ชุลมุนแผนร้าย ... ป่วนใจ
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำไมเธอจะต้องมารับรู้เรื่องปวดหัวพวกนี้ด้วย!
ทั้งคนเล่นตลกกับเธอ ผีก็ยังมาเอ็นดูหลอกเธออีก
กอกานต์อยากจะกรีดร้อง หลังจากรู้ว่าเธอถูกหลอกทั้งจากคน และผี!
ในความวุ่นวายที่เธอต้องช่วยตามหาความจริง
อยู่ๆ เธอก็รักคนที่ไม่ควรรักขึ้นมา
เธอจะตัดใจจากตัวยุ่งอย่างดี??
ทั้งคนเล่นตลกกับเธอ ผีก็ยังมาเอ็นดูหลอกเธออีก
กอกานต์อยากจะกรีดร้อง หลังจากรู้ว่าเธอถูกหลอกทั้งจากคน และผี!
ในความวุ่นวายที่เธอต้องช่วยตามหาความจริง
อยู่ๆ เธอก็รักคนที่ไม่ควรรักขึ้นมา
เธอจะตัดใจจากตัวยุ่งอย่างดี??
Tags: ผี ฆาตกรรม ปิ่นนลิน
ตอน: ตอนที่ 15 - 80%
ตอนที่ 15 - 80%
“แก้มว่าเราพาไปโรงพยาบาลดีกว่านะคะ” กอกานต์ออกความเห็น ภาสวินท์เห็นด้วย เตรียมจะหามพี่ชายไปยังรถยนต์อีกคันเขาจอดไว้ที่ออฟฟิศ
ทว่ามีเสียงห้ามดังขึ้น เสียงที่ภาสวินท์คุ้นหูดี
“ไม่ได้นะคะ!”
“ส้ม” ภาสวินท์เห็นสิริมารีบวิ่งมาห้ามด้วยหน้าตาจริงจัง
“คุณวินท์จะพาคุณวัสร์ออกไปไม่ได้ค่ะ” น้ำเสียงก็เด็ดขาดมากด้วย
กว่าสิริมาจะมาเห็นเหตุการณ์ก็ตอนที่คนร้ายวิ่งหนีไปแล้ว แต่ก็ยังทันก่อนภาสวัสร์จะถูกพาออกไปนอกบ้านวัสวาธีระนนท์
“ทำไม เห็นไหมพี่เจ็บแบบนี้จะมาห้ามกันอีกหรือ” ภาสวินท์เสียงแข็งกลับเหมือนกัน
“ก็เพราะคุณวินท์ไม่ใช่หรือคะที่ทำให้คุณวัสร์วิ่งหนีออกมาจนเป็นแบบนี้”
คำถามของสิริมาทำเอาคนตัวสูงชะงักงัน
“ถ้าคุณวินท์จะพาคุณวัสร์ออกไปจากบ้าน คุณวินท์จะยิ่งทำให้คุณวัสร์แย่ลงกว่าเดิม เพราะฉะนั้นพาคุณวัสร์กลับไปที่ห้องเถอะค่ะ ส้มจะเรียกคุณหมอประจำตัวคุณวัสร์มาเองค่ะ”
“เดี๋ยวก่อนสิคะ ทำไมถึงพาคุณภาสวัสร์ไปไหนไม่ได้คะ” กอกานต์ถามอย่างแปลกใจ กลับโดนสิริมาตวัดสายตาดุใส่ เธอจึงหันไปสบตาขอคำตอบจากชายหนุ่มแทน
ภาสวินท์ถอนหายใจ ก่อนได้ยินคนดูแลพูดย้ำอีกครั้ง
“คุณวินท์ห่วงคุณวัสร์จริง ส้มขอร้อง พาคุณวัสร์กลับห้องเถอะนะคะ อย่าให้คุณนางรู้เลยว่าคุณวัสร์ออกมาข้างนอก ส้มขอร้องเถอะค่ะ นะคะ”
กอกานต์ไม่รู้เหตุผล แต่สุดท้ายเห็นภาสวินท์ทำตามผู้หญิงอีกคน เธอวิ่งตามเมื่อเขาหามร่างไร้สติของภาสวัสร์ไปยังประตูเชื่อมระหว่างบ้านเขากับตึกออฟฟิศ
“คุณวินท์ จะไม่พาคุณภาสวัสร์ไปโรงพยาบาลหรือคะ” เธอแปลกใจกับการตัดสินใจของชายหนุ่ม
“ผมมีเหตุผลนะแก้ม ผมต้องพาพี่วัสร์กลับไปที่ห้องก่อน” ภาสวินท์ตอบโดยไม่สบตากับหญิงสาว
“แต่เขาเลือดออกเยอะขนาดนี้” กอกานต์พยายามก้าวเท้ายาวๆ ให้ทันชายหนุ่ม
“ผมมีเหตุผล …” เขาพูดแค่นี้ก็เงียบไป กอกานต์ได้แต่เดินตามไปเงียบๆ
โดยไม่รู้เลยว่าพยายามมีคนแอบถ่ายรูปภาสวินท์กับกอกานต์จากมุมไกล แต่น่าเสียดายที่พอคนร้ายเตรียมกดชัตเตอร์โทรศัพท์มือถือ ภาพผีสาวหน้าเละคอหักก็มายืนขวางหน้าจอโทรศัพท์มือถือ จนมันโวยวายตกใจ หงายหลังแล้ววิ่งหนีไปอีกทาง ไม่สนใจโทรศัพท์มือถือของมันที่หล่นกระแทกพื้นแตกจนใช้การไม่ได้ สร้างความสะใจให้ผีสาวสายสุดาเป็นอย่างมาก
“คุณควรจะออกไปช่วยคุณวัสร์กับคุณวินท์นะ คุณภาสกร” สายสุดาตำหนิผีภาสกรที่ยืนมองลูกชายเดินผ่านหน้าไป
“ผมกลัวคนร้ายจะปืนลั่นใส่ลูกผมมากกว่า” ภาสกรเครียด “ผมห่วงลูก โดยเฉพาะตาวัสร์ ถ้าเขาจำทุกอย่างได้ เขาอาจจะ …” เขาเริ่มลังเลใจ
“ไม่นะคุณภาสกร” สายสุดาส่ายหน้าไปมา “เราอุตส่าห์มาถึงขั้นนี้แล้ว เราพยายามให้คุณวัสร์เจอเราบ่อยๆ จะได้จำได้ว่าเราถูกใส่ร้าย คุณเองก็จะได้พ้นมลทินเสียที คุณวินท์ก็จะได้ไม่ต้องมาทนให้ภรรยาคุณขีดเขียนเส้นทางให้เดิน”
“แต่ถ้าตาวัสร์จำได้ขึ้นมาแล้วเขาเกิดเป็นอันตรายขึ้นมาล่ะ” ภาสกรหวั่นใจ
“เราต้องเสี่ยงไม่ใช่หรือคะ คุณเองก็เห็นว่าตอนนี้ไม่มีใครมีความสุขสักคน สงสารทั้งคุณวินท์และคุณวัสร์เถอะนะคะ”
ใช่ ภาสกรสงสารลูกชาย และเขาคงต้องเสี่ยง … ซึ่งกอกานต์คือคนที่เขาสามารถสื่อสารได้!
กอกานต์เดินตามเจ้านายหนุ่มผ่านประตูเลื่อนกระจกเข้าไปในห้องที่ทาด้วยสีครีมอ่อน ภายในห้องถูกจัดอย่างเป็นระเบียบ เพดานห้องสูงสามารถแบ่งเป็นชั้นสองเตี้ยๆ ตรงกลางห้องมีเตียงนอนขนาดคิงไซส์ รอบๆ เตียงเต็มไปด้วยกองหนังสือการ์ตูนและโต๊ะญี่ปุ่นวางแลปท้อปอยู่หนึ่งตัว ข้างขวาของเธอแบ่งเป็นโซนตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำ
“อื้อ เจ็บ” ภาสวัสร์ครางเบาๆ เมื่อถูกน้องชายวางร่างกายลงบนเตียงใหญ่
“ส้มจะไปโทรเรียกคุณหมอปณมกรค่ะ” สิริมาผลุนผลันออกจากห้องไปด้วยอีกประตูด้านใน ภายในห้องจึงเหลือเพียงแค่สามคน คนหนึ่งสติไม่เต็มร้อย อีกสองคนก็อยู่ในความเงียบ กระทั่งกอกานต์ขยับตัว เท้าของเธอไปเตะโดนถุงบนพื้นดังกรอบแกรบ พอก้มมองจึงรู้ว่าเป็นห่อช็อคโกแลตมินท์ แถมยังยี่ห้อเดียวกับที่ภาสวัสร์หอบใส่ถุงไปฝากเธอ
“ทำไมแก้มถึงรู้จักกับพี่ชายผม รู้มานานแล้วใช่ไหมว่าพี่วัสร์อยู่ในบ้าน ไม่ได้อยู่ต่างประเทศอย่างที่ผมบอกคุณ” ภาสวินท์ถามโดยไม่สบตาเธอ เอาแต่จ้องพี่ชายที่นอนหน้านิ่ว ครางด้วยความเจ็บระบมตามเนื้อตัว น้ำเสียงเขาค่อนข้างเครียด
“คือ แก้มเจอคุณภาสวัสร์ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำงานกับคุณวินท์ค่ะ เขาบอกแก้มว่าเขาเป็นพี่ชายคุณวินท์” กอกานต์ตอบตามความจริง
“เขาขู่ว่า ถ้าแก้มเล่าให้คุณวินท์ฟัง แก้มอาจจะโดนไล่ออก แต่แก้มกับคุณภาสวัสร์เป็นเพื่อนกัน เราไม่ได้ทำอะไรไม่ดีหรอกค่ะ แค่เจอและพูดคุยกันแค่นั้น”
“เฮ้อ!” ภาสวินท์ถอนหายใจ พอจะเข้าใจเหตุผลว่าทำไมกอกานต์ถึงปิดบังเรื่องภาสวัสร์ ส่วนภาสวัสร์ก็คงอยากไปเจอกอกานต์ อยากมีเพื่อน แต่ว่า … “พี่ไม่ควรออกไปไหนมาไหนคนเดียว”
ภาสวินท์ไม่รู้จะโมโหเพราะเป็นห่วงพี่ชายดี หรือดีใจที่พี่ชายอาการดีขึ้นกันแน่ พอคิดทบทวนดูแลเขาดีใจนะที่พี่ชายดีขึ้น แต่ห่วงจนโมโหมากกว่ามาก
คราวนี้หญิงสาวสัมผัสถึงความเป็นห่วงเต็มน้ำเสียงคนพูด เธอสงสัยว่าทำไม
แต่คุณหมอมาถึงเสียก่อน เพื่อให้คุณหมอทำงานสะดวก ภาสวินท์จึงพาหญิงสาวออกมานั่งรอที่ห้องนั่งเล่นแถวๆ ห้องนอนพี่ชาย จะได้รอถามคุณหมอเกี่ยวกับอาการพี่ชาย
“เวลาพี่ชายผมอยู่กับคุณ พี่ชายผมเป็นแบบไหนหรือครับ” ภาสวินท์อยากรู้จักพี่ชายเขาในอีกมุมหนึ่ง
“คุณภาสวัสร์ก็ปกตินะคะ ร่าเริง และชอบหัวเราะ แก้มไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงชอบพูดว่าตัวเขาเป็นบุคคลไร้ตัวตนสำหรับคุณและท่านประธาน เวลาเขาพูดแบบนั้น เขาดูเศร้ามากค่ะ”
“พี่ชายผมพูดแบบนั้นหรือ” ภาสวินท์ถามอย่างเศร้าๆ
“ค่ะ เขาบอกว่าแก้มคือเพื่อนคนเดียวของเขา”
“เพื่อน” ภาสวินท์ทิ้งกายนั่งบนเก้าอี้ ยกสองมือปิดหน้าที่กลายเป็นสีแดง เขากำลังปวดใจกับสิ่งที่ได้ยิน
… สิ่งที่พี่ชายขาดและโหยหามาตลอด … เพื่อนสักคน สังคมที่พี่ชายควรมีเหมือนคนอื่นๆ … แต่เพราะแม่ขังพี่ไว้ในห้อง ทำให้พี่ชายขาดสิ่งเหล่านี้ไป
“ผมน่าจะรู้ว่าพี่อยากได้อะไร … ทำไมผมถึงตะคอกพี่ไปแบบนั้น ทั้งๆ ที่ผมทำอะไรเพื่อพี่ไม่ได้สักอย่าง!”
“คุณวินท์” กอกานต์สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เธอก็รู้ว่าเธอไม่ควรถาม หรือแสดงความเห็นในเวลานี้ สิ่งที่เธอทำคือการวางมือลงบนต้นแขนชายหนุ่ม
เสียงประตูห้องนอนของพี่ชายเปิดอีกครั้งแย่งความสนใจของชายหนุ่มหญิงสาว สิริมาออกมาพร้อมคุณหมอผู้ชายคนเดิมกับที่ภาสวินท์เคยพบเมื่อครั้งก่อน คุณหมอเพียงแจ้งว่าภาสวัสร์บาดเจ็บไม่มาก ถ้าไม่สบายใจให้ส่งตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลจะดีกว่า แล้วจึงขอตัวกลับ
ภาสวัสร์ยังหลับ และท่าทางจะหลับอีกนาน ภาสวินท์จึงฝากสิริมาดูแลพี่ชาย เพื่อตัวเขาจะกลับไปที่ตึกออฟฟิศ เพราะให้แทนไทช่วยตามเรื่องคนร้ายแทนเขา ซึ่งก็ต้องผิดหวังกับพนักงานรักษาความปลอดภัย เพราะคนร้ายหนีไปได้ มีเพียงภาพจากกล้องวงจรปิดที่จะส่งมอบให้ตำรวจเท่านั้น
เมื่อทุกอย่างไม่สามารถจัดการอะไรต่อได้ ภาสวินท์จึงขับรถมาส่งกอกานต์ถึงบ้าน เขาตามใจหญิงสาวด้วยการจอดรถยนต์ห่างจากประตูรั้วบ้านหญิงสาวนิดหน่อย เธอคงไม่อยากถูกป้าหรือพี่ชายซักถามว่าใครมาส่ง
“ขอบคุณนะคะคุณวินท์ แก้มคิดว่าเราคงจับตัวคนร้ายได้เร็วๆ นี้แน่นอนเลยค่ะ” เธอยิ้มและอยากให้กำลังใจเจ้านาย
“ผมก็หวังแบบนั้น … แก้ม เรื่องพี่วัสร์ ผมมีเหตุผลนะที่ต้องบอกใครๆ ว่าพี่วัสร์อยู่ต่างประเทศ ผมไม่อยากให้พี่ชายผมต้องได้ยินเรื่องสะเทือนใจเกี่ยวกับอดีตที่โหดร้าย ผม แม่ และหมอต่างลงความเห็นว่าพี่วัสร์ยังไม่พร้อม” ภาสวินท์ยิ้มตอบหญิงสาว
“ค่ะ แก้มคิดว่าคุณคงมีเหตุผล” เธอตอบ ก่อนสะดุ้งเมื่อคนตัวสูงโน้มตัวลงมากอดเธอ
“ตอนที่โจรจะยิงผม คุณกอดผมแน่นเลย ผมดีใจนะที่รู้ว่าคุณเป็นห่วงผมมากขนาดนั้น” ภาสวินท์รู้สึกผ่อนคลายจากกลิ่นน้ำหอมของหญิงสาว “ขอบคุณมากนะครับ”
กอกานต์พยายามจะตั้งสติ ไม่หลงเคลิ้มไปกับน้ำเสียงและไออุ่นจากเจ้านาย เขายังมีคู่หมั้น เธอไม่ควรหวั่นไหวกับเขา แต่ว่า … เธอก็รู้สึก ยิ่งตอนที่เห็นคนร้ายจ่อปืนใส่เขา หัวใจเธอเหมือนจะสลาย เธอมั่นใจกว่าทุกครั้งชอบภาสวินท์จริงๆ
ดวงอาทิตย์เกือบลับฟ้าภาสวัสร์รู้สึกถึงความเย็นสัมผัสไปมาแถวลำคอ พอเปิดตามองก็เห็นสิริมากำลังเช็ดตัวให้เขาอยู่ โดยใช้ผ้าชุดน้ำบิดหมาดเช็ดตามใบหน้า ลำคอ และแขนให้ เขาเจ็บเมื่อจะขยับริมฝีปาก นึกไม่นานก็จำเหตุการณ์ทุกอย่างได้ดี
“ส้ม” เขาเอ่ยชื่อคนดูแลเสียงอ่อนแรง
สิริมาดีใจที่คุณหนูของเธอฟื้นแล้ว
“คุณวัสร์คะ คุณตื่นแล้ว ดีจังค่ะ เจ็บมากไหมคะ” คนที่ดูแลมาหกปีถามอย่างตื่นเต้นดีใจ เห็นชายหนุ่มเหมือนน้องชายย่อมห่วงมากเป็นธรรมดา
“เจ็บครับ” ภาสวัสร์ตอบด้วยสีหน้าอ้อนๆ
สิริมายิ้มอ่อน “เดี๋ยวทายาก็หายนะคะ ว่าแต่เล่าให้ส้มฟังได้ไหมคะว่าทำไมถึงไปโดนคนร้ายทำร้ายได้ ส้มโดนคุณวินท์สั่งห้ามเข้ามาหาคุณ พอรู้อีกทีก็เห็นคุณวิ่งเตลิดออกจากห้องแล้ว”
“ผมกลัวเสียงนายวินท์มากเลยวิ่งหนีออกไป ก่อนจะถูกชก … จริงสิตอนที่โดยวินท์ตวาด ผมเหมือนจะจำเรื่องที่ผมลืมไปได้ เรื่องที่ไม่เหมือนที่แม่เล่าสักนิดเลย”
ภาสวัสร์ยังจำความทรงจำที่ผุดขึ้นมาเพราะตกใจเสียงดุของน้องชายได้ดี เขาเห็นหน้าบิดากำลังผลักหรือดันให้เขาไปในที่แคบๆ และมืดๆ ก่อนจะได้ยินเสียงกรีดร้องของบิดาดังลั่น แต่เขาก็นึกไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้น
“ผมเห็นพ่อ เห็นสายสุดา ได้ยินเสียงคนอื่น … ไม่ใช่เสียงโจรอย่างที่แม่เฝ้าบอกผม” เสียงใครอีกคนนั้นคุ้นมากด้วย “ผมนึกไม่ออก มันน่ารำคาญมากเลย!”
“คุณวัสร์อย่าเพิ่งฝืนเลยค่ะ พักก่อนนะคะ” สิริมาไม่รู้ว่าภาสวัสร์พูดถึงเรื่องอะไร แต่ไม่อยากให้เขาฝืนมากนัก
“ผมไม่ได้ฝืนหรอก ผมแค่อยากจำได้เร็วๆ แล้วนายวินท์ล่ะ นายวินท์เจ็บอะไรตรงไหนหรือเปล่า” ภาสวัสร์ถามอย่างร้อนใจ ก่อนเขาสลบไปเขาเห็นโจรร้ายกับปืน!
“คุณวินท์ปลอดภัยค่ะ ตอนนี้ไปส่งคุณลูกอมที่บ้านค่ะ” สิริมารายงาน
“ลูกอม … คุณแก้ม …” ภาสวัสร์หลับตาอย่างปวดใจ เขาไม่อยากให้เธอรู้เลยว่าเขาไม่ปกติอย่างคนอื่น “ผมคงไม่ไปเจอลูกอมอีกแล้วล่ะส้ม เธอคงกลัวคนอย่างผมนะ … ผมจะไม่ไปเจอเธออีกแล้ว”
-----
นำนิยายมาส่งค่า หายไปนานอีกแล้ว ขอโทษค่าา ><
คุณ แว่นใส - คนร้ายคือใครน้า เดี๋ยวก็จะรู้กันค่า
คุณ kaelek - ผียังไม่กล้ายุ่งเลยค่ะ กลัวโดนข้อหา ผีผลัก! เลยต้องหาคนมาช่วยแทน
คุณ พอใจ - ตอนหน้าพี่วัสร์ พี่วินท์ น่าสงสารอีกแล้ว แงๆๆๆ
พบกันใหม่ตอนหน้านะคะ
“แก้มว่าเราพาไปโรงพยาบาลดีกว่านะคะ” กอกานต์ออกความเห็น ภาสวินท์เห็นด้วย เตรียมจะหามพี่ชายไปยังรถยนต์อีกคันเขาจอดไว้ที่ออฟฟิศ
ทว่ามีเสียงห้ามดังขึ้น เสียงที่ภาสวินท์คุ้นหูดี
“ไม่ได้นะคะ!”
“ส้ม” ภาสวินท์เห็นสิริมารีบวิ่งมาห้ามด้วยหน้าตาจริงจัง
“คุณวินท์จะพาคุณวัสร์ออกไปไม่ได้ค่ะ” น้ำเสียงก็เด็ดขาดมากด้วย
กว่าสิริมาจะมาเห็นเหตุการณ์ก็ตอนที่คนร้ายวิ่งหนีไปแล้ว แต่ก็ยังทันก่อนภาสวัสร์จะถูกพาออกไปนอกบ้านวัสวาธีระนนท์
“ทำไม เห็นไหมพี่เจ็บแบบนี้จะมาห้ามกันอีกหรือ” ภาสวินท์เสียงแข็งกลับเหมือนกัน
“ก็เพราะคุณวินท์ไม่ใช่หรือคะที่ทำให้คุณวัสร์วิ่งหนีออกมาจนเป็นแบบนี้”
คำถามของสิริมาทำเอาคนตัวสูงชะงักงัน
“ถ้าคุณวินท์จะพาคุณวัสร์ออกไปจากบ้าน คุณวินท์จะยิ่งทำให้คุณวัสร์แย่ลงกว่าเดิม เพราะฉะนั้นพาคุณวัสร์กลับไปที่ห้องเถอะค่ะ ส้มจะเรียกคุณหมอประจำตัวคุณวัสร์มาเองค่ะ”
“เดี๋ยวก่อนสิคะ ทำไมถึงพาคุณภาสวัสร์ไปไหนไม่ได้คะ” กอกานต์ถามอย่างแปลกใจ กลับโดนสิริมาตวัดสายตาดุใส่ เธอจึงหันไปสบตาขอคำตอบจากชายหนุ่มแทน
ภาสวินท์ถอนหายใจ ก่อนได้ยินคนดูแลพูดย้ำอีกครั้ง
“คุณวินท์ห่วงคุณวัสร์จริง ส้มขอร้อง พาคุณวัสร์กลับห้องเถอะนะคะ อย่าให้คุณนางรู้เลยว่าคุณวัสร์ออกมาข้างนอก ส้มขอร้องเถอะค่ะ นะคะ”
กอกานต์ไม่รู้เหตุผล แต่สุดท้ายเห็นภาสวินท์ทำตามผู้หญิงอีกคน เธอวิ่งตามเมื่อเขาหามร่างไร้สติของภาสวัสร์ไปยังประตูเชื่อมระหว่างบ้านเขากับตึกออฟฟิศ
“คุณวินท์ จะไม่พาคุณภาสวัสร์ไปโรงพยาบาลหรือคะ” เธอแปลกใจกับการตัดสินใจของชายหนุ่ม
“ผมมีเหตุผลนะแก้ม ผมต้องพาพี่วัสร์กลับไปที่ห้องก่อน” ภาสวินท์ตอบโดยไม่สบตากับหญิงสาว
“แต่เขาเลือดออกเยอะขนาดนี้” กอกานต์พยายามก้าวเท้ายาวๆ ให้ทันชายหนุ่ม
“ผมมีเหตุผล …” เขาพูดแค่นี้ก็เงียบไป กอกานต์ได้แต่เดินตามไปเงียบๆ
โดยไม่รู้เลยว่าพยายามมีคนแอบถ่ายรูปภาสวินท์กับกอกานต์จากมุมไกล แต่น่าเสียดายที่พอคนร้ายเตรียมกดชัตเตอร์โทรศัพท์มือถือ ภาพผีสาวหน้าเละคอหักก็มายืนขวางหน้าจอโทรศัพท์มือถือ จนมันโวยวายตกใจ หงายหลังแล้ววิ่งหนีไปอีกทาง ไม่สนใจโทรศัพท์มือถือของมันที่หล่นกระแทกพื้นแตกจนใช้การไม่ได้ สร้างความสะใจให้ผีสาวสายสุดาเป็นอย่างมาก
“คุณควรจะออกไปช่วยคุณวัสร์กับคุณวินท์นะ คุณภาสกร” สายสุดาตำหนิผีภาสกรที่ยืนมองลูกชายเดินผ่านหน้าไป
“ผมกลัวคนร้ายจะปืนลั่นใส่ลูกผมมากกว่า” ภาสกรเครียด “ผมห่วงลูก โดยเฉพาะตาวัสร์ ถ้าเขาจำทุกอย่างได้ เขาอาจจะ …” เขาเริ่มลังเลใจ
“ไม่นะคุณภาสกร” สายสุดาส่ายหน้าไปมา “เราอุตส่าห์มาถึงขั้นนี้แล้ว เราพยายามให้คุณวัสร์เจอเราบ่อยๆ จะได้จำได้ว่าเราถูกใส่ร้าย คุณเองก็จะได้พ้นมลทินเสียที คุณวินท์ก็จะได้ไม่ต้องมาทนให้ภรรยาคุณขีดเขียนเส้นทางให้เดิน”
“แต่ถ้าตาวัสร์จำได้ขึ้นมาแล้วเขาเกิดเป็นอันตรายขึ้นมาล่ะ” ภาสกรหวั่นใจ
“เราต้องเสี่ยงไม่ใช่หรือคะ คุณเองก็เห็นว่าตอนนี้ไม่มีใครมีความสุขสักคน สงสารทั้งคุณวินท์และคุณวัสร์เถอะนะคะ”
ใช่ ภาสกรสงสารลูกชาย และเขาคงต้องเสี่ยง … ซึ่งกอกานต์คือคนที่เขาสามารถสื่อสารได้!
กอกานต์เดินตามเจ้านายหนุ่มผ่านประตูเลื่อนกระจกเข้าไปในห้องที่ทาด้วยสีครีมอ่อน ภายในห้องถูกจัดอย่างเป็นระเบียบ เพดานห้องสูงสามารถแบ่งเป็นชั้นสองเตี้ยๆ ตรงกลางห้องมีเตียงนอนขนาดคิงไซส์ รอบๆ เตียงเต็มไปด้วยกองหนังสือการ์ตูนและโต๊ะญี่ปุ่นวางแลปท้อปอยู่หนึ่งตัว ข้างขวาของเธอแบ่งเป็นโซนตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำ
“อื้อ เจ็บ” ภาสวัสร์ครางเบาๆ เมื่อถูกน้องชายวางร่างกายลงบนเตียงใหญ่
“ส้มจะไปโทรเรียกคุณหมอปณมกรค่ะ” สิริมาผลุนผลันออกจากห้องไปด้วยอีกประตูด้านใน ภายในห้องจึงเหลือเพียงแค่สามคน คนหนึ่งสติไม่เต็มร้อย อีกสองคนก็อยู่ในความเงียบ กระทั่งกอกานต์ขยับตัว เท้าของเธอไปเตะโดนถุงบนพื้นดังกรอบแกรบ พอก้มมองจึงรู้ว่าเป็นห่อช็อคโกแลตมินท์ แถมยังยี่ห้อเดียวกับที่ภาสวัสร์หอบใส่ถุงไปฝากเธอ
“ทำไมแก้มถึงรู้จักกับพี่ชายผม รู้มานานแล้วใช่ไหมว่าพี่วัสร์อยู่ในบ้าน ไม่ได้อยู่ต่างประเทศอย่างที่ผมบอกคุณ” ภาสวินท์ถามโดยไม่สบตาเธอ เอาแต่จ้องพี่ชายที่นอนหน้านิ่ว ครางด้วยความเจ็บระบมตามเนื้อตัว น้ำเสียงเขาค่อนข้างเครียด
“คือ แก้มเจอคุณภาสวัสร์ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำงานกับคุณวินท์ค่ะ เขาบอกแก้มว่าเขาเป็นพี่ชายคุณวินท์” กอกานต์ตอบตามความจริง
“เขาขู่ว่า ถ้าแก้มเล่าให้คุณวินท์ฟัง แก้มอาจจะโดนไล่ออก แต่แก้มกับคุณภาสวัสร์เป็นเพื่อนกัน เราไม่ได้ทำอะไรไม่ดีหรอกค่ะ แค่เจอและพูดคุยกันแค่นั้น”
“เฮ้อ!” ภาสวินท์ถอนหายใจ พอจะเข้าใจเหตุผลว่าทำไมกอกานต์ถึงปิดบังเรื่องภาสวัสร์ ส่วนภาสวัสร์ก็คงอยากไปเจอกอกานต์ อยากมีเพื่อน แต่ว่า … “พี่ไม่ควรออกไปไหนมาไหนคนเดียว”
ภาสวินท์ไม่รู้จะโมโหเพราะเป็นห่วงพี่ชายดี หรือดีใจที่พี่ชายอาการดีขึ้นกันแน่ พอคิดทบทวนดูแลเขาดีใจนะที่พี่ชายดีขึ้น แต่ห่วงจนโมโหมากกว่ามาก
คราวนี้หญิงสาวสัมผัสถึงความเป็นห่วงเต็มน้ำเสียงคนพูด เธอสงสัยว่าทำไม
แต่คุณหมอมาถึงเสียก่อน เพื่อให้คุณหมอทำงานสะดวก ภาสวินท์จึงพาหญิงสาวออกมานั่งรอที่ห้องนั่งเล่นแถวๆ ห้องนอนพี่ชาย จะได้รอถามคุณหมอเกี่ยวกับอาการพี่ชาย
“เวลาพี่ชายผมอยู่กับคุณ พี่ชายผมเป็นแบบไหนหรือครับ” ภาสวินท์อยากรู้จักพี่ชายเขาในอีกมุมหนึ่ง
“คุณภาสวัสร์ก็ปกตินะคะ ร่าเริง และชอบหัวเราะ แก้มไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงชอบพูดว่าตัวเขาเป็นบุคคลไร้ตัวตนสำหรับคุณและท่านประธาน เวลาเขาพูดแบบนั้น เขาดูเศร้ามากค่ะ”
“พี่ชายผมพูดแบบนั้นหรือ” ภาสวินท์ถามอย่างเศร้าๆ
“ค่ะ เขาบอกว่าแก้มคือเพื่อนคนเดียวของเขา”
“เพื่อน” ภาสวินท์ทิ้งกายนั่งบนเก้าอี้ ยกสองมือปิดหน้าที่กลายเป็นสีแดง เขากำลังปวดใจกับสิ่งที่ได้ยิน
… สิ่งที่พี่ชายขาดและโหยหามาตลอด … เพื่อนสักคน สังคมที่พี่ชายควรมีเหมือนคนอื่นๆ … แต่เพราะแม่ขังพี่ไว้ในห้อง ทำให้พี่ชายขาดสิ่งเหล่านี้ไป
“ผมน่าจะรู้ว่าพี่อยากได้อะไร … ทำไมผมถึงตะคอกพี่ไปแบบนั้น ทั้งๆ ที่ผมทำอะไรเพื่อพี่ไม่ได้สักอย่าง!”
“คุณวินท์” กอกานต์สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เธอก็รู้ว่าเธอไม่ควรถาม หรือแสดงความเห็นในเวลานี้ สิ่งที่เธอทำคือการวางมือลงบนต้นแขนชายหนุ่ม
เสียงประตูห้องนอนของพี่ชายเปิดอีกครั้งแย่งความสนใจของชายหนุ่มหญิงสาว สิริมาออกมาพร้อมคุณหมอผู้ชายคนเดิมกับที่ภาสวินท์เคยพบเมื่อครั้งก่อน คุณหมอเพียงแจ้งว่าภาสวัสร์บาดเจ็บไม่มาก ถ้าไม่สบายใจให้ส่งตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลจะดีกว่า แล้วจึงขอตัวกลับ
ภาสวัสร์ยังหลับ และท่าทางจะหลับอีกนาน ภาสวินท์จึงฝากสิริมาดูแลพี่ชาย เพื่อตัวเขาจะกลับไปที่ตึกออฟฟิศ เพราะให้แทนไทช่วยตามเรื่องคนร้ายแทนเขา ซึ่งก็ต้องผิดหวังกับพนักงานรักษาความปลอดภัย เพราะคนร้ายหนีไปได้ มีเพียงภาพจากกล้องวงจรปิดที่จะส่งมอบให้ตำรวจเท่านั้น
เมื่อทุกอย่างไม่สามารถจัดการอะไรต่อได้ ภาสวินท์จึงขับรถมาส่งกอกานต์ถึงบ้าน เขาตามใจหญิงสาวด้วยการจอดรถยนต์ห่างจากประตูรั้วบ้านหญิงสาวนิดหน่อย เธอคงไม่อยากถูกป้าหรือพี่ชายซักถามว่าใครมาส่ง
“ขอบคุณนะคะคุณวินท์ แก้มคิดว่าเราคงจับตัวคนร้ายได้เร็วๆ นี้แน่นอนเลยค่ะ” เธอยิ้มและอยากให้กำลังใจเจ้านาย
“ผมก็หวังแบบนั้น … แก้ม เรื่องพี่วัสร์ ผมมีเหตุผลนะที่ต้องบอกใครๆ ว่าพี่วัสร์อยู่ต่างประเทศ ผมไม่อยากให้พี่ชายผมต้องได้ยินเรื่องสะเทือนใจเกี่ยวกับอดีตที่โหดร้าย ผม แม่ และหมอต่างลงความเห็นว่าพี่วัสร์ยังไม่พร้อม” ภาสวินท์ยิ้มตอบหญิงสาว
“ค่ะ แก้มคิดว่าคุณคงมีเหตุผล” เธอตอบ ก่อนสะดุ้งเมื่อคนตัวสูงโน้มตัวลงมากอดเธอ
“ตอนที่โจรจะยิงผม คุณกอดผมแน่นเลย ผมดีใจนะที่รู้ว่าคุณเป็นห่วงผมมากขนาดนั้น” ภาสวินท์รู้สึกผ่อนคลายจากกลิ่นน้ำหอมของหญิงสาว “ขอบคุณมากนะครับ”
กอกานต์พยายามจะตั้งสติ ไม่หลงเคลิ้มไปกับน้ำเสียงและไออุ่นจากเจ้านาย เขายังมีคู่หมั้น เธอไม่ควรหวั่นไหวกับเขา แต่ว่า … เธอก็รู้สึก ยิ่งตอนที่เห็นคนร้ายจ่อปืนใส่เขา หัวใจเธอเหมือนจะสลาย เธอมั่นใจกว่าทุกครั้งชอบภาสวินท์จริงๆ
ดวงอาทิตย์เกือบลับฟ้าภาสวัสร์รู้สึกถึงความเย็นสัมผัสไปมาแถวลำคอ พอเปิดตามองก็เห็นสิริมากำลังเช็ดตัวให้เขาอยู่ โดยใช้ผ้าชุดน้ำบิดหมาดเช็ดตามใบหน้า ลำคอ และแขนให้ เขาเจ็บเมื่อจะขยับริมฝีปาก นึกไม่นานก็จำเหตุการณ์ทุกอย่างได้ดี
“ส้ม” เขาเอ่ยชื่อคนดูแลเสียงอ่อนแรง
สิริมาดีใจที่คุณหนูของเธอฟื้นแล้ว
“คุณวัสร์คะ คุณตื่นแล้ว ดีจังค่ะ เจ็บมากไหมคะ” คนที่ดูแลมาหกปีถามอย่างตื่นเต้นดีใจ เห็นชายหนุ่มเหมือนน้องชายย่อมห่วงมากเป็นธรรมดา
“เจ็บครับ” ภาสวัสร์ตอบด้วยสีหน้าอ้อนๆ
สิริมายิ้มอ่อน “เดี๋ยวทายาก็หายนะคะ ว่าแต่เล่าให้ส้มฟังได้ไหมคะว่าทำไมถึงไปโดนคนร้ายทำร้ายได้ ส้มโดนคุณวินท์สั่งห้ามเข้ามาหาคุณ พอรู้อีกทีก็เห็นคุณวิ่งเตลิดออกจากห้องแล้ว”
“ผมกลัวเสียงนายวินท์มากเลยวิ่งหนีออกไป ก่อนจะถูกชก … จริงสิตอนที่โดยวินท์ตวาด ผมเหมือนจะจำเรื่องที่ผมลืมไปได้ เรื่องที่ไม่เหมือนที่แม่เล่าสักนิดเลย”
ภาสวัสร์ยังจำความทรงจำที่ผุดขึ้นมาเพราะตกใจเสียงดุของน้องชายได้ดี เขาเห็นหน้าบิดากำลังผลักหรือดันให้เขาไปในที่แคบๆ และมืดๆ ก่อนจะได้ยินเสียงกรีดร้องของบิดาดังลั่น แต่เขาก็นึกไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้น
“ผมเห็นพ่อ เห็นสายสุดา ได้ยินเสียงคนอื่น … ไม่ใช่เสียงโจรอย่างที่แม่เฝ้าบอกผม” เสียงใครอีกคนนั้นคุ้นมากด้วย “ผมนึกไม่ออก มันน่ารำคาญมากเลย!”
“คุณวัสร์อย่าเพิ่งฝืนเลยค่ะ พักก่อนนะคะ” สิริมาไม่รู้ว่าภาสวัสร์พูดถึงเรื่องอะไร แต่ไม่อยากให้เขาฝืนมากนัก
“ผมไม่ได้ฝืนหรอก ผมแค่อยากจำได้เร็วๆ แล้วนายวินท์ล่ะ นายวินท์เจ็บอะไรตรงไหนหรือเปล่า” ภาสวัสร์ถามอย่างร้อนใจ ก่อนเขาสลบไปเขาเห็นโจรร้ายกับปืน!
“คุณวินท์ปลอดภัยค่ะ ตอนนี้ไปส่งคุณลูกอมที่บ้านค่ะ” สิริมารายงาน
“ลูกอม … คุณแก้ม …” ภาสวัสร์หลับตาอย่างปวดใจ เขาไม่อยากให้เธอรู้เลยว่าเขาไม่ปกติอย่างคนอื่น “ผมคงไม่ไปเจอลูกอมอีกแล้วล่ะส้ม เธอคงกลัวคนอย่างผมนะ … ผมจะไม่ไปเจอเธออีกแล้ว”
-----
นำนิยายมาส่งค่า หายไปนานอีกแล้ว ขอโทษค่าา ><
คุณ แว่นใส - คนร้ายคือใครน้า เดี๋ยวก็จะรู้กันค่า
คุณ kaelek - ผียังไม่กล้ายุ่งเลยค่ะ กลัวโดนข้อหา ผีผลัก! เลยต้องหาคนมาช่วยแทน
คุณ พอใจ - ตอนหน้าพี่วัสร์ พี่วินท์ น่าสงสารอีกแล้ว แงๆๆๆ
พบกันใหม่ตอนหน้านะคะ
ปิ่นนลิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ก.ย. 2560, 00:32:57 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ก.ย. 2560, 00:40:30 น.
จำนวนการเข้าชม : 1052
<< ตอนที่ 15 - 35% |
แว่นใส 19 ก.ย. 2560, 06:09:30 น.
สงสารพี่วัสร์ จะไม้ไปเจอลูกอมอีกเหรอ
สงสารพี่วัสร์ จะไม้ไปเจอลูกอมอีกเหรอ
kaelek 19 ก.ย. 2560, 07:24:50 น.
พอรู้ว่าเค้าเพื่อนกันนี่สวมกอดทันทีเลยนะพี่วินท์
พอรู้ว่าเค้าเพื่อนกันนี่สวมกอดทันทีเลยนะพี่วินท์