เล่ห์รัก..กับดักนายพราน (รีไรท์)
Tags: อิศนะ วรดา ไร่ส้ม เชียงราย
ตอน: ตอนที่ 1.
อิศนะแอบชำเลืองมองครึ่งเสี้ยวหน้าของคนที่กำลังหลับตาพริ้มซบไหล่ของเขาอย่างพิจารณาอีกครั้ง ดวงตาดำใหญ่ปิดสนิทอยู่ภายใต้แผงขนตายาวงอน จมูกโด่งแหลมเล็กปลายรั้นนิดๆรับกับริมฝีปากบางเต็มอิ่มได้รูปสีชมพูระเรื่อ ผมยาวสลวยสีดำขลับสยายยาวกินเนื้อที่ลงมาบนอกของเขาจนได้กลิ่นแชมพูหอมอ่อนๆ
อิศนะไม่ได้รู้จักหญิงสาวคนนี้ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าหล่อนขึ้นรถมาจากที่ไหน เมื่อรถทัวร์ปรับอากาศชั้นหนึ่งสายกรุงเทพฯ-เชียงรายเข้าจอดเทียบท่าที่สถานีขนส่งจังหวัดลำปาง อิศนะก็คว้าเป้เพียงใบเดียวขึ้นสะพายไหล่ตรงดิ่งมาขึ้นรถคันนี้ในทันที
เมื่อขึ้นมายืนอยู่บนรถชายหนุ่มก็สอดส่ายสายตามองหาที่นั่งว่างๆก่อนจะพบว่ามันอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่ที่เขายืนอยู่ ที่นั่งด้านในติดหน้าต่างมีหญิงสาวคนหนึ่งจับจองอยู่ก่อนแล้ว ขณะนั้นเจ้าหล่อนกำลังชะเง้อมองออกไปยังนอกหน้าต่างรถดูผู้คนที่กำลังเดินขวักไขว่ไปมาอย่างเพลิดเพลิน อิศนะสาวเท้าเดินไปหยุดยืนรีๆรอๆอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถามหญิงสาวผู้นั้นออกไปอย่างเกรงใจนิดๆ
“เอ่อ...คุณครับ ที่ตรงนี้มีคนนั่งหรือเปล่าครับ”
ดวงตาคู่โตดำขลับตวัดหันมามองอิศนะเกือบจะทันทีและก็คงเป็นเพราะหน้าสวยๆกับเจ้าลูกนัยน์ตาดำขลับของหญิงสาวตรงหน้านั่นเองที่ตรึงให้อิศนะยืนนิ่งอยู่กับที่
“ไม่มีค่ะ”
หญิงสาวตอบเขาด้วยน้ำเสียงเรียบๆไม่ต่างจากสีหน้าในตอนนั้น
“อ่า...งั้นขอผมนั่งตรงนี้ด้วยคนนะครับ”
หญิงสาวพยักหน้าน้อยๆแทนคำตอบ อิศนะจึงจัดการซุกเป้เอาไว้บนที่วางสัมภาระเหนือศีรษะก่อนจะทรุดตัวลงนั่งแล้วหันไปยิ้มกว้างให้หญิงสาวอย่างพยายามจะเสนอไมตรี แต่เจ้าหล่อนกลับเมินหน้าหนีและไม่มีทีท่าว่าอยากจะสนองตอบไมตรีใดๆของเขาทั้งสิ้น ยิ้มกว้างขวางของอิศนะจึงค่อยๆหุบลง
อิศนะไหวไหล่นิดๆอย่างเคยชิน ก่อนจะเอนอิงแผ่นหลังลงพิงเบาะรถรอคอยเวลารถออกจากท่า ไม่กี่นาทีต่อจากนั้นรถทัวร์ปรับอากาศคันดังกล่าวก็เริ่มเคลื่อนตัวออกจากสถานีมุ่งตรงไปยังจังหวัดเหนือสุดของประเทศไทย
พอรถออกห่างจากตัวเมืองลำปางได้ไม่เท่าไหร่ฝนเม็ดบางก็เริ่มโปรยปรายลงมาบดบังทัศนียภาพของสองข้างทาง อิศนะเอนศีรษะลงพิงกับพนักเบาะรถปล่อยความคิดเลื่อนลอยเรื่อยเปื่อยกระทั่งรู้สึกว่าหนังตาทั้งสองข้างเริ่มจะหนักๆและแล้วชายหนุ่มก็เคลิ้มหลับไปในที่สุด
ชายหนุ่มมาสะดุ้งตื่นอีกครั้งเมื่อรู้สึกได้ถึงแรงกระแทกเบาๆที่หัวไหล่ ศีรษะที่เต็มไปด้วยเส้นผมนุ่มๆหอมๆของคนข้างๆนั่นเองที่เอนไถลมาซบนิ่งอยู่ที่ไหล่ของเขา อิศนะเกร็งตัวนิดๆพยายามจะขยับตัวนั่งใหม่และคิดเอาเองว่าอาการขยับตัวของเขาคงจะทำให้หญิงสาวคนข้างๆรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเองแต่ทว่าเจ้าหล่อนก็ยังคงหลับสนิทไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกตัวใดๆทั้งสิ้น
ผู้หญิงอะไรขี้เซาชะมัด!
อิศนะค่อนขอดในใจหากแต่ใจจริงแล้วชายหนุ่มก็ไม่ได้ปรารถนาจะให้หญิงสาวรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในยามนี้หรอก ยิ่งใกล้ อิศนะก็ยิ่งมีโอกาสได้พินิจพิจารณาหญิงสาวอย่างถนัดถนี่
รูปหน้าของเจ้าหล่อนสวย เครื่องหน้าแต่ละชิ้นแลดูกระจุ๋มกระจิ๋มอยู่ในที่ในทางของมันอย่างเหมาะเจาะ ผิวแก้มของหล่อนเนียนละเอียดเหมือนผิวเด็กอ่อนขาวผ่องอมชมพูและใสจนแทบจะเห็นเส้นเลือดฝอยเล็กๆใต้ผิวเนื้อ
ภายนอกรถฝนยังคงตกพรำไม่ขาดสายเมื่อรถทะยานขึ้นสู่ยอดเขาสูงอากาศภายในรถก็ทวีความหนาวเย็นมากยิ่งขึ้น บัสโฮสเตสสาวประจำรถทัวร์คันดังกล่าวกำลังเดินแจกจ่ายผ้าห่มผืนบางสีแดงสดให้กับผู้โดยสารบนรถทัวร์จนกระทั่งมาถึงที่นั่งของเขา
“ผ้าห่มของคุณกับภรรยาค่ะ”
อิศนะกำลังจะอ้าปากบอกปฏิเสธอยู่แล้วเชียวว่าหญิงสาวคนข้างๆไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาแต่ชายหนุ่มก็เปลี่ยนใจในนาทีสุดท้าย ที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรหรอกหากจะมีใครสักคนเข้าใจผิดคิดว่าหญิงสาวคนข้างๆนี้เป็นภรรยาของเขา เพราะภาพที่หญิงสาวเอนอิงร่างทั้งร่างมาซบซุกอยู่ระหว่างซอกไหล่กับอกกว้างๆของเขาในตอนนี้มันหมิ่นเหม่ต่อการเข้าใจผิดเป็นอย่างยิ่ง
อิศนะเหลือบมองคนที่กำลังหลับใหลอีกครั้งก่อนจะยิ้มนิดที่มุมปาก
ภรรยาอย่างนั้นหรือ...
ก็ไม่เลว สวยๆแบบนี้ อิศนะไม่ขัดข้องเลยสักนิด ให้นั่งกินตำแหน่งภรรยาของเขาเล่นๆสักเดือนสองเดือนใครมันจะไปว่าอะไร แต่ถ้าหล่อนอยากจะครองตำแหน่งนั้นอย่างถาวรตลอดกาลแล้วละก็ อิศนะอาจจะต้องขอเวลาคิดนานกว่านี้อีกสักหน่อยเพราะจนถึงวินาทีนี้อิศนะก็ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าเขายังไม่มีความคิดที่จะหาผู้หญิงที่ไหนมาตบแต่งให้เป็นภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมายสักที
“สามสิบปีนี้แล้วนะแก จะทำตัวล่องลอยไปถึงไหน” จู่ๆคำพูดของชุมพลเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขาก็ผุดขึ้นมาในความคิดอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“ควงผู้หญิงไม่เคยซ้ำหน้า ระวังเถอะ จะถูกจับเข้าสักวัน”
“ถ้าคนอย่างนายอิศนะจับง่ายขนาดนั้น ฉันไม่อยู่เป็นโสดมาจนถึงทุกวันนี้หรอก”
อิศนะตอบโต้เพื่อนหนุ่มกลับไปอย่างคนที่เชื่อมั่นและทะนงตนอย่างที่สุด ก็จะไม่ให้เขารู้สึกเช่นนั้นได้อย่างไรกันเล่า ในเมื่อใครต่อใครก็ต่างพูดกันทั้งนั้นว่าอิศนะเป็นผู้ชายสำเร็จรูปที่หาไม่ได้ทั่วไปตามท้องตลาด แล้วอิศนะก็จำได้ดีเชียวแหละว่าเขาเนื้อหอมมาตั้งแต่สมัยรุ่นๆ เขาจึงเป็นผู้ชายอีกคนหนึ่งที่น่าจะได้รับการยอมรับจากกินเนสบุคว่าใช้ผู้หญิงเปลืองไม่แพ้หนุ่มหล่อคนไหนในโลก
อิศนะไม่ปฏิเสธว่าตนเองเป็นคนเจ้าชู้ ชื่อเสียงเรื่องการเป็นเสือผู้หญิงของเขาถูกลือกระฉ่อนอยู่ในสังคมเล็กๆของเมืองเชียงรายมานานแล้ว ถึงอย่างนั้นก็เถอะ จะมีหญิงสาวสักกี่คนกันที่อยากจะปฏิเสธการเป็นคู่ควงของเขา ผู้ชายที่เกิดมาบนความพร้อม พร้อมทั้งรูป พร้อมทั้งทรัพย์สมบัติ ยังไม่นับความพิเศษอีกข้อหนึ่งนั่นก็คือหากหญิงสาวคนใดสามารถพิชิตใจของเขาได้ เธอผู้นั้นจะได้ก้าวขึ้นไปสู่ตำแหน่งแม่เลี้ยงใหญ่แห่งเมืองเชียงรายในอนาคตอันใกล้นี้อย่างแน่นอน
อิศนะมองผ้าห่มผืนบางในมือสลับกับมองคนข้างๆอย่างชั่งใจ ตัดสินใจคลุมผ้าห่มผืนนั้นไปบนร่างบางของหญิงสาว น่าแปลก แม่สาวหน้าใสคนนี้ดูเหมือนเจ้าหล่อนจะไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะต้อนรับฤดูกาลอันหนาวเหน็บที่กำลังจะมาถึงนี่เลย หล่อนต้องหนาวแน่ล่ะ ขนาดว่าอิศนะสวมเสื้อแจ็คเกตเนื้อค่อนข้างหนาขนาดนี้เขาก็ยังรู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกที่แล่นลิ่วสู่ผิวเนื้อ
ฤดูกาลกำลังจะแปรเปลี่ยนจากปลายฝนเดินทางเข้าสู่ฤดูหนาว อีกไม่กี่วันก็จะสิ้นสุดเดือนตุลาคมแล้ว เริ่มต้นเดือนพฤศจิกายนเมื่อไหร่ ที่เชียงรายก็เห็นจะหนาวเข้าไส้ แสดงว่าหญิงสาวผู้นี้มิได้มีความคุ้นชินกับภูมิอากาศทางเหนือแต่อย่างใด และถ้าจะให้อิศนะคาดเดา เชื่อขนมกินได้เลยว่าเจ้าหล่อนไม่ได้มีพื้นเพอยู่ทางแถบเหนืออย่างแน่นอน
แล้วหล่อนมาทำอะไรที่เชียงราย อิศนะแอบตั้งคำถามเล่นๆในใจอย่างคนที่ไม่รู้จะคิดเรื่องอะไร หน้าใสๆผิวอ่อนๆแบบนี้ อายุน่าจะสักเท่าไหร่กันนะ สิบเก้าไม่ก็ยี่สิบ ไม่เกินยี่สิบสองละเอ้า อิศนะคาดคะเนอายุไปตามผิวหน้าอ่อนใสของหญิงสาวก่อนจะไล่สายตามองสำรวจไปตลอดร่างเล็ก
รูปร่างของหญิงสาวจัดเข้าประเภทอ้อนแอ้นบอบบางเลยก็ว่าได้ ผิวที่โผล่พ้นออกมาจากผ้าห่มขาวผ่องเนียนละเอียดราวกับแดดแรงๆนั่นแทบจะไม่ได้กร่ำกรายถูกต้องผิวเนื้อของหล่อนสักเท่าไหร่แสดงให้รู้ว่าหล่อนไม่ได้อยู่ในฐานะแร้นแค้นต้องทำงานหนักเลี้ยงชีพอย่างแน่นอน ข้อมือของหล่อนเล็กบาง นิ้วเรียวยาวสะอาดสะอ้าน ปลายเล็บถูกเจียนมนได้รูปสวยเสมือนได้รับการเอาใจใส่จากผู้เป็นเจ้าของเป็นอย่างดี
อิศนะคิดขณะสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ไม่ได้สูดเอาแค่ออกซิเจนเข้าปอดไปอย่างเดียว หากแต่สูดเอากลิ่นหอมอ่อนๆจากกายสาวที่แนบชิดสนิทแน่นเข้าไปเสียเต็มปอด กลิ่นเนื้อสาวผสมผสานกับกลิ่นน้ำหอม หอมกรุ่นติดจมูก
กลิ่นหอมแบบนี้ คุ้นๆ อิศนะนึกออกละ DKNY BE DELICIOUS ไม่ผิดแน่ น้ำหอมกลิ่นแอปเปิ้ลเขียวผสมผสานกับกลิ่นดอกบูเก้ อิศนะเพิ่งจะซื้อน้ำหอมกลิ่นนี้เป็นของขวัญวันเกิดให้แก่อิงอรน้องสาวเพียงคนเดียวของเขาไปเมื่อเดือนที่แล้ว ยังจำได้ดีว่าเจ้าน้ำหอมขวดเล็กกระจิดริดนั่นราคาของมันไม่ยักกระจิดริดเหมือนภาชนะที่ใช้ใส่
อิศนะวนเวียนสำรวจเรือนร่างเล็กที่ยังคงหลับใหลซบไหล่ของเขาอย่างเพลิดเพลินไม่รู้เบื่อกระทั่งรถทัวร์คันนั้นเริ่มเคลื่อนเข้าสู่สถานีขนส่งจังหวัดเชียงราย ชายหนุ่มลอบถอนใจเบาๆ สิ้นสุดการเดินทางเสียแล้วเวลาแห่งความรื่นรมย์ของอิศนะท่าจะต้องจบเพียงเท่านี้กระมัง
++++++++++++++++++++++++
“คุณ! คุณ ถึงเชียงรายแล้วคร๊าบ”
อิศนะอดที่จะหัวเราะออกมาเบาๆไม่ได้เมื่อเห็นแม่คนขี้เซาสะดุ้งตื่นตกใจ หน้าสวยๆของเจ้าหล่อนตอนตื่นนอนใหม่ดูเป๋อเหรอ หญิงสาวกรอกตามองไปทางซ้ายทีทางขวาทีท่าทางเหมือนจะยังดูงงๆกับชีวิต
“อุ้ย!”
อิศนะได้ยินเสียงหญิงสาวอุทานเบาๆในจังหวะที่หล่อนดีดตัวออกจากซอกไหล่ของเขา แก้มขาวๆแดงระเรื่อเป็นสีเข้มขึ้นมาทันตา
“ขอโทษค่ะ”
หญิงสาวพึมพำกล่าวคำขอโทษเบาๆแต่เมื่อมองเห็นผ้าห่มผืนบางที่ขยุกขยุยกองอยู่บนตักของตนเองคิ้วเรียวงามก็เลิกขึ้นนิดๆก่อนที่ดวงตาคู่โตดำขลับจะตวัดหันมามองอิศนะอย่างตั้งคำถาม
อิศนะแสร้งไม่รู้ไม่ชี้กับสีหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามนั้น เขาลุกขึ้นยืนช้าๆทำท่าบิดขี้เกียจสองสามทีก่อนจะจัดการรื้อค้นเอากระเป๋าเป้ของตนเองออกมาจากที่วางสัมภาระเหนือศีรษะ
บรรดาผู้โดยสารคนอื่นๆต่างทยอยเดินลงจากรถจนเกือบจะหมดทุกคนแล้ว เมื่อเห็นหญิงสาวยังคงนั่งจุมปุกอยู่ที่เดิมไม่มีทีท่าว่าจะขยับเขยื้อนไปไหนชายหนุ่มก็เปรยขึ้นเบาๆ
“สุดสายแล้วนะครับ”
หญิงสาวเหลือบตาขึ้นมองอิศนะแวบหนึ่งก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือลงไปหยิบกระเป๋าเดินทางที่วางอยู่ตรงบริเวณที่พักเท้ามากระชับเอาไว้มั่น อิศนะหันกลับมาสนใจกับสัมภาระของตนเองอีกครั้งเขาเหวี่ยงเป้ใบเล็กขึ้นสะพายไหล่สาวเท้าเดินตามผู้โดยสารคนอื่นๆตรงไปที่ประตูทางลงซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าของตัวรถ
“คุณ คุณคะ”
อิศนะชะงักเท้า หันกลับไปมองทางเบื้องหลังอย่างแปลกใจนิดๆ
“คุณเรียกผมงั้นหรือ”
“ค่ะ คือฉันมีเรื่อง อยากจะรบกวนถามคุณสักหน่อย”
“ผมว่าเราลงจากรถกันก่อนเถอะ มีอะไรไปถามไถ่กันข้างล่างดีกว่า”
อิศนะไม่รอคำตอบจากอีกฝ่ายเขาก้าวยาวๆลงจากรถโดยมีร่างเล็กๆของหญิงสาวตามติดมาด้วย สองหนุ่มสาวเดินฝ่าฝูงชนที่กำลังยืนแออัดกันอยู่ที่ชานชลาออกมายังที่โล่งๆ ตรงหน้าร้านสะดวกซื้อซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณท่ารถแห่งนั้น
“คุณมีอะไรจะถามผม ว่ามาเลยครับ”
“คือ...คุณเป็นคนที่นี่รึเปล่าคะ ฉันหมายถึง คุณเป็นคนเชียงรายรึเปล่า”
“ครับ ผมเกิด แล้วก็โตที่นี่”
เป็นครั้งแรกที่อิศนะได้เห็นรอยยิ้มของหญิงสาว ฟันขาวๆซี่เล็กๆเรียงเป็นระเบียบราวกับมุกเม็ดงาม ที่มุมปากทั้งสองข้างปรากฏรอยบุ๋มเล็กๆ ทำให้ผู้เป็นเจ้าของรอยยิ้มนั้นทวีความน่ามองขึ้นอีกมากมาย
“คือ...ฉันเพิ่งเคยมาเชียงรายเป็นครั้งแรก ไม่รู้จักใครที่นี่เลย ก็เลยอยากจะรบกวนคุณช่วยแนะนำที่พักในเชียงรายให้ฉันหน่อยได้มั้ยคะ”
“เรื่องแค่นี้เอง ไม่รบกวนอะไรนี่ครับ ว่าแต่คุณต้องการที่พักแบบไหนล่ะ แบบโรงแรมหรูระดับห้าดาว แบบรีสอร์ทกลางป่ามีกลิ่นอายแอดเวนเจอร์หน่อยๆ หรือว่าแบบโฮมสเตย์บนยอดดอย เอาแบบสัมผัสทะเลหมอกยามเช้า ที่เชียงรายนี่มีหมดล่ะครับ”
ท่าทีครุ่นคิดเอียงคอน้อยๆกับกริยาขบริมฝีปากตนเองของหญิงสาวมันดึงดูดความสนใจของอิศนะให้หันมามองสำรวจหญิงสาวตรงหน้าอย่างถ้วนถี่อีกครั้ง
ผู้หญิงคนนี้แปลก...หล่อนทำอะไรก็ดูน่ามองไปเสียทั้งหมด
“อยากได้โรงแรมที่อยู่ในตัวเมืองค่ะ ไม่ต้องถึงระดับห้าดาวก็ได้ ไม่เน้นหรูหราอะไร ต้องการแค่ว่าเดินทางไปไหนมาไหนสะดวกก็พอค่ะ”
“ถ้าเป็นในเมือง ช่วงไฮท์ซีซั่นแบบนี้เห็นทีจะยากครับ โรงแรมส่วนใหญ่จะถูกพวกกรุ๊ปทัวร์จองเอาไว้ล่วงหน้า บางที่เขาจองกันข้ามปีเลยทีเดียว”
“อย่างนั้นหรือคะ”
หน้าสวยๆนั้นหมองลงไปทันที คิ้วเรียวเริ่มขมวดมุ่น อิศนะซ่อนยิ้มขณะบังคับน้ำเสียงของตัวเองให้ดูจริงจังและน่าเชื่อถือเมื่อกล่าวประโยคถัดมา
“แต่ถ้าคุณอยากจะพักโรงแรมในเมืองจริงๆ ผมก็พอจะแนะนำโรงแรมให้คุณได้ที่หนึ่ง ไม่ได้หรูหราขนาดห้าดาว แต่บริการเขาก็ดีเยี่ยม สะดวกสบาย ที่สำคัญมันอยู่ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่”
“แล้วห้องพักจะไม่เต็มอีกหรือคะ”
“เชื่อมั้ยว่าผมหาห้องพักให้คุณได้”
อิศนะยิ้มนัยน์ตาเจ้าเล่ห์ขณะล้วงเอาโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงสีเข้มตัวนั้น เขาไล่ดูเบอร์โทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่งจึงได้กดโทรออก
“ผมอิศนะครับ ขอสายตรงผู้จัดการฯหน่อย”
อิศนะเจรจากับปลายสายอยู่ครู่ก่อนจะกดวางสายแล้วหันมายิ้มให้หญิงสาว
“เรียบร้อย”
อิศนะกล่าวยิ้มๆในขณะที่หญิงสาวมองหน้าเขาอย่างเป็นปริศนา
“เดี๋ยวคุณไปที่โรงแรมแกรนลีดนะ ติดต่อรีเซฟชั่น บอกเขาว่าคนชื่ออิศนะโทรมาจองห้องพักไว้ให้คุณแล้ว รับรอง ทางโรงแรมจะเปิดห้องพักที่ดีที่สุดให้คุณภายในห้านาที”
หญิงสาวมองหน้าอิศนะด้วยสายตางุนงงแกมทึ่งนิดๆ
“เอ่อ...ใช้เส้นหรือไงคะ”
“ก็...ใช้กำลังภายในนิดหน่อย”
อิศนะตอบยิ้มๆนัยน์ตาคมกรุ้มกริ่มกวาดมองไปทั่วใบหน้างามอย่างพึงใจ
“เอ่อ...ขอบคุณมากนะคะ ที่ช่วยเป็นธุระให้”
หญิงสาวกล่าวขอบคุณเขาอย่างมีมารยาท แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นประกายตาพราวๆของอีกฝ่ายที่ประกาศอยู่โต้งๆว่าเขากำลังให้ความสนใจหล่อนอยู่ไม่น้อย
“ไม่เป็นไรครับ ผมก็แค่ทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดี คุณ...มาเที่ยวหรือครับ” อิศนะชวนคุยต่ออย่างพยายามจะถ่วงเวลาไม่ให้หญิงสาวพาหน้าสวยๆหวานจนชวนฝันนั้นจากเขาเร็วเกินไปนัก
“เปล่าค่ะ ฉันมาหาเพื่อน เขาทำงานอยู่ที่นี่”
หญิงสาวอธิบายสั้นๆก่อนจะมองกวาดไปทั่วบริเวณสถานีขนส่งแห่งนั้น
“เอ่อ...ฉันจ้างสองแถวที่จอดอยู่ตรงนั้นไปส่งโรงแรมที่คุณบอกได้ใช่มั้ยคะ”
หญิงสาวชี้ให้ชายหนุ่มดูบรรดารถสองแถวรอบเมืองที่จอดเรียงรายอยู่ใกล้ๆพร้อมกับขอความคิดเห็น อิศนะมองกราดไปรอบๆบริเวณนั้นกระทั่งสะดุดตากับเจ้ารถจิ๊ปเชอรากีคันเขื่องที่กำลังแล่นตะบึงตะบอนจนฝุ่นตลบเข้ามาภายในบริเวณสถานีขนส่งแห่งนั้น
“ให้ผมไปส่งคุณดีกว่ามั้ยครับ”
อิศนะเสนอทางเลือกให้หญิงสาวอย่างคนมีน้ำใจแต่หญิงสาวกลับสั่นหน้าปฏิเสธ
“ไม่รบกวนคุณดีกว่าคะ”
“ไม่รบกวนอะไรนี่ครับ ยังไงๆผมก็ต้องผ่านทางนั้นอยู่แล้ว นั่น รถผมมารับพอดีเลย”
อิศนะบุ้ยใบ้ให้หญิงสาวมองดูเจ้าแกรนด์เชอรากีสีเขียวเข้มที่เขยื้อนมาจอดอยู่ตรงหน้า คนขับเป็นชายหนุ่มผิวขาว หน้าตาตี๋ๆ รุ่นราวคราวเดียวกับอิศนะ หนุ่มคนนั้นบีบแตรเร่งแปร๋นๆในขณะที่รถยังติดเครื่องครางกระหึ่มอย่างไม่เกรงใจผู้คนที่อยู่บริเวณนั้น
“เอ่อ...คือฉันว่า...ฉันไปเองสะดวกกว่า”
“ไปกับผมเถอะครับ รับรอง ผมไม่หลอกพาคุณไปขายแน่ เชิญครับ รถจอดตรงนี้นานไม่ได้”
พูดจบอิศนะก็เดินตรงดิ่งไปเปิดประตูด้านหลังแล้วพยักพเยิดหน้าเป็นเชิงให้หญิงสาวขึ้นรถก่อนจะหันไปบอกคนขับที่ตอนนี้กำลังเขม่นตามองมาที่หญิงสาวอย่างสนใจเป็นพิเศษ
“แวะที่แกรนด์ลีดก่อนนะชุม”
“อ้าว ไม่กลับไปนอนที่บ้านหรือ”
“เออน่ะ บอกให้แวะก็แวะเถอะ ไม่ต้องถามมาก”
“โอเคๆ แกรนด์ลีดก็แกรนด์ลีด ขึ้นรถสิ ชักช้าเดี๋ยว รปภ.ก็มาไล่หรอก เชิญครับคุณ! ร.ป.ภ.ท่านท้าวสะเอวมองตาขวางแล้วครับ” ประโยคท้ายคนขับยื่นหน้ามาบอกหญิงสาวด้วยน้ำเสียงกวนๆ
หญิงสาวทำท่าลังเลใจอยู่ครู่ก่อนจะตัดสินใจก้าวขึ้นรถมากับสองหนุ่ม อิศนะหันไปยิ้มให้ผู้ร่วมโดยสารที่กำลังนั่งทำหน้าเคร่งเครียดท่าทางระแวดระวังอยู่เบาะหลังนิดหนึ่งก่อนจะหันกลับมาถามไถ่คนขับรถด้วยน้ำเสียงอันแสดงถึงความสนิทสนม
“มาเร็วนะเอ็ง”
“แน่ล่ะ เหยียบจากรีสอร์ทจนมิดไมล์”
“งั้นเชียว”
คนขับพยักหน้าหงึกหงักขณะเหลือบตาขึ้นมองกระจกหลัง ไม่ได้สนใจเรื่องรถราหรือการจราจรอะไรทั้งสิ้นแต่สนใจคนสวยหน้าใสที่นั่งอยู่เบาะหลังนั่นต่างหาก
“ไง! ไปขึ้นห้างส่องสัตว์ ได้สัตว์สองเท้ากลับมาฝากแม่เลี้ยงด้วยรึไง” คนขับหน้าทะเล้นเปรยขึ้นมาลอยๆ ดวงตาคู่รียาวมองเพื่อนหนุ่มอย่างคนที่รู้เท่าทันกันมาโดยตลอด
“ไม่ต้องพูดมาก ขับไป”
อิศนะบอกเสียงเข้มก่อนจะปรายตามองคนที่นั่งอยู่เบาะหลังอย่างเกรงใจนิดๆ ครั้นเห็นหญิงสาวไม่ได้สนใจการสนทนาของสองหนุ่มด้านหน้าเพราะกำลังตื่นเต้นและเพลิดเพลินกับทิวทัศน์สองข้างทางรอบตัวเมืองเชียงรายอิศนะก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง
“ไปได้มาจากไหน จิ้มลิ้มน่ารักเชียว แล้ว...ได้รึยัง”
ท้ายประโยคชุมพลลดเสียงเบาลงพร้อมกับหลิวตามองเพื่อนรักราวกับกำลังอิจฉาเขาเสียเต็มประดา อิศนะถอนหายใจเฮือกเค้นเสียงตอบเพื่อนหนุ่มอย่างรำคาญ
“ไอ้บ้า หุบปากซะทีเถอะน่า ถามอยู่ได้”
“กะฮาอยากฮู้ จะไดๆ แม่ยิงนี่คิงขางก่ะ” (ก็กูอยากรู้ ยังไงๆ มึงหวงนักรึไง)
“หยักปากไปเลย บ่ะอั่นเจอตีนฮา” (หุบปากไปเลย ไม่งั้นมึงจะเจอตีนกู)
เมื่อเพื่อนหนุ่มส่งภาษาท้องถิ่นมา อิศนะก็ตอบกลับไปด้วยภาษาเดียวกัน เบาพอที่จะได้ยินกันแค่สองคนเท่านั้น ชุมพลยิ้มร่าส่งสายตาล้อเลียนเพื่อนหนุ่มหากแต่ก็ยอมปิดปากตัวเองนับแต่นั้น
กว่าสิบนาทีจิ๊ปเชอรากีคันนั้นก็แล่นลิ่วเข้ามาจอดสนิทอยู่ที่บริเวณลานจอดรถเบื้องหน้าอาคารสูงรูปทรงทันสมัยมีป้ายชื่อสถานที่ตั้งเด่นสะดุดตาว่าโรงแรมแกรนด์ลีด
“ขอบคุณมากนะคะ ที่อุตส่าห์มาส่ง” หญิงสาวบอกพลางชะเง้อมองป้ายชื่อโรงแรมตรงหน้าด้วยอาการโล่งอก สีหน้าหวาดระแวงเมื่อครู่เริ่มคลายลง
“ไม่เป็นไรครับ ให้ผมเดินไปส่งคุณที่ล้อบบี้มั้ย”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่นี้ก็เกรงใจจะแย่แล้ว ยังไงก็ขอบคุณคุณทั้งสองคนนะคะ”
“โชคดีนะครับ”
“เช่นกันค่ะ”
หญิงสาวกระชับกระเป๋าเดินทางมาถือไว้แล้วเอื้อมมือเตรียมจะเปิดประตูรถ กำลังจะผลักออกไปอยู่แล้วเชียวแต่ดูเหมือนเจ้าหล่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้เสียก่อน
“เอ่อ ขอโทษอีกทีเถอะค่ะ ไม่ทราบคุณรู้จักไร่เทพปกรณ์รึเปล่าคะ”
อิศนะสบตากับชุมพลแวบหนึ่งก่อนจะหันมาตอบหญิงสาว
“รู้จักครับ เอ่อ มีอะไรรึเปล่าครับ”
“พอดีว่า เอ่อ เพื่อนฉันค่ะ เขาทำงานอยู่ที่ไร่นั้น”
“หมายความว่า คุณกำลังจะไปที่นั่น”
“ใช่ค่ะ พรุ่งนี้ฉันจะไปที่นั่น แต่ก็ยังไม่รู้เลยว่าไร่เทพปกรณ์อะไรนี่อยู่ที่ไหน รู้ก็แต่ว่าไร่เทพปกรณ์เป็นไร่ส้มชื่อดังของที่นี่ ก็ไม่น่าจะหายาก”
“ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลยครับ ดูเหมือนทางโรงแรมจะมีแผนที่บอกเส้นทางแจกฟรีด้วย”
อิศนะมองตามร่างระหงที่เพิ่งจะเดินลงจากรถไปอย่างครุ่นคิด ตกลงว่าจุดหมายปลายทางของผู้หญิงคนนั้นคือไร่เทพปกรณ์อย่างนั้นหรือ
...ไม่ทราบคุณรู้จักไร่เทพปกรณ์รึเปล่าคะ...
ไร่เทพปกรณ์...เขาต้องรู้จักสิ
จะไม่รู้จักได้ไง ก็นั่นมันไร่ของเขา บ้านของเขาเองนี่นา!
+++++++++++++++++++++++++
เอาพี่อิศมารีไรท์ อีกรอบค่ะ..เนื่องจากรอบแรกจบไม่ประทับใจ..เวอร์ชั่นนี้พี่อิศน่ารัก..หวานและหื่นได้ใจจริงๆ..อย่าลืมติดตามกันนะคะ..ตอนนี้พี่อิศมีเป็นรูปเล่มแล้ว..ถ้าใครสนใจเข้าไปดูรายละเอียดที่..เพจโอชิน77นะคะ..ส่วนอีบุคก็วางขายเรียบร้อยแล้วที่ mebmarket และ ookbee ค่ะ
อิศนะไม่ได้รู้จักหญิงสาวคนนี้ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าหล่อนขึ้นรถมาจากที่ไหน เมื่อรถทัวร์ปรับอากาศชั้นหนึ่งสายกรุงเทพฯ-เชียงรายเข้าจอดเทียบท่าที่สถานีขนส่งจังหวัดลำปาง อิศนะก็คว้าเป้เพียงใบเดียวขึ้นสะพายไหล่ตรงดิ่งมาขึ้นรถคันนี้ในทันที
เมื่อขึ้นมายืนอยู่บนรถชายหนุ่มก็สอดส่ายสายตามองหาที่นั่งว่างๆก่อนจะพบว่ามันอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่ที่เขายืนอยู่ ที่นั่งด้านในติดหน้าต่างมีหญิงสาวคนหนึ่งจับจองอยู่ก่อนแล้ว ขณะนั้นเจ้าหล่อนกำลังชะเง้อมองออกไปยังนอกหน้าต่างรถดูผู้คนที่กำลังเดินขวักไขว่ไปมาอย่างเพลิดเพลิน อิศนะสาวเท้าเดินไปหยุดยืนรีๆรอๆอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถามหญิงสาวผู้นั้นออกไปอย่างเกรงใจนิดๆ
“เอ่อ...คุณครับ ที่ตรงนี้มีคนนั่งหรือเปล่าครับ”
ดวงตาคู่โตดำขลับตวัดหันมามองอิศนะเกือบจะทันทีและก็คงเป็นเพราะหน้าสวยๆกับเจ้าลูกนัยน์ตาดำขลับของหญิงสาวตรงหน้านั่นเองที่ตรึงให้อิศนะยืนนิ่งอยู่กับที่
“ไม่มีค่ะ”
หญิงสาวตอบเขาด้วยน้ำเสียงเรียบๆไม่ต่างจากสีหน้าในตอนนั้น
“อ่า...งั้นขอผมนั่งตรงนี้ด้วยคนนะครับ”
หญิงสาวพยักหน้าน้อยๆแทนคำตอบ อิศนะจึงจัดการซุกเป้เอาไว้บนที่วางสัมภาระเหนือศีรษะก่อนจะทรุดตัวลงนั่งแล้วหันไปยิ้มกว้างให้หญิงสาวอย่างพยายามจะเสนอไมตรี แต่เจ้าหล่อนกลับเมินหน้าหนีและไม่มีทีท่าว่าอยากจะสนองตอบไมตรีใดๆของเขาทั้งสิ้น ยิ้มกว้างขวางของอิศนะจึงค่อยๆหุบลง
อิศนะไหวไหล่นิดๆอย่างเคยชิน ก่อนจะเอนอิงแผ่นหลังลงพิงเบาะรถรอคอยเวลารถออกจากท่า ไม่กี่นาทีต่อจากนั้นรถทัวร์ปรับอากาศคันดังกล่าวก็เริ่มเคลื่อนตัวออกจากสถานีมุ่งตรงไปยังจังหวัดเหนือสุดของประเทศไทย
พอรถออกห่างจากตัวเมืองลำปางได้ไม่เท่าไหร่ฝนเม็ดบางก็เริ่มโปรยปรายลงมาบดบังทัศนียภาพของสองข้างทาง อิศนะเอนศีรษะลงพิงกับพนักเบาะรถปล่อยความคิดเลื่อนลอยเรื่อยเปื่อยกระทั่งรู้สึกว่าหนังตาทั้งสองข้างเริ่มจะหนักๆและแล้วชายหนุ่มก็เคลิ้มหลับไปในที่สุด
ชายหนุ่มมาสะดุ้งตื่นอีกครั้งเมื่อรู้สึกได้ถึงแรงกระแทกเบาๆที่หัวไหล่ ศีรษะที่เต็มไปด้วยเส้นผมนุ่มๆหอมๆของคนข้างๆนั่นเองที่เอนไถลมาซบนิ่งอยู่ที่ไหล่ของเขา อิศนะเกร็งตัวนิดๆพยายามจะขยับตัวนั่งใหม่และคิดเอาเองว่าอาการขยับตัวของเขาคงจะทำให้หญิงสาวคนข้างๆรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเองแต่ทว่าเจ้าหล่อนก็ยังคงหลับสนิทไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกตัวใดๆทั้งสิ้น
ผู้หญิงอะไรขี้เซาชะมัด!
อิศนะค่อนขอดในใจหากแต่ใจจริงแล้วชายหนุ่มก็ไม่ได้ปรารถนาจะให้หญิงสาวรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในยามนี้หรอก ยิ่งใกล้ อิศนะก็ยิ่งมีโอกาสได้พินิจพิจารณาหญิงสาวอย่างถนัดถนี่
รูปหน้าของเจ้าหล่อนสวย เครื่องหน้าแต่ละชิ้นแลดูกระจุ๋มกระจิ๋มอยู่ในที่ในทางของมันอย่างเหมาะเจาะ ผิวแก้มของหล่อนเนียนละเอียดเหมือนผิวเด็กอ่อนขาวผ่องอมชมพูและใสจนแทบจะเห็นเส้นเลือดฝอยเล็กๆใต้ผิวเนื้อ
ภายนอกรถฝนยังคงตกพรำไม่ขาดสายเมื่อรถทะยานขึ้นสู่ยอดเขาสูงอากาศภายในรถก็ทวีความหนาวเย็นมากยิ่งขึ้น บัสโฮสเตสสาวประจำรถทัวร์คันดังกล่าวกำลังเดินแจกจ่ายผ้าห่มผืนบางสีแดงสดให้กับผู้โดยสารบนรถทัวร์จนกระทั่งมาถึงที่นั่งของเขา
“ผ้าห่มของคุณกับภรรยาค่ะ”
อิศนะกำลังจะอ้าปากบอกปฏิเสธอยู่แล้วเชียวว่าหญิงสาวคนข้างๆไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาแต่ชายหนุ่มก็เปลี่ยนใจในนาทีสุดท้าย ที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรหรอกหากจะมีใครสักคนเข้าใจผิดคิดว่าหญิงสาวคนข้างๆนี้เป็นภรรยาของเขา เพราะภาพที่หญิงสาวเอนอิงร่างทั้งร่างมาซบซุกอยู่ระหว่างซอกไหล่กับอกกว้างๆของเขาในตอนนี้มันหมิ่นเหม่ต่อการเข้าใจผิดเป็นอย่างยิ่ง
อิศนะเหลือบมองคนที่กำลังหลับใหลอีกครั้งก่อนจะยิ้มนิดที่มุมปาก
ภรรยาอย่างนั้นหรือ...
ก็ไม่เลว สวยๆแบบนี้ อิศนะไม่ขัดข้องเลยสักนิด ให้นั่งกินตำแหน่งภรรยาของเขาเล่นๆสักเดือนสองเดือนใครมันจะไปว่าอะไร แต่ถ้าหล่อนอยากจะครองตำแหน่งนั้นอย่างถาวรตลอดกาลแล้วละก็ อิศนะอาจจะต้องขอเวลาคิดนานกว่านี้อีกสักหน่อยเพราะจนถึงวินาทีนี้อิศนะก็ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าเขายังไม่มีความคิดที่จะหาผู้หญิงที่ไหนมาตบแต่งให้เป็นภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมายสักที
“สามสิบปีนี้แล้วนะแก จะทำตัวล่องลอยไปถึงไหน” จู่ๆคำพูดของชุมพลเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขาก็ผุดขึ้นมาในความคิดอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“ควงผู้หญิงไม่เคยซ้ำหน้า ระวังเถอะ จะถูกจับเข้าสักวัน”
“ถ้าคนอย่างนายอิศนะจับง่ายขนาดนั้น ฉันไม่อยู่เป็นโสดมาจนถึงทุกวันนี้หรอก”
อิศนะตอบโต้เพื่อนหนุ่มกลับไปอย่างคนที่เชื่อมั่นและทะนงตนอย่างที่สุด ก็จะไม่ให้เขารู้สึกเช่นนั้นได้อย่างไรกันเล่า ในเมื่อใครต่อใครก็ต่างพูดกันทั้งนั้นว่าอิศนะเป็นผู้ชายสำเร็จรูปที่หาไม่ได้ทั่วไปตามท้องตลาด แล้วอิศนะก็จำได้ดีเชียวแหละว่าเขาเนื้อหอมมาตั้งแต่สมัยรุ่นๆ เขาจึงเป็นผู้ชายอีกคนหนึ่งที่น่าจะได้รับการยอมรับจากกินเนสบุคว่าใช้ผู้หญิงเปลืองไม่แพ้หนุ่มหล่อคนไหนในโลก
อิศนะไม่ปฏิเสธว่าตนเองเป็นคนเจ้าชู้ ชื่อเสียงเรื่องการเป็นเสือผู้หญิงของเขาถูกลือกระฉ่อนอยู่ในสังคมเล็กๆของเมืองเชียงรายมานานแล้ว ถึงอย่างนั้นก็เถอะ จะมีหญิงสาวสักกี่คนกันที่อยากจะปฏิเสธการเป็นคู่ควงของเขา ผู้ชายที่เกิดมาบนความพร้อม พร้อมทั้งรูป พร้อมทั้งทรัพย์สมบัติ ยังไม่นับความพิเศษอีกข้อหนึ่งนั่นก็คือหากหญิงสาวคนใดสามารถพิชิตใจของเขาได้ เธอผู้นั้นจะได้ก้าวขึ้นไปสู่ตำแหน่งแม่เลี้ยงใหญ่แห่งเมืองเชียงรายในอนาคตอันใกล้นี้อย่างแน่นอน
อิศนะมองผ้าห่มผืนบางในมือสลับกับมองคนข้างๆอย่างชั่งใจ ตัดสินใจคลุมผ้าห่มผืนนั้นไปบนร่างบางของหญิงสาว น่าแปลก แม่สาวหน้าใสคนนี้ดูเหมือนเจ้าหล่อนจะไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะต้อนรับฤดูกาลอันหนาวเหน็บที่กำลังจะมาถึงนี่เลย หล่อนต้องหนาวแน่ล่ะ ขนาดว่าอิศนะสวมเสื้อแจ็คเกตเนื้อค่อนข้างหนาขนาดนี้เขาก็ยังรู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกที่แล่นลิ่วสู่ผิวเนื้อ
ฤดูกาลกำลังจะแปรเปลี่ยนจากปลายฝนเดินทางเข้าสู่ฤดูหนาว อีกไม่กี่วันก็จะสิ้นสุดเดือนตุลาคมแล้ว เริ่มต้นเดือนพฤศจิกายนเมื่อไหร่ ที่เชียงรายก็เห็นจะหนาวเข้าไส้ แสดงว่าหญิงสาวผู้นี้มิได้มีความคุ้นชินกับภูมิอากาศทางเหนือแต่อย่างใด และถ้าจะให้อิศนะคาดเดา เชื่อขนมกินได้เลยว่าเจ้าหล่อนไม่ได้มีพื้นเพอยู่ทางแถบเหนืออย่างแน่นอน
แล้วหล่อนมาทำอะไรที่เชียงราย อิศนะแอบตั้งคำถามเล่นๆในใจอย่างคนที่ไม่รู้จะคิดเรื่องอะไร หน้าใสๆผิวอ่อนๆแบบนี้ อายุน่าจะสักเท่าไหร่กันนะ สิบเก้าไม่ก็ยี่สิบ ไม่เกินยี่สิบสองละเอ้า อิศนะคาดคะเนอายุไปตามผิวหน้าอ่อนใสของหญิงสาวก่อนจะไล่สายตามองสำรวจไปตลอดร่างเล็ก
รูปร่างของหญิงสาวจัดเข้าประเภทอ้อนแอ้นบอบบางเลยก็ว่าได้ ผิวที่โผล่พ้นออกมาจากผ้าห่มขาวผ่องเนียนละเอียดราวกับแดดแรงๆนั่นแทบจะไม่ได้กร่ำกรายถูกต้องผิวเนื้อของหล่อนสักเท่าไหร่แสดงให้รู้ว่าหล่อนไม่ได้อยู่ในฐานะแร้นแค้นต้องทำงานหนักเลี้ยงชีพอย่างแน่นอน ข้อมือของหล่อนเล็กบาง นิ้วเรียวยาวสะอาดสะอ้าน ปลายเล็บถูกเจียนมนได้รูปสวยเสมือนได้รับการเอาใจใส่จากผู้เป็นเจ้าของเป็นอย่างดี
อิศนะคิดขณะสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ไม่ได้สูดเอาแค่ออกซิเจนเข้าปอดไปอย่างเดียว หากแต่สูดเอากลิ่นหอมอ่อนๆจากกายสาวที่แนบชิดสนิทแน่นเข้าไปเสียเต็มปอด กลิ่นเนื้อสาวผสมผสานกับกลิ่นน้ำหอม หอมกรุ่นติดจมูก
กลิ่นหอมแบบนี้ คุ้นๆ อิศนะนึกออกละ DKNY BE DELICIOUS ไม่ผิดแน่ น้ำหอมกลิ่นแอปเปิ้ลเขียวผสมผสานกับกลิ่นดอกบูเก้ อิศนะเพิ่งจะซื้อน้ำหอมกลิ่นนี้เป็นของขวัญวันเกิดให้แก่อิงอรน้องสาวเพียงคนเดียวของเขาไปเมื่อเดือนที่แล้ว ยังจำได้ดีว่าเจ้าน้ำหอมขวดเล็กกระจิดริดนั่นราคาของมันไม่ยักกระจิดริดเหมือนภาชนะที่ใช้ใส่
อิศนะวนเวียนสำรวจเรือนร่างเล็กที่ยังคงหลับใหลซบไหล่ของเขาอย่างเพลิดเพลินไม่รู้เบื่อกระทั่งรถทัวร์คันนั้นเริ่มเคลื่อนเข้าสู่สถานีขนส่งจังหวัดเชียงราย ชายหนุ่มลอบถอนใจเบาๆ สิ้นสุดการเดินทางเสียแล้วเวลาแห่งความรื่นรมย์ของอิศนะท่าจะต้องจบเพียงเท่านี้กระมัง
++++++++++++++++++++++++
“คุณ! คุณ ถึงเชียงรายแล้วคร๊าบ”
อิศนะอดที่จะหัวเราะออกมาเบาๆไม่ได้เมื่อเห็นแม่คนขี้เซาสะดุ้งตื่นตกใจ หน้าสวยๆของเจ้าหล่อนตอนตื่นนอนใหม่ดูเป๋อเหรอ หญิงสาวกรอกตามองไปทางซ้ายทีทางขวาทีท่าทางเหมือนจะยังดูงงๆกับชีวิต
“อุ้ย!”
อิศนะได้ยินเสียงหญิงสาวอุทานเบาๆในจังหวะที่หล่อนดีดตัวออกจากซอกไหล่ของเขา แก้มขาวๆแดงระเรื่อเป็นสีเข้มขึ้นมาทันตา
“ขอโทษค่ะ”
หญิงสาวพึมพำกล่าวคำขอโทษเบาๆแต่เมื่อมองเห็นผ้าห่มผืนบางที่ขยุกขยุยกองอยู่บนตักของตนเองคิ้วเรียวงามก็เลิกขึ้นนิดๆก่อนที่ดวงตาคู่โตดำขลับจะตวัดหันมามองอิศนะอย่างตั้งคำถาม
อิศนะแสร้งไม่รู้ไม่ชี้กับสีหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามนั้น เขาลุกขึ้นยืนช้าๆทำท่าบิดขี้เกียจสองสามทีก่อนจะจัดการรื้อค้นเอากระเป๋าเป้ของตนเองออกมาจากที่วางสัมภาระเหนือศีรษะ
บรรดาผู้โดยสารคนอื่นๆต่างทยอยเดินลงจากรถจนเกือบจะหมดทุกคนแล้ว เมื่อเห็นหญิงสาวยังคงนั่งจุมปุกอยู่ที่เดิมไม่มีทีท่าว่าจะขยับเขยื้อนไปไหนชายหนุ่มก็เปรยขึ้นเบาๆ
“สุดสายแล้วนะครับ”
หญิงสาวเหลือบตาขึ้นมองอิศนะแวบหนึ่งก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือลงไปหยิบกระเป๋าเดินทางที่วางอยู่ตรงบริเวณที่พักเท้ามากระชับเอาไว้มั่น อิศนะหันกลับมาสนใจกับสัมภาระของตนเองอีกครั้งเขาเหวี่ยงเป้ใบเล็กขึ้นสะพายไหล่สาวเท้าเดินตามผู้โดยสารคนอื่นๆตรงไปที่ประตูทางลงซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าของตัวรถ
“คุณ คุณคะ”
อิศนะชะงักเท้า หันกลับไปมองทางเบื้องหลังอย่างแปลกใจนิดๆ
“คุณเรียกผมงั้นหรือ”
“ค่ะ คือฉันมีเรื่อง อยากจะรบกวนถามคุณสักหน่อย”
“ผมว่าเราลงจากรถกันก่อนเถอะ มีอะไรไปถามไถ่กันข้างล่างดีกว่า”
อิศนะไม่รอคำตอบจากอีกฝ่ายเขาก้าวยาวๆลงจากรถโดยมีร่างเล็กๆของหญิงสาวตามติดมาด้วย สองหนุ่มสาวเดินฝ่าฝูงชนที่กำลังยืนแออัดกันอยู่ที่ชานชลาออกมายังที่โล่งๆ ตรงหน้าร้านสะดวกซื้อซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณท่ารถแห่งนั้น
“คุณมีอะไรจะถามผม ว่ามาเลยครับ”
“คือ...คุณเป็นคนที่นี่รึเปล่าคะ ฉันหมายถึง คุณเป็นคนเชียงรายรึเปล่า”
“ครับ ผมเกิด แล้วก็โตที่นี่”
เป็นครั้งแรกที่อิศนะได้เห็นรอยยิ้มของหญิงสาว ฟันขาวๆซี่เล็กๆเรียงเป็นระเบียบราวกับมุกเม็ดงาม ที่มุมปากทั้งสองข้างปรากฏรอยบุ๋มเล็กๆ ทำให้ผู้เป็นเจ้าของรอยยิ้มนั้นทวีความน่ามองขึ้นอีกมากมาย
“คือ...ฉันเพิ่งเคยมาเชียงรายเป็นครั้งแรก ไม่รู้จักใครที่นี่เลย ก็เลยอยากจะรบกวนคุณช่วยแนะนำที่พักในเชียงรายให้ฉันหน่อยได้มั้ยคะ”
“เรื่องแค่นี้เอง ไม่รบกวนอะไรนี่ครับ ว่าแต่คุณต้องการที่พักแบบไหนล่ะ แบบโรงแรมหรูระดับห้าดาว แบบรีสอร์ทกลางป่ามีกลิ่นอายแอดเวนเจอร์หน่อยๆ หรือว่าแบบโฮมสเตย์บนยอดดอย เอาแบบสัมผัสทะเลหมอกยามเช้า ที่เชียงรายนี่มีหมดล่ะครับ”
ท่าทีครุ่นคิดเอียงคอน้อยๆกับกริยาขบริมฝีปากตนเองของหญิงสาวมันดึงดูดความสนใจของอิศนะให้หันมามองสำรวจหญิงสาวตรงหน้าอย่างถ้วนถี่อีกครั้ง
ผู้หญิงคนนี้แปลก...หล่อนทำอะไรก็ดูน่ามองไปเสียทั้งหมด
“อยากได้โรงแรมที่อยู่ในตัวเมืองค่ะ ไม่ต้องถึงระดับห้าดาวก็ได้ ไม่เน้นหรูหราอะไร ต้องการแค่ว่าเดินทางไปไหนมาไหนสะดวกก็พอค่ะ”
“ถ้าเป็นในเมือง ช่วงไฮท์ซีซั่นแบบนี้เห็นทีจะยากครับ โรงแรมส่วนใหญ่จะถูกพวกกรุ๊ปทัวร์จองเอาไว้ล่วงหน้า บางที่เขาจองกันข้ามปีเลยทีเดียว”
“อย่างนั้นหรือคะ”
หน้าสวยๆนั้นหมองลงไปทันที คิ้วเรียวเริ่มขมวดมุ่น อิศนะซ่อนยิ้มขณะบังคับน้ำเสียงของตัวเองให้ดูจริงจังและน่าเชื่อถือเมื่อกล่าวประโยคถัดมา
“แต่ถ้าคุณอยากจะพักโรงแรมในเมืองจริงๆ ผมก็พอจะแนะนำโรงแรมให้คุณได้ที่หนึ่ง ไม่ได้หรูหราขนาดห้าดาว แต่บริการเขาก็ดีเยี่ยม สะดวกสบาย ที่สำคัญมันอยู่ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่”
“แล้วห้องพักจะไม่เต็มอีกหรือคะ”
“เชื่อมั้ยว่าผมหาห้องพักให้คุณได้”
อิศนะยิ้มนัยน์ตาเจ้าเล่ห์ขณะล้วงเอาโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงสีเข้มตัวนั้น เขาไล่ดูเบอร์โทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่งจึงได้กดโทรออก
“ผมอิศนะครับ ขอสายตรงผู้จัดการฯหน่อย”
อิศนะเจรจากับปลายสายอยู่ครู่ก่อนจะกดวางสายแล้วหันมายิ้มให้หญิงสาว
“เรียบร้อย”
อิศนะกล่าวยิ้มๆในขณะที่หญิงสาวมองหน้าเขาอย่างเป็นปริศนา
“เดี๋ยวคุณไปที่โรงแรมแกรนลีดนะ ติดต่อรีเซฟชั่น บอกเขาว่าคนชื่ออิศนะโทรมาจองห้องพักไว้ให้คุณแล้ว รับรอง ทางโรงแรมจะเปิดห้องพักที่ดีที่สุดให้คุณภายในห้านาที”
หญิงสาวมองหน้าอิศนะด้วยสายตางุนงงแกมทึ่งนิดๆ
“เอ่อ...ใช้เส้นหรือไงคะ”
“ก็...ใช้กำลังภายในนิดหน่อย”
อิศนะตอบยิ้มๆนัยน์ตาคมกรุ้มกริ่มกวาดมองไปทั่วใบหน้างามอย่างพึงใจ
“เอ่อ...ขอบคุณมากนะคะ ที่ช่วยเป็นธุระให้”
หญิงสาวกล่าวขอบคุณเขาอย่างมีมารยาท แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นประกายตาพราวๆของอีกฝ่ายที่ประกาศอยู่โต้งๆว่าเขากำลังให้ความสนใจหล่อนอยู่ไม่น้อย
“ไม่เป็นไรครับ ผมก็แค่ทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดี คุณ...มาเที่ยวหรือครับ” อิศนะชวนคุยต่ออย่างพยายามจะถ่วงเวลาไม่ให้หญิงสาวพาหน้าสวยๆหวานจนชวนฝันนั้นจากเขาเร็วเกินไปนัก
“เปล่าค่ะ ฉันมาหาเพื่อน เขาทำงานอยู่ที่นี่”
หญิงสาวอธิบายสั้นๆก่อนจะมองกวาดไปทั่วบริเวณสถานีขนส่งแห่งนั้น
“เอ่อ...ฉันจ้างสองแถวที่จอดอยู่ตรงนั้นไปส่งโรงแรมที่คุณบอกได้ใช่มั้ยคะ”
หญิงสาวชี้ให้ชายหนุ่มดูบรรดารถสองแถวรอบเมืองที่จอดเรียงรายอยู่ใกล้ๆพร้อมกับขอความคิดเห็น อิศนะมองกราดไปรอบๆบริเวณนั้นกระทั่งสะดุดตากับเจ้ารถจิ๊ปเชอรากีคันเขื่องที่กำลังแล่นตะบึงตะบอนจนฝุ่นตลบเข้ามาภายในบริเวณสถานีขนส่งแห่งนั้น
“ให้ผมไปส่งคุณดีกว่ามั้ยครับ”
อิศนะเสนอทางเลือกให้หญิงสาวอย่างคนมีน้ำใจแต่หญิงสาวกลับสั่นหน้าปฏิเสธ
“ไม่รบกวนคุณดีกว่าคะ”
“ไม่รบกวนอะไรนี่ครับ ยังไงๆผมก็ต้องผ่านทางนั้นอยู่แล้ว นั่น รถผมมารับพอดีเลย”
อิศนะบุ้ยใบ้ให้หญิงสาวมองดูเจ้าแกรนด์เชอรากีสีเขียวเข้มที่เขยื้อนมาจอดอยู่ตรงหน้า คนขับเป็นชายหนุ่มผิวขาว หน้าตาตี๋ๆ รุ่นราวคราวเดียวกับอิศนะ หนุ่มคนนั้นบีบแตรเร่งแปร๋นๆในขณะที่รถยังติดเครื่องครางกระหึ่มอย่างไม่เกรงใจผู้คนที่อยู่บริเวณนั้น
“เอ่อ...คือฉันว่า...ฉันไปเองสะดวกกว่า”
“ไปกับผมเถอะครับ รับรอง ผมไม่หลอกพาคุณไปขายแน่ เชิญครับ รถจอดตรงนี้นานไม่ได้”
พูดจบอิศนะก็เดินตรงดิ่งไปเปิดประตูด้านหลังแล้วพยักพเยิดหน้าเป็นเชิงให้หญิงสาวขึ้นรถก่อนจะหันไปบอกคนขับที่ตอนนี้กำลังเขม่นตามองมาที่หญิงสาวอย่างสนใจเป็นพิเศษ
“แวะที่แกรนด์ลีดก่อนนะชุม”
“อ้าว ไม่กลับไปนอนที่บ้านหรือ”
“เออน่ะ บอกให้แวะก็แวะเถอะ ไม่ต้องถามมาก”
“โอเคๆ แกรนด์ลีดก็แกรนด์ลีด ขึ้นรถสิ ชักช้าเดี๋ยว รปภ.ก็มาไล่หรอก เชิญครับคุณ! ร.ป.ภ.ท่านท้าวสะเอวมองตาขวางแล้วครับ” ประโยคท้ายคนขับยื่นหน้ามาบอกหญิงสาวด้วยน้ำเสียงกวนๆ
หญิงสาวทำท่าลังเลใจอยู่ครู่ก่อนจะตัดสินใจก้าวขึ้นรถมากับสองหนุ่ม อิศนะหันไปยิ้มให้ผู้ร่วมโดยสารที่กำลังนั่งทำหน้าเคร่งเครียดท่าทางระแวดระวังอยู่เบาะหลังนิดหนึ่งก่อนจะหันกลับมาถามไถ่คนขับรถด้วยน้ำเสียงอันแสดงถึงความสนิทสนม
“มาเร็วนะเอ็ง”
“แน่ล่ะ เหยียบจากรีสอร์ทจนมิดไมล์”
“งั้นเชียว”
คนขับพยักหน้าหงึกหงักขณะเหลือบตาขึ้นมองกระจกหลัง ไม่ได้สนใจเรื่องรถราหรือการจราจรอะไรทั้งสิ้นแต่สนใจคนสวยหน้าใสที่นั่งอยู่เบาะหลังนั่นต่างหาก
“ไง! ไปขึ้นห้างส่องสัตว์ ได้สัตว์สองเท้ากลับมาฝากแม่เลี้ยงด้วยรึไง” คนขับหน้าทะเล้นเปรยขึ้นมาลอยๆ ดวงตาคู่รียาวมองเพื่อนหนุ่มอย่างคนที่รู้เท่าทันกันมาโดยตลอด
“ไม่ต้องพูดมาก ขับไป”
อิศนะบอกเสียงเข้มก่อนจะปรายตามองคนที่นั่งอยู่เบาะหลังอย่างเกรงใจนิดๆ ครั้นเห็นหญิงสาวไม่ได้สนใจการสนทนาของสองหนุ่มด้านหน้าเพราะกำลังตื่นเต้นและเพลิดเพลินกับทิวทัศน์สองข้างทางรอบตัวเมืองเชียงรายอิศนะก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง
“ไปได้มาจากไหน จิ้มลิ้มน่ารักเชียว แล้ว...ได้รึยัง”
ท้ายประโยคชุมพลลดเสียงเบาลงพร้อมกับหลิวตามองเพื่อนรักราวกับกำลังอิจฉาเขาเสียเต็มประดา อิศนะถอนหายใจเฮือกเค้นเสียงตอบเพื่อนหนุ่มอย่างรำคาญ
“ไอ้บ้า หุบปากซะทีเถอะน่า ถามอยู่ได้”
“กะฮาอยากฮู้ จะไดๆ แม่ยิงนี่คิงขางก่ะ” (ก็กูอยากรู้ ยังไงๆ มึงหวงนักรึไง)
“หยักปากไปเลย บ่ะอั่นเจอตีนฮา” (หุบปากไปเลย ไม่งั้นมึงจะเจอตีนกู)
เมื่อเพื่อนหนุ่มส่งภาษาท้องถิ่นมา อิศนะก็ตอบกลับไปด้วยภาษาเดียวกัน เบาพอที่จะได้ยินกันแค่สองคนเท่านั้น ชุมพลยิ้มร่าส่งสายตาล้อเลียนเพื่อนหนุ่มหากแต่ก็ยอมปิดปากตัวเองนับแต่นั้น
กว่าสิบนาทีจิ๊ปเชอรากีคันนั้นก็แล่นลิ่วเข้ามาจอดสนิทอยู่ที่บริเวณลานจอดรถเบื้องหน้าอาคารสูงรูปทรงทันสมัยมีป้ายชื่อสถานที่ตั้งเด่นสะดุดตาว่าโรงแรมแกรนด์ลีด
“ขอบคุณมากนะคะ ที่อุตส่าห์มาส่ง” หญิงสาวบอกพลางชะเง้อมองป้ายชื่อโรงแรมตรงหน้าด้วยอาการโล่งอก สีหน้าหวาดระแวงเมื่อครู่เริ่มคลายลง
“ไม่เป็นไรครับ ให้ผมเดินไปส่งคุณที่ล้อบบี้มั้ย”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่นี้ก็เกรงใจจะแย่แล้ว ยังไงก็ขอบคุณคุณทั้งสองคนนะคะ”
“โชคดีนะครับ”
“เช่นกันค่ะ”
หญิงสาวกระชับกระเป๋าเดินทางมาถือไว้แล้วเอื้อมมือเตรียมจะเปิดประตูรถ กำลังจะผลักออกไปอยู่แล้วเชียวแต่ดูเหมือนเจ้าหล่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้เสียก่อน
“เอ่อ ขอโทษอีกทีเถอะค่ะ ไม่ทราบคุณรู้จักไร่เทพปกรณ์รึเปล่าคะ”
อิศนะสบตากับชุมพลแวบหนึ่งก่อนจะหันมาตอบหญิงสาว
“รู้จักครับ เอ่อ มีอะไรรึเปล่าครับ”
“พอดีว่า เอ่อ เพื่อนฉันค่ะ เขาทำงานอยู่ที่ไร่นั้น”
“หมายความว่า คุณกำลังจะไปที่นั่น”
“ใช่ค่ะ พรุ่งนี้ฉันจะไปที่นั่น แต่ก็ยังไม่รู้เลยว่าไร่เทพปกรณ์อะไรนี่อยู่ที่ไหน รู้ก็แต่ว่าไร่เทพปกรณ์เป็นไร่ส้มชื่อดังของที่นี่ ก็ไม่น่าจะหายาก”
“ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลยครับ ดูเหมือนทางโรงแรมจะมีแผนที่บอกเส้นทางแจกฟรีด้วย”
อิศนะมองตามร่างระหงที่เพิ่งจะเดินลงจากรถไปอย่างครุ่นคิด ตกลงว่าจุดหมายปลายทางของผู้หญิงคนนั้นคือไร่เทพปกรณ์อย่างนั้นหรือ
...ไม่ทราบคุณรู้จักไร่เทพปกรณ์รึเปล่าคะ...
ไร่เทพปกรณ์...เขาต้องรู้จักสิ
จะไม่รู้จักได้ไง ก็นั่นมันไร่ของเขา บ้านของเขาเองนี่นา!
+++++++++++++++++++++++++
เอาพี่อิศมารีไรท์ อีกรอบค่ะ..เนื่องจากรอบแรกจบไม่ประทับใจ..เวอร์ชั่นนี้พี่อิศน่ารัก..หวานและหื่นได้ใจจริงๆ..อย่าลืมติดตามกันนะคะ..ตอนนี้พี่อิศมีเป็นรูปเล่มแล้ว..ถ้าใครสนใจเข้าไปดูรายละเอียดที่..เพจโอชิน77นะคะ..ส่วนอีบุคก็วางขายเรียบร้อยแล้วที่ mebmarket และ ookbee ค่ะ
โอชิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ก.ย. 2560, 01:56:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ก.ย. 2560, 01:56:40 น.
จำนวนการเข้าชม : 1178
ตอนที่ 2. >> |