พนาพร่ำรัก: หอมดึก (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เมื่อ 'พนสณฑ์' ทายาทเจ้าสัวพันล้าน ถูกกลั่นแกล้งให้รับมรดกเป็นที่ดินรกร้าง พร้อมเงื่อนไขต้องสร้างเงินล้านให้ได้ภายในปีเดียว แถมยังพ่วงเมียขัดดอก ลูกสาวนักพนันมาด้วย จะไหวไหมงานนี้...


***************

นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ในตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดจ้า เพราะพ่อสณฑ์ของเราถึงแม้จะเป็นพระเอกสายโหด แต่ขยัน ‘รัก’ เมียสุดหัวใจ พ่วงด้วยความฮาแบบชาวบ้านตามท้องไร่ท้องนา บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!


**************

นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ

**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com และร้าน booksforfun
-สั่งซื้อกับสนพ.โดยตรงโดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์


(หนังสือพร้อมส่ง)


ราคา 329฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 369฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 389฿)

หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"

**แบบ eBook มีวางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket**
Tags: แบดบอย ทายาทเศรษฐี ลูกสาวนักพนัน เมียขัดดอก น่ารัก ละมุน คู่ชีวิต ท้องไร่ท้องนา

ตอน: บทที่ 12 - 40%

“คุณส่งคนตามดูผมเรอะ” น้ำเสียงกราดเกรี้ยวนั้นดังมาจากสามีที่หล่อนมอบทั้งกายถวายชีวิตให้ เมื่อสองปีก่อนศิริกมลกับเขาถูกแนะนำให้พบกันโดยผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย

กิ่งทองใบหยก ทุกคนคิดอย่างนั้น ศิริกมลไม่ได้คาดคิดว่าสามีผู้ทรงเกียรติของหล่อนจะเปลี่ยนไปถึงเพียงนี้

“ศิไม่ได้ให้ใครไปตามคุณนี่คะ ทำไม หรือคุณมีอะไรหลบซ่อนรึไง”

“อย่ามาเล่นสำนวนกับผมนะ จะให้ผมอยู่บ้านยังไง มีอะไรให้ผมทำ ลูกก็ไม่มีเลี้ยง ทำไมคุณไม่รีบมีลูกล่ะ ผมจะได้อยู่บ้าน คุณเองก็ไม่ต้องฟุ้งซ่านตามหึงหวงผม”

“หฤทธิ์ คุณคิดหรือคะว่าศิไม่อยากมีลูก ศิเสียใจยิ่งกว่าคุณหลายเท่า ใช่สิ หลานสะใภ้ที่ไร้ทายาทอย่างศิคงหมดความหมายสินะคะ เจ้าสัวหาคนใหม่ไว้ให้คุณหรือยังล่ะ หรือคุณหมายตาใครไว้แล้ว”

“เหลวไหลน่า นี่ไงพอผมอยู่บ้านทีไรก็มีแต่เรื่องให้ปวดหัว ผมไปตามเรื่องสมบัติของคุณปู่ ขืนใจเย็นอยู่ไอ้หลานบ้านนอกก็ฮุบไปหมดพอดี”

“ทำไมคะ เจ้าสัวคิดจะยกให้เขารึไง ไหนว่าเกลียดนักหนา” เมื่อพูดถึงสมบัติเงินทองศิริกมลก็อดตาโตไม่ได้ หล่อนกับครอบครัวตกที่นั่งลำบากกลายเป็นพวกเศรษฐีเก่า มีแต่เกียรติยศปลอมๆ มานานแล้ว หล่อนและครอบครัวหวังพึ่งพาสามีของหล่อนเป็นหลัก จึงได้กังวลใจนักว่าเขาจะทิ้งไป

“มันมีเค้า เพราะอย่างนั้นแทนที่คุณจะมามัวหึงหวงผม มาช่วยผมคิดวิธีกำจัดไอ้นี่ดีกว่าน่า” หฤทธิ์ตะล่อมภรรยา พ่อตาของเขาเป็นอดีตผู้ว่าราชการจังหวัด พอมีเส้นสายพอสมควร อาจจะมีทางช่วยเร่งกระบวนการให้เขาได้สมหวังไวขึ้น

มันก็หิวเงิน อยากได้พอๆ กันนั่นแหละน่า เขานึกเย้ยหยัน



***************

                   

ชีวิตใหม่ที่ไร่ดงไม้หอมของนายเรืองโรจน์เป็นไปอย่างราบรื่นดีพอใช้ ทุกคนเข้าใจข้อที่ว่าเขาไม่เคยกับงานหนัก แต่ก็ไม่มีใครบอกให้เขาหยุดพัก หรือให้อภิสิทธิ์ใดๆ หากนายไม่อนุญาต

“ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน หมวดเคยรับราชการมาก่อนคงรู้ข้อนี้ดีนะ” ช่างชดเอ่ย เมื่อสหายเก่าทรุดนั่งลงกลางแดดในลานมันกว้าง เหงื่อไหลท่วมตัว

“แดดแรงจริงๆ นะพี่ ตาแก่คนนั้นทำไหวได้ยังไงทั้งวันแบบนั้น”

“ไม่ทำจะเอาที่ไหนกินล่ะเรืองเอ๊ย”

ลุงพร้อมคือตาแก่คนนั้น ร้องตอบมา

“ทำงานหนักขนาดนี้จะไม่ป่วยเอาเหรอพี่” เรืองโรจน์ถามแล้วก็ทำหน้าแหยๆ

“ยิ่งทำยิ่งแข็งแรง หวัดข้ายังไม่เป็นเลย นานทีปีหนจะไอจามทีนึง ว่าแต่คนหนุ่มๆ อย่างเอ็งเถอะหน้าซีดอย่างกับไก่ต้ม จะเป็นลมหรือไง”

คำหยอกเย้าของลุงพร้อมทำให้นายเรืองโรจน์หน้าเสีย เหลียวมองซ้ายมองขวา ไม่มีใครสนใจเขาอีก ตั้งแต่เช้ามาเขาเพิ่งเห็นหน้าลูกสาวตอน

หล่อนยกอาหารเช้ามาให้ แล้วก็หายไปกับงาน ลูกเขยก็เอาแต่สั่งงานลูกน้อง แทบจะไม่ได้พูดคุยกัน

เรืองโรจน์รู้สึกไม่พอใจในบางครั้ง แต่ก็ไม่ได้อยู่ในฐานะที่ควรจะพูดอะไรได้ เขารู้ว่าลูกสาวยังไม่ยอมอภัยให้ แต่หล่อนเป็นคนขี้ใจอ่อน ไม่นานก็คงเห็นใจ และคงไม่ให้พ่อมาลำบากอย่างนี้ คิดได้อย่างนั้นเขาก็ฝืนใจก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป

“พ่อคะ น้ำเย็นค่ะ” เสียงหวานใสนั้นดังมาจากเจ้าของมือบางที่ยื่นขวดน้ำที่มีไอเย็นจัดเกาะอยู่รอบๆ เขาเงยหน้าหยีตาสู้แสงแดดกล้าเพ่งมอง พลางยิ้มให้

“ขอบใจลูก มันร้อนมากจริงๆ”

“ค่ะ พ่อไหวไหมคะ ช่วงนี้เรารีบกันมากหน่อย หัวมันกำลังเข้ามามาก ใครๆ ก็เอามาขายที่เราหมด”

“งั้นเหรอลูก แหมลูกสาวพ่อเลยรวยเละเลย”

“สมพรปากค่ะพ่อ ลูกไปทำงานต่อก่อนนะคะ” หล่อนหมุนตัวกลับ นายเรืองโรจน์มองตามร่างบางที่หายเข้าไปในสำนักงาน ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เหลียวมองไปรอบกาย เห็นช่างชดจ้องมองมาอยู่ เขาก็นั่งลงทำงานต่อไป

“กำลังลองใจพ่อตาอยู่หรือไงครับนาย” สมชัยเอ่ยถามเมื่อขับรถพานายเข้าเมืองในบ่ายวันนั้น

“ของแบบนี้มันต้องดูกันนานๆ ผีพนันมันร้าย เอ็งก็รู้ ข้าต้องป้อง กันไว้ก่อน”

“ครับนาย อ้าวนั้นเขาขายกระท้อน ลูกใหญ่ๆ น่ากินทั้งนั้น แวะหน่อยนะนาย นายหญิงบ่นอยากทานอะไรแซ่บๆ มีมะม่วงด้วย เดี๋ยวต้องติดไปสักโลสองโล”

“เอ็งรู้ได้ไงว่าเมียข้าชอบกินอะไร”

“อ้าว น๊าย ผมก็ช่างถาม ช่างเอาใจสิครับ เช่นก่อนออกจากไร่ก็แวะไปสำนักงานถามว่า นายหญิงครับ ผมจะเข้าเมืองนายหญิงอยากได้อะไรเป็นพิเศษไหมครับ ยังงี้น่ะ”

“ไอ้ห่า เสนอหน้านักนะ”

“เหอะ อย่างงี้ต้องให้สอน ทีอย่างอื่นละ ไม่เลือกที่ไม่เลือกเวลา ไม่อายเจ้าป่าเจ้าเขา”

“นี่เอ็งแอบดูข้ากับเมียเรอะ”

“เปล๊า” ช่างชัยทำไก๋ เสเลือกกระท้อนปุยฝ้ายกับมะม่วงถุงใหญ่ไปฝากนายหญิง นายของไร่ดงไม้หอมยื่นมือไปจ่ายเงินก่อนจะรวบถุงมาถือเอง

“แน่ะ จะเอาไปเอาหน้าล่ะสิ ปัดโธ่”

“สมชัย!”

“คร๊าบ ทราบครับ อย่าเตะ อย่าถีบกระผมเลยครับช้ำในไปหมด แล้ว” ช่างใหญ่ร้องโหยหวนจนคนขายผลไม้หัวเราะ ในระหว่างทางกลับไร่เสียงโทรศัพท์มือถือของพนสณฑ์ก็ดังขึ้น

“ครับป๋า”

“สณฑ์ ป๋าอยู่ที่กรุงเทพฯ เจ้าสัวเข้าโรง’บาล อาการไม่ค่อยดี”

“เป็นอะไรหรือครับ”

“ป๋ายังไม่แน่ใจ กำลังให้หมอดูอีกที ที่อู่มีนายแม่คนเดียวนะ”

“ครับ ผมจะกลับไปดูให้สักพัก ป๋าจะไปกี่วัน”

“ยังไม่รู้เลยลูก ถ้าเหตุการณ์ปกติ ส่งชัยมาก็ได้ แต่นี่มันแปลกๆ ป๋าไม่ไว้ใจ สณฑ์มาดูหน่อยนะ”

“ครับป๋า ไม่ต้องห่วงนะครับ” พนสณฑ์กดวางโทรศัพท์ก่อนจะถอนหายใจยาว สมชัยหันมามอง ถามขึ้นเนิบๆ ว่า

“เจ้าสัวกระดูกเหล็กไม่สบายเหรอครับ”

“อืม ข้าเลยต้องกลับไปดูงานที่อู่ นี่เพิ่งสั่งรถเข้ามาให้ศรุตาอีกคัน ต้องไปดูเสียหน่อย เขาเป็นลูกค้าประจำ”

“ครับ ผมเข้าใจ อันนั้นเอาไว้อธิบายกับนายหญิงเหอะ”

“ไอ้หอก ข้าพูดจริงจังเว้ย ไม่อยากไปเลย ทางนี้ก็ห่วง เจ้าสัวก็ดันจะมาป่วยเอาตอนนี้ ยุ่งฉิบหาย”

“อ้าวนาย เรื่องป่วยไข้ใครกำหนดได้ ความจริงเจ้าสัวนี่ก็น่าสงสารนะ ดูแกจะทำอะไรก็ผิดไปเสียหมด”

“นี่ล่ะ เพราะทำกับคนอื่นไว้มาก”

“งั้นหรือ ไม่ทั้งหมดมั้งนาย บางเรื่องแกอาจจะไม่ได้ทำก็ได้นา อาจจะเป็นคนอื่นป้ายสีแกก็ได้” สมชัยพูดให้คิด แต่พนสณฑ์ยุ่งเกินกว่าจะได้พิจารณาคำพูดประโยคนั้นจริงจัง

“นายจะไปเมื่อไหร่”

“พรุ่งนี้”

“ไปเถอะ ไม่ต้องห่วง ทางนี้ผมจะดูแลให้ รับรองจะไม่เกิดเรื่องแบบคราวนั้นอีก”



*******************


สำหรับบทที่ 12 จะเป็นบทสุดท้ายที่ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จะลงให้อ่านกันนะคะ หลังจาก จบบทที่ 12 เป็นต้นไปตามต่อกันในเล่มน้าาาา


หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ



ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 พ.ค. 2561, 08:45:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 พ.ค. 2561, 08:46:56 น.

จำนวนการเข้าชม : 764





<< บทที่ 11 - 100%   บทที่ 12 - 55% >>
mottanoy 17 พ.ค. 2561, 21:21:18 น.
คราวนี้คงได้ถึงเวลาพิสูจน์หัวใจของพ่อตาละ

ขอให้หนังสือขายดีนะคะ


ปลายปากกาสำนักพิมพ์ 17 พ.ค. 2561, 22:31:53 น.
ขอบคุณจ้าคุณ mottanoy


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account