+ * + * + พยศดอกฟ้า (ผู้ช่วยกามเทพ รีโพสต์) + * + * +
นี่มันไม่ใช่แค่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก หรือราหูอมธรรมดาละ
แค่ดื้อกับแม่หน่อยเดียว อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ถึงกับต้องโดนตัดเบี้ยเลี้ยงเลยเรอะ! แถมทางเดียวที่จะพ้นจากสถานการณ์ถังแตกได้ก็คือต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ชายเย็นชา ไร้หัวใจ อย่างสาวัช ปรเมศวร์
นับจากวินาทีแรกที่เจอกัน ชีวิตของสาวัชก็ไม่เหลือความสงบสุขอีกเลย เมื่อผู้หญิงเอาแต่ใจใช้ทุกวิถีทางบังคับให้เขาทำตามที่เธอต้องการ ทั้งข่มขู่ แบล็กเมล์ และรวบหัวรวบหาง!
ถ้าไม่ใช่เพราะมีเป้าหมายอยู่ในใจ เขาคงไม่ยอมเดินเข้าไปในกับดักที่หญิงสาววางล่อไว้ง่ายๆ เช่นนี้
นายพรานสาวจอมเอาแต่ใจจะถูกเสือซ่อนลายปราบพยศได้หรือไม่ มหากาพย์เรื่องนี้ต้องดูกันยาวๆ เพราะที่เห็นถือไพ่เหนือกว่ามาตลอด เสือซุ่มอาจรอจังหวะตลบหลังกินรวบดอกฟ้าจอมยุ่งอยู่ก็ได้
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
เพื่อนๆ นักอ่านค้าาาาาา
เก๊ากลับมาแล้ว มาพร้อมกับข่าวดีที่หลายคนรอคอยด้วย
ม่ายยยย ไม่ใช่สิริณจะสละโสด
แต่ข่าวดีที่ว่าก็คือ ใครที่รอผู้ช่วยกามเทพอยู่
กำลังจะได้อ่านแบบเป็นเล่มกันแล้วนะค้าาาาา
โดยเรื่องนี้สิริณจะพิมพ์เองเลยจ้า เห็นเขาฮิตทำมือกัน เลยอยากทำมั่ง
เย้ยยย ม่ายช่าย เนื่องจากส่งสำนักพิมพ์ผ่านแล้ว
แต่สำนักพิมพ์เปลี่ยนไปแนวจีนแทน (รู้กันอยู่เนอว่า สนพ.ไหน 555)
ทำให้ถูกดองต้นฉบับอยู่เป็นปีต่างหาก
ตอนนี้ถอนต้นฉบับออกมาละ
ไม่ส่ง สนพ. อื่นด้วย เกรงจะต้องรออีกนาน
ตอนนี้สิริณรีไรท์จบแล้ว พร้อมพิมพ์แล้ววววววว
แต่จะเปลี่ยนชื่อเรื่องตอนตีพิมพ์นะคะ
โดย ชื่อเดิม : ผู้ช่วยกามเทพ
ชื่อใหม่ : พยศดอกฟ้า
ตั้งใจว่าจะเขียนเป็นซีรีส์ ดอกดอก 55555
สนิมดอกรัก -> พยศดอกฟ้า -> วิวาห์ดอกกระดาษ
สำหรับพยศดอกฟ้านี้
สิริณจะรีโพสต์ให้อ่านกันวันละหนึ่งตอน
โดยมีจำนวนตอนทั้งหมด 60 ตอน
จะลงให้อ่านจนจบ ไม่ทิ้งกันแน่นอน
ส่วนตอนพิเศษอีก 100 กว่าหน้า
จะมีเฉพาะในฉบับหนังสือและอีบุ๊กเท่านั้น
บอกเลยว่าเขียนเอง ยังเขินเอง
คนอ่านจะฟินขนาดไหน ไม่ต้องเดาเนอะ :D
ตอนนี้ปกเสร็จแล้ว เหลือเก็บงานอีกนิดหน่อย
ก็จะพร้อมเปิดให้จองกันแล้ว
อาทิตย์หน้าจะนำปกมาอวดกันนะคะ
สำหรับใครที่สงสัยว่าสิริณหายไปไหนมา
ไปแต่งงานหรือเปล่า (ใช่เรอะ! 5555)
ก็ขอตอบตรงนี้เลยว่าไปทำงานค่ะ
สิริณกลับไปเป็นสาวออฟฟิศได้เกือบสองปีแล้ว
โดยทำงานในบริษัทเครื่องสำอางระดับมหาชน
ตำแหน่งที่มาพร้อมความรับผิดชอบ
ทำให้แทบไม่มีเวลาพักเลย กลับดึกตลอด
จนเกือบลืมวิธีเขียนนิยายไปแระ
ตอนนี้สิริณพักร่างช่วงใหญ่
กำลังจะเปลี่ยนงาน
ก็เลยรีบมาทำภารกิจที่ติดค้างในใจให้จบก่อน
ใครยังไม่ได้กดไลค์เพจ รีบไปกดไว้นะคะ
www.facebook.com/SirinFC
สิริณใช้สิทธิ์พนักงานซื้อเครื่องสำอางไว้แจกเพียบบบบบ 555
แค่ดื้อกับแม่หน่อยเดียว อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ถึงกับต้องโดนตัดเบี้ยเลี้ยงเลยเรอะ! แถมทางเดียวที่จะพ้นจากสถานการณ์ถังแตกได้ก็คือต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ชายเย็นชา ไร้หัวใจ อย่างสาวัช ปรเมศวร์
นับจากวินาทีแรกที่เจอกัน ชีวิตของสาวัชก็ไม่เหลือความสงบสุขอีกเลย เมื่อผู้หญิงเอาแต่ใจใช้ทุกวิถีทางบังคับให้เขาทำตามที่เธอต้องการ ทั้งข่มขู่ แบล็กเมล์ และรวบหัวรวบหาง!
ถ้าไม่ใช่เพราะมีเป้าหมายอยู่ในใจ เขาคงไม่ยอมเดินเข้าไปในกับดักที่หญิงสาววางล่อไว้ง่ายๆ เช่นนี้
นายพรานสาวจอมเอาแต่ใจจะถูกเสือซ่อนลายปราบพยศได้หรือไม่ มหากาพย์เรื่องนี้ต้องดูกันยาวๆ เพราะที่เห็นถือไพ่เหนือกว่ามาตลอด เสือซุ่มอาจรอจังหวะตลบหลังกินรวบดอกฟ้าจอมยุ่งอยู่ก็ได้
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
เพื่อนๆ นักอ่านค้าาาาาา
เก๊ากลับมาแล้ว มาพร้อมกับข่าวดีที่หลายคนรอคอยด้วย
ม่ายยยย ไม่ใช่สิริณจะสละโสด
แต่ข่าวดีที่ว่าก็คือ ใครที่รอผู้ช่วยกามเทพอยู่
กำลังจะได้อ่านแบบเป็นเล่มกันแล้วนะค้าาาาา
โดยเรื่องนี้สิริณจะพิมพ์เองเลยจ้า เห็นเขาฮิตทำมือกัน เลยอยากทำมั่ง
เย้ยยย ม่ายช่าย เนื่องจากส่งสำนักพิมพ์ผ่านแล้ว
แต่สำนักพิมพ์เปลี่ยนไปแนวจีนแทน (รู้กันอยู่เนอว่า สนพ.ไหน 555)
ทำให้ถูกดองต้นฉบับอยู่เป็นปีต่างหาก
ตอนนี้ถอนต้นฉบับออกมาละ
ไม่ส่ง สนพ. อื่นด้วย เกรงจะต้องรออีกนาน
ตอนนี้สิริณรีไรท์จบแล้ว พร้อมพิมพ์แล้ววววววว
แต่จะเปลี่ยนชื่อเรื่องตอนตีพิมพ์นะคะ
โดย ชื่อเดิม : ผู้ช่วยกามเทพ
ชื่อใหม่ : พยศดอกฟ้า
ตั้งใจว่าจะเขียนเป็นซีรีส์ ดอกดอก 55555
สนิมดอกรัก -> พยศดอกฟ้า -> วิวาห์ดอกกระดาษ
สำหรับพยศดอกฟ้านี้
สิริณจะรีโพสต์ให้อ่านกันวันละหนึ่งตอน
โดยมีจำนวนตอนทั้งหมด 60 ตอน
จะลงให้อ่านจนจบ ไม่ทิ้งกันแน่นอน
ส่วนตอนพิเศษอีก 100 กว่าหน้า
จะมีเฉพาะในฉบับหนังสือและอีบุ๊กเท่านั้น
บอกเลยว่าเขียนเอง ยังเขินเอง
คนอ่านจะฟินขนาดไหน ไม่ต้องเดาเนอะ :D
ตอนนี้ปกเสร็จแล้ว เหลือเก็บงานอีกนิดหน่อย
ก็จะพร้อมเปิดให้จองกันแล้ว
อาทิตย์หน้าจะนำปกมาอวดกันนะคะ
สำหรับใครที่สงสัยว่าสิริณหายไปไหนมา
ไปแต่งงานหรือเปล่า (ใช่เรอะ! 5555)
ก็ขอตอบตรงนี้เลยว่าไปทำงานค่ะ
สิริณกลับไปเป็นสาวออฟฟิศได้เกือบสองปีแล้ว
โดยทำงานในบริษัทเครื่องสำอางระดับมหาชน
ตำแหน่งที่มาพร้อมความรับผิดชอบ
ทำให้แทบไม่มีเวลาพักเลย กลับดึกตลอด
จนเกือบลืมวิธีเขียนนิยายไปแระ
ตอนนี้สิริณพักร่างช่วงใหญ่
กำลังจะเปลี่ยนงาน
ก็เลยรีบมาทำภารกิจที่ติดค้างในใจให้จบก่อน
ใครยังไม่ได้กดไลค์เพจ รีบไปกดไว้นะคะ
www.facebook.com/SirinFC
สิริณใช้สิทธิ์พนักงานซื้อเครื่องสำอางไว้แจกเพียบบบบบ 555
Tags: สิริณ, อิงอรุณ, ผู้ชายเย็นชา, พระเอกซึน
ตอน: ตอนที่ 20
เพียงตั้งหลักเรื่องข่าวซูเปอร์โคลาหมายตาเข้าฮุบบริษัทไม่นาน เหล่าผู้บริหารก็นัดประชุมด่วนในบ่ายวันถัดมาอีกครั้ง
“ผมคิดว่าการตั้งกองทุนอสังหาฯ ที่คุณริสาเสนอไม่ใช่ทางออกของเรื่องนี้” เจริญสบตาบอร์ดบริหารทีละคน “ใครที่คิดแบบเดียวกับผม ยกมือด้วยครับ”
สมาชิกอาวุโสยกมือขึ้นพร้อมเพรียง เจริญจึงเอ่ยต่ออย่างมีชัย “ถ้าแก้ปัญหาเรื่องนี้ไม่ได้ คุณริสาน่าจะพิจารณาตัวเองในฐานะรองซีอีโอได้แล้วนะครับ”
ริสาหน้าถอดสี เม้มปากแน่นด้วยความโกรธเกรี้ยว
ผู้บริหารส่วนใหญ่เป็นเพื่อนกับสกุลปรเมศวร์มาตั้งแต่รุ่นพ่อ ขาดเหลือเงินทองก็ได้คนกลุ่มนี้ช่วยกันคนละไม้ละมือเพื่อพยุงให้ปรเมศวร์เทรดดิ้งเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ โดยบิดาของธนามอบหุ้นให้เป็นการตอบแทน รุ่นลูกจึงคบหากันต่อเนื่อง ทว่าในรุ่นที่สามยามธนาส่งเธอลงมารับช่วงแทน นักบริหารกลุ่มนี้กลับยังกอดเก้าอี้เหนียวแน่น ไม่ส่งต่อให้ทายาท ริสารู้ดีว่าคนรุ่นเก่าไม่ชอบวิธีทำงานและการตัดสินใจบางอย่างของเธอ แต่ไม่เคยมีใครปริปากบ่น
หญิงสาวเพิ่งเห็นรอยร้าวที่เพียรมองผ่าน รอยร้าวที่ซูเปอร์โคลาใช้ลิ่มสะกิดลงตรงกลางบิแยกให้ความสัมพันธ์ซึ่งส่งต่อกันมาถึงสามรุ่นก้าวไปสู่จุดวิกฤตใกล้แตกรานลงทุกที ลิ่มเล็ก ๆ ที่เรียกว่า...เงิน!
“คุณเจริญจะบีบดิฉันลาออก เพื่อขายหุ้นให้ซูเปอร์โคลาโดยไม่ตะขิดตะขวงใจใช่ไหมคะ” ริสายิ้มเยาะ “กลิ่นเงินนี่มันหอมดีจริง ๆ ซื้อมิตรภาพของเพื่อนเก่าแก่ก็ได้ นี่ถ้าอากงของดิฉันกับเตี่ยของคุณเจริญและทุกท่านในที่นี้ยังมีชีวิตอยู่ พวกท่านคงปลื้มใจมากที่ลูกหลานรัก ‘ความก้าวหน้า’ กันขนาดนี้”
“อย่าพูดจาก้าวร้าวผู้ใหญ่อย่างนั้นสิคุณริสา” เจริญยิ้มเป็นต่อ
“ผู้ใหญ่ที่ทำตัวไม่น่าเคารพ ใช้คำว่าก้าวร้าวไม่ได้หรอกค่ะ เรียกว่าอ่านสันดานมนุษย์ออกน่าจะดีกว่า”
“ริสา! ” คนอาวุโสกว่าตวาด
“เสียงดังไม่ใช่การแสดงอำนาจหรอกนะคะ” หญิงสาวบิดมุมปากเยาะหยัน
“ในเมื่อคุณริสาไม่มี ‘ปัญญา’ แก้ปัญหานี้ แล้วจะกอดเก้าอี้ไว้ ลากพวกเราจมน้ำไปด้วยทำไม” ผู้บริหารทั้งกลุ่มคงคุยกันนอกรอบ ตั้งเป้าหมายว่าจะขับเธอลงจากเก้าอี้ แต่งตั้งใครสักคนในกลุ่มแทน และรวมหัวกันขายหุ้นให้ซูเปอร์โคลา ไปเอาความชอบใส่ตัวกับบริษัทที่สเปน เผื่อทางนั้นเมตตาให้นั่งเก้าอี้บริหารต่อไป
ริสาประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ ผู้บริหารในห้องนี้มีหุ้นรวมกันราว ๘% หากรวมกับที่กลุ่มปรเมศวร์มีอีก ๙% ก็ยังได้แค่ ๑๗% เทียบกับซูเปอร์โคลาที่มีหุ้นอยู่แล้วถึง ๔๑.๕๕% มองยังไงเธอก็ไม่เห็นทางชนะ บริษัทแม่ที่สเปนต้องการหุ้นอีกแค่เก้าเปอร์เซ็นต์ก็สามารถใช้เสียงข้างมากยึดอำนาจบริหารได้แล้ว
“ดิฉันอาจไม่มีปัญญาแก้ปัญหานี้ แต่สกุลปรเมศวร์ไม่ได้มีดิฉันแค่คนเดียวนะคะ” ริสาเดินหมากตาสำคัญ เธอหันไปทางสาวัชซึ่งนั่งหลบมุมอยู่ปลายโต๊ะ ให้หน้าด้วยมาดนางพญา “สาวัช อธิบายทฤษฎีของเธอให้ฉันฟังอีกทีสิ”
ทุกคนสายตาจับจ้องไปยังสาวัชเป็นตาเดียว นับจากวันแรกที่เข้ามาทำงานในบริษัท ชายหนุ่มไม่เคยแสดงความคิดเห็น ไม่มีปากเสียงใด ๆ ทั้งสิ้น เขาเป็นลูกไล่ เป็นตัวตลกที่ริสามีไว้โขกสับ วางอำนาจข่มต่อหน้าคนอื่นเท่านั้น
น้องชายต่างมารดามีสีหน้าตื่นตะลึงแวบหนึ่ง ก่อนควบคุมไว้รวดเร็ว เขาเปิดไมโครโฟน เอ่ยด้วยน้ำเสียงมั่นใจเฉกยามสอนหนังสือ “จากสถานการณ์ปัจจุบัน แม้โอกาสที่นักลงทุนจะขายหุ้นให้ซูเปอร์โคลาในการเทนเดอร์ครั้งนี้มีสูงก็จริง แต่ทุกท่านต้องไม่ลืมว่ามันก็มีปัจจัยบางอย่างที่นักลงทุนจะตัดสินใจไม่ขายหุ้น”
“ราคาตลาดซื้อขายกันที่ ๑๕-๑๖ บาท มีคนมาขอซื้อ ๒๙ บาท ทุกคนก็ต้องแห่ขายอยู่แล้ว” เจริญกรรโชกเสียง
“โดยเฉพาะคนที่วันนี้วิ่งเก็บหุ้นในตลาดเพื่อรอไว้เก็งกำไรตอน ๒๙ บาทใช่ไหมคะ” ริสามีเส้นสายในบริษัทหลักทรัพย์มากพอจะรู้ความเคลื่อนไหวของหุ้น และข่าวที่ผู้บริหาร ‘แทบทุกคน’ ในห้องนี้สั่งซื้อหุ้นพีอาร์เอ็มตั้งแต่ตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการก็ยิ่งตอกย้ำให้แน่ใจว่าการคาดการณ์ของสาวัชกำลังจะเป็นจริง ผู้บริหารทุกคนหักหลังกลุ่มปรเมศวร์ด้วยการกว้านซื้อหุ้นไว้ขายให้ซูเปอร์โคลา!
สาวัชเอ่ยต่อ “ซูเปอร์โคลามีหุ้นพีอาร์เอ็ม ๔๑.๕๕% ความจริงทางนั้นขาดหุ้นแค่ ๘.๔๖% ก็สามารถถือหุ้นเกินครึ่งของบริษัทได้แล้ว ซึ่งถ้าซูเปอร์โคลาต้องการแค่ยึดอำนาจ ขับผู้บริหารชุดเดิม ทางโน้นก็ไม่จำเป็นต้องตั้งโต๊ะขอซื้อหุ้นถึง ๒๖% เพราะฉะนั้นเหตุผลที่ซูเปอร์โคลาทำเทนเดอร์ครั้งนี้ก็น่าจะเป็นเพราะต้องการถือหุ้นเกินสองในสาม จะได้ถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์ครับ”
“ข่าวลือทั้งนั้น! ” เจริญตระหนก การที่บริษัทอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ หุ้นจะมีสภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายบนกระดานผ่านบริษัทหลักทรัพย์ง่าย ๆ แต่หากบริษัทถูกถอดออกนอกตลาด ผู้ถือหุ้นจะได้รับเอกสารแสดงจำนวนหุ้นที่มีอยู่แทน การซื้อขายย่อมยากกว่าเพราะต้องติดต่อหาผู้ซื้อหรือผู้ขาย และลงนามแลกเปลี่ยนใบหุ้นตามกฎหมาย
“ถ้านักลงทุนรู้ว่าซูเปอร์โคลาซื้อหุ้นปรเมศวร์เทรดดิ้งเพื่อถอนจากตลาด พวกเขาจะทำได้แค่กอดใบหุ้นและรอรับปันผลรายปี ซึ่งถ้าข่าวนี้หลุดไป นักลงทุนคงไม่ขายหุ้นให้ซูเปอร์โคลาในการทำเทนเดอร์แน่นอน”
“มีข่าวอย่างนั้นราคาหุ้นก็ตกสิ” เจริญอ่านคำตอบออกง่ายกว่าเอาสี่บวกสี่!
“ครับ ราคาคงดิ่งลงเหวแน่ เราอาจต้องทำใจกันบ้างว่าพีอาร์เอ็มอาจตกลงถึงฟลอร์ [1] และผมว่าการเทนเดอร์ก็จะล้มด้วย” สาวัชบอกด้วยสีหน้าเรียบเฉย
มาดที่น่าเชื่อถือของเขา ทำให้เจริญหน้าซีดเผือด เขาและกลุ่มเพื่อนใช้ชื่อตัวแทนที่เรียกว่านอมินีกว้านซื้อหุ้นจากตลาดโดยไล่ราคาตั้งแต่ ๑๕.๗๐ ขึ้นไปถึง ๑๗.๙๐ บาทแล้ว หากราคาหุ้นตกลงฟลอร์ดังสาวัชคาด พวกเขาคงขาดทุนกันไม่ต่ำกว่าหุ้นละหกถึงเจ็ดบาท! ยิ่งถ้าเทนเดอร์ล้ม ฝันที่วาดไว้ว่าจะขายทำกำไรหุ้นละสิบกว่าบาท อาจกลายเป็นขาดทุนจนหมดตัวแทนก็เป็นได้!
“นี่มั้งคะเหตุผลที่พระท่านสอนว่า ‘อย่าโลภ’ ให้มันมากนัก ลงเงินกันไปคนละไม่น้อย แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะใช้ประโยชน์จากข่าววงในได้ถูกทางกันไปซะหมด”
“คุณริสาหมายความว่ายังไง” เจริญชักสีหน้าสะกดกลั้นความไม่พอใจ
ริสาเปิดลำโพงโทรศัพท์เรียกเลขาฯ ซึ่งอีกฝ่ายรีบรายงาน “มาร์ฯ ของคุณริสาอยู่ในสายแล้วค่ะ”
เพียงปลายทางทักทายมา ริสาก็สบตาเจริญ ยิ้มเหรี้ยมเกรียมเมื่อเอ่ย “ขายหุ้นพีอาร์เอ็มของกลุ่มปรเมศวร์ให้หมดที่ราคาตลาดเดี๋ยวนี้เลย! ”
ประโยคนั้นแทบไม่ต่างจากคำสั่งประหาร เพราะกลุ่มปรเมศวร์ถือหุ้นรวม ๙% คิดเป็น ๒๓.๘๕ ล้านหุ้น หากปล่อยขายพร้อมกัน อุปทานคงท่วมทะลักมากกว่าอุปสงค์นับร้อยเท่า ราคาหุ้นดิ่งลงเหวในเสี้ยววินาทีแน่นอน
“ได้ครับ ผมเคาะขายให้เดี๋ยวนี้เลย”
บรรยากาศในห้องกลายเป็นโกลาหลในบัดดล เจริญคว้าโทรศัพท์ลุกพรวดออกจากห้อง ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ วิ่งตามจ้าละหวั่น
เมื่อควันหลงความวุ่นวายจาง ในห้องเหลือเพียงริสากับน้องชายทั้งสองคน บุตรสาวคนโตของธนาโน้มตัวไปที่โทรศัพท์ซึ่งปลายสายอีกด้านยังคงถือสายอยู่ ถามด้วยน้ำเสียงสบายใจ “ขอบคุณนะคะ ที่ช่วยเล่นละครกับฉันเมื่อกี้”
“ผมแปลกใจที่คุณริสาไม่ขาย แต่ก็ไม่ซื้อเพิ่มเหมือนกัน”
“ฉันขอดูสถานการณ์ก่อน วันนี้ราคาหุ้นขึ้นไปสูงสุดที่เท่าไหร่คะ”
“๑๘.๑๐ บาทครับ ตั้งแต่เช้ามีกลุ่มทุนลึกลับสั่งซื้อพีอาร์เอ็มไปเกือบสามล้านหุ้น ราคาเลยพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว”
ริสาสะใจ ผู้บริหารมักมากกลุ่มนั้นซื้อหุ้นในราคาสูงสุดของวันเลยสินะ
“งั้นพรุ่งนี้เก็บหุ้นพีอาร์เอ็มให้ฉันห้าล้านหกแสนหุ้นที่ราคาตอนเปิด” ริสาออกคำสั่งแล้วตัดการติดต่อ หญิงสาวเอนพิงพนัก สบตาน้องชายต่างมารดาที่อยู่ปลายโต๊ะอีกด้านนิ่ง ๆ “ถึงจะไม่รู้ว่าซูเปอร์โคลาจะถอนหุ้นจากตลาดจริงไหม แต่อย่างน้อยเธอก็คาดการณ์คนพวกนั้นถูก”
สาวัชก้มศีรษะนิด ๆ “ผมเสียใจด้วยครับ”
ฉันควรดีใจมากกว่าที่รู้เช่นเห็นชาติกันตั้งแต่ตอนนี้จะได้ไม่หลงไว้วางใจคนผิด” หญิงสาวบิดปาก คิ้วขมวดเมื่อหันไปเห็นวัชระปากขมุบขมิบ “ฮกว่ายังไงนะ”
“ฮก! เธอพูดอะไร เจ้ไม่ได้ยิน” ริสาเอ็ดเสียงเข้มกว่าปกติ เป็นผลให้เจ้าของชื่อสะดุ้ง ปากที่พร่ำพูดอยู่หุบฉับ ดวงตาที่มองมามีรอยตื่น ๆ แวบหนึ่ง
“โทษที เจ้เสียงดังไปหน่อย” หญิงสาวเสียงอ่อน “เธอมีอะไรจะพูดหรือเปล่า”
วัชระส่ายหน้ายิก จากนั้นเหลียวซ้ายแลขวาเลิ่กลั่ก
“ไม่มีอะไรจะพูดก็แล้วไป” ริสาอมยิ้ม ไม่ว่าจะเติบโตแค่ไหนหรืออายุมากขึ้นเท่าไร วัชระยังคิดว่าเธอดุและน่าเกรงขามเสมอ แค่เสียงเข้มนิดเดียว ก็ทำให้เขาลนลานตกใจได้ไม่ต่างจากตอนยังเด็กและถูกเธอเอ็ดเลย
“คุณริสาจะทำยังไงต่อครับ” สาวัชถามเสียงเรียบ
“ฉันจะนัดสื่อมาให้ข่าวว่าซูเปอร์โคลาไม่ต่อสัญญา เราอาจไม่ได้เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายซูเปอร์โคลาอีกต่อไป” ริสายิ้มเยือกเย็นดวงตาฉายแววเหี้ยมเกรียม
“คุณจะทุบราคาหุ้นเหรอ” สาวัชตกใจ แต่สายตามีแววนับถือ แสดงว่าเขาก็เข้าใจกลเกมการเงินไม่ต่างกัน การให้ข่าวทางลบเพื่อกดราคาหุ้นแล้วรอช้อนซื้อตอนราคาลงต่ำ ยิงกระสุนนัดเดียวได้นกตกลงมาเป็นฝูง!
“แทนที่จะปิดบังและหาทางแก้ปัญหากันเองเงียบ ๆ เราก็แค่เปิดเผยความจริงให้นักลงทุนรู้เท่านั้นเอง จะเรียกว่ากดราคาได้ไง พวกที่เพิ่งวิ่งออกจากห้องไปเมื่อกี้คงรีบไปปล่อยหุ้นกันมือเป็นระวิง เย็นนี้รายละเอียดการขายหุ้นนั้นคงโชว์หราบนแบบ ๕๙-๒ [2] รวมกับข่าวซูเปอร์โคลาไม่ต่อสัญญา นักลงทุนน่าจะเดาว่าผู้บริหารรู้ข่าววงใน เลยรีบเทขายหุ้นหนีเอาตัวรอดก่อน พรุ่งนี้ราคาตอนเปิดคงดิ่งลงเหวจนกู่ไม่กลับ ดีไม่ดีอาจจะฟลอร์อย่างที่เธอคาด ปีกแมงเม่าคงปลิวเกลื่อนตลาดหลักทรัพย์” ริสายิ้มมุมปากด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ เพราะโดยมากข้อมูลจากแบบ ๕๙-๒ ส่งผลกระทบในทางเดียวกันต่อตลาด เช่นหากผู้บริหารซื้อหุ้น ราคาหุ้นจะขึ้น หากผู้บริหารขาย นักลงทุนมักเทขายหุ้นเช่นกัน
กระสุนนัดนี้นอกจากจะดัดหลังผู้บริหารมักมากกลุ่มนั้นแล้ว เธอยังสบโอกาสซื้อหุ้นเพิ่มในราคาที่ถูกลงอีกด้วย หุ้นอีกสองเปอร์เซ็นต์ที่จะได้มาในพรุ่งนี้จะเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้เธอชนะศึกการแย่งชิงบริษัทกับซูเปอร์โคลาง่ายขึ้น
“งั้นผมขอตัวกลับไปทำงานนะครับ” สาวัชเหลียวมองวัชระซึ่งนั่งกุมศีรษะอยู่อีกด้านของโต๊ะและก้มหัวให้พี่ชายเล็กน้อย สุดท้ายเขาหมุนตัวเดินไปยังประตู
ทว่าเพียงมือจับคันเปิด ชายหนุ่มก็ชะงักเมื่อได้ยินเสียงเปรยจากเบื้องหลัง “ขอบใจนะ วันนี้เธอทำได้ดีมาก”
สาวัชกำคันโลหะในมือแน่น รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้า ชายหนุ่มผงกศีรษะเล็กน้อย และนั่นน่าจะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขา...มีความสุข!
ครั้นกลับมาถึงห้องทำงาน สาวัชมองรอบ ๆ จนไปหยุดสายตายังกระถางกล้วยไม้ตรงมุมโต๊ะ ที่ปลายก้านของฟาแลนดอปซิสดอกหนึ่งเกี่ยวไว้ด้วยสร้อยสีเงินวาววับตลอดทั้งสาย มีจี้แพลตินัมประดับเพชรขึ้นรูปเป็นแหวนเพชร ซองจดหมาย หัวใจ เลขแปดอารบิก และกรอบประตู ห้อยเป็นระยะ แลน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋ม แต่ก็หรูหราสูงค่าไปพร้อม ๆ กัน
สาวัชบรรจงหยิบสร้อยลงมาวางบนฝ่ามือด้วยความพึงพอใจ บทสนทนากับอิงอรุณว่าด้วยนาฬิกาที่ไม่มีใครอยากซื้อทำให้เขาต่อยอดเป็นไอเดียไปเสนอริสา จนได้รับความดีความชอบขนาดนี้ เห็นทีเขาต้องหาโอกาสไปขอบคุณหญิงสาวสักหน่อยแล้ว รอจนเลิกงานก่อนเถอะ!
ชายหนุ่มดูนาฬิกาอยากเร่งเวลาให้กระโดดข้ามไปที่ห้าโมงครึ่งไวๆ ไม่รู้ตัวสักนิดว่าเขามิได้ต้องการ ‘โอกาส’ สิ่งที่เขากำลังมองหาคือ ‘ข้ออ้าง’ ต่างหาก!
[1] ฟลอร์ (Floor) และซิลลิ่ง (Ceiling) ราคาสูงและต่ำสุดของหุ้นที่สามารถซื้อขายได้ในแต่ละวัน โดยลงและขึ้นไม่เกิน ๓๐% จากราคาปิดตลาดของเมื่อวาน เช่นราคาหุ้นปิดตลาดเมื่อวานที่ ๑ บาท ราคาฟลอร์ของวันนี้คือ ๐.๗๐ บาท ส่วนซิลลิ่งคือ ๑.๓๐ บาท
[2] แบบ ๕๙-๒ คือข้อมูลรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหาร ซึ่งตลาดหลักทรัพยจัดทำและนำออกแสดงต่อสาธารณะทุกวัน เพื่อให้นักลงทุนมีข้อมูลในการตัดสินใจ
********************************************************
อีบุ๊ครอเว็บอนุมัตินะคะ อีกอึดใจเดียวค่า
หนังสือ และที่คั่นมาแล้วนะคะ ของจริงงามตระการตามว้ากกกกก
ใครยังไม่สั่ง รีบออเดอร์ด่วนค่ะ https://bit.ly/2I2RQFn
“ผมคิดว่าการตั้งกองทุนอสังหาฯ ที่คุณริสาเสนอไม่ใช่ทางออกของเรื่องนี้” เจริญสบตาบอร์ดบริหารทีละคน “ใครที่คิดแบบเดียวกับผม ยกมือด้วยครับ”
สมาชิกอาวุโสยกมือขึ้นพร้อมเพรียง เจริญจึงเอ่ยต่ออย่างมีชัย “ถ้าแก้ปัญหาเรื่องนี้ไม่ได้ คุณริสาน่าจะพิจารณาตัวเองในฐานะรองซีอีโอได้แล้วนะครับ”
ริสาหน้าถอดสี เม้มปากแน่นด้วยความโกรธเกรี้ยว
ผู้บริหารส่วนใหญ่เป็นเพื่อนกับสกุลปรเมศวร์มาตั้งแต่รุ่นพ่อ ขาดเหลือเงินทองก็ได้คนกลุ่มนี้ช่วยกันคนละไม้ละมือเพื่อพยุงให้ปรเมศวร์เทรดดิ้งเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ โดยบิดาของธนามอบหุ้นให้เป็นการตอบแทน รุ่นลูกจึงคบหากันต่อเนื่อง ทว่าในรุ่นที่สามยามธนาส่งเธอลงมารับช่วงแทน นักบริหารกลุ่มนี้กลับยังกอดเก้าอี้เหนียวแน่น ไม่ส่งต่อให้ทายาท ริสารู้ดีว่าคนรุ่นเก่าไม่ชอบวิธีทำงานและการตัดสินใจบางอย่างของเธอ แต่ไม่เคยมีใครปริปากบ่น
หญิงสาวเพิ่งเห็นรอยร้าวที่เพียรมองผ่าน รอยร้าวที่ซูเปอร์โคลาใช้ลิ่มสะกิดลงตรงกลางบิแยกให้ความสัมพันธ์ซึ่งส่งต่อกันมาถึงสามรุ่นก้าวไปสู่จุดวิกฤตใกล้แตกรานลงทุกที ลิ่มเล็ก ๆ ที่เรียกว่า...เงิน!
“คุณเจริญจะบีบดิฉันลาออก เพื่อขายหุ้นให้ซูเปอร์โคลาโดยไม่ตะขิดตะขวงใจใช่ไหมคะ” ริสายิ้มเยาะ “กลิ่นเงินนี่มันหอมดีจริง ๆ ซื้อมิตรภาพของเพื่อนเก่าแก่ก็ได้ นี่ถ้าอากงของดิฉันกับเตี่ยของคุณเจริญและทุกท่านในที่นี้ยังมีชีวิตอยู่ พวกท่านคงปลื้มใจมากที่ลูกหลานรัก ‘ความก้าวหน้า’ กันขนาดนี้”
“อย่าพูดจาก้าวร้าวผู้ใหญ่อย่างนั้นสิคุณริสา” เจริญยิ้มเป็นต่อ
“ผู้ใหญ่ที่ทำตัวไม่น่าเคารพ ใช้คำว่าก้าวร้าวไม่ได้หรอกค่ะ เรียกว่าอ่านสันดานมนุษย์ออกน่าจะดีกว่า”
“ริสา! ” คนอาวุโสกว่าตวาด
“เสียงดังไม่ใช่การแสดงอำนาจหรอกนะคะ” หญิงสาวบิดมุมปากเยาะหยัน
“ในเมื่อคุณริสาไม่มี ‘ปัญญา’ แก้ปัญหานี้ แล้วจะกอดเก้าอี้ไว้ ลากพวกเราจมน้ำไปด้วยทำไม” ผู้บริหารทั้งกลุ่มคงคุยกันนอกรอบ ตั้งเป้าหมายว่าจะขับเธอลงจากเก้าอี้ แต่งตั้งใครสักคนในกลุ่มแทน และรวมหัวกันขายหุ้นให้ซูเปอร์โคลา ไปเอาความชอบใส่ตัวกับบริษัทที่สเปน เผื่อทางนั้นเมตตาให้นั่งเก้าอี้บริหารต่อไป
ริสาประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ ผู้บริหารในห้องนี้มีหุ้นรวมกันราว ๘% หากรวมกับที่กลุ่มปรเมศวร์มีอีก ๙% ก็ยังได้แค่ ๑๗% เทียบกับซูเปอร์โคลาที่มีหุ้นอยู่แล้วถึง ๔๑.๕๕% มองยังไงเธอก็ไม่เห็นทางชนะ บริษัทแม่ที่สเปนต้องการหุ้นอีกแค่เก้าเปอร์เซ็นต์ก็สามารถใช้เสียงข้างมากยึดอำนาจบริหารได้แล้ว
“ดิฉันอาจไม่มีปัญญาแก้ปัญหานี้ แต่สกุลปรเมศวร์ไม่ได้มีดิฉันแค่คนเดียวนะคะ” ริสาเดินหมากตาสำคัญ เธอหันไปทางสาวัชซึ่งนั่งหลบมุมอยู่ปลายโต๊ะ ให้หน้าด้วยมาดนางพญา “สาวัช อธิบายทฤษฎีของเธอให้ฉันฟังอีกทีสิ”
ทุกคนสายตาจับจ้องไปยังสาวัชเป็นตาเดียว นับจากวันแรกที่เข้ามาทำงานในบริษัท ชายหนุ่มไม่เคยแสดงความคิดเห็น ไม่มีปากเสียงใด ๆ ทั้งสิ้น เขาเป็นลูกไล่ เป็นตัวตลกที่ริสามีไว้โขกสับ วางอำนาจข่มต่อหน้าคนอื่นเท่านั้น
น้องชายต่างมารดามีสีหน้าตื่นตะลึงแวบหนึ่ง ก่อนควบคุมไว้รวดเร็ว เขาเปิดไมโครโฟน เอ่ยด้วยน้ำเสียงมั่นใจเฉกยามสอนหนังสือ “จากสถานการณ์ปัจจุบัน แม้โอกาสที่นักลงทุนจะขายหุ้นให้ซูเปอร์โคลาในการเทนเดอร์ครั้งนี้มีสูงก็จริง แต่ทุกท่านต้องไม่ลืมว่ามันก็มีปัจจัยบางอย่างที่นักลงทุนจะตัดสินใจไม่ขายหุ้น”
“ราคาตลาดซื้อขายกันที่ ๑๕-๑๖ บาท มีคนมาขอซื้อ ๒๙ บาท ทุกคนก็ต้องแห่ขายอยู่แล้ว” เจริญกรรโชกเสียง
“โดยเฉพาะคนที่วันนี้วิ่งเก็บหุ้นในตลาดเพื่อรอไว้เก็งกำไรตอน ๒๙ บาทใช่ไหมคะ” ริสามีเส้นสายในบริษัทหลักทรัพย์มากพอจะรู้ความเคลื่อนไหวของหุ้น และข่าวที่ผู้บริหาร ‘แทบทุกคน’ ในห้องนี้สั่งซื้อหุ้นพีอาร์เอ็มตั้งแต่ตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการก็ยิ่งตอกย้ำให้แน่ใจว่าการคาดการณ์ของสาวัชกำลังจะเป็นจริง ผู้บริหารทุกคนหักหลังกลุ่มปรเมศวร์ด้วยการกว้านซื้อหุ้นไว้ขายให้ซูเปอร์โคลา!
สาวัชเอ่ยต่อ “ซูเปอร์โคลามีหุ้นพีอาร์เอ็ม ๔๑.๕๕% ความจริงทางนั้นขาดหุ้นแค่ ๘.๔๖% ก็สามารถถือหุ้นเกินครึ่งของบริษัทได้แล้ว ซึ่งถ้าซูเปอร์โคลาต้องการแค่ยึดอำนาจ ขับผู้บริหารชุดเดิม ทางโน้นก็ไม่จำเป็นต้องตั้งโต๊ะขอซื้อหุ้นถึง ๒๖% เพราะฉะนั้นเหตุผลที่ซูเปอร์โคลาทำเทนเดอร์ครั้งนี้ก็น่าจะเป็นเพราะต้องการถือหุ้นเกินสองในสาม จะได้ถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์ครับ”
“ข่าวลือทั้งนั้น! ” เจริญตระหนก การที่บริษัทอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ หุ้นจะมีสภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายบนกระดานผ่านบริษัทหลักทรัพย์ง่าย ๆ แต่หากบริษัทถูกถอดออกนอกตลาด ผู้ถือหุ้นจะได้รับเอกสารแสดงจำนวนหุ้นที่มีอยู่แทน การซื้อขายย่อมยากกว่าเพราะต้องติดต่อหาผู้ซื้อหรือผู้ขาย และลงนามแลกเปลี่ยนใบหุ้นตามกฎหมาย
“ถ้านักลงทุนรู้ว่าซูเปอร์โคลาซื้อหุ้นปรเมศวร์เทรดดิ้งเพื่อถอนจากตลาด พวกเขาจะทำได้แค่กอดใบหุ้นและรอรับปันผลรายปี ซึ่งถ้าข่าวนี้หลุดไป นักลงทุนคงไม่ขายหุ้นให้ซูเปอร์โคลาในการทำเทนเดอร์แน่นอน”
“มีข่าวอย่างนั้นราคาหุ้นก็ตกสิ” เจริญอ่านคำตอบออกง่ายกว่าเอาสี่บวกสี่!
“ครับ ราคาคงดิ่งลงเหวแน่ เราอาจต้องทำใจกันบ้างว่าพีอาร์เอ็มอาจตกลงถึงฟลอร์ [1] และผมว่าการเทนเดอร์ก็จะล้มด้วย” สาวัชบอกด้วยสีหน้าเรียบเฉย
มาดที่น่าเชื่อถือของเขา ทำให้เจริญหน้าซีดเผือด เขาและกลุ่มเพื่อนใช้ชื่อตัวแทนที่เรียกว่านอมินีกว้านซื้อหุ้นจากตลาดโดยไล่ราคาตั้งแต่ ๑๕.๗๐ ขึ้นไปถึง ๑๗.๙๐ บาทแล้ว หากราคาหุ้นตกลงฟลอร์ดังสาวัชคาด พวกเขาคงขาดทุนกันไม่ต่ำกว่าหุ้นละหกถึงเจ็ดบาท! ยิ่งถ้าเทนเดอร์ล้ม ฝันที่วาดไว้ว่าจะขายทำกำไรหุ้นละสิบกว่าบาท อาจกลายเป็นขาดทุนจนหมดตัวแทนก็เป็นได้!
“นี่มั้งคะเหตุผลที่พระท่านสอนว่า ‘อย่าโลภ’ ให้มันมากนัก ลงเงินกันไปคนละไม่น้อย แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะใช้ประโยชน์จากข่าววงในได้ถูกทางกันไปซะหมด”
“คุณริสาหมายความว่ายังไง” เจริญชักสีหน้าสะกดกลั้นความไม่พอใจ
ริสาเปิดลำโพงโทรศัพท์เรียกเลขาฯ ซึ่งอีกฝ่ายรีบรายงาน “มาร์ฯ ของคุณริสาอยู่ในสายแล้วค่ะ”
เพียงปลายทางทักทายมา ริสาก็สบตาเจริญ ยิ้มเหรี้ยมเกรียมเมื่อเอ่ย “ขายหุ้นพีอาร์เอ็มของกลุ่มปรเมศวร์ให้หมดที่ราคาตลาดเดี๋ยวนี้เลย! ”
ประโยคนั้นแทบไม่ต่างจากคำสั่งประหาร เพราะกลุ่มปรเมศวร์ถือหุ้นรวม ๙% คิดเป็น ๒๓.๘๕ ล้านหุ้น หากปล่อยขายพร้อมกัน อุปทานคงท่วมทะลักมากกว่าอุปสงค์นับร้อยเท่า ราคาหุ้นดิ่งลงเหวในเสี้ยววินาทีแน่นอน
“ได้ครับ ผมเคาะขายให้เดี๋ยวนี้เลย”
บรรยากาศในห้องกลายเป็นโกลาหลในบัดดล เจริญคว้าโทรศัพท์ลุกพรวดออกจากห้อง ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ วิ่งตามจ้าละหวั่น
เมื่อควันหลงความวุ่นวายจาง ในห้องเหลือเพียงริสากับน้องชายทั้งสองคน บุตรสาวคนโตของธนาโน้มตัวไปที่โทรศัพท์ซึ่งปลายสายอีกด้านยังคงถือสายอยู่ ถามด้วยน้ำเสียงสบายใจ “ขอบคุณนะคะ ที่ช่วยเล่นละครกับฉันเมื่อกี้”
“ผมแปลกใจที่คุณริสาไม่ขาย แต่ก็ไม่ซื้อเพิ่มเหมือนกัน”
“ฉันขอดูสถานการณ์ก่อน วันนี้ราคาหุ้นขึ้นไปสูงสุดที่เท่าไหร่คะ”
“๑๘.๑๐ บาทครับ ตั้งแต่เช้ามีกลุ่มทุนลึกลับสั่งซื้อพีอาร์เอ็มไปเกือบสามล้านหุ้น ราคาเลยพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว”
ริสาสะใจ ผู้บริหารมักมากกลุ่มนั้นซื้อหุ้นในราคาสูงสุดของวันเลยสินะ
“งั้นพรุ่งนี้เก็บหุ้นพีอาร์เอ็มให้ฉันห้าล้านหกแสนหุ้นที่ราคาตอนเปิด” ริสาออกคำสั่งแล้วตัดการติดต่อ หญิงสาวเอนพิงพนัก สบตาน้องชายต่างมารดาที่อยู่ปลายโต๊ะอีกด้านนิ่ง ๆ “ถึงจะไม่รู้ว่าซูเปอร์โคลาจะถอนหุ้นจากตลาดจริงไหม แต่อย่างน้อยเธอก็คาดการณ์คนพวกนั้นถูก”
สาวัชก้มศีรษะนิด ๆ “ผมเสียใจด้วยครับ”
ฉันควรดีใจมากกว่าที่รู้เช่นเห็นชาติกันตั้งแต่ตอนนี้จะได้ไม่หลงไว้วางใจคนผิด” หญิงสาวบิดปาก คิ้วขมวดเมื่อหันไปเห็นวัชระปากขมุบขมิบ “ฮกว่ายังไงนะ”
“ฮก! เธอพูดอะไร เจ้ไม่ได้ยิน” ริสาเอ็ดเสียงเข้มกว่าปกติ เป็นผลให้เจ้าของชื่อสะดุ้ง ปากที่พร่ำพูดอยู่หุบฉับ ดวงตาที่มองมามีรอยตื่น ๆ แวบหนึ่ง
“โทษที เจ้เสียงดังไปหน่อย” หญิงสาวเสียงอ่อน “เธอมีอะไรจะพูดหรือเปล่า”
วัชระส่ายหน้ายิก จากนั้นเหลียวซ้ายแลขวาเลิ่กลั่ก
“ไม่มีอะไรจะพูดก็แล้วไป” ริสาอมยิ้ม ไม่ว่าจะเติบโตแค่ไหนหรืออายุมากขึ้นเท่าไร วัชระยังคิดว่าเธอดุและน่าเกรงขามเสมอ แค่เสียงเข้มนิดเดียว ก็ทำให้เขาลนลานตกใจได้ไม่ต่างจากตอนยังเด็กและถูกเธอเอ็ดเลย
“คุณริสาจะทำยังไงต่อครับ” สาวัชถามเสียงเรียบ
“ฉันจะนัดสื่อมาให้ข่าวว่าซูเปอร์โคลาไม่ต่อสัญญา เราอาจไม่ได้เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายซูเปอร์โคลาอีกต่อไป” ริสายิ้มเยือกเย็นดวงตาฉายแววเหี้ยมเกรียม
“คุณจะทุบราคาหุ้นเหรอ” สาวัชตกใจ แต่สายตามีแววนับถือ แสดงว่าเขาก็เข้าใจกลเกมการเงินไม่ต่างกัน การให้ข่าวทางลบเพื่อกดราคาหุ้นแล้วรอช้อนซื้อตอนราคาลงต่ำ ยิงกระสุนนัดเดียวได้นกตกลงมาเป็นฝูง!
“แทนที่จะปิดบังและหาทางแก้ปัญหากันเองเงียบ ๆ เราก็แค่เปิดเผยความจริงให้นักลงทุนรู้เท่านั้นเอง จะเรียกว่ากดราคาได้ไง พวกที่เพิ่งวิ่งออกจากห้องไปเมื่อกี้คงรีบไปปล่อยหุ้นกันมือเป็นระวิง เย็นนี้รายละเอียดการขายหุ้นนั้นคงโชว์หราบนแบบ ๕๙-๒ [2] รวมกับข่าวซูเปอร์โคลาไม่ต่อสัญญา นักลงทุนน่าจะเดาว่าผู้บริหารรู้ข่าววงใน เลยรีบเทขายหุ้นหนีเอาตัวรอดก่อน พรุ่งนี้ราคาตอนเปิดคงดิ่งลงเหวจนกู่ไม่กลับ ดีไม่ดีอาจจะฟลอร์อย่างที่เธอคาด ปีกแมงเม่าคงปลิวเกลื่อนตลาดหลักทรัพย์” ริสายิ้มมุมปากด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ เพราะโดยมากข้อมูลจากแบบ ๕๙-๒ ส่งผลกระทบในทางเดียวกันต่อตลาด เช่นหากผู้บริหารซื้อหุ้น ราคาหุ้นจะขึ้น หากผู้บริหารขาย นักลงทุนมักเทขายหุ้นเช่นกัน
กระสุนนัดนี้นอกจากจะดัดหลังผู้บริหารมักมากกลุ่มนั้นแล้ว เธอยังสบโอกาสซื้อหุ้นเพิ่มในราคาที่ถูกลงอีกด้วย หุ้นอีกสองเปอร์เซ็นต์ที่จะได้มาในพรุ่งนี้จะเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้เธอชนะศึกการแย่งชิงบริษัทกับซูเปอร์โคลาง่ายขึ้น
“งั้นผมขอตัวกลับไปทำงานนะครับ” สาวัชเหลียวมองวัชระซึ่งนั่งกุมศีรษะอยู่อีกด้านของโต๊ะและก้มหัวให้พี่ชายเล็กน้อย สุดท้ายเขาหมุนตัวเดินไปยังประตู
ทว่าเพียงมือจับคันเปิด ชายหนุ่มก็ชะงักเมื่อได้ยินเสียงเปรยจากเบื้องหลัง “ขอบใจนะ วันนี้เธอทำได้ดีมาก”
สาวัชกำคันโลหะในมือแน่น รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้า ชายหนุ่มผงกศีรษะเล็กน้อย และนั่นน่าจะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขา...มีความสุข!
ครั้นกลับมาถึงห้องทำงาน สาวัชมองรอบ ๆ จนไปหยุดสายตายังกระถางกล้วยไม้ตรงมุมโต๊ะ ที่ปลายก้านของฟาแลนดอปซิสดอกหนึ่งเกี่ยวไว้ด้วยสร้อยสีเงินวาววับตลอดทั้งสาย มีจี้แพลตินัมประดับเพชรขึ้นรูปเป็นแหวนเพชร ซองจดหมาย หัวใจ เลขแปดอารบิก และกรอบประตู ห้อยเป็นระยะ แลน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋ม แต่ก็หรูหราสูงค่าไปพร้อม ๆ กัน
สาวัชบรรจงหยิบสร้อยลงมาวางบนฝ่ามือด้วยความพึงพอใจ บทสนทนากับอิงอรุณว่าด้วยนาฬิกาที่ไม่มีใครอยากซื้อทำให้เขาต่อยอดเป็นไอเดียไปเสนอริสา จนได้รับความดีความชอบขนาดนี้ เห็นทีเขาต้องหาโอกาสไปขอบคุณหญิงสาวสักหน่อยแล้ว รอจนเลิกงานก่อนเถอะ!
ชายหนุ่มดูนาฬิกาอยากเร่งเวลาให้กระโดดข้ามไปที่ห้าโมงครึ่งไวๆ ไม่รู้ตัวสักนิดว่าเขามิได้ต้องการ ‘โอกาส’ สิ่งที่เขากำลังมองหาคือ ‘ข้ออ้าง’ ต่างหาก!
[1] ฟลอร์ (Floor) และซิลลิ่ง (Ceiling) ราคาสูงและต่ำสุดของหุ้นที่สามารถซื้อขายได้ในแต่ละวัน โดยลงและขึ้นไม่เกิน ๓๐% จากราคาปิดตลาดของเมื่อวาน เช่นราคาหุ้นปิดตลาดเมื่อวานที่ ๑ บาท ราคาฟลอร์ของวันนี้คือ ๐.๗๐ บาท ส่วนซิลลิ่งคือ ๑.๓๐ บาท
[2] แบบ ๕๙-๒ คือข้อมูลรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหาร ซึ่งตลาดหลักทรัพยจัดทำและนำออกแสดงต่อสาธารณะทุกวัน เพื่อให้นักลงทุนมีข้อมูลในการตัดสินใจ
********************************************************
อีบุ๊ครอเว็บอนุมัตินะคะ อีกอึดใจเดียวค่า
หนังสือ และที่คั่นมาแล้วนะคะ ของจริงงามตระการตามว้ากกกกก
ใครยังไม่สั่ง รีบออเดอร์ด่วนค่ะ https://bit.ly/2I2RQFn

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 พ.ค. 2561, 22:06:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 พ.ค. 2561, 22:12:53 น.
จำนวนการเข้าชม : 889
<< ตอนที่ 19 | ตอนที่ 21 >> |