+ * + * + พยศดอกฟ้า (ผู้ช่วยกามเทพ รีโพสต์) + * + * +
นี่มันไม่ใช่แค่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก หรือราหูอมธรรมดาละ

แค่ดื้อกับแม่หน่อยเดียว อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ถึงกับต้องโดนตัดเบี้ยเลี้ยงเลยเรอะ! แถมทางเดียวที่จะพ้นจากสถานการณ์ถังแตกได้ก็คือต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ชายเย็นชา ไร้หัวใจ อย่างสาวัช ปรเมศวร์

นับจากวินาทีแรกที่เจอกัน ชีวิตของสาวัชก็ไม่เหลือความสงบสุขอีกเลย เมื่อผู้หญิงเอาแต่ใจใช้ทุกวิถีทางบังคับให้เขาทำตามที่เธอต้องการ ทั้งข่มขู่ แบล็กเมล์ และรวบหัวรวบหาง!

ถ้าไม่ใช่เพราะมีเป้าหมายอยู่ในใจ เขาคงไม่ยอมเดินเข้าไปในกับดักที่หญิงสาววางล่อไว้ง่ายๆ เช่นนี้

นายพรานสาวจอมเอาแต่ใจจะถูกเสือซ่อนลายปราบพยศได้หรือไม่ มหากาพย์เรื่องนี้ต้องดูกันยาวๆ เพราะที่เห็นถือไพ่เหนือกว่ามาตลอด เสือซุ่มอาจรอจังหวะตลบหลังกินรวบดอกฟ้าจอมยุ่งอยู่ก็ได้



+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

เพื่อนๆ นักอ่านค้าาาาาา
เก๊ากลับมาแล้ว มาพร้อมกับข่าวดีที่หลายคนรอคอยด้วย
ม่ายยยย ไม่ใช่สิริณจะสละโสด
แต่ข่าวดีที่ว่าก็คือ ใครที่รอผู้ช่วยกามเทพอยู่
กำลังจะได้อ่านแบบเป็นเล่มกันแล้วนะค้าาาาา

โดยเรื่องนี้สิริณจะพิมพ์เองเลยจ้า เห็นเขาฮิตทำมือกัน เลยอยากทำมั่ง
เย้ยยย ม่ายช่าย เนื่องจากส่งสำนักพิมพ์ผ่านแล้ว
แต่สำนักพิมพ์เปลี่ยนไปแนวจีนแทน (รู้กันอยู่เนอว่า สนพ.ไหน 555)
ทำให้ถูกดองต้นฉบับอยู่เป็นปีต่างหาก

ตอนนี้ถอนต้นฉบับออกมาละ
ไม่ส่ง สนพ. อื่นด้วย เกรงจะต้องรออีกนาน
ตอนนี้สิริณรีไรท์จบแล้ว พร้อมพิมพ์แล้ววววววว

แต่จะเปลี่ยนชื่อเรื่องตอนตีพิมพ์นะคะ
โดย ชื่อเดิม : ผู้ช่วยกามเทพ
ชื่อใหม่ : พยศดอกฟ้า
ตั้งใจว่าจะเขียนเป็นซีรีส์ ดอกดอก 55555
สนิมดอกรัก -> พยศดอกฟ้า -> วิวาห์ดอกกระดาษ

สำหรับพยศดอกฟ้านี้
สิริณจะรีโพสต์ให้อ่านกันวันละหนึ่งตอน
โดยมีจำนวนตอนทั้งหมด 60 ตอน
จะลงให้อ่านจนจบ ไม่ทิ้งกันแน่นอน

ส่วนตอนพิเศษอีก 100 กว่าหน้า
จะมีเฉพาะในฉบับหนังสือและอีบุ๊กเท่านั้น
บอกเลยว่าเขียนเอง ยังเขินเอง
คนอ่านจะฟินขนาดไหน ไม่ต้องเดาเนอะ :D


ตอนนี้ปกเสร็จแล้ว เหลือเก็บงานอีกนิดหน่อย
ก็จะพร้อมเปิดให้จองกันแล้ว
อาทิตย์หน้าจะนำปกมาอวดกันนะคะ

สำหรับใครที่สงสัยว่าสิริณหายไปไหนมา
ไปแต่งงานหรือเปล่า (ใช่เรอะ! 5555)
ก็ขอตอบตรงนี้เลยว่าไปทำงานค่ะ
สิริณกลับไปเป็นสาวออฟฟิศได้เกือบสองปีแล้ว
โดยทำงานในบริษัทเครื่องสำอางระดับมหาชน
ตำแหน่งที่มาพร้อมความรับผิดชอบ
ทำให้แทบไม่มีเวลาพักเลย กลับดึกตลอด
จนเกือบลืมวิธีเขียนนิยายไปแระ

ตอนนี้สิริณพักร่างช่วงใหญ่
กำลังจะเปลี่ยนงาน
ก็เลยรีบมาทำภารกิจที่ติดค้างในใจให้จบก่อน

ใครยังไม่ได้กดไลค์เพจ รีบไปกดไว้นะคะ
www.facebook.com/SirinFC
สิริณใช้สิทธิ์พนักงานซื้อเครื่องสำอางไว้แจกเพียบบบบบ 555

Tags: สิริณ, อิงอรุณ, ผู้ชายเย็นชา, พระเอกซึน

ตอน: ตอนที่ 1

“ที่เชิญทุกคนมาสังสรรค์กันวันนี้ ก็เพราะมีเรื่องจะแจ้งให้เพื่อน ๆ ผู้มีอุปการะคุณทราบ คือผมกับคุณหนูอิงกำลังจะแต่งงานกันแล้วคร้าบ-บ-บ” ชายหนุ่มรูปร่างสูงล่ำสันผิวคล้ามแดดสวมเชิ้ตพับแขนตรงข้อศอกกับกางเกงสแลคถือไมโครโฟนประกาศกลางห้องคาราโอเกะ แล้วหันไปยิ้มบาง ๆ สบตาอิงอรุณ

บรรยากาศในห้องที่เงียบไปชั่วขณะเมื่อครู่ แปรเป็นเสียงฮือฮาดังระงม

“จริงเหรอ เห็นอิงกับเทพควงกันไปไหนมาไหนนานละ ยังนึกว่าแค่ใช้อีกฝ่ายเป็นไม้กันหมา เพิ่งรู้วันนี้นี่แหละว่ารักกันจริง ๆ ” คนพูดหัวเราะคิกคัก

อิงอรุณคล้องมือรอบแขน ‘ว่าที่เจ้าบ่าว’ เป็นหลักฐาน “ได้มากสุดแค่นี้ จะให้เลิฟซีนโชว์เพื่อยืนยันคงไม่ไหว”

“ต่อให้อิงไหว แต่เทพคงไม่กล้าเล่นด้วย เพราะกลัวบอดี้การ์ดอิงโผล่มาถล่ม” แพรวเพชรแซวเพราะรู้ดีว่ามารดาของอิงอรุณมักส่งคนมาอารักขาบุตรีลับ ๆ อยู่เสมอ “ว่าแต่สองคนขอแต่งงานกันยังไง เล่าให้ฟังหน่อยสิ”

อิงอรุณยิ้มเจ้าเล่ห์ “ความจริงแล้วอิงต่างหากที่ชวนเทพแต่งงานน่ะ”

“แล้วไอ้เทพก็ยอมง่าย ๆ เนี่ยนะ ทำไมไม่เล่นตัวหน่อยวะ ทายาทคนเล็กของสยามดริ๊งค์คอร์ปอเรชันขอแต่งงานทั้งที น่าจะขอสินสอดเป็นทองเท่าน้ำหนักตัวนะเว้ย” สมาชิกชายหนุ่มอีกคนในกลุ่มเย้าปนหัวเราะ เพราะบิดาของอิงอรุณ คือสุพจน์ เทียมสุบรรณ เจ้าของบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่งของประเทศและเอเชียน ทั้งยังพ่วงตำแหน่งนักธุรกิจที่อยู่ในทำเนียบเศรษฐีระดับโลกของนิตยสารฟอร์บ

“ไม่กล้าเล่นตัวว่ะ กลัวอิงเปลี่ยนใจ” ว่าที่เจ้าบ่าวตอบเขิน ๆ

“จะแต่งเมื่อไหร่บอกล่วงหน้าด้วยนะ จะได้ตัดชุดทัน” สาว ๆ ย้ำจริงจัง

“ก็นี่แหละบอกล่วงหน้า อีกสามเดือนหมั้นนะ เริ่มเตรียมตัวกันได้เลยจ้า”

“ทำไมรีบจัง นี่ถ้าไม่ใช่เพราะแม่อิงดุสุด ๆ แถมอิงก็เป็นเด็กดี รวมทั้งมั่นใจว่าไอ้เทพไม่กล้าชิงสุกก่อนห่ามแน่ ๆ เราคงคิดไม่ดีแล้วนะ” อนุธานทำหน้าทะเล้น

“ทำไมร้ายอะ!” อิงอรุณขว้างหมอนใส่คนพูด “อิงท้าให้นับเดือนเลยก็ได้ย่ะ”

เสียงหัวเราะดังครืน เมื่อเหยื่อยกสองมือปัดป้อง หดคอทำท่าเจ็บเกินจริง

เพราะทุกคนกำลังมองคู่ชกบนสังเวียน จึงไม่ทันสังเกตเห็นว่าประตูห้องถูกเปิดออก และใครคนหนึ่งก้าวเข้ามายืนพิงประตูมองมาด้วยแววตาริษยา

“ฉลองอะไรกันเหรอ ท่าทางน่าสนุกจัง” ผู้มาใหม่ทำเสียงหยัน เรียกสายตาทุกคู่หันไปมองพร้อมเพรียง

“พิมพ์” ว่าที่เจ้าบ่าวพึมพำเสียงเบา

อิงอรุณมองพันเทพแล้วเหลียวไปสบตาแพรวเพชรโดยไม่ตั้งใจ

เพื่อนกลุ่มนี้รู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ครั้นเรียนจบจึงแยกย้ายกันไปยังมหาวิทยาลัยคนละซีกโลก อิงอรุณและแพรวเพชรเรียนปริญญาตรีและโทที่ออสเตรเลีย ขณะพันเทพจบทั้งบัณฑิตและมหาบัณฑิตจากสหรัฐอเมริกา เมื่อกลับมาพบกันที่เมืองไทยอีกครั้ง เพื่อนทั้งกลุ่มก็ยังคงสนิทสนมกันดังเดิม

หลังพันเทพกลับจากอเมริกา มีผู้หญิงมาติดพันโดยอ้างว่าเป็น ‘คนรัก’ ของชายหนุ่มตั้งแต่สมัยอยู่ต่างประเทศ สมาชิกในกลุ่มคงเชื่อคำพูดนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะพันเทพยืนกรานเสียงแข็งว่าเป็นแค่คนรู้จักเท่านั้น พิมพ์สนิทคร่ำครวญไม่ยอมรับคำปฏิเสธ แต่ตามตื๊อพันเทพจนชายหนุ่มตัดรำคาญด้วยการประกาศว่ากำลังคบกับอิงอรุณ ทำให้พิมพ์สนิทมักกระแนะกระแหนแขวะอิงอรุณทุกครั้งที่พบกัน

“ว่าไงล่ะ ฉันถาม ทำไมไม่มีใครตอบ” พิมพ์สนิทกอดอก กวาดตาท้าทาย

“เทพกับอิงกำลังจะแต่งงานกันน่ะ พวกเราก็เลยฉลองกันนิดหน่อย” เสียงหนึ่งตอบแทนว่าที่บ่าวสาว

ผู้มาใหม่หน้าซีดหันไปทางพันเทพ เสียงอ่อนอ้อนวอน “จริงเหรอเทพ”

“พิมพ์มาพอดี มาฉลองด้วยกันไหม” คำชวนนั้นอธิบายได้ไม่แพ้คำตอบ

พิมพ์สนิทบิดริมฝีปากเยาะหยัน “ไม่ละ เชิญฉลองกันตามสบายเถอะ จำไว้ละกัน ว่าพวกเธอกำลังมีความสุขบนความทุกข์ของฉัน” เอ่ยจบหญิงสาวก็หมุนกายกระแทกเท้าออกจากห้อง

พันเทพอ้ำอึ้งครู่หนึ่งก่อนออกตัว “ไม่รู้พิมพ์มากับใคร เดี๋ยวเราไปดูหน่อย”

แก้วกาญจน์มองซ้ายทีขวาที สุดท้ายพยักพเยิดกับแพรวเพชรเป็นเชิงบอกให้อยู่เป็นเพื่อนอิงอรุณ ตัวเองลากแขนแฟนหนุ่มลุกตามพันเทพไปติด ๆ

เมื่ออยู่กันลำพัง แพรวเพชรตั้งกระทู้ถาม “มีอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงตัดสินใจแต่งงานกะทันหันอย่างนี้ล่ะ”

อิงอรุณหัวเราะร่วน “จะไปมีอะไรได้ล่ะ อิงก็แค่เบื่อชีวิตโสดแล้ว อยากลงจากคานซะที มันก็แค่นั้นเอง”

หญิงสาวยิ้มตาใส ทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แล้วเสหันไปกดเพลงใส่ระบบ หยิบไมโครโฟนมาร้องหงุงหงิงสบายใจ ปล่อยให้แพรวเพชรหรี่ตามองด้วยความข้องใจ!



ประตูสเตนเลสตีไม้ทึบสูงท่วมศีรษะเลื่อนช้า ๆ จนปิดสนิท รถญี่ปุ่นคันกะทัดรัดจึงเปิดออก ผู้ที่ก้าวลงมาเป็นชายหนุ่มสวมเชิ้ตสีฟ้าเข้ารูปพับแขนลวก ๆ ไว้ตรงข้อศอกและกางเกงสแลคสีดำตัดเย็บประณีตพอดีตัว อวดรูปร่างสูงเพรียวหนั่นแน่นด้วยกล้ามเนื้อ เขาเดินบนพื้นโรยกรวดอ้อมตึกใหญ่ไปทางด้านหลังตามความเคยชิน

อาคารสีครีมหลังเล็กปลูกเกือบชิดริมกำแพงหลังเด่นกระจ่างท่ามกลางแสงจันทร์ ไฟที่ลอดหน้าต่างออกมาบอกให้รู้ว่าคนในบ้านยังไม่นอน เพียงเห็นผู้ที่นั่งคอยตรงโซฟา ชายหนุ่มก็ลอบถอนใจด้วยความเบื่อหน่าย

“สวัสดีครับเตี่ย” สาวัชทำความเคารพบิดา นึกแปลกใจที่เห็นท่านลำพัง

“ไปไหนมา ทำไมกลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว บ้านไม่ใช่โรงแรมนะที่นึกจะกลับกี่โมงก็ได้ หัดกลับบ้านให้เร็วหน่อย” ไม่มีคำทักทาย ไม่มีการถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ ตั้งแต่จำความได้ สิ่งเดียวที่เขาได้รับ ก็มีแต่...คำสั่ง

“ขอโทษด้วยครับ วันนี้ผมมีประชุมกับท่านคณบดีเรื่องหลักสูตรการสอนของเทอมหน้า ก็เลยไม่ได้กลับมาเข้าโต๊ะมื้อเย็น”

“เฮอะ! สอนหนังสืออย่างนี้ได้ค่าแรงกี่บาทกี่ออนกันเชียว มัวแต่ทำงานอย่างนี้ถึงไม่มีแฟนสักที อายุลื้อก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้วนะ ต้องคิดเรื่องแต่งงานได้แล้ว”

นั่นละสไตล์ของธนา ประโยคแรกเหมือนแนะนำ แต่ลงท้ายก็เป็นคำสั่งตามเคย แม้จะสำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยชื่อดังในฮ่องกง แต่ธนาก็ยังมีความเชื่อแบบคนจีนโบราณที่ว่าลูกมีหน้าที่รับคำสั่ง มิใช่ออกความเห็น ส่วนผู้หญิงและภรรยาก็เป็นสมบัติชิ้นหนึ่งของผู้ชาย ไม่ต้องทำงาน ให้หัวหน้าครอบครัวเลี้ยงก็พอ

ธนามองเขาศีรษะจรดเท้า พยักหน้าพึงใจ “ถึงลื้อจะแต่งตัวดีอยู่แล้ว แต่ก็ควรใส่สูทผูกไทด้วย ลื้อจะเป็นผู้บริหารคนต่อไป ภาพลักษณ์เป็นเรื่องสำคัญ จำไว้!”

“แต่ว่าเตี่ยครับ ผมไม่...”

“เตี่ยจะไปนอนละ” ท่านโบกมือ ไม่อินังขังขอบต่อคำคัดค้านของเขา จากนั้นจึงลุกขึ้นก้าวไปยังประตู

สาวัชจำต้องเข้าไปคว้าแขนบิดาตามหน้าที่ “ผมไปส่งครับ”

“ตึกใหญ่อยู่แค่นี้เอง อั๊วกลับเองได้” ท่านดึงแขนออก แล้วเดินกระฉับกระเฉงออกจากประตูไป

ชายหนุ่มมองตามบิดาจนลับสายตา เสียงงับประตูดังแว่วจากชั้นบน บอกให้รู้ว่ามารดาคงแอบฟังอยู่ สาวัชถอนใจคอตกขึ้นบันไดขณะริมฝีปากเม้มแน่น

เขาเกิดจาก ‘ความรัก’ แต่กลับมิได้เติบโตท่ามกลางความรัก น่าเศร้าจริง ๆ!



สถานีตำรวจตอนสองนาฬิกาเศษแทบโล่งร้าง สายตรวจมีสีหน้าระอา ขณะยึดศอกผู้หญิงสองคนไว้คนละข้างดันไปนั่งเก้าอี้หน้าร้อยเวร หลังไกล่เกลี่ยและข่มขู่พักใหญ่ สองสาวก็ยอมรอมชอมกันในที่สุด

พันเทพขับรถตามมาสถานีตำรวจ โดยอิงอรุณจำใจมาด้วยเพราะต้องคอยเขาจัดการธุระเรื่องพิมพ์สนิทเรียบร้อยก่อน ค่อยไปส่งเธอที่บ้าน พันเทพโล่งอกเมื่อพบว่าคู่กรณีทั้งสองคนถูกปล่อยตัวโดยไม่เสียค่าปรับและอนุญาตให้แยกย้ายกัน

พิมพ์สนิทเกาะกำแพง ประคองตัวตุปัดตุเป๋ลงบันไดหน้าสถานี พลางครวญเพลงหงุงหงิงเสียงอ้อแอ้อย่างคนลิ้นไก่สั้น

“เมาอย่างนี้ คงกลับบ้านเองไม่ไหว” พันเทพเปรยลอย ๆ รีบถลันไปคว้าข้อศอกยึดคนเมาด้วยสีหน้าไม่เต็มใจ “พิมพ์ เรากับอิงจะไปส่งบ้าน มา เดินดี ๆ ”

พิมพ์สนิทดิ้นปัดซ้ายป่ายขวา ทิ้งตัวกับพื้นตรงหัวบันได โวยวายเสียงดัง “ไม่ไป บอกว่าไม่ไปไงละ ปล่อยนะ”

“เอาไงดีอิง” พันเทพถอยออกมายืนเท้าเอว

“เทพไปเอารถมาละกัน เดี๋ยวเราดูพิมพ์ไว้ให้”

ชายหนุ่มลังเลชั่วอึดใจ จึงยอมแยกไปเลื่อนรถตามคำแนะนำ

เสียงฝีเท้าย่ำโครมดังจากเบื้องหลัง อิงอรุณเกรงพิมพ์สนิทขวางทางคนอื่น จึงหิ้วปีกคนเมาลุกขึ้น ทว่าเพียงยืนเรียบร้อย อีกฝ่ายกลับสะบัดแขนผลักแล้วเงื้อมือตบเธออย่างขาดสติ

“อีไฮโซหน้าด้าน แย่งแฟนคนอื่น” เสียงผรุสวาทดังสนั่นแทบจะพร้อมกัน

ใบหน้าอิงอรุณสะบัดไปตามแรงตบ แรงปะทะทำให้เธอเซแซด ๆ หงายหลัง หญิงสาวตะกายมือพยายามคว้าทุกอย่างตรงหน้า ยอมรับชะตากรรมว่าเธอคงหงายล้มก้นจ้ำเบ้า ดีไม่ดีอาจถึงขั้นตกบันได

พลันอิงอรุณกลับรู้สึกถึงบางอย่างนุ่ม ๆ แต่แข็งแรงรองรับแผ่นหลังไว้ พร้อมกับที่ต้นแขนข้างหนึ่งถูกคว้ามั่นคง ลมร้อนเป่ารดอยู่ตรงขมับจนเธอขนลุกซู่ หญิงสาวจึงได้สติ มีคนช่วยรับเธอไว้ แถมตอนนี้เขากำลังโอบเธออยู่ด้วย!

อิงอรุณหน้าร้อนฉ่า ถดตัวออกห่างพึมพำขอบคุณ ไม่กล้าสบตาผู้ช่วยเหลือ

“คุณไม่เป็นอะไรนะ” เสียงห้าวย้ำถาม จากนั้นเขาถอยจึงห่างออกไป

“ไม่เป็นแล้วค่ะ ขอบคุณ” อิงอรุณรีบคล้องแขนพิมพ์สนิทลากลงบันได มิไยที่อีกฝ่ายจะทั้งดิ้นทั้งผลักเป็นพัลวัน แต่เพราะเธอตัวเล็กกว่า ทั้งยังไม่หายมึนจากการโดนตบเต็มแรง จึงสู้แรงคนเมาคลั่งไม่ไหว ครั้นถูกพิมพ์สนิทผลักอีกครั้งก็หมั่นไส้จึงปล่อยมือดื้อ ๆ พิมพ์สนิทซึ่งดิ้นแรง ๆ จึงเสียหลัก หงายหลังกลิ้งโคโล่จากบันไดสองสามขั้นลงไปกองบนพื้นตรงตีนบันได ร้องโอดโอยเสียงอ่อย

เสียงฝีเท้าโครมครามกรูกันไปประคองพิมพ์สนิทซึ่งคอพับคออ่อน ครางหงิงไม่เป็นศัพท์ อิงอรุณอมยิ้มมองคนเมาตัวแสบวายร้าย จึงสังเกตเห็นว่าพลเมืองดีทั้งกลุ่มสวมเชิ้ตขาวปล่อยชายลอยนอกกางเกงดำ ดูออกว่าเป็นนักศึกษา

รถญี่ปุ่นคันโตเบรกเอี๊ยดอยู่ไม่ห่าง อิงอรุณรีบวิ่งไปเปิดประตูข้างคนขับ หันมาบอกนักศึกษาเสียงหวาน “ช่วยพามาขึ้นรถให้ทีจ้ะ”

คนเมาดิ้นไม่ยอมให้ใครแตะ ทว่าสู้แรงชายฉกรรจ์ซึ่งยึดต้นแขนคนละฟากไม่ได้ พิมพ์สนิทจึงถูกหิ้วไปส่งถึงรถ

อิงอรุณขอบใจนักศึกษาทั้งกลุ่ม พลางงับประตูปิดให้คนเมา ขณะจะขึ้นนั่งยังเบาะหลัง ก็ได้ยินเสียงห้าวของคนที่ช่วยเธอไว้ดังมาจากเบื้องหลัง

“เรียบร้อยแล้วก็ไปได้ละ ผมไม่มีเวลาทั้งคืนหรอกนะ” คำพูดนั้นเด็ดขาดเคร่งขรึม บอกอารมณ์คนพูดว่าคงพื้นเสียไม่เบา

อิงอรุณหันไปทางเจ้าของเสียง แต่พบเพียงแผ่นหลังกว้างแข็งแรงท่ามกลางกลุ่มวัยรุ่นซึ่งก้มศีรษะคอตก กลิ่นแอลกอฮอล์ที่โชยจากลมหายใจทำให้เดาได้ว่าทั้งแก๊งคงถูกจับข้อหาเมาแล้วขับ ส่วนเจ้าของเสียงห้าวคงเป็นอาจารย์ที่มาประกันตัว

“ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมกันเลย เมาแล้วขับ รู้หรือเปล่าว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุ มันอาจทำให้ผู้บริสุทธิ์ติดร่างแหซวยไปด้วย ผมจะทำทัณฑ์บนไว้ก่อน ครั้งหน้าหากมีเหตุการณ์แบบนี้อีก ผมจะทำหนังสือถึงคณบดีให้เชิญออก”

นั่นไง! เป๊ะเลย! เธอเดาถูกด้วย!

อิงอรุณขึ้นรถทางด้านหลัง แต่ยังไม่ทันปิดประตู เสียงชุลมุนข้างหน้าก็ดังขึ้น

“ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้ ไม่อยากหายใจในรถคันเดียวกับคนหน้าด้านแย่งแฟนคนอื่นโว้ย” พิมพ์สนิทโวยดังคับรถ พยายามยื้อคันเปิดประตู

พันเทพยึดมือหญิงสาว ทั้งยังเอื้อมไปคว้าเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้คนเมา

อิงอรุณหลับตาเอนพิงพนัก มองไม่เห็นเสียก็ถือว่าไม่รู้ด้วยละ หญิงสาวฟังเสียงพิมพ์สนิทร้องไห้สลับด่าเธอ มือเล็กยกขึ้นคลึงแก้มป้อย ๆ ขณะถอนใจ

อิงอรุณมั่นใจว่ารักพันเทพเหมือนกับที่เขารักเธอ ทั้งคู่ต่างหวังสิ่งดีที่สุดให้อีกฝ่าย หญิงสาวมิได้ฝืนใจกับการแต่งงาน แต่ก็ไม่เต็มใจร้อยเปอร์เซ็นต์เช่นกัน

เหตุผลที่อิงอรุณเลือกพันเทพทั้งที่ไม่ได้รักกันขั้นสุดอย่างที่คู่แต่งงานอื่น ๆ เป็นกันนั้นง่ายนิดเดียว เพราะเธอกลัวว่าบางทีบนโลกนี้อาจไม่มี ‘คนที่ใช่’ สำหรับเธอ และมันคงไร้ค่าเต็มที หากต้องรอคอยสิ่งที่ไม่มีวันมาถึง!











* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *


60 ตอนค่ะ รีโพสต์วันละ 1 ตอนนะค้า
รีไรท์ใหม่เยอะมาก อาจจะอ่านแล้วตะลึงว่าไม่เหมือนเดิมเลย 5555



สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 เม.ย. 2561, 21:45:01 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 เม.ย. 2561, 21:45:01 น.

จำนวนการเข้าชม : 582





<< บทนำ   ตอนที่ 2 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account