ความทรงจำใต้ผืนทราย
หนึ่งรัก สองภพ คำสัญญา และการรอคอย
พระองค์-ฟาโรห์แห่งอียิปต์ และ นาง-สตรีผู้เสียความทรงจำ
สิ่งใดหนอนำทั้งสองมาพบกัน ...มันคือ โชคชะตา หรือ ความผูกพัน
พระองค์-ฟาโรห์แห่งอียิปต์ และ นาง-สตรีผู้เสียความทรงจำ
สิ่งใดหนอนำทั้งสองมาพบกัน ...มันคือ โชคชะตา หรือ ความผูกพัน
Tags: อียิปต์ ฟาโรห์ ย้อนยุค ทะเลทราย ความทรงจำ
ตอน: ตอนที่ 3 (3 - จบตอน)
ม้าของเฮอร์-อูเบน วิ่งพาคนสองคนบนหลังอ้อมผ่านเมืองที่มีชุมชนแน่นหนาไปอีกทาง กระทั่งถึงจุดนัดหมาย ท้ายตลาดริมคลองใกล้ชุมชนขนาดเล็กแห่งหนึ่ง เฮอร์-อูเบน จึงควบให้ม้าผ่อนฝีเท้าลง
ที่นั่นมีบุรุษผู้หนึ่ง ร่างสันทัด ผมตัดสั้นแค่ใบหู ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ทว่าผิวคร้ามแดดทำให้ดูคมเข้ม ท่อนบนสวมเพียงสร้อยสีน้ำตาลสลับแดงเป็นแผงไม่ใหญ่นัก ท่อนล่างสวมผ้านุ่งสีขาว และรองเท้าสาน ยืนรออยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่เหลือเพียงก้านแห้ง ๆ ต้นหนึ่ง
เฮเทอร์ลงจากหลังม้าโดยมีเฮอร์-อูเบน คอยประคองและแจ้งกับเธอเบา ๆ ว่าชายผู้รออยู่นั้นมีนามว่า เมต-ซูอาท และเป็นผู้จะนำเธอไปยังที่พัก ก่อนที่ชายหนุ่มจะผละไปหาผู้เฝ้ารอ
ภาพที่เฮอร์-อูเบน ยืนคุยกับเมต-ซูอาทใต้ต้นไม้ห่างออกไปทำให้เฮเทอร์ราวกับเห็นภาพซ้อนทับ เหมือนภาพของนาเมสผู้นั้น เดินผละไปคุยกับคนสนิททั้งสองก่อนหน้า
หญิงสาวได้แต่ก้มมองมือของตนที่ประสานกันไว้ใต้อก กิริยาของเธออาจจะดูนิ่งสงบ แต่หัวใจที่อยู่ภายในกลับเต้นรัวแรง น่าแปลกเหลือเกิน ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาพบว่าตนความจำเสื่อม เพิ่งจะมีตอนนี้ที่รู้สึกกลัว
หรือเป็นเพราะ เธอต้องอยู่ห่างจาก นาเมส ผู้นั้น
อยากจะมีคำตอบให้ตัวเองเหลือเกินว่าเหตุใดเธอจึงเลือกตอบแทนเขาด้วยการจากมา
ทำไมเธอจะไม่เข้าใจข้อแม้ที่ว่า ‘หากเต็มใจ’ แต่เขาเองก็คงละอายที่จะคาดคั้น ส่วนเธอเองก็ละอายที่จะตอบ เธอเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ มีใครรออยู่แล้วหรือไม่ก็ไม่รู้ แล้วจะให้เธอเลือกไปกับผู้ชายที่ช่วยขึ้นมาจากน้ำได้เพียงวันเดียว ได้อย่างไร
แล้ว เช่นไรเล่า จะกล่าวว่าเธอเป็นหญิงรักตัวสงวนศักดิ์ได้อย่างไร ในเมื่อเธอจากผู้มีพระคุณมาโดยไม่ตอบแทนสิ่งใดกับเขาแม้แต่น้อย เธอรับทุกอย่างของเขามาด้วยมือเปล่า ๆ เช่นนี้หรือเรียกว่า ดี แล้ว
...แล้วข้าควรทำเช่นไรเล่า นาเมส ทุกอย่างมันรวดเร็วเหลือเกิน...
เฮเทอร์รู้สึกเหมือนน้ำตาที่ล้นในอกกำลังจะไหลออกมา
ความเอ๋ย ความทรงจำ เหตุใดจึงเหวี่ยงเธอมาอยู่ในสถานการณ์ที่น่าระอาและน่าละอายเช่นนี้
...นาเมส หวังว่าท่านคงเข้าใจข้า หวังว่าท่านจะยังไม่เกลียดข้า ใช่ไหม...
เฮเทอร์ได้แต่สูดหายใจเข้าลึกที่สุด และค่อย ๆ ผ่อนออกมา มือกำเกร็งจนชื้นเหงื่อ พยายามเก็บความว้าวุ่นสับสนกลับคืนเข้าไปในใจ ไม่ว่าเธอจะเป็นใครมาจากไหน เธอควรศรัทธาตัวเองให้มากเท่าที่เธอศรัทธาผู้ที่ช่วยชีวิตของเธอ
ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลามาอ่อนแอ แม้ความทรงจำขาดหาย แต่ชีวิตยังต้องเดินต่อไป
ไม่ว่าจะมีนาเมสเคียงข้างหรือไม่ แต่เมื่อเขาเริ่มต้นให้ถึงเพียงนี้แล้ว เธอจะต้องอยู่ต่อให้ได้
เฮเทอร์ขึ้นหลังม้าตัวเดียวกับเฮอร์-อูเบน อีกครา เมื่อม้าควบผ่านตลาดและบริเวณชุมชนจนไปถึงท้องทุ่ง ก็ปรากฏสีเขียวของพืชผลที่สมบูรณ์ตรงหน้า ลมจากแม่น้ำที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลเกินนักพัดระเรื่อยให้ผิวน้ำในลำคลองระริกเป็นคลื่นลูกเล็ก ๆ ดูมีชีวิตชีวาต่างจากลำคลองแห้งขอดที่อยู่ไกลฝั่งออกไป
เมต-ซูอาท ขี่ม้านำเฮเทอร์และเฮอร์-อูเบนมาหยุดอยู่หน้ากำแพงบ้านสีขาวทาขอบบนด้วยสีเขียวสด ความสูงของกำแพงดูราวจะปิดกั้นคนภายนอกกับภายในไว้อย่างจงใจ สิ่งที่แสดงความเป็นมิตรคงเป็นเพียงบันไดสองขั้นให้คนมาเยือนเดินขึ้นไปสั่นกระดิ่งที่แขวนอยู่บนเสาข้างประตูใหญ่
เมื่อหยุดม้า เฮอร์-อูเบน ก็นำผ้ามาคลุมใบหน้าและศีรษะไว้ก่อนประคองเฮเทอร์ลง และรีบเดินไปสมทบกับเมต-ซูอาท ที่หน้ากระดิ่ง
เฮเทอร์รู้สึกว่าเฮอร์-อูเบน คอยมองเธออยู่ ชายหนุ่มอาจกังวลว่าเธอจะทำตัวไม่แนบเนียนอย่างที่ได้ตระเตรียมกันไว้ก่อนหน้า เธอจึงพยักหน้าและยิ้มให้ หวังว่าจะช่วยให้เขาคลายกังวลได้บ้าง
อันที่จริง สิ่งที่เตรียมกันไว้ก็ไม่มีอะไรน่าหนักใจ เฮอร์-อูเบอธิบายให้เธอเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่าเธอต้องไปอยู่กับใคร และตอนนี้เธอต้องกลายเป็นน้องสาวของเขาที่จากกันแต่เล็ก และได้รับอุบัติเหตุจนความจำเสื่อมระหว่างออกตามหาพี่ชาย โชคดีที่เขามาเจอเธอพอดี และเนื่องจากเขาต้องอาศัยอยู่ในที่พักทหาร จึงต้องพาเธอมาฝากไว้ที่นี่เพื่อความเหมาะสม เท่านั้นเอง
...ก็ไม่น่าหนักใจหรอก...
เฮเทอร์นึกในใจขณะมองดูเฮอร์-อูเบน ยืนคอยคนมาเปิดประตู
สิ่งที่น่าหนักใจคือ ‘พี่ชาย’ ที่นาเมสให้มา ดูจะรูปงามเกินน้องสาวที่ดูมอมแมมอย่างเธอมากไปเสียหน่อยเท่านั้นเอง
นาเมส หนอ นาเมส ช่วยชีวิตเธอไม่พอ ยังหาที่พัก หากระทั่ง พี่ชาย ให้ แล้วเช่นนี้ จะให้เธออ่อนแอได้อย่างไรเล่า
รออยู่อึดใจใหญ่ จนเมต-ซูอาท มีท่าทีกระวนกระวาย ประตูไม้บานใหญ่จึงค่อย ๆ แง้มออก ผู้เปิดเป็นหญิงวัยสาว ร่างท้วมผิวคล้ำ ผมสีดำหยิกยาวประบ่า เมื่อเห็นหน้าเมต-ซูอาทก็ทำท่าตื่นเต้นยินดี
“ท่านซูอาทเองหรือเจ้าคะ”
ฟังจากน้ำเสียง นางคงเป็นบ่าวคนหนึ่ง
“อืม” เมต¬-ซูอาทรับคำสั้น ๆ คล้ายจะยังไม่พอใจอยู่ “พี่หญิงล่ะ”
“รออยู่หลังบ้านเจ้าค่ะ เข้ามาก่อนสิเจ้าคะ”
กล่าวจบ บ่าวผู้นั้นก็ผลุบหายเข้าไปหลังประตู เมต-ซูอาท ได้แต่หันหน้าไปทำท่าขออภัยเฮอร์-อูเบน ซึ่งผู้เป็นนายก็ตบไหล่ชายหนุ่มเบา ๆ อย่างคล้ายจะไม่ถือสานัก ก่อนจะหันมาพยักหน้าให้เฮเทอร์เป็นเชิงเรียกให้เดินตามไป
เมื่อก้าวผ่านรั้วเข้าไป บ้านสีขาวสองชั้นหลังใหญ่ที่ปลูกห่างจากรั้วไปไม่ไกลนักก็ปรากฏชัดอยู่ตรงหน้า ทางเดินเข้าสู่ตัวบ้านที่เป็นลานดินขนาดพอให้ม้าสองตัวเดินคู่กันได้ถูกกวาดไว้อย่างเรียบโล่ง ด้านซ้ายมือเป็นสนามหญ้า ปลูกไม้ยืนต้นขนาดไม่ใหญ่นักไว้สองต้น ด้านขวาเป็นสระน้ำขนาดย่อม มีที่พักมุงหลังคาไว้ริมน้ำ คาดว่าจะใช้เป็นที่พักผ่อนในยามร้อนจัด
บ่าวที่มาเปิดประตูพาทุกคนเดินอ้อมเลียบสระน้ำไปด้านหลังบ้านซึ่งปลูกพืชผักหลายชนิดไว้บริเวณรอบแนวรั้ว มีครัวสร้างแยกจากตัวบ้านอยู่ด้านซ้ายมือ ห่างออกไปเป็นกำแพงเตี้ย ๆ กั้นอาคารสีขาวขนาดยาวเท่าความกว้างของบ้านไว้ เฮเทอร์คาดว่าหลังกำแพงนั้นน่าจะเป็นบริเวณที่พักของบ่าวและคนงาน
“ซูอาท”
เสียงใสแสดงความยินดีของหญิงสาวดังแหว๋วขึ้นมา ทำให้ทุกคนหันไปหาคนต้นเสียงซึ่งนั่งอยู่บริเวณชายคาของบ้านที่จัดไว้เป็นที่นั่งพักผ่อน หญิงผู้นั้นมีอายุราว ๆ ยี่สิบปี ผิวสีน้ำผึ้งเนียนสวย ดวงตากลมโตสีดำสดใส คางแหลม โหนกแก้มสูงเล็กน้อยรับกับจมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางได้รูป ร่างสูงเพรียวสมส่วน ดูงดงามสดใสจนเฮเทอร์อดชื่นชมไม่ได้
“พี่หญิง”
เมต-ซูอาทก้มศีรษะรับคำทักทายเล็กน้อย ในขณะที่หญิงสาวที่เขาเรียกว่า ‘พี่หญิง’ แทบจะกระโจนเข้ามากอดเขาไว้ หากไม่เห็นเฮอร์-อูเบน และเฮเทอร์ ที่เดินตามเข้ามาด้วยเสียก่อน
“นี่ พวกท่านใช่ไหม” นางชี้มือมาทางผู้มาเยือน
เมื่อเมต-ซูอาท พยักหน้ารับ เฮอร์-อูเบนก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“ต้องขอรบกวนแม่หญิงด้วย”
“โอ๊ย ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ นายท่าน” หญิงสาวกล่าวเสียงดังฟังชัด ปัดมือไปมา “บ้านก็ไม่ค่อยมีคนอยู่อยู่แล้ว มีผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เพิ่มมาอีกคนจะเป็นไรไป ข้ายินดีด้วยซ้ำที่จะได้ให้ความช่วยเหลือนายท่าน หวังว่านายท่านจะเอ็นดูซูอาทบ้างนะเจ้าคะ”
“ซูอาทเป็นคนฉลาดมีฝีมืออยู่แล้ว ข้ามั่นใจว่าเขาคงไปได้ดี”
“ขอบคุณมากเจ้าค่ะ”
หญิงสาวตอบรับด้วยรอยยิ้มกว้าง ก่อนหันมาถามเฮเทอร์
“เจ้าชื่ออันใดหรือ ชื่อเฮเทอร์ใช่หรือไม่”
“เจ้าค่ะ”
“อุ้ย ไม่ต้องพูดสุภาพขนาดนั้นกับข้าก็ได้ ข้า เนคเบ นะ”
เนคเบชี้มือประกอบการพูด ดูท่านางเป็นคนเปิดเผยร่าเริงทีเดียว เฮเทอร์แอบหวังว่าหากนางเป็นคนใจกว้างและจริงใจอย่างที่แสดงออกด้วย คงจะดีมาก
“มาเถิด เข้ามาดูในบ้านเถิด”
เนคเบเอ่ยก่อนเดินนำไป
ภายในบ้านนั้นเย็นและเงียบสงัด จากประตูหลังสามารถมองทะลุไปถึงประตูด้านหน้าซึ่งปิดไว้อยู่ เมื่อเดินเข้าไปจะพบกับบันไดอยู่ด้านขวามือ
“ชั้นบนมีห้องอยู่สามห้อง คือห้องของข้า ห้องเดิมของท่านลุง และห้องของซูอาท ตอนแรกข้าคิดจะให้เจ้านอนข้างล่าง แต่คิดไปคิดมา ซูอาทน่ะย้ายไปพักอยู่ในโรงเรียนทหารแล้วไม่ค่อยกลับมา มาทีก็ไม่ค่อยได้พัก จึงคิดว่าเจ้ายังเป็นสาว พักข้างบนที่ห้องซูอาทจะดีกว่า” เนคเบหันมาเอ่ยกับเฮเทอร์ตรง ๆ ก่อนเลยไปพูดกับเมต-ซูอาท
“เจ้านาน ๆ มาที ก็นอนข้างล่างก็แล้วกันนะ”
ชายหนุ่มผู้น้องพยักหน้ารับด้วยดี แม้ดูเหมือนวัยไม่ต่างกันนัก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าญาติผู้พี่คนนี้ เมต-ซูอาท ดูจะกลายเป็นเด็กหนุ่มผู้สงบเสงี่ยมขึ้นมาเสียได้
“ด้านนั้น” เนคเบชี้ไปที่ห้องด้านซ้ายเยื้องกับบันไดมีม่านผืนใหญ่ปิดไว้แทนประตู “เป็นห้องของท่านยาย ท่านยายเป็นมารดาของแม่ข้าและของท่านลุงซึ่งเป็นบิดาของซูอาท ไม่งงใช่ไหม ...นางเป็น ยาย ของข้า และเป็น ย่า ของซูอาท อย่างไรเล่า”
เนคเบเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะพร้อมกับแตะไหล่เฮเทอร์ ซึ่งเธอก็ยิ้มและพยักหน้าตอบ
“นั่นละ” ดูเนคเบจะพอใจกับการตอบรับของหญิงสาวพอสมควร “และนั่นเป็นห้องโถง เอาไว้รับแขก คุยงาน”
คราวนี้ เนคเบชี้ไปที่ห้องโถงใหญ่ใกล้ประตูหน้าบ้าน ซึ่งกั้นไว้เป็นสัดส่วนด้วยม่านผืนใหญ่ที่ตอนนี้ผูกเก็บไว้ที่ข้างฝาด้านหนึ่ง ห้องนั้นมีโต๊ะไม้ขนาดใหญ่วางอยู่ตรงกลางหนึ่งตัว มีเก้าอี้ไม้แบบไม่มีพนักพิงขนาดย่อมวางเรียงอยู่รอบโต๊ะราวหกถึงแปดตัว
“ข้าไม่ค่อยได้ใช้ห้องนี้หรอก ส่วนใหญ่จะนั่งเล่นหลังบ้าน หรือไม่ก็ศาลาในสวน บางทีก็นู่นเลย ดาดฟ้า”
คำว่า ‘ดาดฟ้า’ ทำให้เฮเทอร์นึกถึงค่ำคืนที่เพิ่งผ่านพ้น ภาพใบหน้าคมคายของนาเมสแว่บเข้ามาในห้วงคำนึงจนความอาวรณ์ที่เก็บไว้เกือบจะทะลักล้นออกมาอีกครา
“ขอบใจแม่หญิงมาก แล้วข้าจะส่งปัจจัยต่าง ๆ มาทางซูอาทอีกครั้งหนึ่ง”
เสียง เฮอร์-อูเบน ที่เอ่ยขึ้น ทำให้เฮเทอร์รีบดึงตัวเองกลับมาสู่ปัจจุบัน
“โอ๊ย ไม่ต้องรีบหรอกเจ้าค่ะนายท่าน” เนคเบหันมามองเฮเทอร์แว่บหนึ่ง “ดูสิ ผู้หญิงคนเดียวไม่เปลืองอันใดมากหรอกเจ้าค่ะ ถึงที่อื่นจะไม่สมบูรณ์ แต่บ้านนี้ไม่เคยอดหรอก มีคนอยู่ไม่มาก บ่าวก็ไม่กี่คน แค่ผักที่ปลูกไว้ก็กินกันไม่หมดแล้ว”
เฮอร์-อูเบน พยักหน้ารับเงียบ ๆ ก่อนทุกคนจะเดินออกไปหน้าบ้าน เมื่อเดินมาถึงประตูรั้ว ชายหนุ่มจึงหันมาพูดกับเนคเบอีกครั้ง
“ข้าขอฝากนางด้วย หากมีปัญหาอะไร แจ้งซูอาท แล้วซูอาทจะแจ้งข้าเอง”
“เจ้าค่ะ ไม่ต้องห่วงนะเจ้าคะ”
เนคเบรับคำพร้อมยิ้มในแบบของนาง เฮอร์-อูเบนจึงหันกลับมามองเฮเทอร์ ถึงเวลาที่เธอจะต้องเป็นน้องสาวของเขาแล้วใช่หรือไม่
แล้วเธอควรทำเช่นไร จะต้องอาวรณ์ ‘พี่ชาย’ แค่ไหนกัน จึงจะสมจริง
“เฮเทอร์”
ยังไม่ทันที่เธอจะเอ่ยอันใด เฮอร์-อูเบนก็เรียกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเป็นธรรมชาติจนเธอผ่อนคลายไปด้วย
“พี่ต้องไปแล้ว ดูแลตัวเองให้ดีนะ”
“เจ้าค่ะ ... ท่านพี่”
หวังว่าน้ำเสียงของเธอจะฟังดูเป็นปกติเช่นกัน
คนถูกเรียกว่า ‘พี่ชาย’ แม้คลุมหน้าไว้แต่ดูคล้ายมีรอยยิ้มตอบรับ ก่อนพยักหน้าให้เมต-ซูอาท และเดินนำออกประตูไป
ใจหนึ่ง เฮเทอร์ก็รู้สึกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว แต่ทันทีที่ประตูปิดเสียง กรึ๊บ หญิงสาวก็ใจหายวาบ
สิ่งเดียวที่เชื่อมเธอไว้กับนาเมส ได้ออกนอกประตูนั่นไปแล้ว บัดนี้ เธอ อยู่เพียงลำพัง จริง ๆ
“เฮเทอร์”
เนคเบเอ่ยเบา ๆ พร้อมกับวางมือที่ไหล่ น้ำเสียงที่เคยร่าเริงของนางดูจะสงบลงไม่น้อย อาจเพราะนางคิดว่าอีกฝ่ายกำลังอาวรณ์พี่ชายอยู่ก็เป็นได้
“ไปดูห้องนอนของเจ้าเถอะ ซูอาทเพิ่งมาบอกข้าตอนเช้าตรู่ ข้าเกือบเอาเสื่อมาตากให้เจ้าไม่ทันแน่ะ มาเถิด”
หางเสียงของเนคเบฟังดูร่าเริงชวนให้คนฟังรู้สึกระตือรือร้นขึ้นบ้าง เฮเทอร์จึงเดินตามหญิงสาวกลับเข้าไปในบ้าน แต่สุดท้ายก็หันกลับไปมองกำแพงสูงใหญ่อีกครั้ง
กำแพงที่กั้นเธอไว้จากโลกภายนอก และจากเขาผู้นั้น
...จะมีหรือไม่ จะมีอีกเมื่อไร ที่เราจะได้เจอกันอีก นาเมส...
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ที่นั่นมีบุรุษผู้หนึ่ง ร่างสันทัด ผมตัดสั้นแค่ใบหู ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ทว่าผิวคร้ามแดดทำให้ดูคมเข้ม ท่อนบนสวมเพียงสร้อยสีน้ำตาลสลับแดงเป็นแผงไม่ใหญ่นัก ท่อนล่างสวมผ้านุ่งสีขาว และรองเท้าสาน ยืนรออยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่เหลือเพียงก้านแห้ง ๆ ต้นหนึ่ง
เฮเทอร์ลงจากหลังม้าโดยมีเฮอร์-อูเบน คอยประคองและแจ้งกับเธอเบา ๆ ว่าชายผู้รออยู่นั้นมีนามว่า เมต-ซูอาท และเป็นผู้จะนำเธอไปยังที่พัก ก่อนที่ชายหนุ่มจะผละไปหาผู้เฝ้ารอ
ภาพที่เฮอร์-อูเบน ยืนคุยกับเมต-ซูอาทใต้ต้นไม้ห่างออกไปทำให้เฮเทอร์ราวกับเห็นภาพซ้อนทับ เหมือนภาพของนาเมสผู้นั้น เดินผละไปคุยกับคนสนิททั้งสองก่อนหน้า
หญิงสาวได้แต่ก้มมองมือของตนที่ประสานกันไว้ใต้อก กิริยาของเธออาจจะดูนิ่งสงบ แต่หัวใจที่อยู่ภายในกลับเต้นรัวแรง น่าแปลกเหลือเกิน ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาพบว่าตนความจำเสื่อม เพิ่งจะมีตอนนี้ที่รู้สึกกลัว
หรือเป็นเพราะ เธอต้องอยู่ห่างจาก นาเมส ผู้นั้น
อยากจะมีคำตอบให้ตัวเองเหลือเกินว่าเหตุใดเธอจึงเลือกตอบแทนเขาด้วยการจากมา
ทำไมเธอจะไม่เข้าใจข้อแม้ที่ว่า ‘หากเต็มใจ’ แต่เขาเองก็คงละอายที่จะคาดคั้น ส่วนเธอเองก็ละอายที่จะตอบ เธอเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ มีใครรออยู่แล้วหรือไม่ก็ไม่รู้ แล้วจะให้เธอเลือกไปกับผู้ชายที่ช่วยขึ้นมาจากน้ำได้เพียงวันเดียว ได้อย่างไร
แล้ว เช่นไรเล่า จะกล่าวว่าเธอเป็นหญิงรักตัวสงวนศักดิ์ได้อย่างไร ในเมื่อเธอจากผู้มีพระคุณมาโดยไม่ตอบแทนสิ่งใดกับเขาแม้แต่น้อย เธอรับทุกอย่างของเขามาด้วยมือเปล่า ๆ เช่นนี้หรือเรียกว่า ดี แล้ว
...แล้วข้าควรทำเช่นไรเล่า นาเมส ทุกอย่างมันรวดเร็วเหลือเกิน...
เฮเทอร์รู้สึกเหมือนน้ำตาที่ล้นในอกกำลังจะไหลออกมา
ความเอ๋ย ความทรงจำ เหตุใดจึงเหวี่ยงเธอมาอยู่ในสถานการณ์ที่น่าระอาและน่าละอายเช่นนี้
...นาเมส หวังว่าท่านคงเข้าใจข้า หวังว่าท่านจะยังไม่เกลียดข้า ใช่ไหม...
เฮเทอร์ได้แต่สูดหายใจเข้าลึกที่สุด และค่อย ๆ ผ่อนออกมา มือกำเกร็งจนชื้นเหงื่อ พยายามเก็บความว้าวุ่นสับสนกลับคืนเข้าไปในใจ ไม่ว่าเธอจะเป็นใครมาจากไหน เธอควรศรัทธาตัวเองให้มากเท่าที่เธอศรัทธาผู้ที่ช่วยชีวิตของเธอ
ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลามาอ่อนแอ แม้ความทรงจำขาดหาย แต่ชีวิตยังต้องเดินต่อไป
ไม่ว่าจะมีนาเมสเคียงข้างหรือไม่ แต่เมื่อเขาเริ่มต้นให้ถึงเพียงนี้แล้ว เธอจะต้องอยู่ต่อให้ได้
เฮเทอร์ขึ้นหลังม้าตัวเดียวกับเฮอร์-อูเบน อีกครา เมื่อม้าควบผ่านตลาดและบริเวณชุมชนจนไปถึงท้องทุ่ง ก็ปรากฏสีเขียวของพืชผลที่สมบูรณ์ตรงหน้า ลมจากแม่น้ำที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลเกินนักพัดระเรื่อยให้ผิวน้ำในลำคลองระริกเป็นคลื่นลูกเล็ก ๆ ดูมีชีวิตชีวาต่างจากลำคลองแห้งขอดที่อยู่ไกลฝั่งออกไป
เมต-ซูอาท ขี่ม้านำเฮเทอร์และเฮอร์-อูเบนมาหยุดอยู่หน้ากำแพงบ้านสีขาวทาขอบบนด้วยสีเขียวสด ความสูงของกำแพงดูราวจะปิดกั้นคนภายนอกกับภายในไว้อย่างจงใจ สิ่งที่แสดงความเป็นมิตรคงเป็นเพียงบันไดสองขั้นให้คนมาเยือนเดินขึ้นไปสั่นกระดิ่งที่แขวนอยู่บนเสาข้างประตูใหญ่
เมื่อหยุดม้า เฮอร์-อูเบน ก็นำผ้ามาคลุมใบหน้าและศีรษะไว้ก่อนประคองเฮเทอร์ลง และรีบเดินไปสมทบกับเมต-ซูอาท ที่หน้ากระดิ่ง
เฮเทอร์รู้สึกว่าเฮอร์-อูเบน คอยมองเธออยู่ ชายหนุ่มอาจกังวลว่าเธอจะทำตัวไม่แนบเนียนอย่างที่ได้ตระเตรียมกันไว้ก่อนหน้า เธอจึงพยักหน้าและยิ้มให้ หวังว่าจะช่วยให้เขาคลายกังวลได้บ้าง
อันที่จริง สิ่งที่เตรียมกันไว้ก็ไม่มีอะไรน่าหนักใจ เฮอร์-อูเบอธิบายให้เธอเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่าเธอต้องไปอยู่กับใคร และตอนนี้เธอต้องกลายเป็นน้องสาวของเขาที่จากกันแต่เล็ก และได้รับอุบัติเหตุจนความจำเสื่อมระหว่างออกตามหาพี่ชาย โชคดีที่เขามาเจอเธอพอดี และเนื่องจากเขาต้องอาศัยอยู่ในที่พักทหาร จึงต้องพาเธอมาฝากไว้ที่นี่เพื่อความเหมาะสม เท่านั้นเอง
...ก็ไม่น่าหนักใจหรอก...
เฮเทอร์นึกในใจขณะมองดูเฮอร์-อูเบน ยืนคอยคนมาเปิดประตู
สิ่งที่น่าหนักใจคือ ‘พี่ชาย’ ที่นาเมสให้มา ดูจะรูปงามเกินน้องสาวที่ดูมอมแมมอย่างเธอมากไปเสียหน่อยเท่านั้นเอง
นาเมส หนอ นาเมส ช่วยชีวิตเธอไม่พอ ยังหาที่พัก หากระทั่ง พี่ชาย ให้ แล้วเช่นนี้ จะให้เธออ่อนแอได้อย่างไรเล่า
รออยู่อึดใจใหญ่ จนเมต-ซูอาท มีท่าทีกระวนกระวาย ประตูไม้บานใหญ่จึงค่อย ๆ แง้มออก ผู้เปิดเป็นหญิงวัยสาว ร่างท้วมผิวคล้ำ ผมสีดำหยิกยาวประบ่า เมื่อเห็นหน้าเมต-ซูอาทก็ทำท่าตื่นเต้นยินดี
“ท่านซูอาทเองหรือเจ้าคะ”
ฟังจากน้ำเสียง นางคงเป็นบ่าวคนหนึ่ง
“อืม” เมต¬-ซูอาทรับคำสั้น ๆ คล้ายจะยังไม่พอใจอยู่ “พี่หญิงล่ะ”
“รออยู่หลังบ้านเจ้าค่ะ เข้ามาก่อนสิเจ้าคะ”
กล่าวจบ บ่าวผู้นั้นก็ผลุบหายเข้าไปหลังประตู เมต-ซูอาท ได้แต่หันหน้าไปทำท่าขออภัยเฮอร์-อูเบน ซึ่งผู้เป็นนายก็ตบไหล่ชายหนุ่มเบา ๆ อย่างคล้ายจะไม่ถือสานัก ก่อนจะหันมาพยักหน้าให้เฮเทอร์เป็นเชิงเรียกให้เดินตามไป
เมื่อก้าวผ่านรั้วเข้าไป บ้านสีขาวสองชั้นหลังใหญ่ที่ปลูกห่างจากรั้วไปไม่ไกลนักก็ปรากฏชัดอยู่ตรงหน้า ทางเดินเข้าสู่ตัวบ้านที่เป็นลานดินขนาดพอให้ม้าสองตัวเดินคู่กันได้ถูกกวาดไว้อย่างเรียบโล่ง ด้านซ้ายมือเป็นสนามหญ้า ปลูกไม้ยืนต้นขนาดไม่ใหญ่นักไว้สองต้น ด้านขวาเป็นสระน้ำขนาดย่อม มีที่พักมุงหลังคาไว้ริมน้ำ คาดว่าจะใช้เป็นที่พักผ่อนในยามร้อนจัด
บ่าวที่มาเปิดประตูพาทุกคนเดินอ้อมเลียบสระน้ำไปด้านหลังบ้านซึ่งปลูกพืชผักหลายชนิดไว้บริเวณรอบแนวรั้ว มีครัวสร้างแยกจากตัวบ้านอยู่ด้านซ้ายมือ ห่างออกไปเป็นกำแพงเตี้ย ๆ กั้นอาคารสีขาวขนาดยาวเท่าความกว้างของบ้านไว้ เฮเทอร์คาดว่าหลังกำแพงนั้นน่าจะเป็นบริเวณที่พักของบ่าวและคนงาน
“ซูอาท”
เสียงใสแสดงความยินดีของหญิงสาวดังแหว๋วขึ้นมา ทำให้ทุกคนหันไปหาคนต้นเสียงซึ่งนั่งอยู่บริเวณชายคาของบ้านที่จัดไว้เป็นที่นั่งพักผ่อน หญิงผู้นั้นมีอายุราว ๆ ยี่สิบปี ผิวสีน้ำผึ้งเนียนสวย ดวงตากลมโตสีดำสดใส คางแหลม โหนกแก้มสูงเล็กน้อยรับกับจมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางได้รูป ร่างสูงเพรียวสมส่วน ดูงดงามสดใสจนเฮเทอร์อดชื่นชมไม่ได้
“พี่หญิง”
เมต-ซูอาทก้มศีรษะรับคำทักทายเล็กน้อย ในขณะที่หญิงสาวที่เขาเรียกว่า ‘พี่หญิง’ แทบจะกระโจนเข้ามากอดเขาไว้ หากไม่เห็นเฮอร์-อูเบน และเฮเทอร์ ที่เดินตามเข้ามาด้วยเสียก่อน
“นี่ พวกท่านใช่ไหม” นางชี้มือมาทางผู้มาเยือน
เมื่อเมต-ซูอาท พยักหน้ารับ เฮอร์-อูเบนก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“ต้องขอรบกวนแม่หญิงด้วย”
“โอ๊ย ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ นายท่าน” หญิงสาวกล่าวเสียงดังฟังชัด ปัดมือไปมา “บ้านก็ไม่ค่อยมีคนอยู่อยู่แล้ว มีผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เพิ่มมาอีกคนจะเป็นไรไป ข้ายินดีด้วยซ้ำที่จะได้ให้ความช่วยเหลือนายท่าน หวังว่านายท่านจะเอ็นดูซูอาทบ้างนะเจ้าคะ”
“ซูอาทเป็นคนฉลาดมีฝีมืออยู่แล้ว ข้ามั่นใจว่าเขาคงไปได้ดี”
“ขอบคุณมากเจ้าค่ะ”
หญิงสาวตอบรับด้วยรอยยิ้มกว้าง ก่อนหันมาถามเฮเทอร์
“เจ้าชื่ออันใดหรือ ชื่อเฮเทอร์ใช่หรือไม่”
“เจ้าค่ะ”
“อุ้ย ไม่ต้องพูดสุภาพขนาดนั้นกับข้าก็ได้ ข้า เนคเบ นะ”
เนคเบชี้มือประกอบการพูด ดูท่านางเป็นคนเปิดเผยร่าเริงทีเดียว เฮเทอร์แอบหวังว่าหากนางเป็นคนใจกว้างและจริงใจอย่างที่แสดงออกด้วย คงจะดีมาก
“มาเถิด เข้ามาดูในบ้านเถิด”
เนคเบเอ่ยก่อนเดินนำไป
ภายในบ้านนั้นเย็นและเงียบสงัด จากประตูหลังสามารถมองทะลุไปถึงประตูด้านหน้าซึ่งปิดไว้อยู่ เมื่อเดินเข้าไปจะพบกับบันไดอยู่ด้านขวามือ
“ชั้นบนมีห้องอยู่สามห้อง คือห้องของข้า ห้องเดิมของท่านลุง และห้องของซูอาท ตอนแรกข้าคิดจะให้เจ้านอนข้างล่าง แต่คิดไปคิดมา ซูอาทน่ะย้ายไปพักอยู่ในโรงเรียนทหารแล้วไม่ค่อยกลับมา มาทีก็ไม่ค่อยได้พัก จึงคิดว่าเจ้ายังเป็นสาว พักข้างบนที่ห้องซูอาทจะดีกว่า” เนคเบหันมาเอ่ยกับเฮเทอร์ตรง ๆ ก่อนเลยไปพูดกับเมต-ซูอาท
“เจ้านาน ๆ มาที ก็นอนข้างล่างก็แล้วกันนะ”
ชายหนุ่มผู้น้องพยักหน้ารับด้วยดี แม้ดูเหมือนวัยไม่ต่างกันนัก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าญาติผู้พี่คนนี้ เมต-ซูอาท ดูจะกลายเป็นเด็กหนุ่มผู้สงบเสงี่ยมขึ้นมาเสียได้
“ด้านนั้น” เนคเบชี้ไปที่ห้องด้านซ้ายเยื้องกับบันไดมีม่านผืนใหญ่ปิดไว้แทนประตู “เป็นห้องของท่านยาย ท่านยายเป็นมารดาของแม่ข้าและของท่านลุงซึ่งเป็นบิดาของซูอาท ไม่งงใช่ไหม ...นางเป็น ยาย ของข้า และเป็น ย่า ของซูอาท อย่างไรเล่า”
เนคเบเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะพร้อมกับแตะไหล่เฮเทอร์ ซึ่งเธอก็ยิ้มและพยักหน้าตอบ
“นั่นละ” ดูเนคเบจะพอใจกับการตอบรับของหญิงสาวพอสมควร “และนั่นเป็นห้องโถง เอาไว้รับแขก คุยงาน”
คราวนี้ เนคเบชี้ไปที่ห้องโถงใหญ่ใกล้ประตูหน้าบ้าน ซึ่งกั้นไว้เป็นสัดส่วนด้วยม่านผืนใหญ่ที่ตอนนี้ผูกเก็บไว้ที่ข้างฝาด้านหนึ่ง ห้องนั้นมีโต๊ะไม้ขนาดใหญ่วางอยู่ตรงกลางหนึ่งตัว มีเก้าอี้ไม้แบบไม่มีพนักพิงขนาดย่อมวางเรียงอยู่รอบโต๊ะราวหกถึงแปดตัว
“ข้าไม่ค่อยได้ใช้ห้องนี้หรอก ส่วนใหญ่จะนั่งเล่นหลังบ้าน หรือไม่ก็ศาลาในสวน บางทีก็นู่นเลย ดาดฟ้า”
คำว่า ‘ดาดฟ้า’ ทำให้เฮเทอร์นึกถึงค่ำคืนที่เพิ่งผ่านพ้น ภาพใบหน้าคมคายของนาเมสแว่บเข้ามาในห้วงคำนึงจนความอาวรณ์ที่เก็บไว้เกือบจะทะลักล้นออกมาอีกครา
“ขอบใจแม่หญิงมาก แล้วข้าจะส่งปัจจัยต่าง ๆ มาทางซูอาทอีกครั้งหนึ่ง”
เสียง เฮอร์-อูเบน ที่เอ่ยขึ้น ทำให้เฮเทอร์รีบดึงตัวเองกลับมาสู่ปัจจุบัน
“โอ๊ย ไม่ต้องรีบหรอกเจ้าค่ะนายท่าน” เนคเบหันมามองเฮเทอร์แว่บหนึ่ง “ดูสิ ผู้หญิงคนเดียวไม่เปลืองอันใดมากหรอกเจ้าค่ะ ถึงที่อื่นจะไม่สมบูรณ์ แต่บ้านนี้ไม่เคยอดหรอก มีคนอยู่ไม่มาก บ่าวก็ไม่กี่คน แค่ผักที่ปลูกไว้ก็กินกันไม่หมดแล้ว”
เฮอร์-อูเบน พยักหน้ารับเงียบ ๆ ก่อนทุกคนจะเดินออกไปหน้าบ้าน เมื่อเดินมาถึงประตูรั้ว ชายหนุ่มจึงหันมาพูดกับเนคเบอีกครั้ง
“ข้าขอฝากนางด้วย หากมีปัญหาอะไร แจ้งซูอาท แล้วซูอาทจะแจ้งข้าเอง”
“เจ้าค่ะ ไม่ต้องห่วงนะเจ้าคะ”
เนคเบรับคำพร้อมยิ้มในแบบของนาง เฮอร์-อูเบนจึงหันกลับมามองเฮเทอร์ ถึงเวลาที่เธอจะต้องเป็นน้องสาวของเขาแล้วใช่หรือไม่
แล้วเธอควรทำเช่นไร จะต้องอาวรณ์ ‘พี่ชาย’ แค่ไหนกัน จึงจะสมจริง
“เฮเทอร์”
ยังไม่ทันที่เธอจะเอ่ยอันใด เฮอร์-อูเบนก็เรียกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเป็นธรรมชาติจนเธอผ่อนคลายไปด้วย
“พี่ต้องไปแล้ว ดูแลตัวเองให้ดีนะ”
“เจ้าค่ะ ... ท่านพี่”
หวังว่าน้ำเสียงของเธอจะฟังดูเป็นปกติเช่นกัน
คนถูกเรียกว่า ‘พี่ชาย’ แม้คลุมหน้าไว้แต่ดูคล้ายมีรอยยิ้มตอบรับ ก่อนพยักหน้าให้เมต-ซูอาท และเดินนำออกประตูไป
ใจหนึ่ง เฮเทอร์ก็รู้สึกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว แต่ทันทีที่ประตูปิดเสียง กรึ๊บ หญิงสาวก็ใจหายวาบ
สิ่งเดียวที่เชื่อมเธอไว้กับนาเมส ได้ออกนอกประตูนั่นไปแล้ว บัดนี้ เธอ อยู่เพียงลำพัง จริง ๆ
“เฮเทอร์”
เนคเบเอ่ยเบา ๆ พร้อมกับวางมือที่ไหล่ น้ำเสียงที่เคยร่าเริงของนางดูจะสงบลงไม่น้อย อาจเพราะนางคิดว่าอีกฝ่ายกำลังอาวรณ์พี่ชายอยู่ก็เป็นได้
“ไปดูห้องนอนของเจ้าเถอะ ซูอาทเพิ่งมาบอกข้าตอนเช้าตรู่ ข้าเกือบเอาเสื่อมาตากให้เจ้าไม่ทันแน่ะ มาเถิด”
หางเสียงของเนคเบฟังดูร่าเริงชวนให้คนฟังรู้สึกระตือรือร้นขึ้นบ้าง เฮเทอร์จึงเดินตามหญิงสาวกลับเข้าไปในบ้าน แต่สุดท้ายก็หันกลับไปมองกำแพงสูงใหญ่อีกครั้ง
กำแพงที่กั้นเธอไว้จากโลกภายนอก และจากเขาผู้นั้น
...จะมีหรือไม่ จะมีอีกเมื่อไร ที่เราจะได้เจอกันอีก นาเมส...
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วินตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ส.ค. 2560, 14:33:37 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 ส.ค. 2560, 14:33:37 น.
จำนวนการเข้าชม : 909
<< ตอนที่ 3 (2) |
วินตา 25 ส.ค. 2560, 14:46:02 น.
ทางไป E-book ค่ะ ฟิ้วววว >>>https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=59566
ทางไป E-book ค่ะ ฟิ้วววว >>>https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=59566
แว่นใส 25 ส.ค. 2560, 18:28:25 น.
คิดถึงอะดิ
คิดถึงอะดิ