เคียงเธอ
หวันยิหวาแอบรักจิระ เพื่อนชายข้างบ้านที่รู้จักกันตั้งแต่เกิด โดยที่ไม่รู้ว่าเขาและเธอมีใจตรงกัน วันหนึ่งหวาไม่สบาย จิระจึงช่วยดูแล...แล้วเขาก็เผลอใจจูบเธอเข้าโดยที่เธอไม่รู้ตัว

เป็นตัวละครคู่พี่ของเรื่องเหตุเกิดที่...หัวใจ แต่เพื่อความกระชับและความต่อเนื่อง จึงขอแยกออกมาเป็นอีกเรื่องนึงค่ะ
Tags: จิระ หวันยิหวา แอบรัก เพื่อนสนิท

ตอน: ตอนที่ 1 : สัมผัสริมฝีปาก

หวันยิหวากลับบ้านช้ากว่าปกติเนื่องจากวันนี้เป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์ พ่วงดีกรีศุกร์ต้นเดือนอีกต่างหาก อีกทั้งน้องหมาน้องแมวที่เป็นคนไข้หล่อนก็มาพร้อมกันในช่วงเย็น ถึงโรงพยาบาลสัตว์ที่หล่อนทำงานอยู่จะอยู่แถวๆ บ้าน แต่องค์ประกอบที่กล่าวมากว่าจะได้เข้าบ้านได้เลยเวลาไปเกือบสองชั่วโมง หญิงสาวลงมาเปิดประตูรั้วบ้านเพื่อนำรถเข้าไปจอด เห็นบ้านข้างๆ ยังไม่เปิดไฟก็นึกสงสัย

“นี่สองทุ่มกว่าแล้ว จีกับเจยังไม่กลับอีกเหรอนี่” หวันยิหวากล่าวกับตัวเองก่อนที่จะเข้าบ้านไป มือเรียววางถุงกับข้าวลงบนโต๊ะ ก่อนจะเดินไปหุงข้าว ใจก็พลันคิดถึงคนข้างบ้านขึ้นมา

‘ไม่รู้ว่านายจีจะทำอะไรอยู่นะ’

จี หรือ จิระ เป็นลูกชายของเพื่อนคุณพ่อคุณแม่ รู้จักกันตั้งแต่เด็กๆ เล็กๆ...แบบอยู่ในท้องแม่กันเลย แต่เขาเพิ่งย้ายมาอยู่ข้างบ้านหล่อนตอนนั้นรู้สึกว่ากำลังจะขึ้นมัธยมได้มั้ง นายจีก็เลยเป็นทั้งเพื่อนบ้าน เพื่อนเล่น เพื่อนสมัยเด็ก เป็นพี่ เป็นพ่อในบางวาระ...แล้วก็เป็นเพื่อนชายคนที่หล่อนแอบรักมาเกือบยี่สิบปี

ตอนนี้เขาอาจจะยังทำงานอยู่ที่บริษัทก็ได้ จิระเป็นกรรมการผู้จัดการของนิตยสารและหนังสือท่องเที่ยว เปิดบริษัทได้เพียงห้าปีแต่หนังสือของเขาก็ปอยู่ระดับแนวหน้าของวงการนี้

ส่วน เจ หรือ เจลกา เป็นน้องสาวของจิระ หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม ปากนิดจมูกหน่อย แต่นิสัยทั้งซนทั้งห้าว ถ้าเทียบความซน เจลกามีมากกว่าจิระสักสามเท่าได้ ตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็เลยเลือกวิศวฯ โยธาอย่างไม่มีลังเล จำได้ว่าจิระถามน้องสาวว่าแน่ใจนะ...เกือบสิบรอบได้ แต่เจลกาก็มั่นใจแล้วก็เรียนจบมาด้วยเกรดเฉลี่ยเกียรตินิยม

จิระขับรถกลับมาถึงบ้านแล้วพบว่าไฟในบ้านปิดสนิทและไม่มีร่องรอยว่าน้องสาวของเขากลับมา ด้วยความเป็นห่วงจึงรีบกดมือถือหาน้องสาวทันที

“วะ! ไม่รับสายอีก เป็นอะไรรึเปล่าวะ” เขาไม่อยากคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายกับน้องสาวเขาเลย จิระเสยผมที่ปรกลงมาพร้อมกับถอนหายใจ

‘เวร...ลืมเอากุญแจบ้านมาอีก’

‘ไปอยู่บ้านยัยหวาก่อนก็ได้ เผื่อจะรู้อะไรบ้าง’

“หวาๆ อยู่ไหม” จิระส่งเสียงเรียกอยู่หน้าบ้าน

“เรียกครั้งเดียวก็ได้ยินแล้วน่า ได้ยินกันไปสามบ้านแล้วมั้งเนี่ย” หวันยิหวาเดินมาเปิดประตูให้ แต่พอเห็นสีหน้าของจิระจึงเอ่ยทัก

“เป็นอะไรจี สีหน้าไม่ได้เลย”

“ไอ้เจยังไม่กลับบ้านเลย โทรศัพท์ก็ไม่รับ ไม่รู้ว่าจะเป็นอะไรรึเปล่า... เจมันโทรมาหาหวาไหมว่าจะปไหน” หญิงสาวสั่นหน้าทำให้จิระมีสีหน้ากังวลเพิ่มขึ้น

“เอาน่า เจไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะจี เจดูแลตัวเองได้คิดในแง่ดีเข้าไว้เดี๋ยวน้องก็มา” หวันยิหวาพยายามพูดให้กำลังใจ ซึ่งหล่อนเองก็ขอให้มันเป็นเช่นนั้นเช่นกัน

“เดี๋ยวน้องก็กลับ แล้วนี่จีกินอะไรมารึยัง”

“ยังเลย”

“โรคกระเพาะกำเริบหรอก” หวันยิหวาว่าเข้าให้

“ก็กะมากินข้าวฟรีแถวนี้สักหน่อย ก็เลยยังไม่กินมา”

“วันหลังหวาจะจดไว้ว่าจีกินอะไรไปบ้าง แล้วจะส่งบิลไปเก็บ” หญิงสาวกล่าว

“โหดร้ายยย” จิระแกล้งเย้า

“งั้นก็กลับไปกินบ้านตัวเองเลยนะ จะได้โหดสมชื่อ”

“ใจร้ายกับคนหล่อตาดำๆ ได้ไง” ชายหนุ่มโอดครวญ

“คนหล่อหรือลูกหมาตาดำๆ”

“นี่ยัยหวา หน้าจีเหมือนคนไข้หวามากเลยรึไง” ชายหนุ่มหันหน้าไปมองหวันยิหวา

“อืม...ก็ใกล้เคียงนะ หน้านายจิระกับน้องหมา...แยกยากมากกก” หวันยิหวาลากเสียงยาว

“ถ้าหน้าจีเหมือนน้องหมา อย่างจิระสุดหล่อก็เป็นโกลวเด้นรีทีฟเวอร์ละกันนะ”



“ทำไมวันนี้หวากินข้าวดึกจัง วันนี้กลับมามืดเหรอ” จิระเอ่ยถามเมื่อทานอาหารกันเสร็จแล้ว

“ใช่ แต่ถามทำไมอ่ะ” หวันยิหวาถามกลับขณะที่กำลังเช็ดโต๊ะอยู่

“กลับดึกๆ มันอันตราย พ่อแม่เราก็ไม่อยู่กันทั้งคู่ แอบหนีไปเที่ยวกันสี่คนไม่ถามลูกเต้าสักคำ จะกลับตอนไหนก็ไม่บอก จีว่าช่วงนี้จีไปรับไปส่งหวาดีกว่า” คนที่ฟังอยู่ถึงกลับชะงักผ้าที่อยู่ในมือเกือบร่วงหล่น หวันยิหวารู้สึกตัวจึงรีบพูดกลบเกลื่อนอาการผิดปกติของตนเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะสังเกตเห็น

“พูดจริง” หวันยิหวารีบถามกลับ

“จริงดิ อีกไม่กี่วันไอ้เจมันต้องไปทำงานที่ปราณบุรีตั้งหลายอาทิตย์อยู่ ตอนนั้นก็เหลือเราแค่สองคน จีก็ต้องห่วงหวาเป็นธรรมดา” จิระกล่าว

“ห่วงเหรอ”หญิงสาวถามซ้ำ

“ก็ห่วงสิ เดี๋ยวไปทำเรื่องหวาดผวาเข้า จีต้องตามไปดูแลอีก”

“เราก็นึกว่าเป็นห่วงจริง”

“ห่วงก็ห่วงแหละ แต่ตอนนี้ขอนั่งรอน้องที่นี่ก่อนล่ะกัน ลืมกุญแจบ้าน” ชายหนุ่มบอก

“ก็เอาสิ จีนั่งดูทีวีไปก่อนนะ เราจะขึ้นไปข้างบน”

“อือ ไปเหอะ” ระหว่างรอนั้นนั้นเจลกาก็ติดต่อกลับมาบอกว่ายางรั่ว กินข้าวเรียบร้อยและกำลังจะเดินทางกลับ ได้ยินเช่นนั้นเขาจึงค่อยเบาใจลง แต่ความเบาใจก็หายไปเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น

....โครม!!!...

“โอ๊ย!!!” มีเสียงดังโครมครามมาจากข้างบนและตามมาด้วยเสียงโอดโอย ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบวิ่งขึ้นไปบนบ้านของหญิงสาวทันที พลางคิดในใจว่า

‘ยัยหวาดผวาทำเรื่องอีกแล้ว!’



“หวาๆ จีเข้าไปนะ”

“อือ...อ” น้ำเสียงที่ให้อนุญาตนั้นคาดว่าเจ้าตัวคงจะเจ็บไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อจิระเปิดประตูเข้าไปก็เห็นหวันยิหวาเอามือหนึ่งกุมหัวอีกมือหนึ่งป่ายเปะปะคลำกำแพงอยู่ โดยที่พื้นข้างโต๊ะมีหนังสือและสิ่งของอีกหลายอย่างหล่นลงกระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมด
“เป็นไงมั่ง ไหนขอดูหน้าผากหน่อยซิ” จิระพาหญิงสาวมานั่งที่ปลายเตียง แล้วเอามือที่เธอกุมหน้าผากออกปรากฏรอยแดงที่หน้าผากอย่างเห็นได้ชัด

“แดงแจ๋เลย เจ็บมากไหม” ชายหนุ่มแตะปลายนิ้วเบาๆ ที่รอยแดงนั่น ใบหน้าของเขาเข้าไปใกล้ดวงหน้าของเธอเรื่อยๆ เคลื่อนมาหยุดในระยะที่ใบหน้าทั้งสองห่างกันเพียงคืบเดียว ลมหายใจของเขารดอยู่ที่พวงแก้มของหวันยิหวา และนั่นทำให้ผิวเนียนมีสีจัดขึ้นทันที

“เจ็บสิ” หญิงสาวบอก

“ก็ซุ่มซ่ามเองนี่นา” ชายหนุ่มว่าพร้อมกับหยิบยาหม่องที่โต๊ะเครื่องแป้งมาทาหน้าผากของเธอเบาๆ

“ก็เราลืมแว่นไว้ในห้องน้ำนี่ กำลังจะเดินเข้าไปเอาก็ชนไอ้กำแพงนี่เข้าไปเต็มรักเลย โอ๊ย! ”

“เอ้าเสร็จแล้ว โวยวายจริงๆ เลยเธอนี่”

“ก็มันเจ็บอ่ะ” โอดครวญไปพลางเอามือนวดรอยแดงไปพลาง

“ชนซะโครมใหญ่ ตกลงสายสั้นเท่าไรแล้วเนี่ย” จิระถาม

“พันนึงได้ เห็นชัดสุดแค่นี้เอง” หวันยิหวาเอาฝ่ามือมาวางด้านหน้าระยะที่หล่อนบอกว่าเห็นชัด ระยะแค่นี้ยังไม่ถึงคืบเลย

“หวาบอกว่าเห็นชัดสุดแค่นี้ แล้วระยะอื่นๆ ล่ะ เห็นแบบไหน”

“เห็นเบลอๆ นะ แต่ลายตาเราเอียงด้วย ก็เลยเดินไปให้กำแพงมันโขกหัวเล่นนี่ไง” หวันยิหวาหัวเราะ แต่มือยังคลำที่หัวอยู่เลย

“เดี๋ยวจีไปหยิบแว่นให้นะ แล้วไม่ต้องลุกไปไหนล่ะ” จิระเดินเข้าไปในห้องน้ำหยิบแว่นให้เธอ



แต่ขณะที่จิระกำลังเดินกลับมานั้นไม่ทันได้มองที่พื้นว่ามีกล่องดินสอเหล็กทรงกลมกลิ้งอยู่บนพื้น ด้วยความที่ไม่ได้มองชายหนุ่มก้าวไปเหยียบเต็มฝ่าเท้า จิระเสียหลักทำให้ลำตัวของเขาล้มลงโถมเข้าใส่หวันยิหวาที่นั่งอยู่ปลายเตียงพอดิบพอดี

"ว้าย" จิระรวบตัวของหวันยิหวาไว้ มือหนาประคองศีรษะของหญิงสาว หลังจากนั้นร่างของทั้งสองก็ล้มกระแทกลงบนเตียงนั่นเอง และนั่นเป็นเหตุให้ริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกันโดยไม่ได้ตั้งใจ ฝ่ายหวันยิหวาได้สติก่อนจึงรีบเบือนหน้าหลบทันที

ใบหน้าเนียนเอียงหลบจนแทบจะซุกหน้าลงบนเตียงอยู่แล้ว แต่นั่นก็ทำให้จิระสังเกตเห็นว่าหน้าของเธอแดงระเรื่อจนถึงใบหูเลยทีเดียว ซึ่งก็ไม่ต่างกับเขาสักเท่าไร เพราะหัวใจเขาตอนนี้ก็เต้นไม่เป็นส่ำเหมือนกัน

‘เมื่อกี้มันคือ...จูบใช่ไหม’ หวันยิหวาหลับตาแน่นไม่กล้าเผชิญหน้ากับชายหนุ่ม

ถึงแม้จะเพียงชั่วอึดใจแต่มันก็ทำให้เกิดความอบอุ่นอย่างน่าประหลาด ความอบอุ่นแผ่ซ่านจากกลีบปากไปพวงแก้มและเรื่อยไปทั่วใบหน้าก่อนที่จะกระจายไปสู่ทั่วร่างกาย อย่าพูดถึงหัวใจเลยหนอมันเต้นดังระรัวแรงเหมือนจะทะลุออกมานอกอกเสียให้ได้กระนั้น กลัวเหลือเกิน...กลัวเขาจะได้ยิน คิดได้ดังนั้นหวันยิหวาจึงพยายามเบี่ยงตัวเพื่อจะลุกขึ้นแต่ก็ไม่สามารถหลุดจากวงแขนของเขาได้ ร่างบางจึงเงยมองชายหนุ่มหมายจะให้ปล่อย แต่เมื่อหล่อนสบตากับเขามันทำให้เธอหัวใจวูบไหวชอบกล ใบหน้าจิระซึ่งตอนนี้อยู่ใกล้...ใกล้มาก แววตาเขาเหมือนมีประกายวิบวับกำลังจ้องมองหล่อนอยู่

“จี ปล่อยหวาได้แล้ว” หวันยิหวาเอ่ยพูดเมื่อขึ้นมาในที่สุด จิระรู้สึกตัวจึงปล่อยหล่อนเป็นอิสระ ทันทีที่ลุกขึ้นได้หวันยิหวารีบหันหลังก้มหน้างุดหลบสายตาของจิระที่ยังคงมองมาที่เธอ หน้านวลแดงซ่านด้วยความเขินอาย
เงียบกันไปพักใหญ่ จนจิระทนไม่ไหวจึงเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมา

"หวา..." จิระเรียกเสียงแผ่วเบา

"ขอโทษนะ เรื่องเมื่อกี้..." ชายหนุ่มกล่าว

"ม...มันไม่ใช่ความผิดของจีสักหน่อย มันก็แค่...อุบัติเหตุ" เธอเอ่ยเบาๆ แต่ปลายเสียงของเธอออกจะสั่นๆ ชอบกล

"แต่..." เขาพูดไปครู่ก่อนจะเงียบไปเพื่อหาคำพูดที่จะไม่ทำให้หญิงสาวเสียใจ

"ช่างมันเถอะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว" เธอยิ้มบางๆ ให้เขา

"เราว่ารีบเก็บของกันดีกว่า เดี๋ยวเจก็คงมาแล้ว" หญิงสาวเปลี่ยนเรื่องคุยซึ่งชายหนุ่มก็ยินดี เพราะเธอคงไม่อยากให้เอ่ยเรื่องนี้กันอีก จิระรับคำเบาๆ หวันยิหวาทำท่าจะลุกขึ้นเก็บของแต่เขาเอื้อมไปจับมือของหล่อนเอาไว้ก่อน

"แว่นยังไม่ได้ใส่เลยแล้วจะมองเห็นเหรอ...เอาใส่ซะ" ชายหนุ่มหยิบแว่นที่ตกอยู่ข้างเตียงขึ้นมา แล้วค่อยๆ บรรจงสวมให้เธอ ดวงตากลมโตของเธอจ้องมองมาที่เขา และนั่นทำให้หัวใจของชายหนุ่มกระตุกไหววูบอีกครั้ง
"ใส่ซะ ไหนขอจีดูอีกทีสิ แผลเป็นไงมั่ง" จิระดึงหญิงสาวเข้ามาใกล้ๆ เพื่อดูรอยแดงที่หน้าผาก

"ยังแดงๆ อยู่เลย" ชายหนุ่มค่อยๆ แตะนิ้วลงบนรอยแดงนั้น ก่อนจะเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้

"เพี้ยง! หายเจ็บแล้วน้า" ลมอุ่นปะทะที่หน้าผากของหญิงสาว แก้มนวลเรื่อขึ้นทันตา

"บ้า ทำยังกะว่าเราเป็นเด็กไปได้" หวันยิหวาค้อนให้วงใหญ่ ก่อนรีบเดินหลบไปเก็บของเพื่อปกปิดอาการเขินของตนเอง




ปาลิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 ส.ค. 2554, 10:44:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ส.ค. 2554, 10:58:04 น.

จำนวนการเข้าชม : 2481





   ตอนที่ 2 : สัญญาข้างหน้าต่าง >>
ปาลิตา 15 ส.ค. 2554, 10:47:04 น.
ยังจำคู๋จิระกับหวันยิหวากันได้ไหมเอ่ย

เป็นคู่หนึ่งในเรื่องเหตุเกิดที่...หัวใจค่ะ

อันนี้เป็นตอนรีไรท์ใหม่ เลยแยกออกมาจากเรื่องก่อน

เพื่อความกระชับของเนื้อหาค่ะ


anOO 15 ส.ค. 2554, 16:13:15 น.
ไม่เคยอ่านเรื่องก่อนหน้านี้
งั้นก็ตามอ่านเรื่องนี้แล้วกันค่ะ


พี่ยอด 15 ส.ค. 2554, 19:10:03 น.
ยังจำตัวละครกับคนแต่งได้นะ


ปาลิตา 15 ส.ค. 2554, 20:55:37 น.
พี่ยอดขา...น้องมารายงานตัวแล้วค่ะ


หนูไม่รู้ 15 ส.ค. 2554, 22:30:40 น.
ดีใจที่เห็นชื่อคุณปาลิตา พอเข้ามาเห็นเป็นจีกับหวายิ่งดีใจใหญ่เลย ติดตามมานานมาก คราวนี้เอาให้จบเลยนะคะ


ปาลิตา 16 ส.ค. 2554, 02:38:15 น.
คู่นี้เขียนเกือบเสร็จแล้วค่ะ เหลือแค่ตอนท้ายอีกนิดเดียวเท่านั้น จบคู่พี่จะรีบเอคู่น้องมาลงนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account