู
“คุณมาที่นี่ เพราะอยากชวนฉันไปดูหนังหรือคะ” หญิงสาวหันมา “โทร.มาก็ได้นี่คะ ไม่เห็นต้องเสียเวลาขับรถมาเลย”
“ถ้ามาชวนด้วยตัวเอง มันดูพยายามมากกว่าน่ะ” ชายหนุ่มพูดยิ้ม ๆ ตามองผิวเนื้อตามไหล่ และเหนือทรวงอกของหล่อน ด้วยความรู้สึกอยากขบกัด...ฝากฝังร่องรอยไว้
“คุณพูดเหมือนคุณแคร์ฉัน...” จารุมาศเสียงแผ่ว ตามองพื้นอีกครั้ง
หล่อนอยากรู้เหลือเกิน ว่าเขาคิดยังไงกับหล่อนกันแน่...จึงไม่ถอยหนี ไม่ใช่ใจกล้าใจถึง แต่เพราะรู้ดีว่าเขาคงไม่ทำอะไรหล่อนหรอก...ก็หล่อนไม่ใช่คนสวยอย่างแฟนเก่าเขา...แม้ไม่เคยเห็นหน้า แต่เดาว่าแฟนของอิฐ คงจะสวยมากทีเดียว
“แคร์สิ...” อิฐกระซิบ “ไม่งั้น...ผมไม่มาหาคุณหรอก”
มือขาวเลื่อนจากไหล่ สอดเข้ารั้งเอวบางเข้าชิดตัว ก่อนอิฐจะซบหน้าลงบนบ่าเปล่าเปลือยนั้น แผ่นหลังหล่อนบอบบางเหลือเกิน
“ผมนึกว่าจะไม่เจอคุณอีกแล้ว” เขาพึมพำ “นึกว่าพอเปิดประตูเข้ามา จะพบกับความว่างเปล่าเสียอีก”
“ฉันไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ” จารุมาศเอ่ย หล่อนชักคุ้นเคยกับสัมผัสของชายหนุ่ม จึงไม่ใจเต้นระทึกอีกแล้ว “เพราะถ้าจะย้ายออก มันต้องใช้เวลา ฉันเก็บของไม่ทัน”
อิฐหัวเราะเบา ๆ กับประโยคซื่อ ๆ นั่น ก่อนพูดเจือรอยยิ้ม “ผมไม่ให้คุณไปไหนหรอก อย่างน้อยก็จนกว่าผมจะบอกขายห้องนี้ได้”
คนฟังเบิกตา เอี้ยวคอมองหน้าขาวจัดของชายหนุ่ม “คุณจะขายห้องนี้เหรอคะ”
น้ำเย็นใสไหลออกจากผ้าที่โพกศีรษะไว้หลวม ๆ เป็นเส้นบาง ๆ ลงมาตามต้นคอ และแผ่นหลัง อิฐมองมันอย่างตื่นตา กลิ่นแชมพูหรือสบู่หอมกรุ่นตรงปลายจมูก
“ครับ”
“ทำไมล่ะคะ” จารุมาศอยากรู้ ก่อนร้องอุทานเบา ๆ เมื่ออิฐนาบริมฝีปากบนแผ่นหลัง
“น้ำเย็นเชียว” เขาว่า “คุณไม่หนาวเหรอ”
“คุณก็ปล่อยฉันสิคะ ฉันจะได้ไปใส่เสื้อผ้า”
“เรื่องอะไรล่ะ คุณจงใจยั่วผมก่อนนี่นา” อิฐรัดหล่อนแน่นขึ้น จารุมาศเริ่มดิ้น
“ฉันแค่คิดว่า...คุณคงไม่พิศวาสตัวตุ่นพันผ้าหรอก”
“ตัวตุ่นอะไรกัน” ชายหนุ่มงง ก่อนหัวเราะเมื่อนึกได้ “ห้องผมจะมีตัวตุ่นได้ยังไง”
เขากดจมูกฝังลงบนบ่าเนียน “หอมจริง...สบู่กลิ่นนี้”
“นกแก้วค่ะ” หญิงสาวโน้มตัวลงหนีสัมผัสอุ่น แต่อิฐก็ค้อมตัวตามพลางหัวเราะขัน
“นกแก้วสีเขียวใช่ไหม”
“คุณเคยใช้เหรอ”
“ไม่เคย แต่รู้ว่าเป็นกลิ่นสบู่นกแก้วสีเขียว...ก็กลิ่นมันคลาสสิกขนาดนี้” ชายหนุ่มจรดปลายจมูกสูดดมผิวสาวด้วยความชื่นใจ
จารุมาศนิ่ง ความเครียดจากเมื่อคืนมลายหายไปแล้ว จากการได้เย้าแหย่กับอิฐ
เขาก็มีมุมน่ารักเหมือนกันนะ
“ตกลงว่าไปดูหนังกับผมใช่ไหม”
อิฐถามข้างหู นึกมันเขี้ยวอยาก ‘งับ’ ใบหูเล็ก ๆ ของหล่อนจริง ๆ แต่ต้องอดใจไว้
หญิงสาวพยักหน้า อิฐจึงหอมต้นคอหล่อนดังฟอดใหญ่ ก่อนจะปล่อยร่างในผ้าเช็ดตัวออกอย่างเสียดาย
จารุมาศตัวปลิวเข้าห้อง อิฐพูดไล่หลังไปว่า
“คุณกล้ามากเลยนะ ยอมให้ผมกอด ทั้งที่นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว”
“คุณยังไม่รู้จักฉันดีพอหรอกค่ะ”
หญิงสาวหันมาแกล้งพูดหยิ่ง ๆ แล้วปิดประตูห้องนอนดังโครม
ปพลเตือนด้วยความเป็นห่วง...ก็ถูก แต่หล่อนเป็นคนตัดสินใจนี่นา ไม่ว่าเพื่อนจะมองหล่อนใสซื่อโง่เง่ายังไง จารุมาศก็จะลองคบกับอิฐ
อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ได้มาพบคนอย่างเขา ถือเสียว่าเป็นกำไร...อิฐเป็นคนดี น่ารัก แล้วหล่อนยังจะต้องการอะไรอีก...อนาคตจะเป็นอย่างไรก็ช่างมันเถอะ นี่หล่อนไม่ได้ ‘หลง’ เขานะ ยังไงก็จะระวังตัว...เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของคนบ้านนอก อย่างที่ปพลว่า...
เบื้องนอกนั้น อิฐยืนมองประตู รอยยิ้มบางผุดขึ้นบนหน้าขาว
เห็นไหมล่ะ...หล่อนเผ่นแผล็วหนีไปจริง ๆ ด้วย แต่กลิ่นสบู่ยังอวลอยู่บนอกกว้างของเขา
ตัวตุ่นอย่างนั้นหรือ...รูปร่างหน้าตามันเป็นอย่างไรเขาก็ลืมไปแล้ว
ไหนจะประโยคเมื่อครู่...หล่อนจงใจท้าทายเขาชัด ๆ แม้จะรู้ว่าจารุมาศแกล้ง แต่อิฐชอบใจเหลือเกิน
ยังไม่รู้จักหล่อนดีพองั้นหรือ ก็คงใช่...ดังนั้นเขาต้องทำความรู้จักหล่อนให้มากกว่านี้ใช่ไหม
ร่างสูงเดินไปนั่งบนโซฟาห้องรับแขก กดรีโมตดูรายการข่าวกีฬายามเช้า หากในสมองจินตนาการว่ามีจารุมาศใน ‘ชุด’ เมื่อครู่นั่งบนตัก เขาจะเช็ดผมให้หล่อนอย่างอ่อนโยน แล้วพรมจูบบนไหล่หลังเปลือยเปล่านั้น...
จารุมาศ...นอกจากชลัลดาแล้ว หล่อนก็เป็นผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ที่อิฐต้องยอมรับว่าทำให้ใจเขาปั่นป่วนได้ขนาดนี้
ให้ตายเถอะ นี่เป็นครั้งแรก ที่มี ‘เนื้อ’ วางอยู่เบื้องหน้า แต่อิฐไม่กล้ากิน!
จารุมาศถอนใจ หล่อนรู้ดีว่าอีกฝ่ายคงมิใช่ต้องการแค่ ‘หาอะไรกิน’ อย่างที่ว่า เพราะเมื่อคืนหลังแยกกันที่ผับ ชายหนุ่มก็เงียบไป ไร้วี่แววว่าจะโทร.มา ‘เม้ง’ หล่อน ที่แท้รอคุยแบบตัวต่อตัวนี่เอง...
โต๊ะทำงานข้าง ๆ ยังว่างเปล่า ไม่รู้ว่าสาวิตรีหาทางออกกับ ‘ปัญหา’ ของหล่อนได้หรือยัง...เมื่อเช้าแผนกบุคลากรแจ้งว่าสาวรุ่นพี่โทร.มาลาป่วยอีกหนึ่งวัน เท่ากับว่าจารุมาศจะไม่เจอหน้าเพื่อนร่วมแผนกจนกว่าจะถึงวันจันทร์
หญิงสาวรู้สึกเป็นห่วง อย่างน้อยก็ในฐานะเพื่อนร่วมงาน แม้สาวิตรีไม่เคยหยิบยื่นน้ำใจใด ๆ แก่หล่อน แต่จารุมาศมิใช่คนประเภทเดียวกัน...หล่อนมันคนบ้านนอก ใครเจ็บใครหายใครตาย ลูกใครแต่งลูกใครบวชรู้กันทั้งอำเภอในเวลาอันสั้นแบบปากต่อปาก ไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบกันมิได้ขาด
หล่อนตัดสินใจโทร.หาสาวิตรี หากพอกดเบอร์แนบหูกับโทรศัพท์ ก็มีเสียงยียวนดังเบื้องหลัง
“ยังไม่ทันเลิกงานเลย โทร.ให้หนุ่มขับเบนซ์มารับเหรอจ๊ะ”
ภาณียืนอยู่ตรงนั้น ใบหน้าแต่งเข้มจนดูดุเช่นเคย บวกสีสันสดแสบตาของเดรสรัดรูปที่หล่อนชอบสวมใส่ ทำให้ยิ่งดูน่ากลัวเข้าไปใหญ่ แต่จารุมาศไม่กลัว หล่อนหันมองสาวใหญ่ ตอบสุภาพว่า
“เปล่าค่ะ จาวจะโทร.หาพี่สา เห็นว่าลาป่วย เลยอยากสอบถามอาการ”
อีกฝ่ายยิ้มเยาะ ร่างใหญ่นั้นไม่เข้ามาในแผนก แต่ยืนพิงขอบพาร์ทิชั่น ในมือถือแฟ้มบาง “รายนั้นเขาไม่ได้ป่วยจริง ๆ หรอก เธอรู้หรือแกล้งโง่กันแน่ ว่ายายสาน่ะป่วยใจ เพราะท้อง...แต่คนเป็นพ่อเด็กเขาไม่รับ”
จารุมาศเบิกตา มิใช่เพราะตกใจกับข้อมูล เนื่องจาก ‘เจ้าของเรื่อง’ เอ่ยปากบอกหล่อนไปแล้ว หากที่ประหลาดใจเพราะภาณีพูดด้วยน้ำเสียงหยามเยาะ สีหน้าสีตาดูสะใจยังไงพิกล
แต่...ทำไมภาณีถึงทราบเรื่องนี้ล่ะ...
“อย่ามัวเสียเวลากับเรื่องคนอื่นอยู่เลย เธอตรวจบัญชีหรือยัง”
“ยังค่ะ แต่วันนี้มีใบเสร็จไม่ถึงสิบใบ...”
“รีบ ๆ ทำเข้าเถอะน่ะ” ภาณีขัด “เสร็จงานแล้วอยากจะโทร.หาใครก็ตามใจ ทำบันทึกมาด้วยนะ...” ร่างใหญ่ในชุดสีสดหมุนตัวเดินจากไป ทิ้งให้จารุมาศเม้มปากนิ่ง
คนอะไรแล้งน้ำใจ...หล่อนก็แค่จะโทรศัพท์หาสาวิตรี เพื่อสอบถามอาการป่วยแค่ไม่กี่นาที เอาเถอะ...หล่อนผิดเองก็ได้
บัญชีวันนี้มีปัญหา เพราะเงินเกินอีกแล้ว คราวนี้เกินมาไม่กี่ร้อย จารุมาศจึงต้องตรวจทานหลายรอบ ก่อนเข้าพบภาณี ฝ่ายนั้นกำลังนั่งเติมแป้งเติมลิปสติกเช่นเคย
“เดี๋ยวฉันจัดการเอง” สาวใหญ่พูดสั้น ๆ เมื่อจารุมาศรายงานเรื่องเงินเกิน
บริษัทเก่าที่จารุมาศทำงาน ไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินเกิน มีแต่เงินขาด...ทำให้พนักงานบัญชีอย่างหล่อนหนาว ๆ ร้อน ๆ อยู่เรื่อย ระบบตรวจทานและทำบันทึกเป็นหลักฐานไว้ จึงทำให้อุ่นใจอยู่บ้าง แต่สำหรับที่นี่...หัวหน้าฝ่ายออกปากว่าจะ ‘จัดการเอง’ จารุมาศจึงไม่ยุ่งเกี่ยว ด้วยคิดว่าหล่อนทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จเรียบร้อยก็เพียงพอแล้ว ภาณีมีหน้าที่ตรวจสอบอีกครั้งก่อนส่งเจ้านายเซ็น หากสาวใหญ่ไม่ท้วงติงอะไรก็แสดงว่าไม่มีปัญหา
ปพลขับรถของแฟนสาวมาจอดเทียบหน้าบริษัทตอนเกือบหกโมง จารุมาศนั่งรอในออฟฟิศ ฟ้าครึ้มทำให้บรรยากาศมืดสลัวจนต้องเปิดไฟบางจุด แต่มีพนักงานอยู่ทำโอทีสองสามคน ทำให้ไม่น่ากลัวนัก หล่อนโทร.หาสาวิตรี แต่ฝ่ายนั้นไม่รับสาย คงไม่อยากรับโทรศัพท์กระมัง
อาทิตย์กลับไปแล้ว เขาเดินผ่านแผนกไปโดยไม่เหลือบมองจารุมาศ ซึ่งเงยหน้าขึ้นจากงานพอดี แต่หล่อนตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวหรือพูดคุยกับเขาอีกถ้าไม่จำเป็น จึงไม่ใส่ใจท่าทีเขานัก
“กินอะไรดี” ปพลเอ่ยถามเมื่อจารุมาศก้าวขึ้นนั่งเรียบร้อย
“แล้วแต่เธอสิ เรากินได้ทุกอย่างอยู่แล้ว” หญิงสาวคาดเข็มขัดนิรภัย “เอารถแฟนมารับเราแบบนี้ แฟนเธอเขาไม่ว่าเหรอ”
“วันนี้เขาไม่อยู่น่ะ ไปฮ่องกงกับเพื่อน ๆ” ปพลตอบเนือย ๆ “แฟนเราเขาไฮโซ วันศุกร์ทีไรเขาก็บินไปกินข้าวเย็นที่ฮ่องกงบ้างละ สิงคโปร์บ้างละ อย่างใกล้ก็บินไปเชียงใหม่ ภูเก็ต...หาเรื่องใช้เงิน”
“แล้วทำไมเธอไม่ไปกับเขาล่ะ” จารุมาศสงสัย
“เมื่อก่อนก็ไปบ้าง แต่หลัง ๆ ไม่ไหว รูดการ์ดจนไส้แห้ง เขาอยากไปก็ให้เขาไปเองจ่ายเอง”
“แฟนเธอคงรวยมากสินะ” หญิงสาวเดา ปพลพยักหน้ารับ
“พ่อแม่เขาทำธุรกิจส่งออกพวกเครื่องกลโรงงาน ปีหนึ่ง ๆ กำไรไม่รู้กี่สิบล้าน ตัวเขาเองก็เป็นพีอาร์ฯ บริษัทออร์กาไนเซอร์ เงินเดือนเรือนแสนแหละ”
“มิน่า...” จารุมาศอุทาน มองหน้าหม่น ๆ ของเพื่อนแล้วพูดต่อว่า “เงินเดือนเขาสูงจัง บ้านก็รวย นี่แสดงว่าเขารักเธอจริง ๆ นะเนี่ย...เอ้อ...เราไม่ได้จะว่าปพลนะ คือเราหมายถึง...”
“เราเข้าใจ” ปพลหัวเราะ “แต่เพราะเขารวยกว่านี่แหละ ที่ทำให้เราลำบากใจ”
“แต่สมัยนี้มันไม่มีแล้วนะ ไอ้การที่ผู้ชายต้องเป็นฝ่ายนำ เป็นฝ่ายหาเลี้ยงน่ะ” หญิงสาวพูด ตามองเบื้องหน้า “เป็นเรา ถ้าหาเงินได้มากกว่าแฟน เราก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเราหรอก เราจะบอกแฟนว่าไม่เป็นไร อย่ารู้สึกต้อยต่ำ ขอให้เราสองคนรักกันจริง ๆ ก็พอ...”
ปพลยิ้มบาง คุยกับคนบ้านเดียวกัน...มันรู้สึกดีแบบนี้เอง
หากแวบหนึ่งก็อดคิดถึงอิฐไม่ได้...จารุมาศก็เหมือนอิฐ...เพื่อนรูปงามเองแม้ทำเฉย ไม่เอ่ยปากสอดรู้ แต่ก็เฝ้ามองเขากับแฟนสาวอยู่ห่าง ๆ ด้วยความห่วงใยเช่นกัน
‘เมื่อเดือนก่อนฟางชวนไปบาหลี เดือนนี้ข้าเลยยังช็อตอยู่ว่ะ...’
เขาเคยเปรยให้อิฐฟัง ยามเพื่อนเอ่ยชวนไปปาร์ตี้ซึ่งต้องใช้เงินทั้งนั้น และอิฐจะรับฟังโดยดี ไม่บังคับกดดันให้เขารู้สึกแย่ แถมยังช่วยเหลือด้วยการให้ยืมเงินอีกต่างหาก
นานเข้าปพลก็เกรงใจเพื่อนไปเอง พอแฟนสาวชวนไปกินไปช้อปฯ เมืองนอก เขาก็ปฏิเสธ ปล่อยให้หล่อนโกรธงอนไปตามเรื่อง
โธ่เอ๋ย...ลำพังเงินเดือนพนักงานบริษัทไม่กี่หมื่น แค่ไป ‘กินข้าว’ ที่ฮ่องกงครั้งเดียวก็หมดแล้ว ขืนต้องทำแบบนี้ทุกวันศุกร์ เขาเป็นอดตายกันพอดี...ถึงรู้สึกผิดที่ปล่อยให้ฟางไปกับเพื่อน ๆ และออกเงินเที่ยวเองก็เถอะ หล่อนร่ำรวยกว่าเขานี่นา...
อิฐไม่เคยปริปากท้วงติง แต่แววตายามรับฟังปพลระบาย เหมือนกับจารุมาศตอนนี้ ที่มีความเข้าอกเข้าใจระคนเห็นใจ...
รถเลี้ยวเข้าซอยเล็ก ๆ เห็นป้ายร้านอาหารหมูจุ่มใหญ่โตเบื้องหน้า บุฟเฟต์ต่อหัวไม่ถึงร้อยบาท จารุมาศชอบอกชอบใจ “แถวบ้านเราก็มีแล้วนะ หมูกระทะร้านหนึ่ง หมูจุ่มอีกร้านหนึ่ง...เป็นร้านเล็ก ๆ เปิดมาเกือบปีละ รสชาติน้ำจิ้มสุดยอดเลย...เดี๋ยวถ้าปพลกลับบ้าน ลองไปกินกัน เจ้าของร้านหมูจุ่มเป็นเพื่อนของติ้ง...จำไอ้ติ้งได้ไหม”
“คนที่ท้วม ๆ ผมสั้น ๆ น่ะเหรอ”
หญิงสาวหัวเราะ “เดี๋ยวนี้ไม่ท้วมแล้ว อ้วนเลยล่ะ”
“ตอนนี้เขาทำงานอะไร” ปพลถาม
“เปิดร้านขายน้ำกับไอศกรีมอยู่ในตลาด”
การได้พูดคุยถึงเพื่อนเก่า ทำให้ปพลอารมณ์ดีขึ้น แต่เขายังไม่ลืมเรื่องสำคัญที่ต้องการคุยกับจารุมาศ ดังนั้นพอพนักงานทยอยยกอาหารจำพวกเนื้อหมู เนื้อไก่ ลูกชิ้น ตับ ปลา ผักสารพัดตามแบบฉบับจิ้มจุ่มมาเสิร์ฟเสร็จเรียบร้อย ชายหนุ่มก็ยิงคำถามทันที
“ตกลงจาวจะเอายังไง เรื่องไอ้อิฐ”
จารุมาศกำลังใช้ส้อมตีไข่ในถ้วยใบน้อย หล่อนชะงักมองตาเพื่อน
“จาวอยากคบกับมันใช่ไหม”
หญิงสาวไม่ตอบ ค่อย ๆ เทไข่สีเหลืองนวลลงในหม้อแล้วปิดฝา
“อิฐมันชอบจาวนะ คงเพราะจาวทำให้มันหายเบื่อหายเศร้า” ปพลหรี่ตามองเพื่อน “แต่จาวต้องไม่ลืมว่า จาวกับมันเพิ่งรู้จักกันแค่ไม่กี่วัน ที่เราเห็นในผับเมื่อวาน...มันไม่เร็วไปหน่อยเหรอ”
จารุมาศนิ่งเงียบ หล่อนเข้าใจดีว่าอีกฝ่ายหมายความอย่างไร
“อิฐน่ะ...เคยอกหัก...อกหักแบบสาหัสสากรรจ์เลยละ” ปพลจิบเบียร์ “แฟนของมัน...ทิ้งมันไปแต่งงานกับคนอื่น...ทั้งที่คบกับมันมาตั้งแต่สมัยเรียน เมื่อเกือบสองปีก่อน...ตอนที่เธอไป ไอ้อิฐเหมือนไม่ใช่คน...ไม่สิ เหมือนคนนี่แหละ แต่ไม่มีชีวิต ไม่มีวิญญาณ กินเหล้าแทนน้ำ ไม่ไปทำงาน หมกตัวอยู่แต่ในคอนโดฯ ไม่อาบน้ำ ไม่นอน...”
จารุมาศตาโต
“มันรักผู้หญิงคนนั้นมาก รักแบบที่เรียกว่าตายแทนได้เลยละจาว เราคบกับมันตั้งแต่ปีหนึ่งใช่ไหม นั่นแหละ...มันก็เริ่มคบกับแฟนมันตอนนั้น แล้วไม่เคยมีคนอื่น ไม่เคยนอกใจ ทั้งที่มีผู้หญิงสาว ๆ สวยกว่าแฟนมันเข้ามาหามันเรื่อย แต่มันไม่เคยแลใคร มันรักแฟนมันมาก...ตามใจทุกอย่าง เวลาทะเลาะกันมันเป็นฝ่ายง้อตลอด...”
แววตาของปพลเหม่อนิด ๆ ยามนึกถึงอดีต สาว ๆ นักศึกษาหลายคน ทอดสายตาริษยาไปยังชลัลดา ยามหล่อนเยื้องย่างลงจากรถคันงาม มีอิฐ หนุ่มหล่อตัวสูงโปร่ง แทบจะประคองเดินเคียงกันไป
คู่นี้ไม่เคยห่างกัน ถ้าเห็นชลัลดาที่ไหน ที่นั่นต้องมีอิฐ
สาวสวยมักนั่งเชิดหน้า ท่าทางหยิ่งยโส มีอิฐนั่งใบหน้าเรียบเฉยอยู่ข้าง ๆ ยามทำกิจกรรม เป็นภาพคุ้นตาของคนทั้งมหาวิทยาลัย ใคร ๆ ก็อิจฉาชลัลดา ที่มีแฟนทั้งหล่อ รวย แถมนิสัยดี รักเดียวใจเดียวเช่นอิฐ
แต่ไม่มีใครอิจฉาอิฐ...โดยเฉพาะเพื่อนในกลุ่ม พวกผู้ชายต่างรู้กันว่าหล่อนสวย แต่ให้สวยแค่ไหนก็ตาม นิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจ และชอบประชดประชัน รวมถึงดูถูกคนของหล่อนก็ทำให้เพื่อน ๆ ของอิฐเอือมระอา ยิ่งปพลด้วยแล้ว เขานึกเกลียดชลัลดาด้วยซ้ำ
ปิดเทอมใหญ่หลังสอบเสร็จตอนปีสาม ปพลตัดสินใจบวชทดแทนคุณพ่อแม่ เพื่อนสนิทในกลุ่มไปกันทุกคน บางคนหนีบแฟนไปด้วย นัยว่าอยากไปเห็นบ้านของปพล และเที่ยวพักผ่อนไปในตัว แต่ชลัลดาย่นจมูก แสดงท่าทางรังเกียจเมื่อพูดออกมาว่า
‘ไม่เอาหรอก...ฟ้าไม่ชอบบ้านนอก ไม่ชอบความลำบาก’
แม้อิฐจะหว่านล้อมอย่างไร สาวสวยก็ยังเบะปากไม่เลิก...ที่ปพลรู้สึกเกลียด เพราะคำพูดทั้งหมดนั่น หล่อนพูดต่อหน้าเขา โดยไม่เกรงใจอิฐแม้แต่น้อย หล่อนมักเป็นแบบนี้ ไม่ว่าอิฐจะติติงยังไง หล่อนก็พูดซ้ำ ๆ ว่า
‘ก็ฟ้าเป็นของฟ้าแบบนี้ ที่บ้านเลี้ยงฟ้ามาแบบนี้...’
คือโตมาแบบคนรวย คนกรุงจ๋าว่างั้นเถอะ...ปพลแอบเหน็บในใจ หล่อนอ้างไปอย่างนั้นเอง จริง ๆ แล้วคนเมืองหลวงฐานะร่ำรวยไม่ได้เป็นอย่างหล่อนไปหมดเสียหน่อย หล่อนมันก็แค่เอาแต่ใจตัวเอง คิดว่าตนเหนือกว่าคนอื่น เป็นศูนย์กลางของจักรวาล...ชายหนุ่มหมั่นไส้
ก่อนนั้นชลัลดาเองก็ไม่เห็นปพลในสายตาอยู่แล้ว หล่อนอาจพูดคุยกับคนอื่น ๆ บ้าง แต่กับปพลที่สนิทกับอิฐที่สุด สาวสวยมักมองข้ามหัวไปอย่างไม่แยแส
‘ถ้าแกลำบากใจ ก็ไม่ต้องไปนะอิฐ’ ปพลเอ่ยเมื่ออยู่กันตามลำพัง ‘ฟ้าอาจจะโกรธก็ได้ ถ้าแกไปบ้านข้า’
‘เรื่องอะไร แกบวชทั้งที ข้าจะไม่ไปได้ยังไง’ อิฐเสียงดัง
เพราะอิฐเป็นแบบนี้ เขาถึงรู้สึกเสียดายที่เพื่อนคบกับผู้หญิงอย่างชลัลดา
ยอมรับว่าตอนสองคนเลิกกัน ปพลดีใจอยู่ลึก ๆ
“ทำไม...คุณอิฐถึงถูกทิ้งล่ะ” จารุมาศเอ่ยถามทำลายภวังค์ แววตาหล่อนอยากรู้ปิดไม่มิด
“ยายฟ้า...แฟนเก่าไอ้อิฐน่ะ...ชอบแข่งขันประชันกับพวกผู้หญิงด้วยกัน” ปพลยักไหล่ “อย่างว่านะ...จาวคงเคยได้ยิน ไอ้ข้ออ้างประเภทที่ว่า ‘เราเลิกกันเถอะ...เธอดีเกินไป’ แบบเนี้ย...นั่นแหละ ไอ้อิฐเจอกับตัวเองจัง ๆ เลย ยายนั่นขอเลิกด้วยเหตุผลนี้แหละ เพราะไปเจอแบดบอยตัวเอ้ของวงการเข้าน่ะสิ”
คนฟังย่นคิ้วไม่เข้าใจ
“หมอนั่นเป็นลูกชายนักธุรกิจ ไม่ได้เป็นดาราอะไร แต่มีชื่อเสียงเพราะพวกดารานักร้องตามจับกันให้วุ่น ก็อย่างว่า มันรวย...วัน ๆ ไม่ทำงาน เข้าผับบาร์ให้สาว ๆ ไล่จับเล่น ฟ้าเองก็เป็นหนึ่งในนั้น”
“ทั้ง ๆ ที่คบอยู่กับคุณอิฐน่ะหรือ”
“แน่นอน” ชายหนุ่มเสียงสูง คีบเนื้อหมูใส่หม้อ “ฟ้าเขาชอบเที่ยว ยิ่งเที่ยวกลางคืนยิ่งชอบ งานอีเวนท์เอยอะไรเอยเขาเอาหมด เขาชอบทำตัวเด่นดัง จะว่าไปมีแฟนอย่างไอ้อิฐก็เด่นอยู่แล้ว แต่ยังไม่ดังพอ เลยหันไปเล่นกับคนใหม่ เห็นว่ารู้จักกันในปาร์ตี้เปิดผับของดาราคนหนึ่ง ช่วงนั้นไอ้อิฐอยู่ซานฟรานฯ มั้ง ไปประชุมหรืออะไรนี่แหละ แล้วสานสัมพันธ์กัน เรียกว่าพอไอ้อิฐกลับมา ก็หงายหลังตึงเลย เพราะฟ้าประกาศหมั้นกับผู้ชายคนนั้นพอดี”
จารุมาศตาค้าง มือถือตะเกียบนิ่งอยู่ราวไร้เรี่ยวแรงฉับพลัน
“รวดเร็วใช่ไหมล่ะ” ปพลแค่นยิ้ม “ฟ้าเขาเป็นแบบนั้นแหละ เขาใจร้อน...” ชายหนุ่มเน้นเสียง
“ไม่ใช่แค่ใจร้อน...” หญิงสาวเอ่ยยากเย็น ตายังเบิกโพลง “แต่ยังใจร้ายด้วยนะเนี่ย...”
หล่อนไม่คาดคิดว่าจะได้ยินเรื่องราวนี้...ปพลเอ่ยครั้งหนึ่งว่าอิฐเคยมีแฟน และเลิกกับแฟนไปแล้ว...แต่หล่อนไม่คิดว่า ‘รายละเอียด’ มันจะชวนหดหู่แบบนี้
‘ผู้หญิง...เหมือนกันหมดหรือเปล่า...’
ประโยคปริศนาที่อิฐพึมพำยามเข้ามานอนกอดหล่อนในคืนนั้น ที่แท้ความจริงคืออย่างนี้นี่เอง!
หมายความว่าเขายังเจ็บปวดกับอดีตรักครั้งก่อนอยู่
หล่อนเข้าใจแล้ว...ว่าทำไมปพลถึงเตือนหล่อนเสมอมา
แววตาหญิงสาวหมองลง ตามองควันฉุยจากหม้อดินเบื้องหน้า
“เธอจะบอกเราว่า...” จารุมาศกลืนน้ำลาย “คุณอิฐ...เขาไม่ได้ชอบเราจริง ๆ ใช่ไหม...เขาแค่เห็นเราเป็นตัวแก้เหงา ช่วยให้เขาลืมความเจ็บปวด แค่ชั่วครั้งชั่วคราว อย่างนั้นใช่ไหม”
“ใช่” ปพลจ้องหน้าเพื่อนเขม็ง
“แล้ว...ทำไมต้องเป็นเราด้วยล่ะปพล” หญิงสาวเสียงสั่น
“ไม่ใช่ต้องเป็นจาวหรอก จะเป็นผู้หญิงคนไหนก็ได้ จาวยังไม่เข้าใจหรือไง” ชายหนุ่มพูดชัดเจน “ที่ผ่านมา ไอ้อิฐมันก็คบผู้หญิงคนนั้นคนนี้มาตลอด แต่ไม่ยืนยาว ไม่จริงจังอะไร จาวเข้าใจไหม โอเคว่าจาวอาจไม่ใช่สเปกมันนะ จาวสงสัยตรงนี้ใช่ไหม...ใช่ จาวไม่ใช่ผู้หญิงในสเปกมันเลย มันชอบผู้หญิงแบบยายฟ้า แต่ที่มันสนใจจาว เพราะจาวอยู่กับมัน ใกล้ชิดมันน่ะ จาวเข้าใจไหม...ไอ้อิฐมันเป็นเสือ...มีเนื้อมาวางตรงหน้าก็กินทั้งนั้นแหละ...มันไม่คิดจะคบหากับจาวจริงจังหรอก เราเตือนเพราะหวังดี เราเป็นห่วงจาวนะ”
ราวกับหัวใจของหล่อนสั่นสะเทือนไปด้วยประโยคเหล่านั้น
ปพลพูดมีเหตุผล...และเหตุผลดูหนักแน่นเหลือเกิน หลังได้ฟังเรื่องราวของอิฐแล้ว
นั่นสินะ...หล่อนไม่ใช่สเปกของเขาเสียหน่อย แถมเขายังรักแฟนเก่ามาก หล่อนมันหลงตัวเองว่าเขาชอบ...เขาสนใจ ทั้งที่มันเป็นไปไม่ได้ตั้งแต่แรก...เหมือนที่หล่อนเคยบอกกับปพลนั่นไง!
“อิฐกับฟ้าน่ะ...” ปพลเอ่ย เมื่อเห็นแววตาร้าวรานของจารุมาศ “ก็เหมาะสมกันดีแล้ว เราไม่ได้จะว่าจาวไม่คู่ควร แต่จาวกับไอ้อิฐ ดูยังไงก็ไม่เหมาะสมกัน...เรามันคนบ้านนอกนะจาว ยังไง ๆ มันก็เส้นบาง ๆ มาคั่นระหว่างเรากับคนเมือง อย่างเรากับแฟน...ทุกวันนี้ก็มีปัญหาหลาย ๆ เรื่อง แต่จริง ๆ แล้วเรารู้ ว่าลึก ๆ แล้วปัญหาพวกนั้นมันก็เกิดจากที่มา ...พื้นเพของแต่ละคนนั่นแหละ เรากับเขาไม่เหมือนกัน คิดกันคนละแบบ ยิ่งไอ้อิฐ เสือผู้หญิงเมืองกรุง...กับจาว...สาวซื่อจากบ้านนอก ยิ่งน่าเป็นห่วงใช่ไหมล่ะ...”
ท้ายประโยคปพลพูดให้ฟังตลก แต่จารุมาศไม่ขำ สีหน้าหล่อนเคร่งเครียด
“หรือจาวอยากจะลอง”
คำถามนั้นทำให้หญิงสาวกะพริบตาถี่ ราวดึงตัวเองออกจากความรู้สึกมืดมิดเมื่อครู่ได้แล้ว
“ไม่รู้สิ...”
“จาวฟังนะ” ชายหนุ่มน้ำเสียงจริงจัง “เราเองก็คุยกับไอ้อิฐเรื่องนี้เหมือนกัน แต่มันยืนยันกับเราว่ามันจะคบกับจาว...เราเองก็รักมันนะ มันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา แต่เรื่องผู้หญิง เราไม่ไว้ใจมันน่ะ...ที่เราเล่าให้จาวฟังเนี่ย เราพูดความจริงทุกอย่าง ถ้าจาวสงสัยก็ถามไอ้อิฐ ไม่ต้องกลัว มันไม่ใช่คนโกหกหรอก”
“โธ่...” จารุมาศอุทธรณ์ “ใครจะกล้าถามล่ะปพล...”
“ไม่นะ ถามได้ ถามมันเลย” ปพลยืนยัน “แต่บอกก่อนนะ มันอาจเล่าทุกอย่างที่จาวถามอย่างไม่ปิดบัง แต่เรื่องอนาคต ถ้าจาวถามมันว่า จะจริงจังหรือเปล่า เราพนันได้เลย มันตอบจาวไม่ได้แน่ ๆ”
คำพูดของปพลยิ่งฟังน่ากลัวมากขึ้นทุกที
ถ้าอย่างนั้นที่ผ่านมา...อ้อมกอดอบอุ่นของเขา จูบแผ่วเบาบนหน้าผากและริมฝีปาก กับสัมผัสหนัก ๆ ยามปากแดง ๆ นั้นนาบบนแก้ม...
นั่นก็แค่ ‘ฉากรัก’ ของอิฐงั้นหรือ...
ใช่สินะ...เขาก็คงทำแบบนี้กับผู้หญิงที่ผ่านมาในชีวิตของเขา
จารุมาศถอนใจเฮือก ลมหายใจแผ่วสะท้านทว่าเจ็บปวด
อิฐขอให้หล่อนตัดสินใจ...แล้วหล่อนจะตัดสินใจว่ายังไงล่ะ...จะคบกับเขาโดยไม่รู้อนาคตหรือไร
ถ้ามันจบลงอย่างรวดเร็ว เป็นเพียงความฝันชั่วข้ามคืน หล่อนจะเสียใจแค่ไหนนะ...
ตอนนี้ก็สนใจเขา ชอบเขาขึ้นมานิด ๆ แล้ว...ต่อไปถ้าถึงขั้นรัก...แล้วเขาทิ้งหล่อนไป เหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ จารุมาศจะ ‘รับ’ มันได้แค่ไหน
หล่อนเป็นคนซื่อและจริงใจ ไม่เคยมีแฟน แต่ตั้งใจว่าหากคบกับใครก็ขอให้คบกันยาวนาน มั่นคงต่อกัน ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะโคจรมาเจอกับอิฐได้ ยิ่งฟังที่ปพลเล่า อิฐยิ่งดูอันตรายสำหรับหล่อน...
เสือผู้หญิง...กับสาวซื่อจากบ้านนอกงั้นหรือ...ใช่...มันไม่เหมาะสมกันจริง ๆ
แต่...
“จาวเก็บคำพูดเราไปคิด ไตร่ตรองให้ดีนะ แต่ถ้าอยากจะคบกับไอ้อิฐก็ตามใจ ยังไงมีเราอยู่ด้วย ไอ้อิฐมันก็คงเกรงใจเราบ้างแหละ แต่อย่างว่า...จาวคิดว่าจะสบายใจหรือเปล่า ที่จะคบกับเสือมีปมอย่างไอ้อิฐน่ะ...”
ประโยคนั้นแทงใจหล่อนอีกแล้ว แน่นอนว่าไม่ต้องถึงกับคบอิฐจริงจังหรอก แค่นี้หล่อนก็ไม่สบายใจจะแย่แล้ว
เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าบนตักดังขึ้น หญิงสาวสะดุ้งจากอาการเหม่อ รีบหยิบขึ้นมาดู
เบอร์อิฐ...
“มันเหรอ” ปพลถาม จารุมาศพยักหน้า หล่อนถือโทรศัพท์ในมือไว้อย่างนั้นโดยไม่รับสาย
“จาวอยากรับก็รับเถอะ” ปพลว่า คีบชิ้นตับร้อน ๆ จิ้มน้ำจิ้มใส่ปาก แม้คุยเรื่องเครียด แต่เขาก็ยังทานเอร็ดอร่อย ผิดกับจารุมาศที่กินไม่ลงตั้งแต่แรก
หล่อนตัดสินใจไม่รับสาย เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า ครู่ใหญ่ ๆ มันก็ดังขึ้นอีก แต่จารุมาศก็แข็งใจไม่รับ
อิฐโทร.เข้าอีกหลายครั้ง จนปพลขับรถไปส่งหล่อนที่คอนโดฯ ตอนสองทุ่ม ก่อนลงจากรถจารุมาศหยิบโทรศัพท์ออกมาดู
หกสายไม่ได้รับ...อิฐจะคิดยังไงนะ...คิดว่าหล่อนติดธุระ หรือไม่ก็...เขาไม่รู้นี่นะ ว่าตอนนี้หล่อนชักจะหวาดกลัวเขาขึ้นมาจริง ๆ แล้ว
“มันคงไม่ได้รอจาวอยู่ข้างบนหรอกนะ”
น้ำเสียงปพลชวนขนลุก ทำให้หญิงสาวนึกถึง ‘เสือ’ จริง ๆ...เสือ...ที่รอตะปบและกินเหยื่ออย่างเลือดเย็น
“ไม่หรอก” เสียงหล่อนที่ตอบเพื่อนแหบพร่าสิ้นดี “เขารับปากเราแล้ว ว่าจะกลับไปอยู่บ้าน...”
“เดี๋ยวเราลองเช็กดีกว่า” ปพลล้วงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าเสื้อเชิ้ต
“อย่าเลย” หญิงสาวร้องห้าม แต่อีกฝ่ายไม่ฟัง เขากดเบอร์เพื่อน
“อิฐ...อยู่ไหนวะ”
มีเสียงเพลงจังหวะกระชั้นดังมาตามสาย
“อยู่เอนทรี กับพวกไอ้ปาล์ม แกมาสิวะ” น้ำเสียงอิฐราบเรียบเช่นเคย ปพลโล่งใจเมื่อได้ยินเสียงคุยกันใกล้ ๆ
“เออ...อยากไปว่ะ แต่ไม่ว่าง ต้องกลับไปเตรียมโปรเจ็คต์ พรุ่งนี้มีประชุมครึ่งเช้า ดื่มเผื่อด้วยละกันว่ะ”
“อ้าว แล้วนี่แกยังไม่ได้กลับห้องอีกเหรอ อยู่ไหน...ออฟฟิศเหรอวะ”
ปพลเบิกตาเมื่อนึกได้ว่าพลาดไปแล้ว!
“เออ...อยู่บริษัท แต่กำลังจะกลับแล้ว แค่นี้นะ”
เขาวางสาย หันมองจารุมาศซึ่งจ้องมาอย่างสงสัย
“มันดื่มอยู่กับเพื่อน...ใกล้ ๆ บริษัทมันนั่นแหละ หวังว่าคืนนี้มันคงกลับไปนอนบ้านมันนะ”
แววตาปพลวาววับ ยามมองสบมา หญิงสาวก็มองตอบ แต่แววตาหล่อนสับสนไม่แน่ใจ
“เราก็ไม่อยากให้เขามาหรอก” หล่อนพูดจากใจจริง
เพราะหล่อนยังไม่อยากเจอเขาตอนนี้...หล่อนยังไม่พร้อม หัวใจยังเต้นแผ่ว ทรวงอกเหมือนจะร้าวนิด ๆ จากเรื่องราวที่ได้ฟัง
หล่อนบอกลาปพล ก่อนเดินไปยังลิฟต์ด้วยท่าทางหงอย ๆ
ชายหนุ่มรู้สึกเห็นใจเพื่อนอยู่ครามครัน เขาออกรถด้วยสีหน้าหมอง ๆ เช่นกัน
จาวก็น่าสงสาร...แต่จะไปรักชอบไอ้อิฐได้ยังไง ไม่เหมาะสมกันสักนิด...หล่อนบอบบางเกินไปที่จะคบหากับเสือเมืองกรุงอย่างอิฐ
..........................................................................................................................
อิฐมองเพื่อน ๆ เต้นรำรอบโต๊ะอย่างสนุกสนาน ตัวเขาเองไม่ถึงกับเพลิน แต่ก็ไม่ใช่เบื่อ เขาอยากไปหาจารุมาศ แต่โทร.ไปหลายครั้งหล่อนไม่รับสาย สงสัยจะติดธุระหรือไม่ได้อยู่ใกล้โทรศัพท์ อิฐมองในแง่ดี
แต่เมื่อครู่ ปพลทำให้เขาสงสัย
ฝ่ายนั้นโทร.มาถามว่าอยู่ไหน...ยังมิทันจะเอ่ยถามว่ามีธุระอะไรถึงโทร.มา เพื่อนก็รีบวางสาย ดูมีพิรุธชอบกล
“เอ้อ...อิฐ”
เพื่อนหนุ่มชื่อปาล์ม ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานแต่ต่างแผนกกัน เซเข้ามาทิ้งตัวนั่งข้าง ๆ จนโซฟาสีแดงยุบฮวบ “แกได้ข่าวแฟนเก่าแกหรือเปล่า”
อิฐเลิกคิ้ว “ทำไมวะ”
“เมื่อเช้าพวกผู้หญิงที่แผนกข้าน่ะ เขาว่าเห็นคอลัมน์กอสสิปในหนังสือพิมพ์ฉบับเช้า ว่าไอ้ภัทรมันดอดพายายดาราที่ชื่อแอ๊บ ที่ทำนมปลอมแล้วไม่ยอมรับน่ะ ไปนอนกันถึงภูเก็ต แล้วยายฟ้าจับได้ เลยไปอาละวาดที่กองถ่าย...”
“ข่าวนานหรือยัง”
อิฐถาม เพราะเขาเพิ่งเจอชลัลดาไม่นานนี่เอง
“ไม่รู้สิ...แต่สาว ๆ เขาวิจารณ์กันว่า รายนี้ไอ้ภัทรมันเอาจริงว่ะ เพราะแอบคบกับยายแอ๊บมานานแล้วนี่” ปาล์มมองหน้าขาวดูเย็นเยือกของเพื่อน ในบริษัท ไม่มีใครไม่รู้เรื่องของอิฐกับชลัลดา
“แย่เลยนะ...ไปเจอคนอย่างไอ้ภัทร...อยู่กับแกแต่แรกก็ดีแล้ว...”
เขาพูดแค่นั้นก็ถูกดึงไปเต้นรำต่อ อิฐนิ่งเงียบท่ามกลางเสียงเพลงอึกทึก
ข่าวคราวของชลัลดากับสามี มักลอยวนเวียนใกล้ตัว นี่เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้อิฐลืมหล่อนไม่ได้เสียที หลังเลิกรากันใหม่ ๆ ประธานบริษัทจะส่งเขาไปทำงานที่สาขาใหญ่ในยุโรป เพื่อน ๆ เห็นด้วยเพราะสงสารอิฐที่ต้องมารับรู้ข่าวการแต่งงานของชลัลดากับปฏิภัทร แต่ชายหนุ่มแข็งใจปฏิเสธ
เขาไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องหนีด้วยเล่า
มองผิวเผิน แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่รักมากจากไป ทำไมอิฐถึงเจ็บช้ำมากมาย ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเขาหรอก...อิฐไม่มีวันลืม ก่อนที่ฟ้าจะบอกเลิก เป็นวันที่แสนจะโหดร้ายทารุณจิตใจของอิฐยิ่งนัก
ถึงกระนั้น...เขาก็ยังดีกับหล่อน...แม้ความรักที่มอบให้ มันจะหมดลงตั้งแต่ ‘วันนั้น’ หากบางอย่างยังคาใจ
คนอื่นอาจมองว่าเขาไม่มีวันลืมชลัลดา แต่อิฐรู้ตัวดีว่าแท้จริงแล้ว...
เสียงกรี๊ดกร๊าดของเพื่อน ๆ ดังกระทบหู อิฐสลัดศีรษะ รู้สึกมึนนิด ๆ จากแอลกอฮอล์ เขาลุกขึ้นสะกิดปาล์ม
“อะไรวะ เพิ่งสี่ทุ่มครึ่งเอง” ฝ่ายนั้นโวยวายเมื่ออิฐขอตัวกลับ
อากาศข้างนอกอบอ้าว บอกให้รู้ว่าฝนกำลังจะตกอีกแล้ว เขารู้สึกคิดถึงจารุมาศ จึงกดเบอร์หล่อนอีกครั้ง
คราวนี้หล่อนรับสาย
“คะ คุณอิฐ”
ตอนแรกชายหนุ่มจะบอกให้หล่อนเรียกชื่อเขาเฉย ๆ แต่คิดไปคิดมา...หล่อนเรียกเขาแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน...มันทำให้รู้สึกว่าหล่อนยังทิ้งระยะห่างกันนิดหน่อย เร้าใจดี...
“คุณอยู่ที่ไหนครับ ผมโทร.หาตั้งหลายครั้ง”
ตอนนี้เขาไม่ ‘กั๊ก’ อีกแล้ว คำพูดคำจาแบบคนที่รู้สึกผูกพันกัน เขาจะเอามาใช้กับจารุมาศ เหมือนที่เคยใช้มันกับชลัลดา ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีวันพูดเช่นนี้กับผู้หญิงคนอื่น...
“ฉัน...ฉัน...” จารุมาศนึกหาคำแก้ตัว “ฉันลืมเปิดเสียงโทรศัพท์น่ะค่ะ...”
“ตอนนี้คุณอยู่ที่ห้องแล้วหรือยัง”
“ค่ะ”
“ผมไปหาได้ไหม”
อิฐถามง่าย ๆ แต่สำหรับจารุมาศ ช่างเป็นคำถามที่ตอบได้ยากเย็นเหลือเกิน!
เมื่อไม่รู้จะตอบเขาอย่างไร หล่อนก็เลือกที่จะเงียบ และชายหนุ่มก็สัมผัสความเงียบน่าอึดอัดนั้นได้ เขาย่นคิ้วเข้ม “มีอะไรหรือเปล่าครับคุณจาว”
ใจหญิงสาวร้อนรุ่ม...ทำยังไงดี จะตอบเขาว่ายังไงดี...
เพราะโกหกใครไม่เป็น ยามมีบางอย่างต้องปกปิด หล่อนเลยเลือกที่จะนิ่งเงียบ มากกว่าสรรหาคำโกหก
“ไอ้พลมันมาพูดอะไรกับคุณอีกล่ะ” อิฐหมดความอดทน หลังฉุกคิดถึงโทรศัพท์แปลก ๆ จากเพื่อนสนิท “มันคงใส่ไฟให้คุณกลัวผมอีกแล้วใช่ไหม”
จารุมาศกลืนน้ำลาย เขาฉลาดจริง ๆ
“เขาไม่ได้ใส่ไฟนะคะ...เขา...” หล่อนอึกอัก จะพูดว่ายังไงดีเรา เรื่องอดีตของอิฐเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่จะพูดออกมา...อิฐอาจสะเทือนใจ ก็ปพลบอกว่าเขารักแฟนเก่าของเขามากนี่นา แต่รายนั้นก็ยืนยันเอง ว่าหล่อน ‘ถาม’ อิฐได้
แต่มันจะเป็นการดีหรือ ที่ถามถึงอดีตรักของเขา
จารุมาศไม่อยากรื้อฟื้น หล่อนกลัวเขาเจ็บปวด...นี่หล่อนแคร์เขาใช่ไหม
“คุณจาว” น้ำเสียงอิฐร้อนรน เพราะหญิงสาวเงียบไปนานเหลือเกิน “คุณกลัวผมใช่ไหม”
เขารู้...มิใช่กลัวว่าเขาจะฉวยโอกาส แต่กลัวตัวตน กลัวหัวใจของเขา...จารุมาศกลัวที่จะคบหากับเขา
อิฐเข้าใจดี ว่าปพลก็ต้องรักและห่วงใยจารุมาศในฐานะเพื่อน จึงอดเตือนหล่อนไม่ได้ แต่เขาก็รู้สึกชอบจารุมาศจากใจจริงเช่นกัน เพียงแต่ภาพลักษณ์และฉายาของเขา ทำให้ปพลไม่ไว้ใจ
เขาคงต้องหาทางพิสูจน์ใช่ไหม...แม้ไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าอนาคตจะคบกับหล่อนได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า
หรือเขาจะถอย...เขาลงทุนลงแรงกับผู้หญิงคนนี้มากไปหรือเปล่า เพราะเห็นหล่อนแปลกไปกว่าผู้หญิงคนอื่น เลยอยากลองลิ้ม...ว่าหล่อนจะมีรสชาติอย่างไร...เช่นนั้นหรือเปล่า
ไม่...อิฐลองตั้งคำถามกับตัวเองมาหลายครั้งแล้ว เขาจะไม่ลังเลอีก
ปพลจะว่าอย่างไรก็ช่าง เสือตัวนี้ไม่ยอมแพ้หรอก
เขาอยากกินจารุมาศ และเขาจะต้อง‘กิน’ หล่อนให้ได้
..............................................................................................................................
‘เอาไว้ค่อยคุยกัน...’
อิฐจบบทสนทนาน่าอึดอัดลง เมื่อจารุมาศยังนิ่งเงียบ เขาวางสายพร้อมอาการเจ็บแปลบในอกของหญิงสาว
คืนนั้นหล่อนนอนไม่หลับ จะว่าไปตั้งแต่มาอยู่ห้องอิฐ โดยเฉพาะคืนที่เขาอยู่ด้วย หล่อนก็นอนไม่ค่อยหลับอยู่แล้ว แต่คืนนี้หนักหน่อยเพราะเครียด กว่าจะหลับจริง ๆ ก็เกือบตีสี่
ดังนั้นวันเสาร์ต่อมาหล่อนจึงตื่นสายเต็มที่ เกือบเก้าโมงที่จารุมาศงัวเงียลุกจากเตียง ถอดเสื้อผ้าแล้วก้าวเข้าห้องน้ำ หลังอาบน้ำสระผมคลายง่วง หล่อนก็โพกศีรษะด้วยผ้าผืนเล็ก พันกายด้วยผ้าเช็ดตัวหลวม ๆ เดินออกมายังห้องครัวเพื่อหุงข้าว กะว่าแต่งตัวดรายผมเสร็จข้าวก็สุกพอดี
หากพอก้าวเท้าเข้าห้องรับประทานอาหาร ก็เห็นอิฐอยู่ที่โต๊ะ
เขานั่งหันหน้ามาทางนี้ บนโต๊ะมีถ้วยกาแฟ
“คุณอิฐ!”
จารุมาศอุทานได้แค่นั้นก็รีบเร้นกายแอบข้างประตู
เขาเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร!
ชายหนุ่มเห็นหล่อนเต็มตาเลยละ ร่างค่อนข้างบางในผ้าเช็ดตัวสีฟ้าอ่อน เห็นไหล่เนียน เรียวขาสีแทนเปลือยเปล่าโผล่พ้นชายผ้า...แต่นี่มิใช่เวลามา ‘คิด’ อย่างอื่น
“คุณมาตั้งแต่เมื่อไรคะ” หญิงสาวถาม รู้สึกอายที่ตัวเองไม่เรียบร้อยต่อหน้าเขาอีกแล้ว
“ราว ๆ แปดโมงครับ” อิฐตอบเรียบ ๆ “เห็นคุณยังหลับอยู่ เลยไม่กล้าปลุก...คือผมไม่ได้เปิดประตูห้องนอนคุณนะ แต่เห็นว่าห้องมันเงียบ ๆ...”
จารุมาศยืนนิ่ง ตามองพื้น
หล่อนสะเทือนใจเมื่อนึกถึงเมื่อวาน เพราะท่าทีแปลก ๆ ของหล่อนหรือเปล่า...ถึงทำให้อิฐมาที่นี่แต่เช้า...
เขาแคร์หล่อนอย่างนั้นหรือ
“ผมไม่ได้มาคุยเรื่องไอ้พลหรอก ไม่อยากทำให้คุณเครียด แค่อยากมาหา...”
ร่างสูงในเสื้อทีเชิ้ตสีเข้ม กางเกงยีนส์ซีด ลุกจากเก้าอี้ เดินช้า ๆ มาหยุดตรงประตู ยิ้มเอ็นดูเมื่อเห็นร่างเล็กกว่ายืนสั่นอยู่
“ไปดูหนังกันไหมครับ”
จารุมาศสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงดังใกล้ตัว
มือขาวแตะลงบนบ่าเปลือย
“ถ้าคุณไม่อยากไป ผมก็จะกลับ ไม่รบกวนหรอก”
จารุมาศหายตัวสั่น มือกำปมผ้าเช็ดตัวไว้แน่น สีหน้าครุ่นคิด
อิฐจ้องมองเสี้ยวหน้าหล่อน เขาชอบผู้หญิงคนนี้จัง...ตอนเขากอดหล่อนไม่ขัดขืน ตอนเขาจูบหล่อนก็ไม่ดิ้นหนี ไม่ว่าจะทำอะไร หล่อนโอนอ่อนผ่อนตาม แต่ไม่ยักเทใจให้เขาเต็มร้อยเสียที บางครั้งก็แสดงท่าทางหวาดกลัว ลังเลสับสน ทำให้อิฐรู้สึกว่าตนเองเป็นต่ออยู่ก็ไม่ใช่...จะว่าเป็นรองก็ไม่เชิง อิฐชอบความรู้สึกนี้
เช่นเวลานี้ รู้ทั้งรู้ว่าเขาอันตราย หล่อนก็ยังยืนนิ่งให้เขาสัมผัส ทั้งที่ตัวเองก็อยู่ในผ้าเช็ดตัวผืนเดียว
ไม่หรอกมั้ง...เดี๋ยวพอเขาแตะต้องหล่อนมากเข้า...หล่อนก็จะ ‘เผ่นแผล็ว’ หนีไปรวดเร็ว ไม่เชื่อคอยดู
“คุณมาที่นี่ เพราะอยากชวนฉันไปดูหนังหรือคะ” หญิงสาวหันมา “โทร.มาก็ได้นี่คะ ไม่เห็นต้องเสียเวลาขับรถมาเลย”
“ถ้ามาชวนด้วยตัวเอง มันดูพยายามมากกว่าน่ะ” ชายหนุ่มพูดยิ้ม ๆ ตามองผิวเนื้อตามไหล่ และเหนือทรวงอกของหล่อน ด้วยความรู้สึกอยากขบกัด...ฝากฝังร่องรอยไว้
“คุณพูดเหมือนคุณแคร์ฉัน...” จารุมาศเสียงแผ่ว ตามองพื้นอีกครั้ง
หล่อนอยากรู้เหลือเกิน ว่าเขาคิดยังไงกับหล่อนกันแน่...จึงไม่ถอยหนี ไม่ใช่ใจกล้าใจถึง แต่เพราะรู้ดีว่าเขาคงไม่ทำอะไรหล่อนหรอก...ก็หล่อนไม่ใช่คนสวยอย่างแฟนเก่าเขา...แม้ไม่เคยเห็นหน้า แต่เดาว่าแฟนของอิฐ คงจะสวยมากทีเดียว
“แคร์สิ...” อิฐกระซิบ “ไม่งั้น...ผมไม่มาหาคุณหรอก”
มือขาวเลื่อนจากไหล่ สอดเข้ารั้งเอวบางเข้าชิดตัว ก่อนอิฐจะซบหน้าลงบนบ่าเปล่าเปลือยนั้น แผ่นหลังหล่อนบอบบางเหลือเกิน
“ผมนึกว่าจะไม่เจอคุณอีกแล้ว” เขาพึมพำ “นึกว่าพอเปิดประตูเข้ามา จะพบกับความว่างเปล่าเสียอีก”
“ฉันไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ” จารุมาศเอ่ย หล่อนชักคุ้นเคยกับสัมผัสของชายหนุ่ม จึงไม่ใจเต้นระทึกอีกแล้ว “เพราะถ้าจะย้ายออก มันต้องใช้เวลา ฉันเก็บของไม่ทัน”
อิฐหัวเราะเบา ๆ กับประโยคซื่อ ๆ นั่น ก่อนพูดเจือรอยยิ้ม “ผมไม่ให้คุณไปไหนหรอก อย่างน้อยก็จนกว่าผมจะบอกขายห้องนี้ได้”
คนฟังเบิกตา เอี้ยวคอมองหน้าขาวจัดของชายหนุ่ม “คุณจะขายห้องนี้เหรอคะ”
น้ำเย็นใสไหลออกจากผ้าที่โพกศีรษะไว้หลวม ๆ เป็นเส้นบาง ๆ ลงมาตามต้นคอ และแผ่นหลัง อิฐมองมันอย่างตื่นตา กลิ่นแชมพูหรือสบู่หอมกรุ่นตรงปลายจมูก
“ครับ”
“ทำไมล่ะคะ” จารุมาศอยากรู้ ก่อนร้องอุทานเบา ๆ เมื่ออิฐนาบริมฝีปากบนแผ่นหลัง
“น้ำเย็นเชียว” เขาว่า “คุณไม่หนาวเหรอ”
“คุณก็ปล่อยฉันสิคะ ฉันจะได้ไปใส่เสื้อผ้า”
“เรื่องอะไรล่ะ คุณจงใจยั่วผมก่อนนี่นา” อิฐรัดหล่อนแน่นขึ้น จารุมาศเริ่มดิ้น
“ฉันแค่คิดว่า...คุณคงไม่พิศวาสตัวตุ่นพันผ้าหรอก”
“ตัวตุ่นอะไรกัน” ชายหนุ่มงง ก่อนหัวเราะเมื่อนึกได้ “ห้องผมจะมีตัวตุ่นได้ยังไง”
เขากดจมูกฝังลงบนบ่าเนียน “หอมจริง...สบู่กลิ่นนี้”
“นกแก้วค่ะ” หญิงสาวโน้มตัวลงหนีสัมผัสอุ่น แต่อิฐก็ค้อมตัวตามพลางหัวเราะขัน
“นกแก้วสีเขียวใช่ไหม”
“คุณเคยใช้เหรอ”
“ไม่เคย แต่รู้ว่าเป็นกลิ่นสบู่นกแก้วสีเขียว...ก็กลิ่นมันคลาสสิกขนาดนี้” ชายหนุ่มจรดปลายจมูกสูดดมผิวสาวด้วยความชื่นใจ
จารุมาศนิ่ง ความเครียดจากเมื่อคืนมลายหายไปแล้ว จากการได้เย้าแหย่กับอิฐ
เขาก็มีมุมน่ารักเหมือนกันนะ
“ตกลงว่าไปดูหนังกับผมใช่ไหม”
อิฐถามข้างหู นึกมันเขี้ยวอยาก ‘งับ’ ใบหูเล็ก ๆ ของหล่อนจริง ๆ แต่ต้องอดใจไว้
หญิงสาวพยักหน้า อิฐจึงหอมต้นคอหล่อนดังฟอดใหญ่ ก่อนจะปล่อยร่างในผ้าเช็ดตัวออกอย่างเสียดาย
จารุมาศตัวปลิวเข้าห้อง อิฐพูดไล่หลังไปว่า
“คุณกล้ามากเลยนะ ยอมให้ผมกอด ทั้งที่นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว”
“คุณยังไม่รู้จักฉันดีพอหรอกค่ะ”
หญิงสาวหันมาแกล้งพูดหยิ่ง ๆ แล้วปิดประตูห้องนอนดังโครม
ปพลเตือนด้วยความเป็นห่วง...ก็ถูก แต่หล่อนเป็นคนตัดสินใจนี่นา ไม่ว่าเพื่อนจะมองหล่อนใสซื่อโง่เง่ายังไง จารุมาศก็จะลองคบกับอิฐ
อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ได้มาพบคนอย่างเขา ถือเสียว่าเป็นกำไร...อิฐเป็นคนดี น่ารัก แล้วหล่อนยังจะต้องการอะไรอีก...อนาคตจะเป็นอย่างไรก็ช่างมันเถอะ นี่หล่อนไม่ได้ ‘หลง’ เขานะ ยังไงก็จะระวังตัว...เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของคนบ้านนอก อย่างที่ปพลว่า...
เบื้องนอกนั้น อิฐยืนมองประตู รอยยิ้มบางผุดขึ้นบนหน้าขาว
เห็นไหมล่ะ...หล่อนเผ่นแผล็วหนีไปจริง ๆ ด้วย แต่กลิ่นสบู่ยังอวลอยู่บนอกกว้างของเขา
ตัวตุ่นอย่างนั้นหรือ...รูปร่างหน้าตามันเป็นอย่างไรเขาก็ลืมไปแล้ว
ไหนจะประโยคเมื่อครู่...หล่อนจงใจท้าทายเขาชัด ๆ แม้จะรู้ว่าจารุมาศแกล้ง แต่อิฐชอบใจเหลือเกิน
ยังไม่รู้จักหล่อนดีพองั้นหรือ ก็คงใช่...ดังนั้นเขาต้องทำความรู้จักหล่อนให้มากกว่านี้ใช่ไหม
ร่างสูงเดินไปนั่งบนโซฟาห้องรับแขก กดรีโมตดูรายการข่าวกีฬายามเช้า หากในสมองจินตนาการว่ามีจารุมาศใน ‘ชุด’ เมื่อครู่นั่งบนตัก เขาจะเช็ดผมให้หล่อนอย่างอ่อนโยน แล้วพรมจูบบนไหล่หลังเปลือยเปล่านั้น...
จารุมาศ...นอกจากชลัลดาแล้ว หล่อนก็เป็นผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ที่อิฐต้องยอมรับว่าทำให้ใจเขาปั่นป่วนได้ขนาดนี้
ให้ตายเถอะ นี่เป็นครั้งแรก ที่มี ‘เนื้อ’ วางอยู่เบื้องหน้า แต่อิฐไม่กล้ากิน!
Robinhood
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 เม.ย. 2554, 00:09:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 เม.ย. 2554, 00:09:31 น.
จำนวนการเข้าชม : 9109
บทที่ 10 >> |
Robinhood 7 เม.ย. 2554, 00:11:23 น.
นี่คือการทดสอบโพสนิยายในบ้านใหม่ ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ทราบแล้วเปลี่ยน :)
นี่คือการทดสอบโพสนิยายในบ้านใหม่ ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ทราบแล้วเปลี่ยน :)
ก้อนอิฐ 7 เม.ย. 2554, 00:16:29 น.
ขอกรี๊สก่อนอ่านหนึ่งรอบค่ะ
ขอกรี๊สก่อนอ่านหนึ่งรอบค่ะ
Pauline 7 เม.ย. 2554, 00:59:24 น.
อิฐ เขาดูชอบความท้าทายมาก จนน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้
อิฐ เขาดูชอบความท้าทายมาก จนน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้
pandepam 7 เม.ย. 2554, 01:05:24 น.
กรี๊ดๆๆคะ มาแล้ว ดีใจๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ^_6
กรี๊ดๆๆคะ มาแล้ว ดีใจๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ^_6
Robinhood 7 เม.ย. 2554, 01:12:26 น.
คนเขียนลงตอนเดิม เพื่อทดสอบเว็บใหม่จ้ะ
ส่วนตอนต่อไป ไม่เกินวันเสาร์ ช่วงนี้ยังไม่ได้กลับบ้าน ตั้งใจสิงอยู่ที่อพาร์ตเมนท์เพื่อสะสางนิยายเก่า และปั่นเรื่องนี้โดยเฉพาะ
ห่างไปนาน เหมือนมือจะแข็ง ๆ นะ 555
คนเขียนลงตอนเดิม เพื่อทดสอบเว็บใหม่จ้ะ
ส่วนตอนต่อไป ไม่เกินวันเสาร์ ช่วงนี้ยังไม่ได้กลับบ้าน ตั้งใจสิงอยู่ที่อพาร์ตเมนท์เพื่อสะสางนิยายเก่า และปั่นเรื่องนี้โดยเฉพาะ
ห่างไปนาน เหมือนมือจะแข็ง ๆ นะ 555
chat 7 เม.ย. 2554, 01:13:18 น.
unbelievable! finally, you're here.
unbelievable! finally, you're here.
l3al3yWhatUp 7 เม.ย. 2554, 01:33:38 น.
กี๊สๆๆๆ มาเเล้วๆๆๆๆ
กี๊สๆๆๆ มาเเล้วๆๆๆๆ
ออโรร่า 7 เม.ย. 2554, 02:38:23 น.
มาตามอ่านค้าา ^^
มาตามอ่านค้าา ^^
november 7 เม.ย. 2554, 04:21:36 น.
Unbelievable too!!!!!!!!!!
แต่ก็ดีใจมากกกกกกกกกกกก ไม่เกินเสาร์แน่นะ???
Unbelievable too!!!!!!!!!!
แต่ก็ดีใจมากกกกกกกกกกกก ไม่เกินเสาร์แน่นะ???
grazioso 7 เม.ย. 2554, 05:29:37 น.
โว้ววววววววววววววววววววววววว ตกใจมาก ตื่นมาเจอคุณโรบิน ๕๕๕๕๕
คิดถึงมากเลยค่าาาาาา ถึงแม้จะเป็นตอนเดิมของสาวจาวก็อ่านอีกรอบ ๕๕๕๕ ชอบจริงๆ วลี.. ตัวตุ่นพันผ้าเนี่ย ๕๕๕๕
จะรอตอนใหม่ของสาวจาวกับเสืออิฐนะคะ :)
โว้ววววววววววววววววววววววววว ตกใจมาก ตื่นมาเจอคุณโรบิน ๕๕๕๕๕
คิดถึงมากเลยค่าาาาาา ถึงแม้จะเป็นตอนเดิมของสาวจาวก็อ่านอีกรอบ ๕๕๕๕ ชอบจริงๆ วลี.. ตัวตุ่นพันผ้าเนี่ย ๕๕๕๕
จะรอตอนใหม่ของสาวจาวกับเสืออิฐนะคะ :)
นัฐชา 7 เม.ย. 2554, 06:43:47 น.
คุณโรบิ้น สบายดีหรือเปล่าคะ ช่วยด้วย สฎ.น้ำท่วม อิอิ
คุณโรบิ้น สบายดีหรือเปล่าคะ ช่วยด้วย สฎ.น้ำท่วม อิอิ
Pat 7 เม.ย. 2554, 06:59:13 น.
ดีใจจัง กลับมาซะทีเนอะ
ดีใจจัง กลับมาซะทีเนอะ
หมอนทอง 7 เม.ย. 2554, 07:36:39 น.
ดีใจจัง รอมานาน
ดีใจจัง รอมานาน
หมูบิน 7 เม.ย. 2554, 07:46:49 น.
คิดถึงจังค้าาาา
คิดถึงจังค้าาาา
nako 7 เม.ย. 2554, 07:58:29 น.
คิดว่าจะไม่มาซะแล้ว
คิดว่าจะไม่มาซะแล้ว
pretty 7 เม.ย. 2554, 07:59:06 น.
มารอค่ะ
มารอค่ะ
atua 7 เม.ย. 2554, 08:44:01 น.
โอ้ย ... ดีใจมากมายที่เปิดมาแล้วเจอ หายไปนานมากกกกกกกกกก แต่ก็ขอบคุณนะค่ะที่กลับมาโพสต์ให้อ่านอีก
โอ้ย ... ดีใจมากมายที่เปิดมาแล้วเจอ หายไปนานมากกกกกกกกกก แต่ก็ขอบคุณนะค่ะที่กลับมาโพสต์ให้อ่านอีก
Sir0737 7 เม.ย. 2554, 08:58:27 น.
กว่าจะกลับมาได้ ร้องเรียกอยู่ตั้งนาน คิดว่าจะไม่กลับมาซะแล้ว แต่ก็ดีใจนะที่ได้เจอกันอักครั้ง แถมครั้งนี้ยังได้บอกกล่าวความรู้สึกที่มีต่อกันอีกด้วย เย้ๆๆๆๆ *-*
กว่าจะกลับมาได้ ร้องเรียกอยู่ตั้งนาน คิดว่าจะไม่กลับมาซะแล้ว แต่ก็ดีใจนะที่ได้เจอกันอักครั้ง แถมครั้งนี้ยังได้บอกกล่าวความรู้สึกที่มีต่อกันอีกด้วย เย้ๆๆๆๆ *-*
ปูจ้า 7 เม.ย. 2554, 09:09:03 น.
เย้เย้ดีใจจังที่ได้อ่าน ขอบคุณค่าที่มาโพส์ให้อ่านอีก
เย้เย้ดีใจจังที่ได้อ่าน ขอบคุณค่าที่มาโพส์ให้อ่านอีก
SonickA 7 เม.ย. 2554, 09:14:06 น.
กรี๊ดดดดดด....เข้ามารอคุณ Robinhood ทุกวันเลยค่า
รอตอนใหม่ได้ค่ะ แต่ต้องคิดดอกเบี้ย เพิ่มให้หลายๆตอนนะคะ อิอิ
กรี๊ดดดดดด....เข้ามารอคุณ Robinhood ทุกวันเลยค่า
รอตอนใหม่ได้ค่ะ แต่ต้องคิดดอกเบี้ย เพิ่มให้หลายๆตอนนะคะ อิอิ
คนบนดอย 7 เม.ย. 2554, 09:57:20 น.
รออ่านนานมากค้า.... ได้ความรู้สึกดีมากจ้า
รออ่านนานมากค้า.... ได้ความรู้สึกดีมากจ้า
อาเช็ง 7 เม.ย. 2554, 10:37:05 น.
คิดถึง คิดถึง ตอนหน้าขอยาวๆนะคะ
คิดถึง คิดถึง ตอนหน้าขอยาวๆนะคะ
วังมาชิน 7 เม.ย. 2554, 11:30:45 น.
ลงชื่อรออ่านครับ
ลงชื่อรออ่านครับ
จิรารัตน์ 7 เม.ย. 2554, 11:39:33 น.
มารอวันเสาร์ค่ะ
มารอวันเสาร์ค่ะ
เกลียวคลื่น 7 เม.ย. 2554, 11:55:34 น.
คุณเอ็กซ์ ยินดีต้อนรับการกลับมาค่ะ
คุณเอ็กซ์ ยินดีต้อนรับการกลับมาค่ะ
NNK 7 เม.ย. 2554, 11:56:53 น.
:)
:)
NB 7 เม.ย. 2554, 12:00:56 น.
ชอบอิฐมากกกกกกกกกก อิจฉาจาวจังเลย เอิ๊กๆๆๆ
ชอบอิฐมากกกกกกกกกก อิจฉาจาวจังเลย เอิ๊กๆๆๆ
suejeab 7 เม.ย. 2554, 12:32:42 น.
ขอบคุณมากสำหรับการกลับมา
ขอบคุณมากสำหรับการกลับมา
หมูอ้วน 7 เม.ย. 2554, 14:45:37 น.
หายไปนานเลยนะค่ะ รออ่านตอนต่อไปค่าา
หายไปนานเลยนะค่ะ รออ่านตอนต่อไปค่าา
นายหญิง 7 เม.ย. 2554, 14:45:44 น.
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
แพม 7 เม.ย. 2554, 15:13:54 น.
ลืมไปแล้วนะเนี่ย
ลืมไปแล้วนะเนี่ย
85valse 7 เม.ย. 2554, 15:50:10 น.
ให้ตายสิโรบิ้น คุณโรบินฮูดพาพ่อเสือกลับมาแล้ววววว
ให้ตายสิโรบิ้น คุณโรบินฮูดพาพ่อเสือกลับมาแล้ววววว
jink 7 เม.ย. 2554, 17:28:02 น.
ชอบๆ ตัวตุ่น อิิอิ แต่ขอตอนเก่าๆ ด้วยได้มั้ยคะ น้านะ
ชอบๆ ตัวตุ่น อิิอิ แต่ขอตอนเก่าๆ ด้วยได้มั้ยคะ น้านะ
มะดัน 7 เม.ย. 2554, 18:03:16 น.
มาต่อเถอะคุณโรบินนนนนนนนนนนนนน
มาต่อเถอะคุณโรบินนนนนนนนนนนนนน
goldensun 7 เม.ย. 2554, 18:12:36 น.
ดีค่ะ ไม่ได้อ่านนานมากๆๆๆ ได้ทบทวน รอตอนต่อไปค่ะ
ดีค่ะ ไม่ได้อ่านนานมากๆๆๆ ได้ทบทวน รอตอนต่อไปค่ะ
Zephyr 7 เม.ย. 2554, 18:23:07 น.
โอ้ มาแล้วใช่มั้ยคะ นานมากมาย แต่นะ มาแล้วๆๆๆ อย่าหายไปนานอีกน้าาา คนอ่านใจจะขาด รอมาตั้งแต่เวบนู้นแล้วค่ะ ดีใจจัง
โอ้ มาแล้วใช่มั้ยคะ นานมากมาย แต่นะ มาแล้วๆๆๆ อย่าหายไปนานอีกน้าาา คนอ่านใจจะขาด รอมาตั้งแต่เวบนู้นแล้วค่ะ ดีใจจัง
น้ำค้าง 7 เม.ย. 2554, 19:41:43 น.
ตอนนี้เดิมมาล่อก่อนช่ายม๊า แล้วตอนต่อไปจะมาเร็วนี้ใช่ป่าว อย่ามาหลกให้ดีใจเล่นนะ
ตอนนี้เดิมมาล่อก่อนช่ายม๊า แล้วตอนต่อไปจะมาเร็วนี้ใช่ป่าว อย่ามาหลกให้ดีใจเล่นนะ
Thananya 7 เม.ย. 2554, 20:01:29 น.
คิดถึงจะแย่ ดีใจที่เห็นว่ากลับมาและยังไม่ลืมนิยาย เป็นกำลังใจให้ตลอดนะคะ :)
คิดถึงจะแย่ ดีใจที่เห็นว่ากลับมาและยังไม่ลืมนิยาย เป็นกำลังใจให้ตลอดนะคะ :)
นมเย็นน้ำเขียว 7 เม.ย. 2554, 20:36:43 น.
มารออ่านตอนต่อไปค่ะ ^^
มารออ่านตอนต่อไปค่ะ ^^
เดิมเดิม 7 เม.ย. 2554, 20:42:35 น.
อ่านซ้ำตอนนี้ไปอีกรอบแล้วขอตอนใหม่เถอะคะ
อ่านซ้ำตอนนี้ไปอีกรอบแล้วขอตอนใหม่เถอะคะ
Orathai 7 เม.ย. 2554, 21:04:53 น.
อ่านตอนเก่ารอวันเสาร์ค่ะ
อ่านตอนเก่ารอวันเสาร์ค่ะ
เรือใบ 7 เม.ย. 2554, 21:44:35 น.
คิดถึงๆๆๆ
คิดถึงๆๆๆ
bsirirata 7 เม.ย. 2554, 21:52:00 น.
อู๊ยยย ไม่ไหวแล้ว อยากอ่านต่อๆๆๆ >.<
อู๊ยยย ไม่ไหวแล้ว อยากอ่านต่อๆๆๆ >.<
yayee62 7 เม.ย. 2554, 22:06:43 น.
มาแล้วหรือคะ คิดถึงจะแย่
มาแล้วหรือคะ คิดถึงจะแย่
ทราย 7 เม.ย. 2554, 22:24:05 น.
รอนะค๊าาาา >o<
รอนะค๊าาาา >o<
สะเรนี 7 เม.ย. 2554, 23:05:32 น.
มากรี๊ดก่อนนนน เดี๋ยวจะไปนอนแล้ว เพราะเข้าเวรเช้า เสร็จงานแล้วจะมาอ่านละเอียดๆพรุ่งนี้
ประโยคสุดท้าย พากรี๊ดมากค่าาาาาา
มากรี๊ดก่อนนนน เดี๋ยวจะไปนอนแล้ว เพราะเข้าเวรเช้า เสร็จงานแล้วจะมาอ่านละเอียดๆพรุ่งนี้
ประโยคสุดท้าย พากรี๊ดมากค่าาาาาา
bow 7 เม.ย. 2554, 23:11:19 น.
ขอมาหลายๆ ตอนเลยได้ไหมคะ.. ให้คุ้มกับที่รอ.. คอย.. :)
ขอบคุณมากๆ นะคะที่มาต่อให้..
ขอมาหลายๆ ตอนเลยได้ไหมคะ.. ให้คุ้มกับที่รอ.. คอย.. :)
ขอบคุณมากๆ นะคะที่มาต่อให้..
Bigbee 7 เม.ย. 2554, 23:26:46 น.
อ๊ายยยยย คุ้มกับที่รอมานาน พี่เสือขาาาาาาา
อ๊ายยยยย คุ้มกับที่รอมานาน พี่เสือขาาาาาาา
mummy 7 เม.ย. 2554, 23:34:00 น.
กว่าจะมานะคะ รอนานมาก คิดถึงเป็นที่สุด!!!!
กว่าจะมานะคะ รอนานมาก คิดถึงเป็นที่สุด!!!!
Hibara 8 เม.ย. 2554, 01:05:57 น.
ยุคสมัยนี้คงต้องบอกว่า "follow" ในทันใด
ยุคสมัยนี้คงต้องบอกว่า "follow" ในทันใด
oolong 8 เม.ย. 2554, 05:39:51 น.
คิดถึงค่ะ
คิดถึงค่ะ
ounjijang 8 เม.ย. 2554, 06:41:06 น.
นึกว่าตอนใหม่ รีบจิ้มทันที 555
นึกว่าตอนใหม่ รีบจิ้มทันที 555
yunjaelover 8 เม.ย. 2554, 11:28:59 น.
มันนานมากกก เกือบลืมกันเลยทีเดียว ^^
มันนานมากกก เกือบลืมกันเลยทีเดียว ^^
Aojung 8 เม.ย. 2554, 13:03:49 น.
รออ่านตอนต่อไปค่า
รออ่านตอนต่อไปค่า
mais 8 เม.ย. 2554, 18:56:29 น.
อ๊ายยยยยย เค้ารออยุ่น้ะ
อ๊ายยยยยย เค้ารออยุ่น้ะ
หนูนีโอ 8 เม.ย. 2554, 19:58:31 น.
o_o อยากอ่านอีกคร้า
o_o อยากอ่านอีกคร้า
SaiParn 8 เม.ย. 2554, 21:02:05 น.
o_O รอเหมือนกันคร่า
o_O รอเหมือนกันคร่า
ณิณ 8 เม.ย. 2554, 23:54:08 น.
OMG!!! miz mak mai...
OMG!!! miz mak mai...
ของขวัญ 9 เม.ย. 2554, 01:26:54 น.
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อค่ะ ^_^
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อค่ะ ^_^
kraten 9 เม.ย. 2554, 17:53:28 น.
วันนี้วันเสาร์แล้วนะ... รึว่าเสาร์หน้า? รึว่าแผ่นดินไหวNETล่ม? รึว่าจาวไปคลอดอิฐJr.? รึว่าจำวันผิด?
วันนี้วันเสาร์แล้วนะ... รึว่าเสาร์หน้า? รึว่าแผ่นดินไหวNETล่ม? รึว่าจาวไปคลอดอิฐJr.? รึว่าจำวันผิด?
นัฐชา 9 เม.ย. 2554, 19:07:26 น.
มาเจอกับความรู้สึกเก่าๆ แล้วนัฐชา อิอิ
มาเจอกับความรู้สึกเก่าๆ แล้วนัฐชา อิอิ
Pichnaree 10 เม.ย. 2554, 00:37:35 น.
วันเสาร์ไหนหว่า คุณโรบิ้นค่าาา ... :))
ยังไงก็รอค่ะ สุดยอดจิงๆ อ่านกี่รอบก็สุดยอด ><
วันเสาร์ไหนหว่า คุณโรบิ้นค่าาา ... :))
ยังไงก็รอค่ะ สุดยอดจิงๆ อ่านกี่รอบก็สุดยอด ><
ปอกะเจา 10 เม.ย. 2554, 17:03:15 น.
ในที่สุดก็กลับมาแล้วววววววววว
คิดถึงจริงๆ จะรอตอนต่อไปนะคะ
ปล.คราวนี้อย่าหายไปนานอีกนะคะ
ในที่สุดก็กลับมาแล้วววววววววว
คิดถึงจริงๆ จะรอตอนต่อไปนะคะ
ปล.คราวนี้อย่าหายไปนานอีกนะคะ
Hibara 11 เม.ย. 2554, 20:37:05 น.
คุณโรบิ้นไม่ยกตอนเก่าๆ มาลงด้วยเหรอคะ ^__^
คุณโรบิ้นไม่ยกตอนเก่าๆ มาลงด้วยเหรอคะ ^__^
ree 12 เม.ย. 2554, 06:49:29 น.
กริ๊ดดดดดดดดดดดดด จะได้อ่านต่อแย้ว
กริ๊ดดดดดดดดดดดดด จะได้อ่านต่อแย้ว
ไรน้ำ 20 เม.ย. 2554, 22:32:21 น.
รอมานานเลยต้องย้อนกันหน่อย เพราะเริ่มลืมๆ จ้า
รอมานานเลยต้องย้อนกันหน่อย เพราะเริ่มลืมๆ จ้า
กระเเจะจันทร์ 22 เม.ย. 2554, 10:20:50 น.
รอมานาน เเต่น่ารักมากเลยค่ะ
รอมานาน เเต่น่ารักมากเลยค่ะ
Setia 3 พ.ค. 2554, 00:11:15 น.
555+ เสือไม่กล้ากินเนื้อ เพิ่งเห็นครั้งแรกนี่แหละ
555+ เสือไม่กล้ากินเนื้อ เพิ่งเห็นครั้งแรกนี่แหละ
somo 15 พ.ค. 2554, 09:47:45 น.
พึ่งได้มาอ่าน แต่รู้สึกจะติดใจ เสือออิฐ แล้วค่ะ
พึ่งได้มาอ่าน แต่รู้สึกจะติดใจ เสือออิฐ แล้วค่ะ
Natsuko 6 ส.ค. 2554, 22:02:02 น.
กรี๊ด แต่ไม่สลบ กลัวไม่ได้อ่านเสือต่อ ว้าว ว้าว คิดถึงคุณโรบิ้นมากมาย
กรี๊ด แต่ไม่สลบ กลัวไม่ได้อ่านเสือต่อ ว้าว ว้าว คิดถึงคุณโรบิ้นมากมาย
nateetip 13 พ.ย. 2554, 03:19:11 น.
มาอ่านอีกรอบ..คิดถึง เมื่อไหรตอนใหม่จะมาน้าาาาา...
มาอ่านอีกรอบ..คิดถึง เมื่อไหรตอนใหม่จะมาน้าาาาา...