พนาพร่ำรัก: หอมดึก (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เมื่อ 'พนสณฑ์' ทายาทเจ้าสัวพันล้าน ถูกกลั่นแกล้งให้รับมรดกเป็นที่ดินรกร้าง พร้อมเงื่อนไขต้องสร้างเงินล้านให้ได้ภายในปีเดียว แถมยังพ่วงเมียขัดดอก ลูกสาวนักพนันมาด้วย จะไหวไหมงานนี้...
***************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ในตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดจ้า เพราะพ่อสณฑ์ของเราถึงแม้จะเป็นพระเอกสายโหด แต่ขยัน ‘รัก’ เมียสุดหัวใจ พ่วงด้วยความฮาแบบชาวบ้านตามท้องไร่ท้องนา บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
**************
นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com และร้าน booksforfun
-สั่งซื้อกับสนพ.โดยตรงโดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์
(หนังสือพร้อมส่ง)
ราคา 329฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 369฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 389฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
**แบบ eBook มีวางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket**
***************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ในตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดจ้า เพราะพ่อสณฑ์ของเราถึงแม้จะเป็นพระเอกสายโหด แต่ขยัน ‘รัก’ เมียสุดหัวใจ พ่วงด้วยความฮาแบบชาวบ้านตามท้องไร่ท้องนา บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
**************
นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com และร้าน booksforfun
-สั่งซื้อกับสนพ.โดยตรงโดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์
(หนังสือพร้อมส่ง)
ราคา 329฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 369฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 389฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
**แบบ eBook มีวางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket**
Tags: แบดบอย ทายาทเศรษฐี ลูกสาวนักพนัน เมียขัดดอก น่ารัก ละมุน คู่ชีวิต ท้องไร่ท้องนา
ตอน: บทที่ 12 (100%) + ช่องทางวางจำหน่าย
คลับที่ศรุตาพาพนสณฑ์ไปนั้นเปิดใหม่ ใหญ่โตโอ่อ่าพอสมควร เดาได้จากความนอบน้อมของผู้จัดการร้านว่าครอบครัวของหล่อนคงมีหุ้นอยู่ด้วยไม่มากก็น้อย ตระกูลของศรุตาดำเนินธุรกิจด้านการบันเทิงมาหลายชั่วคนทั้งใต้ดินและบนดิน เรียกได้ว่ามีอิทธิพลไม่น้อยในภูมิภาคนี้ นักท่องราตรีที่หักพวงมาลัยรถราคาแพงเข้ามาในงาน ล้วนเป็นคนมีชื่อเสียง ทายาทตระกูลดังไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ทันทีที่พนสณฑ์เดินเข้าไปในคลับพร้อมๆ กับศรุตา ทั้งสองก็ตกเป็นเป้าสายตาของใครๆ
“คุณสณฑ์ หายไปไหนมาซะนานครับ ขาดสิงห์นักบิดอย่างคุณสนามแข่งจืดชืดไปเลย”
“ผมไม่กล้าลงสนามเดียวกันกับมือเก๋าอย่างคุณพลหรอกครับ ต้องแอบไปซ้อมมือมาให้เหมาะเสียก่อน”
“แหม...ถ่อมตัวจริงๆ นะ นั่นคุณตาไปถอยรถมาใหม่อีกแล้วเหรอครับนี่”
“ค่ะ ตาเป็นคนเบื่อง่ายน่ะค่ะ พอดีสณฑ์มีใหม่ๆ มาแนะนำก็เลยเอามาลองขับเล่นๆ ดู”
“อูย ห้าหกล้าน ไม่เล่นกระมังครับ วันหลังเอาไปลงสนามบ้างสิฮะ สวยๆ อย่างนี้ พวกเราจะได้ชมเป็นขวัญตา”
“โอเค ตกลงเรารับคำท้านะคะสณฑ์”
“ครับ”
พนสณฑ์พยักหน้า สายตาเหลือบไปเห็นโต๊ะวีไอพีที่มีคนคุ้นหน้านั่งอยู่ ที่สำคัญสายตาคมที่จับจ้องมาวาววับราวกับจะเฉือนเขาทั้งเป็น
“นั่นหฤทธิ์นี่”
“ค่ะ”
ศรุตารับไปอย่างนั้น อดขวางนัยน์ตาของนายตำรวจหนุ่มใหญ่ที่ทำท่าจะลุกมาหาหล่อนทันทีที่เห็นไม่ได้ ลองมาสิ ฉันจะตัดให้ไม่เหลือใยเลยทีเดียว เกลียดนักพวกผู้ชายตอแย พูดไม่รู้เรื่อง
“ข้ามถิ่นมาถึงนี่”
“สณฑ์ก็รู้นี่คะว่าพวกมีสีนี่ไปทุกที่ที่มีเงินล่อ”
ศรุตาเอียงหน้ากระซิบบอก พลางเบะปากที่แต่งแต้มสีสันไว้สวย งาม วันนี้หล่อนสวมชุดสีดำเรียบหรู รัดรูปทรงงาม อวดเรียวขายาวชวนมอง และสะโพกงอนงามหาใครเปรียบยาก รองเท้าส้นสูงและกระเป๋าใบจิ๋วยี่ห้อและสีเดียวกัน ใบหน้างามโดดเด่นเมื่อหล่อนรวบผมตึง เปิดหน้าผากเนียนสวย และเครื่องหน้าทรงเสน่ห์
“ดูท่าเขามีอะไรจะคุยกับผม เห็นจ้องไม่วางตา”
“นั่นสิคะ ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย” ศรุตาชักจะฉุน หล่อนเมินหน้าไปเสียทางอื่น
โง่เง่าเสียจริง จะจ้องให้เขารู้ไต๋หมดเลยหรือไงนะ
“ณพกับต๊ะมาแล้ว” พนสณฑ์รีบขยับกายออกห่างร่างอรชรที่เบียดสนิท รชตเหมือนจะรู้แกว ปรี่เข้าสวมกอดร่างแกร่งของสหายจนหงายหลัง แถมยังทรุดตัวลงนั่งแทรกกลางอีกต่างหาก
“เอ๊ะ ต๊ะ เรื่องอะไรมานั่งเบียดกันคะ ที่มีตั้งเยอะ”
“นั่นสิ ผมก็ว่าจะถามตาเหมือนกันว่ามาเบียดไอ้สณฑ์มันทำไม ที่ว่างๆ มีตั้งเยอะ” รชตเน้นย้ำคำว่า ‘ว่าง’ เสียจนศรุตาหน้าตึง ค้อนขวับ เบื่อจะเถียงกับเขา
“ไงไอ้เสือ หนีเมียจากป่ามาเรอะ”
“งานด่วนน่ะสิ ป๋าเขาไปเฝ้าเจ้าสัว”
“อ้าว เจ้าสัวกระดูกเหล็กเป็นอะไรเสียล่ะ”
“ไม่รู้เหมือนกัน” พนสณฑ์ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ สองตามองไปรอบๆ ศรุตารักการแข่งขัน หล่อนพร้อมจะช่วงชิงทุกอย่างเพื่อเป็นผู้ชนะ จริงอยู่มีผู้ชายมากมายมาเสนอตัวให้หล่อนเลือก พวกเขาล้วนเพียบพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตา ฐานะการเงิน และการงาน อย่างนายตำรวจอนาคตไกลอย่างหฤทธิ์นั่น หล่อนรู้ว่าเขาพร้อมจะหย่าขาดจากภรรยาเพื่อมาอยู่กับหล่อน เพียงความสัมพันธ์ไม่กี่ครั้ง เขาก็ยอมหล่อนทุกอย่าง ยอมจนหล่อนเบื่อระอา กับพนสณฑ์ ทุกอย่างคือความสนุก ท้าทาย เขาเองก็ชอบเกมการแข่งขัน ไม่แพ้หล่อน ไม่อย่างนั้นคงไม่โดดลงไปเล่นเกมกับเจ้าสัวง่ายๆ เขาเปิดความสัมพันธ์กับหล่อนเพราะนิยมในเกมอันสนุก ไร้ข้อผูกมัด เขามาหาหล่อนเมื่ออยากพบจริงๆ และทุ่มเทให้ยามอยู่ด้วยกันอย่างสุภาพบุรุษ แล้วก็ไปก่อนที่หล่อนจะเบื่อเหมือนของเล่นชิ้นท้าทายที่ล่อตาล่อใจอยู่เสมอ
ต่างกันก็ครั้งนี้ เขาทำท่าราวกับว่าจะลาขาดจากหล่อน วางตัวห่างเหินอย่างกับคนมีเจ้าของ
ฮึ! เจ้าของคนใหม่ของเขาไม่คู่ควรกับของเล่นมีค่าอย่างเขาสักนิด รุจิรัตน์มีแต่ทำให้เขาอับอายยามพาออกงานสังคม สณฑ์จะบอกเพื่อนๆ ในวงการว่ายังไง มีเมียเป็นชาวไร่ เป็นลูกสาวเซียนพนัน เมียขัดดอกงั้นหรือ?
ต้องหล่อนสิที่คู่ควรกับเขาทุกอย่าง ไม่มีอะไรที่คนอย่างศรุตาจะช่วยเหลือเขาไม่ได้ ไม่มีอะไรที่สณฑ์ชอบแล้วหล่อนไม่รู้ เราเข้ากันได้ดีเสมอ เขาจึงควรคู่กับหล่อน ส่วนเมียขัดดอกนั่นก็สมควรจมอยู่กับงานไร่ หรือไม่ก็กลับไปอยู่สลัมตามเดิม เลยเที่ยงคืนแล้วสินะ แม่ซินเดอเรลล่าก้นครัว ได้เวลากลับสู่สภาพเดิมแล้วล่ะ!
ตึ๊ดๆ
ระบบสั่นเตือนสายเรียกเข้าพร้อมไฟหน้าจอสว่างวาบจากโทรศัพท์มือถือที่พนสณฑ์วางไว้ตรงหน้าและเทียวมองหลายรอบ
“นั่นแน่ ไม่ธรรมดานะเดี๋ยวนี้ รับสิจ๊ะ เมียจ๋าโทร.มา” รชตตาไวทำเสียงเล็กเสียงน้อยยั่วเย้า พนสณฑ์หน้าแดงก่ำ ใจเต้นแรงเป็นเด็กหนุ่ม คว้าโทรศัพท์มากดรับสาย แล้วแนบไว้กับหู
“สวัสดีค่ะคุณสณฑ์” เสียงหวานนุ่มระรื่นหูนั้น ยิ่งทำให้เขายิ้มไม่หุบ แว่วเสียงอรรณพและรชตกระแอมกระไอปะปนกับเสียงดนตรีคลอๆ มา โชคดีที่คลับแห่งนี้ไม่อึกทึกเท่าที่อื่นๆ เขาพอจะได้ยินเสียงหล่อน
“ครับผม โทร.ไปเมื่อบ่าย ลูกแก้วยุ่งเหรอครับ”
“ขอโทษทีค่ะ วันนี้แดดร้อน เพลียก็เลยหลับไป คุณสณฑ์เป็นยังไงบ้างคะ ทานข้าวหรือยัง”
“ออกมาทานกับเพื่อนๆ...นี่ อรรณพกับรชตนั่งอยู่นี่ ศรุตาก็ด้วย เพื่อนๆ กัน”
“งั้นลูกแก้วไม่รบกวนดีกว่าค่ะ ฝากสวัสดีทุกคนด้วยนะคะ”
“ไม่เอา ผมยังไม่หายคิดถึงเลย คุยอีกหน่อยนะ” พนสณฑ์ทำเสียงโอดจนเพื่อนๆ เบือนหน้าหนี ศรุตานั้นลุกไปจากโต๊ะเลยทีเดียว หล่อนไปไม่นานเสียงเพลงในคลับก็ดังด้วยจังหวะดิ้นที่คึกคักขึ้น จนกลบเสียงปลายสายเสียหมด
“นายแม่เป็นยังไงบ้างคะ” รุจิรัตน์กรอกเสียงมาในสาย เสียงเพลงที่ดังกระหึ่มทำให้หล่อนต้องยกหูโทรศัพท์ออกห่าง
“ลูกแก้วว่าอะไรนะครับ ผมไม่ได้ยิน”
พนสณฑ์มองซ้ายขวา ชักหงุดหงิด เขาลุกขึ้นเดินออกไปด้านหลัง
“ได้ยินไหมครับ”
“ค่ะ ได้ยินแล้ว ลูกแก้วถามว่านายแม่เป็นยังไงบ้างคะ” เสียงปลายสายหวานหยด
“แม่สบายดีครับ ป๋ายังไม่กลับมาเลย ผมคงต้องอยู่ต่ออีก อยากกลับจะแย่ คุณส่งสมชัยมาให้ผมทำไม ผมเป็นห่วงคุณมากกว่า ไม่ค่อยไว้ใจคนอื่น”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ทางนี้เรียบร้อยดี”
“งั้นคุณมาอยู่ที่อู่กับผมไหม นะ นายแม่คงดีใจ”
“ไม่ได้หรอกค่ะคุณสณฑ์ เราทำธุรกิจก็ต้องคอยกำกับดูแล จริงไหมคะ” หล่อนค่อยๆ อธิบาย
“ผมคิดถึงคุณ” พนสณฑ์โขกศีรษะกับกำแพงเบาๆ ขณะที่มือหนึ่งถือโทรศัพท์อีกมือลูบหน้าคมของตน
“ขอบคุณค่ะ”
เสียงปลายสายหวานแผ่ว อู้อี้ราวกับคนเป็นหวัด ใบหน้าแนบอยู่กับหมอนนิ่ม กรุ่นกลิ่นกายเขา
พักหลังๆ นี้หล่อนอารมณ์แปรปรวนบ่อยๆ เจ้าลูกสุนัขตัวน้อยโดนดุประจำ ป้านวลบอกว่าเป็นอาการปกติของคนท้องอ่อนๆ หล่อนอยากจะไปตรวจดูเหมือนกัน แต่ก็กลัวผิดหวัง อีกอย่างก็อยากไปพร้อมเขามากกว่า
“คิดถึงเมียใจจะขาด เวลาเข้านอน ผมอยากให้ถึงเช้าไวๆ นอนไม่หลับเลย คุณคงหลับสบายล่ะสินะ คงไม่กระวนกระวายเป็นบ้าอย่างผม” เขาตัดพ้ออย่างผิดวิสัยคนใจเด็ด
“คิดถึงสิคะ ทำไมจะไม่คิดถึง ยิ่งตอนนี้ยิ่งคิดถึงมาก”
หล่อนบอกด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“จริงหรือครับ มีอะไรหรือเปล่า”
ไม่ทันที่หล่อนจะได้ตอบเขา บทสนทนาของทั้งคู่ก็ต้องชะงักลง เมื่อร่างของพนสณฑ์ถูกผลักเซไปข้างหลังอย่างแรง โทรศัพท์หล่นลงพื้นแตกกระจาย ตามมาด้วยหมัดหนักๆ ฟาดลงบนใบหน้า
“ว้าย พี่หฤทธิ์หยุดนะ สณฑ์เป็นยังไงบ้าง” จังหวะที่ศรุตาถลันเข้ามาหา พนสณฑ์ก็ถูกกระชากเข้าไปต่อยอีกทีหนึ่งที่มุมปากจนเลือดซึม แต่พออีกฝ่ายปรี่เข้าไปหาพยายามจะซ้ำเขาก็ได้สติ สวนกลับไปสองหมัดอย่างไม่ให้เสียเปรียบกัน นายตำรวจหนุ่มใหญ่หงายหลังชนกำแพงกับกระถางต้นไม้ล้มระเนระนาด
“ไอ้สณฑ์มึงต่อยกู มึงตายแน่”
“เออ ทำไม กูไม่มีมือไม่มีตีนหรือไง ลุกขึ้นมาสิ อย่าดีแต่ลอบกัด”
“ใครลอบกัดมึง ไอ้ลูกช่างซ่อมกระจอก”
พัวะ!
“เป็นไง หมัดลูกช่างกระจอกอย่างกู หนักดีไหม”
“สณฑ์ไปเถอะคะ อย่าสนใจเลยนะคะ”
“เออ ไปเลย หนีไปซ่อนใต้กระโปรงผู้หญิง ไอ้โง่”
“ใครกันแน่ที่โง่ กูยังไม่ได้ไปไหน มีอะไรว่ามา”
พนสณฑ์ย่างเข้าไปหาร่างที่ค่อยๆ หยัดตัวขึ้นยืน ความเมาบวกกับแรงหมัดทำให้เขามึนชาไปหมด
“กูไม่เอามึงไว้แน่ อย่าหวังว่าจะได้อะไรจากคุณปู่ ไอ้หลานนอกไส้”
“กูไม่เคยอยากได้ของใคร ว่าแต่มึงเถอะดิ้นพล่านแบบนี้ อยากได้มากสินะ เออ ไว้กูจะสงเคราะห์ขอเจ้าสัวให้ เอาไหม”
“ไอ้ ไอ้จิ๊กโก๋ชั้นต่ำ ไอ้...” มือที่ชี้มายังพนสณฑ์สั่นระริก ดวงตาแดงโปนแทบถลน ยิ่งเห็นศรุตาเข้ามาพยุงอีกฝ่ายยิ่งเดือดดาล หากความมึนเมาทำให้เขาเซไป ลูกน้องนอกเครื่องแบบที่มาด้วยรีบเข้ามาประคอง
“ปล่อยกู”
“พากลับไปก่อนที่ฉันจะเรียกคนที่ใหญ่กว่านี้มาจัดการ” ศรุตาเข่นเขี้ยวถลึงตาใส่ ร่างป้อแป้ของนายตำรวจหนุ่มถูกพยุงกึ่งลากออกไป พนสณฑ์เช็ดเลือดที่มุมปาก ปัดมือของศรุตาออกอย่างสุภาพแล้วก็เดินไปหยิบซากโทรศัพท์ขึ้นมาพลิกดู
“ฉิบหาย กำลังคุยกับเมียอยู่ดีๆ ป่านนี้ตกใจแย่แล้ว” เขาพึมพำกับตัวเอง
“สณฑ์คะ ขอตาดูแผลหน่อย”
“ไม่เป็นไร ผมกลับละ ไปก่อนนะเว้ย ฤกษ์ไม่ดีเสียแล้ววันนี้ วันหลังไปกินที่อู่ดีกว่า คืนนี้จะรีบกลับไปโทร.หาเมีย” เขาร้องบอกอรรณพกับ รชต ก่อนจะเดินตรงลิ่วไปที่รถ ส่วนศรุตานั้นโกรธทั้งเขาและนายตำรวจหนุ่มตัวการก่อเรื่องจนพูดไม่ออก
หล่อนคิดผิดที่เข้าไปยั่วให้นายนั่นหึงหวง ไม่นึกว่ามันจะโง่ พุ่งเข้าไปทำร้ายสณฑ์นี่ แค่อยากจะให้เขาเลิกคุยกับแม่นั่นแล้วหันมาหึงหวงหล่อนบ้าง บ้าจริงเชียว! โง่นัก!
***********
และแล้วก็ดำเนินมาถึงตอนสุดท้ายแล้วจ้า ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์ขอลงคุณสณฑ์กับหนูลูกแก้วจบแค่เท่านี้นะคะ บทถัดจากนี้ไปตามต่อกันในเล่มได้เลยจ้า ^O^
ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์ขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่เข้ามาติดตามน้าาา ทั้งทุกๆ คอมเมนต์ ทุกคะแนนโหวตในแต่ละตอน ที่สำคัญ ขอบคุณนักอ่านสุดแสนน่ารักที่สอยคุณสณฑ์กับหนูลูกแก้วมาแล้วด้วยจ้า 'พนาพร่ำรัก' เป็นนิยายเรื่องแรกของสำนักพิมพ์ค่ะ แต่ต้องบอกเลยว่า นักอ่านเว็บเลิฟอบอุ่นมากๆ ทีมงานขอฝากผลงานเรื่องอื่นๆ ของปลายปากกาสำนักพิมพ์ไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ ถึงเราจะเป็นน้องใหม่ แต่เราจะพยายามทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อนักอ่านและนักเขียนทุกท่านนะคะ เพราะสโลแกนของปลายปากกาสำนักพิมพ์คือ 'เพื่อนักเขียน...เพื่อนักอ่าน' อิอิ
และจะมีมาให้ได้อ่านกันอีกเรื่อยๆ แน่นอนค่ะ
ตอนนี้ที่ยังอัพอยู่คือเรื่อง 'นาฏกรรมลวง' แต่งโดย 'ขวัญของใจ' ใครชอบนิยายรักโรแมนติก ที่มีปมสืบสวนฆาตกรรม ติดตามต่อโลดจ้า เป็นผลงานลำดับที่ 2 ของสำนักพิมพ์ที่กำลังวางจำหน่ายอยู่ตอนนี้เช่นกันค่ะ
ส่วนผลงานเรื่องที่ 3 ที่ทีมงานจะนำมาลงให้ได้อ่านกันคือเรื่อง 'ทรายล้อมเพชร' แต่งโดย 'สะมะเรีย' #แนวทะเลทราย #โรมานซ์ #ดราม่า กำลังเปิดจองอยู่ที่เพจของสำนักพิมพ์ นักอ่านท่านใดสนใจลองแวะเข้าไปดูกันได้นะคะ^^
ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ
ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์
************
โหลด e-Book นิยายทุกเรื่องของปลายปากกาสำนักพิมพ์ได้ที่เว็บ Mebmarket
หรือซื้อหนังสือได้ที่ 'ศูนย์หนังสือจุฬาฯ' และร้านนิยายออนไลน์ 2 ร้าน ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com และร้าน booksforfun
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
“คุณสณฑ์ หายไปไหนมาซะนานครับ ขาดสิงห์นักบิดอย่างคุณสนามแข่งจืดชืดไปเลย”
“ผมไม่กล้าลงสนามเดียวกันกับมือเก๋าอย่างคุณพลหรอกครับ ต้องแอบไปซ้อมมือมาให้เหมาะเสียก่อน”
“แหม...ถ่อมตัวจริงๆ นะ นั่นคุณตาไปถอยรถมาใหม่อีกแล้วเหรอครับนี่”
“ค่ะ ตาเป็นคนเบื่อง่ายน่ะค่ะ พอดีสณฑ์มีใหม่ๆ มาแนะนำก็เลยเอามาลองขับเล่นๆ ดู”
“อูย ห้าหกล้าน ไม่เล่นกระมังครับ วันหลังเอาไปลงสนามบ้างสิฮะ สวยๆ อย่างนี้ พวกเราจะได้ชมเป็นขวัญตา”
“โอเค ตกลงเรารับคำท้านะคะสณฑ์”
“ครับ”
พนสณฑ์พยักหน้า สายตาเหลือบไปเห็นโต๊ะวีไอพีที่มีคนคุ้นหน้านั่งอยู่ ที่สำคัญสายตาคมที่จับจ้องมาวาววับราวกับจะเฉือนเขาทั้งเป็น
“นั่นหฤทธิ์นี่”
“ค่ะ”
ศรุตารับไปอย่างนั้น อดขวางนัยน์ตาของนายตำรวจหนุ่มใหญ่ที่ทำท่าจะลุกมาหาหล่อนทันทีที่เห็นไม่ได้ ลองมาสิ ฉันจะตัดให้ไม่เหลือใยเลยทีเดียว เกลียดนักพวกผู้ชายตอแย พูดไม่รู้เรื่อง
“ข้ามถิ่นมาถึงนี่”
“สณฑ์ก็รู้นี่คะว่าพวกมีสีนี่ไปทุกที่ที่มีเงินล่อ”
ศรุตาเอียงหน้ากระซิบบอก พลางเบะปากที่แต่งแต้มสีสันไว้สวย งาม วันนี้หล่อนสวมชุดสีดำเรียบหรู รัดรูปทรงงาม อวดเรียวขายาวชวนมอง และสะโพกงอนงามหาใครเปรียบยาก รองเท้าส้นสูงและกระเป๋าใบจิ๋วยี่ห้อและสีเดียวกัน ใบหน้างามโดดเด่นเมื่อหล่อนรวบผมตึง เปิดหน้าผากเนียนสวย และเครื่องหน้าทรงเสน่ห์
“ดูท่าเขามีอะไรจะคุยกับผม เห็นจ้องไม่วางตา”
“นั่นสิคะ ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย” ศรุตาชักจะฉุน หล่อนเมินหน้าไปเสียทางอื่น
โง่เง่าเสียจริง จะจ้องให้เขารู้ไต๋หมดเลยหรือไงนะ
“ณพกับต๊ะมาแล้ว” พนสณฑ์รีบขยับกายออกห่างร่างอรชรที่เบียดสนิท รชตเหมือนจะรู้แกว ปรี่เข้าสวมกอดร่างแกร่งของสหายจนหงายหลัง แถมยังทรุดตัวลงนั่งแทรกกลางอีกต่างหาก
“เอ๊ะ ต๊ะ เรื่องอะไรมานั่งเบียดกันคะ ที่มีตั้งเยอะ”
“นั่นสิ ผมก็ว่าจะถามตาเหมือนกันว่ามาเบียดไอ้สณฑ์มันทำไม ที่ว่างๆ มีตั้งเยอะ” รชตเน้นย้ำคำว่า ‘ว่าง’ เสียจนศรุตาหน้าตึง ค้อนขวับ เบื่อจะเถียงกับเขา
“ไงไอ้เสือ หนีเมียจากป่ามาเรอะ”
“งานด่วนน่ะสิ ป๋าเขาไปเฝ้าเจ้าสัว”
“อ้าว เจ้าสัวกระดูกเหล็กเป็นอะไรเสียล่ะ”
“ไม่รู้เหมือนกัน” พนสณฑ์ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ สองตามองไปรอบๆ ศรุตารักการแข่งขัน หล่อนพร้อมจะช่วงชิงทุกอย่างเพื่อเป็นผู้ชนะ จริงอยู่มีผู้ชายมากมายมาเสนอตัวให้หล่อนเลือก พวกเขาล้วนเพียบพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตา ฐานะการเงิน และการงาน อย่างนายตำรวจอนาคตไกลอย่างหฤทธิ์นั่น หล่อนรู้ว่าเขาพร้อมจะหย่าขาดจากภรรยาเพื่อมาอยู่กับหล่อน เพียงความสัมพันธ์ไม่กี่ครั้ง เขาก็ยอมหล่อนทุกอย่าง ยอมจนหล่อนเบื่อระอา กับพนสณฑ์ ทุกอย่างคือความสนุก ท้าทาย เขาเองก็ชอบเกมการแข่งขัน ไม่แพ้หล่อน ไม่อย่างนั้นคงไม่โดดลงไปเล่นเกมกับเจ้าสัวง่ายๆ เขาเปิดความสัมพันธ์กับหล่อนเพราะนิยมในเกมอันสนุก ไร้ข้อผูกมัด เขามาหาหล่อนเมื่ออยากพบจริงๆ และทุ่มเทให้ยามอยู่ด้วยกันอย่างสุภาพบุรุษ แล้วก็ไปก่อนที่หล่อนจะเบื่อเหมือนของเล่นชิ้นท้าทายที่ล่อตาล่อใจอยู่เสมอ
ต่างกันก็ครั้งนี้ เขาทำท่าราวกับว่าจะลาขาดจากหล่อน วางตัวห่างเหินอย่างกับคนมีเจ้าของ
ฮึ! เจ้าของคนใหม่ของเขาไม่คู่ควรกับของเล่นมีค่าอย่างเขาสักนิด รุจิรัตน์มีแต่ทำให้เขาอับอายยามพาออกงานสังคม สณฑ์จะบอกเพื่อนๆ ในวงการว่ายังไง มีเมียเป็นชาวไร่ เป็นลูกสาวเซียนพนัน เมียขัดดอกงั้นหรือ?
ต้องหล่อนสิที่คู่ควรกับเขาทุกอย่าง ไม่มีอะไรที่คนอย่างศรุตาจะช่วยเหลือเขาไม่ได้ ไม่มีอะไรที่สณฑ์ชอบแล้วหล่อนไม่รู้ เราเข้ากันได้ดีเสมอ เขาจึงควรคู่กับหล่อน ส่วนเมียขัดดอกนั่นก็สมควรจมอยู่กับงานไร่ หรือไม่ก็กลับไปอยู่สลัมตามเดิม เลยเที่ยงคืนแล้วสินะ แม่ซินเดอเรลล่าก้นครัว ได้เวลากลับสู่สภาพเดิมแล้วล่ะ!
ตึ๊ดๆ
ระบบสั่นเตือนสายเรียกเข้าพร้อมไฟหน้าจอสว่างวาบจากโทรศัพท์มือถือที่พนสณฑ์วางไว้ตรงหน้าและเทียวมองหลายรอบ
“นั่นแน่ ไม่ธรรมดานะเดี๋ยวนี้ รับสิจ๊ะ เมียจ๋าโทร.มา” รชตตาไวทำเสียงเล็กเสียงน้อยยั่วเย้า พนสณฑ์หน้าแดงก่ำ ใจเต้นแรงเป็นเด็กหนุ่ม คว้าโทรศัพท์มากดรับสาย แล้วแนบไว้กับหู
“สวัสดีค่ะคุณสณฑ์” เสียงหวานนุ่มระรื่นหูนั้น ยิ่งทำให้เขายิ้มไม่หุบ แว่วเสียงอรรณพและรชตกระแอมกระไอปะปนกับเสียงดนตรีคลอๆ มา โชคดีที่คลับแห่งนี้ไม่อึกทึกเท่าที่อื่นๆ เขาพอจะได้ยินเสียงหล่อน
“ครับผม โทร.ไปเมื่อบ่าย ลูกแก้วยุ่งเหรอครับ”
“ขอโทษทีค่ะ วันนี้แดดร้อน เพลียก็เลยหลับไป คุณสณฑ์เป็นยังไงบ้างคะ ทานข้าวหรือยัง”
“ออกมาทานกับเพื่อนๆ...นี่ อรรณพกับรชตนั่งอยู่นี่ ศรุตาก็ด้วย เพื่อนๆ กัน”
“งั้นลูกแก้วไม่รบกวนดีกว่าค่ะ ฝากสวัสดีทุกคนด้วยนะคะ”
“ไม่เอา ผมยังไม่หายคิดถึงเลย คุยอีกหน่อยนะ” พนสณฑ์ทำเสียงโอดจนเพื่อนๆ เบือนหน้าหนี ศรุตานั้นลุกไปจากโต๊ะเลยทีเดียว หล่อนไปไม่นานเสียงเพลงในคลับก็ดังด้วยจังหวะดิ้นที่คึกคักขึ้น จนกลบเสียงปลายสายเสียหมด
“นายแม่เป็นยังไงบ้างคะ” รุจิรัตน์กรอกเสียงมาในสาย เสียงเพลงที่ดังกระหึ่มทำให้หล่อนต้องยกหูโทรศัพท์ออกห่าง
“ลูกแก้วว่าอะไรนะครับ ผมไม่ได้ยิน”
พนสณฑ์มองซ้ายขวา ชักหงุดหงิด เขาลุกขึ้นเดินออกไปด้านหลัง
“ได้ยินไหมครับ”
“ค่ะ ได้ยินแล้ว ลูกแก้วถามว่านายแม่เป็นยังไงบ้างคะ” เสียงปลายสายหวานหยด
“แม่สบายดีครับ ป๋ายังไม่กลับมาเลย ผมคงต้องอยู่ต่ออีก อยากกลับจะแย่ คุณส่งสมชัยมาให้ผมทำไม ผมเป็นห่วงคุณมากกว่า ไม่ค่อยไว้ใจคนอื่น”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ทางนี้เรียบร้อยดี”
“งั้นคุณมาอยู่ที่อู่กับผมไหม นะ นายแม่คงดีใจ”
“ไม่ได้หรอกค่ะคุณสณฑ์ เราทำธุรกิจก็ต้องคอยกำกับดูแล จริงไหมคะ” หล่อนค่อยๆ อธิบาย
“ผมคิดถึงคุณ” พนสณฑ์โขกศีรษะกับกำแพงเบาๆ ขณะที่มือหนึ่งถือโทรศัพท์อีกมือลูบหน้าคมของตน
“ขอบคุณค่ะ”
เสียงปลายสายหวานแผ่ว อู้อี้ราวกับคนเป็นหวัด ใบหน้าแนบอยู่กับหมอนนิ่ม กรุ่นกลิ่นกายเขา
พักหลังๆ นี้หล่อนอารมณ์แปรปรวนบ่อยๆ เจ้าลูกสุนัขตัวน้อยโดนดุประจำ ป้านวลบอกว่าเป็นอาการปกติของคนท้องอ่อนๆ หล่อนอยากจะไปตรวจดูเหมือนกัน แต่ก็กลัวผิดหวัง อีกอย่างก็อยากไปพร้อมเขามากกว่า
“คิดถึงเมียใจจะขาด เวลาเข้านอน ผมอยากให้ถึงเช้าไวๆ นอนไม่หลับเลย คุณคงหลับสบายล่ะสินะ คงไม่กระวนกระวายเป็นบ้าอย่างผม” เขาตัดพ้ออย่างผิดวิสัยคนใจเด็ด
“คิดถึงสิคะ ทำไมจะไม่คิดถึง ยิ่งตอนนี้ยิ่งคิดถึงมาก”
หล่อนบอกด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“จริงหรือครับ มีอะไรหรือเปล่า”
ไม่ทันที่หล่อนจะได้ตอบเขา บทสนทนาของทั้งคู่ก็ต้องชะงักลง เมื่อร่างของพนสณฑ์ถูกผลักเซไปข้างหลังอย่างแรง โทรศัพท์หล่นลงพื้นแตกกระจาย ตามมาด้วยหมัดหนักๆ ฟาดลงบนใบหน้า
“ว้าย พี่หฤทธิ์หยุดนะ สณฑ์เป็นยังไงบ้าง” จังหวะที่ศรุตาถลันเข้ามาหา พนสณฑ์ก็ถูกกระชากเข้าไปต่อยอีกทีหนึ่งที่มุมปากจนเลือดซึม แต่พออีกฝ่ายปรี่เข้าไปหาพยายามจะซ้ำเขาก็ได้สติ สวนกลับไปสองหมัดอย่างไม่ให้เสียเปรียบกัน นายตำรวจหนุ่มใหญ่หงายหลังชนกำแพงกับกระถางต้นไม้ล้มระเนระนาด
“ไอ้สณฑ์มึงต่อยกู มึงตายแน่”
“เออ ทำไม กูไม่มีมือไม่มีตีนหรือไง ลุกขึ้นมาสิ อย่าดีแต่ลอบกัด”
“ใครลอบกัดมึง ไอ้ลูกช่างซ่อมกระจอก”
พัวะ!
“เป็นไง หมัดลูกช่างกระจอกอย่างกู หนักดีไหม”
“สณฑ์ไปเถอะคะ อย่าสนใจเลยนะคะ”
“เออ ไปเลย หนีไปซ่อนใต้กระโปรงผู้หญิง ไอ้โง่”
“ใครกันแน่ที่โง่ กูยังไม่ได้ไปไหน มีอะไรว่ามา”
พนสณฑ์ย่างเข้าไปหาร่างที่ค่อยๆ หยัดตัวขึ้นยืน ความเมาบวกกับแรงหมัดทำให้เขามึนชาไปหมด
“กูไม่เอามึงไว้แน่ อย่าหวังว่าจะได้อะไรจากคุณปู่ ไอ้หลานนอกไส้”
“กูไม่เคยอยากได้ของใคร ว่าแต่มึงเถอะดิ้นพล่านแบบนี้ อยากได้มากสินะ เออ ไว้กูจะสงเคราะห์ขอเจ้าสัวให้ เอาไหม”
“ไอ้ ไอ้จิ๊กโก๋ชั้นต่ำ ไอ้...” มือที่ชี้มายังพนสณฑ์สั่นระริก ดวงตาแดงโปนแทบถลน ยิ่งเห็นศรุตาเข้ามาพยุงอีกฝ่ายยิ่งเดือดดาล หากความมึนเมาทำให้เขาเซไป ลูกน้องนอกเครื่องแบบที่มาด้วยรีบเข้ามาประคอง
“ปล่อยกู”
“พากลับไปก่อนที่ฉันจะเรียกคนที่ใหญ่กว่านี้มาจัดการ” ศรุตาเข่นเขี้ยวถลึงตาใส่ ร่างป้อแป้ของนายตำรวจหนุ่มถูกพยุงกึ่งลากออกไป พนสณฑ์เช็ดเลือดที่มุมปาก ปัดมือของศรุตาออกอย่างสุภาพแล้วก็เดินไปหยิบซากโทรศัพท์ขึ้นมาพลิกดู
“ฉิบหาย กำลังคุยกับเมียอยู่ดีๆ ป่านนี้ตกใจแย่แล้ว” เขาพึมพำกับตัวเอง
“สณฑ์คะ ขอตาดูแผลหน่อย”
“ไม่เป็นไร ผมกลับละ ไปก่อนนะเว้ย ฤกษ์ไม่ดีเสียแล้ววันนี้ วันหลังไปกินที่อู่ดีกว่า คืนนี้จะรีบกลับไปโทร.หาเมีย” เขาร้องบอกอรรณพกับ รชต ก่อนจะเดินตรงลิ่วไปที่รถ ส่วนศรุตานั้นโกรธทั้งเขาและนายตำรวจหนุ่มตัวการก่อเรื่องจนพูดไม่ออก
หล่อนคิดผิดที่เข้าไปยั่วให้นายนั่นหึงหวง ไม่นึกว่ามันจะโง่ พุ่งเข้าไปทำร้ายสณฑ์นี่ แค่อยากจะให้เขาเลิกคุยกับแม่นั่นแล้วหันมาหึงหวงหล่อนบ้าง บ้าจริงเชียว! โง่นัก!
***********
และแล้วก็ดำเนินมาถึงตอนสุดท้ายแล้วจ้า ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์ขอลงคุณสณฑ์กับหนูลูกแก้วจบแค่เท่านี้นะคะ บทถัดจากนี้ไปตามต่อกันในเล่มได้เลยจ้า ^O^
ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์ขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่เข้ามาติดตามน้าาา ทั้งทุกๆ คอมเมนต์ ทุกคะแนนโหวตในแต่ละตอน ที่สำคัญ ขอบคุณนักอ่านสุดแสนน่ารักที่สอยคุณสณฑ์กับหนูลูกแก้วมาแล้วด้วยจ้า 'พนาพร่ำรัก' เป็นนิยายเรื่องแรกของสำนักพิมพ์ค่ะ แต่ต้องบอกเลยว่า นักอ่านเว็บเลิฟอบอุ่นมากๆ ทีมงานขอฝากผลงานเรื่องอื่นๆ ของปลายปากกาสำนักพิมพ์ไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ ถึงเราจะเป็นน้องใหม่ แต่เราจะพยายามทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อนักอ่านและนักเขียนทุกท่านนะคะ เพราะสโลแกนของปลายปากกาสำนักพิมพ์คือ 'เพื่อนักเขียน...เพื่อนักอ่าน' อิอิ
และจะมีมาให้ได้อ่านกันอีกเรื่อยๆ แน่นอนค่ะ
ตอนนี้ที่ยังอัพอยู่คือเรื่อง 'นาฏกรรมลวง' แต่งโดย 'ขวัญของใจ' ใครชอบนิยายรักโรแมนติก ที่มีปมสืบสวนฆาตกรรม ติดตามต่อโลดจ้า เป็นผลงานลำดับที่ 2 ของสำนักพิมพ์ที่กำลังวางจำหน่ายอยู่ตอนนี้เช่นกันค่ะ
ส่วนผลงานเรื่องที่ 3 ที่ทีมงานจะนำมาลงให้ได้อ่านกันคือเรื่อง 'ทรายล้อมเพชร' แต่งโดย 'สะมะเรีย' #แนวทะเลทราย #โรมานซ์ #ดราม่า กำลังเปิดจองอยู่ที่เพจของสำนักพิมพ์ นักอ่านท่านใดสนใจลองแวะเข้าไปดูกันได้นะคะ^^
ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ
ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์
************
โหลด e-Book นิยายทุกเรื่องของปลายปากกาสำนักพิมพ์ได้ที่เว็บ Mebmarket
หรือซื้อหนังสือได้ที่ 'ศูนย์หนังสือจุฬาฯ' และร้านนิยายออนไลน์ 2 ร้าน ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com และร้าน booksforfun
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 พ.ค. 2561, 18:35:57 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 พ.ค. 2561, 18:36:33 น.
จำนวนการเข้าชม : 770
<< บทที่ 12 - 75% | สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า (หมดเขตสิ้นปีนี้) >> |
ปลายปากกาสำนักพิมพ์ 24 พ.ค. 2561, 20:09:43 น.
555+ขอบคุณคุณ mottanoy มากมายจ้า เรื่องถัดไปที่จะนำมาลงให้อ่านราวๆ ต้นเดือนมิถุนานะคะ รออ่านได้น้าาา
555+ขอบคุณคุณ mottanoy มากมายจ้า เรื่องถัดไปที่จะนำมาลงให้อ่านราวๆ ต้นเดือนมิถุนานะคะ รออ่านได้น้าาา