รักนี้ต้องโฮ่งฮับ (Yuri) - จบ
เมื่อสาวห้าวอย่างทัชชภร หรือเพื่อนๆ เรียกเธอว่า ทัช เธอมีรูปร่างสูงโปร่ง อายุ 25 ปี ทำธุรกิจส่วนตัวอยู่กับบ้าน และมีสุนัขสุดที่รักตัวหนึ่งชื่อว่า น้องท่อ เป็นสุนัขพันธุ์ผสมเพศผู้

แต่แล้ววันหนึ่ง น้องท่อกลับมาถูกรถยนต์ชน จนเกือบไม่รอดถ้าไม่มี สัตวแพทย์ประจำคลินิก อย่างหมอกานต์สินีหรือหมอนี เธอได้ช่วยชีวิตน้องท่อเอาไว้

การพบกันระหว่าง ทัชกับหมอนีผู้น่ารักและเป็นมิตรกับทุกคนรอบข้าง โดยมีรอยยิ้มที่สดใส จนทัชไม่อาจละสายตาจากสัตวแพทย์สาวคนนี้ไปได้ ช่วงเวลาที่จะได้เจอกันมันน้อยเกินไป คงต้องอาศัยน้องท่อเป็นสะพานเชื่อมให้พบกับหมอหมาที่น่ารักคนนี้
Tags: น้องหมา สัตวแพทย์ หมอหมา นิยายรัก มิตรภาพ ความรัก

ตอน: น้องท่อ

สาวสูงโปร่งชื่อเล่นว่าทัช ทำงานอยู่กับบ้าน ขายของออนไลน์แทบทุกอย่าง ตามที่จะหาเงินเข้าบ้านได้ ไม่ว่าเป็นอะไรก็แล้วแต่ เธอสมัครและขายหมด ยกเว้นอย่างเดียวที่ไม่ชอบ คืองานขายที่ต้องออกไปไกลจากบ้านของตนเอง เพราะเป็นห่วงมารดาของตน ต้องอยู่บ้านเพียงคนเดียว

วันนี้ก็เช่นเคย ทัชจะต้องไปไปรษณีย์เพื่อส่งพัสดุให้ถึงมือลูกค้าตามรายชื่อที่ลูกค้าลงไว้ วันนี้ส่งครีมบำรุงหน้าและผิวพรรณ ขากลับเธอต้องเดินเข้าหมู่บ้านเพราะพลบค่ำแล้ว จึงไม่มีรถมอเตอร์ไซค์ให้เธอกลับเข้าบ้านได้ แต่ทางไม่เปลี่ยวมากนัก ยังมีรถเข้าออกหมู่บ้านอยู่บ้าง

แต่แล้วเหมือนมีบางสิ่ง ทำให้เธอเหลือบไปเห็นลูกสุนัขหน้าตามอมแมมอยู่ในกล่องข้างถังขยะ ยื่นหน้าและส่งสายตาบ้องแบ๊วเลยกล่องที่เจ้าตัวน้อยอาศัย ออกมาเห็นเพียงแค่ดวงตา และดวงตากลมโตคู่นั้นจ้องมองทัชไม่วางตา สายตาของทั้งคู่จ้องมองกัน ความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นกับทัช ซึ่งเธอไม่สามารถบอกได้ว่าคืออะไร แต่เธอรู้เพียงอย่างเดียวว่า เจ้าลูกสุนัขตรงหน้าอยากไปกับเธอ และต้องการให้เธอช่วยเหลือ ทัชจึงตัดสินใจเข้าไปอุ้มสุนัขเนื้อตัวมอมแมมกลับบ้านไปด้วยกัน



"ทัชไปเก็บมาจากไหนลูก" เพียงแค่เปิดประตูเข้าบ้าน ก็เห็นมารดาของเธอ กำลังง่วนอยู่กับกองเอกสารและหนังสือบนชั้นวางของ ได้หันหน้ามาถามทัชที่อุ้มลูกสุนัขตากลมโตในอ้อมแขน

"ข้างถังขยะค่ะ คุณแม่" หญิงสาวอุ้มสุนัขตัวน้อยเข้าไปหามารดาของเธอที่กำลังนั่งมองที่พื้น แน่นอนทั้งสองเอ็นดูเจ้าตัวเล็ก แต่ทว่าตั้งแต่เข้าบ้านมา ยังไม่ได้ยินเสียงของลูกสุนัขตัวนี้สักแอะ หรือมันจะเป็นใบ้

"พันธุ์อะไร ตัวมันมอมมากจนแม่ไม่รู้เลยว่ามันเป็นพันธุ์ไหน แต่ที่แม่ดู ไม่ใช่ไทยแน่"

"เดี๋ยวหนูพาไปอาบน้ำเองค่ะ"

สิ้นเสียง ทัชได้พาสุนัขตัวน้อยมาอาบน้ำ ขัดสีฉวีวรรณให้เอี่ยมอ่อง ยกหางและบั้นท้ายเพื่อทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น จึงรู้ว่าสุนัขที่เธอนำมาเป็นเพศผู้

                   "ตัวผู้เหรอ ทำไมถึงโดนทิ้งได้นะ หรือพวกเขาจะลืมแกทิ้งไว้" ทัชไม่คิดว่าเจ้านายของตัวเล็กจะทิ้งได้ลงคอ ทั้งขนขาวที่งามสวยแถมเป็นเพศผู้ ซึ่งใครๆ ก็อยากได้ ทำไมถึงโดนทิ้งได้นะหรือว่า มันจะหนีเขามา
                   "แล้วแกจะอยู่กับฉันไหม" ไม่รู้ว่าทำไมทัชถึงพูดกับหมาน้อยตรงหน้าแบบนั้น อาจเป็นเพราะเธอถูกชะตาตั้งแต่แรกพบ เธอจ้องมองดวงตาของลูกหมาใบ้ที่ตามตัวเต็มไปด้วยฟองสบู่ ซึ่งเจ้าหมาตัวน้อยก็จ้องมองกลับเช่นกัน ทั้งสองสบสายตาไปมาโดยไม่มีเสียงเรียกอันใดอีก
                   เมื่อเจ้าตัวน้อยถูกทำความสะอาดเป่าขนจนจำตัวเก่าไม่ได้ โฉมหน้าใหม่จึงถูกนำไปอวดหญิงสาววัยกลางคนที่กำลังนั่งเล่นบนโซฟา
"คุณแม่ ดูนี่ ขนขาวน่ารักเชียวค่ะ" ทัชอวดขนนุ่มๆ ของสุนัขหลงทางที่เธอเก็บมาได้ ให้มารดาของเธอดูเพื่อโชว์ฝีมือการแปลงโฉม

ทั้งสองเล่นกับสุนัขใบ้ ที่นั่งนิ่งๆ และยกขาสองข้างไปมา เล่นกับพวกเธอเท่านั้น ไม่มีแม้แต่เสียงร้องหรือตกใจอะไรสักนิด แต่พวกเธอก็คิดว่าปล่อยไว้เดี๋ยวก็หาย ส่วนทัชค้นคว้าหาข้อมูลการเลี้ยงดูอย่างละเอียด จนพบว่าเป็นพันธุ์ผสมมอลทีสนั่นเอง

"เป็นเพราะแกไม่ใช่พันธุ์แท้สินะ เขาถึงทิ้ง" ทัชหันไปคุยกับลูกสุนัขที่กำลังซุกตัวอยู่ใต้พรมเช็ดเท้า เธอยิ้มน้อยๆ กับความซนของเจ้าตัวเล็ก แล้วหันไปสนใจหน้าจอโน๊ตบุ๊คต่อ พร้อมกับประกาศสุนัขหาย ว่าใครเป็นเจ้าของแต่แล้วผ่านไปสองถึงสามเดือน ก็เงียบหายไปกับกาลเวลา



"นี่เรายังไม่ได้ตั้งชื่อเลยใช่ไหม ถ้าไม่มีใครมาตาม แม่ว่าพวกเราก็รับเลี้ยงเอาไว้เถอะ"

"หนูก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แล้วเราจะตั้งชื่ออะไรกันดีคะ"

ปัญหายากที่สุดของสองสาวต่างวัย คือการตั้งชื่อให้สุนัขตัวน้อยที่เป็นใบ้ ไม่เคยส่งเสียงได้แต่จ้องมองด้วยตากลมๆ เท่านั้น พวกเธอลองหลายชื่อผลสุดท้ายก็ทะเลาะกัน เพราะไม่รู้จะให้ชื่ออะไรดี

ทัชลองสอบถามข้อมูลทางอีเมลกับสัตวแพทย์ในเว็บไซต์ดัง แต่คำตอบก็เหมือนกันแทบทุกคน บอกว่าเป็นเพราะน้องมีนิสัยแบบนี้ หรือไม่อาจจะมีบางสิ่งที่ทำให้น้องไม่ยอมร้องออกมา ทัชจ้องมองลูกสุนัขขนสีขาวปุกปุยตรงหน้า ที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่ในตะกร้ารองด้วยผ้าขนหนูเก่า เธอจะทำอย่างไรดี หรือว่าต้องพาไปหาสัตวแพทย์ดี และแล้วความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมา



เช้าวันต่อมา เธอออกจากบ้านแต่เช้าหายไปหลายชั่วโมง จนมารดาต้องโทรตาม แต่แล้วก็กลับมาพร้อมกับข้าวของเต็มมือ

"ซื้ออะไรมาเยอะแยะ" มารดาของเธอถามขึ้นเพราะของเยอะมากจนแทบจะเต็มโต๊ะ ไม่รู้ว่าลูกสาวของเธอถือมาได้ยังไง

"ของเจ้าตัวเล็ก ฮ่า มาเลย มานี่เร็วมาเล่นกัน" ทัชเอาของเล่นของน้องสุนัขออกมาจากถุง วางเรียงกันเป็นแถว ตั้งใจจะให้เจ้าตัวเล็กตรงหน้าเล่นทุกอย่าง เหมือนเจ้าตัวจะรู้ รีบลุกจากที่นอนตรงมาหาเธอ และเดินมาใกล้แต่แล้วแค่ดม ทำจมูกฟุดฟิดและสะบัดหน้าหนี ทำเอาทัชต้องตาค้าง นี่ไม่อยากเล่นขนาดนั้นเลยหรือนี่ ให้ตายสิ สุนัขเข้าใจยากจริง

"ไม่ชอบไม่เป็นไร งั้นมาใส่เสื้อดีกว่า" ทัชหยิบเสื้อหลากสีสันมาวางตรงหน้า และตัดสินใจเลือกตัวนั้นทีตัวนี้ที คงมีแต่มารดาของเธอที่ยืนมองพิงกำแพงแล้วส่ายหน้า เหมือนลูกสาวของเธอจะมีโลกส่วนตัวกับน้องสุนัขตัวน้อยเสียแล้ว



จนแล้วจนรอด เจ้าลูกสุนัขไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นได้แต่นั่งจุ่มปุก และมองด้วยสายตากลมโต เหมือนอยากได้อะไรบางอย่าง

"มองแบบนั้นหมายความว่ายังไง" คำตอบคือเสียงเงียบ ทำให้ทัชงงกับภาษาที่ต้องการจะสื่อ แต่แล้วก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามา เธอจึงต้องไปจัดการเสียก่อน อาจจะเป็นลูกค้าของเธอติดต่อกลับมา ส่วนมารดาของเธอก็แยกตัวไปทำอาหารในครัว ผลสุดท้ายเจ้าสุนัขตัวน้อยก็ต้องนั่งคอตกในห้องตัวเดียว

ในเวลาต่อมา เจ้าตัวเล็กหายตัวไปจากห้อง สร้างความร้อนรนให้กับทัชเป็นอย่างมาก และเดินตามหาทุกที่ในบ้านแต่ก็ไม่เห็นเจ้าลูกสุนัขแม้แต่ปลายหาง หรือเป็นเพราะเธอดูแลไม่ดีใช่ไหม



"ใจเย็นๆ สิทัช บ้านเราก็ปิดแน่นหนาขนาดนี้ แม่คิดว่าอยู่ในบ้านนี่แหละ"

ทัชพยายามใจเย็นและนั่งลงที่โซฟา โดยสายตาเหลือบไปเห็นเท้าเล็กๆ ออกมาจากท่อพีวีซีที่เธอซื้อมา และคิดว่าจะลองซ่อมท่อระบายน้ำหลังบ้านที่แตกเสียหน่อย ไม่คิดว่าสิ่งที่เธอเดินไปเห็น คือเจ้าตัวเล็กยัดตัวเองเข้าไปในท่อทั้งตัว โผล่มาเพียงแค่เท้าน้อยๆ ข้างหนึ่งเท่านั้น

"ให้ตายสิ ยัดเข้าไปได้ยังไงเต็มท่อเลย" เนื่องจากอายุไม่กี่เดือนตัวจึงไม่ใหญ่มาก บวกกับเป็นสุนัขพันธุ์เล็กเลยสามารถยัดตัวเองเข้าไปได้เต็มวงท่อพีวีซี ซึ่งมันพอดีจนทัชต้องตีหน้าผากตนเองเรียกสติ และพยายามดึงมันออก แต่เจ้าตัวก็พยายามมุดเข้าไปอีก

"แกจะเอาอะไร คิดจะนอนในนี้จริงๆ นะเหรอ ออกมาเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวก็หายใจไม่ออก" ทัชพยายามทุกหนทางแต่เจ้าตัวก็กระดึ๊บๆ เข้าไปอีก ทำให้มารดาของเธอต้องเดินมาดูเพราะทัชเสียงดังจนผิดสังเกต

"แม่ว่า มันอาจจะชอบก็ได้นะ ชอบมุดท่อ" หญิงวัยกลางคนคิด

"จ...จริง เป็นแบบนั้นได้ยังไง" ทัชงงกับสิ่งที่เห็นและก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้

"ชื่อท่อดีไหม น้องท่อ ก็น่ารักดีนะ" รู้สึกเจ้าตัวเล็กก็จะชอบเสียด้วย เพราะเจ้าตัวออกจากท่อมานั่งมองหน้าพวกเธอ แต่ใบหน้านิ่งพร้อมกับเลียปากนี่ หมายความว่ายังไง

"หรือจะหิว" ก็เป็นจริงอย่างที่มารดาเธอกล่าว เมื่อทัชลองเอาอาหารเม็ดใส่ชามของเจ้าตัวเล็ก ปรากฏว่ารีบวิ่งเข้ามาหาทันที และทานอย่างรวดเร็วราวกับอดมานาน ทั้งๆ ที่เธอพึ่งจะให้อาหารไปไม่กี่ชั่วโมงเอง

"กินมากนะแก เดี๋ยวอ้วนไม่รู้ด้วย" คำพูดคงไม่เข้าหูของสุนัขที่เห็นอาหารตรงหน้าเป็นของที่ถูกใจ โลกแห่งการกินของน้องท่อที่ชอบมุดไปนอนในท่อน้ำก็เริ่มต้นขึ้น สุนัขตัวนี้ชอบกินเป็นชีวิตจิตใจ ทัชให้อะไรก็ทานได้หมด จนตัวเริ่มใหญ่ขึ้นตามกาลเวลา และไม่สามารถนอนในท่อพีวีซีได้อีกต่อไป ถึงอย่างนั้นก็ยังหวงไม่ยอมให้ทัชเอาไปไหน พอทัชจะเอาออก น้องท่อก็จะมุดแค่หัว ส่วนตัวอยู่ข้างนอก

"ออกมา...สงสัยต้องซื้อบ้านให้แล้วมั้ง หรือจะต้องซื้อท่อพีวีซีขนาดใหญ่ให้แกนอนดี"



การตัดสินใจของทัช คือการหาท่อพีวีซีขนาดใหญ่ แล้วออกแบบเป็นบ้าน ให้เจ้าตัวนอนอย่างสบาย ถ้าไม่รักเหมือนลูก นี่คงไม่ลงทุนขนาดนี้หรอกนะ

และแล้วน้องท่อก็ได้บ้านที่ออกแบบเหมือนท่อน้ำตามที่ต้องการ แต่ปัญหาต่อมาของเจ้าลูกสุนัขตัวน้อย คือการไม่ส่งเสียงร้องเรียกนั่นเอง



เวลาผ่านไปจนน้องท่ออายุได้ 6 เดือน ก็ยังคงนอนในท่อพีวีซีขนาดใหญ่ ที่ทัชออกแบบให้อย่างสบายใจ โดยมีชามใส่อาหารเม็ดเพ็ดดีกรีรสไก่และผักสำหรับสุนัขตัวเล็ก ที่ทัชเลือกอย่างดีเพื่อสุขภาพของน้องท่อ ถัดไปก็ชามใส่น้ำสะอาดที่เติมให้เต็มและเปลี่ยนบ่อยครั้งที่สกปรก

แต่ทว่าการนอนหลับสบายของน้องท่อกลับไม่สบายเสียแล้ว เมื่อแมวเหมียวพันธุ์เปอร์เซียขนสีขาวหางสวย เลื่อนประตูกระจกอย่างชำนาญ และค่อยๆ ย่างเท้าเข้ามาใกล้น้องท่อที่หลับปุ๋ยไม่รู้สึกตัว แต่เป้าหมายของเจ้าแมวขนฟูฟ่อง คืออาหารในชามข้าวของน้องท่อนั่นเอง แมวหัวขโมยกินอาหารเม็ดเพ็ดดีกรีรสไก่ใส่ผักอย่างเอร็ดอร่อย เสียงเม็ดอาหารกระทบกันและเสียงเคี้ยวกรุบกรับทำให้ท่อลืมตาตื่น สิ่งที่เห็นทำให้น้องท่อต้องเหลือกตาโต รีบกระโดดออกจากที่นอนพร้อมกับเสียงเห่า

"โฮ่ง โฮ่ง" เสียงของท่อดังไปยังห้องทำงานของทัช ทำให้ทัชรีบออกมาดูและต้องยิ้มอย่างดีใจ ที่น้องท่อเห่าได้เหมือนสุนัขทั่วไป รีบเข้าไปโอบอุ้มและกอดให้หายมันเขี้ยว แต่สายตาท่อที่อยู่ในอ้อมแขนทัชนั้น จดจ้องแมวขนฟูที่ยังตั้งหน้าตั้งตากินอาหารของเขา ไม่มีทีท่าจะหวาดกลัวหรือตกใจที่ทัชเข้ามาสักนิด และทัชเองก็ดีใจจนลืมมองว่ามีแมวกำลังแย่งอาหารของลูกชายตน รีบอุ้มท่อไปอวดมารดาที่กำลังนอนดูรายการโปรดในห้องรับแขกอย่างสบายใจ สายตาของท่อคาดโทษเจ้าแมวอ้วนขี้ขโมย ที่แย่งกินอาหารของเขาหน้าตาเฉย สายตาบ่งบอกว่า 'ฝากไว้ก่อน มีเอาคืนแน่'



สาวร่างโปร่งกำลังนั่งคอตกบนโซฟาในคลินิก เธอไม่รู้ตัวว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ และยังคงหลับต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีสาวร่างเล็กถือกระป๋องกาแฟเย็นเดินตรงเข้ามาหาเธอ

"แปะ" ความเย็นบริเวณพวงแก้มใส ทำให้ทัชลืมตาตื่นขึ้น พร้อมกับเงยหน้าส่งสายตาปรือไปยังคนที่ยืนอยู่

“รับหน่อยไหมคะ”

สิ่งที่ทัชเห็นเป็นรอยยิ้มสดใส ทำให้ตาที่ปรือเปิดกว้างอย่างตั้งใจ เหมือนทุกอย่างรอบตัวหยุดลง และเธอตรงหน้าเป็นอย่างนางฟ้าที่น่าหลงใหล รอยยิ้มสวยบนใบหน้าใสของคนตัวเล็ก ในชุดเสื้อกาวน์สั้นที่เธอคลุมทับ เสื้อลูกไม้ที่มีสีชมพูสดใส ยิ่งทำให้ใบหน้าขาว ดวงตากลมโตนั่นดูโดดเด่นขึ้น ทัชจ้องมองสาวตัวเล็กนานจนเกินไป เธอจึงยื่นกาแฟกระป๋องมาตรงหน้าของทัชอีกครั้ง พร้อมกับรอยยิ้มหวานส่งมาให้

"ดื่มหน่อยไหมคะ"

“ค...ค่ะ” ทัชจำต้องเอื้อมมือเพื่อหยิบกระป๋องกาแฟจากมือสวยของสาวน้อยหน้าใส ปลายนิ้วทั้งสองสัมผัสกัน นิ้วเรียวของสาวตัวเล็กทำให้ใจของทัชสั่นไหว อย่างกับกระแสไฟส่งผ่านมายังกลางดวงใจ ทำไมกันนะ! ทัชกลับตั้งคำถามในใจ พร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำ

“ไม่สบายหรือเปล่า ดูคุณหน้าแดงนะ หรือมีไข้” ไม่พูดเปล่าสาวร่างเล็กเอื้อมมือน้อยๆ ของเธอมาแตะที่หน้าผากเนียนของทัช

นี่มันอะไรกัน ความรู้สึกนี้ เธอเป็นแม่มดมากระชากใจฉันใช่ไหม!



HM06
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 มี.ค. 2561, 23:33:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 มี.ค. 2561, 23:33:46 น.

จำนวนการเข้าชม : 574





<< หาหมอ   อยู่คลินิก >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account