Honey Pie...สัญญา(รัก)ร้าย / เพิ่มตอนพิเศษ
เมื่อหนึ่งอยากสานสัมพันธ์
แต่อีกหนึ่งกลับพยายาม "ตัด"
ปฏิบัติการ "รัก" พาตัว จึงเริ่มต้นขึ้น!


-------------------------------------------


เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันใย...ฉันทำอะไรให้เธอเคืองขุ่น

ปรักปรำฉันเป็นจำเลย? เชลย? ตัวประกัน?

จู่ๆ สติก็ดับวูบ ตื่นมาอีกครั้ง “พาริน” ก็พบว่านอนอยู่บนเตียงใหญ่ภายในห้องที่ไม่คุ้นเคย พร้อมๆ กับพบว่าตัวเองถูกลักพาตัว!!!

ราวกับฉากในละครที่เพิ่งย้อนดู เสียงเพลงประกอบดังกระหึ่มในหัว...

ไม่นะ นี่มันยุคไหนสมัยไหนแล้ว ยังจะมีการลักพาตัวอยู่อีก ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ หึ...แต่อย่าหวังว่าลูกพระพายอย่างเธอจะยอมให้ใครกดขี่ง่ายๆ ลองดูสิ ได้เห็นดีกันแน่!

ทว่าทุกอย่างกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด ดูเหมือน “ธารณ์” เตรียมตัวมาดี เขาสามารถแก้เกมของเธอได้ทุกกระบวน รู้ทันไปเสียทุกเรื่องราวกับเลี้ยงกุมารทองเอาไว้อย่างไรอย่างนั้น

ถูกลักพาตัว ริบเงิน โทรศัพท์มือถือว่าร้ายแล้ว การอยู่ใกล้ธารณ์กลับร้ายยิ่งกว่า รับมือกับเขาไม่พอ ยังมีของแถมเป็นอริของเขาด้วยสิ โอ๊ยยยย เธออยากจะบ้า!



** เรื่องนี้มีตัวละครเกี่ยวเนื่องกับเรื่อง เลื่อมลายดอกรัก ที่วางแผงไปกับสนพ.แจ่มใสนะคะ
แต่สามารถอ่านแยกกันได้ค่ะ จะไม่ได้งงอะไรน้าาาา
Tags: เนตรนภัส, ธารณ์, พาริน, พาย, รักโรแมนติก, Oh! My Honey

ตอน: บทที่ 5 [2/2] ครบแล้วค่ะ ^^

“เปล่า”

“แล้ว...”

“แม่พี่ทำน่ะ ปกติตอนเช้าถ้าไม่ทำอะไรง่ายๆกิน บ้านโน้นก็เอากับข้าวมาส่ง”

อ๋อ...พารินพยักหน้าหงึกๆ ถ้าอย่างนั้นปิ่นโตเมื่อวานก็น่าจะมาจากบ้านโน้นเช่นเดียวกัน แบบนี้ไม่รู้จะดีใจที่มีข้าวกินอิ่มท้อง แถมอร่อยอีกต่างหาก หรือเสียใจที่รู้ว่าเธอต้องติดอยู่กับเขาในบ้านหลังใหญ่เพียงลำพัง

แต่แยกกันอยู่ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ไปมาหาสู่กันนี่ บางทีแม่เขาอาจแวะมาที่นี่บ้างก็ได้

“นายกับแม่แยกกันอยู่เหรอ”หญิงสาวชวนคุย พยายามปรับน้ำเสียงให้ธรรมดา ไม่ให้เขารู้ว่ากำลังถูกล้วงความลับ

“ก็ไม่เชิง” ชายหนุ่มวางถ้วยข้าวต้มลงตรงหน้าพารินแล้วนั่งลงอีกครั้ง

“ฉันจำได้ว่าแม่นายก็อายุเยอะแล้ว แยกกันอยู่แบบนี้จะดีเหรอ” หญิงสาวก้มหน้าก้มตาตักข้าวต้มเข้าปากอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะหิวจัดเหมือนเมื่อครู่ แต่เพราะต้องการซ่อนสายตาอยากรู้อยากเห็นจากธารณ์ต่างหาก

“บ้านโน้นก็มีคนดูแลดี แต่ปกติพี่ก็ไปค้างบ้านโน้น ไปกินข้าวบ้านโน้นประจำ”

“แล้วแม่นายไม่มาบ้านนี้บ้างเหรอ” พอเห็นธารณ์มองมาด้วยสายตารู้ทัน พารินจึงรู้ว่าตัวเองเผลอเผยไต๋ให้อีกฝ่ายจับได้ แต่จะให้ยอมรับนั้นไม่มีทาง “เห็นว่าเป็นบ้านชายโสด อยู่คนเดียว แต่เรียบร้อยดี ฝุ่นสักนิด...” หญิงสาวทำเป็นลูบนิ้วไปกับโต๊ะแล้วชูให้ชายหนุ่มดู “ก็ไม่มี อยากเชื่ออยู่หรอกนะว่านายทำความสะอาดเองทั้งหมด ถ้าไม่ได้ยินว่ามีปิ่นโตมาส่ง”

หวังว่าเหตุผลของเธอจะฟังขึ้น พอให้เขาเชื่อว่าเธอไม่ได้คิดล้วงความลับแล้ววางแผนหนีทีเถอะ

“ทำไมไม่คิดว่าจ้างแม่บ้านเป็นครั้งๆล่ะ”

“ก็ไม่รู้สิ” หญิงสาวไหวไหล่ “เห็นว่าปิ่นโตยังส่งมาได้เลย ทำไมจะส่งคนมาทำความสะอาดไม่ได้”

แม้ไม่ได้พบมารดาของเขามาหลายปีแล้ว แต่เธอจำได้ อายุของท่านก็คงไม่ใช่น้อยๆ เทียบกับบิดาของเธอน่าจะมากกว่า ถ้าให้ลุกขึ้นมาทำความสะอาดเอง ทั้งๆที่ลูกชายโตเป็นควา...เอ่อ ตัวเท่ายักษ์แล้วละก็ ธารณ์ก็เป็นลูกที่ใช้ไม่ได้

ทว่ามองจากฐานะและขนาดบ้านชายโสดที่ใหญ่โตพอดู เขาน่าจะมีเงินจ้างแม่บ้านเพื่อดูแลทั้งบ้านและมารดาของตัวเอง ดังนั้นน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า

“เก่งนี่ เดาถูกด้วย ปกติแม่จะส่งคนงานมาทำความสะอาดให้สัปดาห์ละครั้ง”

พารินตาวาว ถ้าเป็นแบบนั้นเธอก็มีทางรอดแล้ว

“ไม่ต้องคิดให้เขาพาหนีเลย พายอย่าลืม ถึงยังไงเขาก็เป็นคนของพี่”

ก็จริง...พารินเถียงไม่ออก แถมยังพานเสียอารมณ์อีกต่างหาก

เขาเลี้ยงกุมารไว้หรือไง ถึงได้รู้ใจเธอไปหมด...แต่เอ๊ะ กุมารนี่อ่านใจคนได้หรือเปล่านะ

“บอกไม่หนีก็ไม่หนีไง เชื่อกันบ้างสิ” หญิงสาวใช้วิธีพาลเพื่อกลบเกลื่อนเมื่อถูกจับได้ พอเห็นสายตามองมาอย่างรู้ทันก็แกล้งยกนมขึ้นดื่มแก้เก้อ “ไม่มีนมสตรอว์เบอร์รี่เหรอ”

“มีแต่กาแฟ เอาไหม”

พารินมองถ้วยกาแฟที่เขายกขึ้นให้ดูแล้วย่นจมูก

“ไม่เอาหรอก ไม่อยากแก่เร็ว แล้วนี่นายไม่ไปทำงานหรือไง” เมื่อเห็นเขายังคงนั่งละเลียดข้าวต้ม จิบกาแฟอย่างสบายอารมณ์ ไม่มีทีท่าจะลุกขึ้นไปสักทีก็อดถามไม่ได้

“วันนี้กะนอนตีพุงอยู่บ้าน”

“งานการไม่มีทำหรือไง”

“เป็นเจ้าของบริษัทเสียอย่าง”

“มีเจ้าของบริษัทคิดแบบนี้ บริษัทอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้ยังไงกันนะ ฉันละอยากรู้จริงๆ” เธอแค่อยากพูดให้เขารู้สึกผิด ไม่ได้ตั้งใจแช่งบริษัทของเขาหรอก แต่พอเห็นเขาไม่สลด พารินก็ออกอาการเซ็งเสียเอง

“ไม่รู้สินะ ก็เห็นกิจการรุ่งเรืองดี”

“ดีจริงจริ๊ง”

ไอ้เขามีงานให้ทำ กลับไม่ไปทำ เธอเองมีงานให้ทำแต่ไม่มีโอกาสทำ แถมตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเครื่องมือหากินยังอยู่รอดปลอดภัยหรือถูกขายทอดตลาดมืดไปแล้ว ถึงเขาจะรับประกันว่ายังอยู่ดี แต่ตราบใดที่ยังไม่เห็นกับตา เธอไม่เชื่อหรอก

แล็ปท็อปหายยังพอไหว เพราะเธอติดนิสัยสำรองข้อมูลเอาไว้ในฮาร์ดดิสก์แบบพกพา รวมไปถึงไดรฟ์ออนไลน์จากเว็บให้บริการฟรีอีเมลชื่อดัง นอกจากไม่ต้องกังวลหากแล็ปท็อปหายแล้ว ไม่ว่าเธออยู่ที่ไหนก็สามารถดึงไฟล์มาทำงานได้ แค่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้เท่านั้น

แต่รถนี่สิ เธอยังผ่อนไม่หมดเลยด้วยซ้ำ ถ้าหายไป มิเท่ากับเธอต้องผ่อนลมไปเรื่อยๆหรือไง ไหนยังจะเงินดาวน์ที่ยืมบิดามาก็ยังใช้คืนไม่หมดเลย

คิดถึงบิดาแล้ว ป่านนี้ไม่รู้ทราบหรือยังว่าลูกสาวโดนพ่อคนดีของท่านจับตัวมาขังเอาไว้ แต่คงไม่หรอก ธารณ์ก็ดูฉลาดดี ไม่น่าปล่อยให้มีอะไรสาวมาถึงตัวเขา เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น เขาคงไม่หน้าระรื่นอยู่แบบนี้

ถ้าจะโทษใครสักคน ตอนนี้เธอคงโทษตัวเองที่ริอ่านหนีออกจากบ้าน แถมยังวางแผนอย่างรัดกุม ทิ้งข้อความเอาไว้ว่าจะไปกรุงเทพฯเพื่อทำงาน

ปกติเธอขึ้นลงกรุงเทพฯกับบ้านบ่อยอยู่แล้ว และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอออกจากบ้านตอนกลางดึก โดยไม่รอเจอคนในบ้านก่อน ทิ้งไว้เพียงข้อความกับโทร.บอกเมื่อถึงจุดหมายโดยปลอดภัยเท่านั้น

เธอชอบขับรถทางไกลตอนกลางคืนเพราะไม่ร้อน และบิดาก็รู้เรื่องนี้ดี ดังนั้นถ้าท่านตื่นขึ้นมา เจอแค่กระดาษโน้ตทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า ก็ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจหรือผิดปกติ

แผนที่วางไว้อย่างรัดกุม สุดท้ายกลับมารัดคอเธอจนดิ้นไม่หลุด ตอนนี้ก็ได้แต่หวังว่าท่านจะรู้สึกแปลกๆ ที่ป่านนี้ยังไม่ได้รับโทรศํพท์รายงานตัวว่าถึงปลายทางแล้วจากเธอ

พารินถอนหายใจออกมาอย่างหนักอก ทำไมเธอต้องมาเจอเรื่องบ้าๆนี่ด้วยนะ เพราะนายบ้านี่คนเดียวแท้ๆ

“คิดอะไรอยู่”

อารมณ์ขุ่นมัวเมื่อคิดว่าธารณ์เป็นต้นเหตุทำให้ตกที่นั่งลำบาก ทำให้พารินตวัดสายตามองชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง

“คิดเรื่องพี่อยู่ละสิ”ชายหนุ่มถามน้ำเสียงหยอกเย้า แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายไม่สนุกด้วย

“ถ้านายรู้ว่าฉันคิดยังไงกับนาย นายคงไม่ยิ้มระรื่นอยู่แบบนี้หรอก”

“อ้อ” ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกๆ

ท่าทางไม่อนาทรร้อนใจของอีกฝ่ายทำให้พารินหมั่นไส้ จนชักอยากเอาอะไรขว้างหน้าหล่อเหลากับดวงตาวิบวับคู่นั้นให้บอดนัก แต่ถ้าเธอจะทำต้องวิ่งหนีให้ทัน ซึ่งตอนนี้คิดว่าอยู่เฉยๆน่าจะเป็นผลดีกับตัวเองมากกว่า ดังนั้นพารินจึงทำได้เพียงนับหนึ่งถึงสิบในใจเพื่อให้อารมณ์สงบลง

“เงียบแบบนี้ แสดงว่าเลิกคิดไปแล้ว” ชายหนุ่มสรุป

“ทำไม ถ้าฉันบอก นายจะยอมทำให้หรือไง”

“ก็ต้องดูก่อนว่าอะไร” ชายหนุ่มไหวไหล่ ไม่ยอมตกหลุมพรางง่ายๆ

“ถ้าฉันขอโทรศัพท์คืนล่ะ นายจะให้ฉันไหม” พอเห็นชายหนุ่มเอาแต่เงียบ พารินเลยโน้มน้าวเพื่อขอความเห็นใจ “ฉันหายไปแบบนี้ ป่านนี้พ่อฉันเป็นห่วงแย่แล้ว นายคงไม่อยากทำให้ท่านรู้สึกไม่ดีหรอกนะ”

“ทำไมพี่ต้องสนใจด้วยล่ะ”

หญิงสาวแทบกรี๊ดกับท่าทางไม่ยี่หระของคนตรงหน้า นี่น่ะหรือ คนที่บิดาของเธอวางใจจนอยากจับเธอใส่พานประเคนให้

“ถ้าพ่อรู้ว่านายไร้ความรับผิดชอบแบบนี้ รับรองนายโดนดีแน่”

“ก็หาทางออกไปจากที่นี่ให้ได้ก่อนสิ”

ฉันไปแน่...แต่ไม่ใช่ตอนนี้

พารินคอตก ยิ่งคิดก็ยิ่งห่อเหี่ยว แต่เธอไม่มีทางให้เขารู้ว่ากำลังท้อหรอก

“อย่าให้ถึงทีฉันบ้างก็แล้วกัน”

“พี่จะรอนะ”

หญิงสาวมองอีกฝ่ายอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ แต่ก่อนสงครามตรงโต๊ะอาหารจะดำเนินไปถึงขั้นคว้ามีดคว้าส้อมมาห้ำหั่นกัน ทั้งคู่ก็ถูกขัดจังหวะเสียก่อน

“คุณธารณ์คะ คุณธารณ์ อยู่บ้านหรือเปล่าคะ”

พารินมองไปรอบกายเพื่อหาต้นเสียง แล้วก็นึกได้ว่าบ้านชายโสดของธารณ์มีระบบรักษาความปลอดภัยทันสมัยเหมือนในละครเกาหลีที่เคยดู เสียงที่ได้ยินคงเป็นเสียงของผู้มาเยือน ที่ตอนนี้น่าจะยืนอยู่หน้าประตู

เธอมีทางรอดแล้ว!

เร็วเท่าความคิด พารินเผ่นแผล็วจากโต๊ะอาหาร วิ่งตื๋อไปตรงประตูทันที









เนตรนภัส
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ส.ค. 2560, 12:42:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ส.ค. 2560, 12:42:02 น.

จำนวนการเข้าชม : 858





<< บทที่ 5 [1/2]   บทที่ 6 [1/2] >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account