พนาพร่ำรัก: หอมดึก (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เมื่อ 'พนสณฑ์' ทายาทเจ้าสัวพันล้าน ถูกกลั่นแกล้งให้รับมรดกเป็นที่ดินรกร้าง พร้อมเงื่อนไขต้องสร้างเงินล้านให้ได้ภายในปีเดียว แถมยังพ่วงเมียขัดดอก ลูกสาวนักพนันมาด้วย จะไหวไหมงานนี้...
***************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ในตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดจ้า เพราะพ่อสณฑ์ของเราถึงแม้จะเป็นพระเอกสายโหด แต่ขยัน ‘รัก’ เมียสุดหัวใจ พ่วงด้วยความฮาแบบชาวบ้านตามท้องไร่ท้องนา บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
**************
นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com และร้าน booksforfun
-สั่งซื้อกับสนพ.โดยตรงโดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์
(หนังสือพร้อมส่ง)
ราคา 329฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 369฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 389฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
**แบบ eBook มีวางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket**
***************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ในตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดจ้า เพราะพ่อสณฑ์ของเราถึงแม้จะเป็นพระเอกสายโหด แต่ขยัน ‘รัก’ เมียสุดหัวใจ พ่วงด้วยความฮาแบบชาวบ้านตามท้องไร่ท้องนา บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
**************
นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com และร้าน booksforfun
-สั่งซื้อกับสนพ.โดยตรงโดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์
(หนังสือพร้อมส่ง)
ราคา 329฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 369฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 389฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
**แบบ eBook มีวางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket**
Tags: แบดบอย ทายาทเศรษฐี ลูกสาวนักพนัน เมียขัดดอก น่ารัก ละมุน คู่ชีวิต ท้องไร่ท้องนา
ตอน: บทที่ 12 - 55%
พนสณฑ์กับสมชัยมาถึงไร่เมื่อบ่ายคล้อยเต็มที คนงานเริ่มเก็บงาน เตรียมตัวพักผ่อน บ้างกลับบ้าน บ้างค้างที่ลานมันเพื่อประหยัดน้ำมันเดินทาง ช่างชด ช่างสามารถ และเรืองโรจน์กำลังช่วยกันหุงหาอาหารที่ครัวชั่วคราวใกล้ที่พัก
“วันนี้ลงมือทำอาหารกันเองเลยหรือ นายหญิงขี้เกียจเลี้ยงแล้วกระมัง”
“นายหญิงไม่สบายน่ะนาย เป็นลมตอนมาดูรถขนมันที่ลานมัน วันนี้แดดจัด”
“อยู่ไหน”
“นอนพักอยู่ที่กระท่อมแน่ะนาย ป้านวลไปดูอยู่” สามารถยังพูดไม่จบดี นายใหญ่ของไร่ดงไม้หอมก็ถลันพรวด เดินแกมวิ่งไปที่กระท่อมกลางไร่ เรืองโรจน์มองตามพลางอมยิ้มในหน้าด้วยความพอใจ
“ลูกแก้ว เป็นไงบ้าง”
“อุ๊ย คุณสณฑ์ ป้ากำลังเช็ดตัวค่ะ ออกไปก่อน”
“ไม่เป็นไร ผมอยู่ได้” เขานั่งลงข้างขอบเตียง กุมมือคนหน้าซีดที่บัดนี้แก้มอิ่มสีเรื่อๆ ค่อยมีสีสันขึ้น ป้านวลอมยิ้ม เขินเสียเอง วางผ้าขนหนูลงในมือนาย แล้วก็ยกกะละมังมาไว้ให้ข้างๆ
“งั้นป้ากลับนะคะ เช็ดตัวเสียแล้วให้จิบน้ำมากๆ ป้าละลายยาหอมไว้ ดื่มเสียด้วยนะคะ ถ้ามึนหัวไม่ต้องลุก ของที่อยากกินเดี๋ยวป้าจะจัดมาให้” ป้านวลบีบหัวไหล่มน ยิ้มๆ ก่อนจะเดินออกไป
“ลูกแก้วอยากกินอะไรหรือ ผมจะไปเอามาให้”
“ของกินเล่นจุบจิบน่ะค่ะ ไม่มีอะไรหรอก คุณสณฑ์เพิ่งมาถึงเหรอคะ เป็นยังไงบ้างธุระเรียบร้อยดีไหม” หล่อนเอ่ยถาม ฝืนยิ้มให้เขา มือบางแอบค่อยๆ ดึงผ้าแพรขึ้นคลุมถึงอก ป้านวลช่วยถอดเสื้อชั้นในออกให้ เหลือแต่เสื้อกล้ามขาวบางตัวเดียวเท่านั้น
“เรียบร้อยดี ทำไมเป็นลมไปล่ะ เมื่อเช้าก็ทานข้าวได้ปกติ หรือว่าลูกแก้วงดมื้อเที่ยง” น้ำเสียงเขาเข้มงวด
“เปล่าค่ะ ทานปกติ วันนี้แดดร้อนค่ะเลยเวียนหัว”
“แดดมันก็ร้อนทุกวันนั้นล่ะ ไปหาหมอดีกว่านะ”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณสณฑ์ ลูกแก้วหายแล้ว แค่เพลียๆ และง่วงนอนเท่านั้น”
“สงสัยผมทำให้คุณอดนอนทั้งคืนล่ะสินะ”
“ก็ อาจจะใช่นะคะ” หล่อนอดขันเขาไม่ได้ สีหน้าเขาจริงจังทีเดียว
“ถ้างั้นคืนนี้เราต้องเริ่มตั้งแต่หัวค่ำ”
“คุณพนสณฑ์คะ”
“จ๋า” เขาประทับจูบลงบนหน้าผากมนเนียนเรียบก่อนจะบรรจงเช็ดตัวให้หล่อนช้าๆ ไม่เกเรหากำไรอย่างที่เคยทำ จนกระทั่งเสร็จสิ้นก็กดจูบหล่อนเป็นรางวัลให้ตัวเองทีนึง ก่อนจะยกกะละมังกับผ้าเช็ดตัวออกไปซักตาก
“อะไรครับนั่นป้านวล ขนมาเยอะแยะน่าเสียวไส้”
“กระท้อนกับยำมะม่วงค่ะ”
“จะไม่เสาะท้องหรือ” เขาถาม เมื่อภรรยาทำตาโต ดูมีเรี่ยวมีแรงลุกขึ้นมาตักของทั้งเปรี้ยวทั้งเผ็ดกินหน้าตาเฉย
“ไม่หรอกค่ะ ของเปรี้ยวทำให้หายเวียนหัว เมื่อวานได้มะดันดองของป้านวลไปโหลนึง เกลี้ยงเลย อร่อยมากค่ะ น่าจะทำขาย”
“ค่ะ นายหญิง เดี๋ยวป้าจะจัดให้ทุกวัน แรกๆ ก็อย่างนี้ ป้าไปก่อนนะคะ” ป้านวลพยักพเยิด ทำอมยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนลงบันไดไป พนสณฑ์นั่งที่ปลายเตียงมองภรรยาสาวตักของว่างเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย สมองเขาครุ่นคิดว่าจะจัดการกับธุระที่อู่และที่ไร่อย่างไร
“คุณสณฑ์มีอะไรหรือเปล่าคะ” รุจิรัตน์ถาม ลุกจากเตียงด้วยสีหน้าและท่าทางที่ดีขึ้น หล่อนรวบช้อนส้อมและจานไว้ที่โต๊ะเล็กๆ ข้างเตียง
“เจ้าสัวป่วย ป๋าเข้ากรุงเทพฯ ไปแล้ว เห็นทีผมคงต้องไปดูที่อู่ สักพัก ตำรวจยังมาป้วนเปี้ยนไม่หยุด”
“ตายจริง ท่านเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ เราควรไปเยี่ยมไหมคะ”
“ผมคงไม่ไป ป๋าไปแล้วนี่นา อีกอย่างเราก็ยุ่ง ผมไม่อยากทิ้งคุณไว้ที่ไร่อีก กลัวมีเรื่องอย่างครั้งที่แล้ว”
สามีทอดสายตามองหล่อน รุจิรัตน์อมยิ้ม
“อย่าห่วงเลยค่ะ ถ้ามัวกลัวอยู่เราคงไม่เป็นอันทำอะไร จริงไหมคะ คุณสณฑ์ไปเถอะค่ะ ทางนี้ลูกแก้วมีคนตั้งมากดูแล นายแม่ท่านอายุมากแล้วน่าเป็นห่วงมากกว่า” หล่อนกลับเป็นฝ่ายปลอบประโลมเขา
“รู้ไหม แต่ก่อนผมไม่เคยกลัวอะไรทั้งสิ้น แต่ตอนนี้ผมกลัวสารพัด กลัวคุณเป็นอันตราย กลัวตัวเองเป็นอะไรไปแล้วจะไม่ได้กลับมาเห็นหน้าเมีย ความรักทำให้คนอ่อนแอได้ด้วยหรือ” เขาเอนกายลง หนุนศีรษะกับตักหล่อน
“แต่คุณสณฑ์ทำให้ลูกแก้วแข็งแกร่งขึ้นค่ะ เชื่อสิคะ ลูกแก้วไม่เป็นไรแน่ๆ ไปเถอะค่ะ นะคะ”
“แหม รู้สึกว่าจะอยากให้ผมไปไกลๆ นักนะ เวลาผมไม่อยู่มีใครมาเกาะแกะหรือเปล่า เจ้าป่าไม้นั่นมาอีกไหม” เขาทำตาวาวดุ รุจิรัตน์อมยิ้ม
“ไม่มีหรอกค่ะ”
“แน่นะ ผมน่ะแย่เลย อยู่หวานกับเมียได้ไม่กี่วันก็ต้องไป อย่างนี้แล้วเมื่อไหร่ป๋ากับนายแม่จะได้อุ้มหลาน กลับไปนี่นายแม่คงบ่นจนผมหูชา ป๋าชอบว่าผมไม่มีน้ำยา ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า”
“คิดมากไปหรือเปล่าคะ”
อยากจะบอกเขาว่าที่หล่อนกับป้านวลสงสัยอาจจะเป็นข้อพิสูจน์ว่าน้ำยาเขาแรงดีทีเดียวล่ะ เอาไว้ก่อนเถอะ ให้มั่นใจเสียก่อนค่อยบอกเขา
“ของแบบนี้มันต้องฝึกฝนบ่อยๆ”
เขาพูดไปเลื้อยไป ไม่นานร่างน้อยก็อยู่ในอ้อมอกกว้าง รุจิรัตน์ขืนตัวเบาๆ ดิ้นดุกดิกนิดหน่อยก็หลุดออกมาได้
“เดี๋ยวลูกแก้วไปอาบน้ำก่อนนะคะ เตรียมทำอาหารอร่อยๆ ให้คุณสณฑ์ทาน นอนพักไปก่อนนะคะ หรือจะรับเบียร์เย็นๆ เอาไหมคะ ลูกแก้วแช่ไว้เย็นเจี๊ยบ”
หล่อนเอ่ยถามมาจากประตูห้อง เขาทอดตาคมหวานซึ้งมองตามหล่อนอย่างคาดโทษ พยักหน้าหงึกๆ ไม่นานภรรยาสาวก็ประคองแก้วเบียร์เย็นจัดเข้ามาให้ถึงบนเตียง นายหนุ่มแห่งไร่ดงไม้หอมนอนเอนกายจิบเบียร์ผ่านหน้าต่างบานใหญ่ เขามองอาณาจักรกลางพนาของตนด้วยใจที่เป็นสุข
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
“วันนี้ลงมือทำอาหารกันเองเลยหรือ นายหญิงขี้เกียจเลี้ยงแล้วกระมัง”
“นายหญิงไม่สบายน่ะนาย เป็นลมตอนมาดูรถขนมันที่ลานมัน วันนี้แดดจัด”
“อยู่ไหน”
“นอนพักอยู่ที่กระท่อมแน่ะนาย ป้านวลไปดูอยู่” สามารถยังพูดไม่จบดี นายใหญ่ของไร่ดงไม้หอมก็ถลันพรวด เดินแกมวิ่งไปที่กระท่อมกลางไร่ เรืองโรจน์มองตามพลางอมยิ้มในหน้าด้วยความพอใจ
“ลูกแก้ว เป็นไงบ้าง”
“อุ๊ย คุณสณฑ์ ป้ากำลังเช็ดตัวค่ะ ออกไปก่อน”
“ไม่เป็นไร ผมอยู่ได้” เขานั่งลงข้างขอบเตียง กุมมือคนหน้าซีดที่บัดนี้แก้มอิ่มสีเรื่อๆ ค่อยมีสีสันขึ้น ป้านวลอมยิ้ม เขินเสียเอง วางผ้าขนหนูลงในมือนาย แล้วก็ยกกะละมังมาไว้ให้ข้างๆ
“งั้นป้ากลับนะคะ เช็ดตัวเสียแล้วให้จิบน้ำมากๆ ป้าละลายยาหอมไว้ ดื่มเสียด้วยนะคะ ถ้ามึนหัวไม่ต้องลุก ของที่อยากกินเดี๋ยวป้าจะจัดมาให้” ป้านวลบีบหัวไหล่มน ยิ้มๆ ก่อนจะเดินออกไป
“ลูกแก้วอยากกินอะไรหรือ ผมจะไปเอามาให้”
“ของกินเล่นจุบจิบน่ะค่ะ ไม่มีอะไรหรอก คุณสณฑ์เพิ่งมาถึงเหรอคะ เป็นยังไงบ้างธุระเรียบร้อยดีไหม” หล่อนเอ่ยถาม ฝืนยิ้มให้เขา มือบางแอบค่อยๆ ดึงผ้าแพรขึ้นคลุมถึงอก ป้านวลช่วยถอดเสื้อชั้นในออกให้ เหลือแต่เสื้อกล้ามขาวบางตัวเดียวเท่านั้น
“เรียบร้อยดี ทำไมเป็นลมไปล่ะ เมื่อเช้าก็ทานข้าวได้ปกติ หรือว่าลูกแก้วงดมื้อเที่ยง” น้ำเสียงเขาเข้มงวด
“เปล่าค่ะ ทานปกติ วันนี้แดดร้อนค่ะเลยเวียนหัว”
“แดดมันก็ร้อนทุกวันนั้นล่ะ ไปหาหมอดีกว่านะ”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณสณฑ์ ลูกแก้วหายแล้ว แค่เพลียๆ และง่วงนอนเท่านั้น”
“สงสัยผมทำให้คุณอดนอนทั้งคืนล่ะสินะ”
“ก็ อาจจะใช่นะคะ” หล่อนอดขันเขาไม่ได้ สีหน้าเขาจริงจังทีเดียว
“ถ้างั้นคืนนี้เราต้องเริ่มตั้งแต่หัวค่ำ”
“คุณพนสณฑ์คะ”
“จ๋า” เขาประทับจูบลงบนหน้าผากมนเนียนเรียบก่อนจะบรรจงเช็ดตัวให้หล่อนช้าๆ ไม่เกเรหากำไรอย่างที่เคยทำ จนกระทั่งเสร็จสิ้นก็กดจูบหล่อนเป็นรางวัลให้ตัวเองทีนึง ก่อนจะยกกะละมังกับผ้าเช็ดตัวออกไปซักตาก
“อะไรครับนั่นป้านวล ขนมาเยอะแยะน่าเสียวไส้”
“กระท้อนกับยำมะม่วงค่ะ”
“จะไม่เสาะท้องหรือ” เขาถาม เมื่อภรรยาทำตาโต ดูมีเรี่ยวมีแรงลุกขึ้นมาตักของทั้งเปรี้ยวทั้งเผ็ดกินหน้าตาเฉย
“ไม่หรอกค่ะ ของเปรี้ยวทำให้หายเวียนหัว เมื่อวานได้มะดันดองของป้านวลไปโหลนึง เกลี้ยงเลย อร่อยมากค่ะ น่าจะทำขาย”
“ค่ะ นายหญิง เดี๋ยวป้าจะจัดให้ทุกวัน แรกๆ ก็อย่างนี้ ป้าไปก่อนนะคะ” ป้านวลพยักพเยิด ทำอมยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนลงบันไดไป พนสณฑ์นั่งที่ปลายเตียงมองภรรยาสาวตักของว่างเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย สมองเขาครุ่นคิดว่าจะจัดการกับธุระที่อู่และที่ไร่อย่างไร
“คุณสณฑ์มีอะไรหรือเปล่าคะ” รุจิรัตน์ถาม ลุกจากเตียงด้วยสีหน้าและท่าทางที่ดีขึ้น หล่อนรวบช้อนส้อมและจานไว้ที่โต๊ะเล็กๆ ข้างเตียง
“เจ้าสัวป่วย ป๋าเข้ากรุงเทพฯ ไปแล้ว เห็นทีผมคงต้องไปดูที่อู่ สักพัก ตำรวจยังมาป้วนเปี้ยนไม่หยุด”
“ตายจริง ท่านเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ เราควรไปเยี่ยมไหมคะ”
“ผมคงไม่ไป ป๋าไปแล้วนี่นา อีกอย่างเราก็ยุ่ง ผมไม่อยากทิ้งคุณไว้ที่ไร่อีก กลัวมีเรื่องอย่างครั้งที่แล้ว”
สามีทอดสายตามองหล่อน รุจิรัตน์อมยิ้ม
“อย่าห่วงเลยค่ะ ถ้ามัวกลัวอยู่เราคงไม่เป็นอันทำอะไร จริงไหมคะ คุณสณฑ์ไปเถอะค่ะ ทางนี้ลูกแก้วมีคนตั้งมากดูแล นายแม่ท่านอายุมากแล้วน่าเป็นห่วงมากกว่า” หล่อนกลับเป็นฝ่ายปลอบประโลมเขา
“รู้ไหม แต่ก่อนผมไม่เคยกลัวอะไรทั้งสิ้น แต่ตอนนี้ผมกลัวสารพัด กลัวคุณเป็นอันตราย กลัวตัวเองเป็นอะไรไปแล้วจะไม่ได้กลับมาเห็นหน้าเมีย ความรักทำให้คนอ่อนแอได้ด้วยหรือ” เขาเอนกายลง หนุนศีรษะกับตักหล่อน
“แต่คุณสณฑ์ทำให้ลูกแก้วแข็งแกร่งขึ้นค่ะ เชื่อสิคะ ลูกแก้วไม่เป็นไรแน่ๆ ไปเถอะค่ะ นะคะ”
“แหม รู้สึกว่าจะอยากให้ผมไปไกลๆ นักนะ เวลาผมไม่อยู่มีใครมาเกาะแกะหรือเปล่า เจ้าป่าไม้นั่นมาอีกไหม” เขาทำตาวาวดุ รุจิรัตน์อมยิ้ม
“ไม่มีหรอกค่ะ”
“แน่นะ ผมน่ะแย่เลย อยู่หวานกับเมียได้ไม่กี่วันก็ต้องไป อย่างนี้แล้วเมื่อไหร่ป๋ากับนายแม่จะได้อุ้มหลาน กลับไปนี่นายแม่คงบ่นจนผมหูชา ป๋าชอบว่าผมไม่มีน้ำยา ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า”
“คิดมากไปหรือเปล่าคะ”
อยากจะบอกเขาว่าที่หล่อนกับป้านวลสงสัยอาจจะเป็นข้อพิสูจน์ว่าน้ำยาเขาแรงดีทีเดียวล่ะ เอาไว้ก่อนเถอะ ให้มั่นใจเสียก่อนค่อยบอกเขา
“ของแบบนี้มันต้องฝึกฝนบ่อยๆ”
เขาพูดไปเลื้อยไป ไม่นานร่างน้อยก็อยู่ในอ้อมอกกว้าง รุจิรัตน์ขืนตัวเบาๆ ดิ้นดุกดิกนิดหน่อยก็หลุดออกมาได้
“เดี๋ยวลูกแก้วไปอาบน้ำก่อนนะคะ เตรียมทำอาหารอร่อยๆ ให้คุณสณฑ์ทาน นอนพักไปก่อนนะคะ หรือจะรับเบียร์เย็นๆ เอาไหมคะ ลูกแก้วแช่ไว้เย็นเจี๊ยบ”
หล่อนเอ่ยถามมาจากประตูห้อง เขาทอดตาคมหวานซึ้งมองตามหล่อนอย่างคาดโทษ พยักหน้าหงึกๆ ไม่นานภรรยาสาวก็ประคองแก้วเบียร์เย็นจัดเข้ามาให้ถึงบนเตียง นายหนุ่มแห่งไร่ดงไม้หอมนอนเอนกายจิบเบียร์ผ่านหน้าต่างบานใหญ่ เขามองอาณาจักรกลางพนาของตนด้วยใจที่เป็นสุข
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 พ.ค. 2561, 11:51:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 พ.ค. 2561, 11:51:02 น.
จำนวนการเข้าชม : 760
<< บทที่ 12 - 40% | บทที่ 12 - 75% >> |
mottanoy 19 พ.ค. 2561, 06:39:30 น.
ไปสอยจากเวปmeb มาแล้วนะคะ เดี๋ยวมีเวลาจะอ่านให้จบ
ไปสอยจากเวปmeb มาแล้วนะคะ เดี๋ยวมีเวลาจะอ่านให้จบ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์ 19 พ.ค. 2561, 07:34:25 น.
ขอบคุณคุณ mottanoy มากมายจ้า อ่านหนุกหนานค่ะ อิอิ
ขอบคุณคุณ mottanoy มากมายจ้า อ่านหนุกหนานค่ะ อิอิ