รักนี้ต้องโฮ่งฮับ (Yuri) - จบ
เมื่อสาวห้าวอย่างทัชชภร หรือเพื่อนๆ เรียกเธอว่า ทัช เธอมีรูปร่างสูงโปร่ง อายุ 25 ปี ทำธุรกิจส่วนตัวอยู่กับบ้าน และมีสุนัขสุดที่รักตัวหนึ่งชื่อว่า น้องท่อ เป็นสุนัขพันธุ์ผสมเพศผู้

แต่แล้ววันหนึ่ง น้องท่อกลับมาถูกรถยนต์ชน จนเกือบไม่รอดถ้าไม่มี สัตวแพทย์ประจำคลินิก อย่างหมอกานต์สินีหรือหมอนี เธอได้ช่วยชีวิตน้องท่อเอาไว้

การพบกันระหว่าง ทัชกับหมอนีผู้น่ารักและเป็นมิตรกับทุกคนรอบข้าง โดยมีรอยยิ้มที่สดใส จนทัชไม่อาจละสายตาจากสัตวแพทย์สาวคนนี้ไปได้ ช่วงเวลาที่จะได้เจอกันมันน้อยเกินไป คงต้องอาศัยน้องท่อเป็นสะพานเชื่อมให้พบกับหมอหมาที่น่ารักคนนี้
Tags: น้องหมา สัตวแพทย์ หมอหมา นิยายรัก มิตรภาพ ความรัก

ตอน: หาหมอ

เวลา 17.00 น.



ในตัวเมืองแห่งหนึ่ง ภายในหมู่บ้านจัดสรร มีหญิงสาวและสุนัขเพศผู้ขนสีขาวตัวเล็ก กำลังวิ่งเล่นในสนามหญ้าหน้าบ้าน

"เอ้า...ฮึบ...ท่อไปคาบมา" หญิงสาวโยนไม้ที่เธอหยิบมาจากใต้ต้นไม้ โยนไปให้สุนัขลูกชายของเธอ เวลานี้เป็นเวลาออกกำลังกายของน้องท่อ น้องหมาสุดเลิฟ

"โฮ่ง โฮ่ง" สุนัขตัวเล็กกระโดดโลดเต้นไปมาอย่างดีใจ และวิ่งไปคาบไม้ตามคำสั่งนาย เกิดการยื้อยุดฉุดกระชากกันเล็กน้อย น้องท่อก้มโค้งในปากคาบไม้และกระดิกหางไปมาไม่ให้นายยื้อแย่งไปง่ายๆ

จนกระทั่งมารดาของหญิงสาว เลื่อนประตูหน้าบ้าน มาพร้อมกับข้าวของจำนวนมากมาย หลังจากไปตลาดนัดข้างหมู่บ้าน ที่มักจะมีทุกวันพุธและศุกร์ เธอเห็นเช่นนั้นจึงเข้าไปช่วยถือของ ในจังหวะที่ประตูไม่ได้ถูกปิดให้เรียบร้อย น้องท่อสุนัขตัวน้อยเหลือบไปเห็นน้องแมวฝั่งตรงข้าม ที่เป็นคู่อริเก่า กำลังเดินนวยนาดโชว์หางงามๆ อวดโฉมให้น้องท่อมอง มีหรือน้องท่อจะทน รีบวิ่งออกไปยังถนนใหญ่หมายจะเข้าไปฝังเขี้ยวสักสองสามเขี้ยว ใส่บั้นท้ายงามของแมวเหมียวจอมอวดดี ที่ชอบมาแอบขโมยอาหารจากชามใบโต

"เอี้ยดด...ปั้ง!"

สายตาของหญิงสาวต่างวัยหันไปมองตามเสียงที่ดังสนั่น หัวใจแทบหยุดเต้น ข้าวของที่ถือไว้ในมือร่วงลงสู่พื้น ขาทั้งสองวิ่งไปยังต้นเสียงทันที

"ท่อ!" เมื่อสิ่งที่เห็นเป็นสุนัขของพวกเขา กำลังนอนหายใจรวยรินแน่นิ่งหน้ารถเก๋งสีขาวคันงาม ที่จอดกลางถนนและหญิงสาวคนขับรีบลงมาดู พร้อมกับสองแม่ลูกเข้าไปใกล้สถานที่เกิดเหตุ

"ขอโทษค่ะ ค...คือหนูไม่เห็นว่าน้องเขาจะวิ่งมา" สาวขับเก๋งกระวนกระวายใจ ที่เห็นสุนัขบาดเจ็บเพราะเธอเป็นคนขับชน แต่สองแม่ลูกไม่สนใจท่าทางร้อนรนนั่น สิ่งที่พวกเธอสนใจมีเพียงแต่ลูกชายที่ต้องการความช่วยเหลือ

"ทัช พาท่อไปหาหมอ" ผู้เป็นมารดาบอกลูกสาวที่กำลังจะอุ้มน้องท่อด้วยมือที่สั่นเทา เหมือนคนไม่มีสติ

"ค...คุณแม่ ต้องทำยังไง" น้ำตาเอ่อที่เบ้าตาคมเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ เธอกังวลเพราะที่บ้านไม่มีรถ จะต้องโบกแท็กซี่หน้าหมู่บ้าน แล้วตอนนี้เริ่มจะมืดแล้วด้วย

"ดิฉันพาไปเองค่ะ พอดีมีคลินิกรักษาสัตว์หน้าทางเข้าหมู่บ้าน ขึ้นรถเถอะค่ะ" หญิงคนขับรถเก๋งอยากรับผิดชอบทุกอย่าง และโชคดีที่เธอรู้จักกับสัตวแพทย์ที่มาเปิดคลินิกหน้าทางเข้าหมู่บ้านพอดี

ทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทุกคนรวมถึงน้องท่อที่อยู่ในอ้อมแขนของทัช ขึ้นไปนั่งบนรถเก๋งคันงามของหญิงสาว และเพียงไม่กี่นาทีรถได้มาจอดหน้าคลินิก ซึ่งมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังเปิดประตูออกมาพอดี หญิงคนขับรีบลงเข้าไปหาทันที

"พล พี่มีน้องหมาเจ็บหนักอยู่บนรถ"

"ครับ เดี๋ยวผมบอกพี่นีให้ พี่พาพวกเขาเข้ามาข้างในก่อนครับ ตอนนี้พี่นีกำลังฉีดยาให้น้องแมวอยู่"

สิ้นเสียงของชายหนุ่ม เขาก็รีบไปบอกพี่สาวที่กำลังฉีดยาให้น้องแมวเปอร์เซียในอ้อมกอดของเจ้าของ และได้พาทัชมาอีกห้องหนึ่ง เพื่อวางน้องท่อบนเตียงตรวจอย่างระมัดระวัง

เพียงเวลาไม่นานสาวร่างเล็กใส่แมสปิดปาก มีเสื้อกาวน์สั้นคลุมภายนอก มือทั้งสองสวมใส่ถุงมือสำหรับตรวจโรค ตรงดิ่งเข้ามาตรวจน้องท่ออย่างรวดเร็ว โดยมีทัชที่ยืนมองบีบมือทั้งสองข้างไปมาด้วยความเครียด จนมารดาของเธอต้องแตะแขนเพื่อเรียกสติ

"คุณป้าครับ" หนุ่มหน้าอ่อนเรียกสองสาวต่างวัยที่ยืนขมวดคิ้วสีหน้าตึงเครียด สิ่งที่น่าจะฉุกคิด คือชายหนุ่มคนนี้เรียกป้าแต่ตามองมาที่ทัช คงเป็นเรื่องโชคดีของหนุ่มนั่น ที่ทัชกำลังอยู่ในภวังค์ของความเครียด จึงไม่ได้ต่อว่าอะไร ได้แต่ตั้งใจฟังสิ่งที่ชายหนุ่มตรงหน้าจะเอ่ยออกมา

"ออกไปรอข้างนอกเถอะครับ พี่ผมเก่ง ยังไงน้องก็ไม่เป็นอะไรแน่" ไม่พูดอย่างเดียวยืดอกอย่างภูมิใจเสียด้วย

ถึงแม้ว่าสองแม่ลูกอยากอยู่ต่อ แต่คงอยู่ไม่ได้ ต้องออกไปรอข้างนอก จะได้ไม่เกะกะการทำงานของหมอกับชายหนุ่มที่ไม่ออกมาพร้อมกัน ทำให้พบกับหญิงสาวที่ขับรถชนน้องท่อ กำลังเดินไปเดินมานั่งไม่ติดพื้น เมื่อเห็นทั้งสองออกจากห้อง จึงรีบเข้ามาหาทันที

"ค่ารักษาดิฉันจ่ายเองทั้งหมด ค...คือ" หญิงสาวจะพูดต่อแต่เห็นสีหน้านิ่งเฉยของทัชและหญิงวัยกลางคนแล้ว เธอไม่กล้าพูดอีก แถมทัชยังเดินผ่านเธอไปอย่างไม่ไยดี เข้าใจอยู่ว่าเครียด แต่เธออยากรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำ และทำแบบนี้ใส่ แล้วจะให้เธอทำยังไง

"นี่หนู ป้าว่ากลับไปก่อนเถอะ เอาเบอร์ทิ้งไว้ก็ได้ ตอนนี้มืดแล้วด้วย" มารดาของทัชเห็นใจหญิงสาวที่ทำผิดและต้องการรับผิดชอบ เพียงแต่ทัชกำลังเครียด ตอนนี้คงไม่อยากสนใจอะไรอีก

"ค่ะ" ถึงหญิงสาวจะตอบเช่นนั้น แต่เธอไม่ก้าวขาไปไหนยังยืนมองทัชที่นั่งก้มหน้ากุมศีรษะอยู่บนโซฟา

"แม่กลับก่อนนะทัช เปิดบ้านทิ้งไว้ ป่านนี้ขโมยขึ้นแล้วมั้ง" หญิงวัยกลางคนเข้ามานั่งข้างทัช แตะบ่าเป็นกำลังใจช่วย ทัชได้แต่พยักหน้านั่งเอนกายรอเวลาที่จะได้ฟังข่าวดี อย่างที่หนุ่มคนนั้นบอก

"ไปรถหนูไหมคะ บ้านหนูอยู่ข้างในเหมือนกัน" หญิงสาวที่เฝ้ามองได้จังหวะแก้ตัว จึงรีบเสนอตัวขับรถไปส่งให้ ซึ่งหญิงวัยกลางคนไม่มีทางปฏิเสธอยู่แล้ว เพราะตอนนี้พลบค่ำแล้วด้วย

"แม่ไปก่อนนะทัช"

"ค่ะ"

หลังจากตอบกลับไป ทัชมองมารดาไปกับหญิงสาวขึ้นรถเก๋งกลับบ้าน เธอจึงกลับมาจดจ่อกับประตูห้องที่ภายในมีลูกชายของเธอนอนเจ็บอยู่




HM06
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 มี.ค. 2561, 23:32:57 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 มี.ค. 2561, 23:32:57 น.

จำนวนการเข้าชม : 516





   น้องท่อ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account