คู่หมั้นคืนเหงาใจ
ตำนานหนุ่มหล่อเลิศล้ำแห่งค่ำคืนเหงาใจ

ความรักเหงา ๆ รานร้าวและเร้าใจ ต่างคนต่างมีกิเลสตัณหา ต้องชดใช้บุญกรรมแห่งความรัก ติดตามข้ามภพชาติศาสนา หนึ่งหญิงสองชายผูกพัน
อ่านเรื่องนี้จบ แล้วคุณจะสงสารใคร? ระหว่าง...

นักดนตรีหนุ่มรูปหล่อ พ่อรวย ราวกับในตำนาน เทพบุตรจุติลงมาเกิดอย่าง ยุติ ผู้ตกอยู่ในวังวนแห่งความเปลี่ยวเหงา ทุกค่ำคืนผ่านไปจิตใจโหยหา แค่เพียงเป็นคนที่เขาเผลอใจรัก แต่เขาไม่ได้เลือก กลายเป็นเหมือนส่วนเกิน มิใช่ส่วนสำคัญ

หรือ... อภิมหาเศรษฐีหนุ่ม ใบหน้าสวยงามเลิศล้ำอย่าง ไทธรรพ์ ผู้เป็นที่รักยิ่งดั่งชีวิตจิตใจของสาวสวย ถึงแม้เขาจะเจ้าชู้ไปบ้าง แต่ทั้งชีวิตจิตใจทุ่มเทในรักจริงจัง แต่ความหวังกลับหักพังสลาย สุดท้ายต้องอยู่เดียวดายข้างกายไร้คู่ครอง

หรือ... สาวสวยแชมป์มวยไทยหญิง เพชรน้ำหนึ่ง ถึงจะมีเพียบพร้อมทุกสิ่ง แต่ต้องเกิดมาใช้เวรใช้กรรม ที่เคยกระทำไว้ในชาติก่อน แม้จะสามารถยืนหยัดขึ้นมายิ่งใหญ่ และจิตใจเข้มแข็ง ทนทานต่อความทุกข์กายทุกข์ใจได้ แต่ลึกลงไปข้างในนั้น ไร้ซึ่งความสุขแท้จริง
Tags: ไตรติมา, คู่หมั้นคืนเหงาใจ, ดราม่า, ซึ้ง, โรแมนติก,

ตอน: ตอน 27[1]




..........บนโซฟาในห้องรับแขก เพชรน้ำหนึ่งนั่งชันเข่าและสองแขนกอดเข่า วางคางเกยหัวเข่ากำลังเปิดโน้ตบุ๊ก ก้มหน้าก้มตาดูเมล์พร้อมรูปถ่ายที่ไทธรรพ์ส่งมาให้

ยุติเห็นท่าทางอย่างนั้น แต่เห็นใบหน้าได้ไม่ถนัดนัก จึงเข้าไปนั่งดูใกล้ชิด

“กำลังร้องไห้นี่หนึ่ง มีเรื่องอะไร” ยุติเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

“หนึ่งจะทำใจให้ลืมพี่ไทธรรพ์ หลังจากลืมได้แล้ว บางที่เราอาจจะเริ่มต้นรักกัน เป็นไปได้ไหมพี่ยุติ” เธอถามออกไปจากใจลังเล

“ถ้าเป็นอย่างนั้นได้คงจะดี... นั่นไทธรรพ์ส่งเมล์มาเหรอ ว่ายังไงบอกพี่บ้างสิ”

“พี่ไทธรรพ์มีความสุขดี ไม่มีอะไรนี่... หนึ่งไม่ได้ตั้งใจร้องไห้ แค่คิดถึงพี่ไทธรรพ์ พี่ยุติจะสนใจทำไม”

ยุติพลอยอ่อนอกอ่อนใจสงสารเธอเลยพูด

“คนเขาเป็นห่วง แล้วจะลืมเขาได้วันไหนล่ะหนึ่ง มีแต่คิดถึงแล้วร้องไห้ไม่เลิกอยู่อย่างนี้”

“พี่ยุติมีแต่คนคอยรักและเอาใจ ยิ่งเขาคอยเอาใจเท่าไรพี่ยุติยังรู้สึกว่าไม่พอ ยังอยากได้มากยิ่งขึ้นกว่านั้น มีชีวิตที่มีแต่ความสุขรู้จักแต่ความสุข แต่หนึ่งมีชีวิตตรงกันข้ามกับพี่ยุติ ได้มีความสุขบ้างตอนที่มีพี่ไทธรรพ์อยู่ ทุกวันผ่านไปจิตใจยิ่งผูกพัน เมื่อต้องจากกันมันเป็นความขมขื่นกลายเป็นชีวิตที่ขาดหาย ต่อให้ใช้เวลาทั้งชีวิตที่เหลืออยู่ยังไม่รู้เลยว่าจะลืมได้ไหม” สิ้นคำพูดแล้วหลับตา... ปล่อยน้ำตาไหลร่วงอาบรดแก้มอิ่มให้ฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำตา

ตอนแรกยุติอยากจะเอื้อมมือไปลูบศีรษะสงสารเธอ ใจอยากปลอบเหลือเกิน แต่พอฟังท้ายประโยค ใจพลอยสลดหดหู่ดูสิ้นหวัง...

‘ทั้งชีวิตเธอไม่รู้จะลืมเขาได้วันไหนอย่างนั้นหรือ’

มือของยุตินั้นปล่อยทิ้งลงข้างกายไร้กระจิตกระใจ ไม่มีที่วางมือสำหรับเขาเลยแม้แต่น้อย



..........เพชรน้ำหนึ่งและยุติเดินทางไปญี่ปุ่น เพราะเธอต้องพาเขาไปทำความรู้จักครอบครัวพ่อบุญธรรม เพื่อให้ยุติได้พบคุณยูตะในฐานะคู่หมั้นของเธอ

บ้านตระกูลทาคาดะ ในห้องนั่งเล่น

“ป๋าต้องการพูดกับยุติตามลำพัง หนึ่งช่วยออกไปก่อนนะ” คุณยูตะออกปาก

เพชรน้ำหนึ่งจึงทำตามความประสงค์ของผู้ใหญ่

“อืม... รูปร่างหน้าตาดีคมคายเข้าท่า เธอรักลูกสาวฉันเหรอ” ผู้ใหญ่กว่ากล่าวชื่นชมว่าที่ลูกเขยในอนาคต อยากดูทีท่านิสัยใจคอว่าเป็นคนเช่นไร จะได้ประเมินว่าเหมาะสมกับบุตรบุญธรรมของตนหรือไม่

“ชอบครับ ชอบมาก แต่เราสองคนยังไม่ได้รักกัน” ยุติกล่าวตอบฉะฉานจริงใจไม่มีปิดบัง

“ถ้าไม่ได้รัก แล้วมีเหตุผลอะไรถึงหมั้นกัน”

“หนึ่งมาขอร้องให้ผมหมั้น เพื่อป้องกันตัวเองจากไทธรรพ์ บอกผมว่าจะทำใจให้ลืมเขา และเราสองคนจะเริ่มต้นรักกัน”

“อืม... เธอพูดตรงดีไม่มีท่าทีเสแสร้ง ตอนนี้เธอมาอยู่ในฐานะว่าที่ลูกเขยของฉัน แต่ฉันมีลูกสาวบุญธรรมเพียงคนเดียว หวังจะให้เขาเป็นผู้สืบทอดมรดกของฉัน ถ้าหากเขาแต่งงานไปกับเธอฉันยังอยากให้เขาใช้นามสกุลเดิมคือ... ทาคาดะ และถ้าเป็นไปได้ฉันอยากให้ลูกเขยของฉันเปลี่ยนนามสกุลตามด้วย เธอจะว่ายังไงถ้าอยากเป็นลูกเขยฉันต้องโอนสัญชาติเป็นคนญี่ปุ่นนะ”

เป็นคำถามที่ยุติไม่คาดคิดมาก่อนจึงนึกอะไรไม่ทัน

“จริงสิผมเกือบลืมไปหนึ่งถือสัญชาติญี่ปุ่น นี่แปลว่าที่ผมเคยฝันอยากแต่งงานกับสาวญี่ปุ่น โอ... ใช่ ความฝันของผมจะเป็นจริงแล้วสิ” ยุติพูด ดวงตาเบิกโต ในใจตื่นเต้นยินดีเมื่อย้อนนึกถึงความหวังและความใฝ่ฝันครั้งเก่าก่อน

“ยัง... เธอยังไม่ได้แต่งงานกับลูกสาวฉัน อย่าเพิ่งฝันไปตอนนี้แค่หมั้น”

“เออ... จริงแฮะ ผมตกลงยินยอมครับถ้าหลังแต่งงานให้เปลี่ยนนามสกุลโอนสัญชาติ” เขาตอบและยิ้มกว้าง

ซึ่งคุณยูตะยิ้มรับอย่างพอใจเช่นกัน

“เธอไม่จำเป็นต้องรีบตอบตอนนี้ คงยังอีกนานเป็นปีกว่าเธอสองคนจะเรียนจบปริญญาโทแล้วได้แต่งงานกัน พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปเยี่ยมชมบริษัทเราทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีหุ้นอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ธุรกิจของเราใหญ่ระดับประเทศ และกำลังจะมองหาช่องทาง ขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ หากเธอมีความสามารถจะมาช่วยพวกเราฉันก็ยินดี”



..........กลุ่มบริษัททาคาดะกรุ๊ป คุณยูตะเดินนำหน้า และเพชรน้ำหนึ่งกับยุติเดินตามหลัง

“สวัสดีค่ะท่านประธาน” พนักงานในบริษัทโค้งคำนับตามกัน คุณยูตะพาทุกคนเข้าไปในห้องทำงานของเขา แล้วเปิดม่านให้ชมวิวของกรุงโตเกียวจากอาคารที่สูงหลายชั้นแห่งนี้ทำให้มองเห็นได้ในมุมกว้าง

“โน่นเป็นตึกที่บริษัทเราสร้างให้ ...โน้นด้วย” คุณยูตะชี้ให้ยุติดูตึกสูงหลายชั้น และได้เห็นสายตายุติเปล่งประกายบ่งบอกถึงความทึ่ง “ต่อไปฉันจะให้ดูแผนผังองค์กร บริษัทย่อยและผลประกอบการทั้งกำไรและปันผล เธอสนใจจะดูไหม”

“สนใจครับ”

“งั้นไปที่ห้องประชุมใหญ่กัน” คุณยูตะออกเดินนำหน้า

ทุกคนเดินตามไปที่ห้องประชุมใหญ่ เป็นห้องที่จัดไว้อย่างหรูหราทันสมัย พร้อมเครื่องไม้เครื่องมือที่ล้ำหน้าทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ่นยนต์ตัวเล็กทำหน้าที่เสิร์ฟเครื่องดื่ม ยุติอดประหลาดใจไม่ได้พร้อมกับอมยิ้มออกมา

“รับกาแฟไหมคะ” หุ่นยนต์ส่งเสียงพูดเป็นภาษาญี่ปุ่น

แล้วยุติจึงหยิบถ้วยกาแฟออกมาจากถาดที่หุ่นยนต์ถืออยู่

“นั่นเป็นหุ่นยนต์บริการ ฉันเพิ่งซื้อมาไม่นาน ถือเป็นเอนเตอร์เทน ใครที่มาร่วมประชุมใหญ่กับเราต่างยิ้มได้เพราะมัน ที่จริงมันร้องเพลงและเต้นระบำได้ด้วย อีกหน่อยเธออาจจะได้เห็นการทำงานของมันมากกว่านี้ ...เมื่อก่อนฉันเคยให้หนึ่งทำหน้าที่นี้ตอนยังเรียนไฮสคูลมาทำพาร์ทไทม์เป็นเด็กเสิร์ฟน้ำ เวลาผ่านไปเร็วนานหลายปีแล้วนะใช่ไหมหนึ่ง”

“ค่ะ” เพชรน้ำหนึ่งตอบพร้อมยิ้มรับ

หลังจากนั้นคุณยูตะเปิดสไลด์ จอโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่ฉายให้เห็นผลงานการก่อสร้างโครงการสำคัญหลายโครงการที่ผ่านมา แล้วต่อด้วยแผนผังองค์กร ท้ายสุดคือผลประกอบการและกำไรปันผลอันมีมูลค่ามหาศาลนับหมื่นล้านเยน

ยังผลให้ยุติตาเบิกกว้าง อ้าปากค้างอย่างหุบไม่ลง

...เสร็จจากการเที่ยวชมบริษัทแล้วเพชรน้ำหนึ่งต้องพายุติกลับก่อน เพราะคุณยูตะอยู่ทำงานต่อ

“ดีแล้วนะคู่หมั้นของหนึ่งเป็นยุติ ป๋ารู้สึกถูกชะตากับเขา ท่าทางเป็นคนว่าง่ายไม่ก้าวร้าวดื้อรั้นเหมือนลูกชายจอมดื้อนั่น ป๋าชอบนิสัยเขานะ” คุณยูตะกระซิบบอกกับเพชรน้ำหนึ่งก่อนจะกลับ

เพชรน้ำหนึ่งถึงรู้ว่าคุณยูตะเปิดใจยอมรับยุติในฐานะคู่หมั้นของเธอที่เหมาะสมคู่ควรกัน หาไม่แล้วคงมีเสียงคัดค้านจากคุณยูตะแน่นอน



..........คุณอายูมินั่งรอเพชรน้ำหนึ่ง อยู่ในห้องนั่งเล่นส่วนตัว

“คุณแม่เรียกหนึ่งมา มีเรื่องอะไรคะ”

“ไทธรรพ์รักหนึ่งมาก หนึ่งไม่น่าทำแบบนี้ ถึงไทธรรพ์บอกว่าหนึ่งจะรออีกสองปี ไม่รีบแต่งงาน แม้จะแค่หมั้นแม่ก็ไม่อยากให้หมั้นกับผู้ชายคนนั้น” คุณอายูมิมีสีหน้าเคร่งเครียดทุกถ้อยคำที่กล่าวออกมา

“หนึ่งจำเป็นต้องหมั้นเพื่อป้องกันตัวเอง หนึ่งไม่เชื่อว่าพี่ไทธรรพ์ไม่มีผู้หญิงอื่น”

“เรื่องผู้หญิงอื่นแม่ไม่รู้เรื่องของเขา เราเองไม่มีหลักฐานอะไร แค่สงสัยคิดไปเองมากกว่า แต่แม่เชื่อใจลูกชายแม่ เขาจะกลับมาแต่งงานกับหนึ่งภายในสองปีนี้แน่ ลูกชายแม่เป็นคนพูดจริงทำจริง รักใครรักจริง แม่ดูหนึ่งเหมือนจะไม่จริงจัง หรือตอนนี้โลเลคิดเปลี่ยนใจจากไทธรรพ์แล้วใช่ไหม”

“ถ้าพี่ไทธรรพ์รักหนึ่งจริงทำไมต้องทิ้งหนึ่งปล่อยให้รอตั้งสองปี ระหว่างเวลาที่หนึ่งต้องรออยู่ลำพัง พี่ไทธรรพ์ไปอยู่กับใคร ...ที่ไหน”

“พี่เขาไปแสวงหาช่องทางทำธุรกิจในต่างแดน คงตระเวนไปประเทศโน้นนี้ อาจจะลำบากไม่สะดวกจะพาหนึ่งไปด้วย”

“ป๋าก็แสวงหาช่องทางขยายการลงทุนไปต่างประเทศ เวลาไปดูงานทีไรเห็นพาคุณแม่ไปด้วยทุกครั้ง นานสองสามเดือนยังเคยไปด้วยกันมาแล้ว ไม่เห็นต้องเงียบหายไปคนเดียวเป็นปีเหมือนพี่ไทธรรพ์เลย ทำไมภายในสองปีถึงเจอกันไม่ได้ หนึ่งมีแต่คำถามค้างคาใจ หากไม่สะดวกจะพาหนึ่งไปด้วยกลัวหนึ่งลำบาก หนึ่งไม่เห็นลำบากความลำบากยากเย็นยังไงหนึ่งเคยผ่านมาแล้ว ตอนชกมวยทั้งเจ็บและลำบาก ตอนนั้นพี่ไทธรรพ์ไม่เห็นกลัวหนึ่งลำบาก แต่นี่พี่ไทธรรพ์ไม่ให้หนึ่งไปด้วย ต้องรอคอยเป็นปี หนึ่งจะไม่รอพี่ไทธรรพ์อยู่อย่างว่างเปล่า หนึ่งจะเรียนต่อและแค่หมั้นกับพี่ยุติแต่ยังไม่รีบแต่งงาน หนึ่งอยากรู้เหมือนกันว่าอีกสองปีพี่ไทธรรพ์จะกลับมาหาหนึ่งจริงไหม”

“แต่แม่ไม่ชอบยุติ ดูก็รู้... ผู้ชายคนนี้เต็มไปด้วยกิเลสตัณหาละโมบโลภมากอยากได้ไปหมดทุกอย่าง รู้ไหมว่าป๋าให้เงินเขาไปช้อปปิ้ง ดันเอาไปซื้อของไร้สาระ ทั้งเสื้อผ้าเครื่องประดับน้ำหอมราคาแพง แต่งตัวตามแฟชั่นนิยมราวกับอยากหล่ออวดสาวทั้งโลกให้จ้องมองแต่เขาคนเดียว สายตาที่เขามองหนึ่งนั่นยิ่งไม่น่าไว้วางใจ เหมือนเสือคอยจ้องขย้ำลูกแกะน้อย” จากการสอดส่องจ้องจับผิด และติดตามความเคลื่อนไหวถามไถ่จากคนใกล้ชิดช่วยให้คุณอายูมิรู้เรื่องความเคลื่อนไหวของยุติอย่างละเอียด

“แต่อย่างหนึ่งเปรียบเทียบกับลูกแกะน้อยไม่ได้ค่ะคุณแม่ หากแต่เป็นนางเสือซะมากกว่า”

“อย่าประมาทไปหน่อยเลยหนึ่ง พลังของผู้ชายมีมากมายกว่าผู้หญิงเรา ถ้าเขาเอาจริงวันไหนหนึ่งคงไม่อาจต้านทานไหวแน่”

“หนึ่งจะระวังตัวเพราะหวั่นกลัวอยู่เหมือนกันค่ะ” เพชรน้ำหนึ่งสารภาพเสียงแผ่วค่อย...

“แต่หนึ่งคิดหาทางป้องกันตัวเองเอาไว้แล้ว เรามีคนรับใช้อยู่หลายคนหนึ่งจะพาไปอเมริกาด้วยสักคน หนึ่งไม่ยอมอยู่ตามลำพังกับพี่ยุติแน่นอน”

“เรื่องคนรับใช้จะพาไปด้วยกี่คนตามใจหนึ่งจ้าแม่อนุญาต จำไว้ว่าไทธรรพ์นั้นเป็นสุภาพบุรุษ เขาแตะต้องหนึ่งแต่เพียงภายนอกไม่เคยล่วงล้ำก้ำเกินเฝ้าทะนุถนอมหนึ่งมาอย่างดี หวังว่าหนึ่งจะรักษาเนื้อรักษาตัวไว้ ไม่ใจเร็วด่วนง่ายกับยุติเสียก่อน เพราะเขาเป็นแค่คู่หมั้น ยังไม่ได้แต่งงานกัน แม่ได้แต่หวังเท่านั้น”





ไตรติมา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ก.ย. 2560, 19:45:10 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ก.ย. 2560, 19:45:10 น.

จำนวนการเข้าชม : 1004





<< ตอน 26[2]   ตอน 27[2] >>


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account